สวัสดีครับ มาพบกันอีกครั้งหนึ่งกับบูติกรีสอร์ทแห่งที่ 3 จากจำนวนทั้งหมด 6 แห่งที่ผมได้เข้าพักในโครงการ Thailand Boutique Awards 2011 ครับ
(แบ่งเป็นเชียงใหม่ 3 แห่งคือ Viva City, Tamarind Village, Aruntara
และ ปาย-ปางมะผ้า อีก 3 แห่งคือ Rim Pai Cottage, The Rock Resort, Pai Hot Spring Spa Resort ครับ) ผมจึงอาจจะต้องเร่งมือหน่อย ดังนั้นเนื้อหาอาจจะต้องเน้นแบบเนื้อๆ เพราะไม่งั้นเสียงสูงว่าอาจจะทำไม่เสร็จครับ

กระทู้นี้กับที่นี่ บูติกรีสอร์ทหรูริมแม่น้ำปิงที่มีอายุเพียงแค่ 3 ปีอย่าง อรุณธารา เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งใน Luxuary Hotel 1 ใน 4 แห่งของโครงการ TBA 2011 ในเชียงใหม่ (อีกสามแห่งที่เหลือคือ Siripunna, Veranda และ Ping Nakara ครับเรียงตามฉลากที่มีคนเลือกครับ)

ในปีที่แล้ว ทางอรุณธาราก็ได้เข้าประกวดในโครงการ Thailand Boutique Awards 2010 ด้วยเช่นกัน ซึ่งในปีที่แล้ว พี่หมูอ้วนจอมพลัง เจ้าแม่โบรชัวร์ที่ไม่ใช่แค่โพสต์โบร์ชัวร์เป็นอย่างเดียว เธอได้เป็นคนมาทำรีวิวที่นี่ครับ และในปีนี้เธอก็ได้ไปทำรีวิวที่ ไร่แสงอรุณ เชียงรายด้วยเช่นกัน โดยในปีนี้ทางอรุณธาราได้เข้าประกวดในประเภทที่พักแบบ Riverside ครับ

ทีนี้ต้องบอกก่อนว่า ที่นี่มีความพิเศษที่น่าหลงใหลจนใครหลายคนอาจจะหลงรัก อย่างตัวผมเองเคยได้ยินและรู้จักที่นี่มาตั้งแต่ปี 2552 เพราะที่ทำงานเก่าผมอยู่ไม่ไกลจากย่านนี้ ขับรถผ่านอยู่บ่อยๆ รวมไปถึงยุค Expedia.co.uk โปร V40 ปอนด์ ก็หวุดหวิดจะได้มาใช้กับทีนี่อยู่หลายครั้ง แต่ผมก็ตัดสินใจไปเลือกพักที่อื่นแทน ก็จนกระทั่งมีโครงการ TBA2011 นี่หล่ะครับ เลยได้เข้ามาสัมผัสกับที่นี่ และก็พร้อมที่จะ recommend ให้กับท่านอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

ก็เพราะด้วยเรื่องสถานที่ตั้งที่นับว่าอยู่บนถนนเจริญประเทศ ช่วงระหว่างสะพานเม็งรายก่อนถึงโรงเรียนมงฟอร์ตประถม ในเขตตัวเมือง เดินทางได้สะดวกแม้ว่าอาจจะอยู่ห่างจากไนท์บาซาร์มาอยู่บ้างแต่ถ้ามีรถเช่าขับเอง หรือจะเรียกรถสองแถวก็ยังไม่ถือว่าลำบากมากนัก

และด้วยความเป็นที่พักแบรนด์ท้องถิ่น แต่ได้รับการออกแบบและมีระบบการจัดการที่เทียบเท่ากับมาตรฐานโรงแรมเชนดัง จึงทำให้ แขกที่มาพักที่นี่ จะรู้สึกถึงความสะดวกสบายแทบจะทุกด้าน ความสะอาดอันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และการบริการที่มีมาตรฐาน ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าโรงแรมเชนดังเลย แม้ว่าชื่ออาจจะยังไม่คุ้นหูเท่าไหร่กับโรงแรม อรุณธารา เชียงใหม่ ครับ

หมายเหตุ : ภาพนี้ถ่ายก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมแค่ 5 วันเท่านั้นครับ โดยทางอรุณธารา ได้เตรียมกระสอบทรายกั้นไว้เป็นอย่างดี น้ำจึงไม่ได้เข้าท่วมตัวอาคาร แต่บริเวณถนนเจริญประเทศ จุดที่ผมยืนถ่ายภาพ รถไม่สามารถสัญจรได้เพราะระดับน้ำสูงมากครับ

โรงแรมได้เริ่มก่อสร้างขึ้นในช่วงปี 2550 และได้เปิดบริการในปี 2551 ภายใต้ชื่อเดิมว่า “ศรีธารา” (SriThara) หลังจากนั้นไม่นานจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “อรุณธารา” ซึ่งก็นับว่าที่นี่ก็เป็นรีสอร์ทอายุ 3 ปีที่ก็ยังคงสดใหม่อยู่ตลอดเวลา เพราะทางเจ้าของได้มีนโยบายที่จะ renovate ห้องพักในทุกๆ ปี ปิดห้องคราวละ 2 ห้องเพื่อทำการปรับปรุงห้องพักให้สดใหม่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น แขกที่มาพักเมื่อ 2 ปีที่แล้วกลับมาพักอีก ก็จะพบว่าในห้องพักดูสดใหม่ ประทับใจเช่นเคย

ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติจากทางยุโรปเป็นหลัก ที่นี่ก็จะได้รับลูกค้าที่มาดูรีวิวผ่านเว็บไซต์ TripAdvisor เป็นจำนวนมาก ส่วนลูกค้าคนไทยก็มีอยู่บ้างแต่ปริมาณยังไม่เยอะนัก อาจจะชื่อยังไม่ค่อยคุ้นหูในกลุ่มคนไทย และที่สำคัญลูกค้าแบบ Return Guest เคยมาพักแล้ว และกลับมาพักอีก พร้อมกับบอกต่อให้คนอื่นๆ เข้ามาพักด้วยก็มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

เว็บไซต์โรงแรมในปัจจุบันคือ : http://www.aruntarahotel.com

ทีนี่มีห้องพักทั้งหมด 28 ห้องครับ ก็จะแบ่งเป็นห้องธรรมดาทั้งหมด 22 ห้อง เป็นอาคาร 3 ชั้น ห้องธรรมดาชั้นล่างมี 4 ห้องเหมาะมากสำหรับแขกผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่สะดวกในการขึ้นลงชั้นบน เพราะเรียกได้ว่า เดินออกจากล๊อบบี้ก็ถึงห้องพัก และจากห้องพักเดินไปนิดเดียวก็ถึงห้องอาหาร ซึ่งมีสระว่ายน้ำหลบมุมอยู่ด้านหลัง เดินไปอีกหน่อยก็ถึงริมแม่น้ำปิง และห้องทานชากาแฟยามบ่ายแล้วครับ ส่วนห้องธรรมดาห้องอื่นๆ จะกระจายอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ชั้นละ 9 ห้องพัก และก็จะมีห้องสูทอีกทั้งหมด 6 ห้อง

ซึ่งการจัดวางผังอาคาร เนื่องจากที่ดินเป็นลักษณะเส้นก๋วยเตี๋ยวลึกเข้าไปจากถนนเจริญประเทศ จนถึงริมแม่น้ำปิงยาวแต่หน้าแคบ ดังนั้น การจัดวางอาคารจะทำให้มีลักษณะโถงเล็กๆ อยู่กลางอาคาร ห้องพักแต่ละห้องก็จะหันหน้าชนกันแบบห่างๆ ย้ายทางเดินเข้าห้องไปอยู่ด้านข้างอาคารแทน แม้ว่าจะมองไม่เห็นวิวแม่น้ำปิง แต่ไม่ดูอึดอัดจนเกินไปนัก ซึ่งก็นับว่าดีกว่าการจัดให้ทางเดินอยู่ตรงกลางแล้วห้องพักหันออกด้านนอก ซึ่งเราจะไม่สามารถควบคุมบรรยากาศนอกโรงแรมได้เลย

ดังนั้น การเข้ามาในอรุณธารา เมื่อผ่านล๊อบบี้ออกมาแล้ว ก็จะพบว่าเหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่งซึ่งมีความเงียบสงบ ปราศจากเสียงรถยนต์ด้านนอก ด้วยสไตล์การตกแต่งสไตล์โคโลเนียลไปทางตะวันตก ก็รู้สึกได้ว่า บรรยากาศก็ดูอบอุ่นไปอีกแบบ ดูไม่อึดอัดมากเท่าไหร่ครับ สำหรับลิฟท์มีอยู่หนึงตัวหลบมุมอยู่ด้านหลังบันได

(ภาพนี้ยืนอยู่ตรงโถงกลางอาคาร มองย้อนกลับไป จะเห็นประตูทางเข้าหลักคือประตูไม้บานใหญ่ที่ออกจากส่วนล๊อบบี้มา เหมือนเป็นประตูกั้นดินแดนความสงบสุขแห่งอรุณธาราเลยก็ว่าได้ครับ)

ชมอีกรีวิวสวยๆ...ดีๆ............ขอบคุณครับ

มาตามชมรีวิวดึกๆ..พร้อมข้อมูลดีๆครับ

แห่ะๆ อยากจะบอกว่าของเก่ายังไม่เสร็จดีเลยครับ เหลืออีก 3 และต้องทำให้เสร็จในสุดสัปดาห์นี้ เป็นอะไรที่มึนพอสมควรเหมือนกัน เพราะไปแต่ละที่นี่ใช้พลังงานมากกว่าไปเที่ยวตามปกติเสียอีก

ต่อเลยนะครับ ....
เริ่มจากลานจอดรถ ซึ่งที่จอดรถอาจจะมีค่อนข้างน้อยคือจอดรถยนต์ได้เพียงแค่ประมาณ 6 คัน (ดังที่เห็นในภาพเปิดกระทู้) กลายเป็นที่จอดรถโรงแรมไปแล้ว 2 คัน ก็จะเหลือให้แขกจอดได้อีกประมาณ 4 คันเท่านั้นหล่ะครับ แต่เรืองการเข้าออกสบายหายห่วงเพราะ รปภ. ก็จะชวยคอยกันรถให้อยู่ครับเวลาถอยออกมา สบายๆ

เข้าสู่บรรยากาศ Lobby ที่นี่เน้นกลิ่นที่หอมแบบสบายๆ แรกพบที่เปิดประตูเข้ามา บริเวณด้านฝังซ้ายนอกจากจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นแล้ว ยังเป็นที่สำหรับขายของที่ระลึกซึงที่พิเศษไม่เหมือนใครคือ ของที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นของอารมณ์สปา ที่เน้นกลิ่นหอมเป็นพิเศษ ในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงของที่ระลึกหรือข้าวของที่ใช้ในโรงแรมที่ลูกค้าอาจจะรู้สึกประทับใจแล้วก็อยากจะซื้อไปฝากก็ย่อมได้เช่นกันครับ ....

ส่วนฟากขวา (ตามที่เห็นในภาพ) ก็จะเป็น reception เมื่อเซ็นต์ชื่อเช็คอินเรียบร้อย จนท.ก็จะช่วยเหลือนำสัมภาระเดินพาไปส่งที่ห้องครับ

หลังจากขึ้นลิฟท์มาแล้ว บริเวณชั้น 3 ก็จะเป็นชั้นที่มีระเบียงส่วนกลางค่อนข้างเยอะอยู่ครับ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณระเบียงด้านหน้าอาคาร หรือบริเวณระเบียงชมวิวด้านใน ฝั่งริมแม่น้ำปิงครับ .....

วันนี้หวยออกที่ห้อง 320 ซึ่งเป็นห้องด้านในสุด แบบธรรมดาแต่อยู่ใกล้กับระเบียงชมวิวแม่น้ำปิงชั้น 3 เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะพบว่า ห้องพักมีการตกแต่งที่ไม่เหมือนโรงแรมที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางผังห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า ห้องสุขาหรือห้องอาบน้ำ อ่างอาบน้ำ และการยกพื้นเตียงนอน รวมไปถึงเตียงนอนเล่นช่วงกลางวัน

ก่อนจะเข้าไปในห้อง ก็ต้องผ่านทางเดินไปก่อนนะครับ .....
ทางเดินก็จะมีอยู่ 2 ข้างของอาคาร เพราะอย่างที่บอกว่า ห้องพักแต่ละห้องจะหันหน้าต่างชนกัน โดยมีพื้นที่ช่องว่างกลางอาคารอยู่พอสมควร

เริ่มต้นจากจุดเด่นในห้องที่ไม่เหมือนชาวบ้านเขาก่อนนะครับ

ผมคิดว่าเป็นการแยกส่วนห้องอาบน้ำแบบฝักบัวและเรนชาวเวอร์ กับห้องสุขาออกไปอยู่ฟากหนึ่ง ซึ่งในส่วนนี้ ก็จะมีประตูปิดอย่างมิดชิดเพื่อความเป็นส่วนตัว เพราะอย่างไรคนส่วนใหญ่จะใช้ 2 อย่างนี้ก็มักต้องการความเป็นส่วนตัวกันอยู่แล้ว

เมื่อเปรียบเทียบกับโรงแรมหลายๆ แห่งที่เลือกทำห้องน้ำแบบเปิด Open
แต่กลับลืมไปว่า บริเวณโถสุขภัณฑ์ก็ต้อง Open ไปด้วย
ถึงแม้จะเป็นคู่รักกัน แต่ผมเชื่อว่าคงมีไม่น้อยที่คงต้องตะขิดตะข่วงใจแน่
หากเวลาจะทำธุระทั้งหนักหรือเบา แล้วจะไม่เลื่อนฉากหรือปิดม่านอะไรเลย ....

ในอีกฟากหนึ่งหลังตู้เสื้อผ้าและตู้มินิบาร์

ก็จะเป็นอ่างล้างมือ และมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่วางตัวขนานกับเตียงวางไว้อยู่ซึ่งแขกสามารถนอนแช่น้ำอุ่นๆ ชมโทรทัศน์ได้อย่างสบายๆ ครับ
ก็มีฉากไม้เลื่อนกั้นช่วงเตียงนอนกับอ่างอาบน้ำ แบบแค่บังสายตานิดๆ หน่อยๆ สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่เนื่องจากบริเวณอ่างล้างหน้า-อ่างอาบน้ำจะไม่มีประตูกั้น

ดังนั้น ถ้าใครที่ไม่ใช่คู่รักแต่เป็นเพื่อนฝูงมาพักด้วยกันอาจจะมีเหนื่อยเล็กน้อยนะครับ

แต่ส่วนใหญ่ผมคิดว่า กลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มคู่รักที่มาเป็นคู่ๆ
ซึ่งห้องพักสไตล์แบบนี้ สามารถตอบโจทย์ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการแช่น้ำอุ่นๆ ด้วยกัน ความเงียบสงบ และ ความสะดวกสบายภายในห้องพัก ที่ผมว่าก็น่าจะโอเคเลยทีเดียว (ขออย่างเดียว อย่าลืมปิดม่านก็แล้วกัน ^^'')

ในส่วนของเตียง บริเวณพื้นมีการยกระดับขึ้นมา และมีการยกเตียงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง แต่จุดอ่อนก็จะมีตรงสันขอบเตียงที่ยื่นออกมา ในเวลากลางคืนมีสิทธิ์เตะโดนได้ง่ายๆ อาจจะต้องระมัดระวังนิดนึง แต่เตียงหนานุ่มนอนหลับได้สบายๆ มากๆ ครับ

เช่นเดียวกับเตียงเดย์เบด ที่วางอยู่ข้างหน้าต่าง นอนเล่นอย่างสบายๆ แต่ถ้ามองเล่นๆ อาจจะเห็นห้องข้างๆ กำลังทำแบบที่เราทำอยู่ก็ได้ แม้ว่าจะวางระยะห่างไว้พอสมควร

แต่จุดอ่อนในเรื่องความเป็นส่วนตัวก็อาจจะมีบ้างเล็กน้อย ซึงทางอรุณธาราก็ได้แก้จุดอ่อนด้วยการทำม่านหนา รับรองว่าปิดทึบปุ๊บแสงแทบจะไม่เล็ดลอดผ่านเข้ามาในห้องเลย (และห้องเก็บเสียงได้ดีนะครับ ไม่ต้องห่วง เพราะห้องข้างๆ ก็มีคนอยู่ ไม่รู้สึกว่ามีอะไรรบกวนกันเลย)

ในส่วนของโต๊ะทำงาน ที่นีก็นับว่าเห็นอีกที่หนึ่งที่เหมาะแก่การกบดานเขียนหนังสือ หรือทำอะไรที่ต้องการใช้สมาธิครับ เริ่มจากไฟอ่านหนังสือขนาดใหญ่ที่มีขาตั้งอยู่บนพื้น ไม่เกะกะโต๊ะ

โต๊ะสามารถพับยกขึ้นลงได้แบบโต๊ะโรงเรียนประถม เก็บของใต้โต๊ะได้ บริเวณข้างเคียงก็จะเป็นเครืองเสียงและจอ LCD ทีวีชัดมาก พักผ่อนได้อย่างสบาย

นอนเล่นซักแป๊บกันหน่อยดีมั้ยครับ

จุดที่ผมชอบมากๆ ..... ของที่นี่

นอกจากจะฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์แล้ว

น้ำที่นี่ไหลแรงมากๆ ครับ น้ำร้อนเป็นร้อน เย็นเป็นเย็น
เพียงแค่กระดิกนิ้วเท่านั้น น้ำแรง ปรับระดับได้ตามใจชอบ

บริเวณตู้ฝั่งติดประตูห้องพัก
(มองเข้าไปจะเห็นอ่างล้างหน้า และอ่างอาบน้ำ ตรงนี้จะไม่มีประตูกั้นครับ)
ในจะเป็นตู้มินิบาร์ครับ มีตู้เย็นอยู่ข้างใน ....

ส่วนตู้ด้านขวาจะเป็นตู้เสื้อผ้า มีเสื้อคลุมซีลมาอย่างดี และมีตู้เซฟข้างใน

อยากจะบอกว่า อยู่สบายไม่ต่างจากโรงแรมเชนดังจริงๆ ครับ
(คอนเฟิร์ม จากการเคยไปพัก แชงกริล่า เชียงใหม่ และ เลอเมอริเดียน เชียงใหม่มาแล้ว)

เปิดออกมา แอ่นแอ๊นนน ตู้มินิบาร์ มีของทุกอย่างที่เกี่ยวกับการดื่ม อยู่ที่นี่

Welcome Fruit เล็กๆ น้อยๆ ...

เมื่อออกจากห้องพัก เดินไปนิดหน่อย จะมีจุดระเบียบชมวิวส่วนกลางบนชั้น 3  ซึ่งมองลงไปข้างล่างก็จะเห็นสนามหญ้าสีเขียว และแม่น้ำปิงอยู่เบื้องล่างครับ

ทีนี้เราไปดูห้องประเภทอื่นบ้าง โดยเรามาดูห้องตัวท๊อปของทีนีกันนะครับ ห้องตัวท๊อปก็จะมีจุดเด่นที่เหนือกว่าห้องธรรมดาก็ตรงที่
จะมีระเบียงกว้างสำหรับนอนเล่นชมวิวแม่น้ำปิงได้

มองจากระเบียงขั้น 3 ไปทางทิศใต้ก็จะเห็น
โรงแรมฮอลิเดย์อินน์เชียงใหม่
และ โรงพยาบาลราชเวช กับ สะพานเม็งราย อยู่ตรงนู้น ....

เราได้มาแอบสำรวจห้อง 211 ซึ่งเป็นห้องตัวท๊อปบนชั้น 2
(อยู่ใต้ห้อง คห.20) แม้ว่าจะมีจุดอ่อนนิดหน่อย ก็คือต้นไม้เริ่มจะบังวิวชั้นสองแล้ว ไม่ค่อยเห็นแม่น้ำปิงอย่างเต็มอิ่มเท่าไหร่ แตห้องนี้จะมีระเบียงส่วนตัวบนชั้น 2 เชื่อมไปทางห้องฝั่งตรงข้าม ในกรณีมากันหลายๆ คนและเปิดห้องคู่กัน 2 ห้องก็จะได้ระเบียงส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาพอดีครับ

ห้องหับก็จะใหญ่โตเป็นสัดเป็นส่วนมากกว่า เตียงขนาดใหญ่ จอ LCD TV ขนาดใหญกว่า มีโต๊ะญี่ปุ่นให้นั่งเล่นบนพื้น มีส่วนห้องแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกออกไป และห้องน้ำมีขนาดใหญ่กว่าพร้อมอ่างอาบน้ำแบบจากุชชี่ครับ

บรรยากาศโดยรวมๆ ของห้องตัวท๊อปครับ ....

แอบดูห้องธรรมดาข้างล่างบ้าง ก็ดูมีที่นั่งเล่นเล็กๆ
อย่างที่บอกในตอนต้นว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดขึ้น-ลงชั้นบน
ขี้เกียจเดินไกล ห้องข้างล่างก็นับ่ว่าโอเคเลยครับ

บริเวณชั้นล่างนอกเหนือจากห้องพักก็จะประกอบไปด้วยส่วนของสปา เมื่อเปิดเข้าไปข้างในก็จะพบกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งการบริการส่วนใหญ่ก็จะออกไปทางแนวนวดแผนไทย นวดน้ำมันเรียบง่ายสบายๆ ครับ

ในส่วนของห้องอาหาร ซึ่งใช้สำหรับรับประทานอาหารได้ทุกมื้อตลอดทั้งวัน การตกแต่งเน้นสีขาว ดำ และสีทองอันเป็นสีประจำของอรุณธารา เบาะนุ่มนั่งสบายมองออกไปเห็นพื้นที่สีเขียวและแม่น้ำปิงอยู่ไกลๆ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลืออยู่ด้านหลังต้นไม้ติดกับส่วนรับประทานอาหารครับ มีต้นไม้เป็นฉากบัง บุขอบสระสีดำสวยงาม ดูน่าว่ายเป็นอย่างยิ่ง

เหมาะสำหรับคนไทยที่ชอบความเป็นส่วนตัวในการว่ายน้ำผมคิดว่าที่นี่คงจะตอบโจทย์ได้เลยครับ

พื้นที่นอนเล่นใกล้ๆ สระกับห้องอาหาร ชมสนามหญ้าสีเขียวและแม่น้ำปิง

เมื่อเดินออกไปริมน้ำ ก็พบน้ำปิงกำลังไหลเชี่ยวกรากอยู่ (ภาพนี้ถ่ายก่อนน้ำจะท่วมเชียงใหม่ได้แค่ 5 วันเท่านั้น แต่สำหรับอรุณธาราได้มีการวางกระสอบทรายกั้นไว้เป็นอย่างดีจึงไม่มีน้ำเข้าในพื้นที่ของโรงแรมครับ)

เนื่องจากแม่น้ำปิงช่วงนี้จะมีฝายพญาคำกั้นอยู่ และมีฝายทางใต้ของเมืองกั้นอยู่อีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้ไม่มีเรือสัญจรผ่านในช่วงนี้ ก็เลยมีความเงียบสงบมากเป็นพิเศษ ประกอบกับฝั่งตรงข้ามเป็นช่วงโรงไฟฟ้าบ้านเด่น และเป็นบ้านคนที่ปลูกต้นไม้ใหญ่เขียวขจี จึงกลายเป็นวิวที่สวยงาม เพราะถ้าเจอผับยามค่ำคืนก็มีเหนื่อยแน่ๆ

มองจากบริเวณริมแม่น้ำปิงไปทางโรงแรมในช่วงพลบค่ำ ....

จึงทำให้ผมค้นพบว่า อรุณธารา แม้ดูรูปในเว็บอาจจะรู้สึกธรรมดาๆ แต่พอได้เข้ามาสัมผัสจริงๆ รู้ได้เลยว่าทีนี่ไม่ธรรมดา และเป็นที่พักในกลุ่ม Riverside ที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง ด้วยราคาที่ไม่สูงเกินไป และบรรยากาศสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าโรงแรมเชนดัง น่าจะมัดใจคนไทยหลายๆ คนได้เป็นอย่างดี

สำหรับอาหารมื้อค่ำพอดีในคืนนี้ได้ทานอาหารแบบ Thai Set Dinner ครับ ก็จะประกอบไปด้วย "ข้าวตังพะแนงกุ้ง" เมนูแปลกดีไม่เคยเห็น
เพิ่งจะรู้ว่าพอเอาพะแนงกุ้งกับข้าวตังมาทานพร้อมกันก็อร่อยดีเหมือนกัน

ต่อไปก็คือยำรวมทะเล มีทั้งปลาหมึก กุ้ง ฯลฯ มากมาย แผล่บๆ

พร้อมกับแกงข่าไก่
ปิดท้ายด้วย ผลไม้สด อิ่มสบายๆ ครับ

คืนนี้หลับสบายแล้ว

แต่อย่าเพิ่งนอนครับ .... แวะแช่น้ำอุ่นสบายๆ นอนดูทีวี
มีความสุขที่สุด นึกถึงที่ Pullman King Power ขึ้นมา
แต่ Pullman นอนดูทีวีไม่ได้ สำหรับที่ดูทีวีได้อย่างหลายๆ ที่
ก็จะมีกระจกกั้นด้วย แต่ที่นี่ไม่มีกระจกกั้น มีแค่ฉากไม้บางๆ ที่เลื่อนได้กันเท่านั้นเอง

เช้าวันใหม่ ... แสงแดดยามเช้าริมแม่น้ำปิง = อรุณธารา

แอบดูห้องตรงข้ามว่าตื่นกันแล้วหรือยัง

ด้วยความที่ ... ที่นี่มีอาหารเช้าที่พิเศษกว่าที่อื่นๆ
เราจึงลงทุนตื่นมาตั้งแต่ไก่โห่เพื่อมาลิ้มลองอาหารเช้าที่นี่ครับ

สิ่งหนึ่งที่มัดใจผมได้ นั่นก็คือเรื่องอาหารเช้าครับ

ผมเคยดูรีวิวของหลายๆ ท่านที่กล่าวถึงที่นี่ ไม่เคยมีใครไม่ประทับใจกับอาหารมื้อเช้าของที่นีครับ
เพราะอาหารเช้าที่นี่ “สั่งได้ทุกอย่างตามเมนู” และทางเจ้าของก็มีนโยบายก็คือ ถ้าจองห้องพักอรุณธารามาแล้ว
แขกทุกท่านจะต้องได้ทานอาหารเช้า จะไม่มีการขายห้องแบบ Room only ทุกห้องจะขายแบบ "Breakfast included" หมด
นี่หล่ะครับคือจุดเด่น ซึ่งโรงแรมแบบ Luxury ในเชียงใหม่ก็มีอยู่ไม่กี่แห่งที่ให้บริการในรูปแบบนี้

ส่วนตัวผมชอบยิ่งกว่าการให้ไปตักในไลน์บุฟเฟต์อีกครับ เพราะเราสามารถเลือกสั่งตามเมนูได้ อาหารที่ออกมาก็มี presentation ทีดีมากกว่าเราจัดเอง อีกทั้งใครที่อาจจะชอบคิดว่า การจัดไลน์บุฟเฟต์ต้องเดินไปตักๆ และมีโอกาสเจอเชื้อโรคปนเปื้อนได้ ที่นี่ด้วยความที่ห้องก็มีเพียงแค่ 28 ห้องจึงสามารถให้บริการอาหารแบบ A La Carte ได้เต็มที่ยิ่งกว่าที่อื่นๆ

จริงๆ แค่บรรยากาศในการกินโดยรอบก็กินขาดแล้วครับ ...

ทุกอยงาในเมนูนี้สั่งได้หมดจริงๆ ไม่อิ่มก็สั่งเพิ่มได้ ลองไข่ทุกประเภทก็ยังได้ (ถ้าไหว)

ยังไม่หมดครับ มีทั้ง Continental และ Asian ด้วย ทานได้หมดเลย

นี่หล่ะครับ จึงกล้าบอกได้ว่า อาหารเช้าอรุณธารา ไม่เป็นรองใครจริงๆ

เมื่อสั่งกาแฟ ก็จะได้รับน้ำตาลและนมสดมา
ที่เจ๋งก็คือ น้ำตาลมีให้เลือก 3 แบบว่าชอบแบบไหนเลือกได้เลย ...
มาเป็นกระปุกหน้าตาแบบนี้ ....

ขนมปังห่อผ้ามาเรียบร้อยเพื่อรักษาความอุ่น ....
(อันนี้หล่ะ ที่ถ้าเป็นไลน์บุฟเฟต์มักจะไม่มีให้)

ปล. ถ้าทานสองคนสั่งขนมปังแค่ชุดเดียวก็พอนะครับ เพราะปริมาณขนาดนี้ก็ถือว่าเยอะอยู่ กลัวจะทานกันไม่หมดครับ

ไข่น้ำ ..... แฮม เบคอน ไส้กรอก

ข้าวผัดกุ้ง ...... แผล่บๆ ๆ

วอฟเฟิล ราดน้ำผึ้ง แผล่บๆๆๆ

ปิดท้ายด้วยโจ๊กไก่ ....  

(ความจริงมีเยอะกว่านี้ครับ สั่งข้าวต้มหมูมาทานด้วย มาสลับกันทาน เรียกได้ว่า ใช้เวลาทานอาหารเช้าเป็นชั่วโมงครับ แทบเลี้อยออกจากห้องอาหารเลยทีเดียว)

รสชาติอาหารนับ่ว่าอร่อยประทับใจครับ
ถ้ามาพักอรุณธาราอย่าลืมตื่นแต่เช้ามารับแสงแดดริมน้ำปิงนะครับ
เพราะอาหารเช้าให้บริการ 6.30-10.30 น.เท่านั้นครับ

ความเห็นสุดท้ายแล้วครับ ตาผมจะปิดแล้ว
พรุ่งนี้ได้เป็นแพนด้ารักษาสัตว์แน่ๆ

สำหรับอรุณธารา บูติกรีสอร์ทหรูริมน้ำปิง
จุดเด่นก็คงเป็นที่บรรยากาศเงียบสงบ
การบริการเป็นมาตรฐานเชน แม้จะไม่ใช่โรงแรมเชนก็ตาม
ทั้งความสะดวกสบายในห้องพัก ความสะอาดสะอ้าน
และการบริการแบบโรงแรม รวมไปถึงอาหารเช้าอลังการตามที่เห็น

ผมเชือว่า หากท่านได้ลองมาพักที่อรุณธาราซักครั้งแล้วจะติดใจครับ

กระทู้นี้ขอขอบพระคุณ
-- บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
(ผู้สนับสนุนหลักโครงการ Thailand Boutique Awards 2011)
-- คุณดุสิต อวยพร ผู้จัดการโรงแรมอรุณธารา เชียงใหม่

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ
คืนวันศุกร์ของดเว้นไว้ 1 คืน ผมขออนุญาต 18 ล้ออ่านหนังสือเตรียมสอบ
เพราะมีสอบเช้าวันเสาร์ วิชา Sale Management หัวสมองผมยังโบ๋ๆ อยู่เลย ขอสอบเสร็จแล้วจะปั๊มทั้ง 3 แห่งที่ปาย-ปางมะผ้าให้เสร็จครับ แต่ละแห่งเค้าก็มีดีในแบบของเขา ไปแล้วไม่ผิดหวังแน่ๆ ครับ

................

...............

................

ผมสงสัยเฉยๆ อ่ะ ว่าทำไมหมอยุ่งฯได้ TBA ตั้ง 6 ที่แน่ะ?

เพราะหมอยุ่งมีน้ำใจรับอาสาไปทำให้อะดีบุก...

สวยงาม มากเลยค่ะหมอยุ่งฯ

บิ้วกันแต่เช้าเลยนะเนี่ยยยยยยยย

สวยครับ ดูสงบ ติดริมปิงเลย น่าไปพักมากครับ

ตามมาให้กำลังใจหมอยุ่งค่ะ ^^

แวะมาชมโรงแรมกับหมอยุ่งด้วยคน

ที่พักสวย และอาหารน่าทานมากกกก

คือที่พักเค้าจะมีที่ยังไม่มีคนเลือกก็ต้องการอาสาสมัครไปให้พี่หมอก็ใจดีจัดให้ ส่วนกระผมขอ 2 พอแล้วครับ

น่าพักมากครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

อาหารน่าหม่ำมาก ๆ ค่ะ

รีวิวนี้ทำให้อาจจะขวนขวายหาเรื่องไปพักที่นี่ดูบ้างนะครับ ขอบคุณน้องหมอนะครับ

ขอให้สอบผ่านโลดดดดดดด

เป็นที่พักที่น่าสนใจมากครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

สวยมากค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

ขอให้ทำสอบได้สบายๆเลยค่ะ

น่าพักดีจริงๆ

ตามมาให้กำลังใจหมอยุ่งค่ะ

การบริการดี น่าพัก ขอบคุณที่นำชมนะครับ...

น่าไปพักมาก ๆ ค่ะ

มาให้กำลังใจหมอยุ่งกับอีก 3 รีวิวที่เหลือ
เพิ่งไปพักที่ อรุณธาราเมื่อสิงหาที่่่ผ่านมา ประทับใจกับการบริการของพนักงานที่นี่มากครับ

ที่พักสวยและดูสงบดีค่ะ ติดแม่น้ำปิงเลย แอบสงสารคุณหมอยุ่ง ได้ไปพักหลายที่ ทั้งสนุกทั้งเหนื่อยเลยนะคะ ต้องปั่นรีวิว TBA ตั้ง 6 โรงแรมแน่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

เข้ามาชมอรุณธารา บูติกรีสอร์ทหรูริมน้ำปิงค่ะ
ข้าวผัดกุ้งน่ากินมาก

หมอยุ่งสู้ๆครับ กำลังจะถามเลยว่า แถวนั้นน้ำไม่ท่วมหรอครับ เพราะมองจาก Holiday inn มา ฝั่งนั้นแทบไม่เหลือเหมือนกันครับ

เก็บข้อมูลไว้เผื่อได้มีโอกาสตามรอยคุณหมดยุ่งบ้างอ่ะครับ

 ตามหมอยุ่งมาสำรวจที่พักด้วยคนครับ

ขอบคุณรีวิวครับพี่หมอยุ่ง
ผมมีบินอุบล-เชียงใหม่เที่ยวบินปฐมฤกษ์ ยังไม่หาที่พักเลย
ที่นี่อาหารเช้าน่าสนใจมากครับ

มาชมต่อ สำหรับรีวิวสวยๆ ดีๆ.........ขอบคุณมากๆครับ


((( เมื่อคืนกลัวเหงานะครับ ผมส่งซิกทางอื่นไม่ได้ )))

ตามมาชมครับ คุณหมอ  เคยไปเยือนไปชมมาบ้างเหมือนกัน
แกงข่าไก่น่าทานมากๆครับ

เอาใจช่วย คุณหมอเหนือ ครับ ตั้ง 6 ที่แนะ สู้ๆ ไฟต์โตะๆ

ต้องตบมือในความอุตสาหะ ของคุณหมอนะครับ ที่ตั้งใจรีวิวถึง 6 แห่ง ปีที่แล้ว ผมทำ 3 แห่ง แต่ปีนี้ขอทำแค่ 2 แห่งก็เหนื่อยแล้ว มาเจอคุณหมอ 6 แห่ง เอาไปเลยครับ ถ้วยชนะเลิศนักรีวิว.... หวังว่าในวันงานประกาศรางวัลน่าจะมีการกล่าวนึกนักรีวิวบางนะครับ ทราบเพื่อนๆหลายคน ที่ต้องออกไปรีวิว เจอน้ำท่วมก็มี เจออุปสรรค์นานาชนิด แต่ใจก็สู้ไม่ท้อ อย่างไรก็ตามขอปรบมือให้และเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ

จองที่นี่ไว้อาทิตย์หน้า ได้เห็นรีวิวของคุณหมอยุ่งฯ แบบนี้ ยิ่งทำให้ดีใจว่าเลือก รร.ได้ไม่ผิดที่จริง ๆ

ขอบคุณคุณหมอยุ่งฯ มาก ๆ ครับ

ว้ายย ดูดีดูเก๋มากเลยค่ะ น่ารักดีจัง ^O^

แวะเข้ามาชมอรุณธารา บูติกรีสอร์ทครับ

ข้าวผัดกุ้งน่าทานมาก แอบหิวเลย

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ขอบคุณคุณหมอยุ่งมากเลยค่ะ รีสอร?เงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อน เสียอย่างเรื่องห้องน้ำที่ฉากกั้นมันอ่ะโล่งโจ้งไปหน่อยง่ะ

แวะมาชมครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ขอบคุณรีวิวมากๆนะครับ

รีวิวได้ละเอียด นะครับ ภาพสวยแจ่ม

ตามพักนะครับหมอยุ่ง

น่าพักมากค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

เข้ามาร่วมเป็นกำลังใจให้หมอยุ่งอีกหนึ่งแรงนะครับ

thanks

เพิงไดเข้ามาชมรีวิวสวยๆด้วยคนค่ะ

ดีที่ไปตอนช่วงน้ำไม่ท่วมเนอะ สวยดีครับ ขอบคุณที่พาไปนะครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวน่ะค่ะ