เป็นวันว่างที่สุดเลยมีเวลานิดหน่อยมาทำรีวิวชุดแรกครับ เป็นทริปแบ็คแพ็คกิ้งไปหลังคาโลก แชงกรีล่า 15 วัน ไปเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาครับ เป็นทริปที่ทรหดแต่สนุกและหลุดจากโลกแห่งความเครียดสับสนวุ่นวาย เดินทางไปค้นหาความสุขที่แท้จริงครับ จุดหมายปลายทางคือ แชงกรีล่า สวรรค์บนดินในตำนาน จะสวยเหมือนสวรรค์หรือไม่ คอยติดตามชมตอนท้ายๆนะครับ โดยผมจะแบ่งออกไปหลายๆตอน เพราะไป 15 วัน ผ่านเจอเรื่องราวเยอะแยะมากมาย โชคดีที่ทริปนี้เจอะเจอแต่คนดีๆที่คอยช่วยเหลือเราให้ไปถึงจุดหมายปลายเส้นขอบฟ้าดังหวังครับ

แผนที่การเดินทาง คือ กรุงเทพ-เชียงราย-เชียงของ-ห้วยซาย-บ่อหาน-โหม่วฮั่น-จิ่งหงส์-คุนหมิง-ต้าหลี่-หลี่เจียง-หุบเขาสีน้ำเงิน-ยอดหิมะมังกรหยก-ตรอกไทเกอร์รีปปิ้ง กอร์จ หรือตรอกเษือกระโจน(พิมพ์สอเสือสระเอือไม่ได้ไม่รู้เป็นรไร โดนแบน)-จงเตี่ยน (แชงกรีล่า)-เต๋อชิง-เฟยหลายซื่อและจุดหมายปลายทางคือ น้ำตกศักดิ์สิทธิ์แห่งหมู่บ้าน หยู่เปิ้ง เชิงเขาทางขึ้น Base Campของยอดเขาคาวาคาโป

ตอนนี้เป็นที่ 1 ครับ...จุดเริ่มต้นของการเดินทางขึ้นไปค้นหาดินแดนสวรรค์ในตำนาน

ความเดิมตอนที่แล้วครับ

[CR] Shangri-la, the Lost Horizon Esp# 11 Fallen Angels เทวดาตกสวรรค์

Link: http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11431142/E11431142.html

[CR] Shangri-la, the Lost Horizon Esp# 10 Meili Foot Hills and the Sacred Water Falls

Link:
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11403733/E11403733.html

[CR] Shangri-la, the Lost Horizon Esp# 9 Trekking to Yubeng Village ปีนเขา ย่ำหิมะ ลุยป่ากันไปจนถึงที่หมายจนได้

Link:
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11371653/E11371653.html

[CR] Shangri-la, the Lost Horizon Esp# 8 Stairway to Heaven ใต่บันใดสวรรค์ไปเต๋อชิง  

Link: http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11333601/E11333601.html

[CR] Shangri-la, the Lost Horizon Esp# 7 The Shangri-la นี่อ่ะเหรอ แดนสวรรค์ในตำนาน?

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11274616/E11274616.html

[CR] Shangri-la, the Lost Horizon Esp# 6 Jade Dragon Snow Mountain & the Blue Moon Valley, Li Jiang

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11237479/E11237479.html

[CR] Shangri-la, the Lost Horizon Esp# 5 เยือนโค้งแรกแม่น้ำแยงซีและTiger Leaping Gorge หุบเขาที่ลึกที่สุดในโลก

Link:
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11219838/E11219838.html


[CR] Shangri-la, the Lost Horizon Esp# 4 Li Jiang ลี่เจียง ลี่เจียง มาถึงแล้วลี่เจียง

Link:
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11214923/E11214923.html

[CR] Shangri-la, the Lost Horizon Esp# 3 Dali ปั่นจักรยานเที่ยววัดชงเชิง และเจดีย์ 3 องค์ ชมทะเลสาปน้ำจืด เอ๋อไห่

Link:
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11213592/E11213592.html

[CR] Shangri-la, the Lost Horizon Esp# 2 Dali เยือนอาณาจักรน่านจ้าว

Link:
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11210158/E11210158.html

[CR] Shangri-la, the Lost Horizon Esp#1 The Begining

Link : http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11189383/E11189383.html

มาปาดก่อน...รอชมครับ

รอชมด้วยคนครับบบบบบ

ทริปนี้ไม่ค่อยได้เตรียมข้อมูลอะไรมากเลยครับ อ่านรีวิวจากหลายๆที่ คนที่จะไปด้วยกัน 6 คนครับฃ

ผมทำงานที่ดูไบครับ เมษายนก็เป็นเดือนพักร้อนของผม เป็นช่วงที่งานยุ่งรัดตัวมากๆ ตอนแรกเจ้านายไม่ยอมให้ลาครับ แต่ผมอ้งว่าผมจะไปทริปแชงกรีล่าเพราะจองตัวเครื่องบินและโรงแรมทุกอย่างไว้แล้ว (จริงๆยังไม่ได้ทำอะไรเลย 555) ก็เลยเลยตามเลย

วันทำงานวันสุดท้าย ตื่นเต้นสุดๆครับ ในที่สุดก็จบวัน จิตใจลอยไปถึงเมืองไทยแล้วครับ ไม่เป็นอันทำงานเลย 555 กลับบ้านแพ็คกระเป๋าอย่างรวดเร็วแล้วมุ่งหน้าไปแอร์พอร์ท ไปTG ครับ เครื่องออก 2 ทุ่มกว่า รีบแทบตายพอไปถึงพนักงานบอกไฟลท์ delayed ไปเป็น 4 ทุ่มครึ่ง แล้วก็เลื่อนไปอีกเป็นเที่ยงคืน โอ้โห..อารมญ์เดือดเลยสิครับ มีเรื่องโต้เถียงกับกราวน์ดฟิลิปปีนส์ของการบินไทยหยาบคายกับผู้โดยสารมากๆ ผมถามว่าบอร์ดดิ้งพาสมันโชว์เกตท์ผิด ผมไปรอที่เกตท์ที่อยู่สุดของอีกอาคาร แล้วผมต้องเดินกลับมาที่อีกด้านหนึ่งของอาคารที่ยาวโคตรๆ ผมได้รับคำตอบว่า "So What!"

อึ้งไปสักพักก็บอกเขาว่า ถ้าผมไม่ดูที่จอมอร์นิเตอร์ก็ไม่รู้ว่าคุณเปลี่ยนเกตท์โดยไม่แจ้งให้ผมทราบ ผมไม่ได้ยินประกาศอะไรเลย เบอร์โทรศัพท์ผมก็มีไม่เห็นโทรมาแจ้งผม ถ้าผมตกเครื่องคุณจะว่ายังไง เขาก็ตอบกลับมาว่า
"What Do You Want?" โอ้ว ช็อคสุดๆ ผมไม่เชื่อว่าผมจะได้ยินคำคำนี้จากปากของกราวน์ดต่างชาติของการบินไทย ผมเลยถ่ายรูป เขาก็มาห้ามไม่ให้ถ่าย แต่ผมก็ถ่ายแล้วผมก็จะส่งไปร้องเรียนกับการบินไทย แล้วก็เดินเข้าไปนั่งรอที่เกตท์ด้วยความอักอั้นกดดันและช็อคเอามากๆ แต่พอขึ้นเครื่องแล้วเล่าให้แอร์สาวสวยพูดจาเพราะหู แล้วก็ขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น อารมญ์ผมก็ลดลงอย่างสงบ จนบัดนี้ผมก็ไม่ได้ส่งเรื่องคอมเพลนแต่อย่างไร

7 ชม.ผ่านไป เห็นแสงอาทิตย์บนน่านฟ้าไทย ก็อุ่นใจแล้วครับ แต่เครื่องตกหลุมอากาศบ่อยมาก เสียท้องน่าดู หุหุ

เช็คอนเข้าพักที่ Le Meridien Bangkok ก็อย่างที่บอกล่ะครับ คือผมยังไม่ได้เตียมตัวอะไรเลย เมื่อคืนอยู่บนเครื่องก็ยังไม่ได้นอนเลย พออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ออกไปหาซื้อเป้เดินทางครับ ไปเดิน MBK ก็หาไม่เจอ สยามก็แพงไป เซ็นทลัลเวิร์ลก็ไม่ได้อะไร ไปถึงประตูน้ำนุ่นอ่ะก็ไม่ได้อะไรกลับมา สุดท้ายกลับไปสอยเอาที่ร้านที่ Siam Discovery โดนฟาดไป 6000 บาท เป้ใส่ได้ประมาณ 40 ลิตร แพงมากๆในที่สุดก้ไม่มีทางเลือกเลยต้องซื้อ

อาหารมื้อแรก อิอิอิ ข้าวหน้าปลาไหล ที่ Fuji @ Siam Paragon อาหารโปรด

ซื้อกล้องตัวใหม่ Sony NEX 5 ติดตัวไว้ ยังไม่รู้จักใช้เลย เวลามีน้อยก็ใช้แบบ ออโต้ตลอดทริป หุหุหุ

ตกเย็นมีนัดกินข้าวกับเพื่อนหลายกลุ่ม แทบจะแยกร่างได้เลยทีเดียว เวลามีน้อย นอนก็ยังไม่ได้นอน แถมต้องไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆอีก เที่ยวเสร็จเพื่อนยังมานั่งดื่มเหล้าที่ห้องพักผมอีกยันตี 4 อาบน้ำเก็บของ เอากระเป๋าเดินทางที่เหลือให้เพื่อนลากกลับคอนโดเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ เช็คเอาท์ออกทั้งๆที่ยังเมานิดๆ เหอ เหอ..

ตรงไปแอร์พอร์ทเพื่อจะไปขึ้นเครื่องของแอร์เอเชียไปเชียงรายไฟลท์เช้าสุดครับ

พอไปถึง เพื่อนผมก็มาไร่เรี่ยกัน ผมถามถึงคนที่เหลือ เพื่อนผมบอกว่า 3 คนแคนเซิลไปไม่ได้กระทันหัน อ้าวเฮ้ย...ตอนนั้นเหมือนรู้สึกลมพัดหวิวใบไม้ปลิวเลย...ไอ้ผมก็วุ่นเลยไม่ได้โทรไปถามเพื่อนพวกที่จะไปด้วยเสียด้วย เพื่อนผมก็บอกว่า อีกคนหนึ่งจะบินไปเจอกันที่คุนหมิงในอีก 2 วันข้างหน้า เราก็เออๆ

เพื่อนก็หลับปุ๋ยแต่ผมก็ไม่หลับ เพราะเป็นคนนอนไม่เคยหลับบนที่นั่งชั้นอีโคโนมี่ ยังไม่ได้นอนมากี่วันแระ อึดจริงๆผม 555

ถึงเชียงราย ก็นั่งรถรีมูซีนไปที่ บขส เชียงราย เพื่อนั่งรถโดยสารต่อไปยังชายแดนไทย-ลาว อำเภอ เชียงของ

สาวน้อยมานั่งข้างๆ ผมก็กลัวมาเธอจะตกลงไปเพราะนั่งอยู่ไกล้ประตูรถ ส่วนแม่เธอก็นั่งอีกฝั่งกับลูกชายตัวเล็กๆอีกคน รถก็โคลงเคลงไปตลอดทาง นอนไม่หลับเพราะตื่นเต้นกับเส้นทาง ส่วมเพื่อนผม นอนได้นอนดี นอนตลอดทาง

อ่านหลังสือไปด้วย ไม่ได้ขนหลังสือLonely Planetไปด้วยเพราะเล่มใหญ่ หนัก ผมก็เลยซื้อเป็นแบบ PDF โหลดมาไว้ใน iPad และ iPhone รวมทั้งพวกรีวิวต่างๆผมก็เซฟไว้ในแบบ off line ก็เอามาเปิดอ่านได้ แต่รถวิ่งกระตุกตลอดทางเลยอ่านแบบตายลายมากๆ 555

ถึงเชียงของก็หาเพื่อนแชร์ค่ารถ ได้เพื่อนชาวบลาซิลที่กำลังจะไปล่องเรือไปหลวงพระบางก็เลยหารค่ารถกัน ไปลงที่ด่าน ตม.

ผ่าน ตม.ไทยก็ไปขึ้นเรือข้ามไป ตม.ลาวครับ

.

ผ่าน ตม.ลาวก็ไปหารถ ตอนแรกว่าจะไปค้างคืนที่หลวงน้ำทา ค่ารถ 3000 บาท เลยไม่ไป ก็เลยเดินหาอาหารเช้าทาน ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ก็เข้าร้านเฝอ เหอ เหอ เหอ..ไม่อร่อยอย่างแรง..แต่ก็หมด 555

แล้วเราก็ตกลงกันว่าจะพักค้างคืนที่นี่ก่อน เลยเลยเดินหาที่พักใกล้ๆริมโขง ชื่อ ห้วยทรายแคมของ (ไทยอ่านว่า โขง)

คืนละ 500 บาท

บรรยากาศใช้ได้

ภายในห้องพัก ก็ไม่ได้expectedมากก็รับได้ครับ แต่ที่รับไม่ได้คือข้างของของพวกเราออกมากองเต็มเตียงเลย 555

ในห้องมี TV ตู้เย็น แอร์ครบ ดูTV ไทย สัญญาณโทรศัพท์ไทยก็ยังรับได้สะบาย

อาบน้ำนอนพักแป๊บเดียว บ่ายๆก็ออกไปจองตั๋วรถตู้ไปชายแดนบ่อหานพรุ่งนี้เช้า รถออกแปดโมงครึ่ง ซื้อตั๋วตรงร้านใกล้ๆกับ ตม.ลาวนั่นแหล่ะครับง่ายดี

แล้วก็เดินกลับมาทานอาหารกันที่ร้านอาหารของที่พักเรา ติดริมน้ำโขง จิบเบียร์ลาวเย็นๆ ชื่นใจ อิอิอิ

กับแกล้มครับ เป็นลาบสไตล์ลาว ขอบอกว่า ของoriginal ทำไมมันมันค่อยอร่อยเลย รสชาติไม่ถึงอ่ะ

ส้มตำก็หวานไป

ตอนเย็นๆก็เช่ารถไปเดินตลาดแลง หรือตลาดตอนเย็น ไม่มีอะไร แทบจะวิ่งออกมาเลยทีเดียวเพราะเป็นคนที่ีเกลียดแมลงวันมากครับ 555 ขอบอกว่ามันเยอะเอามากๆ สุดท้ายก็บอกคนรถให้จอดข้างริมโขงจะเดินกลับเองครับ เดินดูบ้านเรือนริมฝั่งโขง ชีวิตผู้คนโลคอลที่นี่เหมือนไทยสมัยก่อนมากๆ แอบปลื้ม..

หมูแดดเดียวทอด ซื้อแล้วเดินกินกันมาตามทางครับ อร่อยดี

เจอเจ้าหมาน้อยน่าสงสาร นอนตากแดดร้อนๆอยู่บนถนนคอนกรีต ตอนแรกๆมันก็เห่า บล๊อคๆ พอเดินเข้าไปใกล้ๆค่อยกระดิกหางใส่ อิอิอิ น่ารักแต่ไม่กล้าจับมัน

วิวริมฝั่งโขง ชมพระอาทิตย์ตกดิน สวยงามมาก...สงบจริงๆ

.

..

...

กลับมาถึงที่พักก็เอนหลังดูข่าวสักพักก็ออกมาหาไรทานก็เดินออกไปข้างนอก เป็นพวกบาร์ฝรั่งทีั้งหลายนั่นแหล่ะครับ แต่สุดท้ายก็กลับมาทานร้านเดิมที่โรงแรมเรานี่แหล่ะ วิวสวยกว่า

ผัดเผ็ดปลาดุกครับ รสและกลิ่นสมุนไพรยังไม่ถึง

แกงอ่อมปลาอะไรก็ไม่รู้ ก้างเยอะมาก แต่ไม่เป็นไรเพราะหิว อิอิอิ

ยังไม่เข็ด..สั่งลาบปลาแม่น้ำโขง..ไม่เผ็ดและไม่เปรี้ยวและเนื้อปลาบางชิ้นก็ใหญ่ๆแล้วก็เหนียวเหมือนจะยังไม่สุกเลยให้เขาเอาไปทำใหม่ สุดท้ายก็แหลกไม่ลง เลยหันมาดื่มเบียร์ลาวแทน

วิวแม่น้ำโขงครับ แสงไฟจากฝั่งไทย

ค่าอาหารเป็นแสน..555

อ้าว ลืม รีวิววัดที่ไปเดินเมื่อกลางวันอ่ะครับ

จำชื่อวัดไม่ได้แล้วครับว่าวัดอะไร อยู่ตรงข้ามทางเข้า ตม.อ่ะครับ

อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็น สิงห์ หรือว่า หมาวัด อิอิอิ

ลงชื่อรอ ตามไปด้วยครับ ทริปนี้ผม เลื่อนมา2ปีแล้ว Y_Y ฮือๆๆๆอยากไป

เป็นความโชคร้ายอย่างมหันต์ที่ขึ้นรถคันนี้ครับ เวลารถออก 08:30 แต่เอาเข้าจริงๆออกเกือบ 9:30 คนเต็มรถแล้วก็จอดทุกที่เพราะรับส่งของด้วย บนรถมีแม่ลูกอ่อนชาวลาวคนหนึ่งแกอ๊วกตลอดทาง แกเตรียมถุงมทาใส่อ๊วกโดยเฉพาะ เดี๋ยวอ๊วก เดี๋ยวอ๊วก เวลาลงจากรถตอนแวะพักนี่ ได้กลิ่นอ๊วกติดเสื้อผ้ากันทุกคน เหอ เหอ เหอ

ขับมาได้แป๊บเดียวก็แวะพักเพราะเป็นเวลาเที่ยง ก็จัดการเฝอเนื้อรองท้องก่อน

ผักเขียวๆ

มีเครื่องปรุงพิเศษสำหรับคอฮาร์ดคอร์ หุหุหุ (ผงนัว)

ผมเองอ่ะครับ เดินตากแดดวันเดียวเริ่มดำแระ อิอิอิ

เพื่อนร่วมชะตากรรมครับ นี่ขาเที่ยวตัวยงเลย ชีวิตนี้แทบจะไม่ต้องทำงานเลย ขนาดกลับจากทริปนี้ยังไปดำน้ำที่สิมิรัน แล้วไปเดินป่าที่ภาคเหนือต่อ อิจฉาเพื่อนจริงๆ อิอิอิ

เรามาถึงด่าน ตม.ลาว ประมาณบ่าย 4 โมงกว่าๆ ครับ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เวลาที่จีนก็ใกล้จะ 6 โมงเย็นแล้ว ด่านปิด หกโมงเย็น ตอนอยู่บนรถก็กังวลมากๆเพราะคนขับขับรถช้ามากๆ และจอดหลายที่ แถมไปส่งคนที่หลวงน้ำทาอีก ลุ้นมากๆว่าจะทันไหม สุดท้ายก็เฉียดฉิว...

ผ่าน ตม.ลาว ที่บ่อหาน จ่ายตังค์ คนละ 20 บาทค่าอะไรก็ไม่รู้ แต่ช่างมันแค่นั้น ก็เดินขึ้นรถคาร์ทไฟฟ้าต่อไปที่ ตม.จีน โหม่วฮั่น ค่ารถคนละ Y2

ด่าน ตม.ลาวที่จีนสร้างให้ อลังกาลมากๆ

ผ่าน ตม.จีน แล้วก็ช็อคเล็กน้อยเพราะเหมือนอยู่คนละโลก เพราะคุยจีนไม่รู้เรื่อง แต่ก็ดาวโหลด ท็อคกิ้ง ดิคชั่นเนอรี่จีน ลง iPhone ลงทุนไป 30 กว่าดอลล่าห์  หุหุหุ

เอาล่ะดิ ไปไหนต่อ หลังจากผ่าน ตม.มาแล้ว ก็ถึงแก่ทางตัน ตามแผนที่คิดไว้คือไปขึ้นรถเที่ยว ทุ่มกว่าไปคุนหมิงที่เมืองเมิงล่า แต่ไม่รู้จะไปทางไหน เจอแท็คซี่ก็บอกว่าจะไปเมิงล่า แท็คซี่ก็บอกว่า 190 หยวน ก็ไม่โอเคอ่ะ เลยเห็นรถบัสจอดอยู่ แต่พอทราบว่าไปเมิงล่าใช้เวลาประมาณ 2 ชม. แล้วเราจะไปทันเหรอ ยิ่งไปกับรถเมล์คงไม่น้อยกว่า 3-4ชม.แน่ๆ

เอาไงเอากัน ถ้าไม่ทันคงต้องค้างคืนที่นั่น..แต่อยู่ดีๆก็มีเสียงผู้หญิงจีนคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างหน้าต่างนอกรถตะโกนบอกว่า เมิงล่า ซานฉือควั่ย อ่ะ!หูแว่วไปป่าว แล้วเธอก็ชี้ไปที่รถของแก ซึ่งผมก็เดาได้ว่าแกเป็นคนขับรถแท็คซี่แน่นอนเพราะแกใส่ชุดยูนิฟอร์มอยู่ พวกผมก็ไปก็ไป ก่อนอื่นขอบอกว่าเพื่อนผมภาษาจีนไม่กระดิกเลย เชื้อจีนไม่ได้ช่วยอะไรเลย งานหนักตกอยู่ที่ผมซึ่งก็ไม่ค่อยจะแตกต่างมากนักแต่ก็พอถูๆไถๆไปได้ เหอ เหอ เหอ

สุดท้ายก็หอบเป้ขึ้นรถไปกับเธอ เธอชวนคุยตลอดทาง เป็นคนดีคนแรกที่ช่วยเหลือเราครับ

บ้านเรือนคล้ายๆไทย แฮะ

.

..

ความซวยเริ่มมาเยือนแล้วล่ะครับ เมื่อพี่ผู้หญิงขนขับถามว่าจะไปเที่ยวไหนกัน ผมก็บอกว่าจะไปเที่ยวจงเตี่ยน (แชงกรีล่า) แต่จะไปขึ้นรถไปคุมหมิงก่อน

แล้วแกก็ถามว่าแล้วจองตั๋วรถไว้หรือยัง เราบอกว่ายัง
อ้าว แล้วรถไม่เต็มเหรอ แกถาม
เราก็บอกว่าไม่รู้ แกก็เลยโทรไปถามบริษัทรถให้ว่ารถเที่ยวสุดท้ายไปคุนหมิงเต็มหรือยัง ปรากฏว่าเต็มครับ ตอนแรกเราไม่เชื่อ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าคนจีนเจ้าเล่ห์ขนาดไหน เรายืนยันว่าจะไปดูที่ท่ารถให้ได้ แกก็พูดออกมา จนผมรู้สึกได้ว่าแกพูดจริงๆ ผมจึงไว้ใจเธอ แล้วเราก็เปลี่ยนแผนนั่งรถเธอไป จิ่งหงส์ แทน ด้วยราคาที่ต่อไม่ได้แล้วคือ 300 หยวน ตอนแรกก็คิดว่าคงโดนฟันแล้ว แต่เมื่อไปถึงจิ่งหงส์แล้วค่อยรู้ว่าแค่ 300 หยวนกับการเดินทาง สองร้อยกว่า กิโลเมตรนี่คุ้มมากๆ ไม่นึกว่ามันจะไกลขนาดนั้น

ระหว่างทางแกก็จะพยายามจอดรถรับคนเพิ่ม จะเพิ่มยังไงล่ะเนี่ย ที่นั่งด้านหลังก็เต็มสองคนแล้ว เหลือแต่ที่นั่งข้างคนขับที่เดียว

เจ๊แกพาลัดเลาะตามทางเล็กๆ นึกว่าจะพาพวกผมไปปล้มซะแล้ว มารู้ทีหลังก็ตอนที่ออกจากช่องทางเล็กๆไปสู่ทางด่วนนั่นเอง โดยไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง 555 ยกนิ้วให้แกเลย

วิวรายทาง

ถึงเมืองเมิงล่า เจ๊แกก็เข้าไปรับผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นรถมา เธอจะไปจิ่งหงกับเาด้วยครับ สวยซะด้วย 555

ลืมรูป

ป้ายรถเมล์ ออกแนวๆศิลปะพม่านะครับผมว่า..สวยดีแฮะ

ผ่านอุโมงค์มากมาย ท้องฟ้าเริ่มมืด ในใจก็กังวงว่าเราจะไปถึงสถานีขนส่งทันเวลาไหม เจ๊แกโทรไปจองตั๋วรถเที่ยว 3 ทุ่มกว่าให้แล้ว แต่ก็อดพะวงไม่ได้เพราะยังไม่เห็นวี่แววของเมืองเลย มีแต่ป่ากับอุโมงค์ผาเมือง

แวะเข้าห้องน้ำข้างทาง พวกผมไม่ลุกออกจากรถเลย เพราะเห็นทั้งคนขับและสาวน้อยคนนั้นเดินกันเข้าไปในห้องน้ำเล็กๆข้างทาง ได้ยินกิตติศัพท์เรื่องห้องน้ำเลยคิดว่าจะไปเข้าในเมืองเอา 555

และแล้วเราก็มาถึงเมืองจิ่งหงส์จนได้ นั่งรถนานมากๆ เมืองใหญ่น่าดู อาคารบ้านเรือนเป็นสไตล์ไทยๆทั้งนั้นเลย สวยแปลกตาดี ที่แปลกตาคือ มันเป็นแบบไทยเว่อร์ๆเกินไปหรือเปล่า แต่ก็ดีครับที่เขาโปรโมตวัฒธรรม คงคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในต้นตระกูลไทยอะไรประมาณนั้น ทุกอย่างเลยออกมาแบบไทยๆที่ดูเว่อร์ๆ

..

...

....

ถึงเสียที สถานีขนส่งเมืองจิ่งหง สายใต้...ลงรถก็จ่ายตังค์ 300 ตามที่ตกลงไว้ แล้วแกก็พาเราไปซื้อตั๋ว

งง กับ งง อ่านไม่ออก...แต่โช็คดีที่เจ๊คนขับแท็คซี่มาช่วยซื้อตั๋วให้

ซ้ำ

เนื่องจากเรามาถึงก่อนเวลาเลยสอยตั๋วรถมาได้เวลาที่เร็วขึ้น โชคดีที่รถยังไม่เต็ม

ซื้อตั๋วเสร็จเราก็รีบบอกขอบคุณและลาเจ๊ใจดีของเราขึ้นรถเลย แก็ทำหน้าเจื่อนๆยังไงชอบกล เหมือนน้ำตาจะคลอเบ้า แล้วก็เดินขึ้นรถโดยสารไป แต่เมื่อมองดูเวลาว่ายังเหลืออีกอยู่กว่า 1 ชม เลยรีบยกเป้แบกขึ้นหลังอีกรอบ ไม่กล้าเอาฝากไว้ที่ใต้ท้องรถเพราะกลัวถ้าตกรถขึ้นมาเราจะลำบาก เลยต้องหอบเป้หนักๆออกไปหาไรทานกันด้านนอกสถานี ฝั่งตรงข้ามถนน เลยเลือกร้านนี้แหล่ะใกล้ดี

ตอนนี้รู้สึกเสียใจขึ้นมาครับว่าเราน่าจะเชิญอาเจ๊คนขับรถแท็คซี่ผู้มีน้ำใจช่วยเหลือเรา อยากจะเชิญแกมาทานข้าวด้วยกันคือตอนนั้นใจร้อน อยากจะขึ้นรถอย่างเดียว ถ้าเจแกอีกครั้งจะเลี้ยงอาหารแกอย่างดีเลยครับ (^_^)

เราเลือกร้านนี้เพราะคนนั่งเยอะแสดงว่าอาหารอร่อย..

ตอนนั้นต้องทำเวลาเลยต้องสั่งแบบเสร็จเร็วๆเลยสั่งผัดผักกับปลาย่างมา 2 อย่าง ระหว่างรออาหารก็ขอไปเข้าห้องน้ำ อั้นเบามานาน

ตกใจ..ไอ้หย๋าาาา...แต่ก็เคยเห็นส้วมแบบนี้มาแล้วตอนที่แวะปั๊มที่ลาว เลยทำใจได้ และโชคดีที่ยังไม่ได้เห็นแบบที่ใครๆเล่าขานตำนานส้วมของจีน

ทำใจไม่มอง เดี๋ยวทานข้าวไม่ลง 5555

อาหารมาแว้ว...

อาหารตาก็มี ดนตรีก็เพราะ 2 สาวหมวยหน้าใส มาร้องเพลงรับจ้างแบบ คาราโอเกะ ออน ดีมานด์ อยากได้เพลงไรพวกเธอจัดให้ เสียงดีเสียด้วย หุหุหุ

หิวจัด ผักผักอร่อยที่ซู๊ดดด...ปลาย่างก็งั้นๆแหล่ะครับ แต่เกลี้ยง 555

ท้องอิ่มแล้วก็แบกเป้กลับไปที่บัส สเตชั่น

สภาพบนรถนอนปรับอากาศครับ ผมและเพื่อนได้ที่นอนด้านท้ายสุดของตัวรถ เราเลือกเตียงล่าง เพราะเห็นว่าเป็นเตียงที่แพงสุดและคิดว่ามันคงจะสะบาย แต่ได้อ่านในรีวิวไว้ว่าเบาะนอนสกปรกและมีกลิ่นสาบๆเหมือนผ้าไม่แห้ง ก็เลยไม่ห่มผ้าห่มเลยครับ เอาผ้าห่มมารองตัวนอนและฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อที่เอาไปด้วย ตามด้วยน้ำหอมนิดหน่อย อิอิอิ (มากไปป่าว?)

ไฟลท์นี้เป็นไฟลท์ปลอดบุหรี่ครับ เพราะโชคดีที่ไม่มีคนสูบบุหรี่เลยในรถ โชคดีของเรามากๆ

รถเริ่มออกจากท่าแล้วครับ วิวตอนกลางคืนที่นี่คึกคักน่าดูเพราะเป็นช่วงปีใหม่ หรือสงกรานต์ครับ น่าเสียดายที่เราไม่ได้อยู่เล่นสงกรานต์ที่แคว้นสิบสองปันนาแห่งนี้

หลับๆตื่นๆ เพราะกลัวมิจฉาชีพแอบแฝงมาในรถ อาจจะแอบมาฉกเอาของมีค่าเราได้ตอนเราหลับ  จริงๆก็คงไม่มีอะไร กลัวไปเองล่ะครับ

อาหารว่างบนรถ อิอิอิ

ในที่สุดก็มาถึงคุนหมิงจนได้

สถานีรถขนส่งครับ ใหญ่ไม่ใช่เล่น เดินขึ้นไปเข้าห้องน้ำบนชั้น 2 จะเลือกไปที่สำหรับยืนฉี่เอาครับ กลั้นใจกึ่งเอาผ้าปิดจมูกและเงยหน้าขึ้นเพดาน จนกว่าจะเสร็จกิจ ยังทำใจไม่ด้ายยย...555

ต้องไปเจอเพื่อนร่วมเดินทางอีกคนครับ เขาพักที่ตึกนี้ ติดกับ ห้างใหญ่ หวังฝูจิ่ง

เป็นห้องพักรวม แต่ไม่มีใครนอกจากเพื่อนคนเดียวครับ เลยอาบน้ำ ล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า

ห้องนั่งเล่น

...

วิวจากระเบียง

..

วิวจากห้องพัก

เดินลงไปหาอาหารเช้าทานครับ อากาศหนาวๆในตอนเช้า ผมชอบมาก

เนื้อไก่ครับ ไม่ทราบว่าเรียกว่าอะไร

เมืองใหญ่เจริญเอามากๆ แต่ช้อนซูปไม่ค่อยเจริญสักเท่าไหร่ สงสัยใช้มาร้อยกว่าปีแระ น่ากลัวจริงๆ เหอ เหอ เหอ

.

รถมอร์ไซด์แกเท่ย์จริงๆ

อาหารเช้าไม่ถูกปากเลยซื้อปีกไก่กลับมากินที่ห้องพัก

ปีกไก่ดูเหมือนจะอร่อยแต่เหนียวมากๆ บ่นไปงั้นแหล่ะแต่ก็หมด 555

โถสุขภัณท์อย่างดี เลยรอดตาย อิอิอิ

ขอจบรีวิวตอนที่ 1 ไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ จากทั้งหมดประมาณ 10 ตอนครับ ทริปนี้ยาวววววครับ คืนนี้ ราตรีสวัสครับ...(^_^)/

เชียร์หงส์อ่ะ
สายลมแห่งวิงค์
เปิดมาเป็นกล่องเปล่าซะงั้น
+++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณครับ รอชม ตอนที่ 2 เร็วๆนี้ครับ ตอนถัดไปเป็นทริปเดินทางต่อไปยังเมือง ต้าหลี่ ครับ อยู่ที่ต้าหลี่ 3 วัน 2 คืน ชอบมากที่นั่น

@  สนุกมากครับ .. มันส์แบบนี้ เสียดายอย่างเดียว คือ รีวิวช้าไปนิดนึง
    ไม่งั้นได้มีการลอกทริปกันบ้าง .. รอตามต่อจนจบครับ ..

ดูไว้ก่อน จะไปกุมภา.. ท่าทางจะหนุกแฮะ..

น่าจะมันส์ครับแบบนี้  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

ท่าทางน่าสนุกจังเลยครับ อยากไปเที่ยวแบบนี้บ้างครับ

ปูเสื่อรอชมตอนต่อไปค่ะ
อยากไปเที่ยวแบบนี้มั่งจังเลย

@ซิ่วฮุ่ย @ Destiny-Boy : สักวันฝันต้องเป็นจริงครับ พยายามเข้าน้าาาา (^_^)/

@Witty Nakhon: Feb คงจะหนาวน่าดู ประกอบกับเป็นช่วงตรุสจีน ถ้าไม่ชอบความคึกคัก อัดแน่นด้วยผู้คนแล้วล่ะก็ ผมว่าคงไม่เหมาะ แต่ถ้าชอบ ก็ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ

@ เล็กทาโร่: ตามมาเที่ยวด้วยกันเลยครับ (^_^)

@ MRBIG173: ขออภัยครับที่มารีวิวช้าไปหน่อยครับ งานยุ่งครับ

รีวิวอ่านสนุกดีค่ะ

ขอเกาะกระทู้เที่ยว ด้วยคนครับ

ตรุษจีนปีหน้าเป็นช่วงปลายมกราคมครับ.. หลีกลี้จากตรุษจีน ไม่อยากไปแย่งกับคนจีน สู้เขาไม่ได้แน่ๆ.. แต่หนาวอ่ะหนาวชัวร์ครับ..

น่าสนุกนะครับ ขอบคุณครับ

@WittyNaKhon: ใครว่ามีแต่ทัวร์จีนครับ ขอกว่าคนเยอะมากๆ โดยเฉพาะแถวลี่เจียง กับยอดเขาหิมะมังกรหยก ไปไหนๆก็เจอแต่ทัวร์ไทย

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ

สนุกแฮะ  ... สิบล้อเริ่มชอบตั้งแต่หลอกเจ้านายแล้ว ( ...เป็นวิธีเดียวกันกับที่เราเคยใช้ ..)

จะรอดูตอน 2 ต่อ

ติดตามชมครับ อยากไปลุยเดี่ยวบ้าง แต่ภาษาจีนไม่กระดิกเลยซักนิด เจอตั๋วภาษาจีนเข้าไปก็งงแล้ว

แวะมาชมและมาตามไปเที่ยวด้วยครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

review สนุกดีครับ ขอตามไปด้วยคน ชอบมาก ทำได้ละเอียดดีคับ

เมื่อคืนหลังเลิกงานว่าจะกลับไปทำรีวิวตอน 2 ต่อ แต่เวปพันทิพย์ปิดปรับปรุงเสียก่อน เย็นนี้จะทำรีวิวต่อ รอชมได้วันพรุ่งนี้เช้านะครับผม (^_^)

ขอบคุณรีวืวสนุกมากค่ะ

รับรองสนุก มันส์ ครบทุกรสชาติชีวิตเลยล่ะครับ คอนเฟิร์ม P(^_^)

วางแผนจะไปทริปนี้ตั้งแต่ปี 4 อ่านหนังสือไกด์จบไป 3 เล่ม

ตอนนี้เรียนจบมาห้าเดือนแล้ว ยังไม่ได้ไปเลย ได้งานซะก่อน

เจอรีวิวนี้เข้าไป ต่อมอยากเริ่มทำงาน ฮี่ๆๆ

VW ME ใจเย็นๆครับ ไปเมื่อใหร่ก็ได้ สวรรค์ที่นุ่นยังรอคุณอยู่เสมอครับ (^_^)

สนุกครับ ต่อเลยๆ

น่าไปยิ่งนัก สงสัยต้องไว้ขอลอกทริปบ้างแล้วครับ แต่ช่วงแรกไม่มีเงินไปนอนแบบนั้น 5 5 5 5+

เมื่อกี้ทำรีวิว ตอนที่ 2 ไปแล้วแต่รูปที่ออกมาเป็นแบบเบลอๆเลยขอลบกระทู้นั้นไป วันหลังจะรีวิวให้ชมนะครับ คืนนี้คืนวันศุกร์ ได้เวลาออกไปสังสรรค์แล้วล่ะ อิอิอิ

สนุกมากครับ ติดตามตอนต่อไปนะครับ

จะทำรีวิวตอนที่ 2 วันอังคารนี้นะครับ อย่าลืมติดตามชม (^_^)

ตลาดวายหรือยังค่ะ  รีวิวได้สนุกดีค่ะ  รอ  ติดตามชมตอนต่อไป

เป็น review ที่สนุกและได้ feel มาก

perfect

great

thank you

แจ่มมากครับ ทริปน่าสนใจ

ขอบคุณครับ เดี๋ยวว่างๆจะไปบ้างครับ อยากไปมานานนนนแล้ว ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^

ตามมาอ่าน สนุกดีค่ะ อยากไปเที่ยวแบบนี้บ้างจัง แต่คงลายากส์