หลังจาก จขกท.พาเพื่อนๆไปทัวร์เมกากับยุโรปกันจนอ่วมอรทัยแล้ว
ตอนนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศ เที่ยวกัมพูชา ประเทศเพื่อนบ้านบ้างนะคะ
แน่นอนค่ะว่าทัวร์นี้จะเป็นที่ไหนไม่ได้ นอกจากนครวัด ที่ยิ่งใหญ่สมราคามรดกโลกจริงๆ
เชิญติดตามรับชมได้เลยค่า
ต้นปีที่ผ่านมา จขกท.โดดงานกลับมานอนกลิ้งๆที่เมืองไทยเป็นเวลา 3 อาทิตย์
แต่ไม่ค่อยได้ไปไหนหรอกฮ่ะ นอกจากโดนเพื่อนมอกับน้องปอสองลากไปกินกุ้งแม่น้ำที่สุพรรณ
ที่เหลือก็กินข้าวกับครอบครัวบ้าง นัดกินข้าวกับเพื่อนฝูงบ้าง เล่นกับน้องแมวบ้างไปตามประสา
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เดี๊ยนขอเอาน้องเหมียวที่บ้านมานำเสนอนะฮะ
แต่ละตัวผ่านการขุนอย่างหนักหน่วงโดยคุณนายแม่อิฉัน เลยออกมาอวบอ้วนน่าฟัดซ๊าาาาา
จขกท.เพิ่งมานึกอยากเที่ยวนครวัด ก็ตอนไปปีนปีระมิดเม็กซิโกจนหอบแดรกซี่โครงบานนี่แหล่ะค่ะ
ทีซาก Aztec, Mayan ยังถ่อไปได้ แล้วทำไมศิลปะเจ๋งๆใกล้เมืองไทยแท้ๆ ตูไม่เคยได้ดูเลยฟะ -_-"
และผู้โชคดี(?)ที่จะได้ไปร่วมวิบากกรรมที่เขมรกับจขกท. ก็คือป๊ะป๋าสุดอึดเจ้าเก่านั่นแล
แต่งวดนี้จขกท.โดนป๊าดักคอก่อนเลยว่า ทริปนี้ไปแบบสบายๆหน่อยนะชอ
ประเภททัวร์หัวหกก้นขวิด นอนโรงแรม 1 ดาวแบบที่ซิซิลีไม่เอาแล้วนะ
ว่าแล้วป๊ะป๋าก็มัดมือชกด้วยการจองแพ็กเกจทัวร์นครวัด 3 วัน 2 คืนของบางกอกแอร์เวย์
ขอบอกว่าตอนแรก จขกท.เห็นราคาแล้วตกใจ นึกว่าป๊าจองผิด ไปจองทัวร์เกาหลีแทนซะอีก! >_<
เนื่องจากป๊ะป๋ารู้สันดาน เอ้ย นิสัยของลูกสาวตัวแสบคนนี้ดี ว่าไม่เหมาะกับทัวร์คณะใหญ่
ด้วยความสามารถพิเศษในการเดินแตกแถว จนหลงกับกรุ๊ปทัวร์ของเดี๊ยนนี่ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน -_-"
ป๊าเลยจองทัวร์แบบ VIP คือทั้งทริปจะมีกันแค่สายลม สองเรา หนึ่งไกด์ และอีกหนึ่งคนขับรถเท่านั้น
ปล. การนั่งเครื่องบินไปเสียมเรียบนี่เป็นอะไรที่ฮามากค่ะ เพราะท่านจะได้ใช้เวลาบนรันเวย์สุวรรณภูมินานกว่าเวลาบินจริงซะอีก!
แถมยังได้นั่งฟังสโลแกนของบางกอกแอร์เวย์ - Asia's boutique airline กรอกหูไปตลอดเส้นทาง
ซึ่งจนป่านนี้ จขกท.ก็ยังไม่เก็ต ว่ามันแปลว่าอะไรของมันวะ ไอ้บูทิ้คแอร์ไลน์เนี่ย ใครรู้ช่วยบอกที -_-
จากสุวรรณภูมิอันสุดจะ Futuristic เราก็ลัดฟ้ามายังสนามบินเล็กๆขำๆที่เสียมเรียบ
จากคุณ : ha-meowสนามบินเล็กก็จริง แต่ก็สะอาดเรียบร้อยไม่เบานา
จากคุณ : ha-meowบรรยากาศถนนจากสนามบินไปยังตัวเมืองเสียมเรียบฮ่ะ
จากคุณ : ha-meowสต็อปแรกของเราก็คือ Visitor Center เพราะเราต้องซื้อตั๋วชมสารพัดปราสาทที่นี่
ค่าตั๋ว Temple Pass ก็ $20/วัน, $40/3 วัน หรือ $60/7 วัน ห้ามทำหายเลยนะฮะ
เพราะเค้าถ่ายรูปนักท่องเที่ยวติดบัตร และเจ้าหน้าที่ก็ขยันตรวจบัตรมาก
เห็นพี่ไกด์ว่า เจ้าหน้าที่คนไหนจับนักท่องเที่ยวไม่มีบัตรได้ เค้าจะได้ค่าปรับเข้ากระเป๋าเต็มๆเลย
ได้บัตรแล้ว เราก็เริ่มออกทัวร์ชมปราสาทกันให้ประสาท(กิน)ทันทีที่ปราสาทบากอง
จากคุณ : ha-meowโฉมหน้าคุณกาน ไกด์ของเราสองคนพ่อลูกฮ่ะ
ไกด์ของนครวัดนี่ ต้องใส่ชุดฟอร์มเหลืองๆนี้เหมือนกันหมดทุกคนเลย
ปราสาทบากอง (Bakong) จัดว่าเป็นหนึ่งในปราสาที่เก่าแก่ที่สุดของอังกอร์ เพราะถูกสร้างขึ้นประมาณปีคศ. 880
ก่อนนครวัดจะสร้างเสร็จ 300 ปี และก่อนการก่อตั้งกรุงสุโขทัยประมาณ 350 ปี
พี่ไกด์เล่าว่าปราสาทบากองนี้ พระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 สร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะ
โดยออกแบบปราสาท ให้ออกมาเหมือนแบบจำลองเขาพระสุเมรุ
ซึ่งตามความเชื่อศาสนาฮินดูนั้น เขาพระสุเมรุเป็นท้ังเสาหลักของโลก และศูนย์รวมทวยเทพ
แต่ตัวปราสาทตรงยอดนั้น ถูกเพิ่มมาในอีก 300 ปีให้หลัง ในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ผู้สร้างนครวัด
จากคุณ : ha-meow
ขอเป็นแมวเหมียวเกาะไปเที่ยวด้วยครับ แมวน่ารักมากๆ ครับ
ตามไปด้วยครับ น้องเหมียวที่บ้านน่ารักจัง
จากคุณ : ม่วงมหากาฬและตามสูตร มีปราสาทขอม ก็ต้องมีนางอัปสราพ่วงมาด้วยเป็นแพ็คคู่
#ได้เรยฮะคุณ One Light One Shadow & คุณม่วงมหากาฬ ม๊าววววว
-------------------------------------------------------------------------------------
ตรงด้านล่างของปราสาทบากอง มีปราสาทอิฐเล็กๆอยู่ด้วย ขนาดโทรมหน่อยๆยังดูเท่อยู่เลยนะเนี่ย
คุณไกด์บอกอีกด้วยค่ะ ว่าปราสาทยุคแรกๆนี่จะสร้างด้วยอิฐ ต่อมาถึงได้มีการอัพเกรดใช้หินสร้างปราสาทแทน
ส่วนวงมโหรีมาบรรเลงดนตรีแลกเงินบริจาคนี่ เห็นได้ทั่วไปตามโบราณสถานในเสียมเรียบค่ะ
เราก็ช่วยสนับสนุนคนละนิดคนละหน่อย ก็วงตั้งใหญ่ หารตังค์แล้ววันๆแต่ละคนจะได้เงินกลับบ้านเท่าไหร่เนี่ย -_-
ถัดจากปราสาทบากอง เราก็ไปต่อกันที่ปราสาทพระโคซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน
จากคุณ : ha-meow....
จากคุณ : ha-meowปราสาทพระโคนี่ก็ถูกสร้างขึ้นพร้อมๆกับปราสาทบากองค่ะ
จะเห็นว่าหน้าตายังกับแฝดคนละฝากับปราสาทอิฐที่บากองใน คห.15 เลยนะฮะ
ปราสาทพระโคนี่ก็สร้างขึ้นเพื่อถวายพระศิวะเช่นกัน
และชื่อพระโคก็มาจากการที่พระศิวะมีพาหนะเป็นโคศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
เลยทำให้หน้าปราสาท มีรูปปั้นวัวต้ังอยู่สมชื่อด้วยนะเอ้อ มอออออ
แม้ตัวปราสาทจะถลอกปอกเปิกไปบ้าง แต่ จขกท.ว่าแบบนี้กลับยิ่งดูเท่เข้าไปใหญ่เรยนะเคอะ
จากคุณ : ha-meowคุณไกด์ว่าลวดลายเหล่านี้ทำมาจากดินเหนียว ที่แปะทับโครงสร้างอิฐอีกที
จะถึกไปไหนเนี่ย คนสมัยก่อน >_<
ไปเขมรด้วยคนนะครับ
จากคุณ : inint&anantมีกระทั่ง False door ที่ทำให้ดูเหมือนประตู แต่จริงๆไม่ใช่ประตู
ไม่แน่ใจว่านอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว เค้ากะทำประตูปลอมไว้เพื่อสับขาหลอกผู้บุกรุกด้วยรึเปล่าคะนี่
ขนาดเราไปเที่ยวต้นเดือนมกรา แดดยังเปรี้ยงเลยค่ะ
นี่เพิ่งผ่านไปได้แค่สองปราสาท แต่เราสองพ่อลูกก็เหงื่อแตกพลั่กๆแล้ว -_-
คุณไกด์เลยพาเราไปส่งที่โรงแรม Le Meridien Angkor
เพื่อให้ไปพักผ่อน อาบน้ำ ทานข้าวก่อนลุยนครวัดต่อรอบบ่าย
ฝักบัวจ๋า หนูมาแร๊ววววววว
แต่เอ่อ...ทำไมมีหน้าต่างจากห้องน้ำด้วยหว่า -_-
จากคุณ : ha-meowPackage ที่ป๊ะป๋าจอง เค้ารวมอาหารกลางวัน+อาหารเย็นที่โรงแรมไว้แล้วด้วยค่ะ
เมนูห้องอาหารในโรงแรมก็มีทั้งอาหารไทยและเทศ แถมตอนเย็นมีห้องอาหารอิตาเลี่ยนเพิ่มมาอีกหนึ่งออปชั่นด้วย
โดยข้าวกลางวันให้เลือก Appetizer 1, Main Course 1 และ ของหวานได้อีกหนึ่ง
จขกท.ประเดิมรายการด้วยซุปหัวหอมค่ะ อร่อย ชีสเยิ้มใช้ได้ทีเดียว
ก่อนจะตามด้วยข้าวผัดมันกุ้ง แต่ไมหน้าตาออกมาเหมือนข้าวผัดอเมริกัน ณ ไทยแลนด์เลยหว่า เหอเหอ
ป๊ะป๋าสั่งแกะย่างฮ่ะ ป๊าบอกรสชาติโอเค แต่เหนียวไปหน่อย -_-
ส่วนจขกท.ก็ปิดท้ายมื้อเที่ยงด้วยไอติมวานิลลากับสัปปะรดเชื่อม ชื่นจายยยยย
หม่ำข้าวเที่ยงจนอิ่มหมีพีมันแล้ว ก็มาถึงโปรแกรมทองประจำวัน แม่จะเที่ยวนครวัดให้สะใจไปเล๊ยยยย
แต่คุณไกด์บอกช้าก่อน เรามีโปรแกรมบังคับที่ Angkor National Museum ก่อนครับเจ๊ ไม่จริ๊งงงงงง
Angkor National Museum นี่เป็นมิวเซียมที่สร้างโดยคนไทยค่ะ ตึ่งโป๊ะ!
ไม่ได้พูดเล่น เพราะบริษัทไทยได้สัมปทานสร้างมิวเซียมนี้จริงๆ ไม่ใช่แค่นั้น ถนนหนทางในเสียมเรียบ
หรือแม้แต่บริษัทที่บริหารการท่องเที่ยวใน Angkor คุณไกด์บอกว่าเป็นสัมปทานของบริษัทต่างชาติทั้งสิ้น
แม้กระทั่งเวลาไปซื้อน้ำซื้อขนมในซูเปอร์มาร์เก็ต เราก็เห็นแต่สินค้าไทย ไม่ค่อยเห็นสินค้าท้องถิ่นเลย
ตกลงประเทศนี้เค้าไม่สามารถผลิตอะไรเองได้เลยเหรอ -_- หรือเพราะไอ้คุณฮุนเซ็งเฮงซวย
วันๆเอาแต่คิดว่าจะตีกับไทยเรียกเรตติ้งตัวเองยังไง แทนที่จะเอาเวลาไปพัฒนาประเทศตัวเองเนี่ย
กลับเข้าเรื่องฮ่ะ อิฉันว่างานในมิวเซียมก็น่าสนใจระดับนึง เราพ่อลูกชอบห้องที่มีพระพุทธรูป 1000 องค์ (ภาพล่าง)
เพราะจัด display ได้สวยดี แต่พอเดินไปได้ 45 นาที จขกท.ก็มีสภาพเหมือนหนูติดจั่น
ไม่อาววว พาเค้ามามิวเซียมทำมายยยย เค้าจะดูของจริงแล้วน๊าาาาาา
คุณไกด์ทน จขกท.งอแงต่อไม่ไหว เลยพาเรามายังนครวัดของจริงซะที
เพียงแค่แว่บแรก เราก็รู้สึกได้ถึงความอลังการงานสร้างของนครวัดแล้ว
ด้วยความใหญ่โตมโหระทึกของพี้นที่และคูคลองโดยรอบ สมดีกรีศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลกจริงๆ
นครวัดนั้นถูกสร้างมาเพื่อแทนแบบจำลองของจักรวาล ฉะนั้นปราสาทที่เห็นลิบๆนั่น
จึงเปรียบเสมือนเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของจักรวาลในความเชื่อของฮินดู
ส่วนพื้นที่รายลอบปราสาทนั้น ก็เปรียบเสมือนดั่งโลกมนุษย์ของเรานั่นเอง
และคูคลองที่รายล้อมอยู่นี่ ก็เป็นตัวแทนของทะเลมหาสมุทรอีกที
จากคุณ : ha-meowตามไปกิน เอ้ยตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ
จะเดินผ่าน Gopura เข้าไปนครวัดล่ะน๊าาาาา
จากคุณ : ha-meow#ตามชิม เอ๊ย ชมนครวัดกันได้เลยค่ะคุณยูจินคุง
-----------------------------------------------------------------------
ตรง Gopura มีพระยานาค 7 เศียรเฝ้าประตูอยู่
น้องนาคยังอยู่ แต่พี่พญาสิงห์โดนอุ้มไปไหนแล้วเนี่ย
เทวรูปแปดกรด้านใน Gopura ค่ะ
จากคุณ : ha-meowพอลอด Gopura ไป จขกท.ก็สะดุดตากับลวดลายประดับผนังที่วิจิตรเหลือกำลังลาก
จากคุณ : ha-meowแถมยังกรี๊ดสลบได้ต่อ กับภาพนางอัปสราแสนงามที่ประดับประดากำแพง Gopura
คุณไกด์ชี้ให้ดูคนนี้ด้วยค่ะ ว่าเป็นนางอัปสราคนเดียวในนครวัดที่ยิ้มยิงฟัน
แต่เดี๊ยนว่าเจ๊ยิ้มแยกเขี้ยวได้น่ากลัวมากอ่ะ มิน่า นางอัปสราที่เหลือในนครวัดถึงต้องยิ้มแบบนิ่มๆนุ่มๆกันต่อไป -_-
จาก Gopura เรายังต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 200 เมตรค่ะ ว่าจะถึงปราสาทนครวัดตัวจริงเสียงจริง
ระหว่างทางก็จะผ่านหอสมุดโบราณ
และแน่นอนว่าเราต้องหยุดถ่ายรูปที่มุมมหาชนมุมนี้
เอร๊ยยยยย ทำไมมันต้องมาซ่อมปราสาทตอนนี้ด้วยฟะ รูปออกมาไม่สวยเลย
(ถ่ายรูปห่วยแล้วมีหน้าไปโทษเขาอีก อีชอเอ๊ย -_-)
เห็นแล้วก็อดทึ่งในความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมขอมโบราณไม่ได้ เอาเป็นว่าในยุคกระโน้น
กรุงปารีสยังเป็นแค่เมืองเล็กๆ ประชากรมีไม่ถึง 25,000 แต่ในนครวัด/นครธมมีคนอยู่เป็นแสนๆเลยนะโยม
และจากมุมมหาชนนี้เราจะได้เห็นยอดปราสาทครบ 5 ยอด ตามแบบเขาพระสุเมรุในตำนานซึ่งมี 5 ยอดเช่นกัน
แถมยังมีเงาสะท้อนของปราสาทนครวัดบนผิวน้ำอีกด้วย เท่สุดๆ
นี่ค่ะ ด้านหน้าของปราสาทนครวัด สังเกตว่ามองตรงๆจะเห็นยอดปราสาทแค่ 3 ยอดเองนะเธอว์
จากคุณ : ha-meowตัวปราสาทว่าชวนอึ้งแล้ว อภิมหาภาพแกะสลักตรงระเบียงชั้นนอกก็น่าตะลึงตึงตึงไม่แพ้กัน
เห็นแล้วนับถือในความถึกของคนสมัยก่อนจริงๆ ระเบียงยาวโคตรๆ แกะกันเข้าไปได้
ผนังของระเบียงชั้นนอกของปราสาทนครวัดทั้ง 4 ด้าน ประดับไปด้วยภาพแกะสลักนูนต่ำ
ซึ่งแบ่งเป็น 8 โซน 8 ธีม ดูกันให้หายบ้าไปเลยค่ะพี่น้อง
ภาพนี้เล่าเรื่องราวของสงครามทุ่งกุรุเกษตร (Battle of Kurushetra) ซึ่งเป็นตอนหนึ่งในมหาภารตะ
มหากาพย์ฮินดูที่บรรยายถึงสงครามกลางเมืองในอินเดียตอนเหนือ
ทหารมุมซ้ายขี่รถม้า
ทหารมุมขวาขี่ช้าง จขกท.ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามุมไหนหมายถึงใคร
แต่เดี๊ยนเชียร์มุมขวาเป็นการส่วนตัวฮ่ะ เพราะชุดทหารกิ๊บเก๋กว่ามุมซ้ายหลายเท่านัก กร๊ากกกก
มองไปทางไหนก็มีแต่ภาพแกะสลัก
จากคุณ : ha-meowขนาดรูปลิง ก็ยังดูมีชีวิตชีวาดีจัง
จากคุณ : ha-meowเราเคลื่อนพลต่อมายังภาพแกะสลักชุด Army King of Suryavarman II
ภาพแกะสลักในนครวัดส่วนมากจะแสดงเรื่องราวในตำนานหรือวรรณคดีค่ะ ยกเว้นผนังฝั่งนี้
ที่แสดงภาพ(กึ่ง)ประวัติศาสตร์ในรัชสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ผู้ปกครองอาณาจักรขอมในช่วงปี 1113 - 1145/50
และพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เป็นคนสร้างปราสาทนครวัดด้วย เลยต้องจัดเต็มให้สมกับที่เสี่ยสั่งลุยโหน่ย
ในภาพนี้แหล่ะค่ะ พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เราสามารถสังเกตยศของคนในภาพได้จากจำนวนฉัตรฮ่ะ
ยศฐาบรรดาศักดิ์ยิ่งสูงเท่าไหร่ ฉัตรก็จะยิ่งยุ่บยั่บมากขึ้นเท่านั้น
ตรงนี้ จขกท.ชอบรายละเอียดของรูปสลักมากฮ่ะ ช่างแกะรูปใบไม้ใบหญ้าได้ละเอียดสวยงามมากมาย
จากคุณ : ha-meowแถมทหารแต่ละคนก็ยังแต่งตัวมาซะเจิดเชียว กร๊ากกก ส่วนที่ตรงนี้ผนังเป็นรู
เพราะคุณไกด์บอกว่าแต่ก่อนคงฝังอัญมนีหรือทองไว้ เลยเสร็จโจรซะให้ -_-
ส่วนอันนี้ เอิ่ม... เป็นทหารจากสยามประเทศที่มาช่วยกองทัพของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2
จากคุณ : ha-meowที่แสบคือ ทหารขอม หรือทหารชาติอื่นในรูปนี้ เดินทัพอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ยกเว้นแต่ทหารไทยนี่แหล่ะ ที่มีการหันมาหัวเราะกิ๊กกั๊กเมาท์แตกกันด้วย
มาถึงตรงนี้ พี่ไกด์เราไม่รู้จะอธิบายยังไงเลยค่ะ ได้แต่เฉไฉไปเรื่อยว่า
"แหม ดูสิครับ เค้าแกะชุดทหารไทยได้ซ๊วยสวยเนอะ"
ชมภาพแกะสลักตรงระเบียงชั้นนอกยังไม่ทันครบรอบ
คุณไกด์ก็ลากเราขึ้นไปยังระเบียงชั้นในซะแล้ว
แก้เลี่ยนภาพแกะสลักสารพัดมหากาพย์ ด้วยคอมโบ้นางอัปสราตรงระเบียงชั้นในหน่อยก็ดี
จากคุณ : ha-meowจขกท.เห็นภาพนางอัปสราแล้วสงสัยอย่างฮ่ะว่า
ทำไมทรงผมแต่ละนางถึง Avant-garde ได้สะใจพระเดชพระคุณเช่นนี้หนอ
ว่าแล้วคุณไกด์ก็ชี้ให้เราพ่อลูก ปีนกระไดอันน้อยนี่ขึ้นไปยังระเบียงชั้นบนสุดโน่นนนน
นี่ยังดีนะฮะที่สมัยนี้เค้าอุตส่าห์มีบันไดไม้แล้ว ถ้าต้องให้ปีนกระไดหินเลยนี่คงดูไม่จืดแน่ -_-
มากินอาหารเขมรด้วย
แมวที่บ้านจขกทชื่อเดียวกับหมาบ้านผมเลย
ถึงแย๊ว ระเบียงชั้นบนสุด
จากคุณ : ha-meow#คุณ tottui ฮะ อาหารเขมรออกโรงตอนหน้าค่ะ ตอนนี้กินข้าวผัดอเมริกันไปก่อนละกัน
จริงเหรอคะ แมวตัวไหนฮะที่ชื่อเหมือนน้องหมาบ้านคุณ tottui
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
จกขท.ดูไปก็พยายามจินตนาการไปค่ะว่า แต่ก่อนตรงนี้จะสวยงามแค่ไหน
เพราะสมัยโน้นคนที่จะเข้ามายังระเบียงชั้นบนสุดได้ ก็มีแต่กษัตริย์ขอมหรือพระชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น
อย่างที่บอกฮ่ะว่า ปราสาทนครวัดถูกสร้างเพื่อเป็นแบบจำลองเขาพระสุเมรุ
ฉะนั้นตรงยอดเขาก็ต้องอุดมไปด้วยนางฟ้าเฉิดฉายไปมาสิเนอะ
แต่ จขกท.ว่านางอัปสราในระเบียงชั้นบนนี่สวยสุดแล้วค่ะ
จากคุณ : ha-meowอิฉันชอบสามสาวที่ควงแขนกันมาคณะนี้เป็นพิเศษ
จากคุณ : ha-meowโกโก้ครับ หมาบ้านผมก็ชื่อนี้
จากคุณ : tottuiแกะได้สวยจริงๆให้ดิ้นตาย แต่ละนางหน้าตาแฉล้ม งดงาม ดูอ่อนช้อยมากเลย
ไม่ออกมาเป็นหญิงคิงคองแบบนางอัปสราตรงระเบียงชั้นในเลยสักนิด
#โกโก้นี่ชื่อโหลจริงฮ่ะ น้องหมาของเพื่อน 2 คนของอิฉันก็ชื่อโกโก้
จริงๆน้องโกโก้สีเทา ตอนแรกจะตั้งชื่อว่า Earl Grey แต่กลัวลำบากอาม่าที่บ้านซะก่อน กร๊ากกกก
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากระเบียงชั้นบนสุด เราก็ตะกายกลับลงมายังระเบียงชั้นนอก เพื่อชมอภิมหาภาพแกะสลักกันต่อ
โผล่มาก็เจอไฮไลต์ นั่นคือภาพการกวนเกษียรสมุทร (Churning the Ocean of Milk) พอดีเลย
การกวนเกษียรสมุทรนั้นเป็นเรื่องราวการกวนน้ำอมฤต ที่เหล่าทวยเทพกวนกันเป็นพันปีแล้ว แต่ไม่สำเร็จซะที
แถมกวนไปก็ต้องสู้กับพวกยักษ์มารไปด้วย พระวิษณุเลยแนะนำว่า แทนที่จะตีกัน ไม่ลองไปชวนพวกยักษ์มากวนด้วยกันล่ะ
ฝ่ายอสูรได้ฟังข้อเสนอว่าถ้ากวนน้ำอมฤตสำเร็จแล้ว ฝ่ายเทพจะแบ่งน้ำให้ครึ่งนึง ก็เลยโอเชเบตง
ทั้งสองฝ่ายใช้พญานาควาสุกรีแทนเชือก แล้วเย่อพญานาคใต้สมุทรไปมาอีกพันปี
จะเห็นว่าด้านใต้เหล่าอสูร เราจะเห็นปลาฝูงมากมาย
ฝั่งอสูรได้ทศกัณฐ์เป็นคนคัดท้าย
การกวนเกษียรสมุทรนี่ นอกจากจะได้น้ำอมฤตแล้ว ยังมีผลพลอยได้อีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น ช้างเอราวัณ, นางลักษมี เทพีผู้งดงาม (ที่ภายหลังกลายเป็นชายาของพระวิษณุด้วย ตึ่งโป๊ะ!)
หรือเหล่านางอัปสราเป็นกองทัพ ที่ลอยผุดเหนือน้ำกันให้พรึ่บ
กวนไปกวนมา ภูเขามัณทระก็เริ่มจมลง พระวิษณะเลยต้องอวตามาในรูปเต่ายักษ์เพื่อรอบรับภูเขามัณทระ
ส่วนบุรุษสี่กรในภาพก็เป็นอีกปางนึงของพระวิษณุเช่นกัน ที่คอยทำหน้าที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์
ให้ทั้งฝ่ายเทพและฝ่ายมารกวนเกษียรสมุทรกันต่อไปอีกพันปี
ตอนเราไปเที่ยว เค้าปิดซ่อมภาพแกะสลักชุดนี้ไปครึ่งนึงฮ่ะ เราเลยอดดูภาพฝั่งเทพเลย
เอาภาพถ่ายไปชมแก้เก้อละกัน ว่าฝั่งเทพมีหนุมานเป็นคนคัดท้ายด้วย
ปล.ตอนจบ การกวนน้ำอมฤตสัมฤทธิ์ผล แต่ฝั่งเทพกลับจะเบี้ยวไม่ยอมแบ่งน้ำอมฤตให้ฝ่ายอสูรซะงั้น -_-
แถมพระวิษณุยังส่งสาวงามมาเบี่ยงเบนความสนใจของฝ่ายอสูรซะอีก แต่มีอสูรชื่อราหู ที่ไม่ตกหลุมพรางของฝ่ายเทพ
เลยทำเนียนปลอมตัวเป็นเทพไปต่อคิวดื่มน้ำอมฤต แต่ปรากฎโดนพระสุริยะกับจันทราจับได้ เทพทั้งสองเลยไปฟ้องพระวิษณุ
พระวิษณุทราบเข้าก็จัดการตัดร่างราหูออกเป็นสองส่วน แต่เผอิญว่าจังหวะนั้น ราหูกำลังเริ่มจิบน้ำอมฤตพอดี
เลยทำให้ส่วนหัวของราหูนั้นเป็นอมตะ ส่วนร่างกายก็เป็นปุ๋ยไปตามระเบียบ ทำให้ราหูโกรธแค้นพระสุริยะกับจันทรามาก
เลยคอยหาโอกาสกินพระอาทิตย์กับพระจันทร์แก้แค้น จึงเป็นที่มาของปรากฎการณ์สุริยุปราคา/จันทรุปราคานั่นเอง
บร๊ะเจ้า ช่างจับแพะชนแกะได้เมพสมศักดิ์ศรีอภิมหากาพย์เจงๆนะคะเนี่ย
จากนั้นเราก็เดินชมภาพแกะสลักที่เหลืออย่างด่วนๆฮ่ะ เพราะใกล้เวลาปิดทำการนครวัดแล้ว
มาจบกันที่ Battle of Lanka ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของรามายณะ สุดยอดมหากาพย์ฮินดูละกันนะขอรับ
รามายณะเป็นเรื่องราวของพระราม เจ้าชายแห่งกรุงอโยธยา แต่ด้วยความซวย โดนแม่เลี้ยงใจร้ายกลั่นแกล้ง
พระรามพร้อมด้วยนางสีดา มเหสีเป็นผู้งดงาม และพระลักษมณ์ พระอนุชา เลยต้องระเห็จไปอยู่ป่า
ต่อมานางสีดาก็โดนเจ้ายักษ์ราวณะ (ทศกัณฐ์) ลักพาตัวไปยังเมืองลังกา (ศรีลังกา) ทำให้พระรามต้องผจญภัย
ชิงตัวนางสีดากลับคืนมา โดยได้ความช่วยเหลือจากหนุมาน และกองทัพลิงทั้งหลาย
ในรูปก็คือพระรามซึ่งกำลังขี่บ่าของหนุมานนั่นเอง
โดนฝูงลิงมาลูบคมถึงลังกา ทศกัณฐ์ก็เลยต้องออกมาสู้กับกองทัพของพระรามบ้าง
จากคุณ : ha-meowBattle of Lanka นี่ดูแล้วมันส์มากพะยะค่ะ ลิงกับยักษ์ฟัดกันอย่างนัว
เราใช้เวลาในนครวัดซัก 3 ชั่วโมงกว่าๆได้ค่ะ แต่เหมือนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วมากๆ
งานนี้ คนที่ประทับใจที่สุดเห็นจะเป็นป๊ะป๋าของอิฉัน ที่ตอนแรกงอแงไม่อยากมานครวัด
แต่พอป๊าได้เห็นความอลังการงานสร้างของมันแล้ว ป๊ายังบอกเลยว่า
"แต่ก่อนป๊าไม่อยากมาเพราะอคติกับเขมร แต่นครวัดมันสุดยอดจริงๆ ถ้าไม่ได้มาเห็นด้วยตาสักครั้งคงเสียดายแย่เลยเนอะ"
เสร็จจากนครวัดเราก็กลับโรงแรม อาบน้ำอาบท่าแล้วก็หม่ำอาหารอิตาเลี่ยนในโรงแรมก่อนนอน
แต่เสียใจอ่ะ เมนูของแพ็คเกจมีอาหารให้เลือกน้อยจัง T^T ดูแล้วไม่รู้จะกินอะไรดี
เราสองพ่อลูกเลยสั่งเหมือนกัน 2 เซ็ต มีราวิโอลี่ครีมซอสแซลมอน ปลาย่าง ก่อนจะตบท้ายด้วยน้องติมวานิลลา
เช้าวันที่สองแล้วจ้า
คุณไกด์กำชับนักหนาว่า วันนี้ล้อหมุน 8 โมงเช้านะคร้าบ
เพราะเช้านี้เราจะไปเที่ยวปราสาทบันทรายสรีซึ่งอยู่ห่างออกไป 45 นาที
#เอร๊ยยยย นี่แค่น้ำจิ้มฮ่ะ เด๋วตอนหน้าจะลงรูปน้องชาเย็น นอนเต็มกระเป๋าใหญ่ให้ลุงดูเป็นขวัญตา >_<
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แม้จะอยู่ไกลปืนเที่ยงจากปราสาทอื่นๆหน่อย แต่บันทายสรีถือเป็นโปรแกรมห้ามพลาดนะขอรับ
เพราะถือว่าเป็นปราสาทที่สวยสดงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในอังกอร์เลยเชียว
ประตูทางเข้ารูปบนนั่นแค่พรีวิวเท่านั้นฮ่ะ ของจริงต้องเดินต่อเข้าไปอีกนิด
เห็นบรรยากาศแบบนี้แล้ว ได้อารมณ์คล้ายเดินอยู่ท่ามกลางซากกรีกหรือโรมันเลยนะนี่
ขนาดเสาก็ยังแจ่มไม่แพ้ โดริค ไอโอนิค โครินเธียน ทัสคัน เรยนะฮะ
เห็นแบบนี้ จขกท.ไม่แปลกใจเลยว่า นักสำรวจชาวยุโรปที่มาเจอซากอังกอร์บางคน
ถึงกับนั่งเทียนมั่วนิ่มหน้าตาเฉย ว่านี่เป็นร่องรอยของอารยธรรมกรีกที่เผยแผ่มาจนถึงเอเชียอาคเนย์
ถึงแย๊ว ปราสาทบันทายสรี
จะเห็นว่าตัวปราสาทไม่ใหญ่เลยฮ่ะ
แต่เรื่องความวิจิตรงดงามแล้ว บันทายสรีไม่แพ้ปราสาทใหญ่ๆบึ้มๆแน่นอน
แม่เจ้า มันจะสวยไปไหน >_<
ด้วยลวดลายที่ละเอียดงดงามเกินบรรยาย จนคนสมัยก่อนไม่เชื่อว่ามันจะถูกแกะโดยช่างฝีมือชาย
แถมปราสาทยังสร้างจากหินที่ออกสีชมพูๆหน่อย เลยเป็นที่มาของชื่อบันทายสรี ซึ่งแปลว่าป้อมปราการของสตรี
แต่จริงๆแล้วคนที่สร้างปราสาทนี้ขึ้นมาในคศ.936 เป็นพราหมณ์ชั้นผู้ใหญ่ในสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2
ทำให้บันทายสรีเป็นปราสาทหลักๆแห่งเดียวในอังกอร์ ที่ไม่ได้ถูกสร้างโดยกษัตริย์ขอม
ปราสาทสวยงามมากมาย
ซูมเข้าไปอีกนิด
จากคุณ : ha-meowอีกนิดน่า!
สุดยอดจริงๆอ่ะ ปราสาทกรีก โรมัน มายัน แอสเทค ยังต้องชิดซ้าย เมื่อมาเจอความถึกของช่างฝีมือแห่งบันทายสรีเข้าให้!
นอกจากจะอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดเก๋ๆแทบทุกตารางนิ้วแล้ว ภาพยังดูมีชีวิตชีวา ราวกับเรากำลังชมภาพเคลื่อนไหวเลยนะนี่
แต่ที่ จขกท.อึ้งปนทึ่งที่สุด เห็นจะเป็นลวดลายที่แกะออกมาได้บางเฉียบ ราวกับเอากระดาษไปแปะยังไงยังงั้นเลย >_<
จากคุณ : ha-meowมีแสดงเรื่องราวของมหากาพย์รามายณะด้วย
ภาพนี้เป็น prequel ของ Battle of Lanka ที่เราได้ชมกันที่นครวัดฮ่ะ
เป็นตอนที่กษัตริย์วานรสองพี่น้อง พญาพาลีกับสุครีพ ต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์กัน
แล้วพระรามเข้าไปช่วยสุครีพสู้กับพญาพาลี สุครีพเลยตอบแทนบุญคุณพระราม
ด้วยการส่งกองทัพลิงเข้าร่วมปฎิบัติการชิงตัวนางสีดา ที่ตอนนั้นถูกทศกัณฐ์ขังไว้ที่ลังกานั่นเอง
พักสายตาด้วยการชมตัวปราสาทบ้างนะฮะ
จากคุณ : ha-meowตุ๊กตาลิง/ครุฑที่ตั้งอยู่นี่เป็นของจำลองเน้อ เพราะของจริงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ที่กรุงพนมเปญโน่น
จากคุณ : ha-meowมีของจริงเหลืออยู่ให้ชนรุ่นหลังดูกก็เรียกว่าบุญแล้วค่ะ
เพราะปราสาทขอมโบราณนี่โดนเศษฝรั่ง เอ๊ย ฝรั่งเศสขโมยสมบัติไปตั้งไม่รู้เท่าไหร่
แถมอีตา Andre Malraux ที่วางแผนขโมยโบราณวัตถุของบันทายสรีกลับฝรั่งเศส แต่โดนจับได้
นอกจากจะรอดคุกแล้ว ตอนหลังอียังได้เป็นถึง รมต.วัฒนธรรมของฝรั่งเศสอีกตะหาก ฮ่วยยยยย
ยิ่งพูดยิ่งปวดตับ กลับมาตาลายกับความวิจิตรงดงามของบันทายสรีต่อดีกว่านะเคอะ
จากคุณ : ha-meowอยากรู้จริงๆว่าแต่ละปราสาท ต้องใช้ช่างกี่คน และต้องแกะกันกี่นาน
จากคุณ : ha-meowขอบอกว่าจขกท.ชอบภาพแกะสลักที่ปราสาทบันทายสรีที่สุดในทริปแล้วค่ะ
เพราะมันช่างตระการตา ทุ่มทุนสร้าง และเพียบไปด้วยรายละเอียดที่แสนกิ๊บเก๋มากๆ
บาโร้กก็บาโร้กเถอะ มาเจอบันทายสรีเข้าไป อาจต้องอายม้วนกลับอิตาลีได้เหมือนกัน
ขนาดกำแพงปราสาทก็ยังไม่วาย ลายคิขุกาโม่ได้อีก
เสียอย่างเดียว ปราสาทออกจะเล็ก แต่นักท่องเที่ยวเยอะเหลือเกิน บรรยากาศตอนสิบโมงนี่ยังกะตลาดนัดเลย
งวดหน้าถ้าได้มาเสียมเรียบอีก อิฉันจะมารอประตูเปิดแล้ววิ่งเข้าไปถ่ายรูปคนแรกเลย T^T
ส่วนที่เห็นนี่เป็นซากของปราสาทที่ยังไม่ได้ผ่านการบูรณะฮ่ะ
วิธีบูรณะปราสาทนี่ ก็เหมือนเล่นจิ๊กซอว์ค่ะทั่น คือเอาซากเก่ามาประกอบกัน
ถ้าในกรณีที่โครงสร้างเดิมไม่แข็งแรงพอ หรือแหว่งหายจนน่าเกลียด ก็ใส่ของใหม่เข้าไปเพิ่ม
เสร็จจากทัวร์ปราสาทบันทายสรีแล้ว คณะทัวร์ของเราก็ออกเดินทางมุ่งหน้ากลับไปยังตัวเมืองเสียมเรียบ
แต่ระหว่างทาง คุณไกด์ก็พาเราแวะไปที่ Cambodia Landmine Museum ก่อน
เอ่อ...แต่ที่ใช้ปักแทนรั้วอยู่นี่ มันกับระเบิดหรือขีปนาวุธคะเนี่ย >_<
มิวเซียมนี้เป็นผลงานของคุณ Aki Ra ที่ผันตัวเองจากอดีตทหารเขมรแดง มาเป็นอาสาสมัครกู้กับระเบิด
จากคุณ : ha-meowจขกท.ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องสงครามกลางเมืองในกัมพูชาซักเท่าไหร่ ก็มาได้ความรู้กันที่มิวเซียมนี้แหล่ะค่ะ
ว่าในช่วงสงครามเวียตนาม กองกำลังเขมรแดง (Khmer Rouge) ให้การสนับสนุนเวียตนามฝ่ายคอมมิวนิสต์
ต่อมาในปี 1970 นายพลลอน นอล ผู้มีนโยบายขับไล่คอมมิวนิสต์ให้พ้นกัมพูชา ทำการล้มอำนาจเจ้านโรดม สีหนุ
จนสีหนุต้องลี้ภัยไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่ต่างประเทศ และเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาสนับสนุนฝ่ายเขมรแดง
ฝ่ายลอน นอลก็วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเมกา ที่ตอนนั้นกำลังเป็นโรคกลัวคอมมิวนิสต์ครองโลกขึ้นสมอง
อเมริกาก็เลยสนองด้วยการระเบิดปูพรมเขมรซะจนพรุนไปทั้งประเทศ ว่ากันว่าจำนวนระเบิดที่เมกาทิ้งที่กัมพูชานั้น
มากกว่าระเบิดทั้งหมดที่กองทัพสัมพันธมิตรช่วยกันทิ้งในสงครามโลกครั้งที่สองอีกนะฮะ >_<
ต่อมาเขมรแดงโดยการนำของพลพต ได้เข้ายึดกรุงพนมเปญได้ในปี 1975 และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้น
ของปฏิบัติการสังหารหมู่ชาวกัมพูชา โดยเฉพาะคนที่มีความรู้อย่างหมอ ครูบาอาจารย์ ศิลปิน ฯลฯ
ถ้าไม่โดนฆ่าทิ้ง ก็โดนส่งไปทำงานใช้แรงงานในทุ่งนาแทน ประมาณการว่าชาวกัมพูชาถึง 1/5 ของประเทศ
ต้องเสียชีวิตด้วยน้ำมือของเขมรแดง ซึ่งหนึ่งในผู้เสียชีวิตก็มีคุณพ่อของคุณกาน ไกด์ของเรารวมอยู่ด้วย
ภาพนี้มาจากโตน สเลง พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่กรุงพนมเปญค่ะ
(ภาพ : Corbis.com)
แม้เขมรแดงจะถูกกำจัดไปกว่า 20 ปีแล้ว แต่ฝันร้ายของชาวกัมพูชาก็ยังไม่จบ
เพราะในปัจจุบันก็ยังมีระเบิดจำนวนมาก ที่ยังนอนรอผู้โชคร้ายมาเหยียบอยู่ตามท้องไร่ท้องนา
ประมาณการว่า ต้นทุนของการผลิตกับระเบิดนั้นก็ตกแค่ $1/ลูก
แต่ค่าใช้จ่ายในการค้นหาและกู้กับระเบิดนั้นอยู่ที่ $1000/ลูกทีเดียว -_-
ส่วนคุณ Aki Ra นั้น แกโดนเขมรแดงจับฝึกยิงปืนและฝังกับระเบิดตั้งแต่อายุ 10 ขวบ
ซึ่งทำให้ภายหลังแกรู้สึกผิดที่สร้างความเสียหายให้ชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แกเลยไปเป็นอาสาสมัครกู้กับระเบิด
และต่อมาก็ได้ขยายงานเป็นมูลนิธิ ที่ไปช่วยกู้กับระเบิดตามพื้นที่ทุรกันดารที่ UN ไม่ได้ไปช่วยเคลียร์ให้
แล้วก็ตั้ง Cambodia Landmine Museum เพื่อเป็นบทเรียนถึงความโหดร้ายของสงคราม
ไม่รู้เหมือนกันนะฮะว่าถ้าคนเมกันมาเที่ยวมิวเซียมนี้ จะรู้สึกหน้าชาขนาดไหน -_-
หากใครมีจิตศรัทธาก็สามารถบริจาคเงินกองทุนกู้กับระเบิดได้ที่เว็บนี้ค่ะ
หรือถ้าไปเที่ยวปราสาทบันทายสรีแล้ว ก็แวะไปบริจาคที่มิวเซียมโดยตรงได้นะคร้าบ
ตอนหน้าเราจะพาเพื่อนๆไปอีกหนึ่งไฮไลต์ของทริปนี้ ซึ่งก็คือปราสาทบายอนเจ้าค่ะ โปรดติดตามจ้า
อาหารอิตาเลียนน่ากินมาก
เคยสงสัยมั้ยครับว่า คนสมัยก่อนอยู่ปราสาทหินแข็งๆ หยั่งงี้ได้ยังไง ผมสงสัยมานานแล้ว พื้นก็แข็ง นอน เดินเข้าไปได้ยังไง (แต่คงมีเตียงมั้ง) อย่างบ้านเราสมัยก่อนเป็นไม้ ก็ไม่แข็งมากเท่าปราสาทเขมร หรือปราสาทของพวกโรมัน
^
^
ลอง wiki คำว่า History of Mattress ดูแล้ว เหมือนว่าชาวโรมันเค้านอนบนฟูกที่ยัดด้วยพืชน้ำนะฮะ ซึ่งมันก็คงไม่เหลือมาถึงตอนนี้แล้วอ่ะ -_-
ส่วนชาวขอมโบราณ ระดับคนใหญ่คนโตก็น่าจะมีคล้ายๆแบบนั้นเหมือนกัน แต่ชาวบ้านก็คงต้องนอนพื้นไม้กันต่อปายยย
ติดตามชมครับ อยากไปเห็นเหมือนกัน
ต้องรีบไปแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวโทรมไปกว่านี้ ขอบคุณครับ
อยากไปบ้างจังเรย ^^
ปล.คุณเหมียวครับ ช่วยตอบหลังไมค์้ด้วยนะครับ อยากขอคำแนะนำด้านร้านอาหารที่SFน่ะครับ ขอบคุณครับ ^^
ชอบปราสาทบันทายสรีมากเลยค่ะ อ่อนช้อยสวยงาม
แมวจขกท.น่ารักน่าฟัดมากเลย
รอหม่ำอาหารเขมรนะคะ
น้องเหมียวข้างบน เค้ายิ้มกันมั่งเปล่า
ทำไมหน้ามุ่ยอย่างเดียว
พ่อแม่ที่บ้านก็บ่นอยากไปนครวัดเหมือนกัน สงสัยต้องจัดสักทริป
ว้ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เจ๊เหมียวทิ้งเมกา ณ ซานฟรานมาลัลล้าอยู่ที่นครวัดนี้เอง มันต่างกันมากไหมคุณแมวเหมียว
ป้าเพิ่งโหลดภาพนครวัดลง fb ยังไม่เสร็จเลย เปิดมาเจอของเจ๊เหมียว เดี๋ยวจะดูว่ามุมไหนที่ป้าไม่ได้เห็นมั่ง
ขอบคุณนะคะ
เจ๊ศิลปะการกิน เจ๊ให้กินปูนของปราสาทป่าวเนี่ย ฟันป้าหักหมดแร้วววววววววววว
จากคุณ : blackbubbleสุดยอดจริงๆอ่ะ ปราสาทกรีก โรมัน มายัน แอสเทค ยังต้องชิดซ้าย เมื่อมาเจอความถึกของช่างฝีมือแห่งบันทายสรีเข้าให้!
นอกจากจะอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดเก๋ๆแทบทุกตารางนิ้วแล้ว ภาพยังดูมีชีวิตชีวา ราวกับเรากำลังชมภาพเคลื่อนไหว
...................
ขอบอกว่าจขกท.ชอบภาพแกะสลักที่ปราสาทบันทายสรีที่สุดในทริปแล้วค่ะ
เพราะมันช่างตระการตา ทุ่มทุนสร้าง และเพียบไปด้วยรายละเอียดที่แสนกิ๊บเก๋มากๆ
บาโร้กก็บาโร้กเถอะ มาเจอบันทายสรีเข้าไป อาจต้องอายม้วนกลับอิตาลีได้เหมือนกัน
จากคุณ : ha-meow
เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 10:08:24
..........................
เห็นด้วยกับคุณเหมียวด้วยจ้า จริงอย่างที่สุดเลยคะ ภาพสวยหลายภาพเลยคะ
ชอบบายนครับ เกาะมาเที่ยวด้วยคน
จากคุณ : *SUPRA* สวัสดีคะ คุณ ha-meow เพิ่งมาเปิดเจอรีวิวเมื่อตลาดวายซะแล้ว.... แต่ถึงเม้าท์ออนไลน์ไม่ทัน แต่ก็อยากบอกว่า เคยคิดแบบเดียวกับคุณพ่อของคุณเหมียวเหมือนกัน คือ อคติกับเขมร
.... แต่ตอนนี้ หลังจากดูกระทู้จบ รู้สึกว่าตัวเองต้องแยกแยะ ระหว่างความชอบทางศิลป กับ ความสำนึกทางการเมือง
ภาพแกะสลัก ทุกปราสาท ...สวยยยยย.....จริงๆคะ
ขอบคุณที่นำความงดงาม อย่างแท้จริง มาใส่สมองลำเอียงของสิบล้อ
รอคอยกระทู้ตอนต่อไปนะคะ
ที่กัมพูชาอยากไปนครวัดมากที่สุดนี่ละครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
สวัสดีค่าคุณ ha-meow
หายหน้าไปไม่ได้โผล่มาทักอยู่แป๊บเดียว มาอีกทีเปลี่ยนโซนซะแล้ว
นครวัดนี่อลังการจริงๆค่ะ จำได้ว่าขนาดตอนไปยังเด็กมากๆก็ยังรู้สึกอินกับบรรยากาศ+ประวัติศาสตร์ของเค้าเลย
แต่ตอนนั้นเหมือนจะยังเป็นบันไดหินอยู่แหะ ลำบากเอาการ
ป.ล.ยังมิวายคงคอนเซ็ปต์การกินไว้ได้เช่นเดิม สุดยอดเลยค่า >v<
ตามมาเที่ยวนครวัดกับไกด์กิตติมศักดิ์ ผมเคยไปนครวัดเมื่อหลายปีก่อนนู้น สมัยที่บันไดไม้ใน คห 60 ยังไม่มี ต้องปีนบันไดหิน ขาขึ้นพอทำเนา แต่ขาลงนี่สิ สุดยอดดดด กลัวหัวทิ่มเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่กลายเป็นผีเฝ้าสมบัติขอม ต้องค่อย ๆ นั่งเอาก้นลงทีละขั้น ด้วยความที่ท่ามันคงน่าเกลียดเลยแอบไปลงฝั่งที่ไม่มีคน เอาชีวิตรอดกลับมาได้
เคยไปกับทัวร์ไทยไปรถกลับรถสามวันสองคืน บอกตัวเองว่าต้องไปใหม่และต้องไปเอง ไม่ไปกับทัวร์ เดินผ่านอย่างเดียวเลย เซ็ง!!! อยากไปละเลียดชมรายละเอียดภาพแกะสลัก อยากไปปีนปราสาทอื่น ๆ นอกจาก The Big 4 อยากไปแบบเข้าเต็ม ๆ 3 วัน แต่จริง ๆ ถ้ามีไกด์ด้วยคงสนุก
รูปกวนเกษียณสมุทรมันเกิดก่อนยุครามเกียรติ์นี่หว่า ไหนมีทศกัณฐ์กับหนุมานมาคัดท้ายคนละฝั่งได้
รูปเสียมกุกแตกแถวหันมาคุยอยู่ตรงไหนก็ยังไม่เห็น เหมือนอย่างกับไม่ได้ไปเลย
งานนี้ีซ่อมแน่ ๆ แต่ยังไม่รู้เมื่อไหร่ ตอนนี้ชมผ่านรีวิวเก็บข้อมูลไปพลาง ๆ ก่อน
ป.ล. แมวน้อยน่ารักมาก ชอบเจ้าลาเต้ที่สุด อย่างกับตุ๊กตาเลย
เยี่ยมค่า ไม่ต้องไปเองแล้ว แฮ่!!!!
จากคุณ : เจ๊มาเองจ้ะ#คุณ inint&anant: ได้เลยค่ะ สนใจจะยืมแมวบ้านเดี๊ยนไปเป็นพร็อพคู่กับคุณนายเล็กมั๊ยเคอะ กร๊ากกกก
#คุณ jerry-t: งั้น จขกท.ก็ขออวยพรให้คุณ jerry-t ได้ไปเที่ยวนครวัดไวๆด้วยนะคร้าบ
#คุณแตงโมน่ากิน: น้องแตงโมจ๋า พี่พยายามตอบหลังบ้านน้องหลายหนแล้วเน้อ
แต่ส่งข้อความบ่ได้อ่ะ Mailbox เต็มป่าว ส่วนคำถาม La Folie ไม่ต้องแต่งเต็มยศมากก็ได้น้อง
เสื้อเชิร์ตกับกางเกงยีนส์สุภาพ (ยีนส์สีเข้ม ไม่ปรุ ไม่ขาด) ก็ได้แล้ว ถ้ามี blazer ด้วยยิ่งแจ่มจ้า
พี่ก็ฝากน้องแตงโมไปหม่ำ Gary Danko เทียบฟอร์มกับ La Folie ด้วยละกัน แล้วกลับมาบอกด้วยว่าเจ้าไหนเด็ดกว่ากัน
#คุณ Pat :o): บันทายสรีนี่เห็นแล้วอึ้งมาก ว่าอะไรจะอลังการงานถึกได้ขนาดนี้
ส่วนน้องเหมียวเดี๊ยน แต่ละตัว 5kg up ฟัดมันมากๆเลยค่ะขอบอก
#คุณ =U_U= PoRpLe: เอร๊ยยย มาว่าแมวบ้านเดี๊ยนหน้าตรูด (แต่ก็จริงฟ่ะ -_-)
เห็นหน้ามุ่ยๆแบบนี้ แต่มันก็ขี้อ้อนไม่เบานะฮะ นี่ป๊าเดี๊ยนเพิ่งกลับมาจากทริป 2 วัน 1 คืนที่สิงคโปร์
เข้าบ้านปุ๊บ เจ้าชาเย็นร้องไม่หยุดเลยค่ะ ว่าป๊าหายไปไหน ทำไมกลับมาแล้วเอาแต่คุยกับแม่ ไม่มาเล่นกับหนูก่อน กร๊ากกกก
ถ้าคุณพ่อคุณแม่จะไป คุณ =U_U= PoRpLe ต้องรีบสนองโองการพาที่บ้านไปเที่ยวนครวัดแล้วฮ่ะ
จ้างไกด์ส่วนตัว แล้วจัดโปรแกรมหลวมๆชิลๆ มีพักนอนกลางวันด้วย ก็น่าจะเหมาะนะฮะ
#คุณ blackbubble: โห ซานฟราน/เสียมเรียบ เอามาเทียบกันได้ไงคะป้า >____<
เนื่องจากหนูประสบการณ์เที่ยวยังอ่อนด้อยยิ่งนัก อียิปต์ไม่เคยไป โมร็อคโค ตุรกีก็ยังไม่เคยเหยียบ
แต่เท่าที่ดูๆมานี่ บันทายสรีสุดๆแล้วค่ะในเรื่องความอลังการงานแกะสลักเนี่ย
#คุณ *SUPRA*: ชอบปราสาทบายนเหมือนกันเลยค่า เสียดายตอนไปบายน คนยังกะหนอนแน่ะ T^T
#คุณสิบล้อชอบเที่ยว: ไม่ใช่แค่นั้นค่ะ คนเขมรที่เราเจอในทริปนี้ ใจดี ไม่โกงนักท่องเที่ยวด้วย
เล่นเอาป๊าประทับใจมากเลย ป๊ายังบอกเลยว่าทริปนี้ทำให้ป๊ามองคนเขมรในแง่ดีขึ้นเยอะ อนึ่ง ป๊าขอยกเว้นฮุนเซนไว้คนนะ
แบบนี้คุณสิบล้อต้องมาเที่ยวนครวัดให้เห็นกะตาแล้วล่ะค่ะ จะได้รู้ว่าเดี๊ยนชัวร์หรือมั่วนิ่ม
#คุณ Destiny-Boy: งั้น จขกท.ก็ขออวยพรให้คุณ Destiny-Boy ได้ไปเที่ยวนครวัดในเร็ววันนะก๊า
#คุณ yuki_shimi: แหะแหะ เด๋วตอนหน้าจะย้ายโซนกลับเมกาแล้วนะฮะ และซีรีย์ถัดจากนั้นจะมีย้ายทวีปด้วย อิอิ
ไปนครวัดตอนเด็กๆนี่คงเหมือนได้วิ่งเล่นในสวนสนุกขนาดยักษ์เลยนะคะเนี่ย มีที่ให้ปีนให้ป่ายเต็มไปโหม้ด (ฮา)
แถมเวลาลงปราสาทนี่คงสนุกสนาน ไม่กลัวขนหัวลุกแบบป้าเหมียว -_-
ขอกินทู้นี้แอบกร่อยไปนิดนะขอรับ หวังว่าตอนหน้าจะพอกู้สถานการณ์ได้นิ้ดดดนึง แฮ่
ฮั่นแน่คุณเหมียว หนีกลับเมืองไทยนี่เองเห็นหายไปนานเลยค่ะ
นครวัดนี่ดิฉันไปมาแล้ว แต่จำอะไรเกี่ยวกับนครวัดไม่ค่อยได้ มันเบลอๆไปหมดเพราะว่านครวัดครั้งนั้น เป็นครั้งแรกที่ดิฉันกับพี่ท่านพาเจ้าไทแบ็คแพ็คครั้งแรกในชีวิต ตอนนั้นมันยังไม่สองขวบเลยค่ะ มันจะเล่นดินเล่นทรายท่าเดียว อยู่เขมรสิบวันมันดำเป็นเด็กเขมรเลย
ประมาณเดียวกับว่าเปลี่ยนที่เลี้ยงลูกยังไงยังงั้น
คุณเหมียวกินเก่งมว๊ากกกกก
สวัสดีคะคุณ Ha-meow
พลาดแล้วพลาดเลยนะคะ
สำหรับการถ่ายทอดสด
หลงหูหลงตากระทู้ดีดี
มัวแต่ตามข่าวน้ำท่วม
ป้ากาญจน์พูดถึงเมื่อวาน
วันนี้ได้ข้อความปุ๊บ
รีบมาเลยคะ
ต้องขอบคุณที่พาเที่ยวนครวัดนะคะ
สารภาพว่าถึงแม้จะอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก แต่ก็เป็นอีกประเทศที่ยังไม่ได้ไปสัมผัสสักสี เพราะไม่อยากกลับมาแล้วต้องตาย ตามสโลแกนฝรั่งว่า See Angkor Wat and Die 5555+ ล้อเล่นครับ ที่ยังไม่อยากไป เพราะคิดตลอดว่าอากาศมันร้อนๆฝุ่นๆ ประกอบกับแกงค์เพื่อนก้อชอบไปทัวร์ช้อปปิ้ง ทัวร์กินมากกว่าไปทัวร์แนววัฒนธรรม กระผมก็เลยยังไม่ได้ไปสัมผัสซะที ปล่อยให้เจ๊ที่อยู่อีกซีกโลกนึงพาเที่ยวซะงั้น อิอิ
นี่ขนาดเจ๊ไปเที่ยวเมืองขะแมร์ ยังไม่วาย หาของกินแซบๆหรูๆตามสไตล์เจ๊เหมียวได้อีก แจ่มแจ๋วจริงๆครับ
ปล รู้ที่มาของ log in ละ น่ากิน เอ๊ยยย น่ารักทุกตัวเลยครับเจ๊เหมียว
ขอบคุณที่ไปตามค่ะ
นครวัดและบันทายสรียังงดงาม วิจิตร อลังการงานสร้างเหมือนที่จำได้
สิบปีผ่านไปต้นตาลของนครวัดก็ยังอยู่ยืนคงคู่ศาสนาสถานยิ่งใหญ่
อิฉันก็ไปช่วงยังไม่มีบันไดไม้เหมือนกันค่ะ ขาขึ้นโอ ขาลงขาสั่นพั่บๆ อย่างคุณ Cherokee1 บอก
แล้วเรื่องทหารไทย เซมสตอรี่ อิฉันไปกับอ.โบราณคดี เดินมาถึงตรงนี้ แกก็บอกดูพวกเราซิ ไม่มีระเบียบกันเล้ย
นางอัปสราสวยเนอะ ไกด์พาไปดูคนนุ่งมินิสเกิร์ตที่นครวัดอ๊ะเปล่าเจ๊เหมียว
บันทายสรีคนเยอะเหมือนตลาดนัดแต่เจ๊เหมียวถ่ายออกมาได้เก่งจัง
เหมือนเดินกับคุณพ่ออยู่สองคน ไม่ค่อยติดคนอื่นสักเท่าไหร่เลยอ่า
น้องเหมียวบ้านตัวเองน่าฟัดทุกตัวเล้ย ที่มาฮาเหมียวอยู่นี่เอง แล้วก็ท่าโพสของน้องโกโก้ อ้อล้ออล่างฉ่างมาก
รอยลบายลค่ะ ป่านนี้ต้นไม้ในเขตนครวัดและโดยรอบคงใหญ่โตให้ร่มเงามากกว่าแต่ก่อนนิ
#คุณ Cherokee1: เหอเหอ ถ้าไม่มีบันไดไม้นี่ อิฉันกับป๊ะป๋าคงอดขึ้นระเบียงชั้นในแน่นอนค่ะ เพราะกลัวตาย >_<
ตะก่อนเพื่อนสนิทเราเป็นหมอของโรงบาลชื่อดังใน กทม.ที่ไปเปิดสาขาที่เสียมเรียบด้วยฮ่ะ
เพื่อนเลยได้ไปประจำการณ์ที่เสียมเรียบบ่อยๆ เพื่อนบอกว่ามีคนตกจากปราสาทขาหักแขนหักมาโรงบาลทุกวันเลย -_-
โหย ไปรถทัวร์ 3 วัน 2 คืน แบบนี้ต้องใช้เวลานั่งรถกี่นานคะเนี่ย O_o แต่เห็นด้วยค่ะว่าแบบนี้ควรไปเอง
ค่อยๆดู ถ่ายรูปกันให้หมดเม็มไปเลย เพราะภาพแกะสลักสวยๆมีเยอะจริงๆค่ะ
จริงๆจ้างไกด์ท้องถิ่นเองก็ไม่แพงมากนะคะ แต่ป๊าเดี๊ยนกลัวลำบากจัด เลยซื้อแพ็คเกจทัวร์
ซึ่งดีหน่อยตรงที่มีคนขับแถมมาด้วยคน ทำให้ไม่ต้องเดินอ้อมไปมาหลายรอบดี
เอ่อ จริงดิ เรื่องวรรณคดีไทยนี่สารภาพว่าอิฉันโง่มากค่ะ เคยพาเพื่อนแขกไปเที่ยววัดพระแก้ว
เพื่อนถามว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร หนูตอบม่ายล่าย T^T เลยบอกเพื่อนไปว่ารูปรามายณะ
เท่านั้นล่ะฮ่ะ เพื่อนอิฉันก็ถึงบางอ้อ แล้วกลายเป็นคุณเพื่อนผันตัวเองมาเป็นไกด์แทนเจ้าถิ่นอย่างตูซะนี่ -_-
น้องลาเต้จ้ำม่ำ น่าปล้ำน่าฟัดจริงค่ะ แถมรูปที่เอามาลงเนี่ย เป็นตอนน้องลาเต้อายุแค่ขวบเดียวเองนะฮะ เกร๊ยยย >_<
#คุณเจ๊มาเองจ้ะ: อ้าวเจ๊ พูดงี้ได้ไง ผิดวัตถุประสงค์ทู้เดี๊ยนหมด
#คุณ flymom: เหอเหอ ทริปนี้ไปมาเมื่อตอนต้นปีฮ่ะ ที่หายไปเพราะงานเข้าตะหากอ่ะก๊ะ T^T
น้องไทนี่ โตขึ้นต้องเป็นนักเดินทางอาชีพแน่เลยค่ะ ไปเขมรตั้งแต่อายุ 2 ขวบ บร๊ะเจ้า!
แต่พาลูกเล็กๆไปเนี่ย นับถือทั้งคุณลูกทั้งคุณแม่จริงๆค่ะ ตอนแบกน้องไทขึ้นปราสาทไปนี่ไม่ร้อนเหรอฮะเนี่ย >_<
#คุณ SkylineKip: ช่วงนี้ห้องบลูคึกคักมากเลยค่ะ ทู้รีวิวเต็มไปโหม้ดเลย
ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวนครวัดด้วยกันนะฮะ ขอบคุณป้ากาญจน์ด้วยที่ช่วยโปรโมท
หนูตกขบวนทัวร์อียิปต์ของป้าไปนานแล้ว จะพยายามกลับไปอ่านนะก๊า
#คุณ Coffee Blended: เผอิญพี่เหมียวคงถูกโฉลกกับของแปลกมั๊งน้องกาแฟ ปลายปีไปเม็กซิโก ต้นปีไปเขมรซะนี่
น้องกาแฟต้องหาโอกาสไปให้ได้ค่ะ ขนเมมไปเยอะๆด้วย รับรองได้ภาพสวยๆกลับมาทำทู้เพียบแน่นอน
อาหารโรงแรมหน้าตาดูดี รสชาติก็โอเคก็จริง แต่เจ๊อยากจกอาหารท้องถิ่นด้วยนะน้อง ฮี่ๆ
เนอะเนอะ แมวพี่เหมียว น่ารักน่าฟัดทุกตัวเลย ยิ่งถ้าเห็นตัวเป็นๆแล้วน้องจะอึ้ง ว่านี่แมวหรือหมูวะนั่น กร๊ากกก
#คุณ la liga fan: อิฉันว่าที่รอบนครวัดเป็นป่าๆนี่ ทำให้นครวัดดูดีขึ้นมาอีกหลายขีดเลยนะฮะ
ให้อารมณ์เหมือนบุกป่าฝ่าดงไป เจอศานสถานอันบึ้มอยู่ตรงหน้า คลาสสิคมากๆ
ส่วนต้นปาลม์นี่ เข้าใจปลูกเนอะ ทำให้รูปออกมาดูดี๊ดีนะฮะ ว่าบ่
เรื่องทหารไทยนี่ไม่รู้ศิลปินขอมล้อบรรพบุรุษเรา หรือเค้ากำลังเล่าความจริงอยู่ ว่าคนไทยนี่ เมาท์แตกได้ตลอดศกจริงๆ
เอ่อ มินิสเกิร์ตไหนฮะ ไม่เห็นพี่ไกด์บอกเลย เอาหลักฐานมาให้ดูเด๋วนี้นะฮะคุณ la liga >_<
ส่วนบันทายสรี เค้ากั้นตรงกลางไม่ให้คนเข้าไปเดินเล่นค่ะ ได้แต่เดินจงกลมถ่ายรูปจากด้านนอก
ตอนที่คุณ la liga ไป เค้าให้เข้าไปข้างในด้วยเหรอคะเนี่ย
อีน้องโกโก้มุมนี้ดูตลกดี เหมือนแมวยัดไส้เอแคลร์ของ San-X เลยชิมิ
ตามมาเที่ยวด้วยแล้วค่ะ พี่แป๊ดไปมาเมื่อปี 2005 กระไดขึ้นชั้นบนสุดยังไม่มีให้ ต้องชั่งใจตัวเองว่าจะปีนหรือไม่ปีน สุดท้ายว่ามาจนถึงนี่แล้วจะไปไม่ถึงข้างบนได้ไงตกลงว่าสู้โว้ยย.. ตอนขึ้นไปแรกๆก็ไม่กลัวนะ แต่พอจวนจะถึงข้างบนสุดนี่ขาสั่นใจหวิว แต่ก็ขึ้นจนได้ เย้ๆๆ
จากคุณ : PatPDXขาลงเขาทำราวให้เกาะลงมา ค่อยยังชั่วหน่อย แต่แรกไม่รู้ยังนึกกังวลว่าลงไม่ได้แล้วทำไงดีวะตู หรือจะแห้งตายบนนั้น กลายเป็นผีเฝ้านครวัด
แหม..เรายิ่งกลัวผีอยู่ด้วย
น่าทึ่งมาก ๆ เลยค่ะ คนสมัยก่อนสร้างกันได้เก่งจริง ๆ
พี่แป๊ดไปตามหานางอัปสราคนสวยคนนี้ที่เห็นจากหนังสือถกเขมรของคุณชายคึกฤทธิ์
จากคุณ : PatPDXสวัสดีค่า พี่ชอ
ขอบคุณที่ไปสะกิดเรียกนะค๊า (คิดถึงนะจังเลย)
รอพี่ชอพาไปเที่ยวตั้งนานแหน่ะค่ะ วันนี้มาเกาะแน่นๆไปเที่ยวเขมรด้วย >_<
น้องแมวน่ารักมากกกก ขนฟูเชียว ตัวหย๊ายหย่าย
เอ่อ...แม่นางอัปสรา เนี่ย... หุ่นดีจัง อกเป็นอก เอวเป็นเอว (อู้วู้ สุดยอดด)
ปราสาทบันทายสรี(ไหงหนูอ่านในใจเป็น บั้นทายสตรี หว่า -_-") รายละเอียดยิบย่อยสุดๆอ่ะ
แต่อาหารเที่ยวนี้ไม่ค่อยเยอะเท่าเมื่อก่อนนะคะ เอ๊ะ หรือว่าพี่ชอกำลังไดเอต ขนมมีน้อยจัง :D
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะค๊าาาา
ป้าหนอนเคยไปมายังอ่ะ
เจ๊เหมียว ทำไมลาเต้มันตัวเรียบจังอ่ะ หน้าบูดสุดตลอดอ่ะ 5555
อลังการงานสร้างของแท้เลยเจ๊ หนูไม่เคยได้ชมรีวิวนครวัดจริงๆจังๆสักที สุดๆมาค่าาา~ >_<
เห็นแต่ละปราสาทเนี่ย จะกรีก จะบาโร้ค อะไรก็เหอะ มีหนาวเหมือนกันนะนิถ้าให้มาดวลกันตัวๆอ่ะ
คนโบราณนี่ทำไปกันได้ยังไงฟร่ะ?? ทึ่งมาก สมัยนี้เรอะ ไม่มีทางจะทำได้แบบนี้หรอกมั้งเนี่ย
เทพนิยายโซนไหนๆก็โครงเรื่องเหมือนๆกันเลยเนอะ แบบว่า จับนู้นนี่นั่นมาชนกันเป็นเหตุการณ์ได้เฉย (จะโดนนรกกินหัวมั้ยตรู )
สุดอลังการงานสร้างจริงๆค่ะ ไม่รู้จะบรรยายยังไง >_< ขอบคุณอย่างมากที่พาเที่ยวชมกันถึงแก่นเลยนะค้าาา~
ปล. #8 น้องวัวไปอยู่ตรงนั้นได้ไงอ่า >_<
ปล2. เจ๊รีบมารีวิวตอนนี้เพราะมันใกล้ชนปีแล้วใช่มั้ยอ่ะ เอร๊ยยยย~ อย่าตีกบาลหนู~~ >_<
เจอแล้ว..!
ห้าสิบปีผ่านไป คนสวยถูกจับถูกจูบเสียมันวับเลย 555
บอกตัวเองว่าต้องพยายามไปให้ได้อีกสักครั้ง นครวัด นครธมบายน บันเตียเสร็ย นี่เป็นอะไรที่สวยมากๆๆ amazing สุดบรรยายจริงๆ
ขอบคุณน้องเหมียวมากค่ะที่พาไปดู พาไปเที่ยวอีกครั้งด้วยรูปเหล่านี้
บันทายสรีตอนอิฉันไป เขายังให้เข้าไปเดินลัดเลาะ ยลกันแบบแถวหน้าเลยเจ๊ ได้ใกล้ชิดเซเลบอัปสราทั้งหลาย
ตอนนั้นคนก็เยอะ แต่คงไม่มากเท่าตอนนี้ จำได้ดีว่าตอนนั้นทางวิบากมาก ถนนมีหลุมบ่อเยอะ กว่าจะถึงบันทายสรี ก็บั้นท้ายแทบพัง
ได้เข้าใจว่านั่งรถจนไส้ขย้อนเป็นยังไงก็วันนั้นแหละ เส้นทางไม่ไกลเท่าไหร่ แต่นั่งกันแบบก้นเมื่อยแกมช้ำ
เพราะหลุมบ่อเยอะ คนขับต้องขับส่ายไปมาหลบหลุมเหมือนคนเมา
และแต่ละหลุมก็น้องๆ อุกกาบาตตกใส่โลก หลบได้ไม่หมดซะมากกว่า
อิ อิ ไม่รู้รูปอยู่ไหลเลี้ยวอ่า กล้องฟิล์ม หุ หุ อ.สมิทธิแกชี้ให้ดู
อิฉันทึ่ง bas-relief บนบานทวารหินทั้งหลาย มันลึกและเรียบเสมอเท่ากันทุกช่อง ทริปนั้นมีพวกจิตรกรรมไปกันหลายคน
โอว..พวกนั้นแทบก้มลงกราบ สลักหินกันได้เทพขนาดนี้
อ๊า มาแล้ว คิดถึงมากมาย
มาลงชื่อไว้ก่อน เดี๋ยวกลับบ้านไปอ่านนะคะ
#134 แปลว่าไปมานานแล้วจริงๆ อืมมมม
เอร๊ยยยย~ จะตีกบาลหนูกันทำม้ายยย~ >_<
#136
#128 ดูจากรูปแล้ว ยังดูขาไม่สั่นเท่าปิระมิดที่แมกซิโก อันนั้นดูแล้วขาสั่นของจริง
จากคุณ : =U_U= PoRpLeเจ้าเหมียวลาเต้ น่ารักมากๆๆๆๆๆ
ท่าทางเอาเรื่องนะเนี่ย
เลี้ยงยากมั๊ย????
แวะมาชมครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ
ตามอาจารย์เหมียวมาเช็คชื่อค่ะ
เคยไปมาหลายปีแล้ว ตอนนั้นไปรถ ออกทางสระแก้ว นั่งขย่มไปถึงเสียมเรียบเกือบ 12 ชม.
พอจอดทานข้าวต้องแวะเอาของเก่าออกทันที 55555
จริงๆ แล้วไปแล้วก็ตะลึงตะลานนะคะ สวยมากจริงๆ โดยเฉพาะนครธม ถ้าได้มีโอกาสมาเก็บพนมรุ้ง ปราสาทหินพิมายต่อด้วยนี่
จะยิ่งซาบซึ้งในความยิ่งใหญ่ของยุคนั้นขึ้นไปอีกร้อยเท่าเลยค่ะ เสียดายเขาพระวิหารยังไม่ให้ขึ้น แต่เราไปมา 3 รอบแล้ว
มาแล้วค่ะ พี่ชอขา (เนียนมั้ย กร๊ากกกกกกกก)
ปล. อิโกโก้นี่ อัดลมเข้าไปใช่มั้ยคะ พองเป็นหมอนเชียว
คุณพี่ชอ เอาตุ๊กตาเป่าลม มาหลอกกันใช่มั้ย ต่อไปถ้าเดี๊ยนจะท้าสาบาน
ต้องบอกว่า ไม่เชื่อขอให้แมวทั่นประธานตัวเท่าวัว
#16
อันนี้ไม่อยากจะนินนะ เป็นบ้านเรา มาเที่ยวตั้งแบบนี้ เอาพวก
โบราณวัตถุ หิน มาทำขาเขออะไร เจอตบกระโหลก แต่พี่เหมน
ทำไปด้าย บางที่ เอาเสานางเรียงมาผูกผ้า กางร่มร้านค้าด้วยซ้ำ ชริ
ยังจะกระแด อยากเป็นมรดกโลก
#17-19
อันปราสาทเนี่ย ที่ทำให้หน้าตาเหมือนๆกัน อิชั้นเดาๆว่า
เจอปัญหาเดียวกับการสร้างดูโอโม่ทั้งหลาย นั่นคือความไม่เสถียร
วิธีทำให้คงอยู่เป๊ะๆ และมีต้นแบบรับรอง ก็คือก็อปปี้นั่นเอง
อีกอย่าง ทำให้ไม่ต้องมีการวางแผนผัง ซึ่งจะต้องมีทางน้ำ (ท่อโสมสูตร)
อีกทั้ง การจัดวางแท่นศิวลึงค์ ซึ่งต้องตั้งอยู่บนโยนีฐาน
ให้สอดคล้องกับระบบน้ำด้วย เพราะหลังจากชำระน้ำนม
หรือน้ำ ลงบนศิวลึงค์แล้ว น้ำที่ชำระนั้น จะถือเป็นการบวงสรวง
องค์พระศิวะ ผ่านโยนีฐาน ถือเป็นการบวงสรวงพระอุมา ไหลออกมา
และประชาชน ก็จะได้นำน้ำจากการชำระ ซึ่งถือว่าเป็นน้ำมนต์
ไปทำการมงคลต่างๆ ตามความเชื่อในยุคนั้น
(เพราะประชาชน เข้าไปในวิหาร บ่ ได้ รอตักเอาข้างนอกเท่านั้น)
ไม่เห็นถ่ายมาเลยฮะ หรือหมดแย๊ว เพราะศิวลึงค์ จะหายเป็นอันดับต้นๆ แหะ แหะ
และอีกอย่างของอีกอย่างคือ หินที่ได้ ก็มักมาจากบ่อเดียวกัน คุณภาพ
เนื้อ สี ก็ใกล้เคียงกันด้วย ทำให้ดูยิ่งเป็นแฝดอ่ะค่ะ
#22
ก็ไม่ใช่ดินเหนียวเปล่าๆปลี้ๆนะคะ มีการผสมส่วนสัดต่างๆ ที่คล้ายคลึง
กับการทำพระเนื้อดินเผาในปัจจุบัน มีนั่น นี่ นู่น เยอะพอควร จึงปั้น
ออกมาได้รูปร่างอ่อนช้อย เพราะมีความเหนียวและทนฮ่ะ
ประมาณเฟรสโก้เอเซียได้นะเนี่ย อิอิ เพราะว่าต้องทำในขณะสารละลาย
บางตัวยังไม่จับแข็ง จึงจะขึ้นรูปได้เช่นกัน (มั่วไปจนได้ คริ คริ)
#31
ไม่ทำอะไรยังไม่พอ การค้ากับเขมร ต้องมีการตกลงกับเขมรทุกฝ่าย
ในส่วนที่เราจะไปค้าด้วยนะเคอะ เช่น ค้าวัว ถ้าต้อนผ่านเขมรฝ่ายที่ 1
ที่ทำการตกลงกันแล้ว ก็แล้วกัน แต่ถ้าต้อนผ่านเขมรที่ 2 ต้องตกลงกันอีกรอบ
ไม่งั้นอีแบ๊ะๆ ไม่ให้ผ่านลูกเดียว
ดังนั้น สินค้าเราไปฟูเฟื่อง ในโซนแต่ละโซนเนี่ย ไม่ได้มาจากการตกลง
อย่างง่ายดายอะไร แต่คนไทยซะอย่าง ค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา
แม้วันดี คืนดี จะมีการปลุกระดมคนในชาติ ขึ้นมาเผาข้าวของคนไทยได้อีก
พี่ไทยเราก็หากลัวไม่ ยังดาหน้าเข้าไปค้าที่เขมร เพราะขายได้ทุกอย่าง
จนบัดนี้ หลายบริษัทที่ถูกเผา ถูกทำลายไปสมัยเขมรจลาจลคราวนั้น
ยังไม่ได้อะไรคืนซักกี่มากน้อย
อยากจะ ถรุย ซัก 500 หน ไอ้เรื่องแบบนี้ต้องหลังไมค์ค่ะ ว่าใครเผา
ใครเสีย ใครได้ ใครเจริญหลังจากนั้น เหอๆๆๆๆ
#35
ส่วนโคปุระ (หรือพลับพลาต่อทางเข้า) บางปราสาทเนี่ย ขุดค้นพบก็จาก
โคปุระนี่แล นัยว่าสำมะคัญมิใช่น้อย ไม่รู้อีตาอองรี มูโฮต์
ค้นพบจากอะไรอ่ะ
(อองรี มูโฮต์ คือผู้ค้นพบนครวัด ปัจจุบัน ร่างเขาสงบอยู่ที่
หลวงพระบาง ในนาม "ธาตุโม่โฮ่" ฮ่ะ)
#40
นางอัปสรศรีทั้งหลายเนี่ย ตอนเดี๊ยนไป ก็แซวๆว่า เอวคอด แต่ตูมๆ
กันทุกคนเลย (ซึ่งสาวเขมรสมัยนั้นนุ่งผ้าถุง หุ่นประมาณนี้)
นมกลมป๊อก เป็นไข่ดาวมาก มีแต่ด้านหน้า ด้านข้างหามีไม่
แล้วผ้าที่แม่นุ่ง ใยมันกระเดิด ปลิวลม หวิวติ้ว เยี่ยงเน้
(:-)น ขอให้ได้ติ อิอิ) จีบหน้านาง ไพล่ไปลอยซะข้างๆ
ท่าทางว่า ลมจะแรง คริคริ แถมผ้าลินินแน่นอน แข็งโป๊ก
#43-44
อิแก๊กเนี้ย ขายกันทั่วโลกเลย ถ้าที่ไหนมีอะไรเป็นยอดๆ
แล้วถัดไปมีน้ำเนี่ย ต้องมีการขายว่าด้วยถ่ายเงาในน้ำ
แต่มันสวยจริงๆฮ่ะ มุมโปสการ์ดมาก
#47
สงครามกุรุเกษตร เป็นสงครามที่สร้างความชิหัยที่สุด ในมหาภารตะยุทธ
ฆ่ากันกระจัดกระจาย ตัวละครแต่ละตัว ถูกนำมาเป็นชื่อต่างๆ ของคนปัจจุบัน
(โดยไม่ได้มองเลยว่า ชื่อต้นน่ะ มีจุดจบแบบไหน)
แถมที่ทั่นประธานชี้ๆไปเนี่ย อาจจะไปจิ้มๆ โดนตัวสำคัญๆ
ประเภทอรชุน ภีษมะ อะไรงี้ก็ได้นะฮะ คริคริ แม้แต่สารถี
ของอรชุน ยังเป็นถึงท้าวอะไรซักอย่าง มีความสำมะคัญนะเออ
แถมยังแสดงถึงด้านมืดของมนุษย์แบบมีเหตุ (ไม่เหมือนตำนานกรีก
ที่ตะละเทพ เอาแต่ใจตัวเองเกิ๊น) แต่มันก็มืดแหละ เช่นไปหลอกอีกฝ่าย
ว่าลูกตายในสนามรบ แล้วก็ฆ่าพ่อเสีย ตอนที่เศร้าๆอยู่ (เลวว่ะ)
หรือแม่ทัพอีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ในการรบ ก็ขอให้แม่ทัพอีกฝ่ายยุติก่อน
แม่ทัพหยุดด้วยกฏนักรบ แต่จอมทัพที่บงการอยู่ ไม่หยุด ให้ตัดหัวเสีย
เพราะขืนให้มันไปฟิตมาใหม่ จะชิหัยกว่าเก่าประมาณนี้
ซึ่งอิที่มารบๆกัน ชิหัยวายวาดนี้ มันก็อิญาติๆกันทั้งเพ จะเหลืองจะแดง
แมร่มมม ก็คนไทยนั่นแล แอร๊ย กรู เอาอีกแล้ว
#56
แอร๊ย บ้านเมืองเอ็ง ข้าก็ไปช่วยรบ งี้จะพูดได้มั้ย ว่าตูก็มีส่วนนะ
ในปราสาทๆๆ ทั้งหลายของเอ็งน่ะ ออสโมซิสจนจับมือใครดม
ไม่ได้แล้วเว๊ย ว่าใครน่ะ เจ้าของแท้ๆ
จริงๆ อิชั้นก็ชอบนะฮะ นครวัด แต่รออิหุนหันตายก่อนแล้วกัน
ค่อยไปชมอีกที ปราสาททั้งหลายรอไปก่อน อย่าเพิ่งถล่มนะเว๊ย
#57
ขืนมาลากเดี๊ยน อย่าหวังได้ติ๊บนะคะ มีเตะแถม
ถ้าตูถ่ายทหาร กับผนังไม่ครบทุกตารางนิ้ว ตูไม่กลับนาเฟร๊ย
#82
จริงๆ มันมั่วฮ่ะ เพราะว่า อารยะธรรมกรีก ต้นๆ ไม่เป็นดอกบัว
แบบนี้หรอก ส่วนใหญ่เป็นลายใบอาแคนธัส ในลักษณะต่างๆ
อิบัวคว่ำ บัวหงาย ไรเนี่ย มีกลีบดอก ประกนก รวมไปถึงเทวดา
ที่อยู่ระหว่างดอกก็ชัดเจ๊น ชัดเจน มั่วอีหลี
#92
ชริ อิเศษอิ๊บของแถวนี้ไปบานละฮ่ะ ของเราก็โดน
การบูรณะ แบบที่เรียกว่า อนัสติโลซิสเนี่ย จะกินเวลาเยอะมากกกก
ก็ต้องรอไปอีกเรื่อยๆละนะฮะ ว่าจะเสร็จ แต่ที่เห็นเนี่ย
ทำไปเยอะแล้วนี่ กางแบ ติดเบอร์ซะหมดแล้ว
#103
ถ้าเป็นเจ๊ เจน ฟอนด้า น่าจะผสมโรงด่านะฮะ เพราะเจ๊แกก็ต่อต้าน
อิกับระเบิดนี่มันเลวร้ายจริงๆ จนบัดนี้ก็ยังทำร้ายคนได้เรื่อยๆ
#107
พื้นปราสาท น่าจะเป็นไม้ค่ะ บางที่ เวลาเดินจะเห็นหลุม บนพื้น
ซึ่งถูกคาดเดาว่า เป็นหมุดสำหรับพื้นไม้นั่นเอง
เด๋วไว้รอชมอาหารเขมรก่อน ปลากรอบๆๆๆๆ
แอร๊ยยยยย โดนนิน
ยัยเจ๊โกะ ถ้าชั้นแร่ดไปถึงเมืองยอง เมืองลา หลวงน้ำทา ปูเตา
และอะไรต่อมิอะไรได้ คิดเหรอว่า เขมรจะรอดชั้นไปเจือก อิอิ
(ใกล้แค่นี้ ปั่นจักรยานไปยังไหว ถ้าไม่โดนระเบิดตาย)
ไปตั้งกะ หนามบินเขมร เอารถลากแนวๆอีแต๊กมารับจากเครื่องอ่ะ กร๊ากกกกก
ถ้าสมัยก่อน มีกล้องดิจิมอนเนี่ย รับรอง ถ่ายกระจาย
เด๋วพั่ด จัดเต็มระบบการวางผังของปราสาท ในสมัยสุริยวรมันต์
ชัยวรมันต์ทั้งหลาย เทียบชั้นความละเอียด ฯลฯ
ความเชื่อมโยม ต่อเนื่อง กับการบูชาเทพเจ้าของไศวนิกาย วัสดุ
ความเชื่อมโยงในการวางผัง และรูปแบบสวรรค์ ให้ประดุจกัน
ไปจนถึงโลโก้ต่างๆ ที่ตกทอดมายังเหล่ากระทรวงทั้งหลาย
ในปัจจุบันนี้ รับรองว่าอึ้งกิมกี่ ไม่แพ้ตำนานกรีก คริ คริ
แถมด้วยระบบการเมืองการปกครอง การล่มสลาย ความน่าจะเป็น
รวมไปถึงสาบแช่ง ด่า ได้ตั้งแต่ตัวผู้นำ ยันนั่น นี่ นู่น โน่น
เรียกได้ว่า ย้อนรอยมาถึงรัตนโกสินทร์กันเลยทีเดียว อิอิ
ถ้าไม่ขี้เกียจ คริ คริ
ไปทัวร์เขมรเนี่ย ไปกะเจ้าไหน ไม่มันเท่าสวัสดีฮอลิเดย์ทัวร์ฮ่ะ
ยิ่งถ้าได้ท่านชายสุภัทรดิศ เป็นผู้นำกิติมศักดิ์แล้ว จะสุดเปรียบปาน
แต่เมื่อท่านชายสิ้นไปแล้ว ก็ลองหาหนังสือ ศิลปะเขมร ของท่านมาอ่าน
รวมทั้งถกเขมรของคุณชายคึกฤทธิ์ ก่อนไปแอ่ว จะได้อรรถรสไม่น้อยทีเดยว
สวยและยิ่งใหญ่มากๆเลยค่ะ นึกถึงคนมานั่งแกะสลักหินก้อนมหึมาเป็นลวดลายงดงามได้ขนาดนี้
แหม ตั้งชื่อแมวยังเป็นของกินทั้งนั้นเลยนะคะ แหม มาเมืองไทยไม่บอกกันบ้าง ได้ไปแอบซุ่มดู อยากเจอตัวจริงมานานแระ
เหมือนได้ไปด้วยเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ
จากคุณ : สาวหน้าใสลวดลายแกะสลักสวยจริงๆเลยค่ะ
บันไดทำไมเค้าถึงต้องทำชันขนาดนั้นคะ คนสมัยก่อนเค้าเดินขึ้นกันยังไงล่ะเนี่ย ดีนะที่ตอนนี้มีบันไดไม้แล้ว
ปล. น้องแมวแต่ละตัวกลมดิ๊กเลยนะคะ
#142 ก็ว่าเคยไปมาชัวร์แหงๆ ป้าไปอีกรอบดิ เอากล้องดิจิมอนไปด้วย อยากเห็นแบบจัดเต็มอ่ะป้า
#คุณ PatPDX: โห เห็นรูปปีนกระได หนูก็ขนลุกซู่แล้ว >_< ยิ่งซุ่มซ่ามๆอย่างหนูเนี่ย มีหวังได้กลิ้งตกลงมาแน่อ่ะ -_-
นางอัปสราใน #30 สวยมากๆเลยค่ะ ทำไมหนูไม่เห็นรูปนี้ แต่ก็นะ นักท่องเที่ยวมือบอนจับซะจนหินเงาเลย
ไอ้จับน่ะไม่เท่าไหร่ บางคนเล่นเติมลิปสติกให้นางอัปสราด้วยเนี่ย สาธุ ขอให้นางอัปสราไปเข้าฝันพวกมือบอนนี่ที
#คุณเยอบีร่า: นั่นดิฮะ ยิ่งบันทายสรีนี่เห็นแล้วอึ้งปนทึ่งจริงๆ สุดยอดแห่งความถึกโดยแท้
#คุณ miracle_rainyteddy: ตัวไม่ใหญ่ไงไหวฮะ แมวบ้านพี่เหมียววันๆเอาแต่กินกับนอนแบบนี้
แถมยังเลือกกินอีก จะกินแต่อาหารแพง เทของถูกให้ มันเมิน ไม่ยอมกินอีกแหน่ะ แมวเทวดาชัดๆ กร๊ากกกก
แปลว่าคนสมัยก่อนเค้าก็ชอบสาวอึ๋มเหมือนกันนะเนี่ย กร๊ากกก แต่นางอัปสราที่นี่ยังหุ่นเพรียวลม
ถ้าออกมาเป็นสาวเจ้าเนื้อแบบในภาพวาดของ Rubens นี่จะออกมาฮาแค่ไหนน๊อ อิอิ
ส่วนเรื่องของกิน ก็วันๆพี่ชอไปหมกตัวอยู่ในปราสาทขอมนี่ฮะ จะเอาเวลาที่ไหนไปกิน
หวังว่าทริปหน้าจะแก้ตัว ของกินกระหน่ำเหมือนเดิมนะน้องฝน
#คุณ yokoyuki: ระดับป้าหนอนมีเหรอจะพลาดอ่ะเจ๊
นังลาเต้ขนมันแน่น ไม่บานฟูเหมือนพี่ๆค่ะเจ๊ คือลูบแล้วนิ่มมือมากๆ เห็นหน้าตรูดแบบนี้ ตัวจริงมันออกจะขี้อ้อนนะฮะ
ที่แสบจริงคือน้องรีโอ แมวคอมมานโด ชอบหนีออกจากบ้าน แถมยังจะซ่าไปตีกับหมาข้างบ้านอีก -_-"
ยอมรับว่าทริปเขมรนี่ เดี๊ยนไม่ได้เตรียมตัวเท่าไหร่ เปิดไกด์บุคหนแรกก็ตอนนั่งเครื่องบินกลับมาเมืองไทยแหล่ะทั่น
แต่ไปถึงแล้วได้แต่โห ว่ามันอลังการงานสร้างเกินความคาดหมายมากๆอ่ะ โดยเฉพาะบันทายสรี
เจ๊โกะน่าจะลองไปเที่ยวนา เกาะชายกระโปรงป้าหนอนไปด้วยเลย กั่กๆ
ปล.ตอนรถเลี้ยวเข้าซอยไปปราสาทพระโค เดี๊ยนเห็น"เกวียน"บริการนักท่องเที่ยวด้วยทั่น >_<
เลยคิดว่าน้องวัวนั่นคงกะลังอยู่ในช่วงพักกลางวัน หลังจากรับส่งผู้โดยสารซะเหนือยในช่วงเช้ามั๊งฮะ กร๊ากกกก
ปล2. รู้สึกว่าแค่นี้ก็ดองทู้ซะจนเค็มปี๋แล้ว เลยต้องเอาออกมาขายก่อนทู้จะเน่าซะก่อนอ่ะเจ๊
#คุณ la liga fan: เอร๊ยยย ทำไมโลกไม่ยุติธรรม เค้าอยากไปชมปราสาทบันทายสรีในระยะเผาขนบ้างอ่าาาา
โห แสดงว่าตอนนั้นถนนยังเป็นลูกรังอยู่เลยนะนั่น ดีเหมือนกันที่ไปตอนถนนลาดยางแล้ว ไม่งั้นป๊าคงได้นอนพะงาบๆอยู่ในรถแน่อ่ะ
เหอเหอ แปลว่าคุณ la liga จบแนวศิลปะ/สถาปัตย์มาเหรอฮะ รีบแบไต๋มาด่วนๆ อย่ามัวแต่อมภูมิอยู่เรยนะเคอะ
#คุณ nowan: ได้เรยค่ะ ค่อยๆอ่านก็ได้ค่ะ เพราะตามสไตล์เดีียน กว่าจะโพสอีกตอน คงอีกสักพัก -_-
#คุณ =U_U= PoRpLe: ปีระมิดพี่เม็กมันดูแห้งๆมีแต่หินนะฮะ แต่ที่นครวัดนี่มีตะไคร่น้ำด้วย
ถ้าได้ปีนปราสาทตอนเช้าๆ แฉะๆ นี่คงระทึกน่าดู กร๊ากกกกก
#คุณพิจารณ์รัฐกิจ: น้องลาเต้นี่ น้องอิฉันบอกมันขี้อ้อนมว๊ากกก ชอบให้คนลูบ คนปล้ำตลอดเวลา
เสียอย่างเดียว เวลาน้องลาเต้หิว แต่เด็จแม่ยังงีบอยู่ มันจะเดินมาตบหัวแม่อิฉันให้ตื่นมาให้ข้าวมันได้แล้ว -*-
#คุณกัปตันลูกชุบ: ขอบคุณสำหรับ ด้วยฮ่ะ กร๊ากกกก
#คุณ Bpearl: บร๊ะเจ้า นั่งเครื่องบินไม่ถึงชั่วโมง นั่งรถ 12 ชั่วโมง ทำไปได้ >_<
คุณ Bpearl ชอบนครธมเหมือนป๊าเดี๊ยนเลยค่ะ อะเมซิ่งเนอะ ว่าคนสมัยก่อนนี่เก่งไม่ตลกจริงๆ
ปราสาทหินพนมรุ้งนี่เราก็ยังไม่เคยไปเลยค่ะ ว่างๆต้องหาทางไปเที่ยวบ้างซะแล้ว
#ป้าหนอน: เอร๊ยยยย แล้วน้องปอสามมีเบนโตะมาฝากพี่ชอด้วยรึเปล่าค๊าวันนี้
โหยป้า นี่ขนาดน้องโกโก้ผอมลงหน่อยแล้วนะฮะ มีอยู่ช่วงนึงมันเป็นแมวโหลด พุงแทบติดพื้นแน่ะ -_-"
#16 สงสัยซากปราสาทที่ประเทศนี้มันเยอะจริงๆนะนี่ ขนาดเอามาทำขาโต๊ะได้อ่ะ กร๊ากกกกก
#17-19 โอว์ ป้าหนอน องค์อับดุลลงอีกแล้ว >_< หนูไปแล้วไม่เห็นเห็นเลยง่ะ ศิวลึงค์กับโยนีเนี่ย
เห็นแต่ในมิวเซียมที่โดนไกด์ลากเข้าไปเท่านั้นแหล่ะ -_-
#22 กร๊ากกกก เกือบหลงเชื่อ เฟรสโก้ขอม
#31 คุณไกด์บอกว่าสินค้าอุปโภคบริโภคในเขมรมาจาก 2 ที่หลักๆค่ะ คือไทยแลนด์ แอนด์ เวียตนาม
ป๊าเดี๊ยนได้ยินดังนั้น ก็เข้าสู่ conspiracy theory mode ทันที ว่าต้องเป็นเวียตนามแน่ๆเลย
ที่ปลุกปั่นให้ไทยตีกะเขมร มันจะได้ผูกขาดขายของในกัมพูชา ทฤษฏีนี้ ศจ.ดร.มมต.(= แม่ยกน้องโมโต) หนอนว่าไงฮะ
#40 หรือว่าโชว์นางรำสมัยโน้ย เค้าจะมีพร็อพเป็นพัดลมเป่าหน้าเวที ให้สไบปลิวสไวฮะเนี่ย กร๊ากกกกก
#47 เอร๊ยยยย ป้าหนอน อย่าเพิ่งอิน เรื่องวรรณคดีทั้งไทย ทั้งแขก ทั้งเทศ นี่ หนูโง่จริงๆป้า ยอมรับ
สมัยเด็กๆอ่านแต่หนังสือการ์ตูน พอโตขึ้นมาก็อ่านแต่หนังสือนำเที่ยวซะงั้น ถึงได้โง่ดักดานอยู่อย่างงี้
#56 ถ้าพี่หุนม่องไป ตัวใหม่ที่ขึ้นมาแทนนี่จะอาการหนักกว่าเดิมไหมอ่ะป้า -_-
ตอนอ่านเรื่องเขมรแดงที่ Landmind Museum ก็ยังงงๆอยู่ ว่าทำไมสีหนุยังลอยหน้าลอยตา ให้คนเขมรกราบไหว้บูชาอยู่ได้วะเนี่ย -*-
#57 ไม่อยากจะเม้าท์ฮ่ะ ว่าตอนแรกพี่ไกด์พาชมภาพกวนเกษียรสมุทรเสร็จ ฮีก็บอก เอาครับกลับโรงแรมได้แล้ว
หนูก็กรี๊ดเลย ว่ากลับได้ไงเพ่ Battle of Lanka ยังไม่ได้ดูเลยน๊า ให้คนขับเลื่อนรถกลับไปรอที่ประตูหน้าเด๋วเน๊~
#92 แบบนี้ป้าหนอนต้องให้หลานๆเล่นเลโก้เสียตั้งแต่วันนี้ฮ่ะ โตขึ้นเผื่อจะได้ไปเป็นนักโบราณคดีระดับโลก
เอร๊ยยย ป้าหนอน เอาเลยๆๆๆ สุดยอดรีวิว อภิมหากระทู้รวมประวัติศาสตร์ลุ่มแม่น้ำโขง
แต่อย่าลืมรีวิวอิตาลีด้วยนะป้า ป้าจะได้เอาน้องโมโตมาโฆษณาแฝงด้วย เป็นการขยายฐานแฟนคลับด้วยไงฮะ อิอิ
#คุณ Red-Rose-14Feb: เคยคุยกับเพื่อนขำๆฮ่ะ ว่าถ้าสมัยก่อนมีทีวี อินเตอร์เน็ต คาราโอเกะแบบยุคนี้
พวกงานศิลปะสถาปัตยกรรมถึกๆนี่ คงไม่มีให้พวกเราได้เห็นแน่นอน กร๊ากกกกก
ส่วนตัวจริง จขกท.เนี่ย เชิญเลื่อนขึ้นไปดู คห.ที่ 1 ได้เลยฮ่ะ หุ่นใกล้เคียง >__<
#คุณสาวหน้าใส: ขอบคุณด้วยค่าที่แวะมาให้กำลังใจนะก๊าบ
#คุณ Angel without wings: เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า ที่ทำให้ชันเพื่อให้คนที่ปีนขึ้นไปอย่างนอบน้อม
เพราะต้องใช้ 2 มือช่วยด้วย จะได้ออกมาเหมือนหมอบคลานหน่อยๆ ไม่รู้ว่าจริงป่าวนะฮะ
อิฉันไม่ได้เรียนจิตรกรรมประติมากรรมนะทั่น อยู่คณะข้างๆ เค้าอ๊ะ แต่ชอบทำเนียนบ่อยๆ
เรื่องทำบันไดชันให้คนขึ้นไปมีลักษณะคล้ายหมอบคลานนี่ ใช่เลยนะทั่น อ. ก็บอกอย่างนี้
อ. ยังบอกว่ามันก็คล้ายบันไดเดินขึ้นไปลานกว้างของวังแวร์ซาย
นั่นไม่ต้องหมอบ แต่คนเดินขึ้นไปจะมองไม่เห็นอะไรเลยจนขั้นท้ายๆ เป็นการข่มในตัว
^
^
แอบเข้ามาวิสัชนา
ตอนที่ไปปราสาทๆ ทั้งหลายเนี่ย บันไดมันมักจะชันอย่างนี้ทุกที่
เราก็เลยนิน (ปากบอนโคตร ไม่ได้กลัวผีขะแมร์กันเลยทีเดียว)
ว่าบันไดชันเนี่ย เค้าให้เดินตะแคงขึ้น เหมาะกับผ้านุ่งแบบเขมรยิ่งนัก
แถมดูกุลสตรี๊ กุลสตรี
จากนั้น อิชั้น เบ๊ประจำคณะ ก็สาธิตให้ชม เดินขึ้น เดินลง ฮากระจาย
แต่มันเดินตะแคงนี่ สะดวกนะฮะ ทั้งตอนลงและตอนขึ้น
ซึ่งในคณะเดี๊ยน จะมีเพื่อนคุณป้าคนนึง ใส่ส้นสูงตลอดกาล (ไปไหน
กะเราเนี่ย ใส่ส้นสูงตลอดฮ่ะ) แล้วอิชั้นก็ไปประคองข้างนึง อีกมือถือ
ผ้าเช็ดหน้าแกว่งๆ แล้วรอง ฮองเฮาเสด็จแล้ว ประจำ
ขนาดใส่ส้นสูงขึ้น เดินตะแคงนี่ ปลอดภัยมากฮ่ะ แต่ต้องสลับขาดีๆ
ที่ดีที่สุดคือ ลงทีละขั้นๆละ
มีลามปามไปว่า มีหามเสลี่ยงขึ้นมาได้อีกป่าววะเนี่ย ไปนู่นนนน
กร๊าก แมวโหลด มันยังเคลื่อนไหวได้อีกเหรอคะ อิที่เกาะเป๋าไว้นั่น
ให้เข็นมันไปใช่มั้ย กร๊ากก
แอร๊ย ทั่นประธานฮะ ที่ไม่เห็นเนี่ย เพราะว่าศิวลึงค์เนี่ย จะหายก่อนเสมอๆ
แต่ก่อน จะมีความเชื่อว่า มีฐานที่เป็นรูปห้าเหลี่ยม รองโยนีฐานอีกที
เป็นสัญลักษณ์พระนารายณ์
อิโจรเนี่ย มันมาจิ๊กศิวลึงค์ไปก่อน ตามด้วยโยนีฐาน พอข่าวเรื่องฐาน
สุดท้ายออก มันยังมาทะลึ่งจิ๊กไปหมดเซ็ทอีกแน่ะ
แต่พวกมีฐานที่สามรองรับเนี่ย เดี๊ยนเห็นเยอะแต่ในอินเดีย เนปาลน่ะค่ะ
#31
อันนี้เดี๊ยนเห็นด้วย กับป๊ะป๋าอย่างยิ่งฮ่ะ ซึ่งอิทฤษฏีนี้ ในทางการเมือง
มันเป็นผลพลอยได้ จากหนึ่งในนโยบาย โปรประกันด้า ซึ่งความเกลียดชัง
ใส่ไข่กันเข้าไป จากนั้น ทั่นจะได้ทุกอย่าง
ต้นฉบับไม่ใช่ใครนะฮะ อิเศษฮ่ะ budซบไม่มีใครเกิน
แล้วเมืองลูกมันน่ะ เอาไปใช้หมด อิพี่ไทยที่ว่า ตอแร๋ๆ เก่งๆ ไม่จริงฮ่ะ
ใส่ไข่สู้ชาวบ้านเค้าหาได้ไม่ (แอบเป็นนางเอกในส่วนลึก อิอิ )
แต่ทแว่ ความเกลียด ก็ไม่สามารถดับความกระหายที่จะบำรุงบำเรอตน
ของมนุษย์ได้ ผลิตสินค้าเข้าไปเหอะ เพราะตอนขายเป็นคนท้องถิ่น
ความเกลียดชังนี้ก็จะลดลงได้เยอะ
(ดูแต่บางห้างบ้านเราสิ ด่าๆกัน มันก็ยังขายได้)
พวกพี่เวียตทั้งหลาย ก็ได้แต่พยายาม ทำแพ็คเกจ ให้คล้ายๆเราฮ่ะ
ทั้งขนาด สีสัน หน้าตาการโชว์หีบห่อ เราก็ยังขายได้อยู่ดี ฮี่ ฮี่
#22
นู๋พูดจริงๆค่า จริงๆมันไม่ใช่ดินเหนียวนะ มันเป็นพวกปูนขาว ผสมอื่นๆ
ที่เดี๊ยนจำแม่น คือมีน้ำอ้อย (คิดว่าตอนหลังโมลาส อย่างข้นๆเหนียวๆ)
ที่จำแม่น เพราะตอนเค้าทำเสร็จ เดี๊ยนเอามาดมๆๆ แทบจะกัดชิม
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นสุดๆ -___-aaa
พอมีความรู้มาอีกหน่อย ก็เข้าใจว่า มันไม่มีความหวานแล้ว แต่คงเป็น
ตอนสุดจุดเดือดเลย คือไม่เหลือรส แต่มีความเหนียว + พร้อมแข็งตัว
#56
ถ้าศึกษา จะพบว่า มีหลายอย่าง ที่สีหนุทำได้นะคะ กร๊ากกกกก
อิชั้นว่า รากศัพท์ "หน้ามึน" ของเราเนี่ย มาจากแถวนั้นละ
อีกอย่างอ่ะ อิชั้นชอบเข้าพิพิธ ปวศ ย่านนี้ ถิ่นนี้อ่ะ อะไรๆที่เค้าไม่โอเค
มาคราวหน้า ไม่แน่ว่าจะเจอนะคะ อาจได้อ่านหน้า ปวศ ใหม่ อิอิ
เด๋วทัวร์อิตาลี อิชั้นจะใส่ไว้ท้ายทู้กัลโช่ฮ่ะ แบบแพลมๆ ขืนจัดเต็ม
ได้อ้วกกันแน่ เพราะวันไหน ได้ที่เที่ยวเหมาะๆ อิชั้นถ่ายรูปมาพันกว่า
(ใช้ได้ 50 รูป กร๊ากกกกกก)
น้องลาเต้ คงจะอ้อนเด็จแม่น่าดู
ภาพ # 64 พุงคุณป๋าหนูเหมียวนะ พอๆกับ พุงเรา (น้าพิจารณ์ฯ) เลยฟ่ะ ขออภัยแซวพวกเดียวกัน 55555 แต่คนมีพุงนั้น ใจดีและน่ารักทุกคนนะ ขอบอก
ภาพ # 127 ขอเรียกว่า บั้นท้ายสหประชาชาติ ได้มั๊ย?
เหมียวปีนนครวัดแค่นั้น อย่าหอบแฮ่กๆเลย ยังสาวยังแส้
นี่ ต้องแบบนี้ น้าเพิ่งไปทิเบตมาว่ะ summer 2011 นี้เอง 1 สัปดาห์
ลำพังแค่ เมืองลาซาก็ 3650 m.จากระดับน้ำทะเล
(หลังแป ภูกระดึงนั้น 1288 ม. เท่าน้น)
ยังหาญกล้าไป ปีน Potala Palace กะเค้าอีก สูงเทียบเท่าตึก 13 ชั้น
ฃฃ
แทบตาย เพราะ oxygen มีแค่ 68% ของพื้นราบ
ดีที่สุขภาพดี เล่นกีฬาตลอด เลยรอดตัวไป ไม่เจ็บไม่ไข้
แปะให้ดู
น้องเหมียว highlight ของการไปนครวัดนี่คงเป็นตอนไปปีนกระไดนี่ด้วยกระมัง? ดูอันนี้ที่(พี่แป๊ดไปจิ๊กเขามา) รูปถ่ายตอนขาลง เสียวไส้มาก ถ้าต้องลงอย่างเขาจริงๆคงต้องชั่งใจว่าจะเอาหน้าหรือตรูดลงดี
จะได้ไม่คว่ำข้าวเม่าลงไปให้บาดเจ็บหรือตายเป็นผีตัวใหม่เฝ้านครวัด
รูปสลักนางอัปสรคนสวยของคุณชายคึกฤทธิ์นี่อยู่บนสุดจ้ะ จะไม่บอกว่าอยู่ตรงไหนหละ ให้เป็นเป้าหมายของคนที่จะไปเที่ยวที่นั่นให้ค้นหากันต่อไป 555
คุณ พิจารณ์รัฐกิจ
เรื่องไปปีนป่ายอะไรในที่สูงนี่ ถ้าสูงมากๆกว่าระดับน้ำทะเล ก็น่าคิดว่าเราคนปีนจะถึงที่หมายอย่างเสร็จสมอารมณ์หมาย (เอ๊ะ..รู้สึกว่าจะใช้คำพูดไม่ถูกเท่าไหร่นะ แต่ช่างเถอะ ขี้เกียจแก้)นี่ก็ปางตายได้ในบางเคส แหม..มันหายใจไม่ค่อยจะออกเลยน่ะ
เคยไปปีนกำแพงเมืองจีน รู้สึกว่าเกือบตายเหมือนกัน ไม่อยากจะนึกถึงมาชู พิชชูเลย น้องเหมียวไปมาแล้วยัง?
พูดก็พูดนะ ถ้าให้ไปอีกนี่ขอเป็นนครวัดดีกว่า เรื่องของเรื่องนี่คือมันมีอะไรให้ดูน่ะ แต่เนื่องจากกำแพงเมืองจีนมันเป็นอะไรของโลกที่ต้องไปแล้ว ก็เลยไปเสียหน่อย จะได้นอนตาหลับว่างั้นเถอะ
(ขอโทษ ที่นอกเรื่อง แบบ ความสูงมันพาไปหน่ะ)
รู้สึกว่า review นี้จะขาดเรื่องกินไปนะครับ :(((
นึกว่าจะมีเปิบพิศดารเขมรซะอีก
แต่ข้อมูลยังแน่นปึ๊กเหมือนเดิม
วันนี้ผมเพิ่งได้ดูรูปที่ไปเที่ยวกับเพื่อนเมื่อครึ่งปีก่อน
พอดีเพิ่งได้ external อันใหม่ ไปก๊อปรูปน่ะครับ 3 คน ล่อไป 500 Gb ฮ่าๆๆ
ข้อมูลอะไรที่เคยอ่านลืมไปหมดแล้ว
ทำไมพี่ยังจำได้อีกเนี่ยๆ :'(
เพลงที่คนเขมรเล่นนี่คล้ายๆ กับเพลงไทยเดิมไหมครับ
ข้าวผัดนี่อะไร ทำไมดูมันจัดแปลกๆ เยอะๆ ยังไงไม่รู้
ที่ท่องเที่ยวนี่เขามีข้อมูลภาษาอังกฤษเยอะไหมครับ หรือคุณไกด์เค้าบรรยายให้
ขอบคุณครับบบบ
ปล วันนี้ไปกินซูชิร้าน miyatake ที่ CTW มา พี่ชอ เคยไปกินเปล่าครับ
คือ ผมไม่เคยไปญี่ปุ่น+ไม่เคยกินร้านซูชิเฉพาะๆ ดีๆ
เลยไม่รู้ว่าร้านนี้จริงๆ นี่ดีไหมครับ
แต่เทียบกับร้านในไทยอื่นๆ แล้วแพงง่ะ :P
ตามมาแล้วครับเจ๊..
รอชมตอนต่อไปนะครับ..(
ลูกเป็ดเกือบตกรถทัวร์ซะแล้วค่ะ
ไม่อยากจะบอกเลยว่า ตอนนี้ใกล้เกลือกินด่างกว่าคุณ ha-meow อีก เพราะอยู่เมืองไทยจนบัดนี้ก็ยังไม่เคยไปเหยียบกัมพูชาเลยอ่ะค่ะ
นครวัด อลังการสมกะคำร่ำลือเลยนะคะ แต่แอบติดใจบันทายสรี(แปลว่าอะไร?)มากว่าค่ะ ดูสวยแบบเยอะได้อีกค่ะ ชอบมากๆ อย่างปราสามหินที่เมืองไทยก็ไม่เคยเห็นที่รายละเอียดยิบอย่างงี้เลยนะคะ ตอนหน้าจะมีไปชมปราสาทที่มีต้นไม้งอกออกมาด้วยใช่ป่าวคะ
เหมือนว่าเคยได้ยินว่าไปกัมพูชาต้องหม่ำปลาทะเลสาบอะไรซักอย่าง คุณha-meow ได้ไปลองมารึยังคะ
รามเกียรติ์ ก็ไม่เคยอ่านจบเหมือนกันค่ะ แต่ชอบดูโขน รวมถึงละครอินเดียที่ถือลูกตุ้มไล่ทุบกัน เลยแอบจำได้บ้างน่ะค่ะ แต่ก้สงสัย ที่จริงมหาภารตะ กะ รามเกียรติ์นี่ดังพอกันเลยนะคะ ทำไมมาถึงเมืองไทยแล้วกลายเป็นนิยมอยู่เรื่องเดียวเอง
แอบมี บทสัมภาษณ์ของสาวอเมริกันที่แอบเลิฟกัมพูชา พูดถึงเรื่องกับระเบิดให้ฟังนิดนึงด้วยค่ะ
ปล. น้องแมวจ้ำม่ำทุกตัวเลยอ่ะค่ะ แถมหน้าเหวี่ยงทุกตัวอีกด้วย น่ารักๆ
ขออภัยนะค๊า ที่มาตอบเมนต์ช้ามั่กๆ อาทิตย์ที่แล้วหนีเที่ยวบอสตันฮ่ะ
กลับมาสลบเหมือด นอนวันละ 10 ชั่วโมงทุกวัน พันทิปไม่ได้เข้าเลย -_-"
หวังว่าทุกคนคงจะรอดปลอดภัยจากน้ำท่วม (และน้องงู/น้องจระเข้) นะคร้าบ
#คุณ la liga fan: น่าอิจฉาจังฮ่ะ เดี๊ยนเรียนวิศวะ เลยได้แต่ไปทัวร์โรงงาน
ไม่เคยมี field trip หนุกๆ แถมมีผู้รู้มาบรรยายแบบนี้บ้างเลย แง๊ว T^T
เอิ๊ก นครวัดยันแวร์ซายส์ ที่แท้ก็หลักการออกแบบเดียวกันเหรอเนี่ย เมพขิงๆ
#ป้าหนอน: หลักสูตรเดียวกับลุงที่ Uxmal เลยค่ะป้าหนอน ต้องเดินเฉียงๆไต่ปีระมิดและปราสาท!
ว่าแต่เพื่อนป้านี่ทำไมกล้าเยี่ยงนี้ ใส่ส้นสูงปีนปราสาทเนี่ยนะ ถ้าพื้นมันเรียบก็คงไม่เป็นไร ไม่กลัวส้นไปลงรูหินบ้างเหรอ -_-
แมวหนู ถึงจะตุ้ยนุ้ย แต่พอเวลาตักอาหารนี้ แทบจะบินออกมาจากมุมห้องทุกตัวเลยนะฮะ กร๊ากกก (เหมือนเจ้าของไม่มีผิด )
เจริญล่ะ ขโมยศิวลึงค์กับโยนี สงสัยฝรั่งมันคงเห็นเป็นของแปลกมั๊งเนี่ย -*-
ไม่รู้ว่าพี่ไกด์เจ้าเก่าจะเชลียร์ลูกทัวร์เปล่านะฮะ แต่ฮีบอกว่าคนเขมรชอบใช้สินค้าไทยมากกว่าของเวียต
หนูก็ไม่เคยเห็น/ใช้สินค้าเวียตนามด้วย อยากเห็นเหมือนว่าหีบห่อจะก๊อปกันมาเหมือนอย่างที่ป้าพูดเปล่า
ส่วนเรื่องพี่ฝรั่งเศส นี่แม่มพอๆกับอังกฤษเลย ไอ้แท็คติก Divide and Rule ของมันเนี่ย ทำให้โลกชิหายอยู่ทุกวันนี้ไง
เพื่อนแขกบอกเมื่อก่อนคนฮินดูกับมุสลิมอยู่ด้วยกันดีๆ เจออังกฤษมาปั่นหัวจนแตกแยก กลายเป็นอินเดีย/ปากีสถาน อิรักก็อีก
ตอนนี้ทั้งฝรั่งเศสแล้วก็อังกฤษเลยมีผู้อพยพหลั่งไหลเข้าไปซะจนคนขาวแทบร้องกรี๊ด โสนะหน้า
โห ป้าหนอน สุดยอดพหูสูตร นอกจากรู้ที่มาไม่ของดินเหนียวไม่พอ ยังจะชิมให้รู้รสอีกด้วย กร๊ากกกก
รอมินิซีรีย์อิตาลีของป้าหนอนอย่างใจจดใจจ่อนะก๊า โดยเฉพาะรีวิวน้องติม แฮ่
#คุณพิจารณ์รัฐกิจ: ลาเต้เลี้ยงง่ายฮ่ะน้า มันไม่เรื่องมากเหมือนนังชาเย็น ขานั้นชอบทำตัวเป็นศูนย์กลางจักรวาลมากๆ
ป๊ากลับบ้านต้องลูบกับตักข้าวให้มันก่อนนะ ถ้าไม่ทำละก็ มันจะร้องโหยหวน ได้ยินไป 3 บ้าน 8 บ้านเลย -_-
เหอเหอ น้าเห็นพุงหนูเหมียวก่อน แล้วจะหนาว กร๊ากกกกก
น้าอึดจริงๆฮ่ะ ขอยกให้ ปีนตึก 13 ชั้นที่ระดับนั้นได้เนี่ย เป็นหนูอาจยกธงขาวตั้งกะชั้น 1 แล้ว
#คุณ PatPDX: แค่เห็นรูปหนูก็เสียวแล้วป้าแป๊ด T^T สงสัยต้องถอยหลังลงแหงม
กำแพงเมืองจีนนี่หนูยังไม่เคยไปเลย แบบว่ากลัวห้องน้ำจีนมาก เพื่อนมันขู่ซะจนตูไม่กล้าไปเลย >_<
ส่วนมาชูปิชู อันนี้ก็ coming soon นะฮะ
#คุณ de prince of darkness: อยากจะเปิบพิสดารเหมือนกัน แต่โรงแรมเค้าก็คงไม่กล้าเหมือนกัน
ว๊ากกกก 3 คน 500 GB ทริปเขมรทริปเดียวเหรอคะนั่น หรือรวมทัวร์ยุโรปด้วย O_o
พี่เหมียวเองก็จำบ่ได้หรอกน้อง พวกรายละเอียดเนี่ย ต้องลอกหนังสือไกด์บุคมาเขียนทู้ด้วยอีกที -_-
เพลงก็คล้ายๆเพลงไทยเดิมอยู่นะ แต่จะว่าไป พี่เหมียวก็ไม่ได้ฟังเพลงไทยเดิมมาเป็นชาติแล้ว แป่ววววว
ส่วนไกด์ คนนี้พูดไทยได้ค่ะ แต่ถ้าเอาพูดภาษาอังกฤษก็ไม่น่าจะหายากนะน้อง
ซูชิร้าน miyatake นี่พี่ไม่เคยหม่ำอ่ะน้อง ปกติกลับเมืองไทยเน้นกินปลาดิบจากบุฟเฟต์โรงแรม
เพราะด้วยความจุระดับพี่เหมียว กินบุฟเฟต์แล้วคุ้มกว่าเห็นๆ
#คุณ Natchaphon: ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจก๊าบ
#คุณ youngsexylovely: สาวเก๋อย่างคุณ ysl ถ้าไปนครวัด ก็คงได้ไปโพสท่าแข่งกับนางอัปสรากันสนุกเลยนะฮะ
บันทายสรีแปลว่าป้อมปราการของสตรีค่ะ แต่ท่าทางจะเป็นชื่อที่ชาวบ้านเมคขึ้นมาล้วนๆ
เพราะคนสร้างตัวจริงเป็นพราหมณ์ตะหาก ตึ่งโป๊ะ!! ส่วนปราสาทต้นไม้งอก ตอนหน้ามีให้รับชมกันแน่นอนฮะ
ทัวร์ที่เราไป เน้นชมปราสาทกันจนประสาทกินจริงๆค่ะ ไม่ได้ไปทะเลสาป เลยอดกินปลาเลย งื้ดๆ T^T
งั้นฝากคุณ ysl ไปชิมเผื่อด้วยเลยนะฮะ เหอเหอ
เรื่องมหาภารตะกับรามายณะเนี่ย สงสัยต้องถามกูรูอย่างป้าหนอนแล้วล่ะฮ่ะ
ให้อิฉันเดาก็คงเพราะเรื่องมหาภารตะเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองในอินเดียโบราณ คนไทยเลยอาจจะไม่อิน
ไม่เหมือนรามายณะที่ออกแนวหนังแฟนตาซี ผจญภัย เทพฟัดกับยักษ์ ยักษ์ตบกับลิงมากกว่ามั๊งฮะ หุหุ
เจ๊โจลี่แกเลิฟกัมพูชาจริงๆนะฮะ ท่าทางเจ๊ก็เป็นแนว spiritual ธรรมะธรรมโมไม่เบา เจ๊มาเที่ยวเลยอินจัด
ก็จริงอ่ะ ชาวกรุงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งหรือคนไทย บางทียึดติดกับวัตถุจนลืมไปว่าความสุขนั้นหาไม่ยาก
ไม่ต้องมี iPhone ไม่ต้องใช้ iPad ไม่ต้องหิ้ว Chanel มันก็มีความสุขตามอัตภาพได้
ยิ่งกับครอบครัวแล้ว บางทีการที่ไม่มีอะไรเลยทำให้ครอบครัวใกล้ชิดกันมากขึ้นไปอีก
เดี๊ยนเคยได้ยินเจ๊ที่บริษัท บ่นว่าต้อง FB/text ตามลูกให้ลงมากินข้าวเย็น ฟังแล้วตลกปนอนาถมากอ่ะ -_-
ทริปยุโรปครับ ยังไม่เคยไปกัมพูชาเลยครับ ใกล้เกลือกินเบสกินด่างเหมือนกัน ฮ่าๆ
แต่ก็เยอะเกินนะ 500 GB :P
เป็นอีกที่ที่อยากไปมากค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^
จากคุณ : สามแซ่ตามมาอ่านต่อแล้วค่ะ
เป็นที่ที่อยากไปมากมายเลย แต่ยังหาเพื่อนไปด้วยไม่ได้ แถมไม่กล้าไปคนเดียวด้วย
ได้แต่อาศัยเกาะดูภาพจากคนโน้นที คนนี้ที
แถมพอเวลาผ่านไป ก็จะดูได้น้อยลง ๆ ด้วยใช่มั้ยคะเนี่ย
จากที่แต่ก่อนเข้าไปดูในบันทายสรีได้ เดี๋ยวนี้ได้แค่รอบนอก
ต่อไปอาจไม่ได้ปีนขึ้นด้านบนกันแหง ๆ เลย
แง้ อยากไปอ้ะ
ไม่ต้องเดินทางไปเที่ยวไกลถึงนครวัดก็ได้ครับ เที่ยวปราสาทหินเขาพนมรุ้งและปราสาทหินเมืองต่ำ หรือจะไปเที่ยวพิมายในประเทศเราก็ได้ครับ สวยเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ได้ตรงที่ความอลังการแค่นั้นเอง
ผมขอแนะนำให้ไปเที่ยวปราสาทหินเขาพนมรุ้งและปราสาทหินเมืองต่ำด้วยนะครับ เพราะว่าที่นี่สวยมากๆ ทั้งรูปแบบงานสถาปัตยกรรมและภาพหินทรายแกะสลักที่มีลวดลายคมมากๆๆๆ
ส่วนที่พักผมแนะนำ โรงแรมพนมรุ้งปุรี บูติกโฮเต็ลในสไตล์ขอม เรียบ หรู อยู่ สบาย ใกล้ชิดธรรมชาติ ใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ให้เลย รับรองว่าที่พักที่นี่จะสามารถเติมเต็มความสุขของการเดินทางของทุกท่านๆได้อย่างสบาย
ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.phanomrungpuri.co.th
ก่อนอื่นขอปรบมือให้ ขอบคุณที่เสียสละเวลาเอาเรื่องดีๆมาโพส
เพิ่งเข้ามาอ่านวันนี้เอง เล่าสนุกมากค่ะ ภาพก็ออกมาชัดเจนมากๆ
จะบอกว่าสวยกว่าของจริง ไปเที่ยว 2-3 ปีก่อน ก็มีผ้าเขียวคลุมการซ่อมที่นครวัตส่วนหน้า สถานที่ใหญ่มากใช้เวลาซ่อมนาน
อ่านแล้ว ได้ความรู้ทางประวัตฺศาสตร์มาก สงสัยว่า คุณเหมียวได้จาก
ไกด์ หรือเป็นความรู้ที่สะสมอยู่ในตัวคะ ตอนที่ไปเที่ยว บินบางกอกแอร์ ไปกับเพื่อนรวม 5 คน จองแพคเกจรวมไกด์ ประวัติศาสตร์ได้มาน้อยนิด หรือเราไม่สนใจฟังเอง เอาแต่ถ่ายรูป ไกด์สาวเล่าแต่เรื่องนิทานพื้นบ้านตลกๆให้ฟัง
ปลายปีว่าจะพาลูกๆไปเที่ยวเหมือนกัน แต่ยังเคืองฮุนเซ็ง ไม่อยากอุดหนุน กำลังชวนลูก เพลนไปอินเดีย เนปาล ช่วงปลายปีชนต้นปี ไปเที่ยวศาสนสถานบ้าง หวั่นๆเรื่องอาหารการกินและสาธรณูปโภค คุณเหมียวเคยไปหรือยังคะ มีอะไรพอจะแนะนำบ้างคะ
อ้อ ว่าทึ่งโบราณสถานของเขมรแล้ว พอไปเห็นของอียิปต์แล้ว เขมรจิ๊บจิ๊บเลย
ยอดไปเลยค่ะ น่าไปมั่งจริงๆ
จากคุณ : Najenjiraไปเที่ยวปราสาทเขาพนมรุ้งเสร็จแล้ว ต้องไปปราสาทเมืองต่ำควบคู่กันด้วยเพราะการก่อสร้างเหมือนกัน และสวบงามเหมือน อยู่ จ.บุรีรัมย์
และอยากจะแนะนำที่พักของจ.บุรีรัมย์ ที่สวยอีกที่หนึ่ง คือโรงแรมพนมรุ้งปุรี อยู่อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ห่างจากปราสาทพนมรุ้ง เพียง 26 กม.เอง
สนใจติดต่อได้ที่ http//www.phanomrungpuri.co.th