ซินจาว สวัสดีเพื่อนๆห้องบลูทุกคนนะคะ เมื่อเดือนที่แล้ว 14-20 กันยายน จขกท.และเพื่อนๆรวม 4 คนได้มีโอกาสแบกเป้ไปเที่ยวและเยี่ยมเพื่อนชาวเวียดนาม ก่อนไปก็ได้หาข้อมูลต่างๆจากห้องบลูเนี่ยแหละค่ะ ขอบคุณสังคมแห่งการแบ่งปันที่ทำให้จขกท.ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเดินทางในครั้งนี้ จากการเป็นผู้รับอย่างเดียว วันนี้จขกท.ขอเป็นผู้ให้ข้อมูลบ้าง เพื่อจะได้อัพเดทข้อมูลต่อเพื่อนคนอื่นๆ จขกท.เห็นว่ามีริวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮานอยเยอะแล้ว วันนี้ก็เลยเกิดไอเดียขอทำมินิรีวิวแบบบ้านๆ เน้นเรื่องอาหารการกินที่ฮานอยเป็นการแลกเปลี่ยนแล้วกันค่ะ (ตอนแรกลังเลอยู่ว่าจะไปตั้งที่กระทู้ไหนดี เห็นว่ามีกลิ่นควันของการท่องเที่ยวรวมอยู่ด้วย และจขกท.เข้าห้องนี้บ่อย เลยเอามาตั้งที่ห้องนี้ค่ะ และ จขกท.พึ่งเคยรีวิวครั้งแลก มีข้อผิดพลาดอะไรอภัยด้วยนะจ๊ะ ^^)

1. Pho หรือ เฝอ

ก๋วยเตี๋ยวหรือเฝอเป็นอาหารขึ้นชื่อของเวียดนาม ใครมาเวียดนามแล้วไม่ได้ลองเฝอถือว่ามาไม่ถึง ร้านที่เรามาลองเป็นร้านข้างทาง ชื่อร้าน Pho Kao Phu My จำที่อยู่ร้านไม่ได้ แต่รู้ว่าร้านตั้งอยู่ตรงข้ามร้าน Ham Mat เลขที่ 40 Dan Hoan Kiem ร้านนี้มีชาวเวียดนามมานั่งทานกันเยอะมาก ไม่มีชาวต่างชาติเลย เฝอที่นี่มีอยู่ 2 แบบใหญ่ๆ คือเฝอผัด (50,000 ด่อง) และเฝอน้ำ (45,000 ด่อง) จริงๆเราตั้งใจทานร้านข้างๆซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเฝอน้ำ แต่ในวันที่เราไป มันหมดตั้งแต่เที่ยง ทำให้ต้องมากินร้านนี้ ซึ่งขึ้นชื่อเฝอผัดค่ะ คนก็กินกันแน่น เต็มทุกเก้าอี้ (ยิ่งกว่าเต็มทุกโต๊ะ) จากการสังเกตพบว่า ชาวเวียดนามสั่งเฝอพัดกันเกือบ90% อาหารทุกที่ต้องเสิร์ฟพร้อมน้ำซุปที่มีมะละกอฝานชิ้นบางๆใส่มาให้ด้วย พร้อมผัก 1 ตะกร้า (ก็คนเวียดนามชอบทานผักมาก) อ้อ เค้ามีเครื่องปรุงรสมาให้ด้วย ประกอบด้วยมะนาว (ไม่ใช่มะนาวเหมือนบ้านเรา เป็นส้มซ่า ที่เอาไว้ใส่ในหมี่กรอบบ้านเรา)

สำหรับรสชาติแล้ว เฝอผัด เหมือนกับราดหน้า แต่เส้นที่ใช้มีลักษณะคล้ายเส้นเล็กบ้านเรานี่เอง น้ำขลุกขลิก อร่อยพอตัว เลี่ยนนิดหน่อย ส่วนเฝอน้ำ บอกได้คำเดียวว่าอร่อย รสชาติกลมกล่อมดี ซดน้ำแก้เลี่ยนจากการทานเฝอผัดได้อีกด้วย อ้อ...ลืมบอกนะจ๊ะ คนเวียดนามเค้าชอบทานเนื้อมาก เพราะฉะนั้นเมนูนี้เป็นเนื้อวัว หรือใครไม่ทานเนื้อวัวก็บอกเค้าได้ แล้วคุณจะได้เครื่องในหมูมาแทน ส่วนเครื่องดื่มที่เวียดนามเค้าขึ้นชื่อเรื่องชา ชาดอกบัวรสชาติไม่เลวเลยทีเดียว มื้อนี้สนนราคาอยู่ที่ 260,000 ด่อง/5คน เฉลี่ยแล้วก็ตกคนละ 75 บาท

2. Vietnamese Hot Pot หรือ โหลว

อาหารชนิดนี้เรียกว่า โหลว หรือชาวไทยเราเรียกว่าชาบู เพื่อนชาวเวียดนามถามเราก่อนพาไปค่ะว่า เรากินอะไรบ้าง กินกบ กินเป็ด หรืออะไรแปลกๆบ้างไหม ซึ่งเราก็ได้แต่ส่ายหน้า ขอแบบธรรมดาหมู เนื้อวัว และซีฟู๊ดก็พอ (เพื่อนบอกว่าร้านโหลวแต่ละร้านจะมีเมนูเด็ดที่ต่างกัน ล้วนแต่เป็นอาหารแปลกๆขึ้นชื่อ ไม่ว่าจะเป็น หมา แมว งู พวกเราขอบายดีกว่าค่ะ)

ร้านที่เรามาลองโหลว ชื่อร้าน Lau Vu Phuong ตั้งอยู่ที่ 167 Phung Hung เป็นร้านข้างทางนะคะ แต่คนแน่นมากๆ

มื้อนี้มีอาหารเรียกน้ำย่อยด้วย French Fries (ถ้าเป็นอาหารมื้อใหญ่และทานกันหลายๆคน คนที่นี่เค้าชอบสั่ง French Fries มาทาน คาดว่าน่าจะเป็นอิทธิพลจากฝรั่งเศส ขอบอกว่าอร่อยทุกร้าน แล้วคนที่นี่เค้าสามารถทำทานเองได้ในครอบครัว ไม่ต้องพึ่ง French Fries ถุงสำเร็จรูปแบบที่วางขายในบ้านเรา)

มาต่อกันที่เรื่องของโหลว ส่วนประกอบของโหลว มีดังนี้
-หม้อไฟฟ้ามาตั้งตรงกลาง คล้ายๆหม้อสุกี้ ในนั้นมีน้ำซุปกระดูกหมูเติมมาให้เรียบร้อยแล้ว
-จานเนื้อสัตว์ที่ประกอบด้วยหมู เนื้อวัว และซีฟู๊ดจานใหญ่ๆ
-ตระกร้าผักใหญ่ๆ มีสารพัดผักเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลี ผักบุ้ง กวางตุ้ง ผักกระเฉด ฯลฯ
-เห็ดจานเล็กพูนจาน
-เผือกตระกร้าน้อยๆ เผือกของเค้าก็หวานมากๆ แล้วมันช่วยให้ซุปรสชาติหวานด้วย (เคยเห็นสุกี้บ้านเราใส่ข้าวโพดให้น้ำซุปหวาน ที่โน่นเค้าก็มีเผือกเพิ่มรสชาติให้น้ำซุปเหมือนกัน)
-เส้น ประกอบไปด้วยเส้นคล้ายๆเส้นจันบ้านเรา กับมาม่า สำหรับรสชาติเส้นที่หน้าตาแสนธรรมดา แต่พอมันดูดน้ำซุปไปแล้ว โอ้วแซ่บค่ะ
ส่วนน้ำจิ้ม เป็นเกลือหรือผงชูรสแบบเวียดนาม +ส้มจี๊ด+พริกทุบ และมีน้ำพริกเผาเวียดนามใส่เติมในน้ำซุปด้วย

ทีเด็ดของร้านนี้ที่ประทับใจคือ จขกท.สั่งกุ้งไป แม่ค้าจะกำกุ้งสดตัวยาว10-12 ซม. ประมาณ 4-5 ตัว ใส่ลงหม้อที่น้ำเดือดแล้วปิดฝาอย่างรวดเร็ว เราจะได้ยินเสียงกุกกักๆสักพักแล้วเงียบไป เมื่อเปิดฝาหม้อพบร่างสีส้มอวบๆแช่ออนเซ็นรอเราอยู่ เนื้อหวานและแน่นมากต้องสั่งเพิ่มกันเลย กุ้งตกตัวละ20-25บาท เป็นกุ้งแม่น้ำ ไม่ต้องถามเรื่องความสดนะคะ เหอะๆ

สรุปได้ง่ายๆว่า มื้อนี้อร่อยมากๆ กินอะไรอร่อยหมด ทั้งหมู เนื้อวัว ซีฟู๊ดและผัก อ้อลืมบอกไปว่า ที่นี้แปลกคือน้ำซุปอร่อยแต่เค้าก็ไม่ซดน้ำซุปกันนะคะ กินกันแห้งๆ น้ำขลุกขลิก จิ้มกับน้ำจิ้มแห้งๆ รสชาติเปรี้ยวเค็มเผ็ดตามสะดวกเรา มื้อนี้กินกัน6คน กระหน่ำกินมาก สนนราคารวมน้ำอัดลมกระป๋องแล้วถ้าจำไม่ผิดประมาณ 700,000 ด่อง ประมาณ 600-700บาทค่ะ

3. บั๋นก๋วน ( Bahn Cuon) หรือขนมปากหม้อตามภาษาบ้านเรา เป็นอาหารที่กินเฉพาะตอนเช้า

บั๋นก๋วนเป็นขนมปากหม้อที่อันใหญ่กว่าบ้านเรามาก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ30ซม. ตัวแป้งคล้ายๆบ้านเรา ส่วนไส้จะมีเห็ดหูหนูสด หมูสับ และต้นหอม นำไปผัดและใส่เครื่องปรุงรสต่างๆ กรรมวิธีในการห่อก็เหมือนกับการทำปากหม้อบ้านเรา พอทำเสร็จจะได้ตัวใหญ่ๆ แล้วเค้าค่อยตัดให้พอดีคำ 1ตัวใหญ่ได้ประมาณ4คำเล็ก (ไม่แน่ใจ) 1จานมี3ชิ้นใหญ่ โรยด้วยหอมเจียว

ทุกคนจะมีถ้วยซุปส่วนตัว ที่มีหมูยอ ปรุงรสด้วยพริก มะนาว
วิธีกินคือเอาบั๋นก๋วน ใส่ลงไปในถ้วยซุป แล้วก็ค่อยกิน เมื่อจิ้มกับน้ำซุปแล้วรู้สึกว่ารสชาติมันกลมกล่อมเข้ากันดี แต่อร่อยไปอีกแบบ และอร่อยมากๆ ต้องกลับมากินซ้ำกันเลย อ้อลืมบอกราคา ราคาอยู่ที่ 15,000ด่อง ต่อ 1ชุด หรือประมาณ 22 บาท เป็นอีกร้านที่ต้องลองนะคะ

4. แบ่งสาน แบ่งโก๋ย

หลังจากพ้นทัวร์ Halong bay เราก็กลับเมืองHanoi (อาหารของทัวร์ฮาลองเบย์ไม่อร่อยเลยค่ะ เลยไม่นำมารีวิวนะ) เพื่อนเราพาเราไปเปิบอาหารแบบเวียดนามแท้อีกแล้ว

อาหารชนิดนี้เรียกว่าแบ่งสาน แบ่งโก๋ย (โก๋ยจะออกเสียงเหมือนโก๋ย+โสย แปลว่าทอด) ไส้ของอาหารทั้งสองชนิดเหมือนกัน  แต่ต่างกันที่ตัวแป้งข้างนอก

- แบ่งสาน เป็นชิ้นกลมๆแป้งข้างนอกเหนียวๆ คล้ายกับไข่หงษ์บ้านเรา กินแล้วเมื่อยปาก
- ส่วนแบ่งโก๋ย เป็นรูปครึ่งวงกลม แป้งข้างนอกกรอบจับจีบเหมือนกะหรี่ปั๊บ

วิธีกินคือคีบใส่น้ำซุปรสชาติคล้ายๆอาจาดจืดๆ ที่มีมะละกอลอยอยู่ สามารถเติมผักที่ให้มาในตะกร้าได้ เวียดนามมีผักแปลกไม่เหมือนบ้านเรากินกับน้ำซุปบ้านเค้าแล้วรสชาติดีทีเดียวเลยค่ะ

ร้านนี้อยู่ใกล้ๆโบสถ์ St. Joseph Cathedral ถ้าหันหลังให้โบสถ์จะเดินไปตามถนนซ้ายมือ เดินนิดเดียวก็เจอร้านค่ะ เหมือนมีร้านใกล้ๆกัน แต่ร้านนี้คนจะเยอะกว่า เดินไปก็จะเห็นเลยเพราะเค้าทอดแบ่งโก๋ย แบ่งสาน วางไว้หน้าร้านเพียบเลยค่ะ พอไปถึงจะมีคนพาไปที่โต๊ะนั่งกินค่ะ (เดินไปตามซอกตึกเล็กๆ) สำหรับรสชาติแล้ว โดยส่วนตัวคิดว่าแบ่งโก๋ยอร่อยกว่าแบ่งสาน อร่อยแบบ Vietnam only อีกแล้วค่ะ

โอ๊ะโอ๋...จขกท.ลืมแนะนำลูกชิ้นปลาหมึกทอดค่ะ ส่วนตัวคิดว่ารสชาติเหมือนลูกชิ้นธรรมดา เหนียวหนึบหนับนิดหน่อย ทานกับน้ำจิ้มสีส้มๆข้างบนเข้ากันดีค่ะ ไม่รู้จะบอกยังไงรู้สึกว่าเพื่อนเวียดนามพาไปกินที่ไหนก็อร่อยหมดค่ะ อ้อ ราคาอยู่ที่ 220,000 ด่องหรือ 320 บาท/5คน

5. ขนมปังฝรั่งเศส

อันนี้ จขกท. จำชื่อไม่ได้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร ลักษณะเป็นขนมปังฝรั่งเศสยัดด้วยไส้ต่างๆ จขกท.เลยหมุบหมิบเรียกขนมปังฝรั่งเศสแล้วกันนะ พวกเราสั่ง 2 ไส้ อย่างแรกเป็นไส้รวม ใส่ไข่ +หมูตั้ง+หมูยอ+ผัก อีกอย่างเป็นไส้ออมเล็ท หนนี้กินร้านธรรมดาๆ คล้ายๆsubway ร้านนี้ตั้งอยู่ฝั่งเดียวกับร้านแบ่งสาน แบ่งโก๋ย เดินตรงมาอีกนิดหน่อย อยู่ตรงข้ามกับ Green Hanoi Backpackers Hostel สำหรับรสชาติแล้ว พวกเราคิดว่ามันค่อนข้างแข็งสำหรับเรา แต่มันก็ไม่ได้แย่นะ

6. ร้านอาหารในถนนอาหาร Pho am thuc
อาหารเที่ยงของพวกเราไปกินตอนบ่ายแก่ๆ ที่ถนนอาหาร Pho am thuc เพราะร้านตามทั่วไปปิดมื้อเที่ยงหมดแล้ว เพราะเป็นช่วงระหว่างมื้อ (ส่วนมากร้านอาหารเที่ยงจะเปิด 11.30-13.30 ตามเวลาพักค่ะ) แต่ที่ถนนอาหารจะเปิดตลอดวัน โดยร้านแถวนี้เป็นร้านอาหารตามสั่ง (เรื่องเมนูไม่ต้องกลัว มี 2 ภาษาทั้งเวียดนามและอังกฤษค่ะ)

- French Fries เพื่อนยากมาอีกแล้ว และอร่อยอีกแล้ว
-ผัดหมี่ >>คล้ายๆผัดหมี่บ้านเรา แต่ใช้เส้นวุ้นเส้น>>>รสชาติคล้ายของไทย แต่กลิ่นแปลกๆ
-ผัดกวางตุ้ง>>ธรรมดา ปกติสามัญ
-ซุปหอย >>คล้ายๆน้ำซุปใส่มะเขือเทศ ใส่ต้นหอม แล้วก็มีหอยตลับนิดหน่อยที่ก้นถ้วย รสชาติคล้ายๆต้มมักกะโรนี >>>ก็อร่อยดีค่ะ เอาไว้ซดน้ำ
-ไก๋ดำตุ๋นยาจีน>>>อร่อยไปอีกแบบ แบบหอมเครื่องเทศจีน
-ซุปปู >>>คล้ายๆกระเพาะปลาบ้านเราค่ะ เค้าใส่เนื้อปูและใส่แป้งมัน อร่อยดี ที่นี่มีเทคนิคที่ทำให้ร้อนนาน ไม่รู้ทำได้ไง (เล่นเอาปากจขกท.และเพื่อนพองกันเลยทีเดียว T^T)
-สำหรับน้ำอัดลมกระป๋องที่นี้ถูกค่ะ ตามปกติเห็นอยู่ประมาณ15,000 แต่ร้านนี้แค่ 12,000ด่อง

มื้อนี้กินไปเยอะมาก สนนราคาอยู่ที่ 365,000 ด่อง/5คน หรือประมาณคนละ 105 บาท

7. Cha Ca La Vong
ไปอ่านเจอมาไม่แน่ใจว่าห้องบลูหรือเปล่า??? เค้าแนะนำ Cha Ca หรือชาก๋า และมีคนบอกว่าร้าน LaVong เป็น1,000 places to see before you die ไปถึงฮานอยแล้ว จะไม่ไปยังไงได้ล่ะ

เพื่อนชาวเวียดนามบอกว่า อาหารชนิดนี้เป็นอาหารที่มีเฉพาะที่ฮานอย ถ้าคนเวียดนามจากที่อื่นมาฮานอย ต้องมากินเมนูนี้ ที่นี่มีร้านขึ้นชื่ออยู่แค่ 2 ร้านเท่านั้น สำหรับร้าน La Vong เป็นร้านที่ดูหรูหรามาก เมื่อเทียบกับร้านที่เราเคยเข้าๆมา จากการสังเกต อาหารที่มีวางทุกโต๊ะก็คือเจ้า Cha Ca นี้แหละ คนที่มากินก็มีทั้งเวียดนาม เอเชีย และฝรั่ง

มาเริ่มทาน Cha Ca กันค่ะ เริ่มต้นด้วยจะมีกระทะมาตั้งกลางโต๊ะ มีปลาชิ้นๆทอด ผัดกับขมิ้นต้นหอม มีกลิ่นผงกระหรี่แรงๆ (คล้ายๆปลาชิ้นผัดผงกระหรี่ แต่น้ำมันท่วมๆ)
วิธีกิน Cha Ca
-คีบปลาทอดมาใส่ ถ้วยตัวเอง
-ใส่ขนมจีน
-ใส่ถั่วลิสง
-ใส่ต้นหอมที่ผ่านการแช่น้ำส้มสายชู
-ผักต่างๆ พวกสะระแหน่
-ใส่น้ำอาจาด (จริงๆเค้ามีน้ำจิ้มอีกตัว หน้าตาคล้ายๆน้ำพริกกะปิ จริงๆมันก็คือกะปิบ้านเราแหละเพราะทำมาจากกุ้ง แต่กลิ่นมันเหมือนปลาร้า พอดีพวกเรากินไม่ได้ เลยขอน้ำจิ้มอาจาดมาแทน)

สำหรับพวกเรา Cha Ca เป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อร่อยแต่เลี่ยนเร็ว เป็นอาหารน่าลองสักครั้งในชีวิตจริงๆแหละ แต่ถามว่าให้กินอีกเอาไหม คงต้องตอบว่าชอบกินเฝอ ของพื้นๆมากกว่า

ขอชมหน่อยแล้วกัน ร้านนี้บริการดีเยี่ยม ประทับใจมาก อย่างพวกเราติดกินน้ำอัดลมเย็นๆ พอขอ ด๋า หรือว่าน้ำแข็ง เป็นร้านเดียวที่ยกกระติกมาแบบไม่กั๊ก เพราะว่าชาวเวียดนามกินน้ำไม่เย็นเท่าบ้านเรา เค้ามักลอยน้ำแข็งมาให้แก้วละครึ่งแก้ว แล้วมันไม่จุใจ แล้วอย่างวิธีการกิน พวกเรากำลังงงๆ ว่าจะกินไง เค้าก็มาช่วยสาธิตให้เราดูเลย คงเจอลูกค้าต่างชาติเยอะ อ้อ..มื้อนี้ราคา 685,000 ด่อง หรือประมาณ 993 บาท/6คน

หลังจากรับประทานอาหารคาวแล้ว พวกเราก็ต้องล้างปากด้วยอาหารหวาน มาดูกันค่ะว่าพวกเรามีอะไรมานำเสนอกันบ้าง

8. คาราเมล หรือเต้าฮวยคัสตาร์ด

อาหารว่างยามบ่ายแก่ๆ เพื่อนชาวเวียดนามพาไปร้านขายคัสตาร์ด  แต่เค้าเรียกว่าคาราเมล วิธีกินของเค้าเป็นแบบ mix&match ที่ไม่คุ้นลิ้นคนไทยเลย คนไทยไม่อร่อยนั่นเอง อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งมาจากคนไทยไม่ชินกับการกับคัสตาร์ด หรือชอบกินเปล่าๆกับนม ไม่ได้เอาไปกินคู่กับอย่างอื่น

มื้อนี้สั่งหลายอย่างค่ะ
-คัสตาร์ด+นม+วุ้น+ผลไม้ (วุ้นคล้ายๆที่ใส่ในชานมไข่มุก แต่เหนียวน้อยกว่า และอันใหญ่ หนุบหนับปาก)
-คัสตาร์ด+นม+ข้าวแช่ (มันเหมือนเหล้า พวกเรากินไม่เป็นค่ะ)
-ทุเรียน+น้ำกะทิโชกๆ (น้ำเยอะเหมือนกล้วยบวชชี)
-มะม่วง+น้ำกะทิโชกๆ (น้ำเยอะเหมือนกล้วยบวชชีอีกแล้วค่ะ)

ตัวคัสตาร์ดเปล่าๆ น่าจะอร่อย เนื้อคัสตาร์ดคล้ายๆคัสตาร์ดถ้วยสำเร็จรูปที่ขายในโลตัสบ้านเรา แต่เหนียวและหอมมากกว่ามาก ตรงก้นแก้วมีกลิ่นหอมไหม้ๆเหมือนมีกาแฟแทรกอยู่ด้วย

เพื่อนชาวเวียดนามบอกว่าเป็นขนมที่ชาวเวียดนามนิยมมากๆในตอนนี้ โดยเฉพาะร้านนี้ ถ้าเป็นตอนกลางคืนจะไม่มีที่นั่งที่ยืนกันเลย ถ้าอยากรู้ว่าชาวเวียดนามนิยมอะไร ชอบกินอะไร ก็เชิญค่ะ แต่สำหรับเราร้านนี้ขอผ่านค่ะ

9. ไอติมพื้นบ้านเวียดนาม

ถ้าเราเดินไปตามถนนหนทาง ขนมที่ยอดนิยมของคนที่นี้คือไอศรีมแน่นอน
รูปแรกมาจากร้านดังที่เราชาวห้องบลูแนะนำมา และเพื่อนก็ยิ่งบอกค่ะ ว่าไอศรีมชนิดนี้ต้องร้านนี้ Kem dac Biet Trang Tien ไปตอนกลางวันนะคะ ถ้าตอนกลางคืนจะเจอเวียดนามมุง ไอศกรีมรสนมหอมมากและไม่หวานจัด ส่วนตัวโคนเหมือนทองม้วนหอมกรอบ อร๊อยอร่อย

ส่วนไอศกรีมด้านขวาเป็นร้านที่อยู่ริมทะเลสาป west lake จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ แต่หาไม่ยาก มีไอศกรีมทั้งแบบด้านซ้าย ส่วนแบบด้านขวามีหลายรส เราลองช๊อกโกแลตกะถั่วเขียว ช๊อกโกแลต อร่อยใช้ได้ค่ะ ข้างในเป็นรสนมด้านนอกเป็นช๊อกโกแลตเอาไว้ตัดเลี่ยน ส่วนถั่วเขียวเหมือนน้ำต้มถั่วเขียวใส่กะทิหรือนมจางๆแล้วแช่แข็ง ส่วนราคาก็ไม่แพงค่ะ 5,000 ด่อง หรือประมาณ 7 บาทเท่านั้นเอง

10. ยาคูลท์และโยเกิร์ต

ขนมช่วยย่อยค่ะ
ยาคูลท์บ้านเค้า จะคล้ายบีทาเก้นท์บ้านเรามากกว่า จำราคาไม่ได้ด้วยสิ ส่วนโยเกิร์ต เป็นขนมที่เค้ามีตามตู้แช่ในร้านขายของชำเกือบทุกที่ และโยเกิร์ตบ้านเค้าอร่อยกว่าบ้านเรานะ เนื้อเหนียวและมีลักษณะเป็นก้อนมากกว่าบ้านเรา คล้ายๆของโชคชัยแต่นิ่มกว่า และมีส่วนของผลไม้ละเอียดไปกับโยเกิร์ตเลย ไม่มีเป็นชิ้นๆแบบบ้านเรา ตกอันละ6000ด่อง หรือประมาณ 9 บาทค่ะ

11. น้ำปั่น

ร้านน้ำปั่นตรงโบสถ์เซนส์โจเซฟ เมื่อหันหน้าเข้าโบสถ์ร้านนี้จะอยู่ซ้ายมื้อ คนนั่งกินกันเยอะๆ เป็นร้านที่คนชอบมานั่งโสเหร่กัน มีตั้งแต่นักเรียนยันคนทำงานเลยค่ะ

น้ำปั่นที่นี้แก้วเล็กๆ เค้าปั่นละเอียดรสชาติหวานไม่เท่าบ้านเรา มิน่าสาวเวียดนามตัวเล็กๆกัน ปั่นละเอียดมาก แล้วก็ให้เนื้อผลไม้เยอะด้วย ที่เราสั่งก็มี
-อโวกาโด้+ลูกอะไรสักอย่างที่เมืองไทยไม่มี (หน้าตาเหมือนขนุนลูกเล็กๆ แต่ข้างในเหมือนลูกน้อยหน่า) รสชาตินวลๆ มันๆ
-สตรอเบอรรี่ปั่น ใช้สตรอเบอรี่จริง แต่อร่อยสู้บ้านเราไม่ได้
-โยเกิร์ตโกโก้ เป็นโยเกิร์ตใส่น้ำแข็ง โรยโกโก้เป็นชั้นๆ อร่อยไปอีกแบบ

คห4 "หันหลังให้โบสถ์จะเดินไปตามถนนซ้ายมือ " หมายถึงด้านไหนของโบสถ์ครับ งง

12.  Fanny Ice Cream

หลังจากชิมไอศกรีมแบบ Local มาสองร้าน พวกเราก็เลยลองเปลี่ยนมาชิมไอศกรีมไฮโซกันบ้าง

ร้านนี้เป็นไอศกรีมไสตล์อิตาลี แต่เค้าเอาทั้งรสแบบตะวันตกและรสแบบ Tradition มาไว้ด้วยกัน ราคานี้ถ้าเมืองไทยก็ถือว่าไม่แพงค่ะ แต่สำหรับที่โน้น 1โคนเหมือนกัน เหมือนกับซื้อไอติม local ได้ตั้ง 5-6 อัน

มากันที่รสชาติไอศกรีม ขอบอกว่าอร่อยมากๆ ได้ชิมทั้งหมด 3รส ทุกรสไอศกรีมเนื้อเนียนนุ่ม ตัวโคนและเครื่องตกแต่งกรอบแบบของคุณภาพดี
-รสช๊อกโกแลต รสถึงมาก เข้มๆ อร่อยยยยย
-รสสตอเบอรี่ กินแล้วเนื้อสตรอเบอรี่ล้วนๆ ชัดๆ
-รสYoung rice เป็นรสนุ่มๆ หอมๆ อร่อยมาก อันนี้ recommend เลย เพราะคิดว่ารสนี้หากินที่อื่นไม่ได้ เพื่อนติดอกติดใจรสนี้กันใหญ่เลย
ส่วนเรื่องราคา 1 โคนตก 28,000 ด่อง คิดเป็นเงินไทยก็ 40 บาทค่ะ

คุณ CANDIDI คะ
หมายถึง หันหลังให้ด้านหน้าโบสถ์เลยค่ะ แล้วเดินไปทางซ้ายมือ

โห่ฮิโห่ หิวววววว

กลับมานี่น้ำหนักเพิ่มกี่กิโลครับเนี่ย

กดเข้าคลังความรู้ไว้ก่อน อิอิ

แอบอิจฉา ได้กินของอร่อยแบบคนท้องถิ่นเค้ากินกัน

มีเพื่อนเชื้อสายเวียดนาม แต่ดันเกิดในไทย

คุณ puneverdie
ไปกัน 4 คน น้ำหนักขึ้นกันทั้ง 4 คนเลย สังเกตว่าสาวๆเวียดนามกินกันเยอะมาก แต่ไม่อ้วนซักที สาวไทยอย่างเราๆอิจฉามากเลยค่ะ ^^

รีวิวอาหารที่ฮานอยหมดแล้วนะคะ เดี๋ยวมารีวิวอาหารที่ซาปาต่อค่ะ

โอ้ววว น่าทานทั้งนั้นเลยค่า
แต่ได้ยินมาว่า ที่เวียดนามอาหารใส่ผงชูรสเยอะทั้งนั้นเลย จริงรึป่าวคะ
เรายิ่งเป็นพวกแพ้ผงชูรสอยู่ เลยไม่กล้าไปเลย เหอๆๆๆ ^^

ต่อกระทู้นี้ค่ะ อาหารหวาน-คาว ที่ซาปา http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11156425/E11156425.html

คุณตาฟาง...
ตอนที่เพื่อนเวียดนามเค้าอยู่เมืองไทย เพื่อนเค้าทำอาหารเวียดนามให้ทาน จขกท.สังเกตว่าเค้าใส่ผงคล้ายๆผงคนอร์บ้านเรา พวกเราก็เลยเรียกคนอร์เวียดนาม จากการสอบถามคนที่นี่เค้าจะใส่ผงคนอร์เวียดนามเป็นตัวชูรส (ดูจากลักษณะผงแล้วไม่เหมือนผงชูรสบ้านเราเลย) แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะว่ามันมีส่วนผสมของผงชูรสมากน้อยแค่ไหน
แต่ตอนเราทานอาหารที่นี่ ก็ไม่ได้รู้สึกหิวน้ำมากเลยนะคะ แอบเชียร์ให้ไปค่ะ วิวสวยจริงๆ ^^

ขนมปังฝรั่งเศส รู้สึกจะเรียกว่า banh mi นะคะ

เพิ่งกลับมาวันที่ 2 ไม่ได้ไปตามร้านพวกนี้เลยค่ะ

คุณ Pat :o)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ ^^

ดูรีวิวนี้แล้วอยากไปกินที่ฮานอยแล้ว แต่กลัวเจอน้องหมา แมวจัง

เซฟไว้เรียบร้อยค่ะ

เข้ามาชมค่ะ
^________^

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^

เราเคยไปกินน้ำปั่นที่โบสคริสต์. กินเต้าฮวยฟรุ้ตสลัด. กินไอติมร้านดังๆ.  
3ร้านที่กล่าวมา น่าจะเป็นที่เดียวกันด้วยอ่ะ. เพื่อนเราที่เป้นคนเวียดนามแนะนำ. เค้าบอกว่า. ดังมากๆ