ได้ฤกษ์คลอดรีวิวแอ่วเหนือหน้าฝนแบบแจ่มๆตอนที่ 3 กันแล้วค่า หลังจากที่หมียักษ์หนีหายไปล่องใต้มาหลายวัน ไปทำบุญร่วมงานบุญสารทเดือนสิบมาค่ะ เลยถือโอกาสเอาบุญมาฝากเพื่อนๆห้องบลูกันถ้วนหน้าทุกๆคนนะคะ ^_^    และต่อจากทำบุญสารทเดือนสิบหมียักษ์ก็ชะแว๊บไปท้าลมท้าแดดดำน้ำจนตัวดำปี๋ที่ทะเลกระบี่ต่อ  กว่าจะได้ฤกษ์รีวิววัดจันทร์หน้าฝนก็ใกล้จะหมดฝนซะแล้ว

ความเดิมตอนที่แล้ว...
*~แอ่วเหนือหน้าฝนแบบแจ่มๆ # ตอนที่ 1,,, "แม่แจ่ม แจ่มในใจเสมอ" ~*
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11066303/E11066303.html


*~แอ่วเหนือหน้าฝนแบบแจ่มๆ # ตอนที่ 2,,, "ม่อนแจ่ม ม่วนอ๊กม่วนใจ๋แต๊ๆเน้อ" ~*
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11092280/E11092280.html


หลังจากพาแอ่วเหนือหน้าฝนแบบแจ่มๆทั้ง "แม่แจ่ม - ม่อนแจ่ม" กันไปแล้ว รีวิวนี้จะพาไปแอ่ว "ป่าสนวัดจันทร์ช่วงหน้าฝน" ดูบ้างค่ะ

ซึ่งข้อดีสุดๆของการเที่ยวหน้าฝนเลยก็คือ การได้ชื่นชมบรรยากาศภูเขา ป่าไม้ ทุ่งหญ้า ทุ่งนาอันเขียวขจีที่อยู่ริมทางยามเมื่อเราได้นั่งรถผ่าน สัมผัสอากาศบริสุทธิ์หลังจากฝนตกลงมาใหม่ๆ มันช่างสดชื้นนนน~สดชื่น  จนอยากจะเก็บกลับมาตุนไว้ที่กรุงเทพฯเลยทีเดียวถ้าทำได้ เพราะสิ่งเหล่านี้นั้นมันหาไม่ได้ในเมืองกรุงอันแสนวุ่นวายของเราเลยค่ะ  

ยิ่งบางครั้งระหว่างทางฝนตก และพอฝนหยุดตกใหม่ๆ ก็จะได้เจอกับหมอกจางๆ บางช่วงก็หมอกลงจัด ไม่อยากจะบอกเลยว่า มันทำให้หมียักษ์ยิ่งรู้สึกเหมือนกับว่าเราอยู่ท่ามกลางสายไหมอันใหญ่ๆเลยนะคะ ^^  (เอ๊ะ! หมียักษ์เผลอคิดอะไรๆเป็นของกินไปซะหมดอีกแล้ว  5555+)

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เส้นทางมุ่งหน้าสู่บ้านวัดจันทร์... ไปช่วงหน้าฝนนี่กำไรสุดๆ วิว 2 ข้างทางยามที่ฝนเพิ่งหยุดตก จะมีหมอกจางๆ อยู่ตามเชิงเขา ไหล่เขา ยอดเขาสลับกันไปเรื่อยๆ ดูแล้วเพลินมากๆ นึกถึงสายไหมอยุธยาอันใหญ่ๆๆเลย  อิอิ   (นั่นๆ คิดถึงของกินอีกแล้วเรา  555+)

แต่น่าเสียดายที่หมียักษ์ไม่สามารถเก็บภาพความประทับใจนั้นมาฝากได้ แต่แต่เมมไว้ในสายตาและหัวใจ และบอกผ่านมาทางตัวหนังสือและผ่านรีวิวนี้ให้เพื่อนๆได้ชมกัน  ถ้าอยากรู้ว่าของจริงจะเป็นยังไง  ต้องลองไปกันดูนะคะ  ของเค้าดีจริงๆ  อิอิ

ว่าแล้วก็ตามหมียักษ์ไปแอ่วป่าสนวัดจันทร์ อลังการป่าสนใหญ่ที่สุดของไทยกันเลยดีกว่าค่า ^___________^  

ความเดิมจากตอนที่แล้ว....

เราออกเดินทางจากม่อนแจ่มกันเกือบๆจะสี่โมงเย็น ใช้เวลาจากม่อนแจ่มกลับลงมาที่ถนนใหญ่ ทางหลวงหมายเลข 107 เพื่อมุ่งหน้าสู่อำเภอแม่แตง ขับมาเรื่อยๆประมาณ 20 กม. ก่อนถึงอำเภอแม่แตงเล็กน้อย จะมีแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1095 (แม่มาลัย-ปาย) จุดสตาร์ท 762 โค้ง เริ่มต้นจากนี้ไป

... ระหว่างทางเราก็ผ่าน โป่งเดือดป่าแป๋ - อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จนมาถึง 10 กม.สุดท้ายก่อนเข้าตัวเมืองปาย.... จะมีแยกซ้ายมือเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1265 เส้นทางมุ่งสู่ "บ้านวัดจันทร์ " เริ่มต้นที่นี่...

จากรูป... ถ้าตรงไปจะไปปาย (อีกแค่ 10 กว่าโลเท่านั้น)   ถ้าแยกซ้ายจะเป็นทางหลวงหมายเลข 1265  มุ่งสู่ "บ้านวัดจันทร์ " อ.กัลยานิวัฒนา  อ.น้องใหม่สุดๆของจ.เชียงใหม่

มาปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แล้วตามเพ่หมีไปเที่ยวด้วยคนนะฮะ

จากถนนหลัก (1095) แยกมาบ้านวัดจันทร์ (1265) ระยะทางเพียง 40 กว่ากิโล  แต่ใช้เวลาในการเดินทางประมา๊ณชั่วโมงเต็มๆ เพราะระหว่างทางต้องข้ามเขา เจอโค้ง เจอทางลาดชันบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับยากเย็นหรืออันตรายใดๆ  

แต่เส้นทางที่ไปบ้านวัดจันทร์ เราขอบอกเลยว่า "เป็นถนนลอยฟ้าที่มีวิวสองข้างทางสวยมากๆอีกเส้นหนึ่งของเมืองไทย"  เลยล่ะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณได้ขับผ่านเส้นทางนี้หลังจากที่ฝนเพิ่งหยุดตกใหม่ๆ  คุณจะได้เจอกับวิวเมฆหมอกที่ลอยต่ำลงมาปกคลุมภูเขาน้อยใหญ่ที่โอบล้อมเส้นทางไว้  มองแล้วเพลินตามากๆ คล้ายๆเหมือนสายไหมสีขาวอันใหญ่ยักษ์เลยล่ะ!!  สวรรค์บนดินแท้ๆ /

ปอลิง. ขอสารภาพว่า เราไม่สามารถเก็บภาพบรรยากาศนั้นมาฝากเพื่อนๆได้เลย เพราะเรานั่งอยู่กลางรถตู้ที่ไม่สามารถจะหยิบกล้องออกมาเก็บภาพได้ เลยได้แต่เมมภาพสวยงามนั้นไว้ด้วยสายตา และถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือให้เพื่อนๆไำด้รับรู้เท่านั้น (>___<")

ปอลิง2ตัว  เลยเอารูปวันกลับมาให้ดูแทน ถ่ายจากมือถืออาจจะไม่สวยงามนัก และฝนก็ไม่ตก เลยได้บรรยากาศเนินหญ้าเขียวขจีมาแทนค่ะ

ตามไปเที่ยวด้วยครับ

  แม่สาวข้างบ้านตามมาปาดคนแรกเลยนะคะ  มาๆๆ ไปเที่ยวกัน

************************************************

ป่าสนวัดจันทร์... ป่าสนธรรมชาติผืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นป่าสนเขามีทั้งสนสองใบ และสนสามใบ มีอายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่ที่อ.กัลยานิวัฒนา  จ.เชียงใหม่

 คุณม่วงมหากาฬ  มาเลยค่ะ ที่ว่างเพียบ ^^

**************************************************

พวกเราไปถึง "สวนป่าหลวงบ้านวัดจันทร์"  หรือ  "ป่าสนวัดจันทร์" ในเวลาทุ่มกว่าๆ  เพราะกว่าจะออกจากม่อนแจ่ม อ.แม่ริมก็เกือบๆ 4 โมงเย็น แถมยังมีฝนตกมาเกือบๆตลอดทาง ต้องผ่านส่วนที่ดินถล่มบนทาง 1095 อีก  รวมการเดินทางม่อนแจ่ม-บ้านวัดจันทร์ ก็เกือบๆ 4 ชั่วโมง  

เมื่อมาถึงป่าสนวัดจันทร์  พวกเราเลือกที่จะทานข้าวเย็นกันก่อนที่จะเข้าห้องพัก คงไม่ต้องบอกว่าเพราะอะไร  หุหุ  เพราะระหว่างทาง 4 ชม.นั้นทุกอย่างได้ถูกย่ิอยลงไปหมดแล้ว  

ที่ป่าสนวัดจันทร์ ถ้าหากต้องการที่จะเข้าพัก สามารถโทรมาแจ้งเจ้าหน้าที่เรื่องขอจองห้องพัก พร้อมกับแจ้งเรื่องอาหารล่วงหน้าไว้ได้ จะมีแม่ครัวเตรียมอาหารรอไว้ให้ แนะนำให้จองไว้ทั้งมื้อเช้าและเย็น  ทางป่าสนวัดจันทร์จะคิดราคาต่อหัว แล้วจะจัดอาหารให้เป็นชุดไว้เลย

ขอบอกว่าคนที่จะไปพักค้างคืนที่ป่าสนวัดจันทร์ ควรอย่างยิ่งที่จะสั่งอาหารที่นั่นนะคะ  เพราะ "อร่อยทุกอย่าง"  !!!!    หมียักษ์เฟริ์มเลย!!

กลุ่มเราโทรแจ้งแม่ครัวว่าไปกัน 7 คน  ก็ได้แต่ลุ้นว่าจะจัดอาหารอะไรมาให้เราบ้่าง เพราะแม่ครัวแจ้งมาว่าจะจัดให้เป็นเซท ให้พอดีกับจำนวนคนเอง

และหน้าตาอาหารก็ออกมาเป็น..... จานแรก... "ผัดวุ้นเส้น"  ค่ะ

จานที่ 2 ..... "ผักสดจิ้มน้ำพริกอ่อง"  

มาภาคเหนือจะไม่ลิ้มรสชาติของน้ำพริกอ่องก็กระไรอยู่ ขอบอกว่าผักสดที่นี่กรอบอร่อยมากๆ น้ำพริกก็รสชาติกำลังดีไม่เผ็ดมากค่ะ  จานนี้หมียักษ์ก็สุยไม่ยั้งเหมือนเคย 555+

จานที่ 3 ..... "ผัดคะน้าหมูกรอบ"

คะน้าอร่อยมากๆๆๆๆ  กรอบกรุบๆ สุยกันเพลินเลยอ่ะ  

จานที่ 4 .....  "ต้มยำไก่บ้าน"


เราชอบน้ำต้มยำมากๆ ไม่เผ็ดมาก ทานกับข้าวสวยร้อนๆก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว  

ยังไม่ได้หม่ำข้าวเย็นเลย จะจัดอาหารมาทรมานใจกันไปไหนนนนนนน

     

หมูกรอบหน้าตาเหมือนปลาเค็มเลยจ้ะ

และจานที่ 5.....  "แกงจืดสาหร่ายเต้าหู้ขาว"


หมียักษ์ปลื้มเมนูนี้เป็นพิเศษค่ะ    รสชาติดีมากๆ แม่ครัวทำออกมาได้ดีจริงๆ  ขอกด Like ให้เลยค่ะ


ทั้งหมด 5 เมนู  อย่านึกว่าอาหาร 5 อย่างทาน 7 คนนะคะ!!  ขอบอกเลยว่าคิดผิดเหมือนหมียักษ์แน่นอน!!!  เพราะอาหาร 5 อย่างมีอย่างละ 2 จานค่ะ!!!   กลายเป็นว่าบนโต๊ะะเรามีกับข้าว 10 จาน  แต่สุยกันอยู่แค่ 7 คน!!

แม่ครัวที่นี่จัดเต็มมากๆค่ะ และก็อร่อยมากๆด้วย  เลยไม่แปลกที่มื้อนี้พวกเราเจริญอาหารกันมากๆ สุยกันเกือบหมด! แทบไม่เหลือเลย อิอิ  

 คุณบัวนลิน อาจจะเป็นปลาเค็มก็ได้ค่ะ  แหะๆ >__<  เพราะเรามัวสุยแต่ผักคะน้าอ่ะค่ะ  เลยจำไม่ได้ว่าเป็นหมูกรอบหรือปลาเค็ม อิอิ  แบบว่าตอนนั้นหิวหน้ามืดมั่กๆ  

 คุณน้องสาวข้างบ้าน  ถ้าจะหาไรสุยก็อย่าลืมเรียกพี่หมียักษ์ด้วยนะคะ  อิอิ  

**************************************************

หลังจากอิ่มหมี~พีมันจากมื้อค่ำแล้ว เราก็เข้าที่พักนอนตีพุงกันไปจนถึงเช้าค่ะ

ตอนเช้าเลยตื่นเช้ามาเก็บภาพที่เราพักมาฝากกัน ^^

บ้านที่เราพักคือ "บ้านวิวน้ำ"  ค่ะ  จะมีลักษณะเป็น 2 ห้องนอน พักได้ทั้งหมด 4 คน

นี่คือหน้าบ้าน...

ทางเดินเข้าไปในบ้าน....

ที่นั่งเล่น ตรงระเบียงด้านหน้าห้องพัก...

บ้านวิวน้ำ....  จะได้วิวแบบนี้ค่ะ   ถ้าสังเกตดีๆจะเห้นอ่างเก็บน้ำของที่นี่อยู่บ้าง ^^

อย่างที่บอกว่า บ้านนี้มี 2 ห้องนอน  แต่จะแบ่งเป็นห้องนอนเตียงเดี่ยว และเตียงคู่  ห้องซ้ายมือเป็นห้องเตียงคู่ และห้องขวามือเป็นห้องเตียงเดี่ยว  ก็แบ่งกันนอนได้ตามอัธยาศัยนะคะ ^^

พาชมห้องขวามือก่อน เข้ามาดูห้องเตียงเดี่ยวกันค่ะ  ถึงแม้จะเป็นเตียงเดี่ยวแต่ก็เป็นเตียงขนาด King Size นอนสบายๆ  ที่นี่ไม่มีแอร์นะคะ แต่อากาศนี่เย็นยังกะเปิดแอร์เลยค่ะ ^^  

ในห้องนี้มีห้องน้ำในตัวด้วย อยู่ทางซ้ายมือของรูปค่ะ

มารับส่วนบุญด้วยครับ คุณกิฟ

พาชมห้องน้ำกันหน่อย

ในห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่น และส้วมมีสายชำระนะคะ  สบายใจได้ ^^

 คุณOne Light   เอาบุญมาฝากค่า  ตามไปเที่ยวเชียงใหม่กันอีกซักรอบนะคะ  อิอิ  

*************************************************
ในห้องน้ำยังมีส่วนล้างหน้าด้วย  น้ำเย็นไหลแรงค่ะ

มาดูอีกห้้องกันบ้าง  ห้องนี้เรากะเพื่อนอีกคนนึงเลือกนอนค่ะ แบบว่า วิวสวยกว่าอ่ะ  (ถึงแม้ว่าตอนกลางคืนที่เข้าไปนอนจะมองไม่เห็นก็ตาม 555+)

ห้องนี้เป็นห้องเตียงคู่ ที่มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน  ไม่มีแอร์ด้วยเหมือนกัน แค่ลมพัดตามธรรมชาติก็เย็นยังกะเปิดแอร์ แถมเป็นแอร์ที่ไม่มีปุ่มปิดด้วย  หะ~หนาวววว กันเลยทีเดียว  ต้องนอนปิดหน้าต่างเลยคืนนั้น

ทั้ง 2 ห้องมีผ้าขนหนูผืนใหญ่ให้ไว้ห้องละ 2 ผืนนะคะ

มาดูห้องน้ำในห้องเตียงคู่กันบ้าง...  จะว่าไปก็คล้ายๆกับอีกห้องนึงอ่ะค่ะ  มีเครื่องทำน้ำอุ่น  แบ่งส่วนอาบน้ำและส่วนปลดทุกข์ไว้ สะดวกดี  และมีสายชำระ  ค่ะ  ^^

มุมล้างหน้าล้างตา แปรงฟัน ประแป้ง ^^

จากห้องพักของเรา  เดินออกมาจะไปสุยข้าวเช้า....
จะต้องเดินผ่านทางนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าป่าสนแห่งนี้มีความชุ่มชื้นเขียวชอุ่มมากขนาดไหน  เวลาเดินบนทางเดินนี้ต้องเดินช้าๆ และจิกกีบกันไว้ให้มั่นเลยค่ะ  ไม่งั้นอาจมีโชว์หกคะเมนตีลังกากันได้ง่ายๆ  5555+

วิวป่าสนระหว่างทาง......

ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าเรีียกว่าป่าสนสองใบ หรือป่าสนสามใบ   แต่หมียักษ์รู้แต่ว่ามันมีหลายใบอ่ะค่ะ  อิอิ  

วิวระหว่างทาง... จากลานจอดรถตรงบ้านพักของเรา  เพื่อเดินไปทานข้่าวเช้าที่ห้องอาหารของโครงการฯ


เราชอบมุมนี้มากๆเลยค่ะ  ให้บรรยากาศป่าสนเขียวชอุ่มที่แฝงไปด้วยความชุ่มชื้นจากน้ำค้างยามค่ำคืน  อดไม่ได้ที่จะสูดอากาศบริสุทธิ์ไว้ให้เต็มปอดตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ^______^

มุมนี้คืออาคารขายของที่ระลึก และมุมกาแฟค่ะ

ตัวอาคารทำจากไม้เก๋เก้มากๆ ดูกลมกลืนกับฉากหลังที่เป็นต้นสนมากๆค่ะ  ไอไหล๋~  

ภายในอาคารขายของที่ระลึก  จะมีผลิตภัณฑ์โมบายไม้แกะสลักฝีมือชาวบ้านวัดจันทร์  โมบายไม้แกะสลักถูกแกะออกมาเป็นรูปสัตว์ รูปเครื่องบิน ฯลฯ  น่ารักมากๆค่ะ  อดไม่ได้ที่จะซื้อมาฝากชาวกรุงทั้งหลาย ^___^

มาติดตามชมรีวิวสดด้วยคนครับ

ตามไปเที่ยวสวนสนวัดจันทร์ด้วยคนครับ......

ตามไปด้วยนะคะ

แวะเข้ามาชมป่าสนวัดจันทร์ครับ

หายไปไหนแล้วล่ะเนี่ยยย รอชมต่อนะครับคุณกิฟ

รอชมนะครับ................

พายเรือมาชมกระทู้จ้ะ  รออยู่นะคะ

ชะอุ๊ย!!! ... พี่หมีหายยยยยยย

กลับมาวิวต่อนะ น้องรอไปเที่ยวต่อ

ขอบคุณที่พาไปแอ่วครับ

คิดถึงวัดจันทร์จังเลย
ขอบคุณครับ

เกาะจอรอชมต่อไปครับ

แวะมาชมครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ รอตามต่อครับ

กิ๊ฟเดือนนี้หมดแล้ว ผมให้ แทนนะครับ

ต้องขอโทษทุกๆคนมากๆเลยนะคะ ที่รีวิวอยู่ดีๆ แล้วก็หายไป (- -")  พอดีหมียักษ์เลิกงานอ่ะค่ะ  พูดง่ายๆคือแอบรีวิวในที่ทำงาน อิอิ    เลยกะว่าเดี๋ยวถึงบ้านแล้วจะรีวิวต่อ  ไปๆมาๆก็ไม่ได้รีวิวเพราะเหตุผลทางครอบครัว...  ซึ่งจริงๆแล้วก็คือโดนคุณน้องที่บ้านแย่งเล่นนเตอ่ะค่ะ  เลยอดรีวิวเลย >_<,,

วันนี้ก็เลยแอบมารีวิวต่อที่ทำงาน  ....แฮ่ (>.<")  มามะไปเที่ยววัดจันทร์กันต่อดีกว่าค่า

คุณDestiny-Boy      มาติดตามกันต่อเลยค่า  >_<,,
คุณสายลมแห่งวิงค์  ไปเที่ยววัดจันทร์กันค่ะ ^^
คุณเรื่องของเรา       ยินดีค่า ไปเที่ยวกันๆ ^^
คุณเจ้าชายแวมไพร์  ตามมาเที่ยวกันต่อเลยค่าเจ้าชาย ^^
คุณCoffee Blended คุณกาแฟ เค้ากลับมาแล้วววว ไปเที่ยวกันต่อเนาะ >_<,,
คุณlow batt          ยินดีค่า ตามมาเลยๆ ^^
คุณมารร้ายวัวน้อย  ที่บ้านเป็นยังไงบ้างคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ มาเที่ยววัดจันทร์ด้วยกันก่อนนะคะ ^^
คุณสาวข้างบ้าน      มาแล้วๆๆ วันนี้จบแน่นอน  อิอิ
คุณเล็กทาโร่          ยินดีค่า  มาเที่ยวด้วยกันต่อเนาะ ^^
คุณgoodsong        คิดถึงวัดจันทร์เหมือนกันค่ะ  อยากกลับไปอีกช่วงหน้าหนาว >_<
คุณลุงแบกเป้         มาแล้วค่า  ไปเที่ยวต่อกันเลยค่า ^^
คุณกัปตันลูกชุบ     ขอบคุณที่แวะมาชมค่า ไปเที่ยวกันต่อเลยเนาะ ^^

พาชมมุมของที่ระลึกของป่าสนวัดจันทร์กันต่อนะคะ  ^^

โมบายไม้แกะสลักน่ารักๆ อดไม่ได้จริงๆที่จะต้องซื้อกลับมา

โมบายแบบนี้ก็เก๋ไปอีกแบบ เลือกไม่ถูกเลย ^^

เราชอบของที่ระลึกที่นี่นะคะ เพราะเป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนมีรายได้เลี้ยงตัวเองได้

และสำหรับใครที่ชอบผ้าซิ่น หรือผ้าทอมือ ที่บ้านวัดจันทร์ก็มีผ้าพันคอ กระเป๋าผ้า หมวกผ้า เสื้อ กางเกงเลเป็นสินค้าที่ระลึกจำหน่ายด้วยเช่นกัน ราคาไม่แพงนะคะ สินค้าราคาสมเหตุสมผล โอเคอยู่ค่ะ

**------------  ซ้ำ ----------------**

"Learn  Love  Listen  to  the  Forest"  

โลกนี้มีแต่คนพูด... ได้ยิน... แต่น้อยคนจะรับฟัง... ป่าสนวัดจันทร์...


เราชอบเสื้อป่าสนวัดจันทร์มากๆเลยค่ะ และไม่พลาดที่จะซื้อกลับมาเป็นที่ระลึก  

มาดูของที่ระทึก... เอ๊ย! ของที่ระลึกกันต่อค่ะ


นี่เป้นงานไม้แกะสลักทำเป็นที่หนีบกระดาษ เป็นรูปสัตว์ต่างๆ น่ารักดีค่ะ

ของทุกชิ้นที่นี่เป็นของทำมือ และเป็นของที่ชาวบ้านวัดจันทร์ทำขึ้นเอง ดังนั้นจึงเป็นที่มาของ  "ราคาจริงใจ สมเหตุสมผล... ไม่ลดราคาค่ะ"  

ของที่ระลึกอื่นๆ ค่ะ

นี่เป็นไม้แกะสลักเป็นรูปลูกหมูทำเป็นที่เสียบรูป น่ารักดีค่ะ  ^^

ของที่ระลึกเก๋ๆอีกแบบ

ภาพรวมภายในร้านขายของที่ระลึก   ละลานตาไปหมด *O*  หมียักษ์หลงทางอยู่ในร้านขายของที่ระลึกพอสมควรเลย  เลือกไม่ถูกอ่ะ  น่าร๊ากไปหมด >____<,,

หรือจะนั่งจิบชา กาแฟ โอวัลตินร้อนๆ รอเพื่อนช้อปปิ้งก็นั่งรอได้ที่มุมนี้นะคะ ^^

หลังจากช้อปเสร็จแล้ว  (หมดไปเยอะเหมือนกัน  อิอิ)  เดินออกมาจากอาคารขายของที่ระลึกก็จะเป็นอาคารสำนักงานโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์

อาคารนี้สวยงาม มีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ เราว่าถูกสร้างออกมาได้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ธรรมชาติที่ป่าสนวัดจันทร์มากๆ ^^

และสำหรับเพื่อนๆที่สนใจจะมาพักที่โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและจองห้องพักได้ที่...

โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์
วัน-เวลาทำการ: วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08:30-16:30 น.
ติดต่อจองห้องพัก  โทรศัพท์ : 053-249349  โทรสาร : 053-260072  

หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก http://www.fio.co.th/travel/watchan/index.htm

จากอาคารสำนักงานป่าสนวัดจันทร์ เดินไปทางซ้ายมือ ก็จะเป็นโรงอาหาร หรือมุมสุย ^^  ที่เมื่อคืนนี้พาสุยไปแล้ว  เดี๋ยวต่อจากนี้จะพาสุยมื้อเช้ากันบ้างนะคะ ^^

หรือใครอยากจะสุยแบบโอเพ่นแอร์ ชื่นชมธรรมชาติป่าสนก็มุมนี้เลย ไม่ว่ากัน ^^

น้ำร้อน ชา กาแฟ โอวัลติน  บริการตัวเองเชิญทางนี้เลยค่า

เราได้แจ้งแม่ครัวไว้ตั้งแต่แรกแล้วอ่ะค่ะว่าจะทานทั้งมื้อเย็นและมื้อเช้าด้วย มื้อเช้าก็เลยมีที่ปิ้งขนมปัง ~ขนมปังและแยมเตรียมไว้ให้ด้วย

อากาศเย็นๆยามเช้า ทานขนมปังร้อนๆคู่กับโอวัลตินอุ่นๆ เข้ากั๊นเข้ากัน ^^

มาดูที่โต๊ะทานอาหารของเรากันบ้าง ^^  นี่คือมื้อเช้าของเราที่บ้านวัดจันทร์ค่ะ อลังการมากๆ ^_____^

ทางป่าสนวัดจันทร์เตรียมมื้อเช้าให้เราเป็นข้าวต้มค่ะ ข้าวต้มร้อนๆทานคู่กับผัดผักบุ้ง กุนเชียงทอด และไข่เค็ม  อาหารบ้านๆง่ายๆ แต่ได้ทานข้าวท่ามกลางบรรยากาศป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย คงไม่ต้องบอกว่าสวยงามแค่ไหน  มื้อนี้ได้สุยทั้งข้าวได้สุยทั้งบรรยากาศเลยค่ะ คุ้มจริงๆ  

*-----------------  ซ้ำ ----------------*

อิ่มหมีพีมีนจากมื้อเช้ากันแล้ว  เดี๋ยวหมียักษ์จะพาเดินย่อยชมวิวป่าสนวัดจันทร์นะคะ ^^

มุมนี้เป็นมุมที่เดินลงมาจากมุมทานอาหารเช้าค่ะ ระเบียงไม้ที่เห็นคือระเบียงโอเพ่นแอร์ที่ไว้ใช้ทานอาหารที่บอกไปใน คห.59 ค่ะ

น่าพักมากครับ บรรยากาศดีมากๆ

เห็นน้ำพริกออ่อง แล้วอยากกินจังครับ

จากรูปใน คห.66  เดินมานิดนึงก็จะพบกับวิวทิวทัศน์แบบนี้...
บรรยากาศน้องๆปางอุ๋งเลย

แต่เราว่าเราโชคดีที่มาหน้าฝน เลยได้บรรยากาศเขียวชอุ่มของทิวสนได้เต็มๆ  สดชื่นมากๆค่ะ

คุณKoon Shy_Tour Dee  ที่ป่าสนวัดจันทร์บรรยากาศดีจริงๆค่ะ ^^

***************************************************

รูปนี้ไม่แน่ใจว่าคือ "ลูกสน" หรือเปล่า??  โดยส่วนตัวแล้วไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน พอมาเจอของจริงก็รู้สึกชอบในรูปร่างของมันค่ะ  เก๋ดี ^^

หมียักษ์ขอพาเดินชมป่าสนวัดจันทร์ไปเรื่อยๆแล้วกันนะคะ  

ตามมาชมเลยค่ะ  มุมนี้ใกล้กับอ่างเก็บน้ำ จะเดินเล่น หรือขี่จักรยานก็ชิลดีเหมือนกันนะคะ

อ่างเก็บน้ำขนาดเล็กในป่าสนวัดจันทร์...

ถนนของที่นี่บ่งบอกได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าสนของที่นี่ได้อย่างชัดเจน....

เดินเล่นชิลๆไปเรื่อยๆ

เพลินไปกับความเขียวของธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์ของป่า ความบริสุทธิ์ของอากาศที่โอบล้อมตัวเรา...

อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่า... "ป่าสนวัดจันทร์" กับ  "ปางอุ๋ง" ต่างกันอย่างไร...

สำหรับเรา... ทั้งสองแห่งนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน

เสน่ห์ปางอุ๋งคือ... บรรยากาศของอ่างเก็บน้ำและทิวสน...

ส่วนเสน่ห์ของป่าสนวัดจันทร์ในสายตาของเราก็คือ.. "ต้นสน" ที่เรียงรายอยู่มากมายนี่เองค่ะ  ต้นสนที่นี่มีเสน่ห์จริงๆ

เดินเล่นไปเรื่อยๆ ไปเจอกับบ้านพักอีก type ของป่าสนวัดจันทร์ เห็นว่าเป็นบ้านพักใหม่ล่าสุดชื่อ "บ้านฉางข้าว"  เป็นบ้านพักสำหรับ 2 คน  

แต่ที่พักตรงนี้จะได้วิวคนละแบบกับบ้านวิวน้ำที่หมียักษ์นอนค่ะ แต่หมียักษ์ว่าบ้านฉางข้าวจะได้วิวทะเลหมอกในช่วงหน้าหนาวค่ะ ^^

ขอปิดท้ายโครงการหลวงป่าสนวัดจันทร์ไปด้วยรูปนี้ค่ะ ...

คณะเราโบกมือบ๊ายบายป่าสนวัดจันทร์อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก...

ออกมาที่ถนนใหญ่ เลี้ยวขวามุ่งหน้าเข้าหมู่บ้านวัดจันทร์ ประมาณไม่ถึง 5 นาทีก็จะเจอกับ "วัดจันทร์"

จุดเด่นของ "วัดจันทร์" ที่ใครๆมาก็ไม่พลาดจะต้องมาถ่ายรูป  
นั่นก็คือ "วิหารแว่นตาดำ"  นี่เอง

วิหารนี้ได้ช่างชาวปกากะญอได้เอากระจกกรองแสงสีดำ มาติดตรงช่องลมด้านหน้าวิหาร เมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว ด้วยเหตุเพื่อป้องกันโจรที่เข้ามาลอบขโมยพระประธาน ซึ่งเป็นพระสิงห์สาม อายุกว่า 300 ปี และพระพุทธรูปอื่นๆ นั่นเอง

เพิ่งมาค่ะ ยังทันใช่ไหมคะ  

อาหารน่าทานทุกมื้อเลยครับ ผมหิวข้าวเลยเนี่ย :P
ป่าสนก็สวยมากๆครับ :)

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^

ไม่เคยรีวิวใช้เวลานานขนาดนี้มาก่อน ต้องขอโทษจริงๆค่ะ (- -") มัวแต่ไปเตรียมตัวเก็บของหนีน้ำ    

************************************************

คุณสาวหน้าใส   คุณThe Armani และคุณสามแซ่  ขอบคุณที่แวะมานะคะ  เด๋วพาเที่ยวในบ้านวัดจันทร์กันต่อเลย

************************************************

จากรูปเป็นถนน 1349 บ้านวัดจันทร์ อ.กัลยานิวัฒนา ไปอ.สะเมิง ระยะทางเท่าไหร่ไม่แน่ใจ แต่จะสั้นกว่าเส้นแม่มาลัยปายแน่นอน แต่ทางจะเป็นลูกรังไปตลอดทาง ยิ่งถ้าฝนตกนี่ไม่ควรอย่างยิ่ง ทางนี้จะเหมาะสำหรับรถกระบะ หรือ 4WD มากกว่าค่ะ  รถตู้รถเก๋งหมดสิทธิ์

ใกล้ๆวัดจันทร์ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งนึงก็คือ "ศูนย์ศิลปาชีพบ้านวัดจันทร์" จัดแสดงงานฝีมือและจำหน่ายผ้าทอ โดยฝีมือสาวๆชาวปกากะญอ แต่วันที่เราไปไม่ได้เปิดทำการ น่าเสียดายจริงๆ

เราเลยแวะไปเที่ยว "ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์" ค่ะ  


(*ใช้เส้นทางเดียวกับที่ไป "มูเส่คี อีโค ลอดจ์" ค่ะ)

และนี่คือถนนที่เราขับมาจาก "ป่าสนวัดจันทร์" เพื่อมายัง "ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์" ค่ะ

รถเก๋ง-รถตู้ยังพอมาได้นะคะ เพราะระยะทางไม่ไกลมาก ประมาณ 7 กม.แต่ถ้าเจอฝนนี่คงต้องขอยอมแพ้เหมือนกันค่ะ  

ปล.แต่ถนนจาก 1265 มาถึงบ้านวัดจันทร์ อ.กัลยานิวัฒนา ลาดยางทั้งหมดนะคะ มีแต่เส้นทางที่จะมาโครงการหลวงและไปสะเมิงเท่านั้นที่เป็นลูกรังค่ะ

ภายใน "ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์" จะเป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เห็นว่ามีแปลงผัก เช่น ฟักบัตเตอร์นัต โอ๊คลีฟแดง ฟักทองญี่ปุ่น กะหล่ำหัวใจ กะหล่ำปลีแดง พืชผล เช่น อะโวกาโด พลับ พลัม ส้ม และสาลี่

แต่ช่วงที่เราไปปลายๆเดือนสิงหาคมยังไม่มีผลิตผลอะไรออกเลยค่ะ น่าเสียดายมากๆ (>__<")

เลยได้แต่เดินชมที่พัก ที่พักที่นี่สามารถรองรับได้ 20 คนเลยทีเดียว
นี่เป็นส่วนด้านหลังของที่พักค่ะ....

ด้านข้างที่พัก พร้อมวิวบางส่วน

นี่คือส่้วนของด้านหน้าที่พักใน "ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์"  ซึ่งเป็นคนละที่กับ "สวนป่าหลวงบ้านวัดจันทร์" นะคะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมบ้านพัก โทร. 053 318 325  085 715 1310  คุณเกรียงไกรค่ะ

วิวด้านหน้าของบ้านพักในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์  ยิ่งถ้ามาในช่วงหน้าหนาวคงจะโรแมนติกน่าดู

มองไปทางซ้ายยังคงเห็นแปลงเกษตรพืชผลต่างๆ  ถ้ามาหน้าหนาวคงไม่พลาดที่จะติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอน

แต่เรามาเดือนสิงหา.... ยังไม่มีอ่ะ  T____T

ถึงเวลาโบกมือลาศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์  ...  เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไป...

ระหว่างทางเราได้เจอกับวิวสวยๆ อย่างนาข้าวเขียวชอุ่ม (อีกแล้ว)
ดูแล้วเพลินตามากๆ จนถึงกับต้องลดกระจกรถลงเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์จากบ้านวัดจันทร์ให้ชุ่มปอด ^____^

นาข้าวเขี๊ยวเขียว~ มันช่างมีเสน่ห์จริงๆ...  

นี่แหล่ะน๊าข้อดีของการมาเที่ยวหน้าฝน  ^___^

โบกมือลาบ้านวัดจันทร์ เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป....  "ปาย"


ปาย...แล้วปายอีก...  ปายหน้าฝนจะเป็นยังไง ไม่ไปไม่รู้  รอติดตามรีวิวตอนหน้ากันด้วยนะคะ มาเที่ยวปายหน้าฝนด้วยกัน  ^___^


ขอบคุณทุกคนที่แวะมาเที่ยวด้วยกันค่า  

สวยมากๆครับ

อากาศดีมากๆ ตามเที่ยวนะครับ

ขอบคุณรีวิวดีๆมากๆนะครับ