ภูเก็ต เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีลักษณะต่างจากจังหวัดอื่นอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่พื้นที่ของจังหวัดทั้งหมดเป็นเกาะกลางทะเล
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานับแต่เกิดสึนามิ ภูเก็ตก็เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งโรงแรมหรู รีสอร์ทดัง ต่างทยอยเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่อง แต่รีวิวในครั้งนี้จะไม่ได้พาไปรีวิวพักแต่จะเน้นพาไปรีวิวที่เที่ยวมากกว่า
ตัวจขกท.เองเลือกที่จะพักบนเกาะภูเก็ตสองคืน จากนั้นก็ไปพักบนเกาะสิมิลันอีกสามคืน ดูเหมือนว่าจะนาน แต่พอถึงวันที่ต้องกลับก็ไม่อยากกลับซะงั้น

ไปถึงภูเก็ตวันแรกที่ขาดไม่ได้ก็ต้องไปแหลมพรหมเทพ  การเดินทางไปแหลมพรหมเทพถึงแม้จะใช้เวลาไม่นานนักจากตัวเมือง แต่แนะนำว่าควรไปถึงก่อนช่วงพระอาทิตย์ตกประมาณสักชั่วโมง เพราะจะได้มีที่จอดรถสะดวก ๆ และก็มีเวลาเดินเล่นถ่ายรูปอะไรเรื่อยเปื่อย

สิ่งสำคัญที่อยู่บนแหลมพรหมเทพอีกอย่างก็คือ ประภาคาร ซึ่งเป็นหอคอยสูง ประภาคารนี้ได้สร้างขึ้นมาใหม่ในช่วงเฉลิมฉลองกาญจนาภิเษก 50 ปี มีชื่อว่า “ ประภาคารกาญจนาภิเษก ” และตรงจุดนี้ก็เป็นที่รายงานเวลาพระอาทิตย์ตกของประเทศ ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ในช่วงข่าวตอนเย็นๆ  

แหลมพรหมเทพจัดเป็นหนึ่งใน จุดชมอาทิตย์ตกก่อนใครที่สวยที่สุดในเมืองไทย เป็นแหลมที่อยู่ใต้สุดของเกาะภูเก็ตห่างจากตัวเมืองประมาณ  20 กม.มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล มีต้นตาลขึ้นเรียงราย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวภูเก็ต พอช่วงตกเย็นก็จะพากันมาชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ โชคดีที่วันนี้อากาศดี ฟ้าเปิดทำให้เห็นพระอาทิตย์ตกที่นี่ชัดเจน

มองไปด้านขวาของแหลมพรหมเทพ จะเป็นหาดในหาน ซึ่งเอกลักษณ์ของหาดนี้ก็คือ “หาดในหาน” ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งจอดเรือยอร์ช จนชื่อโรงแรมที่หาดในหานโดยส่วนใหญ่จะต้องมีคำว่า “ยอร์ช” เป็นชื่อประกอบด้วย

วันรุ่งขึ้นก็เริ่มตระเวนหาของอร่อย ๆ กินในภูเก็ต ทั้งอาหารพื้นเมืองท้องถิ่นอย่างหมี่สะปำ โอ้วเอ๋ว หรือแม้แต่อาหารทะเลอร่อย ๆ สด ๆ

จากนั้นก็แวะไหว้พระที่วัดพระทอง ซึ่งตำนานเรื่องการกำเนิดของพระผุด นั้น ไม่ปรากฏที่มาที่ไปชัดเจน แต่ในนิทานพื้นบ้านได้เล่าถึงกำเนิดของพระผุดเอาไว้ว่า มีเด็กคนหนึ่งนำควายไปผูกล่ามไว้กับหลัก พอกลับถึงบ้านเด็กและควายก็ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจากนั้นพ่อเด็กก็ฝันว่าลูกชายของตนได้นำควายไปผูกไว้ที่พระเกตุมาลาก่อนจะเสียชีวิต รุ่งขึ้นจึงไปดูจึงรู้ว่าเป็นพระพุทธรูป แต่ก็ขุดได้เพียงครึ่งองค์เท่านั้น ซึ่งในยุคที่พม่าบุกยกทัพเข้าตีเมืองถลาง ก็ได้พยายามที่จะขุดเอาพระผุด แต่พอขุดก็ไปเจอมดคันพิษและต่อแตนต่อย ทำให้ขุดไม่ได้

ครั้นต่อมา มีพระธุดงค์มาปักกลดแถวนั้น เมื่อเห็นพระผุดจึงได้สร้างโบสถ์ขึ้นคลุมพระผุด พร้อมๆกับอันเชิญเป็นพระประธานของโบสถ์ และนี่อาจจะเป็นพระประธานหนึ่งเดียวในโลกที่มีเพียงครึ่งองค์ก็ว่าได้

ในปัจจุบันพระผุด ที่โบสถ์วัดพระทองจะมีอยู่ด้วยกันสอง(ครึ่ง)องค์ คือ องค์ใหญ่ซึ่งสร้างขึ้นครอบองค์จริงที่ผุดขึ้นมาจากดินอีกที ส่วนองค์เล็กสร้างขึ้นบนฐานเอาไว้ให้คนทั่วไปปิดทอง ด้วยความโดดเด่นแปลกตาไม่เหมือนใคร ทำให้หลายปีก่อนทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) คัดเลือกพระผุดวัดพระทอง เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวUnseen Thailand ของจังหวัดภูเก็ต


..

หลังจากไหว้พระแล้วก็ขับรถเลาะตามถนนเลียบหาดเริ่มต้นจากหาดป่าตอง หาดป่าตอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 15 กิโลเมตร นับว่าเป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต เป็นชายหาดที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย ไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ป่าตองจึงเป็นหาดที่มีผู้นิยมมาเยือนมากที่สุด

ร่มชายหาดริมหาดป่าตองเรียงกันเป็นระเบียบเชียว

นักท่องเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติ ทั้งจากเอเชียและยุโรป

..

ขับรถเลยมาอีกหน่อย ก็จะเห็นน้ำทะเลใส ๆ


..

อันนี้เป็นถนนเลียบหาดกะรน หาดกะรนเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดในเกาะภูเก็ต อยู่ถัดจากหาดกะตะไปทางเหนือ มีเพียงเนินเขาเตี้ย ๆ คั่นอยู่เท่านั้น เหนือชายหาด มีสนทะเล และต้นตาลขึ้นเรียงรายอยู่โดยทั่วไป บริเวณหาดมีเม็ดทรายที่ขาวและละเอียดมาก บริเวณหาดมีคลื่นลมแรง จึงไม่เป็นที่นิยมในการเล่นน้ำมากนัก นักท่องเทียวนิยมนอนอาบแดด เดินผ่อนคลายบริเวณริมหาดเป็นส่วนใหญ่ บริเวณหาดยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพรียบพร้อม แหล่งช้อปปิ้ง และร้านค้าอยู่บริเวณวงเวียนด้านขวาสุดของหาด รวมทั้งสถานบันเทิงยามค่ำคืนอีกด้วย


..

จุดชมวิว3อ่าว เป็นจุดชมทิวทัศน์ยอดนิยมเช่นเดียวกับแหลมพรหมเทพ นักท่องเที่ยวนิยมมาแวะพักชมทิวทัศน์ที่นี่ ก่อนจะไปชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ การชมท้องทะเลจากมุมสูงหรือ bird’s eye view ให้อารมณ์และบรรยากาศที่ต่างกับการยืนชมวิวหน้าหาดมากมาย

จุดชมวิวมีลักษณะเป็นเนินเขาสูง ด้านบนมีศาลาเล็กๆ ให้ขึ้นไปชมวิว แต่บริเวณด้านล่างที่ลานจอดรถก็มองเห็นทิวทัศน์ได้ดีเช่นกัน จากจุดนี้จะมองเห็นหาดสามแห่ง หาดที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุดคือหาดกะตะน้อย ถัดไปเป็นหาดกะตะ และหาดกะรนตามลำดับ ชายหาดดังกล่าวมีลักษณะเป็นอ่าวเว้าแหว่ง โค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวติดต่อกันสามอ่าวโดยมีโขดหินเป็นแหลมคั่นอยู่แต่ละหาด เข้าใจว่าเนื่องจากคลื่นลมมรสุมกัดเซาะทำให้แผ่นดินเว้าลึกเข้าไป

วันนี้ฟ้าใสมากมาย แบบนี้ไม่แน่ใจว่าวันรุ่งขึ้นไปเกาะแล้วฝนจะกระหน่ำหรือเปล่าก็ไม่รู้


..

ตกบ่ายเราก็เข้าไปหาซื้อของฝากในเขตเทศบาลเมืองภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกกุ้งเสียบ ขนมเต้าส้อ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ จากนั้นก็เลยตระเวนถ่ายรูปบรรดาตึกเก่าที่ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านการค้าเก่าแก่ของเมือง ตึกเหล่านี้มีอายุยาวนานนับร้อยปี และมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนจนเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองภูเก็ต ตึกเก่าเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วตัวเมืองภูเก็ต สามารถเดินชมได้เรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตึกเก่าเหล่านี้จะกระจายอยู่ทั่วเมืองเมืองภูเก็ต แต่ย่านที่มีอาคารเก่าหนาแน่น คือ ถ. ดีบุก กระบี่ ถลางและเยาวราช เนื่องจากถนนเหล่านี้เป็นย่านเก่าของภูเก็ต


..

คนภูเก็ต เค้าจะเรียกทั้งหญิงและชายว่า บาบ๋า (Baba)

แต่ทางมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จะเรียกผู้หญิงว่า ย่าหยาหรือยอนย่า (Nyonya) เรียกผู้ชายว่า บาบ๋า


คำว่า ย่าหยา สำหรับคนภูเก็ตจะหมายถึงเสื้อที่ผู้หญิงสวมใส่ประเภทหนึ่ง

..

วันรุ่งขึ้นเรารีบขับรถกันไปแต่เช้าไปถึงท่าเรือทับละมุประมาณเจ็ดโมงได้ นั่งรอเรืออยู่สักพักเค้าก็เรียกขึ้นเรือกัน อากาศวันนี้ปลอดโปร่งมากมาย ฟ้าใส ๆ ทะเลสวย ๆ จริง ๆ มีทางเลือกมากมายสำหรับทัวร์ไม่ว่าจะเป็นเกาะตาชัย เกาะสุรินทร์ หรือสิมิลัน แต่พวกเราลงความเห็นกันแล้วว่า พวกเราไม่เน้นดำน้ำสักเท่าไหร่ อยากพักผ่อนเรื่อย ๆ สบาย ๆ บนเกาะมากกว่า ก็เลยตัดสินใจเลือกมาสิมิลันเนี่ยแหละ


หมู่เกาะสิมิลัน อยู่ในเขตจังหวัดพังงา เป็นหมู่เกาะ 9 เกาะท่ามกลางทะเลลึก ที่วางตัวเรียงรายตามแนวยาวเหนือ-ใต้ มีความสวยงามสุดยอดทั้งเหนือผิวน้ำและใต้ท้องทะเล แนวปะการังของสิมิลันแผ่กระจายอย่างหนาแน่นและมีความหลากหลาย โดยเฉพาะทางทิศตะวันออก มีจุดดำน้ำตื้นและน้ำลึกที่น่าสนใจมากมาย ด้วยเหตุนี้เองหมู่เกาะสิมิลันจึงมีความสำคัญในฐานะเป็นแหล่งดำน้ำลึกที่มีคุณภาพสูงที่สุดของประเทศไทย


..

เราเข้าพักกันที่บ้านพักของอุทยานฯบนเกาะสี่ ตกเย็นก็ไปดูพระอาทิตย์ตกที่หลังเกาะ ต้องปีนป่ายกันพอสมควร ยุงเยอะมาก ๆ แถมตัวก็ใหญ่มากด้วย เสียดายวันนี้มีเมฆบัง มองไม่เห็นพระอาทิตย์กลม ๆ


..

รุ่งขึ้นก็ขึ้นเรือของอุทยานไปดำน้ำกัน  จำไม่ได้ว่าพาไปตรงไหนกันบ้าง แต่ที่แน่ ๆ น้ำใสมากมาย  เห็นจนถึงทรายใต้น้ำเลย  


..

จากบนเรือมองไป สวยมาก ๆ  น้ำใสกิ๊กเลยอ่ะ


..

แค่ดำสน๊อกเกิลก็สวยมากแล้ว



...




..

น้ำทะเลสีฟ้าสดมาก ๆ ..



..





..

ใสจริง อะไรจริง ปลาเล็กปลาน้อยเพียบเลย ..  

หินรูปร่างแปลก ๆ เพียบเลย ..


..




..

สักพักเรือก็พาเรามาถึงเกาะแปด หรือเรียกอีกชื่อว่า เกาะสิมิลัน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน ลักษณะอ่าวเป็นรูปโค้งเหมือนเกือกม้า มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส เป็นเกาะที่สามารถดำน้ำทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น และทางด้านเหนือของเกาะมีก้อนหินขนาดใหญ่ รูปร่างแปลกตา เช่น หินรูปรองเท้าบู๊ท หรือรูปหัวเป็ดโดนัลด์ดั๊ก ตอนบนที่ตรงกับแนวหาดมีหินรูปเรือใบ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่จะมองเห็นความสวยงามของท้องทะเลได้กว้างไกล  

ซูมเข้าไปชัด ๆ บนหินเรือใบ ดูขนาดของหินเมื่อเทียบกับคนสิ เดี๋ยวเราจะขึ้นไปบนนั้นกัน



..




..

มุมมองหน้าหาดจากหินเรือใบ เห็นแล้วรู้สึกชัดเจนถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เมื่อเทียบกับมนุษย์ตัวเล็ก ๆ แล้ว ดูเหมือนว่าเวลาที่ธรรมชาติทวงคืน เราคงไม่สามารถเอาชนะได้เลยนะ


..


..

นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่เพิ่งจะมาถึง ..




..

ส่งนักท่องเที่ยวเสร็จก็ออกไปรับกรุ๊ปใหม่ ..





..

ทะเลไทยงดงามจริง ๆ ..



..

ตกเย็นกลับมาดูพระอาทิตย์ตกที่เกาะสี่ที่พักของเรา คราวนี้ไม่ดั้นด้นไปปีนป่ายแล้ว ดูมันลับตาตรงหน้าหาดนี่แหละ


.




..

แสงสีแดงสวยดีจัง



..

วันรุ่งขึ้นวันนี้ขอสบาย ๆ อยู่บนเกาะสี่สักวันเต็ม ๆ นะ วันนี้ก็เล่นน้ำ ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย หาดเล็กหลังเกาะสงบเงียบมากมาย น้ำทะเลก็ใสมาก ..




..



..

..

ชอบคับชอบ สิมิลัน

ไม่ได้ไป3ปีแระ

ปีนี้กะไปสอยทั้งสุรินทร์ ทั้ง สิมิลัน

เห็นแล้วซี๊ดดเลย อิอิ

มีปูตัวเล็ก ๆ ด้วยนะ ..



..



.

หาดเล็กอันเงียบสงบ กับฟ้าใส ๆ  




..

ปิดท้ายทริปด้วยรูปหน้าหาดบนเกาะสี่จ้า ..


..

อีกเดือนกว่า ๆ เกาะสิมิลันก็จะได้เวลาเปิดเกาะแล้ว หลังจากปิดให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม อย่างน้อยรีวิวนี้ก็คงจะมีส่วนทำให้ใครได้ข้อมูลไม่มากก็น้อยสำหรับการท่องเที่ยวบนเกาะ รวมที้งทริปดำน้ำ ส่วนใหญ่ถ้าซื้อกับทัวร์เจ้าประจำแล้วก็จะไม่มีปัญหาอะไรให้วุ่นวาย เพียงแต่อาจจะต้องเตรียมตัวไปลำบากบ้างเล็กน้อย เพราะที่พักบนเกาะ ถ้าเป็นบ้านพักอุทยานก็ต้องเดินขึ้นลงซึ่งก็มีความสูงชันพอสมควร ถ้าเป็นไปได้แนะนำว่านอนเต๊นท์สบายที่สุด ถ้ารับเรื่องห้องน้ำรวมได้นะ แนะนำว่าถ้าไปพักบนเกาะได้จะดีมาก ถ้าเป็น  one day trip ส่วนตัวคิดว่ามันน้อยเกินไป สำหรับธรรมชาติที่สวยงามขนาดนี้  ในหนึ่งปีให้รางวัลกับชีวิตบ้าง นอกจากไปพักรีสอร์ทหรู ๆ เก๋ ๆ แล้ว ก็หาเวลาหาโอกาสมาใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบนอนกลางดินกินกลางทรายดูบ้าง ได้รสชาติอีกแบบนึงนะ

สวยมากค่ะ

เห็นแล้วอยากไปอีกจริง ๆ ๆ

สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เมืองไทยเรานี่สวยจริงๆเลยครับ :)

อยากไปสิมิลันจังเลยครับ

สวยมากครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

สวยครับ แล้วฤดูร้อนจะไปเที่ยวให้ได้ ^^

โอ้ววว ทะเลไทย สวยอะไรเช่นนี้

อยากไปๆๆๆ

ขอบคุณ จขกท. ที่นำภาพสวย
ๆมาแบ่งปันให้หายคลายเครียดในช่วงเวลานี้นะคะ  

สวยมากเลยค่ะ

สวยมากเลยค่ะ

#32 พอผมเลื่อนเห็นกระทู้ที่ 32 ก็เปลี่ยนอารมณ์เลยครับ

การให้อาหารปลา เท่ากับ "ทำลายสิมิลันครับ"

สวยงามมากเลยค่ะ อยากไปๆๆๆๆ

อยากไปมากๆ

ไปที่เดียวกัน แต่ทำไมคุณภาพของรูปที่ถ่ายออกมาต่างกันจังเลย อุอุ

อยากไปเหมือนกันครับบบบบบ สวยจริงๆ

ทะเลใส หาดสวย ทรายงาม น่าไปสัมผัสมากครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆๆๆๆนะครับ

สวยจังค่ะ จะไปต้นเดือนนี้ ไม่แน่ใจว่าเกาะสิมิลันเปิดหรือยังคะ

สวยใสจริงๆครับทะเลไทย..............ขอบคุณที่พาเที่ยวครับ

สวยมากกกก  จริงๆนะ

เข้ามาดูเพราะนึกว่ามีคนได้ไปเที่ยวสิมิลันตอนปิดเกาะซะอีก ... 555

ขออนุญาตเพิ่มเติม รูปใน คคห.13 ตอนนี้ในอาคารนั้นเป็นร้านกาแฟแล้วครับ ใครไปภูเก็ตแวะไปชิมได้ครับ

สวยมากค่ะ ขอบคุณรีวิวสวยๆ

ช่วงปิดเกาะนี่ไปเที่ยวได้ไหมค่ะ พอดีจองไปภูเก็ตไว้ช่วงปลายเดือน ตค สงสัยจะอดไปสิมิลันซะแหร่ะ 

ภาพสวย น้ำใส จริงๆ


น่าหนีน้ำท่วม.............ไปนอนแช่จริงๆ

ภาพสวยมากเลยค่ะ

ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆนะคะที่พาไปชมของสวยๆ
น้ำทะเลใสๆ  แอบคิดถึงสิมิลันขึ้นมาเลยค่ะ ^^

น้ำทะเลใส ฟ้าก็สวย...

ทะเลบ้านเรานี่สวยจริงๆ

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ...

ภาพสวยจังเลยค่ะ หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ และเกาะตาชัย จะเปิดเดือน พ.ย.นี้แล้ว
จะได้ไปเที่ยวกันแล้วนะค่ะ

ไม่เคยไปสิมิลันเลยครับ ภาพสวยมากๆ

ว้าววววว น้ำใสๆ  ฟ้าแจ่มๆ  ชอบที่สุดค่ะ  ขอบคุณนะคะ

อื่ม สวยบาดใจ จะไปเร็วๆนี้

รูปสวยมากๆ ชื่อกระทู้เพราะดี ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ ที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกัน
และขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดีดีด้วยนะครับ

เดือนตุลาคมยังคงมีมรสุมอยู่นะครับ ผมเข้าใจว่าน่าจะไม่มีเรือของทัวร์ออก
แต่ลองติดต่อบริษัทฯดูก่อนก็ได้ครับ อันนี้ไม่แน่ใจ
แต่เอาให้ชัวร์ ๆ ไปหน้าร้อนดีกว่านะครับ ช่วงปิดเทอมมีนา เมษา ก็กำลังดี ถ้าค้างบนเกาะได้ก็จะมีช่วงที่เราสามารถถ่ายรูปแบบคนน้อย ๆ ได้นะครับ เพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเป็น 1 day trip ครับ สักบ่ายสามบ่ายสี่คนก็หายหมดหาดแล้วครับ สงบมาก ๆ ครับ

อยากให้ทะเลสวย ๆ อยู่กับเมืองไทยไปนาน ๆ ครับ

ภาพสวยมากๆๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^