ออกจากวัดใหม่สุวันพูมา เรื่อยลงไปถึงวัดหัวเซียงและวัดมะหาทาด(ทาดน้อย)  ถนนเส้นเดิมเปลี่ยนชื่อเป็นถนนเจ้าฟ้างุ้มแล้วครับ

ช่วงที่ผมไปวัดมะหาทาดไม่เปิด ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะไปชมราวเทียนครุฑยุดนาคเป็นอันว่าผิดหวัง ได้แต่ชมรอบนอก

เณรกับนาควัดหัวเซียง

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/09/E11134488/E11134488.html

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/09/E11136104/E11136104.html

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/09/E11136346/E11136346.html

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/09/E11136622/E11136622.html

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/09/E11137857/E11137857.html

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/10/E11139047/E11139047.html

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/10/E11139427/E11139427.html

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/10/E11142125/E11142125.html

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/10/E11144089/E11144089.html

http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/10/E11147069/E11147069.html

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11155412/E11155412.html

ปากทางเจอเสือยิ้มให้ด้วย

เดินทะลุวัดมะหาทาดซึ่งอยู่ติดกันได้เลยครับ
ซุ้มประตูสิมเป็นรูปนารายณ์ปราบนนทุกครับ

 ตามเที่ยวด้วยคนนะครับ

แต่เนื่องจากเข้าชมภายในสิมไม่ได้ ก็เลยไม่มีภาพมาฝาก

เจดีย์หลังสิม ตามประวัติเล่าว่าสร้างโดยยายของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช

ขอบคุณครับลุงแบกเป้ ใกล้จบแล้วครับ

อยู่ที่นี่ไม่นาน เดินออกทางกุฎิพระวัดมะหาทาด เจอเกราะอันเบ่อเริ่มหลายอัน เลยเก็บภาพมาฝากกัน

ออกจากวัดมะหาทาดเราวิ่งออกนอกเมืองไปวัดทาดหลวง

ทาดหลวงเป็นเจดีย์องค์ใหญ่หลังสิม องค์เจดีย์บุแผ่นโลหะแบบพระธาตุลำปางหลวง  ซึ่งนอกจากที่ทาดหลวงแล้ว เจดีย์ที่วัดป่าฮวกก็บุโลหะเช่นกัน แต่เจดีย์วัดป่าฮวกเล็กกว่ามาก

..

...

บานประตู-หน้าต่างสิมเป็นเรื่องรามเกียรติ์

ลวดลายเป็นสมัยใหม่แล้วครับ

เข้าไปในสิมเพราะอยากจะชมราวเทียนที่คุณศรันย์ บุญประเสริฐ แนะนำให้มาชม แต่ปรากฎว่าราวเทียนถูกนำไปซุกอยู่หลังพระประธาน(เข้าใจว่าช่วงนี้นักท่องเที่ยวน้อยเลยเอาไปเก็บไว้ก่อน เรานี่ก็ซอกแซกซะจริงๆ)

เท่าที่โผล่มาให้เห็นก็สวยสมราคาคุย

นาคที่วัดทาดหลวงนี่เลื้อยด้วยนะครับ ไม่ธรรมดา

ออกจากวัดทาดหลวง เราไปวัดมโนรม หวังจะไปไหว้พระเจ้าแขนกุ๊ด
แต่สิมปิด  โชเฟอร์เลยพาไปวัดวิชุน

ถึงที่นี่สมาชิกเริ่มหมดสภาพ เข้าชมแค่ 3 คน จ่ายคนละ 20,000 กีบ ที่เหลือดูของฝากที่ขายหน้าสิม

พระประธานสวย สมส่วน

สังเกตที่ฐานชุกชี จะมีพระปางนาคปรกหลายองค์ ไม่พบที่วัดอื่นเช่นกัน

งามมาก

วัดวิชุนเคยเป็นพิพิธภัณฑ์มาก่อน

เมื่อย้ายพิพิธภัณฑ์ไปที่หอพิพิธภัณฑ์แล้ว

พระไม้แกะจำนวนมาก ยังคงเก็บรักษาอยู่ที่นี่

ดีกว่าพิพิภัณฑ์ตรงที่ถ่ายรูปได้นี่หละ

แต่เพราะต้องถ่ายย้อนแสง

..

..

ทำให้ต้องเลี่ยงมาถ่ายด้านข้างเป็นส่วนใหญ่

..

...

พระส่วนใหญ่มีสภาพสวยสมบูรณ์

ต่างจากพระในโรงเมี้ยนโกศ ซึ่งมีพระชำรุดมากกว่า

บานประตูสิมแกะเป็นรูปพระนารายณ์ทรงช้างเอราวัณ
เครื่องทรงคล้าย ๆ กับอัปสราที่นครวัด

ที่หน้าสิมก็คือ พระธาตุหมากโม ที่รู้จักกันดี
อยากได้น้ำมาราดพื้นให้เปียกๆสักหน่อย.....

ถึงตอนนี้สมาชิกบอกว่าไหว้พระครบ 9 วัดแล้ว (เกินแล้ว) พอแล้ว
เลยไม่ได้เข้าวัดอาฮาม

ได้แต่ถ่ายรูปแมวหน้าสิมมาฝาก

..

ส่วนยักษ์หน้าตาเป็นอย่างไรคงต้องไปดูเอาเอง

มาชมรีวิวด้วยคนครับ

เรากลับถึงเรือนพักพูสีตอนบ่าย3 โมง และนัดให้รถมารับไปส่งสนามบินตอนบ่าย 4 โมง

หลายคน ล้างหน้าล้างตา และแช่เย็นอยู่ในห้องพัก พร้อมกับชื่นชมของที่ช็อปได้ในวันนี้

ส่วนผมและพี่ผู้ชายก็คุยกับคุณทวีสัก เจ้าของเรือนพัก เกี่ยวกับอดีตเก่า ๆ เพราะเรือนพักอยู่ฝั่งตรงข้ามวัง

ได้รู้ว่าแม่ยายเป็นช่างเงิน เคยทำเงินส่งร้านทองย่านบ้านเจ็ก (ปัจจุบันหน้าเรือนก็มีร้านขายเครื่องเงินอยู่ แต่ตอนผมไปไม่เปิด นัยว่าแขกน้อย) คุยเพลินจนกระทั่งรถมารับ

ภาพต่อจากนี้เป็นภาพของเมืองหลวงพระบาง(ส่วนที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก)
ภาพแรกเป็นภาพหัวแหลมปากน้ำคาน อาคารที่เห็นชัดคือปะรำพิธีตอนแข่งเรือ วัดเชียงทองและวัดปากคานก็อยู่เกือบขวาสุด

ภาพที่สองเป็นภาพย่านบ้านเจ็ก ซ้ายสุดเป็นถนนอุ่นเรือนซึ่งถัดไปจะเป็นหอพิพิธภัณฑ์ สี่แยกผ่ากลางเป็นสี่แยกบ้านวัดแสน ซึ่งตลอดแนวไปทางเหนือจะเป็นสถานที่ใส่บาตรตอนเช้า

ภาพที่สาม เป็นภาพแยกน้ำพุ(แม่พระธรณี)ซ้ายสุด และแยกไปรษณีย์ขวาสุด

[CR]หลวงพระบาง แข่งเรือ บุญเดือน 9 ข้าวประดับดิน(ที่นี่หลวงพระบาง)

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^