สุโขทัยเป็นจังหวัดที่เราอยากจะไปเยือนอีกสักครั้ง เพราะเราเคยมาเพียงแค่ครั้งเดียว และได้เที่ยวแค่งานประเพณีลอยกระทงที่อุทยานแห่งชาติเท่านั้น แต่เมื่อครั้งนี้มีโอกาส เราก็ไม่พลาดที่จะมาเยือนอีกสักครั้ง แม้ครั้งนี้จะต้องกังวลกับสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือที่เราต้องเผชิญอยู่ข้างหน้าก็ตาม
ครั้งนี้ที่เรามาเยือนแตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง ครั้งนี้เราต้องรับหน้าที่และภารกิจในการสำรวจโรงแรมที่เข้ารอบของ Thailand Boutiques Awards 2011  
การเดินทางครั้งนี้เป้าหมายของเราคือ โรงแรมสุโขทัยเฮอริเทจ ซึ่งการเดินทางเราต้องผ่านจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเข้าสุโขทัย เมื่อถึงสุโขทัยต้องเลี่ยงเส้นมาทางตลาดศรีสำโรงซึ่งขณะนั้นน้ำที่ท่วมเพิ่งลดลง แต่ตลอดการเดินทางก็ได้รับการแนะนำเส้นทางการเดินทางจากพนักงานของรีสอร์ทเป็นอย่างดี

สุโขทัยเฮอริเทจ รีสอร์ท นอกจากจะอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัยแล้ว ยังเป็นรีสอร์ทที่อยู่ใกล้สนามบินสุโขทัยมากที่สุดด้วย
นี่คือ website link และแผนที่ของรีสอร์ท http://www.sukhothaiheritage.com/sukhothai_map.html

ถือว่าโชคดีจริง ๆ ที่ตลอดเส้นทางจากกำแพงเพชรถึงสุโขทัยเฮอริเทจ รีสอร์ท เราไม่ต้องฝ่าน้ำท่วมเลย เมื่อรถของเราเลี้ยวเข้ามาที่โรงแรมสุโขทัยเฮอริเทจ ความวิตกกังวลที่มีมาตลอดทาง ก็กลับกลายเป็นความตกตะลึง พร้อมกับคำถามในใจว่า นี่คือโรงแรมบูติก หรือโรงแรมหลายดาวกันแน่ เพราะภาพเบื้องหน้าที่เห็นมันช่างอลังการได้ขนาดนี้

จากภาพ เราเดินออกมาจากที่จอดรถแล้ว มองออกไปข้างนอก จะเห็นถนนหลักอยู่ข้างหน้า ซึ่งทางเข้าของรีสอร์ทจะมีรูปปั้นช้างศึก คอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน

เมื่อเราเลี้ยวรถเข้ามา เราจะผ่านรูปปั้นช้างจากภาพข้างบนแล้ว เลี้ยวซ้ายจะเป็นที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดรถได้หลายคันทีเดียว

จากจุดที่เราจอดรถ มองไปรอบ ๆ รีสอร์ท จะเห็นอาคาร และศาลาเรียงรายอยู่โดยรอบ

ระหว่างที่เดินไปที่ล็อบบี้ จะเห็นหมู่อาคารที่สร้างด้วยอิฐแดงแบบเมืองเก่าซึ่งจะมีอยู่ทั้งฝั่งด้านซ้าย และด้านขวามือ ส่วนด้านหน้าอาคาร จะมีบ่อน้ำแนวยาวหน้าอาคาร เหมือนกรุงเก่าที่ต้องมีน้ำล้อมรอบ เราเดินไปชมด้านในกันเลยค่ะ

เมื่อเราเดินมาถึงประตูทางเข้าล็อบบี้ ด้านหน้าประตูดูอลังการมาก บรรยากาศทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเดินผ่านกาลเวลาย้อนไปสู่ยุคสมัยสุโขทัย

ก่อนเดินเข้าไปสู่ล็อบบี้ เราเหลือบมองหมู่อาคารด้านขวามือ ที่อยู่ในช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดิน ซึ่งดูสวยงามมาก

ภาพนี้เป็นภาพมุมสูงที่ถ่ายจากบนอาคารที่พักด้านตึกขวา ซึ่งจะเห็นที่จอดรถ และบริเวณหน้ารีสอร์ท

เดินไปที่ล็อบบี้กันค่ะ ล็อบบี้จะเป็นอาคารที่อยู่ตรงกลางระหว่างอาคารห้องพักทั้งซ้ายและขวา เดินผ่านประตูไปล็อบบี้กันเลยค่ะ

เราเดินถึงประตูหน้าล็อบบี้ เราก็หันหลังกลับเพื่อมองออกไป ก็จะเห็นบรรยากาศด้านนอกแบบนี้ค่ะ

เมื่อเราหันกลับมาที่ล็อบบี้ จะเห็นประตูโปร่งที่มองลอดผ่านจากล็อบบี้ ไปถึงบ่อน้ำพุ และตึกที่เห็นเป็นอาคารของห้องอาหาร

เมื่อเราเดินเข้ามาในล็อบบี้ ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่หรู แต่เรียบง่าย โปร่งสบายด้วยลมเย็น ๆ ที่พัดเข้ามาสู่ล็อบบี้ตลอดเวลา ด้วยอาคารที่เปิดโล่ง และมีช่องประตูใหญ่ค่อนข้างมาก ตามสไตล์การออกแบบแบบไทยโบราณ

จากภาพ ประตูที่เห็นเป็นประตูที่เราเดินจากหน้ารีสอร์ทเข้ามาที่ล็อบบี้ ภายในล็อบบี้จะมีโซฟาผ้าไหมไทยตัวใหญ่อยู่กลางห้อง โดดเด่นด้วยสีสันสดใสและหลากสีของหมอนอิงผ้าไหมไทย ประดับด้วยภาพเขียนขนาดใหญ่ที่ผนังล็อบบี้

ส่วนด้านบนเพดาน จะมีพัดลมเพดานไม้ และโคมไฟรูประฆัง ทุกอย่างในล็อบบี้ถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ถ้าเรายืนอยู่หน้าประตูล็อบบี้ โซฟาตัวใหญ่จะอยู่ด้านขวามือ ส่วนเคาน์เตอร์ Reception จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ เราไปเช็คอินน์กันเลย

เมื่อเข้ามาถึงล็อบบี้ พนักงานก็นำ Welcome drink ซึ่งเป็นน้ำตระไคร้เย็น ๆ ต้อนรับแขกผู้มาเยือน รสชาติหอมอร่อย ไม่หวานมาก ถูกใจเราจริง ๆ  พร้อมกับผ้าเช็ดมือเย็น ๆ มีกลิ่นหอมน้ำตระไคร้ เรียกความสดชื่น และคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาหลายชั่วโมงได้ดีทีเดียว

หลังจากเช็คอินน์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะไปสำรวจบริเวณรอบ ๆ รีสอร์ทกันน่ะค่ะ  ที่นี่อากาศสดชื่น บริสุทธิ์ และปลอดโปร่งเพราะแวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่โดยรอบ

สัญลักษณ์ ของสุโขทัยเฮอริเทจรีสอร์ท คือ เจดีย์สมัยสุโขทัย  สุโขทัยเป็นเมืองมรดกโลก และรีสอร์ทก็อยู่ไม่ไกลจาก อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จึงนำเอาเจดีย์ในรูปแบบสุโขทัยมาเป็นสัญลักษณ์ของรีสอร์ท

ส่วนแรงบันดาลใจในออกแบบ และการสร้างอาคารของรีสอร์ท เน้นรูปแบบของสุโขทัยยุคโบราณที่เรืองอำนาจ จะสังเกตได้จากอาคารทุกหลังจะสร้างด้วยอิฐมอญ และจะมีสิ่งประติมากรรมที่ย้อนยุคถูกประดับที่มุมต่างๆ ตามรีสอร์ทและห้องพักด้วย

ภายในรีสอร์ทจะมีหมู่อาคารมากมายรายล้อม จากภาพเรายืนอยู่หน้าห้องอาหาร ล็อบบี้จะอยู่ตรงกลาง ศาลาด้านขวามือเป็นศาลาสำหรับห้องสมุดและอินเตอร์เน็ต ส่วนด้านซ้ายมือเป็นศาลาเคาน์เตอร์บาร์

เราไปชมศาลาห้องสมุดและอินเตอร์เน็ตกันค่ะ

ที่ศาลาห้องสมุดและอินเตอร์เน็ต จะมีหนังสือมากมายหลายประเภท

และมีเครื่องคอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ตให้ใช้ฟรี นอกจากนี้รีสอร์ทก็มีอินเตอร์เน็ต wifi ฟรีบริการให้แขกที่เข้าพักด้วย

-

ภาพจากความเห็นที่ 24

เนื่องจากศาลาต่าง ๆ ในรีสอร์ท เป็นอาคารเปิดโล่ง จึงทำให้ลมสามารถพัดเข้าสู่อาคารได้ตลอดเวลา ด้วยบรรยากาศแบบนี้ ทำให้แขกสามารถพักผ่อนนั่งเล่นอินเตอร์เน็ต หรือนั่งอ่านหนังสือได้ตลอดทั้งวัน

เราจะไปต่อที่ศาลาเคาน์เตอร์บาร์เล็ก ๆ น่ารัก  ในบรรยากาศแบบย้อนยุคกันกันค่ะ

ที่เคาน์เตอร์บาร์ จะมีบริการเครื่องดื่ม เหมาะสำหรับเพื่อนฝูงนั่งดื่มไปคุยกันไป หรือคู่รักนั่งจิบเครื่องดื่ม พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศแบบไทย ๆ ลมพัดเย็น ๆ ช่างโรแมนติกจริง ๆ

เราจะไปต่อกันที่ศาลานั่งเล่นกันค่ะ จะมีอยู่ 2 ศาลา ซึ่งล้อมรอบด้วยบ่อน้ำ ตั้งขนานกันอยู่ทั้ง 2 ฝั่งทั้งซ้ายและขวาของบ่อน้ำพุ และจะอยู่ด้านหลังศาลาหนังสือกับอินเตอร์เน็ต ซึ่งแต่ละศาลาจะมีทางเดินเชื่อมต่อ สามารถเดินไปยังห้องพักได้เลยทั้งฝั่งซ้าย และขวา

การตกแต่งทั้ง 2 ศาลาก็จะแตกต่างกันไป  ศาลาแรก เป็นศาลานั่งเล่นนี้ อยู่หลังศาลาหนังสือกับอินเตอร์เน็ต และจะมีทางเชื่อมที่สามารถเดินไปอาคารห้องพักฝั่งด้านซ้ายมือได้

ศาลานี้ จะมีที่นั่งเหมือนตั่ง ซึ่งวางด้วยเบาะรองนั่ง แขกสามารถมานั่งเล่นพูดคุยกัน หลังทานอาหาร พร้อมนั่งชมน้ำพุ และความสวยงามของหมู่อาคารแบบไทย ๆ

ถัดมาเป็นศาลาที่ 2 ก็เป็นศาลานั่งเล่นเช่นกัน แต่การตกแต่งจะเป็นโซฟาตัวใหญ่ พร้อมโต๊ะกลาง เรียงราย หลายชุด โดยมีเบาะและหมอนอิงผ้าไหมไทยสีสันสดใส หลากสี ประดับบนโซฟาด้วย… อืม..น่านั่งจัง

ศาลานี้ก็จะมีทางเชื่อมไปอาคารห้องพักที่อยู่ตึกทางด้านขวามือ

จากภาพ ถ้ามองออกไปจากศาลาที่ 2 จะเห็นศาลาด้านซ้ายมือเป็นศาลาอ่านหนังสือกับเล่นอินเตอร์เน็ตด้านซ้าย และศาลาตรงการเป็นศาลานั่งเล่น และศาลาด้านขวามือเป็นร้านอาหารของรีสอร์ท

ก่อนจะไปชมห้องพัก เราแวะมาดูที่ห้องอาหารกันสักหน่อย ภาพนี้ยืนมองออกไปจากอาคารล็อบบี้ จะเห็นห้องอาหารด้านหน้า

ภายในห้องอาหารจะแบ่งเป็น สองส่วน ในส่วน indoor และ outdoor ซึ่งจะให้บริการอาหารอินเตอร์ ทั้งไทย ยุโรป จีนสำหรับ อาหารเช้า  และดินเนอร์ท่ามกลางแสงเทียน

มุมนี้มองจากห้องอาหารออกไป จะเห็นล็อบบี้และอาคารต่าง ๆ ที่รายล้อม

ทางเดินจากประตูล็อบบี้ เดินตรงไปจะเป็นห้องพัก เราไปสำรวจห้องพักกันค่ะ

แต่เดินมาเจอสระว่ายน้ำ ขอเถลไกลไปชมสระว่ายน้ำก่อนนะค่ะ เย็นนี้ไม่พลาดที่จะลงเล่นน้ำแน่ๆ ค่ะ

สระว่ายน้ำจะมี 2 สระ ทั้งอาคารซ้ายมือ และอาคารขวามือ และแต่ละฝั่งจะมี 2 อาคารซึ่งหันหน้าเข้าหากัน และสระว่ายน้ำจะอยู่ระหว่างกลางอาคารห้องพัก

สระว่ายน้ำนี้เป็นสระที่อยู่อาคารที่พักด้านซ้ายมือ จากล็อบบี้

ส่วนสระว่ายน้ำสระนี้เป็นสระว่ายน้ำด้านขวามือ จากล็อบบี้ ตอนนี้เรายืนอยู่ที่ทางเชื่อมไปสระว่ายน้ำ และอาคารที่พักด้านขวามือ จากศาลานั่งเล่นนี้  ถัดขึ้นไปซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์บาร์ และ ล็อบบี้ ส่วนขวามือจะเป็นห้องอาหาร

ที่นี่ มีห้องพักทั้งหมด 68 ห้อง และอาคารห้องพักมีทั้งหมด 4 อาคาร ซึ่งจะมีฝั่งซ้าย 2 อาคาร และฝั่งขวาอีก 2 อาคาร โดยจะมีสระว่ายน้ำทั้ง 2 ฝั่ง โดยทั้ง 2 อาคารจะหันหน้าเข้าหากัน โดยมีสระว่ายน้ำ คั่นอยู่ตรงกลาง

ไปชมห้องพักกันเลยค่ะ

ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 4 แบบ ซึ่งทุกห้องจะมีระเบียงส่วนตัว และมีโซฟานั่งเล่นหน้าระเบียง สำหรับพื้นห้องของทุกแบบจะเป็นพื้นไม้ขัดเงาทุกห้อง ให้ความรู้สึกสบายเท้า และเป็นสไตล์ไทย ๆ ดีค่ะ
1) ห้องสุพีเรีย (ไม่มีอ่างอาบน้ำ)
2) ห้องดีลักซ์ (มีอ่างอาบน้ำ)
3) ห้องสวีท (มีอ่างจากุซซี่)
4) ห้องรอยัลสวีท (มีอ่างจากุซซี่)
ทางเดินไปห้องสุพีเรีย ตามเราไปกันเลยค่ะ

1) ห้องสุพีเรีย
เรามาชมห้องแรกกันเลยค่ะ ห้องแรก ห้องสุพีเรีย เราถ่ายมา 2 ห้อง ซึ่งห้องสุพีเรีย จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกและการตกแต่งห้องเหมือนกัน แตกต่างกันที่สีของห้องเท่านั้น ห้องนี้โทนสีฟ้า เข้ามาก็เจอที่นอนปู ตึงเปรี๊ยะ จัดหมอนไว้อย่างสวยงาม น่านอนจริง ๆ

อีกห้องเป็นโทนสีส้มแดง สังเกตว่ามีสัญลักษณ์ของรีสอร์ท เป็นผ้าปักรูปเจดีย์  ที่หัวเตียงของทุกห้อง ทุกแบบ ทำให้ห้องดูสวยอลังการดีค่ะ

พื้นไม้ในห้องพักสะอาดสะอ้านดี ทั้งที่นอน และหมอนก็นุ่ม จนทำให้เรานอนหลับสนิทเลย

สิ่งที่สังเกตได้อีกอย่างคือ เมื่อเสียบกุญแจในห้อง แล้วไฟติดปุ๊บ โทรทัศน์จะถูกเปิดทันที พร้อม welcome และ introduce ส่วนต่าง ๆ ของรีสอร์ท ทำให้รู้สึกดี เพราะไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน สำหรับในห้องมีโทรทัศน์จอแบน ดีวีดี เครื่องต้มน้ำ น้ำ และชุดชา กาแฟฟรี

ภาพนี้ จากเตียงมองไปที่ประตูทางเข้า ห้องน้ำจะอยู่ด้านซ้าย ขวามือจะเป็นตู้เสื้อผ้าซึ่งมีหมอนนอน ไฟฉาย ชุดคลุม รองเท้าแตะ และร่ม ไว้พร้อม

เข้าไปดูห้องน้ำกันค่ะ ประตูห้องน้ำเป็นบานเลื่อน มีประตูเล็ก ๆ เลื่อนออกมามองโทรทัศน์จากอ่างล้างหน้าให้ห้องน้ำได้ด้วย

ห้องอาบน้ำจะมีฝักบัว และบนโต๊ะแต่งตัวก็จะมีไดร์เป่าผมให้สาวๆ ด้วย

ออกมาจากห้องน้ำ เรามาที่ข้างเตียงแล้วมองออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำ

ทุกห้องมีระเบียงส่วนตัว พร้อมโซฟานั่งเล่น สำหรับห้องที่อยู่ชั้นล่างสามารถเดินจากระเบียงห้องพักไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำได้เลย

มองจากระเบียงห้องออกไป

และจากระเบียงห้องมองกลับเข้ามาในห้องพัก

2) ห้องดีลักซ์
เราไปต่อที่ห้องดีลักซ์กันเลยค่ะ ทางเดินไประหว่างห้องพัก

ลูกศรป้ายบอกทาง และตัวเลขยังดูเป็นไทยๆ เลยค่ะ

ห้องดีลักซ์ จะแตกต่างกับห้องสุพีเรียร ตรงที่มีมุมที่เป็น Living bed และมีอ่างอาบน้ำ เหมาะสำหรับแขกที่มาเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ที่มีเด็กไม่เกิน 12 ขวบ

ภาพนี้จากปลายเตียงมองเข้าไปเป็นห้องน้ำ ซึ่งประตูเปิดปิดเป็นบานเลื่อน

มองจากห้องน้ำออกไปที่ห้องนอน

เข้ามาดูที่ห้องน้ำกันค่ะ เข้ามาจะเห็นอ่างล้างหน้ามีเครื่องอำนวยความสะดวกครบ มีไดร์เป่าผมให้ด้วย

ภายในห้องน้ำ มีอ่างจากุซซี่ ห้องอาบน้ำ ตู้เสื้อผ้า ตู้เซฟ ไฟฉาย ชุดคลุม และอื่น ๆ

เดินออกมาจากห้องน้ำ จะมองเห็นโต๊ะเขียนหนังสือ และมุมนั่งเล่นเล็ก ๆ ที่มุมห้อง ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูระเบียงหลังบ้าน ถ้าเปิดออกไปก็จะเป็นสระว่ายน้ำ

ตอนนี้เราเดินมายืนที่ประตูหน้าห้องขวามือจะเป็นกระจกเต็มตัว และมองตรงไปจะเห็นโทรทัศน์จอแบบ ดีวีดี โต๊ะเขียนหนังสือ และมุมนั่งเล่น และระเบียงหลังห้อง

3) ห้องสวีท
ถัดมาเราจะไปสำรวจห้องสวีทกันค่ะ เปิดประตูเข้าไปจะเป็นภาพนี้ค่ะ

ห้องสวีทจะแบ่งห้องเป็นโซน มีโซนห้องห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องเขียนหนังสือ และห้องน้ำ
เมื่อเปิดประตูซ้ายมือจะเป็นโซนห้องน้ำ ซึ่งเดินตรงเข้าไปจะเป็นอ่างจากุซซี่ และซ้ายมือจะเป็นห้องอาบน้ำ ซึ่งจะมีประตูเปิดออกไปเป็นระเบียงด้านนอก เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ได้

ขวามือจะเป็นห้องเขียนหนังสือ ด้านหลังโต๊ะเขียนหนังสือจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า

จากโต๊ะเครื่องแป้งมองออกไปจะเห็นโซนห้องน้ำ และห้องรับแขก

ด้านหลังโต๊ะเครื่องแป้งจะเป็น ตู้เย็น เครื่องชงกาแฟ มีชากาแฟฟรี

ถัดจากตู้ที่วางตู้เย็นจะเป็นตู้เสื้อผ้า

เดินออกมาจากห้องเขียนหนังสือ จะเห็นโซนห้องน้ำ และห้องรับแขก

เมื่อเดินมาถึงห้องรับแขก จะห็นมีโซฟา พร้อมหมอนอิงผ้าไหม พร้อมโคมไฟประดับ ส่วนด้านหลังและด้านข้างเป็นประตูบานเลื่อนที่สามารถเปิดออกไปที่ระเบียงด้านนอกได้ ซึ่งระเบียงด้านนอกสามารถเดินได้โดยรอบ

เราเดินมาที่ระเบียง และมองเข้าไปในห้องจะเห็นตู้วางดีวีดี และมีโทรทัศน์จอแบน ด้านหลังจะเป็นห้องนอน ซึ่งจะมีบานเลื่อนไว้สำหรับกั้นห้องระหว่างห้องนอน กับห้องรับแขก

มาดูห้องนอนกันค่ะ ภาพนี้มองจากห้องรับแขกเข้าไป

ด้านข้างเตียงนอน มีประตูบานเลื่อนสามารถออกไปนอกระเบียงได้ ส่วนอีกด้านจะเป็นผนังที่กั้นระหว่างห้องนอนกับห้อง

ส่วนหัวเตียงจะบุด้วยผ้าไหม สลับกับไม้แกะสลัก ประดับด้วยโคมไฟโบราณ

ด้านซ้ายมือจะเป็นระเบียง ส่วนด้านขวาจะกั้นห้องนอน กับห้องแต่งตัวด้วยกระจกติดด้วยแผ่นไม้แกะสลักแบบหัวเตียง
ให้ความรู้สึกแบบไทย ๆ ค่ะ

ภาพนี้จากห้องนอนมองออกไปเป็นห้องรับแขก

เดินมาที่ระเบียงด้านนอกกันค่ะ ด้านนอกจะมี day bed และมีชุดโซฟาไว้นั่งเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์

4)ห้องรอยัล สวีท
เมื่อเปิดประตูเข้ามา ด้านซ้ายมือจะมีห้องครัว มีทีชงกาแฟให้ด้วย ขวามือเป็นห้องน้ำ มีอ่างล้างหน้า และชักโครก ซึ่งห้องน้ำมีประตูที่เปิดออกไปเป็นระเบียงด้านนอก

ภาพนี้มองจากห้องน้ำ ผ่านทางเดินหน้าประตูห้องที่มีโคมไฟด้านบน ทะลุไปถึงประตูห้องครัว

จากทางเดินหน้าประตูห้อง จะมีห้องรับแขกอยู่ด้านขวามือ ซึ่งมีโทรทัศน์จอแบน ดีวีดี ด้วย
ห้องรับแขก จะเป็นชุดโซฟา พร้อมหมอนอิงผ้าไหม ประดับด้วยโคมไฟ ข้างโซฟา

ส่วนด้านซ้ายมือเป็นโต๊ะอาหาร ประดับด้วยโคมไฟระย้า

ภาพนี้มองจากโต๊ะอาหาร ตรงประตูซ้ายมือเป็นประตูทางเข้า ตรงไปเป็นห้องรับแขก และประตูในสุด ด้านหลังโทรทัศน์จะเป็นห้องน้ำ และห้องนอน

เราเดินเข้าไปดูห้องนอนกันเลยค่ะ เดินจากห้องรับแขกจะมีประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องรับแขกและห้องนอน ซึ่งมี 2 ประตู สามารถเปิดได้ทั้งประตูซ้าย และประตูขวา

มาถึงห้องนอน ด้านซ้ายมือ เป็นห้องน้ำ ส่วนขวามือเป็นประตูระเบียง ในห้องนอนจะมีโทรทัศน์จอแบบ และดีวีดีอีกหนึ่งชุด
หัวเตียงมีตู้เล็ก และโคมไฟใหญ่หนึ่งอัน

มองจากปลายเตียงไปที่รับแขกมีด้านขวาเป็นห้องน้ำ

จากเตียงมองออกไป จะเป็นห้องรับแขก

เดินเข้ามาในห้องน้ำ จะมีอ่างล้างหน้า 2 อ่างซึ่งอยู่ติดกับห้องนอน ซึ่งสามารถกั้นโดยประตูบาน
ห้องน้ำใหญ่มาก ๆ ถัดไปจะเป็นอ่างอาบน้ำจากุซซี่ ตรงไปเป็นห้องอาบน้ำแบบฝักบัว

ตอนนี้อยู่ที่หน้าห้องอาบน้ำ แล้วมองตรงไปจะเป็นห้องแต่งตัว ซึ่งจะมีโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าอยู่ด้านขวามือ

โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า

ออกมาจากห้องแต่งตัว เดินผ่านห้องนอน จะมีประตูทางออกที่ท้ายห้องอีกหนึ่งประตู เมื่อมองเข้าไปจะเห็นมุมนั่งเล่นน่ารัก ๆ อยู่ปลายเตียงด้านขาว ข้าง ๆ โต๊ะโทรทัศน์ และใกล้กับระเบียงทางออก

แล้วเราเดินออกมาที่ระเบียงกัน ชุด day bed ชุดนี้อยู่ที่ประตูด้านหลังโต๊ะอาหาร

เมื่อเดินขึ้นมา จะเห็นชุดโซฟา และ ชุดเก้าอี้หวาย ที่อยู่ประตูห้องรับแขก และห้องนอน จะมีพัดลมไว้คลายร้อน และถ้ามองตรงไปจะเห็นห้องกระจก ที่นั่นเป็นมุมนั่งเล่นที่ด้านขวาปลายเตียง ถ้านั่งที่โซฟาแล้วมองออกไปจะเป็นวิวสระว่ายน้ำ

ที่นี่นอกจากมีไร่นาออแกนิกส์ของชาวบ้าน แล้วทางรีสอร์ทยังทำไร่ออแกนิกส์เล็ก ๆ ด้วย อาหารที่รีสอร์ทบางส่วนก็นำมาจากไร่ออแกนิกส์นี้ด้วย

เราไปชิมอาหารกันเลยค่ะ มื้อแรกของเราที่นี่เป็นมื้อเย็น เราจะลองไปทานอาหารบรรยากาศใต้แสงเทียนกันค่ะ ตามเรามาน่ะค่ะ

อาหารจานแรก เป็นไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ รสชาติอร่อย ไก่กรอบนุ่ม

จานถัดไปปลาผัดเปรี้ยวหวาน ปลากรอบอร่อยไม่แข็ง ราดด้วยน้ำซอสมะเขือเทศปรุงรส รสชาติกลมกล่อมอร่อย แปลกดี

จานถัดไปทอดมันปลากราย เนื้อจะหนึบ ๆ อร่อยรสชาติดี

ต่อไปเป็นผัดผัก รสชาติเหมือนทั่ว ๆ ไป

ถัดไปเป็นแกงเผ็ดเป็ดย่าง รสชาติกลมกล่อม เข้มข้นมัน และความหวานเปรี้ยวมาจาก เนื้อสัปปะรด องุ่น และลิ้นจี่ อร่อยมาก

ปิดท้ายด้วย ไอศกรีมใบข้าว รสชาติมัน ไม่หวานมาก เวลาทานจะได้กลิ่นเหมือนใบข้าว ไม่เคยกินมาก่อน อร่อยมากอีกเช่นกัน

คราวนี้เรามาดู line อาหารเช้ากันค่ะ

การบริการเพิ่มเติม
-มีบริการรับส่งสนามบินฟรี
-มีบริการรถรับส่งจากรีสอร์ทไปอุทยานแห่งชาติสุโขทัย
-มีอินเตอร์เน็ต wifi ฟรี ให้แขกผู้เข้าพัก
-มีบริการนวดแผนไทย
กิจกรรมของรีสอร์ท
-มีจักรยานบริการให้ลูกค้าขี่ไปฟาร์มออแกนิ หรือไปตลาดชาวบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งตลาดจะมีในช่วงวันพฤหัส กับวันอาทิตย์
- กิจกรรมพาไปดูสวนกล้วยไม้ พรรณไม้ต่าง ๆ ที่สนามบิน
- กิจกรรมกับทางออร์แกนิคฟาร์ม ให้ลูกค้าได้ลงมือเก็บไข่เป็ดไข่ไก่ เกี่ยวข้าว หรือลงมือเก็บผัก และนำผักที่เก็บได้ไปทำอาหารมื้อกลางวันให้รับประทานอาหารที่ออร์แกนิคฟาร์มด้วย
- กิจกรรมคุกกิ้งคลาส
- กิจกรรมคลาสทำกระทง ช่วงลอยกระทง

นำภาพถ่ายตอนที่แวะเที่ยวมาให้ชมกันนะคะ

ทั้งหมดนี้เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ของเรา และการท่องเที่ยวสำหรับเราก็คือ การพักผ่อนเพื่อชาร์จแบตให้เต็มที่ พร้อมที่จะเผชิญกับวันต่อไปด้วยพลังอันเต็มเปี่ยม                

สุดท้ายนี้  ขอขอบคุณโครงการ Thailand Boutique Awars 2011 ที่ทำให้เรา ได้มีโอกาสเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ และขอขอบคุณพื้นที่ที่ให้เราได้มารีวิวด้วยน่ะค่ะ

สวยงาม หรูในแบบสุโขทัย ดีจริงๆครับ

บรรยากาศดีจังเลยครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆ นะครับ ^^

สวยครับ น่าไปนอนเล่นมาก

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

สวยมากครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

รูปสวยมากค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆค่ะ

สวยมากเลยครับ เหมาะแก่การไปพักมากครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆครับ

แวะมาชมครับ มาตามไปสุโขทัยด้วยคน

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

กิ๊ฟเดือนนี้หมดแล้ว ผมให้ แทนนะครับ

สวยค่ะ ยังไม่เคยไปสุโขทัยซักที สงสัยต้องลอง ^^

ได้ไปทำงานและพักที่นี่เมื่อช่วงกลางปี
อยากจะบอกว่าประทับใจที่นี่เหมือนมากค่ะ ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^