สวัสดีค่ะ วันนี้เรายังอยู่ในประเทศมองโกเลียกันนะคะ
โดยส่วนตัวแล้วประเทศมองโกเลียจะแวะอยู่หลายๆอาทิตย์เลยก็ได้ค่ะ ถ้าโดยพื้นฐานแล้วชอบท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ รักการผจญภัย เพราะนอกจากมองโกเลียจะเป็นที่ราบแล้ว พื้นที่อีกส่วนใหญ่ยังเป็นทะเลทรายค่ะ นั่นคือทะเลทรายโกบี หรือจะเลือกเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ชมภูเขา หรือจะพักอยู่กับโฮมสเตย์เรียนรู้วัฒนธรรม ดื่มนมยักค์ ทานชีส
นอกจากธรรมชาติจะสวยแล้ว ค่าครองชีพยังถูกอีกด้วย
โบอยู่มองโกเลียสามวันค่ะ เพราะโบมีกำหนดด้านเวลา
โบเที่ยวคนเดียวด้วย เลยไม่อยากอยู่นานเกินไป เพราะเกรงว่าจะเหงาค่ะ
โบเคยมีประสบการณ์เที่ยวแบบแบกเป้คนเดียวครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๔๔ ค่ะ ซึ่งโบเดินทางไปจีนและมาเก๊า เป็นเวลาหนึ่งเดือน อาทิตย์แรกๆก็หลั่นล้าค่ะ เที่ยวคนเดียว เจอเพื่อนใหม่ ทานอาหารแปลกๆ เรียนรู้อะไรใหม่ๆ
แต่พอใกล้ๆจะจบทริปเท่านั้นหละคะ มันเหงาจับใจ โบได้พูด ได้คุยกับคนเพื่อนแปลกหน้าหลายคน แต่เหมือนกับว่ามันยังไม่ใช่บทสนทนาที่เราต้องการ มันเป็นการพูดคุยเรื่องทั่วๆไป
จิตใจโบคงยังไม่เข้มแข็งพอค่ะ โบยังต้องการบทสนทนาดีๆ และความมั่นคงในแบบที่ว่า ตื่นมาแล้วเรารู้จักสถานที่ดี ตื่นมาแล้วพบว่าคนที่คอยเราอยู่เป็นครอบครัวค่ะ
และที่สำคัญ โบคิดถึงอาหารไทย และอยากทานเนื้อสัตว์มากค่ะ ฮิๆ ตอนโบอยู่จีน โบทานเนื้อได้น้อยมาก เพราะเนื้อมันมีกลิ่นแบบผ่านการหมักมาค่ะ เลยไม่ค่อยถูกปาก
ออกนอกนอกเรื่องไปเยอะ โบแค่อยากจะเสนอว่า ประเทศมองโกเลียเป็นประเทศที่ควรอยู่มากกว่า๓วันเป็นแน่แท้ค่ะ
[31 ต.ค. 54 18:18:45
]
ลิงค์ของบทก่อนๆนะคะ
๑ เรื่องการเตรียมตัว - http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11258832/E11258832.html
๒ เรื่องเล่าวันที่๑ - http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11261514/E11261514.html
๓ เรื่องเล่าวันที่๒ - http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11266173/E11266173.html
และใครอยากอ่านอีกรสชาตินึง เชิญที่blog ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11266173/E11266173.html
[31 ต.ค. 54 18:22:09
]
เก่งจริงๆ ตามไปเที่ยวต่อครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่
[31 ต.ค. 54 18:48:34
]
อินเตอเน็ทที่โรงแรมมีปัญหาอีกแล้วค่ะ T_T ดูเหมือนว่าคืนนี้จะโพสไม่ได้แน่นอน ขอติดไว้เป็นพรุ่งนี้จะได้รึเปล่าคะ?
จากคุณ : อย่าลังเล
[31 ต.ค. 54 19:18:25
]
รอดูครับ เที่ยวให้สนุกนะครับ
จากคุณ : panda_nat
[31 ต.ค. 54 19:48:21
]
ตามมาเชียร์ต่อค่ะ
จากคุณ : Bpearl
[31 ต.ค. 54 20:31:24
]
รีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ตามอ่านนะคะ
[31 ต.ค. 54 20:53:10
]
เยี่ยมเลยค่ะ ^^
จากคุณ : Tikgazza
[31 ต.ค. 54 21:41:05
]
เย่ เน็ทมาแล้ว งั้นโพสต่อนะคะ
_______
รถบัสที่จะนำเราเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติTerelj มีอยู่สองรอบค่ะ
ถ้าเดินทางจากอุลาบาต๊อกไปอุทยานคือรอบ ๑๑โมงเช้า และบ่าย๔โมงเย็น
ส่วนขากลับจากอุทยานเข้าเมืองอุลาบาต๊อกคือเวลา ๘โมงเช้า และอีกรอบคือ ๑ทุ่มค่ะ
ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงค่ะ ขึ้นอยู่กับการจารจรด้วยนะคะ เพราะการจราจรในเมืองอุลาบาต๊อกไม่ค่อยคล่องนัก
ค่าตั๋วถูกค่ะอยู่เที่ยวละประมาณ 2USD ค่ะ ขึ้นรถก่อนแล้วจ่ายเงินให้กระเป๋ารถเมลค่ะ
รถบัสสาธารณะจะจอดอยู่บนถนนที่ชื่อ Peace Avenue จุดจอดรถจะเลยป้ายรถเมล์ไปหน่อย สังเกตเห็นค่อนข้างยากค่ะ ต้องเผื่อเวลาไปเยอะๆนะคะ ถามคนทั่วไปจะไม่ค่อยทราบเท่าไหร่ค่ะ รถคันที่ใช่จะมีคำว่า Terelj National Park หรือแค่ Terelj ติดอยู่ค่ะ หรือถ้ามองไปแล้วเห็นชาวต่างชาติแบกเป้อยู่ในรถเยอะๆก็แปลว่าใช่ เป็นแน่เท้ค่ะ
**ข้อมูลตรงนี้เป็นข้อมูลของเดือนกันยายน ปี๒๕๔๕ นะคะ อาจมีการเปลี่ยนแปลง ต้องเช็คให้ดีก่อนออกเดินทางนะคะ เพราะดูเหมือนว่าการเดินรถของเค้าจะไม่เป็นระบบค่ะ
ถ้าไม่สะดวกเรื่องเวลา ก็สามารถไปรถตู้ได้ค่ะ แต่โบไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับรถตู้เลย ค้นในกูเกิ้ลก็ไม่ไม่มีข้อมูลพอที่จะให้ยืนยันได้ค่ะว่ายังมีอยู่จริง
หรืออีกวิธีกหนึ่งคือ เหมารถจี๊ฟค่ะ ผู้ที่ให้บริการก็เป็นเอเจ้นท์ท่องเที่ยว หรือว่าแม้แต่ในโรงแรมหรือโฮสเทลเองก็มีบริการค่ะ ราคาอยู่ประมาณ๒๕ดอลล่าห์นะคะ
หรือวิธีที่เห็นจะเป็นวิธีที่นิยมที่สุดวิธีหนึ่งสำหรับนักแบกเป้ คือ ไปค้างแรมที่โฮสเทลก่อน แล้วคุยกับเพื่อนๆนักแบกเป้ด้วยกันค่ะ แล้วขอติดสอยห้อยตาม แชร์ไปด้วย หรือไม่ก็ไปสอบถามที่พนักงานต้อนรับว่ามีออกทริปรึเปล่า
เห็นไหมละคะ มีหลายทางเลือกจริงๆ ^^
[31 ต.ค. 54 21:56:28
]
ในตอนแรกโบไม่แน่ใจว่ารถโดยสารมีรอบ ๑ทุ่มจริงๆรึเปล่า เพราะคุณไกด์ที่จองไว้ตั่งแต่วันแรกบอกว่า รถมีแค่รอบ ๘โมงเช้าเท่านั้น แต่โบอ่านใน wikitravel แล้วบอกว่ารถมีสองรอบจริงค่ะ
พอโบเจอรถ ก่อนขึ้นรถก็ลองถามคนขับรถดู คุยกันซักพัก ไม่มีใครเข้าใจใครสักค่ะ ฮิ ฮิ เลยแบกหน้าขึ้นรถไป ถามฝรั่งที่อยู่ในรถ ว่าทราบรึเปล่าว่าคืนนี้จะมีรถกลับไหม และเพื่อนร่วมทางก็บอกว่ามีค่ะ เลยนั่งรถได้อย่างอุ่นใจ ว่ายังไงคืนนี้ก็ได้กลับเป็นแน่แท้
พอได้เวลาสิบโมงห้าสิบ รถก็ออกค่ะ จริงๆแล้วรถมีคันเดียวนะคะ แล้วตามเวลาก็บอกว่าออก๑๑โมงตรง แต่ไหงมาออกก่อนเวลาตั่ง ๑๐นาทีหละ?
บางทีเราก็เอาอะไรแน่นอนกับของถูกไม่ได้หรอกค่ะ พอรถออกโบก็เริ่มเจอะแจะ คุยกับเพื่อนที่อยู่ในรถ ได้ความว่า พวกเค้าทั้งหมดเจอกันในโฮสเทลแห่งหนึ่ง หนุ่มที่ชื่อคริสบอกว่า (ชื่นี้รึเปล่าหว่า จำบ่ได้) เค้าเป็นคนแคนาดา ขอบริษัทหยุดงานมา ๑ปีเพื่อท่องเที่ยวทั่วโลก และบริษัทก็ใจปล้ำให้ลาได้ด้วยอีก ตอนแรกคริสตั้งใจจะไปทะเลทรายโกบีค่ะ แต่ว่าเพราะเที่ยวคนเดียวอยู่นาน เลยเหงาและตัดสินใจย้ายมาเที่ยวตามกลุ่มคนที่เจอในโฮสเทลแทน
ส่วนหนุ่มอีกคนนึง จำชื่อไม่ได้ค่ะ บอกว่าเป็นทหารอเมริกัน ประจำอยู่เกาหลีใต้ คนนี้ดูออกได้จริงๆค่ะว่าเป็นทหารมาก่อน (*** อันนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัวของโบนะคะ) เพราะเป็นกิริยาท่าทาง วิธีการพูด ดูไม่ค่อยเปิดกว้างมากนัก ไม่ค่อยชอบพูดคุยเจอะแจะ ประมาณว่าถามคำตอบสองคำค่ะ เลยหมดเรื่องคุยกันไป
ไม่ใช่ว่าโบตั้งใจจะคุยแต่แค่กับผู้ชายนะคะ ฮ่าๆ แต่ว่าจำนวนประชากรส่วนมากเป็นผู้ชายค่ะ เห็นมีผู้หญิงสองคน ซึ่งเดินทางมากับแฟน นั่งซะห่างเชียว เลยไม่ได้ไปคุยด้วย ซักเท่าไหร่
[31 ต.ค. 54 21:58:05
]
รถออกเดินทางมาร่วม ๒ชั่วโมงค่ะ เริ่มจากถนนที่เต็มไปด้วยบ้านเรือน จากนั้นบ้านเรือนก็น้อยลง น้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านเข้าเขตอุทยาน ความสงบของธรรมชาติก็เข้ามาทักทายค่ะ พอเข้าถึงอุทยานจะพบว่ามีแค้มป์ต่างๆ มีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นเกอร์หรือเป็นตึกโรงแรมเรียงรายตามสองข้างทางค่ะ เราสามารถบอกให้รถหยุดได้นะคะ
และพอบ่ายโมงกว่าๆ รถก็จอดสนิทค่ะ เพียงเพราะว่าด้านหน้าไม่มีถนนให้วิ่งต่อแล้ว เรามาถึงสุดท้างที่รถจะวิ่งได้แล้วค่ะ ก่อนที่ผู้โดยสารจะลงก็มีชายหนุ่มนายหนึ่งขึ้นรถมา บอกว่ามีบ้านพักกันรึยัง ที่พักของเค้าเป็นเกอร์ ราคาที่พักรวมอาหารเช้าด้วย ๒๕ ดอลล่าห์ (สามารถต่อรองได้ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลนะคะ) โบเลยคิดว่าการหาที่พักในอุทยานแห่งนี้จึงไม่น่าจะยากเท่าไหร่
พอลงจากรถ พวกเราชาวแบ็กแพกก็มองหน้ากันด้วยความงงสุดชีวิตค่ะ คือพวกเราไม่มีแผนการเดินทางมากก่อน เลยไม่รู้ว่าจะไปไหนดี ทำอะไรดี และที่สำคัญคือไปอย่างไร โบเลยเดินจับกลุ่มขอติดสอยห้อยตามนักท่องเที่ยวคนอื่นๆไปด้วยค่ะ จริงๆแล้วโบมีแผนว่าจะขี่ม้าเล่น แต่ว่าเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ คุยกับกลุ่มนักท่องเที่ยวสักพัก เค้าก็บอกว่าเค้าจะมาตั้งเต้นท์กันกลางป่า โบก็ประหลาดใจ เพราะเมื่อคืนหนาวมาก จะอยู่กันได้ยังไงหน๋อ แต่พวกเค้าสิคะ พอได้ยินว่าโบไม่เคยตั้งแค้มป์มาก่อน ทำหน้าตกในแทบจะสิ้นสติสมปัญะ -_-"
เดินคุยกันได้สักพัก ก็มีเพื่อนๆหลายคนเดินแยกออกไป เพราะว่ามีแผนเป็นของตัวเอง บ้างก็เดินออกไปจากกลุ่มอย่างมุ่งมั่น บ้างก็บอกว่าจะไปลองถามชาวบ้านเรื่องโฮมสเตย์ในเกอร์ดูก่อน ถ้าไม่ชอบจะมาขอตั้งแคมป์ด้วย ส่วนโบด้วยความกลัวหนาว จึงขอตัวไปตามหาม้าขาวในฝัน (เจ้าชายยังไม่ต้อง) ที่โบแอบเล็งเอาไว้ตอนที่นั่งรถเข้ามานั่นแหละค่ะ
หลักจากที่เราแยกย้ายกัน โบก็เดินย้อนกลับไปเรื่อยๆ จนถึงคอกม้าที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง จากนั้นก็เดินดุ่มๆ ไปหาชายคนหนึ่ง คุยกันเป็นภาษาใบ้ ชี้โบ้ชี้เบ้กันจนเข้าใจค่ะ เค้าบอกว่าขี่ม้าหนึ่งชั่วโมง ราคา ๕,๐๐๐ เทกกี้ (สกุลเงินของมองโกเลีย) ค่าเช่าไกด์ (ตัวเค้าเอง ฮิๆ) หนึ่งชั่วโมงอีก ๕,๐๐๐๐ รวมเป็น ๑๐,๐๐๐ หรือประมาณ ๓๐๐บาทไทยค่ะ
[31 ต.ค. 54 21:59:51
]
รูปวิวค่ะ
จากคุณ : อย่าลังเล
[31 ต.ค. 54 22:01:32
]
โบเคยขี่ม้าอยู่ครั้งเดียวค่ะ น่าจะเป็นที่เดียวกับเพื่อนๆส่วนใหญ่ คือชายทะเลหัวหิน ตอนนั้นโบอายุสิบกว่าขวบ ไม่ได้ขี่ด้วยซ้ำเพราะม้ายืนเฉยๆ เดินบ้างถ้าคนเลี้ยงจูงให้เดิน
เมื่อตกลงกันได้ ก็เลือกม้าค่ะ โดยเปรียบเทียบจากหน้าตา เลยเอาม้าสาวตัวนี้ให้ ส่วนไกด์กระโดดขึ้นมาอีกตัวนึง ขอตั้งชื่อว่าเจ้าเกรียนค่ะ เพราะมันอึตลอดทางเดิน แถมตดอีกตังหาก เกิดมาไม่เคยได้ยินม้าตดเลย ประสบการณ์ชีวิตชัดๆ แถมบางทีเอาแก้มก้นมันมาใกล้กับหัวเขาโบมาก ทำให้โบเกิดอาการหลอนเห็นภาพตอนมันอึในสมอง ทุกครั้งที่มันเอาตูดมาใกล้
พอขึ้นหลังม้า ไกด์ก็ส่งภาษาบอกว่าให้เอาเป้ที่โบแบกอยู่ไปให้เค้า แล้วคุณไกด์ก็แบกเป้ให้โบค่ะ พอตอนม้าเริ่มออกเดิน ในใจโบคิดแต่ว่า "อย่ามาตายที่นี่นะเฟ่ย" เพราะมันออกจะหวาดหวั่นเหมือนกัน เพราะฝีมือขี่ม้าของชาวมองโกเลี่ยนใช่ย่อยซะที่ไหน แล้วม้าจะรู้มั๊ยเนี่ยว่าโบไม่ใช่ชาวมองโก ฮ่าๆ
[31 ต.ค. 54 22:04:57
]
ชิชะ โดนม้าแย่งซีน
จากคุณ : อย่าลังเล
[31 ต.ค. 54 22:06:23
]
คุณไกด์พาม้าเดิมข้ามเขตเข้าอุทยานค่ะ พาม้าผ่านลำธารสายนึง น้ำใสและเย็นสดชื่นมากเลยค่ะ พอข้ามไปได้ก็เห็นเพื่อนที่เจอกันบนรถกำลังพักผ่อนกันอยู่ บ้างก็ปีนต้นไม้เล่น บ้างก็แค่นอนเฉยๆอยู่ริมน้ำ โบก็โบกไม้โบกมือทักทายกัน โบสังเกตดูเห็นว่าพวกเค้าไม่เปียกกันเลยนะคะ คงจะต้องมีทางข้ามเป็นแน่เท้ จากนั้นคุณไกด์ก็พาม้าเดินไปเรื่อยๆ ม้าวิ่งแบบเหยาะ คุณไกด์หันมามองก็พูดว่า โบนั่งผิดท่าค่ะ (อ้าว นั่งมาตั่งนาน) วิธีที่ถูกคือเกร็งขาไว้เหมือนยืนค้างค่ะ โบก็จัดการเปลี่ยนท่านั่งให้ถูกต้องมากขึ้น และอานม้ากับแก้มกันก็กลับมาเป็นมิตรกันอีกครั้งนึง
คุณไกด์พาไปชมภูเขา ต้นไม้ ยักค์ (สัตว์ที่หน้าตาคล้ายวัวมีขน) แกะ และที่สำคัญเกอร์ของแกเองค่ะ รูปแรกๆที่โบโพสไปเมื่อวาน ด้านในเป็นรูปเกอร์ของคุณไกด์คนนี้นะคะ
โบคิดว่าธรรมชาติตรงจุดนี้เป็น จุดที่สวยที่สุดจุดนึงที่โบเคยเห็นมาด้วยตัวเองค่ะ หนึ่งในนั้นเป็นเพราะโบได้ยินเสียงธรรมชาติจริงๆ และเสียงนั้นไพเราะมาก เป็นเสียงที่สงบ แทบจะไม่ได้ยินอะไรเลย บางครั้งลมก็พัดผ่านมา บางครั้งแสงอาทิตย์อุ่นๆก็สาดส่องมา บางครั้งวัวน้อยก็หันมามองเอื่อยๆ และหันกลับไปอย่างไม่สนใจใยดีอะไร ส่วนหมาน้อยก็เห่าอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อเราเข้าใกล้อนาเขตของมัน ภาพของภูเขาที่อยู่เบื้องหน้า และธรรมชาติที่ล้อมอยู่ มันเป็นความสงบที่มีค่าจริงๆ เมื่อโบคิดถึงมันเมื่อไหร่ หัวใจก็รู้สึกพองโตเหมือนได้กลับไปอยู่จุดนั้นอีกครั้งนึงค่ะ ^^
พอจบรอ ก็ปาไปเกือบสองชั่วโมงได้ คุณไกด์น่าจะพูดว่า ๑รอบ ราคา๑๐,๐๐๐ หรือแถมให้ก็ไม่รู้ และคุณไกด์ ก็ช่างเป็นคุณไกด์ที่รู้ใจสาวๆค่ะ คือบอกว่าจะถ่ายรูปให้โบตลอดเวลา โบเลยมีรูปขี่ม้าคู่กับวิว ลำธาร ภูเขา ต้นไม้ หมาน้อย วัวน้อย วัวโต ที่โล่ง ฯลฯ เต็มไปหมด โบพยายามบอกว่า ไม่ต้องถ่ายแล้วก็ได้ค่ะ แต่คุณไกด์ฟังไม่ออกเลยเลยตามเลยไป ฮิๆๆๆ
จ่ายเงินพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ โบก็โบกมือล่ำลาคุณไกด์และเจ้าม้าสวย กับเจ้าม้าเกรียน เดินย้อนกลับไป น้อนเล่นๆ ข้างลำธารดูบ้าง และก็รู้สึกหิว จึงงัดของกินขึ้นมา และปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปพร้อมกับสายลม
[31 ต.ค. 54 22:08:26
]
คุณไกด์ให้ชิมน้ำนมยักค์ค่ะ
จากคุณ : อย่าลังเล
[31 ต.ค. 54 22:10:32
]
วิว จริงๆสวยกว่านี้นะคะ รูปมันออกจะเห่ยไปหน่อย เพราะฝีมือห่วยค่ะ
จากคุณ : อย่าลังเล
[31 ต.ค. 54 22:13:41
]
จากนั้น โบก็คิดว่าจะลองเดินเล่นดู เลยเดินย้อนไปบนถนนค่ะ เดินไปเลื่อยๆ บางทีลมก็แรงจนหนาว บางทีก็ร้อนเพราะแดดจัด ระหว่างทางเห็นคนโบกรถเยอะมากค่ะ เนื่องจากไม่มีรถสาธารณะวิ่งตลอดเวลา
๖โมงกว่าๆ โบก็เดินกลับมารอขึ้นรถค่ะ แต่หาจุดขึ้นรถไม่เจอ เดินๆไปหมาก็เห่า ประหนึ่งจะกินเลือดกินเนื้อ เลยเดินกลับไปที่บ้านคนที่เปิดเป็นร้านขายของค่ะ แล้วถามว่าจุดขึ้นรถอยู่ไหน แล้วเค้าก็ชี้โบ้ชี้เบ้ให้ไปยืนหน้าโรงแรมใหญ่ค่ะ รอรถไปสักพักก็เกิดอาการวิตกจริต ว่ารถมันจะมารึเปล่า เลยเดินเข้าไปถามคุณยามที่เฝ้ารถอยู่ในโรงแรม และโอ้แม่เจ้า คุณยามก็พูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ ไม่เพียงแต่บอกทางนะคะ ยังเดินมาดูให้มั่นใจว่าโบรอถูกจุด
โบนั่งรถคันเดิมกลับมาที่ตัวเมืองค่ะ รู้สึกอ่อนล้าไปหมด แต่ในขณะเดียวกันก็สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก
[31 ต.ค. 54 22:16:24
]
จบแล้วค่ะ วันนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก เพราะชิวไปกับธรรมชาติซะเยอะ ไม่ค่อยมีเนื้อหาอะไรเท่าไหร่
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ฝันดีค่ะ
[31 ต.ค. 54 22:26:49
]
ติดตามมาเรื่อยๆครับ
รอตอนที่5
[31 ต.ค. 54 23:37:58
]
ตามมาช้าไปหน่อย เเต่ตามมาเเล้วคร้าบบบ ^^
จากคุณ : AbzoLutE99
[1 พ.ย. 54 17:32:28
]
ไปด้วยๆ
จากคุณ : ค่ง หยาง เจี่ยน
[2 พ.ย. 54 06:58:26
]
Review ตัวเมืองอุลาบาต๊อก และกลับขึ้นรถไฟค่ะ
จากคุณ : อย่าลังเล
[2 พ.ย. 54 15:31:49
]
ผมเดินทางคนเดียวไม่ได้เพราะเหงาแบบคุณน้องโบว่ามาแหระ ถ้ามีเพื่อนคู่คิดดีๆสักคนสองคน ก็เดินทางกันได้ แหมจะลำบากยากเย็น เราก็ต้องผ่านให้ได้ มีรูปในมองโกเลียแนบนิดหน่อยเหมือนกันครับ
จากคุณ : -Xex-
[15 ม.ค. 55 11:20:27
]
แวะมาอ่านต่อ
จากคุณ : CMV
[26 มี.ค. 55 10:57:12
]