พาไปดูน้ำที่คลองมหาสวัสดิ์และคลองทวีวัฒนาแนวหน้าฝั่งธนบุรี

ช่วงนี้ถือว่าวิกฤตน้ำท่วมกรุงเทพฯอย่างมาก เลยทำให้ไม่มีเวลามาโพสกระทู้ท่องเที่ยวที่อยุธยาต่อ  พอดีบ้านผมอยู่ฝั่งธนบุรี เปิดแผนที่ดูแล้ว พบว่ามีคลองสองแห่ง ที่สามารถทำให้ฝั่งธนบุรีท่วมได้ ถ้าไม่นับรวมแม่น้ำเจ้าพระยา (รวมทั้งคลองบางกอกน้อย)

ซึ่งคลองสองแห่งนี้ จะไม่ขึ้นกับน้ำขึ้นน้ำลง แต่จะเป็นผลของน้ำหลากจากทางด้านเหนือโดยตรง ซึ่งปัจจุบันได้ลงมาท่วม อ.บางบัวทอง อ.บางใหญ่ และ อ.บางกรวยแล้ว   ขั้นต่อไปก็คือ คลองมหาสวัสดิ์ ที่คอยต้านทานไว้ โดยการส่งน้ำไปทางทิศตะวันตก เพื่อไปลงแม่น้ำท่าจีน ที่ อ.นครชัยศรี แต่ ระดับน้ำของแม่น้ำท่าจีนตอนนี้ ก็ถือว่าสูงไม่น้อย ทางออกของน้ำก็ืคือ เพิ่มระัดับขึ้นมาเืื่รื่อยๆ เพื่อเพิ่มความเร็วในการไหลไปออกแม่น้ำท่าจีน และ.....ล้นตลิ่งฝั่งกรุงเทพฯ

จากแผนที่้ข้างล่างจะเห็นว่า คลองมหาสวัสดิ์ได้ถูกใช้เป็นเส้นแบ่งจังหวัด ระหว่าง จ.นนทบุรี กับ กรุงเทพฯ ด้านฝั่งธนบุรี     ฝั่งจ.นนทบุรีคือ อ.บางใหญ่ ที่ท่วมอ่วมอยู่ในขณะนี้  ฝั่งธนบุรีก็คือ เขตทวีวัฒนา ที่น้ำได้เริ่มล้นข้ามถนนบรมราชชนนีบริเวณต่างระดับพุทธมณฑลสาย 4 จนต้องมีการเตือนภัยกันในวันนี้เอง

จากคุณ : mirage_II [26 ต.ค. 54 17:59:27 ]
ความเห็นที่ 1

การเดินทางครั้งนี้อาจจะเรียกว่า เลาะเลียบค่าย เหมือนสมัยศึกกรุงศรีอยุธยาเลย แค่คิดใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าจะเจอน้ำ่ท่วม รถติด อะไรต่างๆ ที่คาดไม่ถึง แต่ก็ต้องใจสู้ดู โดยเริ่มออกเดินทางจาก ถ.วงแหวนตะวันตก (กาญจนาภิเษก) จากบางแค มาเลี้ยวซ้าย เข้าถ.บรมราชชนนี แล้วเข้าทางต่างระดับพุทธมณฑลสาย 2 ข้ามมา ยังถ.ศาลาธรรมสพน์ ตามลูกศรสีชมพู ข้างบนครับ

แม้จะเป็นการเดินทางในวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2554 ที่สถานการณ์น้ำอาจไม่วิกฤตเท่าวันนี้ ก็ตาม แต่กว่าจะได้มีเวลาจัดเตรียมภาพ หาเวลาว่างมาลงให้ (เพราะอย่างที่ทราบ ตอนนี้ ใครๆ ก็เตรียมตัวรับน้ำท่วมกันอย่างหนัก) ก็ล่วงเลยมา 2 วัน

แต่ก็ได้ภาพบรรยากาศในขณะนั้น ที่ควรจะเก็บบันทึกไว้เป็นเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์น้ำท่วมใหญ่ในบ้้านเรา ครับ

ภาพแรกมาเริ่มบันทึกกันตรงต้นทาง ถนนศาลาธรรมสพน์ (ชื่อเดิมคือ ทำศพ จริงๆ นะ)  เีลี้ยวเข้าไปก็ได้พบกับธรรมชาติอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งเวลาค่ำถือว่าเป็นถนนที่เปลี่ยวเส้นหนึ่งเหมือนกันโดยเฉพาะในอดีตสิบปีที่แล้ว   ถนนแห้งไม่พบน้ำท่วม หรือรถติดใดๆเลย

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:06:57 ]
ความเห็นที่ 2

ระหว่างขับรถไป ก็ชำเลืองมองพื้นที่ด้านขวามือ ที่ติดกับคลองมหาสวัสดิ์โดยตลอดว่ามีน้ำเจิ่งนองหรือไม่  น่าแปลกใจที่ยังแห้งอยู่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้ง ๆที่อยู่ด่านหน้ารับน้ำก่อนใคร

เจอทางเข้าสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ที่ควรแวะเ้ข้าไปครับ (อย่างน้อยก็ไม่ใช่ซอยแคบๆ จนหาที่กลับรถไม่ได้แน่นอน)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:09:19 ]
ความเห็นที่ 3

สุดซอยก็คือ สถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์  ได้ลงไปเก็บภาพด้านหน้าสถานีมาให้ดู  (ไม่มีเวลาเดินอ้อมไปด้านหลังสถานี เพราะดูด้วยตายังไม่เห็นน้ำท่วมใดๆบริเวณนั้น)

ได้คุยกับพ่อค้ารถเร่ แถวนั้น บอกว่า สถานีรถไฟแห่งนี้มีแนวโน้มจะโดนน้ำท่วมก่อนใคร ได้มีการเตรียมพร้อมกันด้วยเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะต้องปิดทำการชั่วคราวเมื่อใด

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:12:12 ]
ความเห็นที่ 4

เดินเข้าไปบนราง แล้วเก็บภาพทั้งสองด้านมาให้ดูกัน  นึกแล้วใจหายที่ น้ำจะต้องท่วมรางแถวนี้ ก่อนเข้าไปกรุงเทพฯ  ปกติถ้าท่วมไม่สูงนัก สักฟุตหนึ่ง รถไฟจะยังคงวิ่งได้ แต่ถ้าท่วมเกินกว่านั้น อาจต้องหยุดวิ่ง ให้ใช้หัวจักรแบบเก่า (ไฮโดรลิคส์) มาลากแทน แต่ทั้งนี้ น้ำต้องไม่ท่วมสูงเกิน 2 ฟุต ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:15:02 ]
ความเห็นที่ 5

ภาพบน : ออกมาจากสถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์ แล้วก็มองหาทางแยกไป วัดใหม่ผดุงเขต ที่ผมเคยใช้ลัดไปบ้านผมได้ (มีทางไปออก ถนนเลียบคลองประปามหาสวัสดิ์ โดยผ่าน วัดป่ามณีกาญจน์)  โดยไม่ต้องไปรถติดแถว ศาลายา

ภาพล่าง : เส้นทางนี้ต้องข้ามทางรถไฟ ให้ระวังก่อนข้าม แม้จะีมีเครื่องกั้นก็ตาม(เพราะเป็นมุมอับ มองไม่เห็นรถไฟจากถนนข้างล่างเลย แถมเสียงรถไฟก็ยากที่จะได้ยินจากในรถยนต์ที่ปิดกระจก)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:18:38 ]
ความเห็นที่ 6

ภาพบน : มาถึงสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ที่จะพาข้ามเขตจังหวัดไป นนทบุรี ครับ  สะพานสูงมาก มองไม่เห็นรถที่จะสวนมา เนื่องจากมีรถจอดหนีน้ำบนสะพาน ตอนขึ้นไป มีรถบรรทุกทหารสวนมา เลยต้องเสียเวลาจอดรถลุ้นว่าพ้นหรือไม่พ้นกันพักหนึ่ง ก่อนจะผ่านไปได้ด้วยดี

ภาพล่าง : กำลังจะลงจากสะพาน มองเห็นน้ำท่วมเต็มไปหมด รถจอดริมถนนกันแน่น  ผมยังมาทันก่อนที่ถนนฝั่งนี้จะท่วมไปทั้งหมด (ตรงเชิงสะพานนี้ เป็นที่สูง น้ำเลยยังไ่ม่ท่วม)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:21:31 ]
ความเห็นที่ 7

ภาพบน : ลงสะพานมา ต้องเี้ลี้ยวซ้าย เพราะพอมีที่ว่างให้จอดรถได้ ซึ่งก็มีแค่นี้จริงๆ ที่ยังแห้งอยู่

ภาพล่าง : หันไปดูด้านขวา เป็นถนนเ้ข้าไปยัง ต.ศาลากลาง น้ำท่วมตลอดสาย มีรถกำลังทะยอยกันวิ่งออกมา เป็นรถพื้นต่ำทั้งนั้น นับว่าเสี่ยงมากๆ ถ้าไม่รีบนำออกมาจอดข้างนอก

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:25:36 ]
ความเห็นที่ 8

ภาพบน : มองไปข้างหน้าเป็นถนนเลียบคลองมหาสวัสดิ์ที่ตรงไปยัง ศาลายา น้ำท่วมหนัก ลองสอบถามคนแถวนั้นบอกว่า วิ่งไปได้สักพัก ก็เจอคันกั้นน้ำกลางถนน!  รถข้ามไปไม่ได้ต้องเลี้ยวกลับมาเท่านั้น

ภาพล่าง : หันไปอีกด้านหนึ่ง ทางไปยัง วัดใหม่ผดุงเขต ที่สามารถไปออก ถนนวงแหวน แถวๆ วัดศรีประวัติได้ น้ำท่วมตลอดแนว ไม่ควรจะวิ่งเข้าไป เพราะกลัวหาที่กลับรถไม่ได้ (อิอิ...การกลับรถในน้ำท่วมที่มองไม่เห็นขอบทาง มันช่างเสียวสุดๆ ที่จะตกคลองครับ)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:29:10 ]
ความเห็นที่ 9

ภาพบน : ผมลงรถ(คนเดียว) ไปดูน้ำที่สะพานดีกว่า จะได้เห็นชัดๆ ไปเลยว่าปริ่มตลิ่งแค่ไหน  ในรูปจะเห็นเจ้าตูบ ยืนงง อยู่ว่ามนุษย์เขาทำอะไรกัน วุ่นวายไปหมด หรือไม่ก็กำลังหาเจ้าของอยู่...นึกแล้วน่าสงสาร สัตว์เลี้ยง ครับ ที่ลำพังคนก็จะหาที่อยู่ไม่ได้ แล้วจะไปนำสัตว์เลี้ยงมาอยู่ร่วมเข้าไปอีก  หลายแห่งเขาก็ไม่รับสัตว์เลี้ยงอยู่แล้วครับ

ภาพล่าง : กำลังเดินขึ้นสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ กลับไปฝั่งกรุงเทพฯ  ต้องขึ้นไปบนส่วนที่สูงสุด จะได้เห็นอะไรกว้างๆ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:43:24 ]
ความเห็นที่ 10

ภาพบน : เดินขึ้นมาบนจุดสูงสุดของสะพานแล้ว หันไปดูด้านทิศตะวันออก ที่ตรงไปยัง ถนนวงแหวนตะวันตก  สังเกตุที่ตลิ่งจะเห็นว่าฝั่งกรุงเทพฯสูงกว่า แต่ก็มองไม่เห็นคันกั้นน้ำริมคลองในช่วงนี้ (เคยเห็นคันกั้นน้ำเหมือนกัน แต่เป็นช่วงอื่น ตอนที่ผมขับรถมาวัดใหม่ผดุงเขต เมื่อปีที่แล้ว)

ภาพล่าง : หันมาดูอีกด้านของสะพานบ้าง  บรรยากาศบนสะพานนี้เหมือนมีงานวัด ผู้คนอุ้มลูกจูงหลานมาดูน้ำกันอย่างไม่กลัวอันตรายจากน้ำหลากเลย

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:48:00 ]
ความเห็นที่ 11

เดินมาดูชัดๆ ที่ราวสะพานด้านนี้เลย พอดีมีเรือทีมกู้ภัยกำลังลอดสะพานไปพอดี  เลยได้ภาพคลื่นน้ำหลังเรือมาให้เห็นครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:49:50 ]
ความเห็นที่ 12

ภาพบน : มองไปทางฝั่งกรุงเทพ เชิงสะพานข้างล่างเป็นลานกว้างใช้เป็นที่จอดรถหนีน้ำ

ภาพล่าง : มองไปทางฝั่ง จ.นนทบุรี เชิงสะพานข้างล่างเป็นที่จอดรถเช่นกัน เหลือพื้นที่แห้งเท่าที่เห็น นอกนั้น น้ำล้อมไว้หมดแล้ว....

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:52:35 ]
ความเห็นที่ 13

ภาพบน :  เดินลงกลับมายังรถ พบว่าน้ำได้รุกถนนแห้งๆ ด้านหน้ารถผมเข้ามาเรื่อยๆ ชนิดที่สังเกตุได้ เลยรีบกลับรถ ขึ้นสะพานกลับกรุงเทพฯ โดยเร็ว

ภาพล่าง : มาถึงจุดตัดข้ามทางรถไฟ พอดีมีรถไฟผ่าน เลยได้ภาพรถไฟขบวนเล็กมาขบวนหนึ่ง (น่าเสียดาย ที่พอข้ามไปปุ๊บ ก็มีรถไฟขบวนยาวๆ แล่นผ่านอีกครั้ง)  ระหว่างที่รอข้าม สังเกตุเห็นป้ายข้อความต้องหลอดไฟ ระบุว่า "ระวังรถไฟ สัญญาณขัดข้อง ถ้าหากหลอดไฟนี้ดับ"  เข้าใจคิดดีครับ เหมือนหลอดไฟ Power ในอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่บอกว่า เครื่องกำลังทำงาน หรือใช้งานได้  เพราะถ้าหากหลอดดับ ก็แสดงว่า่ เครื่องนี้ถูกปิด หรือไม่ได้ใช้งาน ซึ่งต้องระวัง...

อ๋อ...ผมคิดออกละ ปกติจุดตัดทางรถไฟที่มีเครื่องกั้นมักจะมี จนท.รถไฟคอยควบคุมอยู่  แต่จุดนี้ไม่มีป้อม หรือจนท.อยู่เลย แสดงว่า เป็นระบบอัตโนมัติ หรือควบคุมระยะไกลจากสถานี   จึงต้องมีระบบบอกคนที่จะข้ามให้ทราบว่า เครื่องนี้อยู่ในสภาพพร้อมใช้หรือ ชำรุด ปิดอยู่

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 18:59:31 ]
ความเห็นที่ 14

ภาพบน : ขับรถตามถนนศาลาธรรมสพน์ต่อไป อีกนิดเดียว ก็สุดถนน เป็นสะพานข้ามคลองทวีวัฒนา มีผู้คนมากมายราวกับมีตลาดนัดย่อมๆ แถวนี้เลย

ภาพขวา : มองไปทางขวามือ เห็นรถทีวีช่อง 3 มาทำ่ข่าวด้วย เพราะจุดนี้ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ัฝั่งธนฯ เลยทีเดียว ว่าน้ำจะท่วมเมื่อใด อยู่ที่ประตูระบายน้ำแห่งนี้ จะปล่อยน้ำไป ซึ่งปลายทางคลองทวีวัฒนา นี้ก็คือ คลองภาษีเจริญ ที่ผมพาเพื่อนๆ ไปดูมาแล้วในกระทู้ ห้องข่าว เมื่อวันที่ 23 ตค. นี้
http://www.pantip.com/cafe/news/topic/NE11237817/NE11237817.html
ซึ่งคลองภาษีเจริญก็เสมือนเส้นเลือดชาวฝั่งธนฯ ส่วนล่างและตะวันตกทั้งหมด ที่มีคลองย่อยๆ ซอยออกไปทุกพื้นที่ รวมทั้งบ้านผมด้วยครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 19:08:48 ]
ความเห็นที่ 15

ภาพซ้าย : เนื่องจากคนมากรถเยอะ กว่าจะหาที่จอดได้ก็ยาวไกลมาพอควรครับ

ภาพขวา : ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ดูน่าทานไม่น้อย ช่วงนี้คนเยอะหน่อย กลายเป็นโอกาสที่ดี (ก่อนที่น้ำจะล้นตลิ่งท่วมจนต้องปิดร้าน)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 19:11:45 ]
ความเห็นที่ 16

ภาพบน : มองย้อนกลับไปทางที่ผ่านมา โอ้โฮ ไกลมาก มองไม่เห็นประตูน้ำเลย คนเยอะอย่างนี้ อีกหน่อยอาจมีการสร้างสวนสาธารณะ ให้มาพักผ่อนดูน้ำกัน

ภาพล่าง : มองไปยังฝั่งตรงข้ามคลองทวีวัฒนา น้ำยังเหลืออีกหน่อยนึง  มีการเสริมแนวกั้นไว้ด้วย ในวันนั้น(24 ตค.) ระดับน้ำเช็คจากเว็บสำนักระบายน้ำ (http://dds.bangkok.go.th/scada/)ว่าขึ้นสูง 1.01 เมตร ก็คือปริ่มๆพอดีตลิ่ง (แต่ตลิ่งมีคันกั้นน้ำเลยยังไม่ล้นออกมา แต่มาทราบทีหลังตอนขับรถออกมาว่า เริ่มมีน้ำล้นออกมาที่ถนนบรมราชชนนี ตรงหน้าธนาคารทหารไทย)  แต่วันนี้ (26 ตค.) ระดับน้ำเช็คจากเว็บสำนักระบายน้ำ แล้วพบว่าระดับน้ำขึ้นสูง 1.32 เมตร  คงปริ่มคันกั้นน้ำแล้ว.... น้ำจึงท่วมถนนบรมราชชนนี ตามข่าวครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 19:21:28 ]
ความเห็นที่ 17

จากตรงที่จอดรถนี้ลองชะโงกไปดู น้ำตรงคันกั้นน้ำฝั่งที่ผมยืนอยู่บ้าง ยังเหลือระยะทางอีกไม่น้อยกว่าฟุต  กะด้วยสายตา อาจมากถึงครึ่งเมตรเลย  เห็นแล้วอุ่นใจครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 19:23:43 ]
ความเห็นที่ 18

อธิบายได้ละเอียดดี ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : ถึงอ้วนก็รัก [26 ต.ค. 54 19:27:24 ]
ความเห็นที่ 19

ผมเดินลัดเลาะมาจนถึงสะพานหน้าประตูน้ำ มองลงไปในคลอง น้ำเชียวน่ากลัวไม่น้อย แต่....สังเกตุดีๆ ในวงกลมสีชมพู  มีคนปีนท่อประปาไปนั่งตรงกลาง อย่างหน้าตาเฉย

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 19:28:23 ]
ความเห็นที่ 20

สวัสดีครับ คุณถึงอ้วนก็รัก: ก็ตามสไตล์ นายมิราชช นั่นแหละครับ ภาพเยอะ เนื้อหามาก เพื่อความเต็มอิ่มกับบรรยากาศให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณเ่ช่นกันครับ

เดินเข้ามาใกล้ๆ  คนที่นั่งกลางคลองบนท่อประปานั้น เป็นคนจริงๆ ครับ ถือว่าเป็นผู้กล้าในสายตาคนที่มาดูน้ำเลยก็ว่าได้  น้ำเชี่ยวขนาดนั้น ดันปีนท่อประปากลมๆ ไปอยู่ตรงกลางได้ ถ้าลื่นตกลงไป ใครก็ช่วยไม่ได้ อาจเป็นโชว์ระทึกให้ดูฟรีได้..เฮ้อ.. ช่างเหมือน พวกที่ชอบไปนั่งห้อยขาบนชะ่ง่อนหินสูง เช่น ผาหล่มสัก เป็นต้น

ภาพนี้มาดูกันอีกที เทียบกับภาพในคห.ก่อนหน้านี้ ที่มีเด็กยื่นอุปกรณ์ลักษณะคล้ายกันลงไปในน้ำ  เอ...ดูคล้ายเบ็ดตกปลาเหมือนกัน  เพราะถ้าเป็นปืนน่าจะเล็งให้สูงกว่านี้ และคงมีเสียงให้ได้ยินบ้างแล้ว

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 19:33:11 ]
ความเห็นที่ 21

ภาพซ้าย : เดินต่อไป ต้องข้ามไปยืนฝั่งโน้นของสะพานก่อน รถเยอะคนมากจริงๆ

ภาพขวา : ขึ้นมาบนสะพานแล้ว หันไปเก็บภาพประตูน้ำคลองทวีวัฒนา แบบเน้นให้เห็นผิวน้ำชัดๆ ว่ามีความรุนแรง เชี่ยวมากแค่ไหน  (ขนาดวันนั้นเปิดประตูแค่ 1.22 เมตร ยังแรงขนาดนี้  วันนี้เปิด 1.73 จะแรงขนาดไหน)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 19:38:38 ]
ความเห็นที่ 22

สมัยตอนเรียนหนังสือ เคยนั่งรถไฟไปนอนค้างบ้านเพื่อนที่ศาลาธรรมสพน์ ติดกับคลองมหาสวัสดิ์สมัยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ดีใจที่สภาพยังคงเป็นธรรมชาติอยู่ แต่ก็เสียใจที่บ้านเพื่อนคงไม่รอดโดนน้ำท่วมแน่ๆ

จากคุณ : คืนสู่รัง [26 ต.ค. 54 19:48:16 ]
ความเห็นที่ 23

ภาพบน : หันมามองด้านคลองทวีวัฒนาบ้าง ทั้งรถทั้งคนขวักไขว่ ไปหมด เดินต้องระวังๆ หน่อย ไหนสะพานจะลาดชันและเปียกด้วย

ภาพล่าง : ผมเดินไปทางด้านหน้าประตูน้ำ พยายามมองเข้าไปข้างในประตูน้ำเพื่อดูความแตกต่างของระดับน้ำสองด้าน แต่เจอรั้วและป้ายห้ามเข้า ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 20:03:05 ]
ความเห็นที่ 24

สวัสดีครับ คุณคืนสู่รัง : มีบ้านสวยๆ แถวนั้นเยอะ น่าเสียดายที่ต้องจมน้ำกันแล้ว

นี่เป็นด้านหน้าประตูน้ำ น้ำเยอะเหมือนเดิม สังเกตุว่ามีสเกลวัด ความสูงของประตูที่ยกขึ้นมาด้วยครับ จะได้เป็นพยานว่าเปิดประตูน้ำเท่านี้จริง เพราะประตูน้ำแห่งนี้อยู่ใกล้คลองมหาสวัสดิ์ ที่ชาวบ้านแถวนั้นต่างประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ด้วย ถ้าหากเกิดไม่เปิด หรือเปิดน้อย อาจมีปัญหาได้เหมือนกัน

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 20:09:01 ]
ความเห็นที่ 25

ผมเดินเลยไปอีกสักหน่อย เพื่อดูว่า เขามีอะไรกัน คนถึงเยอะ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 20:09:56 ]
ความเห็นที่ 26

ภาพซ้าย : อ๋อ..ตรงนี้มีสถานีทีวีช่องหนึ่งกำลังรอทำ่ข่าวอยู่ด้วย (ไม่ทราบช่อง เพราะไ่ม่มีป้ายติดไว้ที่รถ)

ภาพบนขวา : เดินเข้าไปที่แนวกระสอบทราย แล้วมองไปทางทิศเหนือ ที่เป็นคลองมหาสวัสดิ์ แลเห็นสะพานคนเดินข้ามอยู่ไกลๆ (ในภาพผมซูมภาพดึงเข้ามาครับ) เพิ่งทราบว่ามีสะพานด้วย  เวลามีน้อยเลยไม่ได้เิดินไปถึงสะพานครับ

ภาพล่างขวา : หันกลับมาทางประตูน้ำ เห็นแนวกระสอบทรายช่วงนี้ ได้วางห่างจากคันกั้นน้ำ  ไม่ได้วางชิดคันกั้นน้ำเหมือนช่วงอื่นๆ  ถ้าน้ำดันเ้ข้ามาคันกั้นน้ำจะรับไม่ไหว แต่้ก็มีข้อดีที่จะเกิดร่องน้ำในช่องนี้ที่ำสามารถใช้ปั๊มไดโว่ดูดกลับออกไปทิ้งในคลองได้

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 20:23:50 ]
ความเห็นที่ 27

เดินกลับมาหน่อย เห็นผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นไปยืนบนกระสอบทรายถ่ายภาพคลอง ดูหวาดเสียวเหมือนกัน ถ้าหากลื่น หรือกระสอบทรายไหล ก็อาจพลัดตกน้ำได้  ตลิ่งสูงไม่ใช่น้อย ทำให้ยากที่จะกลับขึ้นมาด้วย...

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 20:26:11 ]
ความเห็นที่ 28

ภาพซ้าย : ระหว่างเดินกลับมา พบว่าชายผู้กล้ากลางคลองยังนั่งอยู่เช่นเดิม ไม่เวียนหัวตกน้ำด้วย  คิดว่าเขาคงทำแบบนี้เป็นประจำ (ห้ามลอกเลียนแบบ นะครับ)

ภาพขวา : มีร้านขายของกินด้วย บรรยากาศคึกคักดีจริง  ถ้าเป็นแบบนี้นานๆ อาจมีตลาดนัดต่อไปเรื่อย แม้น้ำจะลดแล้วก็ได้นะครับ เพราะบรรยากาศตรงนี้ก็สดชื่นดีไม่น้อยครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 20:29:19 ]
ความเห็นที่ 29

ขอบคุณมากๆครับผม

เห็นข่าววันนี้รางรถไฟตรงสถานีรถไฟบางบำหรุจมน้ำไปแล้ว ไม่แน่ใจว่ารถสายใต้จะกระทบมากน้อยเพียงใด

จากคุณ : digimontamer [26 ต.ค. 54 20:39:29 ]
ความเห็นที่ 30

ผมขับรถมาจนสุดคลองทวีวัฒนา ช่วงแรก ที่ต้องเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบรมราชชนนี้ เหลือบเห็นรอยน้ำที่รถเหยียบมาจาก ศาลายา เลยเข้าใจว่าน้ำคงท่วมหน้า มหาวิทยาลัยมหิดลแล้ว  แต่พอกลับมาฟังข่าว กลายเป็นท่วมแค่ ตรงที่เห็น คือหน้าธนาคารทหารไทยเท่านั้น (แต่วันนี้ไม่ทราบเช่นกันว่า ท่วมหน้า ม.มหิดลหรือยัง)  

แล้วก็ไปกลับรถตรงถนนพุทธมณฑลสาย 3 ย้อนมาเริ่มต้นถนนเลียบคลองทวีวัฒนาด้านใต้ของถนนบรมราชชนี ต่อ ซึ่งพอถึงถนนอุทยาน ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปพาชมโคมไฟรูปหงส์ ที่ทำให้มีอีกเชื่อหนึ่งว่า "ถนนหงส์" ครับ

ถนนแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 โน้น สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม โดยมีเป้าหมายในการเฉลิมฉลอง 25 พุทธศตวรรษ คือปี พ.ศ.2500  แต่ยังไม่ทันสร้าง แค่อยู่ในช่วงเวนคืนที่ดิน ก็โดนระงับ เพราะ จอมพล ป. โดนทำรัฐประหารยึดอำนาจโดย จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ไปก่อน โครงการนี้เลยถูกลืมเลือนไป

ในปี พ.ศ. 2525 ก็มีการสร้างพุทธมณฑล ซึ่งต่อมาก็ได้มีการรื้อฟื้นโครงการถนนอักษะขึ้นอีก เพื่อเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ใน พ.ศ. 2539 เพื่อเสริมสร้างความสง่างามให้กับพุทธมณฑล

ถนนเ้ส้นนี้ยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้งบก่อสร้างประมาณ หนึ่งพันล้านบาท เปิดให้ประชาชนเข้าใช้ได้ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2542   หลายคนคงจำกันได้ถึงบรรยากาศช่วงเปิดใหม่ๆ ที่จะพากันไปนั่งตามสวนหย่อมกลางถนน ที่มีน้ำพุมากมาย จนต่อมาก็มีร้านค้ามาตั้งริมถนน ขายอาหารแบบอีสานก็เยอะ ผมเองยังเคยไปนั่งทานอาหารมาครั้งหนึ่งเช่นกัน

แต่ต่อมาได้ สั่งห้ามจำหน่ายอาหารริมทาง และเดินไปนั่งทานอาหารที่สวนหย่อมกลางถนน เพราะเคยมีอุบัติเหตุรถชน เนื่องจากจะีมีรถจอดข้างทางเต็มทั้งเส้นคู่ขนาน และเส้นตรงกลาง แล้วมีคนเดินข้ามกันขวักไขว่

ปัจจุบัน จึงเหลือสภาพความเงียบสงบไว้ให้ชมกัน  ร้านอาหารที่เหลืืออยู่ จะร่นออกไปนอกฟุตบาท  ร้านที่ดังๆ และคนรู้จักกันก็คือ "บ้านน้ำเคียงดิน" ที่ผมเองก็เคยไปทานมา คนเยอะ ราคาไม่ถูก รสชาตอร่อย แต่....รอนาน..สุดๆ แถมเลือกที่นั่งไม่ได้ ก็เพราะคนเยอะ นี่แหละครับ

อ้อ..อีกเรื่องหนึ่งคือ ชื่อถนนอักษะ นั้นมีความเป็นมาคือ เป็นชื่อของกลุ่มประเทศร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ไทยเราเข้าร่วมในฝ่ายอักษะ ไปแบบจำยอม เพราะโดนประเทศญี่ปุ่นบังคับให้เป็นที่ผ่านกองกำลังทหารจาก อ่าวไทยไปยัง พม่า (เพื่อหวังจะทำสงครามกับ ประเทศตะวันออกกลาง ต่อไป)  ซึ่งต่อมาฝ่ายอักษะแพ้สงคราม ไทยเราเลยไม่ยินดีกับชื่อนี้อยากเปลี่ยน แต่กรมศิลปากรได้แนะนำว่า ชื่อ อักษะนี้ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ เขียนได้ว่า "AXIS" ที่แปลว่าแกนกลาง อันจะมีความหมายว่า เป็นถนนเชื่อมระหว่าง ถนนพุทธมณฑลสาย 3 และสาย 4  

แต่ต่อมา ได้มีการขออพระราชทานชื่อถนนเส้นนี้ใหม่ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อถนนว่า "ถนนอุทยาน" ซึ่งเป็นชื่อที่สัมพันธ์กับพุทธมณฑล

ต้องขออภัยที่่ต้องนำภาพเก่าในวันก่อนมาให้ชม ทีแรกต้องการจะนำคลิ๊ปวิดีโอที่ถ่ายขณะขับรถผ่านถนนอุทยานมาให้ชม แต่ยังหาวิธีแปลงไม่ได้ เพราะไม่มีเวลาพอ ดึกแล้วด้วย แถมวันนี้ไม่ได้ตามข่าวน้ำท่วมอีกด้วย

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 21:21:33 ]
ความเห็นที่ 31

สวัสดีครับ คุณdigimontamer :

ภาพซ้าย : เสร็จแล้วก็วนกลับเข้ามาถนนเลียบคลองทวีวัฒนาอีกครั้ง  เพื่อจับตาระดับน้ำต่อไป

ภาพขวา : ระหว่างขับรถเลาะลิมคลองทวีวัฒนา ฝั่งสนามหลวง 2 ก็เหลือบเห็นอะไรแปลกๆ ในน้ำ ก็จอดรถลงไปถ่ายภาพมา เป็นท่อประปาครับ  เนื่องจากน้ำปริ่มเลยทำให้เกิดภาพสะท้อนแปลกตาดีครับ

ซึ่งถือเป็นเสร็จภาระกิจในวันนั้น(24 ตค. 54) นะครับ  เดี๋ยวผมต้องไปตรวจสอบระดับน้ำในวันนี ได้ข่าวว่าท่วมแล้วครับ มากน้อยแค่ไหนยังไม่ทราบ ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [26 ต.ค. 54 21:26:52 ]
ความเห็นที่ 32

ขอบคุณนะคะ ที่นำภาพมาให้ดู

จากคุณ : Flaminio [26 ต.ค. 54 21:46:09 ]
ความเห็นที่ 33

แถวบ้านเลยค่ะ เห็นแล้วใจระทึกจริงๆ
ขอบคุณมากค่ะ

จากคุณ : cultureclub [26 ต.ค. 54 23:27:44 ]
ความเห็นที่ 34

เกาะติดสถานการณ์ด้วยคนครับ

จากคุณ : ลุงแบกเป้ [27 ต.ค. 54 08:31:48 ]
ความเห็นที่ 35

ขอบคุณมากครับ

จากคุณ : เล็กทาโร่ [27 ต.ค. 54 12:15:41 ]
ความเห็นที่ 36

แถวบ้านผมเองแหละครับ แม่ลุ้นอยู่ทุกวัน

จากคุณ : Into the Groove [27 ต.ค. 54 13:58:25 ]
ความเห็นที่ 37

วันนี้ (ค่ำวันที่ 27 ตค.) ผมได้ไปดูระดับน้ำที่ คลองทวีวัฒนาอีกครั้ง (ส่วนที่ประตูน้ำทวีวัฒนา ไปไม่ได้ น้ำท่วมแล้ว) ได้ภาพมาให้อุ่นใจ ดังในกระุทู้ห้องโต๊ะข่าวครับ
http://www.pantip.com/cafe/news/topic/NE11255874/NE11255874.html

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [28 ต.ค. 54 02:26:02 ]
ความเห็นที่ 38

ขอบคุณสำหรับภาพและรายละเอียดค่ะ

จากคุณ : สาวหน้าใส [28 ต.ค. 54 07:16:39 ]
ความเห็นที่ 39

คห.20 ปืนลูกดอกติดสายเอ็นครับยิงแล้วสาวกลับมาได้เลยครับ....

ดุข่าวเมื่อกี้โห ม.มหิดลศาลายา ถนนยังท่วมเลย สมัยเรียนยังเคยนั่งกลางถนนเลย

สมัยนั้นสามทุ่มรถไม่มีสักคัน

จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว [28 ต.ค. 54 07:44:13 ]
ความเห็นที่ 40

เข้ามาลุ้นด้วยคนค่ะ    เครียดกับคนกรุงเทพจนจะแย่ไปกับเขาด้วยแล้ว...

จากคุณ : ป้าฟู [29 ต.ค. 54 10:26:52 ]
ความเห็นที่ 41

ถนนทั้งหมดที่ผมถ่ายภาพมาให้ดูกัน วันนี้ท่วมหมดแล้ว แถมท่วมหนักด้วย...  ไม่รู้ว่ากี่วันจะลด นะครับ

สวัสดีจ๊ะ ป้าฟู ไม่ได้ทักทายกันนานเหมือนกัน เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องน้ำท่วมอยู่นี่แหละ เลยไม่ได้พาไปเที่ยวที่อื่นเลย

ขอบคุณ คุณถนนสายนี้เปรี้ยว  แสดงว่าไม่ใช่เบ็ดที่ต้องใช้เหยื่อล่อนานๆ   ดังนั้นท่าที่เห็นคือ ท่าเตรียมยิงปลานั่นเอง แบบนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นสไนเปอร์ ชนิดหนึ่งได้เหมือนกัน ที่ต้องคอยซุ่มยิงเป็นเวลานานๆ ใจต้องเย็นจริงๆ นะครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [31 ต.ค. 54 21:01:01 ]