เราสองคนมีโครงการว่าเสาร์อาทิตย์จะไปเดินเที่ยวในบริเวณกรุงเทพและปริมณฑลกันเป็นประจำ
โดยตกลงกันว่า จะใช้บริการขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะทางเรือเป็นหลัก และเดินเท้าตระเวนกันไปในที่ต่างๆ
ผมมีความตั้งใจหลายปีมาแล้วว่าอยากจะตระเวนชมกรุงเทพที่คนจากทั่วทุกมุมโลกหลายล้านคนเดินทางมาท่องเที่ยวทุกปี
ผมเองได้พบกับชาวต่างชาติหลายคนที่มีความสนใจและเข้าใจในศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างน่าทึ่ง
จนนึกละอายใจว่าเป็นคนไทยแต่กลับรู้เรื่องศิลปวัฒนธรรมไทยน้อยกว่าชาวต่างชาติเสียอีก
นี่คืออีกแรงบันดาลใจหนึ่งที่ทำให้เกิดโครงการนี้
สถานที่แรกๆที่เป็นแหล่งรวมของศิลปวัฒนธรรมที่เข้าถึงได้ง่ายคือวัดวาอารามต่างๆ
เราจึงตั้งใจว่าจะตระเวนไปไหว้พระตามวัดต่างๆและสัมผัสกับวิถีชุมชนรอบวัดนั้นๆด้วย

ตอนที่ 1 วัดอรุณราชวราราม
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10951296/E10951296.html
ตอนที่ 2 วัดกัลยาณมิตรและชุมชนกุฎีจีน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10962075/E10962075.html
ตอนที่ 3 วัดราชโอรสาราม
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10979288/E10979288.html
ตอนที่ 4 วัดนางนองและวัดหนัง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10995963/E10995963.html
ตอนที่ 5 วัดราชบพิธ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11017370/E11017370.html
ตอนที่ 6 วัดราชประดิษฐ์ วัดมหรรณ ศาลหลักเมือง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11040059/E11040059.html
ตอนที่ 7 ชุมชนวัดอนงคาราม
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11052080/E11052080.html
ตอนที่ 8 หนีห่าวอัมพวา
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11082056/E11082056.html
ตอนที่ 9 วัดเทพธิดาราม วัดราชนัดดา
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11104014/E11104014.html
ตอนที่ 10 วัดโพธิ์แมนคุณาราม
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11132829/E11132829.html
ตอนที่ 11วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหารและวัดสังฆทาน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11169774/E11169774.html
ตอนที่ 12 วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11207018/E11207018.html


หากท่านเห็นว่ากระทู้นี้มีประโยชน์และช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ก็จะขอบคุณมากครับ
………………………………………………………………………………………

อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่กล้าออกไปไหนเพราะต้อง “เฝ้าระวัง” น้ำอยู่ที่บ้าน เป็นความรู้สึกแปลกอย่างที่ไม่เคยเป็น
รู้สึกเห็นใจคนที่บ้านถูกน้ำท่วมจริงๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะมีกำลังกาย กำลังใจและกำลังทรัพย์ สู้ภัยน้ำท่วมครั้งนี้ครับ
อยุธยาเป็นเมืองหลวงเก่าที่น่าท่องเที่ยว เราไปอยุธยากันหลายครั้ง ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของวัดต่างๆมากมาย
รูปที่มียังไม่ครบถ้วนอย่างที่ควรจะเป็น ผมตั้งใจว่าจะกลับไปถ่ายรูปส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ในการทำรีวิว ด้วยคิดว่าจะไปเมื่อไรก็ได้ ใกล้ๆแค่นี้
ทุกคนคงทราบดีว่าอยุธยาเป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้อย่างหนักหนาสาหัส ในเกาะเมืองต้องใช้เรือในการเดินทางเท่านั้น
ขอทำรีวิวนี้ด้วยความคิดถึง “อยุธยา” เมืองเก่าที่มีเสน่ห์ของเราคนไทยทุกคน เพื่อเป็นกำลังใจและรำลึกถึงความงามของเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้
หลังน้ำลดจะกลับไปเก็บรูปส่วนที่ไม่สมบูรณ์แล้วทำรีวิวอีกครั้ง ครั้งนี้ขอทำด้วยความคิดถึงและห่วงใย

วัดใหญ่ชัยมงคลสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้นคือในรัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิปดีที่ 1
หรืออีกพระนามหนึ่งคือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา

เจดีย์ชัยมงคล อนุสรณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ ่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงรบชนะ มังกะยอชวาพระมหาอุปราชของหงสาวดี
ที่ตำบลหนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี

ในครั้งนั้นพม่าได้ยกทัพเข้ามาในขอบขันฑสีมา สมเด็จพระนเรศวรฯ และสมเด็จพระเอกาทศรถผู้เป็นพระอนุชาจึงได้นำทัพไปรับศึก
และได้ขับช้างเข้าไปอยู่ในวงล้อมของข้าศึกทีคอยระดมยิงปืนเข้าใส่พระองค์และพระคชาธาร
โดยที่เหล่าแม่ทัพนายกองวิ่งตามพระองค์มาไม่ทันพระองค์จึงประกาศด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า
พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ไยในร่มไม้เล่าเชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด
ภายหน้าไปไม่มีกษัตริย์ที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว พระอุปราชของพม่าจึงไสช้างออกมาทำยุทธหัตถี
สมเด็จพระนเรศวรได้ทรงใช้พระแสงพลพ่ายฟาดฟันพระอุปราชขาดตะพายแล่ง

เมื่อกลับมาสู่พระนครแล้ว พระองค์ก็จะลงโทษเหล่าทหารที่ตามพระไปไม่ทันตอนกระทำศึกยุทธหัตถี ซึ่งตามกฏระะเบียบแล้วต้องโทษถึงขึ้นประหารชีวิต
ช่วงเวลาที่รออาญาสมเด็จพระพันรัตน์ พระสังฆราชพร้อมด้วยพระสงฆ์ 25 รูปได้ขอให้พระนเรศวรพระราชทานอภัยยกเว้นโทษให้กับทหารเหล่านั้น
โดยให้เหตุผลว่าพระองค์เปรียบดังพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แวดล้อมด้วยหมู่มารก่อนที่จะตรัสรู้
เป็นการประกาศเกียรติและบารมีความกล้าหาญและเก่งกาจของพระองค์ให้ขจรกระจายไปทั่วแคว้นทั่วแผ่นดิน
สมเด็จพระนเรศวรจึงโปรดให้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและความมีน้ำพระทัยของพระองค์ ที่มีต่อเหล่าทหารเหล่านั้น
และพระะราชทานนามว่า “เจดีย์ชัยมงคล”

เรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์ของวัดใหญ่ชัยมงคลหรือชื่อเดิมคือวัดป่าแก้วมีอยู่ว่า
พระอุโบสถของวัดเคยเป็นที่ซึ่งคณะคิดกำจัดขุนวรวงศาธิราชกับท้าวศรีสุดาจันทร์มาประชุมเสี่ยงเทียนอธิษฐาน
ได้รับผลสำเร็จจึงอัญเชิญพระเฑียรราชาลาผนวช ขึ้นครองราชสมบัติทรงพระนามว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ

พ.ศ. 2104 ในรัชกาลของสมเด็จพระมหาจักรพรรดินั้นเอง ได้มีพระบรมราชโองการให้เอาสังฆราชวัดป่าแก้วไปสำเร็จโทษ
ฐานฝักใฝ่ให้ฤกษ์ยามแก่ฝ่ายกบฎพระศรีศิลป์

ขอเอารูปพระเจดีย์ให้ดูกันหลายๆมุมให้คลายความคิดถึงลงบ้าง

หลังน้ำลดไปเที่ยวอยุธยาเพื่อเป็นกำลังใจและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกันนะครับ

ด้านหลังของพระอุโบสถ ด้านที่อยู่ติดกับพระเจดีย์

ในพระอุโบสถมีผู้คนมาทำบุญไหว้พระกันมากมายไม่ขาดสายเนื่องจากเป็นวันหยุด

ด้านหน้าของพระอุโบสถและพระเจดีย์ชัยมงคลที่อยู่ด้านหลัง

วัดที่เราไปอีกวัดหนึ่งในวันนั้น

วัดราชบูรณะ มีฐานะเป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา

ภายในวัดประกอบด้วยองค์ปรางค์ประธาน ซึ่งล้อมรอบด้วยระเบียงคต มีพระวิหารตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก
ส่วนพระอุโบสถตั้งอยู่ทางด้านหลังของวัดทางทิศตะวันตกในแนวเดียวกัน

วัดราชบูรณะปรากฏอยู่ในพระราชพงศาวดารว่า สร้างขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา ในปี พ.ศ. 1967

ภายหลังจากสมเด็จพระนครินทราธิราชาสวรรคตพระราชโอรสองค์ใหญ่สองพระองค์
คือเจ้าอ้ายพระยาทรงครองเมืองสุพรรณบุรีและเจ้ายี่พระยาทรงครองเมืองสรรค์บุรี
สองพระองค์เสด็จลงมาชิงพระราชสมบัติกันเองต่างทรงช้างเคลื่อนพลมาปะทะกัน ทรงพระแสงของ้าวต้องพระศอขาดพร้อมกัน
เจ้าสามพระยาทรงเป็นโอรสองค์ที่สาม เสด็จลงมาจากชัยนาทมาถึงภายหลัง จึงได้เสวยราชสมบัติ
ทรงพระนามว่าสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2

เมื่อเจ้าสามพระยาทรงขึ้นครองราชย์แล้ว จึงจัดการถวายเพลิงพระศพพระเชษฐาธิราชทั้งสองพระองค์พร้อมกัน
สถานที่ที่ถวายพระเพลิงนั้น ก็ทรงอุทิศสร้างพระปรางค์และพระวิหารมีนามว่า เจดีย์เจ้าอ้ายพระยาเจ้ายี่พระยา

ปรางค์ประธาน มีขนาดสูงใหญ่ ก่อด้วยศิลาแลงบนฐานสี่เหลี่ยม มีเจดีย์อยู่ทั้งสี่ทิศ
มีบันไดขึ้นสู่องค์ปรางค์ทางทิศตะวันออกถือเป็นปรางค์แบบไทยที่นิยมทำฐานสูง ต่างจากปรางค์แบบขอมที่มักมีฐานเตี้ย

นอกจากนี้หน้าปรางค์เป็นมุขใหญ่ยื่นออกมาเป็นห้องคูหา ส่วนยอดเรียวแหลมสูง คล้ายฝักข้าวโพด ยอดมีฝักเพกาในขณะที่ขอมไม่มี

วัดราชบูรณะ โด่งดังมากในเรื่องการขุดพบเครื่องทองมากมายในกรุพระปรางค์ใหญ่

เมื่อ พ.ศ. 2500 คนร้ายได้ลักลอบขุดโบราณวัตถุที่ฝังไว้ในกรุปรางค์ประธานวัดราชบูรณะ
โดยขุดเจาะจากพื้นคูหาเรือนธาตุลงไปพบห้องที่ฝังโบราณวัตถุไว้ 2 ห้อง
ต่อมาทางราชการติดตามจับคนร้ายและยึดโบราณวัตถุได้เพียงบางส่วน

โบราณวัตถุในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะทำด้วยทองคำ สำริด หิน ดินเผาและอัญมณี
เมื่อกรมศิลปากรขุดแต่งพระปรางค์วัดราชบูรณะต่อ ได้นำโบราณวัตถุที่มีค่าไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

รูปสมบัติล้ำค่าเหล่านี้เป็นรูปจากเวบไซต์ oknation.net

สุวรรณมาลา

พระคชาธารทองคำประดับอัญมณี

ชิ้นส่วนยอดพระปรางค์จำลองทองคำ

แผ่นทองคำดุนลายประดับทับทิมพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับในซุ้มเรือนแก้วใต้ร่มโพธิ์

เจดีย์จำลองทองคำประดับอัญมณี  ภายในบรรจุพระพุทธรูปทองคำ  เจดีย์จำลองแก้วผลึกและจารึกลานทอง

วัดสุดท้ายที่ไปในวันนั้นคือวัดมหาธาตุ

วัดมหาธาตุเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ใกล้วัดราชบูรณะ ในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

สร้างในสมัย สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) เมื่อปี พ.ศ. 1917
แต่ไม่แล้วเสร็จ ทรงเสด็จสวรรคตเสียก่อน และได้สร้างเพิ่มเติมจนเสร็จในสมัยสมเด็จพระราเมศวร

สมเด็จพระราเมศวร ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระปรางค์ประธาน
และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดมหาธาตุ เมื่อปี พ.ศ. 1927

วัดมหาธาตุ หมายถึงวัดอันเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
การสร้างพระเจดีย์ขนาดใหญ่เอาไว้ในเมือง ซึ่งถือสมมุติว่าพระเจดีย์นั้นเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุ

วัดที่ถือว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์มักจะมีชื่อว่า วัดมหาธาตุ หรือวัดพระศรีมหาธาตุ หรือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
ปรากฏโดยทั่วไปในทุกภูมิภาค จารีตดังกล่าวนี้จะเริ่มในสมัยใดนั้นไม่ทราบได้
แต่หากจะพิจารณาเฉพาะอาณาจักรอยุธยาจะเห็นได้ว่าธรรมเนียม ดังกล่าวเริ่มตั้งแต่สมัยแรกๆ ทีเดียว

วัดมหาธาตุจึงเป็นวัดที่สำคัญที่สุดวัดหนึ่งของอาณาจักร ในฐานะที่เป็นตัวแทน ของพระพุทธเจ้า
หากจะพิจารณาดูสถานที่ตั้งก็จะเห็นว่าอยู่ใกล้ชิดกับพระบรมมหาราชวัง เป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้นวัดนี้จึงเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีมาตลอดจนสิ้นกรุงศรีอยุธยา
ส่วนพระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสีนั้น ประทับอยู่ที่วัดใหญ่ชัยมงคลหรือสำนักวัดป่าแก้ว

ความสำคัญของวัดมหาธาตุนั้น นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุแล้ว
ยังถือเป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางเมืองและเป็นสถานที่จัดพระราชพิธีต่างๆ ของกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย

อีกทั้งยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ตามพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา
คือได้เคยเป็นสถานที่ที่พระศรีสิน (สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม) และจมื่นศรีเสาวรักษ์พร้อมคณะ ได้ซุ่มพลที่ปรางค์วัดมหาธาตุ
ก่อนยกพลเข้าพระราชวังทางประตูมงคลสุนทร เพื่อจับกุมพระศรีเสาวภาคย์

มาเข้าวัดเข้าวาด้วยคนนะครับ...................ขอบคุณครับสำหรัยรีวิว

พระปรางค์วัดมหาธาตุถือเป็นปรางค์ที่สร้างในระยะแรกของสมัยอยุธยา
ได้รับอิทธิพลจากปรางค์ขอม ชั้นล่างก่อสร้างด้วยศิลาแลง แต่ที่เสริมใหม่ตอนบนเป็นอิฐถือปูน

สวัสดีครับคุณlow batt. เชิญเลยครับ
...........................................

สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ได้ทรงปฏิสังขรณ์พระปรางค์ใหม่ โดยเสริมให้สูงกว่าเดิม
แต่ขณะนี้ยอดพังลงมาเหลือเพียงชั้นมุขเท่านั้น จึงเป็นที่น่าเสียดายเพราะมีหลักฐานว่าเป็นปรางค์ที่มีขนาดใหญ่
และก่อสร้างอย่างวิจิตรสวยงามมาก

เมื่อ พ.ศ. 2499 กรมศิลปากรได้ขุดแต่งพระปรางค์แห่งนี้ พบของโบราณหลายชิ้นที่สำคัญคือ ผอบศิลา
ภายในมีสถูปซ้อนกัน 7 ชั้น แบ่งออกเป็น ชิน เงิน นาก ไม้ดำ ไม้จันทร์แดง แก้วโกเมน และทองคำ
ชั้นในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องประดับอันมีค่า ปัจจุบันพระบรมสารีริกธาตุนำไปประดิษฐานไว้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา

พระปรางค์ประธาน เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยกสูง โดยมีระเบียงคดล้อมรอบทั้งสี่ด้าน
โดยมีปรางค์บริวารประจำอยู่ทั้งสี่ทิศ

พระอุโบสถ ตั้งอยู่ด้านหลังปรางค์ประธาน ผนังก่ออิฐเหลืออยู่บางส่วน ภายในปรากฏเสาแปดเหลี่ยม ด้านหลังเป็นที่ตั้งของฐานชุกชี

มองจากพระอุโบสถไปยังพระปรางค์ประธาน

พระปรางค์ประธานในมุมที่ไกลออกไปอีกหน่อย

เวลาเดินชมวัดในอยุธยา จะรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่งดงาม

วิหารนี้อยู่ริมด้านหนึ่งของวัด ลืมถ่ายรูปป้ายมาเลยไม่ทราบว่าเป็นวิหารอะไรครับ

สิ่งที่น่าสนใจในวัดมหาธาตุอีกอย่างคือ เศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งมีรากไม้ต้นโพธิ์ปกคลุมอยู่
โดยเศียรพระพุทธรูปนี้ เป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียร สำหรับองค์พระนั้นหายไป
เข้าใจว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ ในสมัยเสียกรุง จนรากไม้ขึ้นปกคลุมทำให้มีความงดงามแปลกตา

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาดู แสดงความเห็นและช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้
ขอบคุณเว็บไซต์ที่เข้าไปหาข้อมูล watboran.wordpress.com, holidaythai.com, oknation.net และ kapook.com

ถ่ายรูปมาสวยจังเลยค่ะ  วัดและพราะปรางค์งามมากจริงๆ  ตอนนี้คงจะถูกสายน้ำมาเยี่ยมเยือนแต่ก็หวังว่าโบราณสถานเหล่านี้จะยังคงอยู่ให้ลูกหลานได้ชื่นชมและภูมิใจต่อไปตราบนานเท่านานค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวและหวังว่าคุณ splendour คงสบายดี ไม่ต้องหนีน้ำนะคะ

กดเข้าคลังกระทู้ให้แล้วค่ะ

ขอบคุณมากๆครับผม

คิดถึงอยุธยาเช่นกันครับ

อยากให้น้ำลดไวๆจะได้ไปเที่ยวอยุธยาสักทีครับ
เล็งไว้นานแระ

คุณRed-Rose-14Feb - ผมก็หวังว่าน้ำจะไม่ท่วมอยู่นานจนทำให้โบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เสียหายมากจนพังทะลายลงมา
                               ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีครับ ถึงจะเครียดกับการ"เฝ้าระวัง" แต่คงเทียบไม่ได้เลยการคนที่บ้านถูกน้ำท่วมไปแล้ว

คุณflymom - ขอบคุณมากครับที่ช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้และติดตามอ่านกระทู้

คุณdigimontamer - ด้วยความยินดีครับ

คุณลุงแบกเป้ - หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยให้คลายความคิดถึงได้บ้างนะครับ

คุณDestiny-Boy - น้ำแห้งเมื่อไร เราจะไปกันอีกทันทีเลยครับ

งดงามมากๆเลยครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

รูปสวยมากค่ะ ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ^^

ภาพสวยมากครับ ท้องฟ้าดูน่ากลัวจัง

ประวัติศาสตร์เรียนจบหนูส่งคืนหมดค่ะครูดูเอ่อ ได้อ่านข้อความพร้อมนึกภาพตาม ก็พอจำที่เรียนได้บ้างค่ะ


เขียนอะไรผิดบ้างหรือป่าวเนี่ย><"

คุณเล็กทาโร่ - รูปถ่ายทอดความยิ่งใหญ่อลังการได้ไม่ถึงครึ่งเลยครับ

คุณสามแซ่ - ด้วยความยินดีครับ แต่โบราณสถานห้ามปีนป่ายนะครับ อิ อิ

คุณม่วงมหากาฬ  - วันนั้นตอนขับรถไปฝนตกหนักตลอดทางเลยครับ โชคดีที่ฝนหยุดตอนที่ไปถึง

คุณเบรานิ่ง - ผมก็ลอกมาจากเว็บไซต์ที่เข้าไปหาข้อมูลเหมือนกันครับ ฮี่ ฮี่
                 ดีใจที่คุณอ้อยเข้ามาทักทายกัน สบายดีนะครับ

สวยมากๆ  ขอบคุณที่พาเที่ยวชมนะคะ

ได้ความรู้ดีจัง
ขอบคุณที่พาเที่ยวเมืองเก่านะคะ
ป.ล. ตอนนี้เราย้ายมาอยู่หัวหินแล้วค่ะ ที่บ้านน้ำท่วมไปแล้ว
ขอให้บ้านคุณ splendour น้ำไม่ท่วมนะคะ

คุณสาวหน้าใส - ด้วยความยินดีครับ

คุณSomeone In This World - เสียใจด้วยนะครับหวังว่าคุณSomeone In This World ได้เตรียมตัวเก็บของหนีน้ำทันก่อนท่วมและเสียหายไม่มากนักนะครับ
                                         ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีครับ

เก็บเข้าคลังกระทู้ให้แล้วค่ะ
ขอบคุณสำหรับพาเที่ยวนะคะ
ชอบจังเลยมีคนรีวิววัดให้ จะได้เที่ยวตามรอยค่ะ

ขอบคุณมากครับคุณน้ำตาลกะข้าวตัง ที่ช่วยกดเก็บเข้าคลังกระทู้ให้

ติดตามตอนที่ 14 วัดโสมนัสราชวรวิหาร ที่กระทู้นี้ครับ

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11372753/E11372753.html