สวัสดีครับทุกท่าน

เนื่องจากในช่วงหน้าโลว์ที่ผ่านมา ประกอบกับกิจกรรม TBA2011 ทำให้ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวปาย และปางมะผ้าอยู่หลายครั้ง จึงขออนุญาตรวมมิตรที่พักสวยๆ หลากสไตล์ที่ปาย-ปางมะผ้า ที่ผมได้มีโอกาสไปพัก หรือ มีโอกาสได้ไปเข้าชม (Inspection) นำมาเสนอ เพื่อเป็นไอเดียสำหรับการขึ้นเหนือไปเที่ยวปาย-ปางมะผ้า ในหน้าหนาวปลายปี 2554 นี้ครับ

แต่ความละเอียดในบางแห่ง อาจจะไม่ได้มากมายนัก เพราะที่พักหลายแห่งผมได้แค่ดูพื้นที่ และบรรยากาศภายนอก แต่ไม่ได้เข้าพักจริง จึงอาจจะตอบโจทย์บางอย่างได้ไม่ชัดเจนนัก แต่อย่างน้อยก็พอจะเป็นไอเดียได้ว่า ถ้าไปพักที่นี่ มีหน้าตาเป็นอย่างไร คุ้มค่าทีจะไปนอนหรือเปล่า นั่นเองครับ ....

สำหรับรีวิวรุ่นก่อนๆ ของผมในโครงการ TBA2011 ทั้งหมด 6 แห่งมีดังนี้ครับ

1. วีว่า ซิตี้ โฮม รีสอร์ท เชียงใหม่ (ที่พักฉลากใบสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ไม่มีใครรับไป แต่ก็ดีแล้วหล่ะครับเพราะคนต่างถิ่นอาจมีงง)
[SR-TBA2011] Lovely-Friendly-Smiley @ Viva City Home วีว่า ซิตี้ โฮม บูติกรีสอร์ทขนาดเล็ก ชานเมืองเชียงใหม่
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11113370/E11113370.html

2. แทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่
[SR-TBA2011] Truly Chiang Mai : Truly Tamarind Village สัมผัสประสบการณ์ "เชียงใหม่" ณ แทมมาริน วิลเลจ กลางเวียง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11146957/E11146957.html

3. อรุณธารา เชียงใหม่
[SR-TBA2011] Aruntara Chiang Mai : บูติกรีสอร์ทหรูเงียบสงบริมน้ำปิงมาตรฐานโรงแรมเชนดัง ที่ใครได้มาพักอาจหลงรักได้ง่ายๆ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11165037/E11165037.html

4. ริมปายคอทเทจ - กระท่อมริมปาย อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน
[SR-TBA2011] Rim Pai Cottage : เงียบสงบสะดวกเรียบง่าย พักผ่อนสบายบนเรือนไทยใหญ่ ณ กระท่อมริมปาย ติดถนนคนเดิน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11173585/E11173585.html

5. ปาย ฮ๊อทสปริง สปารีสอร์ท อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน
[SR-TBA2011] Pai Hot Spring Spa Resort : สัมผัสประสบการณ์ อาบน้ำแร่แช่น้ำร้อน ผ่อนคลายสบายในบ่อส่วนตัว เงียบสงบริมน้ำปาย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11174272/E11174272.html

6. เดอะร๊อครีสอร์ท อำเภอปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน
[SR-TBA2011] The Rock Resort ปางมะผ้า : ด้วยสมองสองมือ เนรมิตป่าหินสู่รีสอร์ทสวย บรรยากาศดีริมน้ำ อึดใจเดียวจากปาย
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11183583/E11183583.html

-----------------------------------------------------------------------------
สำหรับที่พักทั้งหมด 18 แห่งที่ผมได้ไปสำรวจมา ....
ขอแบ่งเป็น 3 กลุ่มเหมือนกับโครงการ TBA2011 นั่นก็คือ
กลุ่ม Luxury -- Deluxe (ริมน้ำ/วิวทุ่งนา-ดอย) -- Basic ครับ
ซึ่งผมคิดว่า ที่พักหลายแห่งเหมาะสมมากที่จะเข้าร่วมประกวดในโครงการ TBA2012 มากๆ ก็คงต้องรอดูว่าปีหน้าจะเป็นอย่างไร อิอิ

กลุ่ม Luxury Hotel : โรงแรมขั้นเทพ in Pai
-- The Montis : บรรยากาศตะลุยป่าซาฟารีเมืองปาย กับรีสอร์ทหรูที่สุด พร้อมห้องพักแบบ Pool Villa แห่งแรกในปาย
-- Pai Island : Private Villa เงียบสงบดุจเกาะส่วนตัวที่เมืองปาย (เอ๊ะ ทำไมปายมีเกาะด้วย ??)

กลุ่ม Deluxe Hotel -- รีสอร์ทริมน้ำ
-- ปายวิมานรีสอร์ท : รีสอร์ทริมน้ำเจ้าของเดียวกับ Coffee in Love
-- วังช้างเผือกปายรีสอร์ท
-- ริมปายคอทเทจรีสอร์ท
-- โฮเทลเดส อาร์ตติส โรสออฟปาย
-- บุระลำปายรีสอร์ท
-- ปายฮ๊อตสปริง สปารีสอร์ท
-- เดอะร๊อครีสอร์ท ปางมะผ้า
-- สบป่องริเวอร์อินน์ ปางมะผ้า

กลุ่ม Deluxe Hotel -- วิวเขา-ทุ่งนาสวย
-- เดอะควอเตอร์รีสอร์ท
-- ภูปายอาร์ตรีสอร์ท
-- โรงแรมโยมา
-- ปายเวียงฟ้ารีสอร์ท : อิ่มเอมกับวิวทุ่งนาเขียวและวิวดอยแบบเต็มๆ ตา
-- บ้านกุงแกงเดอปาย : มินิลาคอสทาน่า & Dog Friendly Resort in Pai

กลุ่ม Basic Hotel -- ราคาประหยัดคุ้มค่า  (หน้าโลว์ยิ่งประหยัด)
-- บ้านโชคดีปาย : พักสบายใกล้เมือง ต้อนรับสุนัข เริ่มต้นเพียงคืนละ 400 บาท แอร์-ทีวี-wifi ครบ (ราคานี้หน้าโลว์นะจ้ะ)
-- ฮาร์ทออฟปายรีสอร์ท : ที่พักเปิดใหม่ พักสบายในเมือง ระยะเดินไปถนนคนเดินได้ เริ่มต้นเพียงคืนละ 400 บาท
-- บ้านพักอูบุด : ที่พักราคาประหยัด เจ้าของใจดี เงียบสุดๆ นอกเมืองปาย ณ บ้านตาลเจ็ดต้น

ไปเที่ยว ปาย-ปางมะผ้า กับผมนะครับ

## การเดินทางจากเชียงใหม่ ไป ปาย ##

เครื่องบิน -- สายการบินกานต์แอร์
http://www.kanairlines.com
มีเที่ยวบิน เชียงใหม่-ปาย บินตรงทุกวัน ใช้เวลาบินบนอากาศเพียง 20 นาทีเท่านั้นค่าโดยสาร 1,290-1,690 บาท/เที่ยวบิน แลกกับความสะดวกสบายไม่ต้องผ่าน 762 โค้งให้มึนหัวเล่นๆ

ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบ Cessna Grand Caravan รุ่นใหม่ป้ายแดง ขนาด 12 ที่นั่ง ตามตารางบินนี้ครับ

เชียงใหม่ – ปาย KND741 10.40-11.05 น.
ปาย – เชียงใหม่ KND742 11.20-11.45 น.

สนามบินปายอยู่ห่างจากถนนคนเดินใจกลางเมืองปายราว 3 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อไปถึงสามารถใช้บริการรถรับ-ส่งของที่พัก หรือเช่ารถขับเองของ Northwheel ซึ่งมีบริการรับ-ส่งรถฟรีที่สนามบินปายเช่นกัน http://www.northwheel.com

หมายเหตุ : เนื่องจากกานต์แอร์มีเครื่องบินป้ายแดงแค่ลำเดียว เวลาเครื่องเสียมีปัญหาต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด อย่างในช่วงสัปดาห์นี้ เที่ยวบินกานต์แอร์ถูกยกเลิกทุกเที่ยวบินเพราะเครื่องเสียครับ คณะกรรมการโครงการ TBA2011 จะไปปาย-ปางมะผ้า ยังไปไม่ได้เลยทีเดียว

ท่าอากาศยานปาย ที่ได้รับการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วครับ

## รถประจำทาง ##

บริษัทเปรมประชาขนส่ง และ บริษัทอายะ (AYA Service) มีรถตู้ให้บริการในเส้นทางเชียงใหม่-ปาย ทุกวันวันละหลายๆ เที่ยว โดยของเปรมประชา จะมีท่ารถอยู่ที่สถานีขนส่งอาเขต เรียกได้ว่าลงจากรถทัวร์แล้วต่อรถตู้ไปได้เลย เที่ยวแรกเริ่มวิ่ง 6.00 น. จนไปถึง 16.30 น. โดยใช้เวลาเดินทางราว 2.45 ชั่วโมง ราคา 150 บาท (ของอายะเข้าใจว่าอยู่ข้างสถานีรถไฟเชียงใหม่ครับ) http://www.ayaservice.com

ในกรณีต้องการเดินทางแบบหวานเย็น มีรถประจำทางสีแดงรุ่นหวานเย็น ราคา 80 บาทใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง

## ขับรถไปเอง (รถส่วนตัว/รถเช่าขับเองจากเชียงใหม่) ##

ขับสบายๆ จากตัวเมืองเชียงใหม่ ผ่านแม่ริม จนกระทั่งถึงแยกแม่มาลัยก่อนถึงตัวอำเภอแม่แตง จากแยกแม่มาลัย ทางช่วง 23 กิโลเมตรแรกยังคงทำความเร็วได้

หลังจากผ่านร้านแป้นเกล็ดหมอกฟ้า ไปได้ราว 2 กิโลเมตรก็จะเริ่มทางเขาที่สูงชันและคดโค้ง (หลายๆ คนก็จะเริ่มมึนตอนนี้) จนกระทั่ง 12 กิโลเมตรสุดท้ายก่อนถึงปาย จึงจะหมดทางเขา รวมระยะทางดอยคดโค้งที่ต้องวิ่งผ่าน ตั้งแต่หลักกิโลเมตรที่ 23 จนราวหลักกิโลเมตรที่ 78 รวมทั้งสิ้นประมาณ 55 กิโลเมตร (จากระยะทาง เชียงใหม่-ปาย ทั้งหมด 135 กิโลเมตร และปาย-ปางมะอ้าอีกประมาณ 45 กิโลเมตร รวมเป็น เชียงใหม่-ปาย-ปางมะผ้า 180 กิโลเมตร) เท่าทีผมขับเองจะใช้เวลาเดินทางเฉลี่ย 2.20 ชั่วโมง

แต่โปรดระวังทางช่วงตั้งแต่ห้วยน้ำดังจนไปถึงปาย ทางบางช่วงเป็นหลุมเป็นบ่อ สำหรับผู้ไม่คุ้นทางควรขับรถในเวลากลางวันเพื่อความปลอดภัยครับ

ตามมาเที่ยวปาย ปางมะผ้า ด้วยครับ ชอบอากาศที่นั่นมาก

ปีนี้วางแผนไว้อยากไป เชียงคานนนน

เรามาเริ่มที่พักตามลำดับกันก่อนเลยนะครับ

เริ่มจากลำดับแรก ที่ผมจัดให้เป็นโรงแรมขั้นเทพสุดในปาย
ที่มีมาตรฐานสูงเที่ยบเท่ากับโรงแรมเชนหรู เพียงแต่ไม่ได้เป็นโรงแรมเชนเท่านั้นเอง โรงแรมนี้ชื่อ "The Montis" ครับ

เดอะมอนทิส รีสอร์ท
เว็บไซต์ : http://www.montisresort.com
เป็นโรงแรมที่สร้างอยู่ในโซนถนนสายตัดใหม่ลัดผ่านเมือง
ทางไปวัดน้ำฮู เปิดให้บริการช่วงปี 2552-2553 ที่ผ่านมานี่เองครับ

เรียกได้ว่า จับลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ ที่จะมาพักปาย
แต่ที่ปายไม่ได้มีที่พักที่ Luxury เพียงพอที่ลูกค้าไฮเอนด์จะพักได้
มาพักที่นี่รับรองว่าไม่ผิดหวัง เพราะบริการมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวครับ

พอดีว่า ...
ในงานไทยเที่ยวไทย เมื่อต้นเดือนกันยายนทีผ่านมา
The Montis ได้ตั้งบูธใหญ่และผมเองก็ได้มีโอกาสคุยกับคุณลุงเจ้าของอยู่แป๊บนึง (ลูกเค้าจบโรงเรียนรุ่นเดียวกับว่าที่น้องเขยผมเอง) เท่าที่ทราบก็คือ โรงแรมแห่งนี้มีเป้าหมายที่จะมอบการให้บริการแบบ รีสอร์ท 5 ดาว แม้ว่าจะไม่ได้เข้าร่วมกับเชนโรงแรมดังระดับโลกก็ตามครับ

อย่าง ในหน้าหนาวนี้ .... จะเปิดห้อง Pool Villa แห่งแรกในปายด้วย
ลองไปดูกันนะครับว่า รีสอร์ทหรูระดับห้าดาวสไตล์ซาฟารี ในปายเป็นอย่างไร

เริ่มจากในส่วนของ Lobby ที่มองเห็นบรรยากาศโดยรวมของโรงแรม
และสระว่ายน้ำ ที่สามารถปรับอุณหภูมิให้อุ่นได้ในหน้าหนาว !!!

ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแห่งเดียวในปายที่ปรับอุณหภูมิสระได้
เรียกได้ว่า มาปายหน้าหนาว จะว่ายน้ำแบบอุ่นๆ ที่ได้ได้อย่างสบายๆ เลย

ห้องพักของ Montis แบ่งเป็น 3 กลุ่มครับ

ได้แก่ห้อง Suite ห้องก็จะใหญ่อลังการมากมายครับ เป็นวิลล่าส่วนตัว
ห้อง Safari Villa ก็จะเป็นวิลล่าส่วนตัวที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อยนึง

และขั้นปกติก็คือ Montis Deluxe คือเป็นห้องพักบนอาคารแบบโรงแรมหรู
ทุกห้องตกแต่งอลังการแบบในรูปครับ ซึ่งผมต้องขอบอกก่อนว่า ทางเจ้าหน้าทีเค้าไม่อนุญาตให้ผมถ่ายภาพห้องพัก ก็เลยถ่ายจากโบร์ชัวร์ที่ได้มาก็แล้วกันครับ

ตามชมค่ะ ข้อมูลแน่นเหมือนเคย ขอบคุณมากค่ะ

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ  คิดถึงบรรยากาศปายหน้าหนาวจัง  ^^

ยินดีค้าบบบ ผมขออนุญาตโพสต์ตอนบ่าย เพราะพันทิปจะปิด
อีกทั้ง กลัวกระทู้หายด้วย (เพราะวันศุกร์ปิด Maintenance กระทู้หายวับเลย)

พามาดูห้อง Safari Villa แบบเงียบๆ นะครับ
(พอดีจริงๆ ผมหาทางเข้าไม่เจอ ผมก็เดินสำรวจไปเรื่อยๆ ก่อนมารอบนึง ก่อนที่จะหา Lobby เจอ ก็เลยได้ถ่ายภาพเอาไว้ก่อนนั่นเอง)

ห้อง Safari Villa จะอยู่ริมทะเลสาบเล็กๆ ครับ ค่อนข้างเป็นส่วนตัวใช้ได้ทีเดียวเชียว

ภายในห้องซาฟารี วิลล่าครับ (ถ่ายทะลุจากกระจก)
อุปกรณ์ภายในห้องครบครันใช้ได้ทีเดียว

ห้องน้ำก็ใหญ่โตมากๆๆ (แต่ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าห้อง Safari Villa จะมีอ่างอาบน้ำจากุซซี แต่ไม่มีตู้ shower ตรงกันข้ามกับห้อง Deluxe ที่จะไม่มีอ่าง แต่มีโซน Rain Shower นั่นเอง)

สวัสดีครับ  ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

ส่วนห้องกลุ่ม Deluxe จะอยู่บนอาคารครับ ....
อาคารละ 4 ห้องเป็นชั้นบน 2 ห้องและชั้นล่าง 2 ห้อง
พื้นจะเป็นแบบเดียวกับห้อง Safari Villa การตกแต่งโทนเดียวกัน
เพียงแต่เป็นห้องในอาคาร วิวอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่บรรยากาศในห้องอบอุ่น เตียงหนามากครับ

สำหรับราคา Walk-in ช่วงโลว์ ห้อง Deluxe รวมอาหารเช้า
เริ่มต้นที่คืนละ 3,300 บาทครับ แต่ราคาหน้าไฮก็ค่อนข้างอลังการพอสมควร คิดว่าราคาคงจะไม่ถูกไปกว่านี้หล่ะครับ สมกับที่เป็นโรงแรม Luxury ที่สุดในปายเลย แฮ่ๆๆๆ

สวัสดีค้าบบ ....

พื้นที่ข้างๆ กำลังก่อสร้างโซน Pool Villa ครับ
ถ้าใครมาพักช่วงโลว์ (อย่างภาพนี้ถ่ายช่วงเดือนสิงหาคม 2554)
คงจะเจอคนงานเพียบเลยหล่ะครับ
เพราะโรงแรมกำลังปรับปรุงใหญ่ แต่ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ครับ

ไปต่อกันที่แห่งที่ 2 กันเลยดีกว่า Luxury เหมือนกัน
ที่นี่คือ Pai Island Resort นั่นเอง ...

ปายไอส์แลนด์ รีสอร์ท
http://www.paiislandresort.com

ทำไมถึงชื่อว่า Pai Island ??
ก็เพราะว่าพื้นที่ตั้งของรีสอร์ท มีแม่น้ำสายเล็กๆ ล้อมรอบจนกลายเป็นเกาะน้อยกลางเมืองปายนั่นเอง โดยปายไอร์แลนด์ จะตั้งอยู่จากถนนคนเดินปาย ตรงแยกปายหนาว (ร้านปายแคนยอน/ร้านน้องเบียร์) ตรงไปทางสนามบินประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนถึงโรงแรมโยมาครับ

รีสอร์ทนี้ จริงๆ ผมเคยได้ยินชื่อมานานแล้ว
และราคาขายเค้าก็ค่อนข้างอลังการพอสมควร
ไม่ว่าจะเป็นหน้าโลว์หรือหน้าไฮ
จนกระทั่ง ผมไปพักที่ The Rock Resort ปางมะผ้า
จึงทราบว่าคุณเจ้าของเดอะร๊อคเป็นเพื่อนกับเจ้าของปายไอร์แลนด์
เลยทำให้ได้ไอเดียการสร้างรีสอร์ทของตัวเองที่ปางมะผ้าขึ้นมาด้วย

คราวนี้เราไปสำรวจกันนะครับว่า เกาะปาย ปายไอร์แลนด์ เป็นอย่างไร
(ผมเชียร์ว่าอยากให้เข้าโครงการ TBA2012 จริงๆ เลย หุ หุ หุ)

แค่ทางเข้าก็เหมือนกับบุกป่าเตรียมตัวผจญภัยกันแล้ว ....

ก็จะมีส่วนต้อนรับ เล็กๆ น่ารักๆ ตรงด้านหลังนี้หละครับ
เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมพาเดินชมรีสอร์ทแล้ว (มาแค่ Inspect เช่นเคย)

วันนี้เงียบมาก เหมือนจะไม่มีแขกนะครับ แต่เจ้าหน้าที่ก็เป็นกันเองดี

เริ่มจากส่วนหน้า (ถ่ายย้อนออกไปด้านหน้า)
จะเป็นห้องอาหาร ที่สำหรับใช้ทานอาหารมื้อเช้า และอาหารทุกมื้อครับ
มีบาร์สำหรับยามค่ำคืนด้วย ตรงนี้หล่ะ

บริเวณข้างๆ ก็จะเป็นลำธารเล็กๆ จะเห็นได้ว่ามีคูคลองเล็กๆ สองสายมาบรรจบกันตรงนี้ ขอให้นึกถึงเกาะนามินะครับ ก็เป็นเกาะกลางแม่น้ำ

ที่นี่ก็เหมือนกัน เป็นที่ดินที่มีคูคลองเล็กๆ นี้ล้อมรอบอยู่ จึงเป็นที่มาของ ปายไอส์แลนด์ นั่นเอง

เดินข้ามสะพานเข้าสู่โซนวิลล่าที่พักกันนะครับ

แต่ละวิลล่าก็จะมีรั้วกั้นบังตาแบบสูงมิดหัวครับ
เรียกได้ว่า ถ้าเข้าไปในดินแดนก็จะเป็นส่วนตัวสุดๆ ไม่มีคนข้างนอกได้เห็นแล้วครับ

ไปเที่ยวปายด้วยคนครับ   ขอบคุณข้อมูลดีๆที่นำมาฝากด้วยครับบ

นี่คือห้อง Island Suite ซึ่งเป็นห้องตัวต่ำสุดของที่นี่ครับ ...
เพราะที่นีทุกห้องเป็นห้องสูทหมดเลย

ห้องพักก็มีอยู่ไม่กี่ห้องนะครับ แต่ว่าแตละห้องนี่อลังการ
และน่าจะอยู่สบายๆ มากๆ เดี๋ยวไปดูกันนะครับ

ทางเดินหน้าห้องพักครับ เขียว เงียบสงบ รั้วกั้นสูง

หน้าตาของวิลล่าครับ ประกอบไปด้วย ตัวห้องพัก ห้องน้ำ
ฝักบัว rain shower กลางแจ้ง (จะเปลือยกายได้เต็มที่ก็ได้ ไม่มีใครเห็นเพราะรั้วทึบรอบแนวทึบหมดครับ)

นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำสำหรับนอนแช่น้ำในศาลากลางแจ้งด้วย

เตียงนอนหนานุ่มแบบสุดๆ ....

(เตียงมีความสำคัญมากครับ ที่ไหนจะนอนสบายไม่สบาย อยู่ที่เตียงด้วยหล่ะ)

มุมนั่งเล่นเล็กๆ ..... ในห้อง
กาต้มน้ำ ชา-กาแฟ ครบเครื่อง .... ส่วน LCD TV อยู่ข้างประตูครับ

ซึ่งข้อเสียของที่นี่ผมคิดว่า คงจะเป็นตำแหน่งการติดตั้งทีวี ในแต่ละห้อง
ซึ่งอาจจะไม่ค่อยสะดวกในการนอนดูหนัง นอนดูทีวี
ไม่ว่าจะเป็นบนโซฟา หรือบนเตียง เหมือนจะต้องเอียงหน้าดูนิดนึงครับ

นี่หล่ะครับ ....

LCD TV ไปติดอยู่ตรงนี้ ตรงหน้าประตูห้องพักเลย ....
ลองคิดดูเล่นๆ นะครับ จะนอนเล่นดูหนังบนเตียง ก็ต้องเอี้ยวคอดู

ครั้นจะนั่งเล่นบนโซฟา ก็ต้องเอี้ยวคอดูเหมือนกัน ....
(ทุกอย่างเพอร์เฟคหมด แต่ถ้าแก้จุดนี้ได้น่าจะดีครับ)

ห้องน้ำอลังการดีมากครับ
มีห้องสุขา ห้องอาบน้ำในห้องน้ำแยกเป็นห้อง
และยังมีส่วน Rain Shower กลางแจ้งอีก อาบน้ำกันได้หลายๆ จุดเลย

อาบกลางแจ้งได้อย่างสบายใจ

หรือจะนอนแช่น้ำ ในศาลากลางแจ้ง ก็ย่อมได้เช่นกันครับ ....

มุมนั่งเล่นเล็กๆ กลางสวน

เห็นประตูไหมครับ เป็นประตูระเบียงเปิดออกไปชมคูคลองข้างๆ แบบเป็นส่วนตั๊ว ส่วนตัวนั่นเอง .....

เหมาะแก่การมานั่งกบดานเงียบๆ ตรงนี้ครับ สบายๆ

ก็เป็นที่พักอีกแห่งหนึ่ง ที่นับว่าน่าสนใจ
สำหรับผู้ที่ต้องการห้องแบบ Luxury ในปายครับ

ราคา Walk-in ในเดือนตุลาคมนี้
สำหรับห้องนี้ รู้สึกว่าราคาจะอยู่ที่ 4,700 บาทรวมอาหารเช้า 2 ท่านครับ
และราคาน่าจะขยับขึ้นสูงได้อีกในช่วง High ปลายปีถึงต้นปีหน้าครับ

พอดีได้ดูห้องแบบ Family Suite อยู่กันได้ถึง 4 คน
จะมีห้องย่อยอยู่ 2 ห้องชั้นบนและชั้นล่างครับ ....

ทุกอย่างดูดี สะอาดสะอ้าน
มีการใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อปรับกลิ่นห้องพักก่อนที่แขกจะเข้าพักด้วย
เพื่ออากาศทีหอมสดชื่นตลอดการเข้าพักครับ

แต่จุดเดียวที่คาใจก็คงเป็นจุดที่ติดตั้งทีวีนี่หล่ะครับ ได้เอียงคอดูทีวีทุกห้องจิรงๆ

แต่ที่แจ่มมากคงเป็นอ่างขนาดใหญ่ ที่อยู่ในห้องด้วยครับ ....

เหมือนหล่อลงไปบนพื้นเลยทีเดียว
เลยทำให้รู้ว่า การทำพื้นขัดมันแบบสีขาวก็ดูสวยดีเหมือนกันนะเนี่ยะ ....

ก็นับว่าเป็น บูติกรีสอร์ทหรู ขนาดเล็ก ที่น่าสนใจมากอีกแห่งหนึ่ง
เพราะมีความเป็นส่วนตัว สงบสุดๆ แม้ว่าทั้ง 2 Luxury ที่พักในปาย
จะไม่ได้เห็นวิวแม่น้ำ หรือภูเขา หรือทุ่งนาสวยในปายเลย
แต่ก็ชดเชยด้วยบรรยากาศในที่พัก ในห้องพักที่อลังการ
เหนือกว่าที่พักแห่งอื่นๆ มากพอสมควรนั่นเองครับ

คุณหมอยุ่งคะไปเชียงใหม่เดือนมีนาถ้าจะไปเที่ยวปายด้วย ระยะเวลา3วัน 2 คืนนี่พอหรือเปล่าคะ แล้วกลับมาขึ้นเครื่องที่เชียงใหม่ในวันที่ 3 ตอนบ่ายคะอ๋อสภาพอากาศจะหายหนาวหรือยังคะคุณหมอ
ขอบคุณคะ

เอาหล่ะครับ ... หมดจาก Luxury ไปดูกลุ่ม Deluxe กันบ้าง
เริ่มจาก Deluxe โซนริมน้ำกันก่อนนะครับ ....

ที่พักแห่งแรก ที่ผมจะพาไปพัก (และได้พักจริงๆ)
ที่นี่คือ ปายวิมาน รีสอร์ทครับ
เป็นเจ้าของเดียวกับร้านกาแฟชื่อดังที่ใครก็แวะถ่ายรูป
นาม Coffee In Love นั่นเอง .....

ปายวิมานรีสอร์ท
http://www.paivimaan.com

เป็นที่พักในปายที่เปิดมาได้ก็หลายปี แต่จุดเด่นก็คือ อยู่ริมน้ำปาย ที่เงียบสงบ วิวแม่น้ำจากในห้องพักก็นับว่าแจ่มมากจริงๆ ครับ .....

ที่พักสวยๆทั้งนั้นเลยนะคะ

เพิ่งขับรถผ่าน เดอะมอนทิส รีสอร์ท ไปเมื่อ 2-3 เดือนก่อนเอง อลังการมากๆค่ะ  ไม่คิดว่าจะมีรีสอร์ท ไฮโซอลังการนี้อยู่ที่ปายได้ >__<

ปาย ไอส์แลนด์  เก๋ไก๋ไฉไลมากๆค่ะ  ขอตามหมอยุ่งฯไปดูที่พักอื่นๆด้วยคนนะคะ

ตอบคุณ takai1987 ครับ --> มีนาหายหนาวแล้วครับ
และ 3 วัน 2 คืน ถ้าจะเอาทั้งเชียงใหม่และปายด้วย อาจจะค่อนข้างแน่นครับ เพราะถ้ามานอนปาย ก็ต้องนอนอย่างน้อย 1 คืน ถ้าไปเช้าเย็นกลับ ปกติไม่มีใครทำเพราะจะเหนื่อยมากๆ ครับ เลยแนะนำว่า คราวนี้อาจจะเที่ยวเชียงใหม่ก่อน แล้วโอกาสหน้าค่อยมาปายก็ยังไม่สายครับ (แต่ถ้าในกรณีเคยมาเที่ยวเชียงใหม่แล้ว ตรงดิ่งขึ้นมาปายเลยก็ได้ครับ)

-----------------------------------------------------------------------------
จริงๆ ตอนที่ถ่ายภาพ (สิงหาคม 2554) รีสอร์ทเพิ่งจะโดนน้ำป่าซัดเข้ามาในพื้นที่เมื่อสองสัปดาห์ก่อน เลยทำให้หญ้าบางส่วนตาย และห้องพักในโซนที่เป็นกระท่อมผ้าใบ แอร์เสียหมดเลยต้องปิด renovate ใหม่รับช่วงไฮครับ .....

ช่วงนี้ปาย ฝนตก นะครับ กลางวันร้อนมากกลางคืน หนาวแล้ว แต่ คนเช่าขายของถนนคนเดินบ่นกันมากว่าปีนี้นักท่องเที่ยวคงน้อยนะครับ เพราะน้ำท่วมภาคกลาง แนะนำร้านอาหารท้องถิ่น ร้านครัว ตายาย ร้านนี้อาหารอร่อย ราคาถูก เป็นร้านคนปายทานเยอะมากๆครับ

ยินดีครับทุกท่าน ...

สวนตัวผมแนะนำว่า ถ้ามาปายให้สนุก เงียบสงบ เขียวๆ จริงๆ
ต้องมาช่วงโลว์ครับ ..... มาสำรวจที่พัก Walk-in ต่อรองราคากันได้เลย
และผมก็ทำแบบนี้ทุกครั้งที่มาปายครับ

อย่างปายวิมาน เราก็มา walk-in ครับ ....
ได้ราคามาที่ 1,300 บาท/คืน ไม่รวมอาหารเช้า
และได้ห้อง 102 วิวแม่น้ำแบบเต็มๆ ด้วย
รูดบัตรเครดิตจ่ายค่าห้องตอนเช็คอินได้เลยครับ

ข้อดีก็คือ ระเบียงหน้าห้องกว้าง นั่งเล่นชมวิวแม่น้ำสบายๆๆ

ขอบคุณครับคุณอ้ายวี ไว้ไปปายคราวหน้าจะไปลองครับ
เพราะส่วนตัวผมรู้สึกว่า อาหารที่ปาย อาหารธรรมดาบ้านๆ
ราคายังแพงกว่าเชียงใหม่พอสมควร
แต่คุณภาพยังไม่ค่อยสมกับราคาที่คิดไปเท่าไหร่ครับ

-----------------------------------------------------------------------------
ภายในห้องพัก ..... เตียงนอนใหญ่นอนสบายครับ

ทีวี และเตียง day bed (หรือจะนอนกลางคืนก็ได้)
สำหรับนอนชมวิวแม่น้ำปาย ซึ่งผมชอบมากกกกก

ชมวิวแม่น้ำปายแบบ ring side
เห็นว่าห้องนี้ หน้าหนาวขายได้ถึง 3 พันบาทเลยนะครับ
เพราะถือว่าเป็นห้องที่วิวดีที่สุดของ ปายวิมานแล้ว
(ไม่นับกลุ่มพวกวิลล่ากระท่อมผ้าใบครับ)

ส่วนห้องน้ำ สะอาดสะอ้าน มีหน้าต่างเปิดระบาย แดดส่องห้องน้ำ
น้ำไหลแรงสุดๆ มี rain shower ด้วยนะครับ

สำหรับห้องแบบวิลล่ากระท่อมผ้าใบ (เปิดหน้าไฮนี้)
เท่าที่ทราบจะมีอ่างอาบน้ำตั้งอยู่กลางห้องด้วย
และจะเป็นส่วนตัวมาก เพราะมีระเบียงสวนตัวชมน้ำปายได้เต็มทีกว่า

แต่ก็อารมณ์เหมือนอยู่กระท่อมนะครับ (มีแอร์) ก็ลองดูละกันครับ

เราก็เลยเลือกนอนไป 2 คืนเต็มๆ สบายๆ เพราะราคาแบบนี้หาในช่วงหน้าไฮไม่ได้อยู่แล้วครับ ซึ่งจุดอ่อนก็อาจจะมีตรงที่ ที่จอดรถมีค่อนข้างน้อย
อาจจะจอดได้ไม่พอ หรืออาจจะต้องจอดปิดกันครับ

มารอชมที่พักเรื่อยๆครับ ท่าทางอีกยาว

## วังช้างเผือกปายรีสอร์ท ##
http://www.wangchangpuek.com

ที่พักริมน้ำในซอย มีวิวแม่น้ำปาย และวิวดอยแบบเต็มๆ
แม้จะมีถนนคั่นกลางอยู่บ้างนิดหน่อย

ที่นี่มีความสำคัญตรงที่ เป็นที่พักแห่งแรก ที่ผมกะคุณเธอมาออกเดตด้วยกัน
แต่ในครั้งแรกเราเปิดห้องคนละห้องกันครับ เป็นอะไรที่ตลกดี แห่ะๆๆ

อย่างไร เดี๋ยวผมจะมาต่อนะครับ
พอดีว่า เดี๋ยวขอย้ายที่นิดหน่อย เหลือที่พักอีก 15 แห่ง อิอิ
หวังว่าคงจะเป็นไอเดียสำหรับการไปเที่ยวปายไม่มากก็น้อยครับ

ปล. ภาพทะเลหมอกยามเช้า ไม่ใช่ภาพวังช้างเผือก อิอิ

ขอบคุณมากคะคุณหมอยุ่ง^^ยังไม่เคยเที่ยวเชียงใหม่เลยคะคงต้องเที่ยวเชียงใหม่ก่อน..แต่มีนาหายหนาวแล้วนี่สิ..จะเที่ยวไหน..เฮอออ

เพิ่งไปมาเมื่อปลายเดือนที่เเล้วเองครับ สวยมากโดยเฉพาะที่ปางมะผ้า

แอบตามมาจาก FB ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

ต้องได้มีโอกาสตามรอยไปซักที่แน่ๆเลยค่ะ ^^

มาต่อนะครับ กับวังช้างเผือกปาย ...

จริงที่ วังช้างเผือก เรามาพักกันตอนที่เราออกเดตครั้งแรก
ครั้งแรกที่ปายของเรา เรานั่งรถตู้มาครับ (ยังไม่รู้จักการเช่ารถขับเอง)
แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซด์รอบปาย เมื่อปี 2551

ในครั้งนั้น คุณเธอเลือกพักห้องใหญ่ หมายเลข D5
ส่วนตัวผมไปพักห้องพัดลมข้างหลัง (เพิ่งรู้จักและคบกันได้ประมาณ 3 เดือน) เป็นที่พักที่เงียบมาก ตอนกลางคืนข้างนอกมืดมิดเงียบสุดๆ

แต่ก็เป็นที่พักที่เราสองคนประทับใจ และแอบกลับมาพักอยู่บ่อยๆ
ก็เพราะด้วยบรรยากาศโดยรวม ห้องที่มีขนาดใหญ่ ระเบียงกว้าง วิวสวยงามครับ

(ภาพนี้ถ่ายเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2553 ตอนนั้นยังต้องเช่าแจ๊สของ Master Car Rental มาขับ ตอนนี้มีแจ๊สเป็นของตัวเอง ก็เลยไม่ได้อุดหนุนมาสเตอร์ สาขาเชียงใหม่อีกเลย )

ที่นี่ก็ เน้นแนวบริการแบบกันเองๆ หน่อย
ถ้าเป็นช่วงโลว์ก็จะได้มีแค่ชากาแฟ เท่านั้นเอง
แต่ถ้าหน้าไฮ ก็จะมีเป็นอาหารเช้า ABF พร้อมไลน์บุฟเฟต์เล็กๆ ด้วยนะครับ

ห้องก็ขนาดกำลังพอดี
แต่ห้องน้ำ รู้สึกว่าไปพักครั้งสุดท้าย น้ำจะไหลไม่ค่อยแรงเท่าไหร่

แต่วิวก็พอจะชดเชยกันได้อยู่นะครับ .... เขียวๆ สบายๆ

อันต่อไป ติดถนนคนเดิน ....

ริมปายคอทเทจ ... อันนี้มีรีวิวรายละเอียดเพียบ ตามลิ๊งค์นี้เลยครับ
[SR-TBA2011] Rim Pai Cottage : เงียบสงบสะดวกเรียบง่าย พักผ่อนสบายบนเรือนไทยใหญ่ ณ กระท่อมริมปาย ติดถนนคนเดิน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11173585/E11173585.html

จุดเด่นของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องทำเล
ที่อยู่ติดถนนคนเดิน และติดแม่น้ำปายด้วย
สามารถเดินเล่นถนนคนเดินได้อย่างสบายๆเลย
บรรยากาศก็ยังคงมีความเงียบสงบ ต้นไม้เยอะ

แต่เผอิญว่าที่นี่ไม่ต้อนรับสัตว์เลี้ยง (ในใบลงทะเบียนเข้าห้องพักเขียนไว้ชัดเจน และในเว็บไซต์ก็เขียนชัดเจนว่า No pet allowed)
จึงทำให้เราได้รู้จักที่พักแห่งอื่นๆ ที่รับสุนัขเพิ่มเติมอีก อิอิ

ผมจึงขออนุญาตข้าม พามาที่พักใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวได้ปีกว่าๆ
และได้เข้าร่วมโครงการ Thailand Boutique Awards 2010 ด้วย
(แต่ปีนี้ไม่ได้เข้าร่วมครับ แห่ะๆๆ)

ที่นี่คือ Hotel Des Artists - Rose of Pai ครับ

โฮเทลเดส อาร์ตติส โรสออฟปาย
http://www.hotelartists.com/pai
อยู่ติดกันกับริมปายคอทเทจเลย ....

ที่นี่หล่ะแจ่มจริง แจ่มจัง ...... ริมแม่น้ำปาย
แม้ว่าวิวห้องธรรมดาจะไม่เห็นแม่น้ำปาย แต่ห้องตัวท๊อปเค้าวิวใช้ได้เลยนะครับ

ห้องพักมีชั้นบนและชั้นล่างครับ ...

ดูห้องธรรมดาของเค้าก่อน ผมว่าไม่ธรรมดานะ
ราคา walk-in รู้สึกว่าในเดือนสิงหาคม เค้าคิด 1,800 บาทสำหรับห้องธรรมดาห้องนี้

ตามไปด้วยนะคะ

มีจอ LCD TV ขนาดกำลังเหมาะๆ และห้องน้ำอยู่ด้านข้าง

พื้นบริเวณเตียงเป็นพื้นไม้ยกขึ้นมา ทำให้ดูอยู่สบายขึ้นครับ

ห้องน้ำสวยครับ มีมุมอาบน้ำหน้าตาแบบนี ... กระเบื้องสีสวยมาก

ยินดีค้าบบ ...

ห้องน้ำแนวปูนเปลือยๆ แต่ข้าวของที่ใช้ดูดีมีสไตล์

ไปดูห้องตัวท๊อปดีกว่า ห้องนี้จะเห็นวิวแม่น้ำด้วยนะครับ
เรียกได้ว่า ลืมตามาก็เห็นแม่น้ำปายเลยทีเดียว

ราคา walk-in ณ เดือนสิงหาคมอยู่ที 2,300 บาท/คืน รวมอาหารเช้าครับ
ถ้าไปหน้าไฮก็คงแพงกว่านี้พอสมควร

เป็นห้องที่ มีเฉลียงส่วนตัวกว้าง เห็นวิวแม่น้ำปายแบบเต็มๆ
ส่วนตัวผมว่า ดูดีกว่าที่ริมปายคอทเทจ (ที่อยู่ข้างๆ กัน) อีกครับ
ส่วนหนึ่งเพราะอาจจะเพราะสร้างทีหลัง จึงมีความสดใหม่กว่าด้วย

ห้องตัวท๊อป มีมุมนั่งเล่นอยู่ทางนู้น พื้นทำด้วยไม้ ให้ความอบอุ่นดีเวลาหน้าหนาวครับ

ห้องน้ำสไตล์เดียวกันคือ ปูนเปลือย ส่วนอาบน้ำมีกระเบื้องสีสวย
แต่ต่างกันตรงที่โถสุขภัณฑ์เป็นแบบชิ้นเดียว

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ สวยทุกที่เลย

ที่นี่ก็จะมีจุดเด่นเรื่องริมแม่น้ำ ติดถนนคนเดิน
และที่สำคัญก็คือ ดูสดใหม่ ดูดีมีสไตล์ ครับ

ขอบคุณนะค้าบบ ...

สถานทีต่อไป ... ไปดู บุระลำปายกันบ้าง
ตั้งอยู่นอกเมืองปาย เชิงสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย
ห่างจากตัวเมืองราว 10 กิโลเมตร

บุระลำปายรีสอร์ท
http://www.buralumpai.com

ที่นี่มีร้านกาแฟอยู่ด้านหน้า เดิมทีเคยเป็นแฟรนส์ไชส์ของร้านวาวีมาก่อน
แต่ตอนนี้มาบริหารงานเองเรียบร้อย ... มีร้านขายของที่ระลึกเพียบ

ต้องบอกก่อน ว่าที่นี่มีจุดเด่นอะไร ...

เห็นปิ่นโตไหมครับ

อาหารเช้าที่นี่ไม่ใช ABF ธรรมดาบ้านๆ เหมือนกับที่ทุกแห่งมีนะครับ
แต่อาหารเช้าที่นี่จะเสิร์ฟเป็น "ปิ่นโต" ครับ
ซึ่งข้างในปิ่นโตก็จะมีข้าวเหนียว หมูทอด ไส้อั่ว ฯลฯ
แต่ต้องแจ้งตอนที่เช็คอินเลยว่าจะรับอาหารเช้า
ซึ่งในเดือนตุลาคมนี้ บุระลำปายคิด walk-in แค่ 800 บาท (ไม่มีอาหารเช้า)
และ 1,000 บาทสำหรับห้องพักรวมอาหารเช้า 2 คนครับ

ห้องพักมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งเรือนชั้นเดียว และอาคาร 2 ชั้น

ทุ่งนาด้านล่างอาจจะไม่สวยเพราะเพิ่งโดนน้ำท่วมไปครับ
ส่วนโซนเก่าตอนนี้ปิด Renovate เปิดเฉพาะโซนใหม่ตรงนี้

เข้ามาชมรีวิวรวมมิตรค่ะ

ใส่น้ำแข็งแล้วหวานเย็นชื่นใจ อิ อิ

บรรยากาศในห้อง จุดเด่นมีดีที่เตียงหนานุ่มนอนสบายครับ

อิอิ รวมมิตรนี้เหนื่อยกว่าที่คิด เพราะยังมาไม่ถึงครึ่งทางเลย อีก 3 ชั่วโมงพันทิปจะปิดแว๊วววว ....

อุปกรณ์ภายในห้อง ไม่มีตู้เสื้อผ้า มีแต่ราวแขวน
ไม่มีหม้อต้มน้ำร้อนนะครับ ....

ทีวีจอ LCD TV ชัดแจ๋ว มีเครือ่งเล่น DVD ด้วยเหมาะสำหรับการมานอนเล่นพักผ่อนสบายๆ เตียงก็นุ่ม

ห้องน้ำเป็นแบบปูนเปลือย มีส่วนอาบน้ำที่เป็นเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาปิด
แสงแดดสาดส่องเต็มที่ สะอาดดีครับ

เครื่องทำน้ำอุ่น และฝักบัว ....
อยากจะบอกว่า แรงดันน้ำนี่ตามแรงดันปั๊มครับ

น้ำไหลแรงตามจังหวะเครื่องปั๊มเลย บทจะแรงก็แรง
แต่บทจะอ่อนก็ตลกดีครับ ก็เลยไม่รู้ว่าถ้าเข้าหน้าไฮจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า

เจ้านี่ก็เลยได้ที่กบดานแว๊ววว ...

ด้วยกติกาเดิม ก็คือ รักษาความสะอาดให้เรียบร้อย
ห้ามนำสุนัขขึ้นเตียงเด็ดขาด !!!

ซึ่งกองผ้าข้างหลังคือที่สิงสถิตของเจ้านี่หล่ะครับ .....

ส่วนที่พักอีกโซนหนึ่ง หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ

เป็นโซนเก่า ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม (ตอนนี้ปิด renovate รับหน้าไฮครับ)

คอนเฟิร์มว่าเตียงที่บุระลำปาย นุ่มมากกกกกก จริงๆค่ะ

ห้องแบบที่มีจากุซซี่ .....

หุ หุ หุ ห้องน้ำแบบ open air นี่ดูสะอาดดีครับ ชอบๆ

เหตุผลสำคัญ ที่คราวนี้ได้มาอุดหนุน บุระลำปาย ...
ก็เพราะว่าที่พักแห่งต่อไป ไม่ต้อนรับสุนัขนั่นเองครับ

บุระลำปาย ตั้งอยู่ห่างจาก "ปาย ฮ๊อตสปริง สปา รีสอร์ท" แค่ 3 กิโลเมตรกว่าๆ ครับ ขับข้ามสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ขับเข้าซอยไปไกลก็ถึงแล้วครับ สำหรับรายละเอียดก็ตามนี้เลยครับ

ปาย ฮ๊อทสปริง สปารีสอร์ท อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน
[SR-TBA2011] Pai Hot Spring Spa Resort : สัมผัสประสบการณ์ อาบน้ำแร่แช่น้ำร้อน ผ่อนคลายสบายในบ่อส่วนตัว เงียบสงบริมน้ำปาย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11174272/E11174272.html

จุดเด่นก็คงเป็นที่การต่อท่อบ่อน้ำร้อนเข้ามาถึงห้องพักเลย
ทำให้แขกสามารถนอนแช่น้ำร้อนสบายๆ ริมแม่น้ำปายได้นั่นเองครับ
หากท่านไหนสนใจก็ลองไปอ่านดูลิ๊งค์นั้นนะครับ

ยินดีครับ คุณหมอ พอดีผมได้แฟนเป็นคนปาย นะครับ ไปหาทุกเดือนเลย แต่ช่วงหลังๆงดไปแล้ว มาเจอกันที่เชียงใหม่มากกว่า ครั้งสุดท้าย โดนรถนักท่องเที่ยวจากใต้ หลุดโค้งมาชน ตั้งแต่นั้นเลยไม่ไปอ.ปายอีกเลย ขับมา 4 ปีไม่เคยโดนมาโดนทีเสียรถพังเกือบทั้งคัน ปล.ร้านอาหารของคนท้องถิ่นจริงๆไม่แพงครับ แต่ที่ตั้งหรือทำเลอาจอยู่ในซอยหน่อย นะครับ ส่วนมากร้านที่เราเห็นๆกันเช้าบ้านเค้าจะให้เช่านะครับ

จากนี้เราก็จะข้ามไปปางมะผ้ากันบ้าง ......

เมืองเล็กๆ เงียบสงบ ห่างจากตัวอำเภอปายไปประมาณ 45 กิโลเมตร
ขับรถแค่ 40 นาทีก็ถึงแล้วครับ สบายๆ

ที่นี่มีที่พักที่น่าสนใจอยู่ 2 แห่ง ....
เอาแห่งแรกก่อน ด้วยความสดใหม่ และมีฐานลูกค้าเป็นคนไทยแทบจะ 100% ที่นี่ก็คือ The Rock Resort ปางมะผ้านั่นเองครับ
เว็บไซต์ : http://www.therockresort.com
รีวิวละเอียดยิบๆ อยู่ตรงนี้เลย ....

เดอะร๊อครีสอร์ท อำเภอปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน
[SR-TBA2011] The Rock Resort ปางมะผ้า : ด้วยสมองสองมือ เนรมิตป่าหินสู่รีสอร์ทสวย บรรยากาศดีริมน้ำ อึดใจเดียวจากปาย
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11183583/E11183583.html

สำหรับจุดเด่นของ The Rock ปางมะผ้า
ก็คงด้วยความเงียบสงบ ริมน้ำ สวนสวยโดยเน้นการตกแต่งด้วยหินเป็นหลัก
สภาพที่พักดูสดใหม่เพราะเพิ่งเปิดได้ 2 ปีกว่าและมีการดูแลรักษาที่ดีนั่นเอง

ยินดีจ้าดนักครับอ้ายวี

ตอนนี้ 3 ทุ่มแว๊วว ได้เวลาที่ผมจะต้องไปออกหากิน ....
ขอพักค้างที่ปางมะผ้าก่อนนะครับ สงสัยได้มาต่อพรุ่งนี้ หลังจากที่พันทิปเปิดแน่ๆ แต่ก็เสียวอยู่ว่า ถ้าทำกระทู้หลังระบบ maintenance ใหม่ๆ
กระทู้จะหาย คห. จะหายไหมหนอ ....

ปิดท้ายด้วย ....
สบป่อง ริเวอร์ อินน์ ที่พักเล็กๆ ริมแม่น้ำสบป่อง ปางมะผ้า
เว็บไซต์ : http://www.soppong.com
เป็นที่พักแห่งแรก ที่ทำให้ผมรู้จักปางมะผ้า
และแน่นอน ล๊อกอินนี้ ทำให้ผมรู้จัก ... คุณ k.j นั่นเอง
ที่นี่ เป็นทีพักแห่งแรกๆ ที่เกิดขึ้นที่ปางมะผ้า
ด้วยบรรยากาศเงียบสงบ ริมแม่น้ำ แบบวิวมุมสูง เตียงหนานุ่ม
และอาหารอร่อยมากกกก ....
จึงทำให้ หลายๆ คนหลงเสน่ห์ของที่นี่ไปแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

เดี๋ยวมาต่อกับสบป่องนะครับ ....

หน้าหนาวปีนี้จะได้ขี่มอเตอร์ไซด์ไปนอนที่ปายครับคุณหมอ

มาเก็บข้อมูลต่อครับ...

เป็นคนนึงที่ชอบปายหน้าโลว์มากกว่าหน้าไฮเช่นกัน (จริงๆ ต้องบอกว่าเคยไปปายแต่หน้าโลว์ตลอด)...

ทั้งราคาที่พักถูกกว่า คนน้อยกว่า มีเวลาได้คุยกับคนอื่นๆ เยอะกว่าไม่ต้องรีบเร่ง อย่าง All About Coffee นี่ไปทีไรได้นั่งยาวแถมพี่เจ้าของยังชวนคุยซะอีก...

เสียดายที่ช่วงนี้ไม่มีเวลาไปเลย แต่เท่าที่ดูรีวิวคุณหมอแล้ว อยากไป Hotel des Artist ที่สุดเลยครับ...

มาเก็บข้อมูลด้วยค่ะ ^^

ตามมาเก็บข้อมูลกระทู้รวมมิตรที่พักสวยๆค่ะ เข้ากระทู้เดียวได้ข้อมูลเพียบ ...ขอบคุณมากเลยนะคะ

ข้อมูลแน่นเช่นเคย 

เมืองปายโตเร็วมากๆ  พี่ว่ามีหลากหลายที่ที่ต้อนรับน้องหมาเข้าพักค่ะ  คิดว่าถ้ามีโอกาสคงได้ไปอีก

ที่กุงแกงเดอปาย   ก็ชอบค่ะ  บรรยากาศดี  ไปตั้งแต่เปิดยังไม่เต็มตัว  

ที่นี่พาลูกชายไปแต่งงานมา   วิวเลิศศศศศศศศศศศ ค่า

อีกที่ที่พี่ประทับใจมากๆ ที่ ---> ภูปายอาร์ตรีสอร์ท ชอบทุ่งข้าวเขียวๆ สวยมากๆ ติดใจที่นี่จริงๆ ค่ะ หมอยุ่ง แล้วน้องหมา ก็เข้าพักได้สบายๆ เช่นกัน

ธรรมชาติสวยสดงดงาม รีสอร์ทก็สวยมากครับ

ขอได้ไหม สุนัขตัวนั้น น่ารักเว่อร์ *O*

ถือเป็นการรวมสุดยอดที่พักของปายจริงๆค่ะ
บรรยากาศดีๆทั้งนั้นเลย ส่วนตัวชอบที่ ปายไอส์แลนด์ มากเลยค่า ^O^
ขอบคุณรีวิวดีๆนะคะ

ที่พักตอนนี้ยกให้ Hotel des Artists Rose of Pai ครับ

จากที่เคยไปปายมา ผมว่าถ้าไม่นับระดับ Luxury Hotel  ที่ราคาเอื้อมไม่ถึงที่นี่น่าสนใจที่สุดครับ  Location อยู่กลางเมือง แต่ติดแม่น้ำปาย  ตัวโรงแรมใหม่ ภายในตกแต่งสวยได้บรรยากาศปาย แต่สิ่งอำนวยความสะดวกครบเลย ถ้าเป็นช่วง Low นี่ราคา ok เลย ส่วนช่วง High ราคาที่พักในปายขึ้นราคาหมดเลยครับ เคยไปช่วง ธค. โรงแรมใน Zone เดียวกัน ราคา 3 พันอัพ  เลยเลือกพักที่นี่ครับ

เสียอย่างเดียว พออยู่ในห้องแล้วไม่อยากออกไปข้างนอกเลย :>
อ้อ อาหารเช้าที่นี่อร่อยมาก ๆๆๆๆ

ลูกชายน้องหมอยุ่งหล่อมากกกกกกกกกกกกกกกก

ขอบคุณหมอยุ่งมากๆค่ะ

ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านนะครับ

ถ้าเปรียบเทียบทั้งหมด 9 แห่งข้างต้น
โดยตัดโรงแรม Luxury ขั้นเทพเกินอาจเอื้อม ราคา 3000++ ออกไป
และตัดโรงแรมที่ปางมะผ้าออก

โรงแรมที่น่าสนใจสไตล์ริมน้ำนั่นก็คือ Hotel Des Artist จริงๆ ด้วยครับ
เพราะเพิ่งเปิดได้แค่ปีกว่าๆ ทุกอย่างยังสดใหม่มาก อยู่ริมน้ำ
และอยู่ใกล้ถนนคนเดินระยะเดินได้ครับ ราคาช่วงโลว์ก็ยังพอเอื้อมถึงอยู่ในราคาระดับ 1,800-2,300 บาท ไม่โหดร้ายจนเกินไป (แต่ถ้าหน้าไฮ ที่ไหนก็แพงหมดเหมือนกันครับ) แต่จุดอ่อนที่ผมพบน่าจะเป็นเรื่องที่จอดรถ ที่ดูเหมือนจะน้อยกว่าที่พักแห่งอื่นๆ ครับ ถ้าขับรถไปเองอาจจะประสบปัญหาหาที่จอดรถยากเมื่อเทียบกับที่อื่น

ทั้งนี้ ส่วนตัวผมก็ยังคงเชียร์ให้ไปเที่ยวปายในช่วงหน้าโลว์
ช่วงทีทุ่งนาเขียวชะอุ่ม อะไรๆ ก็ดูสบายตา เย็นๆ (แต่ไม่หนาวเกินไป)
เป็นอะไรที่น่าสนใจดีครับ ....
-----------------------------------------------------------------------------
ได้เวลามาต่ออีก 9 แห่งที่เหลือแล้วนะครับ ....

กลุ่ม Deluxe Hotel -- รีสอร์ทริมน้ำ
-- สบป่องริเวอร์อินน์ ปางมะผ้า

กลุ่ม Deluxe Hotel -- วิวเขา-ทุ่งนาสวย
-- เดอะควอเตอร์รีสอร์ท
-- ภูปายอาร์ตรีสอร์ท
-- โรงแรมโยมา
-- ปายเวียงฟ้ารีสอร์ท : อิ่มเอมกับวิวทุ่งนาเขียวและวิวดอยแบบเต็มๆ ตา
-- บ้านกุงแกงเดอปาย : มินิลาคอสทาน่า & Dog Friendly Resort in Pai

กลุ่ม Basic Hotel -- ราคาประหยัดคุ้มค่า  (หน้าโลว์ยิ่งประหยัด)
-- บ้านโชคดีปาย : พักสบายใกล้เมือง ต้อนรับสุนัข เริ่มต้นเพียงคืนละ 400 บาท แอร์-ทีวี-wifi ครบ (ราคานี้หน้าโลว์นะจ้ะ)
-- ฮาร์ทออฟปายรีสอร์ท : ที่พักเปิดใหม่ พักสบายในเมือง ระยะเดินไปถนนคนเดินได้ เริ่มต้นเพียงคืนละ 400 บาท
-- บ้านพักอูบุด : ที่พักราคาประหยัด เจ้าของใจดี เงียบสุดๆ นอกเมืองปาย ณ บ้านตาลเจ็ดต้น

-----------------------------------------------------------------------------
เรายังคงอยู่ที่ปางมะผ้ากันนะครับ ...
ที่สบป่องริเวอร์อินน์ ซึ่งมีห้องพักอยู่มากมายหลายห้องพอสมควร

และตอนนี้อยู่ระหว่างการสร้างห้องพักแบบ 2 ชั้นเพิ่มขึ้นมาครับ
คาดว่าภายในน่าจะตกแต่งเต็มที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าทีอื่นๆ
น่าจะเปิดได้ทันในช่วงหนาวนี้พอดีครับ ...

จุดเด่นของที่นี่ ....
ด้วยความที่ เจ้าของเป็นนักท่องเที่ยว นักเดินทางตัวยง
จึงมีโอกาสได้ไปพักโรงแรมมามากมายหลายแห่ง ทั้งในและต่างประเทศ
จึงทราบดีว่า อะไรเป็นจุดที่สำคัญ ที่ลูกค้าเวลาเข้าพักโรงแรมให้ความสำคัญ
อาทิเช่น เรื่องคุณภาพของเตียง ที่หนานุ่ม ผ้าห่มหนาผืนใหญ่ เหมาะสำหรับอากาศหนาวๆ ความสะอาดซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ และอีกอย่างหนึ่งก็คือการบริการแบบกันเองๆ

ที่นี่นอกจากที่พักแล้ว ก็จะมีเรื่องอาหารที่นับว่า แวะทานอาหารที่นี่
ก็ไม่ผิดหวังในเรื่องรสชาติแน่นอนครับ เจ้าของลงมือเอง
รสชาติเยี่ยม ผมกะคุณเธอคอนเฟิร์ม !!!

จริงๆ ผมมาที่สบป่องครั้งแรก เมือปี 2552 ครับ
เป็นครั้งแรกที่เราได้ตัดสินใจมาค้างที่ปางมะผ้า
ก็เพราะคำเชิญชวนจากคุณ k.j นี่หล่ะ ที่ทำให้ผมรู้จักสวรรค์น้อยๆ ที่นี่
โดยเฉพาะเก้าอ้ตัวนั้น เก้าอี้ในคห. 88 ในห้องริเวอร์ริม
เพียงแค่ขับต่อจากปายมาแค่ 40 นาทีเท่านั้นเอง นิดเดียว จิ๊บๆ

ซึ่งกลายเป็นห้องประจำที่เรามาพักแทบทุกครั้งเมื่อมาสบป่อง
เฉลี่ยปีนึงก็ประมาณ 2-3 ครั้ง อย่างหน้าไฮเมื่อปี 53 ก็มาพักค้าง
ระหว่างทางกลับจากปางอุ๋ง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มาถึงปางมะผ้าซะ 5 ทุ่ม
พี่เจ้าของก็ใจดี ทิ้งกุญแจ ไปไขห้องเองได้เลยนะ และทุกครั้งเราก็ไม่ได้แค่มานอน แต่ก็จะต้องทานอาหารฝีมือพีเขาด้วย เพราะอาหารอร่อยจริงๆ

แต่ถามว่า ระหว่าง เดอะร๊อค กับ สบป่อง จริงๆ ก็ไม่เหมือนกันนะครับ
เดอะร๊อค เกิดทีหลัง เน้นตลาดลูกค้าคนไทย ห้องพักทุกห้องติดเครื่องปรับอากาศ ทีวีตู้เย้นครบครันโดนใจคนไทย

ส่วน สบป่อง เกิดมาก่อน ลูกค้าส่วนใหญ่มากกว่า 70-80% เป็นต่างชาติ หรือลูกค้าคนไทยที่ต้องการตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอก เพราะในห้องพักไม่มีทีวี มีแต่สัญญาณ wi-fi ตรงห้องอาหารติดถนนเท่านั้น ห้องริเวอร์ริมก็ไม่ได้มีแอร์ แต่อากาศเย็นสบายมากๆ แบบไม่ต้องง้อแอร์ มีอยู่แค่ไม่กี่ห้องที่ติดแอร์ แต่ด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่นมากๆ อากาศก็เย็นอยู่แล้วครับ
อารมณ์บ้านน้อยในป่าใหญ่ พื้นอยู่ติดดิน บางทีก็อาจจะมีแมลง มียุง เข้ามาในห้องบ้าง บรรยากาศก็เลยคนละแบบครับ

(แต่ต่อไป ผมสารภาพว่า ก็คงต้องได้ใช้บริการทั้ง 2 ที่ มาปางมะผ้าก็ต้องนอน 2 คืน นอนคืนละแห่งไปเลยละกัน เพราะบรรยากาศคนละสไตล์กันจริงๆ)

สำหรับสบป่องริเวอร์อินท์ ยินดีต้อนรับสัตว์เลี้ยงนะครับ
แต่ก่อนเข้าพัก โปรดแจ้งล่วงหน้าถามกับเจ้าของก่อนก็จะดีครับ

ตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างห้องพัก 2 ชั้น
ซึ่งห้องใหม่นี้ก็จะมีอุปกรณ์ครบครัน แอร์ ทีวี ตู้เย็น เตียงหนาๆ
อย่างไรถ้าได้มาปางมะผ้าคราวหน้า คงจะได้มาพักหล่ะครับ

ทางเดินจากจุดจอดรถ ตรงไปยังโซนห้องพักริมน้ำ และศาลาริมน้ำ
ซึ่งบางที เราก็จะขออนุญาตยกอาหารไปทานริมน้ำเอง
(เกรงใจพี่เจ้าของครับ เพราะปกติต้องทานตรงห้องอาหาร ถ้าอยากทานริมน้ำ ก็ได้ แต่ต้องยกไปเอง และยกกลับมาเก็บให้จะดีกว่าครับ)

ทานข้าวริมน้ำ บรรยากาศประมาณนี้ .... เย็นสบายสุดๆ

อาหารในวันนี้ แซ่บหลาย .... นั่นก็คือ

ยำวุ้นเส้น และ ต้มยำไก่แซ่บๆๆๆ
ปิดท้ายด้วยของหวานคือ กล้วยบวชชี

น้ำปั่นเย็นชื่นใจ .....

ไปสำรวจห้องพักกันนะครับ ....

ห้องประจำของผมห้องริเวอร์ริม เข้าได้สองทาง คือจากประตูหน้าห้องปกติ
ทางด้านฝั่งสวน หรือจะเข้าจากระเบียงกลางก็ได้ ....

ภาพในห้องพักอาจจะไม่ค่อยสวย เพราะไม่ค่อยได้ถ่ายเก็บไว้เลย
จุดเด่นก็คือ เตียงหนานุ่ม ผ้าห่มห่มแล้วอุ่นสบายครับ
ในห้องไม่ได้ติดแอร์ ไม่มีมุ้งลวด กลางคืนต้องเอามุ้งกางด้วย
ยิ่งถ้ามาในช่วงฝนตกพรำๆ อากาศจะเย็นมาก

เหมือนกับบ้านน้อยในป่าใหญ่จริงๆ

บริเวณลำธารด้านล่าง สามารถลงไปได้ ในช่วงน้ำแห้งๆ หน้าร้อนๆ หน้าแล้งๆ

ดูภาพนี้สิครับ

ไม่ต้องแปลกใจนะครับว่าทำไมภาพเปิดกระทู้ถึงได้อ้วนอวบอึ๋มขนาดนี้
เพราะภาพนี้ถ่ายเมื่อกลางปีที่แล้วครับ แห่ะๆๆๆ

แต่ถามว่าผมชอบแบบไหนมากกว่ากัน
ผมชอบแบบอ้วนๆ แบบภาพเปิดกระทู้ ดูแน่นๆ ทนไม้ทนมือ เอ้ย กำยำดีครับ

ตรงนี้ก็เลยได้กลายเป็นสระว่ายน้ำน้อยๆ ให้ลูกชายได้ฝึกว่ายน้ำสบายๆ
น้ำก็ไหลไม่แรงด้วย แต่ถ้าเป็นช่วงนี้ไม่ไหวจริงๆ หล่ะครับ น้ำแรงเกิน

เอาหล่ะครับ พอหอมปากหอมคอกับ สบป่องแล้ว
จะกลับไปปายบ้าง เหลืออีก 8 แห่ง

เป็นวิวทุ่งนาเขียว ดอยสวยๆ แล้วหล่ะครับ
เริ่มจากแห่งแรก อันนี้จริงๆ ไม่เห้นอะไรเลย
เห็นแต่สีเขียวในรีสอร์ท นั่นก็คือ The Quarter ครับ

เดอะควอเตอร์รีสอร์ท
http://www.thequarterhotel.com

สถานที่ตั้งอยู่ติดโรงพยาบาลปายครับ เลยมานิดเดียวก็ถึงปากทางเข้าแล้ว
สนนราคาช่วงหน้าโลว์ walk-in อยู่คืนคืนละ 1,500 บาทครับ
บางโปรฯ จองในงานท่องเที่ยวอาจจะแพงกว่า
ดังนั้นแนะนำว่า ถ้าไปเที่ยวปายหน้าโลว์ ให้ไปสำรวจห้องก่อน
ถูกใจก็จ่ายเช็คอินตอนนั้นเลยครับ

สำหรับ เดอะควอเตอร์
ถือว่าเป็นรีสอร์ทแห่งแรกๆ ในปายที่ได้รับมาตรฐาน
สไตล์ยุคใหม่ สร้างขึ้นในยุคปายกำลังเฟืองฟู
แม้ว่าจะแทบไม่เห็นวิวอะไรเลย (เหมือน The Montis และ Pai Island)

แต่บรรยากาศภายในรีสอร์ทก็นับว่าใช้ได้อยู่นะครับ
ด้วยสระว่ายน้ำกลางรีสอร์ท และกลุ่มรีสอร์ทที่อยู่รายล้อม
เป็นอาคารหลังๆ หลังละ 4  ห้อง (บนสองล่างสอง)
ลองไปดูกันนะครับว่าเป็นไงบ้าง

ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น หน้าโลว์ก็จัดได้ว่าเงียบมากกก ถึงมากที่สุด

ห้องชั้นบนจะได้เปรียบตรงวิว และห้องน้ำที่ดูเหมือนจะใหญ่กว่าชั้นล่าง
มีระเบียงส่วนตัวได้ชมวิวภายในรีสอร์ทได้
ส่วนชั้นล่าง ก็จะเข้า-ออกได้สบายกว่านั่นเองครับ

ห้องพักชั้นบนหน้าตาแบบนี้

ประตูตรงกลางคือประตูห้องน้ำนะครับ

ทีวี มีเครื่องเล่นดีวีดี ตู้เย็น โต๊ะเขียนหนังสือ (แต่ไมมีไฟอ่านหนังสือนะครับ)

ห้องน้ำสไตล์ปูนเปลือย (อีกแว๊วว)

ห้องชั้นล่างจะมีระเบียงส่วนตัวอยู่หลังห้องด้วยนะครับ แต่ชั้นบนจะไม่มี

ห้องน้ำสไตล์ปูนเปลือยๆ โล่งๆ อารมณ์นี้ .......

ส่วนอาบน้ำเปิดโล่งด้านบน ดูโปร่งสบายๆ ดี

วิวจากข้างบนมองมาเห็นสระว่ายน้ำ

ห้องชั้นล่างที่มีระเบียงด้านหลัง เป็นแบบนี้ .....

ในห้องน้ำ มีตุ่มด้วยยย

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ จนท.บอกว่า ยังไม่ได้เอาใบไม้ออก
เมือกี้มีลมแรง แห่ะๆๆ อย่าเพิ่งตกใจไปครับ

ปิดท้ายด้วยส่วนห้องอาหารครับ อาหารเช้า-กลางวัน-เย็น ทานทีนี่ ....

ปิดท้าย The Quarter ด้วยภาพนี้ครับ ....
ก็เป็นรีสอร์ทที่ดูสงบอีกแห่งหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้เห็นวิวภูเขา หรือแม่น้ำเลย ...

เดี๋ยวเราจะไปดูที่พักทีอื่นๆ ทีอยู่ในระดับเดียวกัน แต่เห็นวิวบ้างนะครับ

แวะมาชมครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ที่พักสวยๆทั้งนั้นเลยครับ

ชอบภาพเปิดจัง.. ดูละอดยิ้มไม่ได้ เจ้าตัวเล็กน่ารักมากๆ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^

คิดถึงปายครับ ตอนนี้อากาศคงเริ่มเย็นแล้วใช่มั้ยครับ 

รีวิวได้ดีมากๆเลยค่ะ