++ THE JOURNEY Japan Trip เที่ยวย่าน Asakusa ++

ติดตามกระทู้ก่อนหน้านี้ได้ที่นี่นะคะ

ตอนที่ 1 YOKOSO JAPAN http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11259609/E11259609.html

ตอนที่ 2 ซูชิ เนื้อย่าง ปะทะแสงสี http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11266558/E11266558.html

ตามโปรแกรมจากเมืองไทย วันนี้เราต้องไปนิกโก้กันค่ะ เสาะแสดงหาข้อมูลจากพี่ตู่มาเต็มกระเป๋า แต่เอาเข้าจริงๆวันนี้ฝนตกพรำๆแต่เช้า ป้าอ๊อดก็มาัดักคอเราัทั้งสองคนด้วยคำพูดที่ว่า "ถ้าจะออกไปเที่ยวที่ไหน เดี๋ยวป้าจะออกไปส่งขึ้นรถไฟนะ" ทำให้เราทั้งสองคนไม่กล้าขัดใจขึ้นมาทันที่ทันใด เมื่อรู้ตัวแล้วว่า คงต้องออกบ้านประมาณ 11 โมงเช้า จึงขออนุญาตป้าอ๊อดลงไปถ่ายรูปเล่นที่วัดข้างบ้านก่อนค่ะ ใส่เสื้อกันฝนบางๆแล้วตามมาเลยนะคะ

ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่าวัดแห่งนี้มีชื่อว่าวัดอะไร ตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อวานที่เดินผ่านแล้ว่าจะต้องหาโอกาสแวะมาวัดแห่งนี้ให้ได้ เดินมาถึงหน้าวัดแล้วค่ะ ตั้งหน้าตั้งตาเดินเข้าไปด้านในกันเลย

ลม + ฝนปรอยๆ หล่นลงมาปะทะหน้าให้ได้รับรู้อากาศหนาวของที่นี่กันเป็นระยะๆ

แวะถ่ายรูปเป็นระยะๆ

นั่งยองๆถ่ายรูปด้านล่าง 555++ คนญี่ปุ่นขับจักรยานผ่านไปมองด้วยความงงเล็กน้อย ฝนปรอย ลมแรง มานั่งทำอะไรนะ อิอิ  มาถ่ายรูปคร๊า มาถ่ายรูป ถ้าไม่มาวันนี้เกรงว่าอันอื่นคงไม่ได้มาแน่ๆค่ะ

ตั้งใจจะมาดูใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ แต่เริ่มต้นวันแรกของเราสองคนอากาศก็ไม่เป็นใจซะแล้ว แต่ไม่เป็นไรยังไงก็สู้ค่ะ

ผ่านจากจุดนี้ไปเดี๋ยวเราก็จะเดินเข้าไปในตัววัดแล้วค่ะ ได้ยินเสียงเด็กเจื้อยแจ้วอยู่ด้านใน เดี๋ยวตามไปดูกันค่ะว่าทำไมได้ยินเสียงเด็กชัดจัง

ด้านในวัดมีศาลเจ้าเล็กๆค่ะ ยกกล้องถ่ายรูปเสร็จก็เข้าไปกราบสักการะสักหน่อย

เข้าไปดูชัดๆ ว่ามีลักษณะอย่างไรบ้าง

ไหว้เสร็จแล้วก็เดินไปดูภายในวัดค่ะ เป็นวัดเล็กๆแต่ก็มีสิ่งโดดเด่นอยู่ไม่น้อย สวยดีค่ะ เป็นวัดแรกที่เราเข้ามากราบหลังจากที่เหยียบแผ่นดินญี่ปุ่น

ลมเย็นๆปะทะใบหน้า อูยยยย มันหนาวได้ใจเหมือนกันนะเนี่ย ก็ใส่แค่เสื้อยืดตัวเดียวลงมาแบบนี้ ก็หนาวเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

เดินมาดูใกล้ๆกันค่ะ

วัดของที่นี่ส่วนใหญ่จะสร้างด้วยไม้ค่ะ สวยดี แตกต่างจากบ้านเรา ซึ่งสร้างด้วยปูน

เสยมุมบนเล็กน้อย

ระหว่างที่เดินไปก็เก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆค่ะ ช่วงเวลาดีๆแบบนี้หาได้ไม่บ่อยนัก ขอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ค่ะ แม้ว่าจะมีฝนปรอยลงมาบ้างแต่ก็บ่ยั่น อิอิ

ด้านหลังของวัดเป็น รร. อนุบาลค่ะ เด็กๆส่งเสียงเจื้อยแจ้วมาเป็นระยะๆ เด็กๆที่นี่แก้มแดงกันทุกคนเลยค่ะ แอบไปยืนดูเล็กน้อยแล้วถอยฉากออกมาถ่ายรูปต่อ

เห็นลิบๆอยู่ด้านหลังคือเด็กๆค่ะ มาวิ่งเล่นอยู่ในลานวัด มีคุณแม่แต่งตัวเฟี้ยวๆมาคอยดูแลด้วย

จักรยานของแม่บ้านญี่ปุ่นจะมีัลักษณะอย่างที่เห็นค่ะ ด้านหน้าเป็นตะกร้า ด้านหลังที่เป็นที่นั่งของน้องๆ เคยเห็นคุณแม่บางคนมีอยู่นั่งอยู่ด้านหลังหนึ่งคน ด้านหน้าอกอีกหนึ่งคน แล้วมีเบาะนั่งแทนที่ตะกร้า แล้วมีเด็กนั่งอยู่อีกหนึ่งคน ปั่นจักรยานอีกต่างหาก โอ๊ยยย เก่งมากๆ

เดินเล่นอยู่ที่ประมาณ 30 นาทีแล้วค่ะ ได้เวลาเดินกลับบ้านแล้ว

อะรูปตามมาทีหลัง

ขากลับแวะถ่ายรูปอีกที

แวะเข้าบ้านอีกครั้ง หลังจากนั้นป้าอ๊อดพาเราสองคนมาที่สถานีรถไฟละแวกบ้านอีกครั้ง ครั้งนี้ป้าอ๊อดแนะนำวิธีเดินทางให้กับเรา โดยที่ไม่รู้ว่าก่อนมาเราัเองก็ได้หาข้อมูลมาอย่างละเอียดเช่นกัน อิอิ แต่ก็ปล่อยให้ป้าแกพูดไปเรื่อยๆค่ะ ไม่ขัดใจ

เดินจากบ้านมาประมาณ 200 เมตร เราก็มาถึงสถานีรถไฟแล้วค่ะ เป็นสถานีรถไฟสาย local ค่ะ เราจะนั่งสาย keikyu ไปสถานี shinagawa กัน

ระหว่างนั่งรอรถไฟก็ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกนิดหน่อย

เล่น pop ของ nex 5n หน่อย ดูซิสีสดเีชียว ชอบๆๆๆ

รถไฟมาแล้วค่ะ ขอตัวขึ้นรถไฟแป๊บนึง

รถไฟวิ่งมาซักพักป้าอ๊อดก็ลงที่สถานีคามาตะ ปล่อยให้เราสองคนออกผจญโลกกว้างอย่างที่่ใจเราต้องการ เรานั่งดูป้ายสถานีรถไฟไปทีละป้าย ในที่สุดก็มาถึงสถานชินางาว่าค่ะ เราเปลี่ยนสายเป็น yamanote โดยคุยกันว่าจะไปลงที่ ueno ก่อน

ระหว่างนั่งรถไฟก็เกิดอาการไม่แน่ใจในตัวเ่องขึ้นมาซะงั้น ตกลงจะเอาไงดี ตามแพลนเราต้องลงที่ kanda แล้วเปลี่ยนสายเป็น ginza line ไป asakusa  วันนี้เราจะนั่งไปลง ueno ก่อน เดินเล่นในสวนแล้ว ค่อยมาที่ asakusa โอยยย.... เริ่มสับสนค่ะ ไม่รู้จะเอายังไง เพราะความกลัวมันเริ่มเข้ามาแทนที่ความกล้าที่มาตั้งแต่แรกซะแล้ว

สุดท้ายรถไฟมาจอดที่สถานี ueno เราสองคนตัดสินใจเริ่มต้นกันที่ asakusa แต่ทำไมไม่ยอมลง kanda ตั้งแรกนะ บอกตัวเองว่าเอาความกลัวออกไปได้แล้ว เปิดโลกใหม่ๆยอมรับการหลงทางบ้างอะไรบ้าง ชีวิตจะไม่เครียด ...

ตกลงเรามาลงที่ ueno แล้วต่อสาย ginza line ไป asakusa ค่ะ เดินไกลนิดหนอ่ยแต่ก็โอเค

ออกจากสถานี JR ก็ไปตามป้ายค่ะ แล้วจะเจอทางลงไปใต้ดินแบบนี้

การเดินทางบนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยมักทำให้เราตื่นเต้นและไม่มั่นใจเสมอค่ะ วันนี้เป็นวันแรกที่เราสองคนออกมาผจญภัยด้วยตัวเองแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทำให้หัวใจตุ้มๆต่อมๆได้เยอะทีเดียว

ลงมาปุ๊บก็เจอตู้ขายบะหมี่แบบนี้่ค่ะ ไปยืนดูกันสองคน ก็งงๆว่า สั่งยังไงหว่าหิวแต่สั่งไม่เป็น อิอิ ก็เลยออกมายืนดูห่างๆว่าเขาทำกันยังไง

มาแล้วค่ะเหยื่อความรู้

เห็นพี่ยุ่นแกยืนทำอยู่ก็พอได้เค้าได้ลางมาบ้าง อิอิ   หยอดตังค์ลงไป กดเลือกเมนูที่เราจะกิน ถ้ามีเงินทอนจะมีปุ่มกดให้เครื่องทอนเงินออกมา ง่ายมั๊ยคะ แต่เราไม่ทำ ฮ่าๆ เพราะคุยกันว่าจะไปตามหาร้านเทมปุระที่เิปิดขายมากว่า 150 ปีที่อาซาคุสะค่ะ

ท้องเริ่มร้องกันแล้วค่ะ หิวข้าวกันแล้วสิเรา เลยเล่น pasmo กันเล็กน้อย แปะแล้วกดน้ำมากิน เนื่องจากคอเริ่มแห้งเพราะเดินมานาน

เดินลงมาถึงชานชลาของ ginza line มุ่งหน้าไปยัง asakusa อิอิ แค่สถานีเดียวเองค่ะ

ไม่นานนักรถไฟก็มาเทียบที่ชานชลา ขอตัวขึ้นรถก่อนนะคะ ก่อนจะตกรถไฟขบวนนี้ ไม่รู้ว่าเป็นขบวนสุดท้ายหรือป่าวน้อ ฮิ้ววววว ว วว ว

อยู่ในรถก็แอบงัดกล้องถ่ายเล็กน้อย ไมกี่อึดใจสถานีปลายทางก็คือ asakusa แล้วค่ะ เตรียมตัวออกไปผจญภัยกันต่อ

ออกจากรถไฟมาแล้วก็หาทางออก 1 กะ 3 เลยนะคะ จะโผล่ไปยังหน้าวัดพอดีค่ะ

โผล่ออกมาจากใต้ดินก็เดินตรงไปด้านหน้าเลยค่ะ

ว้าวว วว วว .... เจอรถลากด้วยค่ะ ค่านั่งรถก็ 3000เยน อิอิ กินได้หลายมื้อเชียว

ขอถ่ายรูปเป็นที่ระทึกหน่อยคร๊าาาาาาา

เรากางแพลนที่เตรียมมาจากเมืองไทย มองหาร้านเทมปุระที่มีอายุมานานกว่า 150 ปี มองซ้ายมองขวาก็มาเจอร้านนี้ แต่ไม่มีภาษาอังกฤษซักกะตัว แบบนี้จะรู้ได้ไงว่าเป็นร้านที่ตามหาจริงๆ

มองหน้ากันเลิกลั่ก แล้วพยักหน้าพร้อมกันว่า คงร้านนี้ละมั้้ง...

เดินเข้าไปในร้าน เอ่อม.... เจอแต่คุณป้าทั้งนั้นค่ะ อิอิ น่ารักมากๆ ผายมือเชื้อเชิญให้เราขึ้นไปบนชั้นค่ะ พูดภาษาญี่ปุ่นอะไรม่ายรู้ แต่...เดาเอาจากท่าทางว่าเชิญขึ้นชั้นสองนะคะ อิอิ

บรรยากาศภายในร้านดูสบายๆค่ะ ขอบอกว่าร้านนี้มีแต่รุ่นคุณแม่ทั้งนั้นนะคะ อิอิ คนกินร้านนี้เยอะมากๆ อาจจะเป็นร้านที่เราตามหาอยู่ก็ได้

สังเกตุได้ว่า ที่ญี่ปุ่นเขาไม่ได้เน้นพนักงานหน้าตาน่ารักจุ๋มจิ๋มอย่างบ้านเราเลยค่ะ แต่เขาเน้นกันที่ฝีมือและรสชาดของอาหารมากกว่า

คูณป้าหยิบเมนูภาษาญี่ปุ่นมาให้เราพร้อมเมนูภาษาอังกฤษ แต่ภายในเมนูภาษาอังกฤษก็ไม่มีรูปภาพให้เราดูเลยแม้แต่รูปเีดียว เลยต้องเดาหน้าตาอาหารจากเมนูล่ะค่ะ

หลังจากรับออเดอร์ไปแล้ว คุณป้าก็ยกชาเขียวร้อนมาให้เราดื่มแก้กระหายค่ะ

ตอนแรกเราสองคนเลือกโต๊ะเล็กๆติดผนัง เผื่อว่ามีลูกค้าคนอื่นที่มามากกว่า 2 คนจะได้นั่งโต๊ะอื่นอย่างสะดวก แต่คุณป้าผายมือเชิญให้เรานั่งโต๊ะ 4 คน ริมหน้าต่าง เรายิ้มให้คุณป้าพร้อมกับพูดว่า "อะริกะโตะโกะซัยมะสึ"

อาหารมาแล้วค่ะ ชุดนี้เป็นเทมปุระเซ็ท ขอบอกว่าไอ้แพๆที่เห็นในรูปนั้นคือกุ้งและปลาหมึกสดทอดกรอบนะคะ แป้งกรอบมากๆ อร่อยสุดๆ

เก็บหลักฐานกันหน่อยค่ะ

ชามที่สอง ข้าวหน้าเทมปุระ มีน้ำซอสราดลงที่ข้าวสวยเรียบร้อย อูยยยย ขอบอกว่าอร่อยค่ะ ซอสกำลังพอดีเลย ไม่แฉะข้าวจนเกินไป

กุ้งที่นี่สด และ ตัวโตม๊ากกกกกกกกกก โอยย อร่อยอะ

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง

กินอิ่มแล้วก็อำลาร้านเทมปุระแสนอร่อยค่ะ เมื่อเรากลับมาถึง กทม ก็เปิดดูหนังสือที่ค้นข้อมูลมา สรุปว่าร้านนี้คือร้านเทมปุระ 150 ปีจริงด้วย อิอิ

เดินจากหน้าร้านมาไม่กี่ก้าว ก็พบกับภาพประทับใจเบื้องหน้าค่ะ

วันนี้คนเยอะเหมือนกันแฮะ ปกติจะเป็นคนไม่เที่ยวสถานที่ที่มีคนเยอะๆ แออัด แต่วันนี้ต้องยอมแล้วค่ะ มาถึงญี่ปุ่นถ้าไม่มาไหว้วัดอาซาคุสะ ก็คงดูแปลกไม่น้อย

ตามระเบียบค่ะ ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกเล็กน้อย อิอิ

ถ่ายมุมนี้บ้าง คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่

ออกมาเดินเล่นอีกด้านของวัดค่ะ มาตามหาร้านราเมน ไม่รู้่ว่าเป็นร้านไหน เก็บภาพมาก่อนละกัน มีโอกาสค่อยมานังกินอิีกที

เมนูหน้า้ร้าน น่ากินเนาะ อิอิ

นี่ก็็ร้านราเมน ตกลงไม่รู้ร้านไหนกันแน่ที่เราตามมาจากหนังสือ 555++ มึนตี๊บ

เอาค่ะ ได้เวลาเข้าไปด้านในกันแล้ว ตามมาติดๆนะคะ

วัดแห่งนี้เป็นที่คุ้นเคยของคนไทยค่ะ ใครมาใครไปก็ต้องแวะวัดนี้ทุกราย จนร้านค้าบางร้านเขาทักเป็นภาษาไทยได้ด้วยนะคะ "สวัสดีค่ะ สวัสดีครับ"

ก่อนจะเข้าไปด้านในวัดก็ต้องผ่านปราการด่านสำคัญเลยค่ะ โอยยย คนชอบช๊อปคงเดินกันเพลินเลยค่ะ

แวะถ่ายกันเพลินเลยล่ะ

ของฝากน่ารักๆมีเยอะมากค่ะ น่าซื้อหามาฝากเพื่อนฝูง ส่วนราคาก็มีตั้งแต่ 300 เยน ขึ้นไปนะคะ

ของน่ารักมากค่ะ ถ้าก่อนมาถูกหวยนะจะกว้านซื้อให้หมดเลย คริ คริ

ร้านนี้ก็ขายของฝากค่ะ

ตามมาชมรีวิวญี่ปุ่นสวยๆต่อค่ะ ...เทมปุระน่าอร่อยมากกกก

แอบถ่ายเล็กน้อย อิอิ สีผมสุดยอดดดดดดดด เก๋มว๊ากกกกก

ร้านนี้ขายขนมเ่หมือนกันค่ะ เห็นเด็กๆยืนซื้อกันเยอะดีเลยแอบถ่ายมา

ขออนุญาตเก็บบรรยากาศมาให้ชมเรื่อยๆนะคะ

...

โปสการ์ดน่ารักดีค่ะ

...

ซื้อติดมือมา 1 ถุงค่ะ ไม่ทันไรก็เริ่มเสียเงินกันแล้ว

ได้ขนมก็อารมณ์ดีแบบนี้และคร๊าาาาา

ผ่านมาร้านนี้ก็โดนอีกแ้ล้วค่ะ 2 ตัวเลยเชียว

ของน่ารักๆเยอะมากค่ะ ใครที่ชอบช๊อปคิดว่าไม่น่าจะพลาดถนนเส้นนี้ รับรองเงินในกระเป๋าหายแน่นอนค่ะ

สอยมาแล้วค่ะ เดี๋ยวขออนุญาตเก็บไว้ในกระเป๋าก่อน

เดินเที่ยวกันต่อนะคะ

.......

ขนมเยอะ ของฝากก็เยอะ ของน่ารักก็เยอะ เฮ้ออออ...

......

...

...

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงมันจูร้านดังกันค่ะ

ขอแวะชิมแป๊บนึงนะคะ อิอิ

ซื้อมาสองรสค่ะ รสดั้งเดิมกับชาเขียว

แบ่งกันคนละอัน รสชาดอร่อยค่ะ ไม่หวานจนเกินไป แป้งขนมกรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน

แวะุถ่ายรูปเล็กน้อย ก่อนจะแว๊บไปร้านไอศครีมที่มีมากกว่า 30 รส

ข้างๆร้านไอศครีมมีร้านราเมนอยู่ น่ากินอะ เสียดายเพิ่งกินเทมปุระมา ไม่งั้นคงได้ลองกันล่ะ

น้ำแข็งใสน่ากินมาก

มาดูไอศครีมกันค่ะ มีหลากหลายรสเชียว เดี๋ยวแวะมากินกันค่ะ ตอนนี้เข้าไปด้านในวัดกันก่อน

เดินผ่านสวนเข้ามาด้านในกันค่ะ

ละเอียดจนเหมือนไปเที่ยวด้วยเลยครับ ดีจัง

เสียดายฟ้าไม่ใสเลยค่ะ ทริปนี้ได้แต่ฟ้ามัวๆหมองๆ สงสัยจะต้องมาซ่อมกันแล้วล่ะ

ยังกินขนมไม่หมด ฮ่าๆๆๆ

ได้เวลาเข้าไปแล้วจ้า

....

....

เดินมาถึงกระถางธูปต้องแวะกวักธูปกันหน่อยล่ะ

แล้วก็มาต่อกันที่บ่อน้ำค่ะ

มีเรื่องตลกคือว่า... ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าต้องทำยังไงบ้า่ง เราก็คอยมองคนญี่ปุ่นคนอื่นๆเค้าลงมือทำก่อน หลังจากนั้นก็ทำตาม ล้างมือซ้าย มือขวา ตักน้ำเข้าปาก ... คนอื่นบ้วนทิ้ง แต่เรากลืน กว่าจะรู้ตัวว่าเขาไม่กลืนน้ำกัน น้ำก็เข้าไปอยู่ในกระเพาะหลายอึกเลยค่ะ  วันนั้นเครียดมาก ไม่รู้ว่ากินน้ำลงไปจะเป็นอะไรหรือเปล่า 5555++

ชำระล้างร่างกายก่อนเข้าไปในวัด

เดี๋ยวเข้าไปด้านในเพื่อไหว้พระกันค่ะ

แทนที่เห็นเบื้องหน้ามีลักษณะคล้ายกล่องค่ะ ให้ผู้ที่มาทำบุญในวัดนี้โยนเหรียญลงไปพร้อมกับอธิฐานขอพร ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นเหรียญ 10 เยนนะคะ

ไหว้พระเสร็จก็ออกมาถ่ายรูปเล่นด้านนอก

...

...

.......

ไหว้พระทำบุญกันแล้วก็สมควรแก่เวลาที่จะอำลาที่นี่กันแล้วค่ะ

แล้วก็แวะไปตามนัด เรามีนัดกับร้านไอศครีมค่ะ

สั่งชาเขียว+นม มาลองชิมดูค่ะ

หอม หวาน มัน อร่อย อร๊ายยยยยย.... บอกไม่ถูกต้องไปลองเองนะคะ ^^

ออกมาด้านหน้าก็เจอคุณอาคนนี้แต่้งตัวแบบสมัยโบราณขายขนมค่ะ แกพูดอยู่นาน แต่...ไม่มีใครซื้อซักคน

จบทริปเที่ยววัดอาซาคุสะ หรือวัดเซนโชจิแล้วค่ะ ในตอนหน้าเราจะกลับไปสถานี JR uneo กันค่ะ อย่าลืมติดตามนะคะ

คืนนี้นอนหลับฝันดีค่ะ

#97 ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะผมก็เคยทำ ฮ่าๆๆ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

Yamanote Line สายหากินเลย สำหรับ สถานที่เด่นๆ ในโตเกียว
นั่งวนเป็นวงกลม ลงได้เกือบทุกสถานีบนสายนี้ ทุกที่ เด็ดจริงๆ ทั้ง Tokyo Shibuya Shinjuku Ikebukuro Ueno Akihabara

ชอบๆ อยากไปโตเกียวแล้วอ่า
หนีอาจารย์ไปดีก่า เอิ้กๆ

ดูรีวิวแล้วได้รำลึกความหลังเมื่อ...3 เดือนที่แล้วเอง ฮ่าๆๆ
อยากกลับไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกกกกกกกกกกกกกกกกก....

สาวน้อยในรูปน่ารักจัง ขอบคุณค่ะที่พาเที่ยว

ขอบคุณมากครับที่พาไปเที่ยวชมครับ

ของที่ระลึกเยอะมากเลือกไม่ถูกเลยครับอยากได้หลายอย่างเลย

แวะมาชมต่อและมาตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ไปเที่ยวคนคะ ขนมน่าหม่ำทุกอย่างเลย

รีวิวสนุกมาก...
จขกท.น่ารักอ่ะ

รีวิวสนุกมากค่ะ ที่กิน ที่เที่ยว ครบรสค่ะ ขอบคุณค่ัะ

อิจฉาจัง อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นมั่ง
-ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ-

รูปเยอะสะใจดีจริงๆ ...แถมมีนางแบบน่ารักอีกตังหาก ขอบคุณครับ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

อู๊ววว์ เทมปุระ 150 ปี  ถ้ามีโอกาส  ต้องแวะไปทานให้ได้เลยล่ะค่ะ คราวหน้า

รักนะโอซาก้า - แบบว่ากลัวว่าตัวเองจะเป็นอะไรไปหรือป่าวอะค่ะ อิอิ

Sergeant Keroro - เทมปุระอร่อยมากจริงๆค่ะ

Mickey-kun  - ออกเดินทางตามใจอยากเลยค๊าาาาา นี่ก็อยากกลับไปอีกรอบเหมือนกัน ขอเก็บตังค์ซักพักจ้า

จิงนะ - ญี่ปุ่นมีมนต์จริงค่ะ

เล็กทาโร่ - น้าเล็กขอบคุณค่ะ



jipwiganjipwigan  - ติดต่อตอนต่อไปด้วยนะคะ


whatta hell?  - สาวเหลือน้อยแล้วค่ะ ยินดีพาเที่ยวนะคะ

Destiny-Boy  - ของที่ระลึกเยอะมากค่ะ แต่ราคาค่อนข้างแพง

กัปตันลูกชุบ - ยินดีค่ะกัปตัน

ผึ้งตัวกลม  - นอกจากจะน่าหม่ำแล้วยังอร่อยด้วยค่ะ อิอิ อ้วนกลมเลย

moccavipkream  - ขอบคุณค่ะ

ฟองคำ - อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ

virgoo12  - ยินดีค่ะ

ก่วยก๊วยตาลสด - เทมปุระอร่อยมากๆค่ะ อย่าลืมหาจังหวะไปลองชิมนะคะ

ภายสวยมากกกก  ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^

สามแซ่   -  ยินดีค่ะ

ถ้าไม่แอ๊บจะดีมากๆเลยนะคะ