++ THE JOURNEY Japan Trip ซูชิ เนื้อย่าง ปะทะแสงสี ++

ติดตามกระทู้ก่อนหน้านี้ได้ที่นี่นะคะ

ตอนที่ 1 YOKOSO JAPAN http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11259609/E11259609.html

ในตอนแรกนั้นเราทั้งสองคนได้เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะโดยสวัสดิภาพค่ะ และกำลังมุ่งหน้าไปสถานีชินากาว่าเพื่อเปลี่ยนรถไฟมายังสถานีคามาตะ สถานีปลายทางที่วันนี้พาเรามาเจออะไรดีๆเยอะเลยค่ะ ทริปนี้เรามีเวลาเต็มๆทั้งหมด 5 วันเท่านั้น เราวางแผนการเดินทางมาอย่างดีแต่ในที่สุดแผนที่เตรียมมาทั้งหมดต้องโดนปรับเปลี่ยนไปเยอะพอสมควร เนื่องจากเจอน้องฝนนั่นเอง

วันแรกที่เดินทางมาถึงญี่ปุ่น เราวางแผนไว้ประมาณนี้ค่ะ  ถึงสนามบิน นั่งรถไฟไปคามาตะ แล้วต่อรถเข้าบ้าน

12.00น. เดินทางไป shibuya

14.00น. เดินทางไป Shinjuku

16.30น. เดินทางไปเก็บภาพตอนกลางคืนของวัดเซนโชจิ หรือ วัดอาซาคุสะ
แต่เอาเข้าจริงๆ แผนโดนเปลี่ยนหมดค่ะ เพราะว่าจะเดินทางถึง shinagawa ก็ปาไปเกือบเที่ยงแล้วค่ะ ซึ่งในทริปนี้แผนเปลี่ยนตลอดเลย แต่ก็สนุกไปอีกแบบค่ะ เอาเป็นว่าเราเริ่มต้นการเดินทางในช่วงต่อไปกันเลยนะคะ

นั่งรถไฟมาประมาณชั่วโมงครึ่ง เราก็มาถึงสถานีชินากาว่าแล้วค่ะ สถานีชินากาว่าเป็นสถานีใหญ่ มีรถไฟหลายสายวิ่งผ่านรวมถึงสาย yamanote line ด้วยค่ะ ก่อนจะถึงสถานีชินากาว่า เราทั้งสองคนพยายามเงี่ยหูฟังที่เจ้าหน้าที่ประกาศ และคอยดูป้ายตามสถานีต่างๆ ในที่สุดโชคก็เข้าข้างค่ะลงตรงป้ายเป๊ะ สาเหตุที่ต้องคอยมองดูป้ายและเงี่ยหูฟังก็คือ รถคันที่เรานั่งมาไม่มีป้ายไฟวิ่งบอกสถานทีเลยค่ะ ซึ่งรถไฟบางขบวนจะมีตู้ไฟวิ่งบอกสถานีประกอบเสียงพูดของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา แต่ยังไงก็ยังถือว่าโชคดีมากที่เราไม่เลยป้าย เพราะในมือถือแผนที่ตลอด อิอิ

ออกจากลานจอดรถไฟมาได้ เราทั้งสองก็มุ่งหน้าเข้าไปยังด้านในของสถานีชินากาว่าเพื่อไปเข้าห้องน้ำค่ะ ระหว่างเดินไปหาห้องน้ำก็คอยมองดูป้ายตลอดค่ะ ที่ญี่ปุ่นี่จะดีอย่างนึงคือมีป้ายบอกทางตลอด ไม่ว่าจะเป็นป้ายลิฟต์ ห้องน้ำ หรือป้ายสายรถไฟ ตอนแรกก่อนที่จะเดินทางมาก็ยังกลัวว่าจะหลงทางในญี่ปุ่น แต่พอมาถึงปุ๊บก็เริ่มจะมั่นใจตัวเองมากขึ้นว่าไม่หลงแน่ๆ  ทางเดินไปห้องน้ำผ่านร้านขายอาหารและบูธขายอาหารอยู่หลายร้านเลยค่ะ เวลาที่เราเดินทางมาถึงเป็นช่วงเวลามื้อเที่ยงพอดี เลยได้โอกาสเห็นคนญี่ปุ่นเข้าคิวรอกินอาหารกันอยู่

ระหว่างรออีกคนเข้าห้องน้ำ ก็เหลือบเห็นล๊อกเกอร์ฝากกระเป๋าค่ะ หน้าตาเป็นแบบนี้อีกเอง ในช่วงที่ยืนรอก็มีผู้คนมาหยอดเหรียญฝากกระเป๋ากันเยอะนะคะ แต่เราสองคนมีแต่กระเป๋าลากคนละ 1 ใบ ดังนั้นจึงลากและยกกันไปแบบสบายๆค่ะ จะมีลำบากบ้างก็ตอนที่ต้องเดินขึ้นบันไดเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วสถานีรถไฟฟ้าในญี่ปุ่นจะมีบันไดและบันไดเลื่อนประกบกันตลอดค่ะ ยกเว้นสถานีเล็กๆนะคะ ไม่มีบันไดเลื่อนคอยให้ความสะดวกสบายจ๊ะ

ออกจากห้องน้ำก็แวะโทรหาแม่เล็กน้อย นัดแนะเรื่องการเดินทางเข้าบ้านพร้อมบอกเส้นทางของรถบัสที่เราจะนั่งเข้าบ้านค่ะ มีสาย 73  74  75 เท่านั้นที่จะผ่านไปยังหน้าบ้านเรา โดยวันนี้เราจะนั่งสาย 74 เข้าบ้านเพราะสุดสายตรงข้ามหน้าบ้านพอดี ที่สำคัญแม่ให้เพื่อนมารับที่คามาตะด้วย รอดตายไปอีก 1 ประเด็น

หลังจากทำธุระส่วนตัวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาเดินดูอาหารการกินในสถานีกันหน่อยค่ะ ช่วงที่เราไปถึงเป็นตอนเที่ยงๆ อาหารน่ากินมาก

โอยยยยยยยยยย น่ากินมากๆเลยค่ะ เห็นแล้วอยากจะซื้อติดไม้ติดมือเข้าไปกินที่บ้านจริงๆ

อาหารแต่ละอย่างช่างยั่วยวนสุดๆ ขอบอกว่าน่ากินมากๆค่ะ รสชาดยังไม่ต้องคุยกันแค่หน้าตาก็ผ่านแล้วอะ

อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลวันฮาโลวีนแล้วค่ะ ที่นี่ก็คึกคักกันไม่น้อยเลยทีเดียว มีป้ายโปสเตอร์ สติ๊กเกอร์ ประดับประดาดูคึกคักกันตลอด

เดินเข้ามาด้านในอีกเล็กน้อย มาเจอโซนขายขนม สงสัยจะไม่รอดโซนนี้แหงมๆ

ว่าแล้วก็จัดแจงซื้อชีสเค๊ก ติดไม้ติดมือเข้าบ้านจนได้ เฮ่อ... มาวันแรกก็ระดมกินกันแล้วค่ะ ฮ่าๆๆๆ มาทำน้ำหนักกันโดยเฉพาะ อิอิ

ขนมรูปร่างน่ากินอยู่ในกล่องสวยๆงามๆ เห็นแล้วยิ่งทำให้เราอยากซื้อติดไม้ติดมือมากินยิ่งนัก ขนมที่ญี่ปุ่นแต่ละชนิดน่ากินมากๆค่ะ แพคเก็จดูดี รสชาดถึงนมถึงเนยสุดๆ

เดินกันเพลินเลยค่ะ บ่ายโมงกว่าแล้ว เรารีบเดินลากกระเป๋าลงบันไดมาต่อ JR Keihin-Tohoku Negishi Line ไปยังสถานีคามาตะ สถานที่นัดพบก่อนเข้าบ้านด้วยรถบัส ซึ่งก่อนออกเดินทางเราได้ skype คุยและดูหน้าตากันเรียบร้อยแล้วค่ะ ต้องขอบคุณป้าอ๊อดมากๆที่พาเราไปเจอร้านซูชิอร่อยๆ อิอิ  รถไฟมาแล้วค่ะ ได้เวลาออกเดินทางไปสถานีคามาตะกันแล้ว ...

ถึงสถานีคามาตแล้วค่ะ มีร้านรวงเยอะแยะเลยทีเดียว ร้านดอกไม้ร้านนี้ก็จัดร้านต้อนรับเทศกาลฮันโลวีนแล้ว น่ารักดีค่ะ

เดินผ่านมาอีกนิดเจอร้านราเมน โอยยย เห็นแล้วหิว น่ากินมากๆ

มาถึงญี่ปุ่นก็ขอถ่ายรูปประกบกับร้านราเมนหน่อยค่ะ วันนี้สงสัยจะไม่ได้กินราเมนแน่ๆ

แค่หน้าตาอาหารที่อยู่หน้าร้านก็ทำให้กระเพาะของเราสองคนร้องโครกครากเอาเรื่องซะแล้วค่ะ  เราสองคนผละออกจากหน้าร้านราเมน เพื่อลงไปยังจุดนัดหมายหน้าทางเข้าสถานที JR ด้านหน้าห้าง (ดันจำชื่อห้างไม่ได้ซะนี่ -_-“)  

การหาเราสองคนของป้าคงไม่ยากมากนักเพราะนอกจากจะได้เห็นหน้าค่าตากันทาง skype แล้ว หากสังเกตุให้ดีจะเห็นว่าเราถือกระเป๋าลากคนละใบ สะพายกระเป๋า และมีกระเป๋ากล้องอีก 1 ใบใหญ่ ดังนั้นคิดว่าจะเป็นจุดเด่นได้มากเลยทีเดียว และในที่สุดก็ได้เจอกันตามคาดค่ะ เราจัดแจงยกมือไหว้และทักทายกันตามมารยาทของคนไทย หลังจากนั้นป้าอ๊อดถามว่าหิวกันหรือยัง เราสองคนตอนพร้อมกันว่าหิวมากค่ะ  ป้าอ๊อดพาไปกินร้านซูชิ ราคาเริ่มต้น 120 เยน ที่คามาตะค่ะ  เพื่อนๆ อย่าลืมเตรียมกระดาษทิชชู่นะคะ อาจทรมานใจมากสำหรับคนชอบกินซูชิค่ะ อิอิ

เดินเข้าไปในร้านวางกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็หาที่นั่งกันค่ะ ป้าอ๊อดเอาเมนูมาให้เราดูแล้วอธิบายว่ามีอะไรบ้าง เรามองภาพแล้วก็จิ้มๆๆๆๆ เอาอันนี้ เอาอันนี้ ...หลังจากนั้นป้าอ๊อดก็ตะโกนเรียกสั่งซูชิมาให้เราค่ะ

ขอแจ้งนิดนึงนะคะ ตอนแรกงงๆว่าทำไมป้าอ๊อดไม่สั่งน้ำ คือว่าที่ใต้เคาน์เตอร์ค่ะ จะมีแก้วน้ำสำหรับใส่ชาเขียวอยู่ ไอ้เราเห็นป้าอ๊อดหยิบแก้วแล้วตัดผงชาเขียวใส่แก้ว เราก็งงว่าจะกินยังไงฟระ แต่ปรากฎว่าทุกโต๊ะจะมีเหมือนก๊อกค่ะ วางอยู่ ก็เอาแก้วดันเข้าไปด้านใน น้ำร้อนก็จะไหลออกจากก๊อกร้อนๆเลยค่ะ เราก็ถึงบางอ้อสิคะ เลยลองทำมั่ง อิอิ สนุกดีค่ะ

ซูชิมีมากหน้าหลายตา เยอะดีค่ะ ชอบๆๆๆ จิ้มที่ภาพกันใหญ่ ราคาเริ่มต้นที่ 120 เยน ไปจนถึงราคา 380 เยนค่ะ

ระหว่างรอซูชิที่สั่งไปกะพ่อครัว ก็มองหาซูชิตามสายพานค่ะ จานนี้ซูชิหน้าปลาหมึ จะสังเกตุได้ว่าซูชิที่นี่มองไม่เห็นข้าวเลย เนื้อปลาจะปิดข้าวมิดก้อน แตกต่างจากบ้านเราที่เห็นข้าวโผล่หน้ามาก้อนเบ้อเริ่ม

จานแรกมาแล้วค่ะ ซูชิหน้าปลาแซลมอน เนื้อปลาแน่นมากๆค่ะ ไม่มีมันติดมาเลย แต่บ้านเรามันเพียบ

ส่วนจานนี้หากินได้ยากนะในบ้านเราน่ะ ซูชิไข่หอยเม่น ป้าอ๊อดสั่งมมให้ลองชิมกัน อืม อร่อยดีค่ะ หวานมันเหมือนอโวคาโด้ประมาณนั้นนะ มันจะมันๆเลี่ยนๆ กินกะวาซาบิและขิงดองอร่อยเด็ดไปเลย ขิงดองของที่นี่ไม่หวานมาเหมือนบ้านเราค่ะ รสชาดยังคงความเป็นขิงไว้ได้มากเลยค่ะ

ซูชิหน้ากุ้ง สด หวาน กรอบ อร๊ายยยยยยยย.... ซัดกันไม่ยั้งมือเลยค่ะ

จับมารวมกันเพราะจานเริ่มเต็มโต๊ะแล้ว อิอิ

วาซาบิในข้าวที่ใส่มานั้นค่อนข้างน้อย เลยแปะวาซาบิเข้าไปเพิ่มรสชาดจัดจ้านอีกเล็กน้อย อิอิ อูยยยย....แซ่บ

ข้าวหน้าปลาโอ เนื้อปลาหนาแน่น อร่อยค่ะ

ขอตัวหม่ำก่อนนะคะ อ้ำๆๆๆๆ

ซุปของที่นี่มีให้เลือก 3 แบบค่ะ เป็นซุปสาหร่าย ซุปหอยลาย และสุดท้ายเป็นซุปทะเล ซุปแบบสุดท้ายจะเอาหัวกุ้งหัวปลามาต้มจนเปื่อยค่ะ อร่อย รสชาดหวาน เข้มข้น อูยยย....นั่งรีวิวไปก็ปาดน้ำลายไปนะเนี่ย อยากกินอีก -_-“

บรรยากาศภายในร้านค่ะ ไม่แน่นจนเกินไป โล่งสบายดี ที่เห็นบนฝาผนังคือราคาของแต่ละจานค่ะ มีราคา 120  380  250  320  380 แล้วแต่ลายของจานเลยค่ะ

ที่นี่ก็เหมือนร้านญี่ปุ่นทั่วๆไปค่ะ แบ่งออกเป็น 2 โซน คือแบบบาร์และแบบนั่งโต๊ะ ป้าอ๊อดพาเรานั่งโต๊ะแล้วสั่งกะกุ๊กโดยตรงเลยค่ะ ป้าอ๊อดบอกว่าสั่งแบบนี้ดีกว่า ได้ของมาสดๆทันที ไม่ต้องหมุนหาใคร คริ คริ

จานนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นปลาอะไรค่ะ แต่สังเกตุได้ว่าสดม๊ากกกกกกก....

ซูชิแซลมอนย่าง จะติดหนังนิดหน่อยเพื่อความหอมของกลิ่นเตาถ่าน

...

ซูชิหน้าหอยแครงญี่ปุ่น รสชาดเหมือนหอยแกครงบ้านเราแต่อร่อยกว่า กรุบๆกรับๆ กรอบ หวาน ....ป้าอ๊อดสั่งอะไรมาให้ก็กินเรียบค่ะ เพราะอยากลองของ
นั่งกินข้าวกันประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงแม่ก็เดินทางมาสบทบที่ร้านพร้อมกับมาจ่ายค่าอาหารมื้อนี้ให้ค่ะ อิอิ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ

ออกจากร้านซูชิมาแล้วค่ะ เรากำลังจะเดินทางโดยรถบัสสาย 74 ไปยังที่พัก โดยมีป้าอ๊อดเป็นผู้นำทางให้เราเก็บเกี่ยวข้อมูลในการนั่งรถบัสไปตลอดทาง

ก่อนขึ้นรถเห็นร้านนี้ขายของเลยถามป้าอ๊อดก็ได้ความว่า ร้านนี้ขายอุนางิ หรือปลาไหลย่างนั่นเองค่ะ ป้าอ๊อดบอกว่าเนื้อปลาไหลย่างอร่อยมาก แต่...เราบอกปัดป้าอ๊อดไปว่าตอนนี้ยังทำใจจะกินไม่ได้ค่ะ เพราะติดภาพปลาไหลของเมืองไทยอยู่ แหะๆๆๆ

ระหว่างยืนรอรถเมล์ที่ป้ายก็ถ่ายนู่นนี่นั่นไปเรื่อยๆค่ะ อ้อ มีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆมาฝากนะคะ ป้ายรถเมล์ที่นี่เค้าจะมีหมายเลชรถเมล์กำกับไว้ค่ะ อย่างป้ายที่เรารออยู่คือป้ายของสาย 73  74  75  ดังนั้นสายอื่นๆเช่น 30 51 40 ก็จะไม่จอดที่ป้ายนี้ค่ะ เขาจะมีป้ายสำหรับสายของเขาเองต่างหาก และเมื่อรถเมล์มาแล้ว ก็ต้องขึ้นประตูด้านหน้าค่ะ เดินขึ้นไปก็หยอดเหรียญตามระยะทาง ส่วนใครที่มีบัตรเบ่ง ก็สามารถเอาแปะได้เลย รถเมล์รุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้สามารถใช้ pasmo และ suica ได้หมดแล้วนะคะ ไม่ต้องห่วงว่าจะจ่ายเงินลำบาก

รถเมล์ที่นี่มารยาทดีสุดๆค่ะ ไม่ต้องห่วงว่าจะตกรถ เพราะถ้าเรายืนอยู่ที่ป้ายแล้วยังไม่ได้ขึ้นคนขับจะตะโกนเรียกทันที และที่สำคัญเวลาที่เราจะลงรถ เราจะต้องกดก่อนถึงป้าย 1 ป้ายค่ะ เวลาลงไม่ต้องรีบนะคะ เพราะรถเมล์ที่นี่เขาจะจอดรอเราจนเท้าเราแตะถึงพื้นเรียบร้อย ไม่เหมือนรถเมล์บ้านเรา ไล่เราลงจากรถอย่างกะตัวอะไรแน่ะ เฮ่อออ.....

รถมาแล้วค่ะ ขออนุญาตนั่งรถเก็บข้อมูลก่อนนะคะ เพราะวันหน้าเราจะต้องนั่งรถไป-กลับด้วยตัวเองแล้วค่ะ

นั่งรถมาประมาณ 15 นาที รถสาย 74 ขับมาเรื่อยๆจนพอเข้าซอยเล็กๆแล้วเลี้ยวซ้าย ก็เป็นอันว่าสุดสาย 74 แล้วค่ะ ป้าอ๊อดพาเราเดินข้ามถนนไปยังบ้านของแม่ ในที่สุดก็มาถึงแล้วค่ะ
ป้าอ๊อดเข้าไปด้านในบ้านเพื่ออ้อมมาเปิดประตูให้เราทางด้านหน้า ขอบคุณมากๆค่ะ

ระหว่างรอแม่กลับจากเลิกงาน เราก็จัดแจงเก็บกระเป๋าและเข้าห้องน้ำขับถ่ายกันเล็กน้อย วางกระเป๋าเสร็จก็เอนหลังกันเล็กน้อย หลังจากผจญภัยกับ JR มาซะครึ่งวัน

ประมาณ 4 โมงเย็น แม่ก็เดินทางมาถึงบ้าน พูดคุย ทักทายกันเสียงดังลั่นบ้าน แม่บอกว่าให้เตรียมตัวออกไปที่คาวาซากิ เพื่อไปเจอ ฮิโรมิชิซัง ที่นั่น

แวะมาชมครับ อาหารน่าทานมากๆ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ ตามต่อครับผม

กิ๊ฟเดือนนี้หมดแล้ว ผมให้ แทนนะครับ

เดินออกจาบ้านก็จะเจอวัดค่ะ บอกตัวเองว่าพรุ่งนี้เช้าจะต้องมาถ่ายรูปให้ได้

ระหว่างเดินทางไปสถานีรถไฟ เจออะไรก็ถ่ายหมดค่ะ ตามประสาคนมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ^^

เดินมาประมาณ 200 เมตร ก็มาถึงสถานีรถไฟที่จะออกเดินทางไปสถานีคาวาซากิแล้วค่ะ  คนที่ไม่คุ้นเคยกับการเดินเยอะ เล่นเอาหอบเลยทีเดียว เลยใช้ pasmo แปะซื้อขาเขียวมา 1 ขวด

หน้าตาตู้เครื่องดื่มที่ใช้ pasmo ได้ก็ประมาณนี้ค่ะ จะมีแถบให้แปะ pasmo ไว้ เอาบัตรแปะแล้วกดปุ่มที่เราต้องการ ซักพักเครื่องดื่มก็จะหล่นลงมาค่ะ คอยหยิบด้านล่างได้เลย

เมื่อเดินทางมาถึงคาวาซากิก็ขออนุญาตแม่เดินเล่นละแวกนั้นเล็กน้อย เพราะอีกประมาณ 10 นาที กว่าที่ฮิโรมิชิซัง จะเดินทางมาถึง เราสองคนก็ตะลอนกันไปถ่ายรูปกับป้ายต่างๆ อย่างที่เห็นนี้ก็จะเป็นป้ายสำหรับวันฮาโลวีนที่กำลังจะมาถึง ที่นี่ค่อนข้างคึกคักกันทีเดียว แต่ปีนี้บ้านเราคงเงียบไปเยอะเพราะโดนน้ำท่วมกันซะอ่วม

ปาจิงโกะ สถานบันเทิงของผู้ใหญ่ อยากเข้าไปเล่นบ้างค่ะ แต่ว่าแม่ยังไม่อนุญาต แม่บอกว่ามาครั้งหน้าจะพามาเล่น ครั้งนี้เดินผ่านไปก็พอ อิอิ  ....  ที่นี่เค้าเปิดกิจการอย่างถูกกฎหมายนะคะ วัฒนธรรมญี่ปุ่นไม่เหมือนบ้านเรา ซึ่งการเปิดบ่อนแบบนี้มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ส่วนตัวแล้วเมืองไทยอย่าเปิดเลยค่ะ

ฮิโรมิชิซังมาแล้วค่ะ ซึ่งปกติแล้วเราจะเรียกแกสั้นๆว่า “ฮีโร่ซัง”  ฮีโร่ซังใจดีมากๆค่ะ วันนี้พาเราเดินเล่นบนห้างซึ่งเป็นห้างที่มีตู้หยอด 100 เยนเพื่อหยิบตุ๊กตา และชั้นบนก็เป็นร้านขายของ 100 เยน ของเยอะมากๆค่ะ อยากได้ไปหมดเลยอะ ฮีโร่ซังเป็นเซียนหยิบตุ๊กตาค่ะ เดี๋ยวมาดูกันว่าวันนี้จะได้อะไรกลับไป

ไปแลกเหรียญจะหยอดตู้กันก่อน ที่นี่ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยแลก แค่หยอดเหรียญหรือสอดแบงค์เข้าไป เครื่องก็จะแลกเหรียญให้อัตโนมัติเลยค่ะ สะดวกดีนะ

เด็กๆชาวญี่ปุ่นมาเล่นเกมส์ตีกลอง ช่วยกันตีได้มันส์มากๆเลย

ฮีโรซังเริ่มหยอดเหรียญเพื่อคีบตุ๊กตาแล้วค่ะ หยอดไป 100 เยน ได้มาแล้ว 3 ตัว อิอิ อะไรจะเซียนขนาดนี้ แต่ความเซียนยังไม่จบเพียงเท่านี้นะคะ เดี๋ยวตามมาดูกันต่อ

ที่ญี่ปุ่นมีร้านแบบนี้เยอะค่ะ ใครสนใจอยากประลองฝืมือก็สามารถลองเล่นดูได้ สนุกดีค่ะ แต่ถ้าคิดถึงจำนวนที่เสียไปในแต่ละครั้ง หากคูณออกมาเป็นเงินไทยก็แพงอยู่ เฮ่อ.....

เป้าหมายต่อไปของเค้าค่ะ เจ้าสติซตัวใหญ่

การหยอดเหรียญตุ๊กตาไม่ได้หมายความว่าหยอดครั้งเดียวจะได้เลยนะคะ บางคนหยอดหลายเหรียญยังไม่ได้ซักกะตัว อิอิ ไอ้บางคนนี่ก็เราเองล่ะค่ะ พยายามลองเล่นแต่ก็ยังไม่บรรลุผล  อย่างตู้นี้เห็นฮีโร่ซังหยอดลงไปแล้ว 3 เหรียญค่ะ

สุดท้ายก็ได้เจ้าสติซมาอยู่ในเมือค่ะ ตัวเบ้อเริ่มเลยทีเดียว ราคาค่าตัว 300 เยน หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 120 บาท ขอยกนิ้วให้เลยค่ะ เซียนมากๆ ยังมีตุ๊กตาตัวเล็กอีกหลายตัวเลยนะคะ ที่อยู่ในถุง แต่ขอนำตัวโตมาอวดเพื่อนๆกันค่ะ

หากเราคีบได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ ก็เรียกหาพนักงานให้นำถุงมาใส่ได้เลยนะคะ ที่นี่เค้าจะมีพนักงานคอยดูแลสอดส่องพร้อมกับสะพายถุงติดตัวไว้ค่ะ เรียกปุ๊บมาปั๊บ...

หยอดเหรียญกันเป็นที่เฮฮาแล้ว ก็มุ่งหน้าไปกินข้าวเย็นกันค่ะ วันนี้ฮีโร่ซังขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงต้อนรับการเดินทางมาญี่ปุ่นของพวกเราค่ะ

ดอกไม้สวยๆ

ว้าว.... วันนี้ได้กินเนื้อย่างด้วย ฮิ้ววววววว ว วว ว ชอบมากๆเลย ยากินิขุ

ร้านนี้อยู่ชั้นสองของตึกค่ะ ต้องเดินขึ้นบันไดมาอีกนิดหน่อย ไปถึงร้านยังไม่เปิด ต้องนั่งรอหน้าร้านก่อน

ระหว่างรอความพร้อมของร้าน ป้าอ๊อดอาสาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

ได้เวลาเข้าไปด้านในกันแล้วค่ะ  ฮีโร่ซังสั่งอาหารมาให้พวกเราแบบไม่อั้น อูยยยยยยยย..ลาภปากแร้ววววว  อะริกะโตะโกซัยมะสึ ค่ะ

สั่งผักมาแกล้มกับเนื้อย่าง รดชาดจืดค่ะ แต่ก็อร่อยดี มีผักอยู่ 4 อย่างคือ ถั่วงอกผัด ปวยเล้งผัดน้ำมันงา ไชเท้าดอง แล้วดอกไม้จีนดอง ประมาณนี้

เนื้อมาแล้วค่ะ มีเนื้อนอกและเนื้อในประเทศ ขอบอกว่านุ่มม๊ากกกกกกกกกกกก..... โอ๊ยยย น้ำลายไหล

เสียงน้ำมันของเนื้อกระทบเตาถ่านเบื้องล่างดังฉู่ฉี่ๆๆๆ ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวนเต็มห้อง ขอบอกว่าหอมมากๆค่ะ

แล้วก็มีซุปมาอีก 1 ถ้วย รสชาดออกเผ็ดเล็กน้อย แต่พริกลอยเกลื่อน อิอิ ไม่หวั่นค่ะ เป็นคนกินเผ็ดอยู่แล้ว วันนี้กินอะไรก็อร่อย เพราะฟรี คริ คริ

กินเสร็จก็มีอาการอย่างที่เห็นแหละค่ะ 5555++

ร้านนี้ตั้งอยู่แถบย่ายคาวาซากิค่ะ รสชาดอร่อย บรรยากาศดี แต่ราคาเท่าไหร่อันนี้ไม่ทราบได้เพราะมีผู้อุปการะคุณจ่ายให้ แหะๆๆๆ

ขอเหมาชั้นเหล้าได้มะ เอิ้กๆ

น่ากินทุกอย่างเลยครับ

เดินเล่นไปเรื่อยๆค่ะ

แสงสีของที่นี่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลยค่ะ

จักรยานกับคนญี่ปุ่นเป็นของคู่กันค่ะ คนญี่ปุ่นนิยมปั่นจักรยานมากค่ะ แต่ละคนขี่เก่งกันทั้งนั้นเลย

แวะดูเครื่องสำอางค์อีกแล้วค่ะ ราคาถูกกว่าบ้านเราแบบครึ่งๆเลยอะ

กินข้าวเสร็จแม่บอกว่าจะพาไปหาคนไทยที่ร้านอาหารไทยย่านคามาตะ เราติดสอยห้อยตามแม่กับป้าอ๊อดไปย่านคามาตะอีกครั้ง  ส่วนฮีโร่ซังมุ่งหน้ากลับบ้านก่อนค่ะ เดี๋ยวเจอกันที่บ้าน

อย่างที่เห็นค่ะ โปรแกรมที่แพลนไว้กะที่เกิดขึ้นจริงมันคนละเรื่อง 555 ด้วยสาเหตุมาจากหลายๆประเด็น อิอิ  แต่ไม่เป็นไรค่ะ ค่อยไปปรับรับเอากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดีกว่า สบายม๊ากกกกกกกกกก...

วันนี้กินและกินและกิน ชอบมากกับอาหารสดๆของที่นี่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นซูชิหรือเนื้อย่าง ต่างก็ถูกปากเราสองคนไม่น้อย พรุ่งนี้ เรามีแพลนวางมาจากเมืองไทยเหมือนเดิม  มาติดตามดูกันว่าแพลนที่เตรียมมากับของจริงจะเป็นยังไง  

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ...

แวะเข้ามาดูซูชิ.... อืมมมม...ช่างเป็นรีวิวภาพอาหารที่ทำร้ายจิตใจและกระเพาะของผู้ชมอย่างยิ่ง   นี่เพราะกล้อง sony หรือ ฝีมือ จขกท เอง ฮะเนี่ย !?!?  สิบล้อสงสัยต้องหา nex 5n มาไว้เป็นสมบัติซะแล้ว  

เจ๋งเลยค่ะ คีบตุ๊กตาติดด้วย >_<

ตามมากิน เอ้ย!! ตามมาเที่ยวต่อค่ะ ...กระทู้ยั่วน้ำลายชัดๆ น่ากินทุกอย่างเลย

ซูชิน่ากินมากเลยครับ

ภาพชัดแจ๋วซะจนทำให้หิวเชียวค่ะ  ^^

เห็นซูชิแล้ว มันน่าโดนนนนนนนนน

น่ากินมากๆเลยครับ

เห็นแล้วหิววววววววว

##  โอ้..เปิดมาตอนเช้าอาหารละลานตา .. เห็นแล้วหิวมากครับ ##

น่ากินจังเลยครับ  ขอบคุณที่ทำให้หิวครับ  

บรรยายได้น่ารักมากเลยครับ เจ้าของกระทู้คงต้องเป็นคนจิตใจดีมากแน่ๆ

ตามไปเที่ยวค่ะ

ติดตามมาจากภาคที่แล้ว ภาคนี้ยังสนุกเหมือนเดิมเลยครับ

ตามตอนที่ 2 ต่อค่ะ เล่าเรื่องได้สนุกดีมากเลยค่ะ

รีวิวนี้อาหารน่าหม่ำ นางแบบน่ารักค่า

กัปตันลูกชุบ - เดี่ยวตามต่อตอนหน้าด้วยนะคะ

yuechan - เหมาเหล้าทั้งชั้นคงเมาไปหลายวันเลยค่ะ อิอิ

puk ka bee -  ขอบอกว่าเนื้อย่างอร่อยมากๆ ซูชิก็สดสุดๆเลยล่ะค่ะ

สิบล้อชอบเที่ยว - น้าคะ ยกเครดิตให้กล้องละกันค่ะ อิอิ

ก่วยก๊วยตาลสด  - แบบว่าเซียนเลยล่ะ คีบเก่งมากๆ ตุ๊กตาเต็มบ้านเ้ค้าเลยอะ

Sergeant Keroro  - อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ

HUDSON - อร่อยมากๆด้วยจ้า

COCOSWEET - อิอิ วันหลังไปกินด้วยกันนะคะ

bOrEd  - ซูชิสุดยอด เนื้อย่างก็สุดยอดคร๊าาาาาาาา

Coffee Blended  - กินจนอิ่มแปร้แล้วคร๊า อิอิ

ลุงแบกเป้ - ลุงคะ ขออภัยจริงๆค่ะ ที่ภาพมันน่ากิน

MRBIG173 - อย่าลืมหาอะไรรองท้องด้วยนะคะ

เล็กทาโร่  - น้าเล็ก อย่าลืมตามไปหิวในตอนต่อไปนะคะ

กงจื้อรอง  - จขกท ออกจะโหด อิอิ

aor-naja - ยินดีค่ะ

Destiny-Boy - ตามไปชมตอนต่อไปด้วยนะคะ

scuba734 - ขอบคุณค่ะ

Princess of Napier - ขอบคุณค่ะ อย่าลืมตามไปตอนที่ 3 ด้วยนะคะ

รูปชัดมากเลยค่ะ เห็นซูชิแล้วน้ำลายไหล รอติดตามตอนต่อไปค่ะ

รอตอนต่อไปจ้า

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^