สวัสดีค่ะ  วันนี้ำภูมิใจนำเสนอทะเลใกล้บ้าน กับ 3 สาวต่างไซส์  โดยเดินทางกันไปเมื่อ 19-21 ก.ย.ที่่ผานมา  หลังจากทริปเชียงคานล่ม เพราะน้ำท่วมเหนือ-อีสาน  เลยชวนรุ่นน้องจากลพบุรีมาเที่ยวใต้ซะเลย  เพราะปลอดภัยต่อน้ำท่วมมากที่สุด (ณ ขณะนั้น)  โดยจะพาทัวร์สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราชแบบสบายๆ


เริ่มจากทริปแรก  รุ่นน้องลงรถทัวร์ปุ๊บ  ก็พาไปชมหิ่งห้อยในบาง  ระหว่างรอพลพรรคคนสุราษฎร์ที่ไม่เคยชมหิ่งห้อย  เลยขอแชะภาพสะพานนริศ จากริมเขื่อนแม่น้ำตาปี

ริมเขื่อนฯ บริเวณตรงข้ามร้านกาแฟริมน้ำ  จะมีคิวท่าเรือชมหิ่งห้อย  ที่เป็นของเอกชน  คือ  ชาวบ้านในบางที่มารอรับนักท่องเที่ยว  และ ของชมรมอนุรักษ์คลองร้อยสายฯ (น่าจะไม่ผิดนะชื่อนี้)  

ค่าเรือคนละ 50 บาท  6 คน  เรือก็ออกแล้วจ้า

นักท่องเที่ยวพร้อม...

เกาะลำพู  ที่สะพานนริศทอดไปอีกฟากหนึ่ง  เชื่อมระหว่างเขตในบาง คือ ต.บางใบไม้, ต.บางชนะ, ต.บางโพธิ์, ต.บางไทร  ซึ่งไม่มีผืนดินเชื่อมกับอำเภอเมือง

ริมเขื่อนแม่้น้ำตาปี

ขอไปด้วยคน...........ขอบคุณครับ

เสียดายไม่มีภาพขณะชมหิ่งห้อย  เพราะกฎห้ามถ่ายภาพ และส่งเสียงดัง  บรรยากาศเป็นใจ  ฟ้าครึ้มเพราะฝนเพิ่งหยุดไป  ทำให้ค่อนข้างหนาว  หิ่งห้อยน้อยไปหน่อย (ไกด์บอก) เพราะลมแรง

บรรยากาศริมคลองในบาง  ขณะกำลังส่องไฟหาหิ่งห้อย

ปล.เน็ตหลุดอีกแล้ว  จะรอดไหมเนี่ย 3BB เอ๊ย

ยินดีต้อนรับค่า

ขอข้ามไปวันถัดไป  มุ่งหน้าจาก อ.กาญจนดิษฐ์ ไปยัง นครศรีธรรมราช  ระหว่างทางผ่าน อ.ดอนสัก  เลยแวะไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย


ถนน ต.ปากแพรก  มุ่งหน้าสู่วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์

วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์  อ.ดอนสัก  ก่อนถึงท่าเรือเฟอร์รี่ไปเกาะสมุย

สะพานเดินขึ้นมาร้อยกว่าขั้น  แต่ขอบาย  ขับรถขึ้นมาละกัน

วิวสวยๆ

ชอบมุมนี้มาก  ฉากหลังเหมือนภาพวาดสีน้ำ  ยังไงยังงั้น

วิวเทือกเขาหลวง จ.นครศรีธรรมราช  ที่หล่อเลี้ยงชาวนครศรีฯ และ ชาวกาญจนดิษฐ์ สุราษฎร์ธานี

เรือประมงแล่นเข้าฝั่ง

เขตเทศบาลตำบลดอนสัก  เป็นแพรับซื้อปูปลา  พม่ารามัญเยอะ  คนไทยน้อยเพราะไม่เจริญเท่าไหร่  หางานยาก  นอกจากอาชีพประมง  และค้าขาย

น้ำทะเลสีค่อนข้างแดง  เพราะฝนตกทุกวัน

เสายกยอดพระธาตุเจดีย์บรมสารีริกธาตุ  โดย สมเด็จพระเทพฯ

มาเที่ยววัดหลวงพ่อจ้อย (อีกชื่อหนึ่ง) ตั้งแต่เล็กจนโต  ไม่เคยเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ของหลวงพ่อจ้อย  อดีตเจ้าอาวาสเลย หลังจากถวายสังฆทานเลยขอหลวงปู่  ชมหน่อย

ภายในค่อนข้างมีกลิ่นอับ และตุๆ  เป็นเพราะเจ้าตัวนี้นี่เอง  หนังเสือจริง  แต่ยัดนุ่นข้างใน

พิพิธภัณฑ์แสดงสิ่งของเครื่องใช้ของหลวงพ่อจ้อย  สมัยยังมีชีวิตอยู่

...

...

ห่างจากท่าเรือเฟอร์รี่ไม่มากนัก  อยากให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาสุราษฎร์ และจะไปเกาะสมุย ลองแวะมาเที่ยวบ้างนะคะ

ถนนเส้นที่มุ่งสู่ท่าเรือ  ขยายจนกว้าง  แต่รถน้อย วิวสวยดี

มุ่งหน้าสู่สิชล  เขาพลายดำ  คือเป้าหมาย

จาก อ.ดอนสัก สุราษฎร์ธานี  ก็เข้าสู่เขตนครศรีฯ ผ่าน อ.ขนอม และถึง อ.สิชล  เขาพลายดำอยู่ในเขตสถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่านครศรีธรรมราช  ต.ทุ่งใส อ.สิชล  มีป้ายบอกตลอดทางค่ะ


จากถนนหลัก  เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 10 กว่ากิโล  ใกล้ถึงแล้ว

ยินดีต้อนรับ

แวะลงถ่ายภาพวิว  บริเวณหินก้อนใหญ่ที่มารับแขก  อากาศดีมาก  ไม่มีแดดทั้งวัน  ฝนก็ไม่ตก

ขับมาอีกนิดนึง  ผ่านบริเวณ "หินงามรางทัด"

เป็นโขดหิน  มองเห็นวิวสวยดีค่ะ  แต่ไม่กล้าลงไปเพราะมีผู้ชาย 2-3 คนตกปลาอยู่  ขอแชะภาพตรงนี้ก็พอ

ขับมาอีกนิดนึง  มาถึงจุดชมวิวมหาชน ของ เขาพลายดำ

มุมมหาชน

ไม่รู้ว่าเราเตี้ย  หรือว่าหญ้ามันรก  เลยมองไม่ค่อยเห็นชายหาด  น่าจะเหตุผลแรกนะ

ไม่รีบ ไม่ร้อน  เล่นกล้องไปเรื่อย

ชายหาดหน้ารีสอร์ท  ที่จะไปพัก

ขณะที่โพสต์อยู่นี้  ที่บ้านฝนตกหนักมาก  สัญญาณหลุดบ่อย  ถ้าหายไปก็อย่าว่ากันนะคะ


มาถึงแล้ว

ราคาห้อง  ค่อนข้างแพง  เพราะห้องขนาดเล็กมากค่ะ

สำรวจที่พักหน่อย  แพงยังไงก็ต้องยอม  เพราะตั้งใจมา


บริเวณสวนสาธารณะ  ที่นี่อยู่ในการดูแลของ อบจ.นครศรีฯ ค่ะ

ทางไปห้องพัก ราคาแพง  อ่าวท้องยาง-วังโลมา-ผาพลายดำ  จะเป็นหลังใหญ่  ซอยเป็นห้องๆ

อ่าวท้องยาง  คืนละ 1,500 บาท

บ้านริมน้ำ  ห่างไกลมากมาย  และใกล้ๆนี่มีการก่อสร้าง  บรรยากาศไม่ดี

เลือกพักที่เรือนชายเล ราคา 1,300 บาท  อนุโลมให้พัก 3 คน  ห้องเล็ก  แต่ชอบดีไซน์

หลังเล็ก  แต่ติดทะเล  เปิดประตูมาก็จ๊ะเอ๋ ชายหาด มีหลายหลังค่ะ

รีสอร์ทที่นี่  ภูมิทัศน์ดีค่ะ  ตกแต่งสวนสวยงาม  และสงบ  ส่วนใหญ่จะมีองค์กร หรือโรงเรียนใช้จัดสัมมนา หรือ กิจกรรมค่าย

...

ห้องพัก  ค่อนข้างเล็ก  เตียงนอนได้ 3 คนพอดี เกือบอึดอัด  เพราะตัวใหญ่  อิอิ

แอบส่อง  ห้องข้างๆ


ห้องพักเป็นแบบแฝดค่ะ  กำแพงห้องชนกัน หน้า-หลัง  ห้องของเราอยู่ด้านหน้า  ติดทะเล

บ่นๆ กันว่า  ถ้าห้องน้ำเล็กอีกหน่อย  ห้องนอน  คงกว้างกว่านี้

ได้เวลา...ลงทะเล

ชายหาดเงียบสงบ  ในเวลาประมาณบ่าย 2 นิดๆ  มีนักท่องเที่ยวมานั่งทานอาหารกันบ้างประปราย  แต่ไม่มีใครเล่นน้ำ

โขดหินไกลๆ  ทำให้วิวสวยขึ้น

ลมแรง  แต่ไม่มีฝน

ระหว่างรออาหาร  นั่งเขียนได  บันทึกทริป Slow Life

เมี่ยงปลากะพง  รสชาติจัดจ้าน

อิ่มแล้ว  ลงทะเล

สาวๆ ตื่นเต้นยกใหญ่  เมื่อมาเจอ ปูเสฉวน

สาว กทม.จากเมืองลิง  สนใจปูน้อย

ไม่ต้องทำอะไรกันละ หาปู หาหอย  มาเล่นกัน

วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆ

ลอยคอ....รอเธอ

น้ำทะเลใสมาก  แต่ดูสีไม่สวย  เพราะฝนตกเกือบทุกวัน

ลานอาบน้ำกลางแจ้ง ของรีสอร์ท

ตกค่ำ  ก็นั่งเฝ้าเจ้านางน้อย กับอีเม้ย กันทั้งคืน  ในรีสอร์ทมีแขกแค่ห้องเดียวค่ะ      ดีนะพักห้องติดทะเล  เลยไม่น่ากลัว  แต่รีสอร์ทเปิดไฟสว่างทั่วหาด  รู้สึกแย่มาก  เปลืองไฟสุดๆ  


เช้าวันที่ 3 ณ  เขาพลายดำรีสอร์ท  ไปทานมื้อเช้ากัน

ห้องพักมีคูปองอาหารเช้าสำหรับ 2 คน  เมนูพื้นๆ จานเดียวจบ  เพราะมีแขกห้องเดียว

ส่วนอีกคน  ก็นี่เลย  โจ๊กคัพ  อร่อย  อิ่มเบาๆ แบบประหยัด และ งก 5555

ต้นไทรริมทะเล

กล้วยไม้งาม  รับอรุณ

มื้อเช้าชิลๆ ดูปลาในสระไปพลาง

จากนั้นมุ่งหน้า  สู่เมืองนครศรีฯ  เพื่อไหว้พระธาตุนครฯ คู่เมือง

วิวจากเขาพลายดำ  ขากลับ

ผ่านสถานีตำรวจ  รูปปั้นขุนพันธ์  ตำรวจปราบเสือ (โจร)

มาถึงพระธาตุนครฯ แบบเกือบหลง  ทั้งที่มาปีละครั้ง


ห้องจำลองรอยพระพุืธบาท  ที่ไม่เคยได้เข้าไปชม

มีงานเดือนสิบ (รับตายาย หรือ ชิงเปรต) พอดี  มีการจัดบูธแสดงถึงเปรตในรูปแบบต่างๆ

มีการประกวดดเปรตด้วย


เปรตไฮโล  (ภาพจากเฟซของน้อง  เพราะตอนไปเพิ่งมีงานวันแรก)

พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช และ พระนางเลือดขาว  เจ้าครองเมืองตามพรลิงค์

พระเจ้านันทกุมาร  ผู้นำพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดีย  โดยทางเรือ มาไว้ที่เมืองนครฯ

ตีระฆัง ชื่อเสียงจะได้ดังก้องกังวาน (ก็ว่ากันไป๊)

ขึ้นไปไหว้พระธาตุฯ ดีกว่า

ฝนทำท่าจะตก  เลยไม่ได้โอ้เอ้กันมาก  เพราะอยากเดินเที่ยวให้ทั่ว

องค์รามเทพ  เฝ้าฐานพระธาตุ

อีกอาคารหนึ่ง

พระเจ้านันทกุมาร  สังเกตว่ามีภาพเด็กๆ จำนวนมาก  เดาว่าน่าจะมามอบให้เป็นลูกของท่าน  เพื่อแก้เคล็ด  และด้านในนี้เป็นที่วางโกฐของต้นตระกูล ณ นคร แทบจะทุกคน  บางคนก็มาจองไว้  เพราะอายุมากแล้ว

ยอดพระธาตุทองอร่าม  เมื่อเมฆฝนปกคลุม

เดินข้ามไปฝั่งวัดหน้าพระธาตุ  มีงานเดือนสิบ  ชอบเจ้ากระดูกตัวนี้  ไหว้กะผลกๆ  กลางคืินคงน่ากลัว

บรรยากาศงานสารทเดือนสิบ  วันแรก  ร้านค้าเยอะมากันหลายจังหวัด ทุกภาคเลย
แง๊ว...ลืมลดรูป

ปิดท้ายที่ภาพหอนาฬิกาเมืองคอน  โชคดีว่าเที่ยวเสร็จ  ฝนก็ตก  ทำให้เที่ยวกันจุใจ  แต่เสียดาย  ขากลับจะแวะขนอม  เลยอด


Slow Life Trip ครั้งนี้  ทำให้เที่ยวแบบลงรายละเอียด  บางที่ไปมาหลายครั้ง  แต่มีบางอย่างไม่เคยทำ  ไม่เคยสนใจ  ทำให้เหมือนกับไปเที่ยวครั้งแรกยังไงยังงั้น

และที่สำคัญ  ไปที่ไหนไม่สำคัญ   สำคัญว่าไปกับใคร....อันนี้เป็นคำนิยามในการเที่ยวของเราค่ะ  เพราะไปมาหลายที่  กับหลายคน  เลยได้ข้อสรุปแบบนี้


ขอบคุณทุกท่านที่คลิกมาชมนะคะ

ไปที่ไหนไม่สำคัญ สำคัญว่าไปกับใคร....อันนี้เป็นคำนิยามในการเที่ยวของเราค่ะ 

^

^

เป็นนิยามที่โดนใจมากๆ เลยค่ะ  ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ 

รีวิวสนุกดีครับไปเที่ยวเพลินเลยทีเดียว

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

เราเพิ่งไป เขาพลายดำ มาเมื่อ วันเสาร์นี้เอง  ทะเลสีสวยมาก  แดดจัด ๆ  ไม่มีฝนเลย

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

มาชมรีวิวด้วยคนครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ  ถ้าใครได้มาเที่ยวทะเลใต้  แนะนำเขาพลายดำค่ะ  นักท่องเที่ยวน้อย  บรรยากาศดีมากมาย