.................ความเดิมจากตอนที่แล้วครับ
     ปลายฝน ต้นหนาว กับความทรงจำอันงดงาม...บนเส้นทาง
        ...Road of paradise...ภูทับเบิก.....

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11221416/E11221416.html

 สวัสดีครับพี่น้องห้องบลูได้เวลามาต่อรีวิวที่แปะโป้งไว้แล้วครับ

หลังจากที่ลุงหนีน้ำขึ้นภูทับเบิก ค้างคืนหนึ่งคืนจากนั้นลุงเดินทางต่อครับ  
เป้าหมายของลุงคือเขาค้อ ลุงแวะเที่ยวตามทางไปเรื่อยครับ


.................................................


ฝากรีวิวทริปก่อนหน้านี้ไว้ให้ชมครับ

ตามหาเส้นสุดขอบฟ้า แชงกรีล่าดินแดนในฝัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10538645/E10538645.html

ความสุขเล็กๆที่อยู่ใกล้ๆการเดินทางที่ไม่ไกล...สมุทรสงคราม&อยุธยา...อัมพวา.... คลองโคน... กรุงเก่า..1#
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11143644/E11143644.html

VIP....หลีเป๊ะทริปนี้ขอสบายๆ สไตล์ ผบ.ทบ.ลุง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10484124/E10484124.html

หลังจากที่อิ่มท้องกันจากร้านขนมจีนบุญมีที่หล่มเก่า เราขับรถมาตามเส้นทาง
หล่มเก่า-หล่มสัก ถึงสี่แยกพ่อขุนผาเมืองเลี้ยวขวาตรงไปเรื่อยๆ
จนถึงทางแยกเข้าวัดผาซ่อนแก้วครับ
ทางเข้าค่อนข้างสูงชันคดเคี้ยวนิดนึงพอให้หายง่วงจากฤทธิ์ขนมจีน

เนื่องจากเป็นปลายฝนต้นหนาว สภาพดินฟ้าอากาศไม่แน่ไม่นอนจริงๆครับ
ลุงมาถึงที่นี่ แดดจัดมาก

 มาต้อนรับผู้ติดตามลุงคนแรก  SCFM 

แต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าบอกได้เลยว่าคุ้มค่าที่ได้มาครับ
ถนนเส้นที่ลุงเลี้ยวเข้ามาเป็นเส้นทางที่สมเด็จพระสังฆราชใช้เสด็จเข้ามาที่นี่
เป็นบุญที่ได้มีโอกาสตามรอยเสด็จ

วัดพระธาตุผาแก้ว ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 ในนาม"พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว" ได้รับการอนุมัติจัดตั้งเป็นวัดในมงคลนามว่า"วัดพระธาตุผาแก้ว"เมืีอวันที่ 1 ก.ค. 2553 จากคณะกรรมการมหาเถรสมาคม โดยมีพระครูสังฆรักษ์ ปารมี สุรยุทโธ เป็นเจ้าอาวาส

วัดพระธาตุผาแก้ว ตั้งอยู่ในชัยภูมิธรรม ณ. บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดย คุณภาวิณี และ คุณอุไร โชติกูล ได้มีจิตศรัทธาซื้อที่ดินถวายเริ่มแรกจำนวน 25 ไร่ เพื่อก่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปัจจุบันมีผู้ร่วมถวายปัจจัยซื้อที่ดินเพิ่มรวมทั้งสิ้นมีที่ดินรวม 91 ไร่

พระครูสังฆรักษ์ปารมี สุรยุทโธ และ พระครูใบฎีกาอำนาจ โอภาโส สองครูบาอาจารย์คู่บุญคู่บารมี ร่วมกับคณะศิษยานุศิษย์และเหล่าผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศได้ร่วมกันจัดสร้างเสนาสนะ กุฏิที่พักสงฆ์ อาคารปฎิบัติและบรรยายธรรม รวมถึงอาคารที่พักของผู้มาภาวนาเพื่อรองรับคณะผู้มีจิตศรัทธาจากทุกแห่งหนทีหลั่งไหลกันเข้ามาอบรมภาวนาในแนวสติปัฎฐานสี่ แห่งองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากันอย่างต่อเนื่อง

เป็นที่ปิติยินดียิ่งของครูบาอาจารย์กับเหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ..สละทั้งแรงกายและแรงทรัพย์ในการจัดสร้าง และสมกับคุณค่าแห่งความเสียสละ ความอุตสาหะ วิริยะ และมุ่งมั่นตั้งใจที่ได้ตั้งไว้

แวะมาชมครับ มาตามไปเที่ยวต่อ อยากไปที่นี่มากๆครับ รอโอกาสอีกหน่อยหวังว่าจะได้ตามรอยบ้าง ^ ^

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ตามลุงเป้ และ หมอปรางค์ และ คุณกัปตันมาเที่ยวด้วยจ๊ะ
ไม่ได้ไปซะที่คิดถึงเธอจัง เขาค้อ

 ลุงก็จะรอชมภาพสวยๆของคุณ กัปปิตันนะครับ 

เซรงจากน้ำ........ไปชมทะเลหมอกด้วยคนครับ

วัดพระธาตุผาแก้ว เป็นที่วิเวกสงบโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงาม ซึ่งความเบิกบานของธรรมชาติ เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดสมาธิ เรียกว่าความสุขเป็นเหตุใกล้ให้เกิดสมาธิ สมาธิเป็นเหตุใกล้ให้เกิดปัญญา ซึ่งศาสนาพุทธล้วนเป็นกระบวนการของเหตุปัจจัย ดังนั้น สถานที่แห่งนี้จึงสร้างให้เหมาะกับเหตุปัจจัย ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่จะช่วยน้อมนำมาสู่ธรรมชาติภายในของตัวเอง

ฉะนั้นที่นี่จึงมีติดประกาศว่ามิได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ผู้แวะมาเยือนจะต้องรักษาอาการสงบสำรวมเพื่อจะได้ไม่รบกวนผู้มาปฏิบัติธรรม

มารับคุณแม่จีน-ไท ครับ มารำลีกถึงถึงเขาค้อด้วยกันครับ 

สถาปัตยกรรมของที่นี่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือใช้กระเบื้องสีสันสดใส คริสตัล แก้ว หินสีหลากสี ตลอดจนถ้วยชามเบญจรงค์มาใช้ในการประดับตกแต่ง

เครียดๆปวดหัวๆ แบบนี้ รีวิวเรื่องเที่ยวหนุกดีกว่าเน๊อะ Destiny-Boy 

ในวันที่ลุงไปถึงที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบ การก่อสร้างบริเวณวัดยังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ลุงคิดว่าเมื่อก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ที่นี่คงสวยงามมากเลยล่ะครับ

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

เพิ่งลุยน้ำมาถึงที่พัก แวะมาลงชื่อขอจองที่นั่ง 1 ที่นะครับลุง

เพราะทุกตารางนิ้วเป็นวัสดุที่ค่อนข้างเก็บความร้อน การเดินถ่ายภาพไปบนพื้นที่ร้อน
ทำได้ไม่ถนัดเท่าไหร่นักครับภาพที่ได้มาเอียงๆล้นๆขาดๆเพราะ
บางครั้งต้องกระโดดหย็องแหย็งกันเลยทีเดียว
ร้อนจนแทบทอดไข่ได้กระมัง

 ตามกันจนจบเลยนะครับ  เธอคนนั้น ถ้าจะยาวนานกว่าจะจบ 

มาชมวิวมุมสูงกันบ้างครับงดงามจริงๆ นี่กระมังครับเป็นที่มาของชื่อวัดผาซ่อนแก้ว

 ของลุงหนีน้ำมาอีกที่ แต่น้องน้ำก็กะลังจะมาถึงอ่ะครับ Coffee Blended  สงสัยอยากอยู่กะลุง 5555 

สถานที่อันเป็นธรรมภูมิที่งดงาม ซึ่งเรียกว่าผาซ่อนแก้วนี้ มีธรรมชาติเป็นภูเขาที่สูงใหญ่ ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา

ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตามๆ กันว่า "ผาซ่อนแก้ว" และพุทธสถานที่มาตั้งในจุดที่โอบล้อมด้วยทิวเขาดังกล่าว จึงเรียกว่า "พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว" เพื่อเป็นนิมิตมงคลแก่ชาวบ้านทางแดง และผู้มาปฏิบัติธรรมสืบไป

มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างงดงามบริเวณวัดมีกฏิน้อยใหญ่ของผู้มาปฏิบัติอยู่รายรอบ

ถ้ามีโอกาสลุงจะมาปฏิบัติธรรมที่นี่สักครั้งครับ

ถ้าไม่แดดร้อนเกินไปในตอนนั้นลุงคงอยู่ตรงนี้อีกนานครับ

ได้เวลาออกจากวัดผาซ่อนแก้วเดินทางกันต่อครับ  วิวทิวทัศน์สองข้างทางเป็นภูเขาเล็กๆสูงๆต่ำๆบางจุดมีต้นข้าวออกรวงสีเหลืองทองอร่ามเต็มเนินเขา

ตามมาคิดถึงน้องหมอกที่เขาค้อด้วยค่ะคุณลุง

ตอนนี้อยากชมอะไรที่สบายตาชื่นใจจังค่ะ

เราออกเดินทางไปที่เขาค้อกันต่อครับ
เขาค้อเที่ยวไม่ยากเลยนะครับ ใครคิดหนีน้ำ หนีเครียดที่นี่ไม่ไกลเกินไปนักครับ
เป้าหมายต่อไปคือ เราจะเข้าที่พักที่เขาค้อทะเลหมอกเอาสัมภาะเข้าเก็บและหาอะไรทานกันก่อนครับ
กางแผนที่ ถามทางพร้อมเดินทางครับ

ตามไปดูทะเลหมอกที่เขาค้อด้วยค่ะ

 ถูกต้องเลยครับ Yai Klong_Tour Rai ลุงเครียดหัวโตมาหลายวันแล้วอ่ะครับ มานั่งทำรีวิวแล้วมีความสุข 

ที่ยังมา เม้น ลุงเป้ กัน ได้ แสดงว่าไม่อินเทรน เหมือนซ้อเลยนะ 55

ตามลุงไปเขาค้อด้วยครับ ยังไม่เตยไปเลย

 จัดไปเลยครับ Memories pink เผื่อจะช่วยให้ผ่อนคลายเรื่องเครียดกันได้บ้าง

ถนนหนทางประมาณนี้ครับไม่ได้สูงมากมายอะไรชิวๆ
จะมีบางช่วงเช่นช่วงขึ้นอนุสรณ์สถานสูงกว่านี้เล็กน้อยครับ

ผ่านพระมหาธาตุเจดีย์

 สงสัยจะเครียดจนหายกันไปแล้วอ่ะครับ แม่จีน-ไท (GT2007) 

งั้นลุงก็มีโอกาสได้เห็นภาพสวยเขาค้อจาก One Light One Shadow อ่ะสิครับ 

อยู่ๆฟ้าก็ครึ้มขึ้นมาเฉยๆเลยถ่ายรูปจากบนรถไม่มีใครอยากลงสักคนสงสัยกลัวน้ำไม่หายครับ
สงสัยเส้นทางคดโค้งเกินรูปเอียงกะเท่เร่

ซ้อ ดำนาอยู่ ที่ รง อะคร้า ระยอง น้องน้ำมาไม่ถึง แต่ น้องแก๊ส และสารพิษ ดม กัน จนติดไปแล้ว งอมแงม 55

 ลุงไปดำน้ำที่เกษตรมาเหมือนกันอ่ะครับ แม่จีน-ไท (GT2007) น้องน้ำนี่ไฝ่ศึกษามากๆเลยนะครับเข้าออกหลายมหาลัยเชียว ว่าแต่ที่ระยองยังมีนาให้คงไปดำบ้างไหมอ่ะครับ 

ถึงแล้วครับเป้าหมาย เขาค้อทะเลหมอก ป้ายสีเขียวๆ อยู่ติดกันกับพรสวรรค์รีสอร์ทเลยครับ
ขอเอากระเป๋าเข้าเก็บล้างหน้าล้างตาก่อนนะครับ

เราเลือกพักที่นี่ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นจุดที่จะได้ชมทะเลหมอกได้ชัดเจนที่สุด
ขับรถเข้าไปจอดด้านในกันครับ

ตามไปด้วยค่ะ

 ยินดีครับมาแก้เครียดกันครับ เรื่องของเรา 

นอกจากนั้นยังไม่พอตอนจองห้องยังรีเควซระบุเอาห้องที่เห็นทะเลหมอกได้สวยงามชัดเจนที่สุดอีก
เลยได้ห้องนี้มาครับ Top view4

แต่พอเข้าพักจริงๆ ถึงรู้ว่า ไม่ว่าจะพักตรงไหนในที่สุด
ก็ต้องได้ออกเดินไปดูหมอกถ้วนทั่วบริเวณเหมือนๆกัน

เปิดหน้าต่างห้องพักออกไปภาพที่เห็นเป็นเช่นนี้ครับ

Top view 1 2 3 เรียงตามลำดับเดินไปมาหากันได้
เดืนมาดูวิวสวยๆที่มุมระเบียงตรงTop view4ได้ ดีต่อผู้เข้าพัก 1 2 3 แต่ไม่ดีต่อผู้เข้าพัก Top view4 เพราะไม่เป็นส่วนตัว ห้องไม่มีแอร์มีแต่พัดลมไปถึงช่วงบ่ายๆค่อนข้างร้อนจะอุดอู้อยู่ในห้องค่อนข้างลำบากครับแถมต้องปิดม่านกันคนแอบมองเข้ามาอีก

อึกมุมพักผ่อนนอกห้อง ด้านที่ติดกับพรสวรรค์รีสอร์ทครับ

ด้านล่างที่เห็นคืออ่างเก็บน้ำรัตนัย เพราะอ่างนี้ล่ะครับที่ทำให้จุดตรงนี้เป็นทะเลหมอกยามเช้า
ได้อย่างไม่ยากเย็นเลยเพราะไอน้ำจากอ่างจะลอยตัวขึ้นมาจับกลุ่มเป็นทะเลหมอกที่สวยงาม

อีกมุม

สภาพห้องครับเตียงขนาดห้าฟุตสองเตียงเลยทีเดียว
ออกแนวรกนิดนึงครับเพิ่งมาถึงรื้อๆๆๆ

ห้องน้ำ มีให้เพียงกระดาษชำระและสบู่ก้อนเล็กๆสามสี่ชิ้น
น้ำที่เปิดใส่ถังไว้ค่อนข้างออกแนวสีขุ่นๆนิดนึงลุงเลยเลือกอาบจากฝักบัวครับ

ฟ้าเริ่มใสแดดดีมากๆ

ดอกไม้สวยๆใกล้ห้องพัก

ต้นสนที่พร้อมรับอากาศหนาวเย็นที่กำลังจะมาเยือน

แต่ลุงกลับรู้สึกร้อนมาทานไอติมดับร้อนกันก่อนออกเดินทางต่อครับ

ตามลุงไปดูทะเลหมอกด้วยคน...
...ภาพสวย..แจ่มหลายๆ...

เราออกจากเขาค้อทะเลหมอกแยกไปทางขวาเพื่อจะไปที่อนุสรณ์สถานผู้เสียสละและพิพิธภัณฑ์เขาค้อครับ เส้นทางเส้นนี้ในวันนั้นเงียบจนเราหวั่นใจ ขับไปข้างหน้าเรื่อยๆไม่มีรถสวนมาสักคัน มาเที่ยววันปกติก็แบบนี้ล่ะครับ เงียบจริงๆ ในที่สุดก็มาถึงจนได้ครับ


อ้าวลงรูปผิดซะนี่ นี่เป็นรูปด้านในบริเวณพิพิธภัณฑ์นะครับ

-----------------------------------------------------------------------

*-------- ตามมาอย่าได้ช้าครับ narasri

ด้านนอกครับ จะมีที่จอดรถให้ แนะนำว่าให้เที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ก่อนถึง เลยไปเที่ยวอนุสรณ์สถานนะครับเพราะจากตรงนี้ให้วิ่งรถทางเดียวไม่ให้วิ่งย้อนศรลงมาเพราะถนนค่อนข้างแคบมิน่าล่ะลุงถึงไม่เห็นมีรถสวนมาสักคันแอบกลัวแทบแย่ทางค่อนข้างเปลี่ยวครับ

เขาค้อ เคยได้ชื่อว่าเป็นดินแห่งคอมมิวนิสต์ เป็นพื้นที่สีแดงที่คุกรุ่นไปด้วยควันไฟของการสู้รบจากผู้ที่มีแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน (ช่วง พ.ศ. 2511-2525 ) ในยุคที่เขาค้อถือเป็นดินแดนต้องห้ามที่คนทั่วไปไม่ควรเฉียดเข้าไปใกล้แม้แต่น้อย เพราะถือว่าอันตรายสุดๆ

แต่เมื่อเวลาผันผ่านไป ความขัดแย้งยุติลง เขาค้อปรับเปลี่ยนกลายเป็นนพื้นที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่น และสวยงามมีเสน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งของเพชรบูรณ์

ต้นเต่าร้างใกล้ๆทางเข้าครับ

เข้าไปกราบศาลเพื่อความเป็นศิริมงคลกันก่อนครับ

พิพิธภัณฑ์อาวุธ (ฐานอิทธิ) ตั้งชื่อตาม พันเอก อิทธิ สิมารักษ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ยึดพื้นที่เขาค้อคืนจาก ผกค.ในปี พ.ศ.2524 บริเวณนี้เคยเป็นฐานปืนใหญ่ ยิงสนับสนุนการ สู้รบ ปัจจุบันจัดให้ เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มีอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ใช้ในการสู้รบตั้งอยู่มากมาย เช่น เครื่องบินขับไล่ เอฟ 5 รถสายพานลำเลียงพล ปืนใหญ่ ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. จำนวน 2 กระบอก ปืนใหญ่ ขนาด 155 มม. ยิงได้ไกล 11 กิโลเมตร 1 กระบอก ฯลฯ

ไปชมวิวสวยๆ ด้วยคนนะคะ.......

ภาพที่ลุงไม่ต้องบรรยายเรายืนนิ่งเงียบๆอยู่ตรงนี้กันครู่ใหญ่

 ยินดีต้อนรับนะครับ ปลาทะเลสีคราม มาคลายเครียดครับ 

จัดแสดงอาวุธยุทโธปากรณ์ เช่น ปืนใหญ่ รถถัง รถแทรกเตอร์ บังเกอร์หลบภัย แต่ละจุดมีป้ายประวัติพร้อมคำอธิบายประกอบ

ลุงชอบรถแทรกเตอร์คันนี้ที่ด้านบนปกปิดตัวรถพรางตาด้วยเปลือกไม้

ยังทันปาดลุงอยู่

ขอไอติมถ้วย 1 ค่ะลุง

 อยู่ตามกันยาวๆเลยครับ ย้ำคิดย้ำฝัน 

พาเด็กๆมาก็ดีนะครับจะได้รู้ถึงความเสียสละ ความยากลำบากของเหล่าทหารกล้า

จุดชมวิวครับ

ทำไมลุงถึงมองดูบังเกอร์พวกนี้เป็นสีเลือดแห้งก็ไม่รู้
สงสัยอินจัด

จากนั้นเราเดินทางต่อไปที่ อนุสรณ์สถานผู้เสียสละซึ่งต้องขับรถขึ้นไปอีกนิดเดียวครับ

อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา โดดเด่นด้วยแท่งหินอ่อนรูปทรงสามเหลี่ยม ออกแบบโดย ดร.กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา มีความหมายตามขนาดและรูปร่างดังนี้

รูปทรางสามเหลี่ยม หมายถึงการปฏิบัติการร่วมกันระหว่าง พลเรือน ตำรวจ และทหาร
- ฐานอนุสรณ์สถานกว้าง 11 เมตร หมายถึง พ.ศ.2511 อันเป็นปีเริ่มการปฏิบัติการรุนแรงของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในพื้นที่นี้
- ความสูงจากแท่นบูชาถึงยอดอนุสรณ์สถาน 24 เมตร หมายถึงพ.ศ. 2524 อันเป็นปีที่เปิดยุทธการครั้งใหญ่
- ความสูงจากฐานถึงยอดอนุสรณ์สถาน 25 เมตร หมายถึงปี 2525 อันเป็นปีสิ้นสุดการต่อสู้ด้วยอาวุธ
-ความกว้างฐานสามเหลี่ยมด้านละ 2.6 เมตร หมายถึงปี 2526 อันเป็นปีเริ่มการก่อสร้างอนุสรณ์สถานผู้เสียสละแห่งนี้

ตามลุงแบกเป้ไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ..ภาพสวยมากเลยค่ะ ^^

เราเดินอ้อมไปด้านข้างเพื่อขึ้นไปด้านหน้าอนุสรณ์สถานครับ
และนี่คือบริเวณด้านใน มีป้ายชื่อผู้เสียสละ ตู้รับบริจาค และกระถางะูป
บรรยากาศค่อนข้างวังเวง

อิจฉาลุง... ได้เห็นหมอกแบบจัดเต็มที่เขาค้อ มากกว่าผมซะอีก
... ผาซ้อนแก้ว + เขาค้อสวยเสมอ....เมื่อเธอไปกับฉัน...

ปล.. แม่ ไท จีน อย่าเพิ่งท้อ... เดี๋ยวได้ไปแน่

ปลาผัดคื่นช่าย....ยินดีครับ ขอบคุณครับ

.........................
ป้ายชื่อเหล่านี้มีทั้งทหาร พลเรือน พระ เด็กหญิง เด็กชาย  แพทย์ สารพัด
อ่านแล้วเศร้าใจจังครับ
ขอให้ดวงวิญญาณทุกดวงจงสู่สุขคติ...

ออกมาข้างนอกดีกว่า

ชานมชงเอง.....โชคดีจริงๆครับสวยคุ้มที่ดั้นด้นหนีน้องน้ำมาหาน้องหมอกครับ

................................

บรรยากาศด้านนอกรายล้อมด้วยต้นสนสูงตระหง่าน

ในอดีตร่มเงาเหล่านี้คงช่วยให้ทหารกล้าผ่อนคลายลงได้บ้างยามเสร็จสิ้นภารกิจ

จิตใจทหารหาญเหล่านั้นต้องกล้าแกร่งแม้จะอยู่ในที่ซึ่งห่างไกลและอันตรายยิ่ง

ดอกหญ้าน้อยคงช่วยปลอบขวัญให้มีกำลังใจที่จะยืนหยัดปกป้องอธิปไตย

แม้ในใจจะยังห่วงหาใจอีกดวงที่อยู่ไกลเหลือเกิน

อีกมุมที่ยังงดงาม

จุดชมวิวครับ

ผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่จะต้องดำรงไว้

ฐานปฏิบัติการที่จำลองไว้ให้ชมกันครับ

เราเดินลงบันไดมาที่ด้านล่างเพื่อเตรียมขึ้นรถกลับ

เหลือบเห็นต้นอะไรไม่รู้มีลูกโตเชียวครับ
อยากรู้ว่าถ้ามันเกิดกลางกรุงมันจะมีโอกาสโตให้ใครๆชื่นชมแบบนี้ไหม

แวะอ่านป้ายอีกสักนิดครับ

ร้านค้าขายของฝากของที่ระลึกของกิน วันนี้เงียบเหงา

ฟักแม้วลูกเขียวๆเพิ่งเก็บมาโลละสิบบาทครับ

มารอชมทะเลหมอกกับลุงด้วยคนครับ ...

ข้าวลืมผัว  ที่มาของชื่อคือ เพราะความอร่อยคุณภรรยาเลยแอบทานแบบไม่ลืมหูลืมตาจนไม่เหลือข้าวไว้ให้สามีแม้แต่คำเดียว

ขอเกาะจอไปด้วยนะจ๊ะลุง

ผู้ก่อการร้ายทางความคิด....ยินดีครับ

.................................
เสื้อที่ระลึกก็มีครับ

น้องวี (น้องวี : we-wee)......เกาะดีๆระวังตกน้ำป่อมแป๋มนะครับ

...............

เพื่อนซี้ ต่างพันธุ์ รอผู้มาเยือน

แวะเข้ามาชมครับ ข้าวหลายหลากพันธุ์ น่าลองชิมนะครับเนี่ย

โดยเฉพาะ ข้าวลืมผัว

กลับกันครับ ทางลง อย่าย้อนศรนะครับ

เจ้าชายแวมไพร์.....เป็นชื่อที่เรียกรอยยิ้มจากคุณผู้หญิงได้หลายๆคนกรี๊ดกร๊าดเลยล่ะครับ

.................................

ขับไปจนถึงทางแยก แล้วไปทางซ้ายครับ

ขับไปเรื่อยๆเย็นนี้เราจะแวะทานอาหารที่พรสวรรค์รีสอร์ทครับ
เหตุผลเพราะสืบค้นมาก่อนหน้านี้ว่าที่นี่อาหารรสชาติดี

สมาชิก ท้องเริ่มร้องจ๊อกๆ

ลุงปิดรีสอร์ทเหมาอีกแล้วงานนี้
พรสวรรค์กับเขาค้อทะเลหมอกอยู่ติดกันนะครับมีรั้วแผงไม้ไผ่กั้น
มองไปยังเห็นห้องพักสีเหลืองๆของลุงเลยครับ

มีคุณลุงกระวีกระวาดออกมาต้อนรับ เราบอกว่าแวะมาทานอาหาร ได้ข่าวว่าที่นี่อร่อย
คุณลุงบอกว่าอร่อยหรือไม่ต้องลองเองครับ  ช่วงรออาหารเราขอไปเดินเล่นรอบๆแป๊บนึง

บ้านพักที่นี่มีหลากหลายครับแบบสีสันนี้คงถูกใจนักท่องเที่ยวหลายๆท่าน

คุณลุงเชื้อเชิญเราให้พักที่นี่เราบอกว่าไว้โอกาสหน้าละกันครับ

น้องหมาจะเหงามั้ยนะ

บรรยากาศยามพลบค่ำ

ตามมาเที่ยวเขาค้อด้วยคนนะคะ ...วัดพระธาตุผาแก้วสวยมากเลยค่ะ
บ้านพักสีลูกวาดก็น่ารักสุดๆ เห็นแล้วอยากพัก

อีกมุม

Sergeant Keroro .....หาโอกาสไปเที่ยวนะครับ
.................................

อยากทานอะไรที่ไม่ค่อยได้ทานเอาแปลกๆ ผบ.ทบ ลุงสั่งลุย

เลยได้ ทอดมันดอกกล้วยป่า ผัดยอดฟักแม้ว ต้มยำปลาคัง ต้มจืดสาหร่าย
อันหลุังของลุงครับไว้เสริมสมองส่วนซ้าย และอื่นๆอีกมากมายทะยอยลำเลียงมารอไม่ไหวลุงขอจัดการก่อนละกันครับ

แสงไฟยามค่ำคืนจากที่พักเขาค้อทะเลหมอก

ตรงนี้อีกไม่นานคงไม่เงียบเหงาแบบนี้
อากาศเย็นลงแล้วครับ กลับที่พักนอนหลับฝันดีกันดีกว่า

แอบติดน้องหนูที่มารอบริการเราด้วยรูปออกหลอนๆนิดนึง

คืนนี้เรานอนหลับสบายกันมากๆครับ

กว่าจะตื่นก็เกือบหกโมงเช้า ลุงเห็น ผบ.ทบ ไปด้อมๆเมียงๆมองๆที่หน้าต่าง
ลุงถามว่าทำไร เธอตอบว่ามาแอบดูทะเลหมอก
ลุงถามว่าแล้วมีไหมล่ะ เธอตอบว่ามีมั้ง แล้วกระโจนออกจากห้องไปทันที

ลุงรีบเผ่นตาม ภาพที่ลุงเห็นเบื้องหน้าคือภาพนี้ครับ

บรรยากาศของธรรมชาติรวมๆดูไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง
คงมีแต่บรรดาสิ่งก่อสร้างต่างๆที่เพิ่มมาให้ดูแปลกใหม่

ขอบคุณครับสำหรับรีวิวสวยๆ สนุกๆ...................

ทะเลหมอกแบบจัดเต็ม

low batt....ใช่แล้วครับ
แต่ธรรมชาติสวยๆแบบนี้จะอยู่ได้นานสักเพียงใดสภาวะโลกแปรเปลี่ยนทุกวัน

.......................

สดชื่น

วิวสวยๆแบบนี้กระมังครับที่ทำให้เราหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

ขอบคุณสำหรับข้อมูล และ รูปสวยๆ ค่ะ
หลังน้ำลด จะรีบพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวจ้า

ลุงบอกแล้วไงครับพักหลังไหนห้องไหนในที่สุดเราก็ต้องออกมาไล่ล่าคว้าหมอกกัน

Simple is Bes....ครับหลายๆคนรอฟ้าหลังฝนลุงก็เช่นกันครับ

อยากเก็บหมอกกลับบ้าน

นี่ล่ะหนาที่เรียกว่านอนเขาค้อหนึ่งคืนอายุยืนอีกหนึ่งปี

อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้

สายตาเฝ้ามองดูน้องหมอกอย่างไม่รู้เบื่อ

อีกมุม

บ้านพักหลังนี้รับหมอกเต็มๆ

แอบอาศัยมุมดูน้องหมอก

มีมุมนี้ด้วยมาทดสอบกันครับ

ค่อยๆลงนะครับชันมากมาย

รางวัลที่ได้จากการทดสอบ

นี่ด้วยครับ

ใช้พลังงานไปเยอะเริ่มหิวแล้วเดี๋ยวเดินกลับไปที่ห้องรับประทานอาหารครับ

บ้านกังหันสีสดใส พักได้สองคนครับ

ดอกลำโพงสีขาวเรียงรายต้อนรับ

แวะทักทายเจ้าดอกสร้อยไข่มุกสีม่วง

แม้แต่เจ้าดอกจ้อยดอกจิ๋วต่างแย้มยิ้มรับอรุณและสายหมอก
แล้วแบบนี้ลุงจะยิ้มไม่ออกได้อย่างไรครับ

ระเบียงห้องอาหารที่ขั้นสองครับ

เบรคฟาสต์ไปดูสายหมอกไปความสุขแบบนี้อยู่ไม่ไกลครับ

อิ่มแบบง่ายๆเติมได้ไม่อั้นครับ
กาแฟ ไมโล ขนมปัง ข้าวต้ม
เซ็ตแรกของลุง

อิ่มแล้วเดินกลับห้องพักครับ มองไปทางไหนก็สดชื่นจังแบบนี้ค่อยมีพลังกลับมาสู้กะน้องน้ำที่ กทม ต่อ

ระเบียงทางเดิน ยามเช้าอันเงียบสงบ

รูปสวยมากครับ ลุง

ไม่น่าเชื่ออยู่ในอารมณ์ผู้อพยพ

ขอบคุณ สองขาที่นำพาลุงมาเจอที่แห่งนี้
ขอบคุณโลกสวยๆที่สร้างอะไรไว้มากมายให้มนุษย์ได้รื่นรมย์
ขอบคุณมากจริงๆกับทุกสิ้งทุกอย่างในทริปนี้ครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาทักทาย กิฟ เม็นท์ เป็นกำลังใจให้กันขอบคุณจริงๆครับ


ลุงขอปิดกระทู้ไว้ด้วยรูปภาพนี้นะครับดอกกระดาษที่ได้มาจากเขาค้อ
......ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาไม่เป็น
เฉกเช่นจิตวิญญาณของทหารกล้าและผู้เสียสละทุกคนที่พลีชีพปกป้องรักษาผืนแผ่นดินอันเป็นที่รักนี้ไว้
ให้เราได้มีที่ยืน
ตราบเท่าทุกวันนี้

Hero11147.....อ้าวไหงงั้นครับลุงเก่ง ลุงพยายามปลงครับอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ขอบคุณครับ

## ตามเที่ยวด้วยคนครับคุณลุง .. หลังจากเป็นเขตเฝ้าระแวงมานาน..น้ำกำลังมาแล้วครับ .. ระหว่างนี้ขอบคุณภาพสวยๆ ที่นำมาให้ชมครับ ##

MRBIG173....สู้ๆครับเด๋วมันก็ผ่านไปนะครับส่วนลุงเป็นผู้อพยพนานแล้วครับ

Good morning !!!
มาเก็บน้องหมอกใส่สมองและเสพเข้าไปในร่างกาย
ให้มีแรงดำนา เก็บเงินไปหาเธอ เขาค้อ ภูทับเบิก
ฝากไว้ก่อนเถอะ แงงงงงงง เมื่อไรจะได้ไป
ขอบคุณค่ะลุงเป้
ช่วยคลายเครียด กับใครๆๆหลายคนในเวลาแบบนี้

แม่จีน-ไท....เช่นกันครับ หลังน้ำลดลุงก็คงกลับบ้านนอกไปหักร้างถางพงป่าชะอมกันต่อไปครับ
สู้ๆนะครร้าาาาบ  รอรีวิวสวยๆขอรูปนายแบบเยอะๆนะครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆครับ

คิดถึงเขาค้อ คิดถึงภูทับเบิก
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

ยินดีมากๆครับ  langtang สถานะการณ์แบบนี้เผื่อจะช่วยให้คลายเครียดได้ครับ

ยินดีครับ ไม่ใช่ไม่เจ็บแต่เก็บไว้ในใจ ย้อนคิดถึงทะเลหมอกขาวๆก็สุขใจครับ

ไม่ได้ไปเขาค้อหลายปีแล้ว คิดถึงจังเลยค่ะ

สวยจังเลยครับ

อยากไปเจอบรรยากาศแบบนี้บ้างครับ

ขอบคุณครับ

ตามรำลึกความหลังถึงเขาค้อด้วยกันนะครับ บัวนลิน

ต้องหาเวลาไปเลยนะครับ หน้าหนาวคงสวยมากๆครับ declare01

ขอบคุณมากๆครับผม

วัดผาซ่อนแก้วสวยงามมากครับ บรรยากาศที่พักก็ดี

ได้เจอทะเลหมอกด้วยนะครับ ตอนผมไปไม่ได้เห็นเลย เสียดายมากครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

ยินดีมากๆครับ digimontamer

สวยมากๆเลยล่ะครับ  Koon Shy_Tour Dee หมอกหนามากๆ

รูปสวยมากครับ  ขอบคุณที่พาไปชมหมอกสวยๆครับ

ภาพสวยจริง ๆ เห็นแล้วอยากไปอีก

เล็กทาโร...ขอบคุณครับนับเป็นโชคดีที่ลุงไปเจอหมอก
วังน้ำวน..ขอบคุณครับ ลุงก็นึกอยากไปอีกคิดถึงน้องหมอก

มาอิจฉาลุงแบกเป้ค่ะ

ป้าปุ๊เคยมาตอนสาว ๆ ค่ะ เห็นแล้วอยากไปอีกจัง

ป้าปุ๊ (thai orchid)...ลุงก็อยากไปอีกครับแต่ต้องไปตอนมีหมอกแบบนี้นะครับ

หนีน้ำมาเที่ยวเชียงใหม่ก็ได้นะครัล ลุงแบกเป้

ส่วนหนึ่งของประเทศไทย....ลุงยังต้องทำงานตามปกติครับ

ว้าววววววววววววว ทะเลหมอก  สวยจังเลยค่ะ  ขอบคุณนะคะ  ดูแล้วสบายตา 

ยังอยากไปอีกเลยครับ รอบนี้ยังไม่สะใจเท่าไหร่ครับ  DOGHALL

หนูเพิ่งเข้ามาชมรีวิวนี้ของลุงค่ะ  

หมอกหนาๆๆๆ อยากเจอแบบนี้บ้างจังงง  ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^

ตอนไปไม่เจอหมอกแบบลุงคะ แต่ได้เห็นจากรูปของลุงแล้ว สวยมากคะ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆ นะคะ

มาช้ายังดีกว่าไม่มานะครับ สาวหน้าใส

ลุงยังไม่ซะใจเลยครับ สามแซ่ คงต้องมีแก้มือแน่ๆครับ

ยินดีมากครับ ปลาดาวกาศ

แค่รูปเปิดก็รู้สึกหนาวแล้วครับ