หลังจากรีวิว สองวันในโตเกียว กับอีกสามวันในเกียวโต แล้ว ก็จะมาขอต่อกันเลยนะค่ะ

ในกระทู้นี้ส่วนใหญ่จะเป็นการเที่ยวแบบสบายๆไม่รีบร้อนในโตเกียวค่ะ จะมีทั้ง ย่าน Omotesanso, Aoyama, harajuku, แล้วก็อาณาจักร Disney ทั้ง Disney land แล้วก็ disney sea ค่ะ

## http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11279499/E11279499.html >> Part 1 ค่ะ



เริ่มกันที่เมื่อกลับจากเกียวโต กลับไปเก็บของที่บ้านปุ๊บ ก็ออกมาหาอะไรทานกันตรงย่าน Akasaka ซึ่งก็อยู่ตรงข้ามอพาร์ทเมนต์นี่เองค่ะ
เมนูเย็นนี้ คือ ซูชิ คร่าาาาา
ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านดังในย่าน Akasaka ค่ะ ของเค้าสดจริงๆ อร่อยมาก ติดอยู่นิดนึงตรงที่ ลุงพ่อครัวยัดวาซาบิเยอะไปนี้ดส์ ทานไปน้ำตาจะไหล

วันรุ่งขึ้นตื่นมา อาอาศแจ่มใส พร้อมจะลุยแล้วววว
วันนี้วางแผนว่าจะไปเดินเล่นที่ย่าน Aoyama , Omotesando, แล้วก็ Harajuku ค่ะ สามย่านนี้อยู่ติัตสดกันเพราะฉะนั้น เดินถึงกันได้สบายมากค่ะ

ก่อนอื่นต้องทานข้าวก่อนนนนนน เมนูเที่ยงวันนี้ คือ
หมูทงคัตสึค่ะ ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ในย่าน Akasaka พ่อครัวแม่ครัวที่ร้าน หกสิบขึ้นค่ะ ดูรู้เลยว่าเก่าแก่จริงๆ

บรรยากาศร้านค่ะ ร้านนี้เหมือนจะเล็กแต่ความจริงมีเข้าไปข้างในอีกค่ะ ถือว่าใหญ่พอสมควร ส่วนมากลูกค้าจะเป็นคนทำงานค่ะ เห็นเค้าสั่งกันเยอะมากๆ คนญี่ปุ่นนี่ค่อนข้างทานจุพอสมควร ><

หลังจากรอไปได้สักพักก็มาแล้วค่ะ น่าทานมากๆ
แล้วก็อร่อยมากๆด้วยค่ะ ซุปมิโสะ ของที่นี่ หอมอร่อยมากๆ

มาตามไปเที่ยวด้วยนะค่ะ อยากไปญี่ปุ่นเหมือนกัน
อยากเรียนจบมีงานทำไวๆ จะได้ไปเหมือนพี่ๆบ้าง  >___<

#ชิคคาราเมล# ไปค่าาไปกันนน ญี่ปุ่นน่าไปมากๆถือว่าเจริญมากๆทั้งคนทั้งเมือง เค้าก็ยังเรียนไม่จบค่ะ ปีสี่แล้ววว เหลืออีกหนึ่งเทอม อิอิ

ย่าน Akasaka ค่ะ ถือเป็นย่าน office มีร้านอาหารเปิดเยอะมกๆ ทั้งอาหาร fastfood อาหารญี่ัปุ่นดั้งเดิม นอกจากนี้ตอนกลางคืนก็จะผับมีบาร์เปิดค่ะ คึกคักมากๆเลย ย่านนี้ ต่างชาติค่อนข้างเยอะคะ บาร์ส่วนใหญ่เลยจะเป็นบาร์สไตล์ตะวันตก

/พี่saiyj/ มิ้นอยู่ปีสองเองค่า ไม่มีปัญญาเก็บเงินได้เยอะขนาดนั้น เห็นว่าค่าครองชีพสูงด้วย ทริปนี้ทั้งหมดงบเท่าไหร่ค่ะ จะศึกษาเป็นแนวทาง อยากลองไปใช้ห้องน้ำที่ญี่ปุ่น

ที่ญี่ปุ่นตามร้านอาหารหรือร้านกาแฟนิยมนำรถตู้ Volk มาประดับตกแต่งร้านค่ะ แต่ร้านนี้เก๋ รถสองชั้น ไม่มีใครเหมือน

#ชิคคาราเมล# คือพี่พกเงินไป หนึ่งแสนสองหมื่นกว่าเยนค่ะ แต่ว่าพี่พักกับอี๊ซึ่งอยู่ที่โน่น เลยอยู่ฟรี กินฟรี อ่ะค่ะ เงินที่พกไปก็เอาไว้ใช้เป็นค่ารถไปเที่ยว ค่าช้อปปิ้ง แล้วก็ค่าซื้อตั๋วสวนสนุกอ่าาา กลับมาก็ไม่เหลือซักเยน ญี่ปุ่นค่าครองชีพสูงจริงๆค่ะ ทุกอย่างแพงไปหมด พี่เป็นกำลังใจให้นะค่ะ สู้สู้ น้องมิ้นได้ไปอยู่แล้วค่ะ ^^

นั่งรถไฟใต้ดินจาก สถานี Akasaka Mitsuke Gnza line ไปลงป้าย Omote Sando ประมาณห้านาทีก็ถึงแล้วค่ะ เร็วมากๆ

เมือไปถึงก็จะโผล่มาเจอเส้น Aoyama ค่ะ เดินไปเรื่อยๆก็มาเจอตึกอันโด่งดัง ตึก Prada ซึ่งออกแบบโดย Herzog & de Meuron ค่ะ ถือเป็น Landmark ของย่านนี้เลย

จะเห็นได้ว่าตึกนี้จะเป็นกระจกใสลงไปถึงชั้นใต้ดินเลยค่ะ เก๋มากๆ

มาถึงอีกตึกที่เก๋ไม่แพ้กันค่ะ ตึก Chloe'

ย่านนี้ถือว่าเป็นย่านคนมีสตางค์ของญี่ปุ่นเค้าค่ะ จะเห็นรถสวยๆ คนชิคๆ ผ่านไปผ่านมาเยอะมาก เป็นอาหารตาของเรา อิอิ

บรรยากาศจะสไตล์ตะวันตกนิดๆค่ะ

อันนี้เป็นย่าน Omotesando ค่ะ จะมีห้าง Omotesando Hills ตั้งอยู่ด้วย แถวนี้จะมีร้านแบรนด์ดังมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Chanel, LV, Burberry, Dior และก็อีกมายมายค่ะ สำหรับเราก็ไม่ได้คิดจะมาซื้อของแบรนด์อยู่แล้ว ก็ถือว่ามาเดินดูตึกสวยๆงาม เป็นสถาปัตยกรรมเท่ๆที่หาดูได้ยากค่ะ

Shop LV ค่ะ

Shop Burberry

Shop Armani ค่ะ

Shop เรียบหรู สไตล์ Dior

Shop Chanel ค่ะ ดำดูดี

เดินตรงออกมาจาก Omote sando ก็จะเจอกับห้าง Laforet ตรงอีกฝั่งถนนเป็นสัญญาณอันดีว่า เราได้มาเหยียบ ฮาราจูกุ แล้ววว ย่านนี้วัยรุ่นเยอะมากๆค่ะ แล้วก็จะแต่งตัวกันแนวมากๆ ถือว่าเป็นจุดรวมพลของวัยรุ่นแนวๆเลยก็ว่าได้ มองไปทางไหนก็แนว

เดินมาเรื่อยๆตามถนนก็จะเจอเป้าหมายของการมาฮาราจูกุวันนี้ค่ะ นั่นก็คือ Hanjiro ร้านนี้ถือว่าเป็นร้ายขายของมือสองคุณภาพดีมากๆ ค่ะ มีให้เลือกซื้อทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ผ้าพันคอ รวมไปถึงเครื่องประดับตกแต่ง มีให้เลือกตั้งแต่ชั้นสองถึงชั้นสี่เลยทีเดียว ของที่นี่จะแนวมากๆ แล้วก็อยู่ในสภาพดี สะอาด แบ่งเป็นหมวดหมู่ให้เลือกได้ง่าย ถือว่าเป็นร้านที่แนะนำเลยค่ะ ถ้าเลือกดีๆแล้วล่ะก็ รับรองได้ของดูดี ถูกใจแน่นอน ค่ะ ส่วนเรื่องราคา จากการที่เราเลือกดู ก็จะหนึ่งพันเยนอัพถึงห้าพันเยนค่ะ ที่แพงกว่านี้หรือถูกกว่านี้ก็อาจจะมี ต้องเลือกหาเอาค่ะ

ร้านตกแต่งได้เก๋มากๆ ทั้งห้องลอง และการจัดร้าน แนะนำให้ไปลองเดินกันค่ะ

ร้านจะเปิดเพลงฝรั่งชิลล์ๆ แล้วก็จะมี พนักงานให้ความช่วยเหลืออย่างดีค่ะ แต่ในเมื่อเราพูดภาษาเค้าไม่ได้ ก็ต้องพยายามช่วยตัวเอง ><

ถุงเก๋ๆ จาก Hanjiro

เกาะจอรอชมครับ อยากไปญี่ปุ่นกะเค้ามั่งจัง

ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ

ยังไม่มีโอกาสได้ไป ก็ขอเกาะรีวิวนี้ไปเที่ยวด้วยคนนะ

หลังจากเมื่อวานไปเดินย่านหรูมาแล้ว วันนี้จะพาไปเดินตลาด Ameyoko ซึ่งเป็นตลาดที่อยู่แถวสวน Ueno ค่ะ

ตลาด Ameyoko นี้เป็นตลาดขายของสด ของทะเล และจะมีร้านขายรองเท้าเยอะมากๆ
เดินกันเพลินๆ ค่ะ ดูกุ้งใหญ่ ปูใหญ่

คึกคักเอามากๆ

#virgoo12 มาเที่ยวด้วยกันนะค่ะ
#ลุงแบกเป้ ขอบคุณที่ตามมาชมนะค่ะ

ผลไม้ไม้ แปลกดีค่ะ ไม่เคยเห็น ตื่นเต้น อิอิ

เริ่มหิว หาข้าวทานดีกว่า
เดินไปบังเอิญเจอร้านอาหารไทยค่ะ ก็เลยขอเขาไปอุดหนุนอาหารบ้านเราซักหน่อย

ทางขึ้นร้านเก๋ๆ

ตามไปเที่ยวด้วยครับ

บรรยากาศภายในร้านค่ะ
ตกแต่งๆแบบง่ายๆ เปิดเพลงลุงแอ๊ดคาราบาว บรรยากาศบ้านเรามากๆ

อาหารที่นี่เป็นแบบบุฟเฟต์ค่ะ หรือจะสั่งแบบตามสั่งก็ได้ แต่เรากับอี๊และยายเลือกทานแบบบุฟเฟ่ต์ ค่ะ มีกับข้าวสี่อย่าง แล้วก็ขนมหวานเป็นสาคูเปียกค่ะ
รสชาตแซ่บถึงใจมากๆค่ะ
ร้านนี้ราคาไม่แพงค่ะ คนละ 900 เยน ต่อหัวค่ะ

ฮู้วๆๆๆๆซูชิน่ากินมากๆๆ ไปเที่ยวด้วยคนครับบบ

อิ่มแล้วก็ลุยต่อค่ะ เป้าหมายต่อไปคือสวน Ueno ค่ะ

แพนด้าถือเป็นดาราของที่นี่ค่ะ มองไปทางไหนก็เจอแพนด้า

ภายในสวน Ueno นั้นมีหลายที่ให้ไปมากๆค่ะ มีพิพิธภัณฑ์ต่างๆเยอะแยะมากมาย แต่เราอยากเดินสูดอากาศข้าง
นอกชิลล์มากกว่า ก็เลยไม่ได้แวะเข้ไปในพิพิธภัณฑ์ ถือว่าวันนี้เดินชิลล์ๆค่ะ ได้แค่ไหนแค่นั้น ไม่เครียด

ถ้ามาหน้าซากุระ ตรงเขียวๆที่เห็นก็จะเป็นสีชมพู ที่พื้นก็จะมีดอกไม้ร่วงหล่นลงมา คงสวยงามกว่านี้เยอะค่ะ แต่เราต้องอย่าโลภ ฮ่าๆๆ เท่านี้เราก็ดีใจแล้ว

เอิ้กกกก อิจฉา อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นมั่งจัง
ดูจากรูปแล้ว ซูชิเอย อะไรเอย อยากกินอาหารทะเลได้ขึ้นมาเลยทีเดียว
ฮึ่ยยยยยย

#VeRy HaPpY sOmMa # ^o^

ตามทางก็จะมี นักดนตรี มาเล่นดนตรีให้ฟังด้วยค่ะ เพลินมากๆ

แห้งสนิท

เด็กๆมาทัศนศึกษา น่ารักอ่ะ

Next stop>> Jiyugaoka ค่ะ ถือว่าเป็นย่านเก๋อีกย่านนึง

ทางเดินไปสู่ Jiyugaoka Green Street ค่ะ ตลอดทางจะมีต้นไม้ แล้วก็จะมีร้านขายขนมหวานเก๋ๆ รวมไปถึงร้านขายของแบรนด์ต่างๆเช่น Muji, Uniqlo เป็นต้นค่ะ

เดินเข้ามาปุ๊บก็จะเจอร้านกาแฟเจ้าดังที่หนังสือนำเที่ยวแนะนำค่ะ ขอบอกว่าเราเลือกมาถนนนี้ก็เพราะ ร้านกาแฟรถตู้เนี่ยแหละค่ะ และมันก็น่ารักโรแมนติกสมที่เค้าเล่ามาจริงๆ กาแฟก็อร่อยด้วยค่ะแถมยังราคาไม่แพงอีก เดินไปจิบกาแฟไป ชิลล์มากๆ

มีต้นไม้ตรงกลาง กับม้านังให้นั่งตลอดทางค่ะ

มุมสวยค่ะ

เดินไปเริ่มอยากทานขนมค่ะ เลยเลือกไปทาน ร้าน Sweet forests ค่ะ
ร้านนี้เปรียบเป็นป่าที่รวบรวมร้านขนมหวานหลายสไตล์ค่ะ

ตามมาตะลุยโตเกียวแบบเต็มๆต่อคร้าบบ

ภายในร้านค่ะ

น่ารักมากๆ

เมนูแรก ไอติมผัดของคุณยายค่ะ

หลังจากเลือกอยู่นาน เราก็ตัดสินใจที่จะทาน Sweet Forest Crepe ค่ะ
ราคาอยู่ที่ 800 เยนค่ะ

อีกมุมสวยๆ

ต่อไปจะเป็นการตะลุยเดียวของเราค่ะ เนื่องจากอี๊และยายขอกลับก่อน
แต่เราสู้อยู่แล้ว จะไปตามหาร้านของแต่งบ้านเก๋ๆ ในย่าน Jiyugaoka ค่ะ

ที่แรกที่แวะก็คือ Trainchi ค่ะ เป็นย่านที่รวบรวมร้านขายของไอเดียเก๋ๆไว้เพียบ ตั้งแต่ของแต่งบ้าน เครื่องเขียน เครื่องใช้ในบ้าน กระเป๋า รวมไปถึงเครื่องประดับน่ารักๆ

ส่วนราคาก็ค่อนข้างสูงค่ะ แต่เปรียบเทียบกับไอเดียและคุณภาพก็ถือว่าคุ้มค่ะ

เก๋มากๆ

ร้านขายของไอเดียเก๋ๆค่ะ

ของแต่งบ้านค่ะ

เครื่องเขียนร้านนี้น่ารักมากๆค่ะ

เดินต่อไปตามแผนที่ในหนังสือ เพื่อที่จะหาร้านขายของแต่งบ้านชื่อดัง
แล้วก็เจอค่ะ
ร้าน Raconte moi เป็นร้านขายของแต่งบ้านแนววินเทจค่ะ
เก๋มากๆๆๆๆๆ เสียดายว่ามาตอนเย็นแล้ว ถ่ายรูปไม่ค่อยสวย

ของร้านนี้เก่ทุกชิ้น แต่งร้านสวยมากๆ

เดินถัดมาจากร้าน Raconte moi นิดเดียว ก็เจอร้านขายของแต่งบ้านอีกร้านนึงค่ะ

บ้านในตรอกซอกซอยแถวนี้ค่ะ

เดินเข้าไปในตรอกซอยอีกลึกพอสมควรก็จะเจอกับอีกร้านของแต่งบ้านชื่อดัง Brocante ค่ะ ร่มรื่นย์มากๆ

อีกมุมของ Brocante ค่ะ รกอย่างมีศิลปะ

เดินออกมาทางเดิมก็เจอร้าน Raconte Moi อีกมุมค่ะ สวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

กางหนังสือเดินไปเรื่อยๆ ถามคนโน้นนิดคนนี้หน่อย ก็เดินมาถึงร้านกล้องทอยชื่อดังค่ะ Popeye Camera ร้านี้เค้ามีครบวงจรเกี่ยวกับกล้องทอยและกล้องฟิล์มค่ะ ลูกค้าเต็มร้านเลย

ระหว่างทางเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินกลับบ้านก็บังเอิญผ่านร้านขายของเล่นค่ะ แนวมากๆ

มุมน่ารักๆจากร้านขายของเล่น

และรูปสุดท้ายที่ย่าน Jiyugaoka ร้านของแต่งบ้านอีกแล้วค่ะ ที่นี่เค้าแต่งร้านกันสวยมากๆ
สรุปแล้วคือประทับใจย่านนี้มากๆ ถือว่าเป็นย่านที่แนะนำให้ไปเที่ยวเดินเล่นถ่ายรูปกันค่ะ หรือถ้าใครชอบของแนววินเทจ รับรองว่าต้องมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอน สำหรับใครที่ไม่ได้คิดจะซื้อ แค่เดินดูก็อิ่มแล้วค่ะ

วันต่อมา ที่ที่เราจะไปกันทั้งบ้านก็คือ Disney Land ค่ะ เนื่องจากเคยไป disney land ที่ Florida มาแล้วประทับใจ ก็เลยอยากมาอีกรอบ ก็ยังรู้สึกว่าอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์เหมือนเดิมค่ะ ติดอยู่ที่ว่าที่ญี่ปุ่นค่อนข้างเล็ก เดินแปบเดียวก็ทั่วทุก Theme park แล้วค่ะ สะดวกดี ส่วนถ้าจะเล่นเครื่องเล่นที่ดังๆนี่ค่อนข้างหมดหวังค่ะ เพราะคิวจะยาวๆมาก สี่สิบนาทีขึ้นไปทั้งนั้น ดังนั้น Fast Pass ถือเป็นสิ่งของที่ล้ำค่ามากใน Disney land ค่ะ เนื่องจากที่เราเคยไป fast pass จะมีขายตรงตู้ข้างหน้า แต่เมื่อถามดูกับพนักงานแล้ว fast pass ที่นี่ไม่มีขายค่ะ อยากได้ต้องไปรอกดตามตู้ซึ่งจะตั้งอยู่หน้าเครื่องเล่นดังๆ แล้วรอดูเวลาว่า fast pass ที่เรากดมานั้นเป็นรอบไหนแล้วพอถึงเวลา ค่อยมารอที่เครื่องเล่นนั้นๆค่ะ เท่าที่เราทราบมก็คือเมื่อเรากด fast pass รอบนึง ก็ต้องเว้นระยะซักพักตามเวลาที่ระบุในตั๋ว fast pass ค่ะ ถึงจะไปกด fast pass ของเครื่องเล่นชนิดอื่นได้

แต่วันนี้เรามาชิลล์ๆ ฉะนั้นเลยวางแผนเอาไว้ว่า เดินเล่นไปเรื่อยๆ อะไรว่างค่อยเล่น อิอิ

ตามมาสูดกลิ่นญี่ปุ่นค่า......

อากาศวันนี้ไม่ค่อยดีค่ะ ครึ้มๆ แล้วก็หนาวมากๆ แล้วลมก็ยังแรงมากๆด้วย แต่ฝนไม่ตกเราก็ดีใจแล้ว

ช่วงที่มาเป็นช่วง Theme Halloween พอดีค่ะ

เมื่อเข้าไปถึง ดูบรรยากาศรอบแล้ว คนที่นี่เค้าเริ่ดมากค่ะ มีการซื้อหมวก ที่คาดผม อุปกรณ์ตกแต่งใน theme disney กันแบบจัดเต็มมากๆ ไอเราก็กลัวน้อยหน้า ขอซื้อมาสู้กับเค้ามั่ง ตอนนี้กลับมาบ้านยังเสียดายตังค์อยู่เลย 2800 เยน T_T

นั่งรถไฟตะลุยป่าค่ะ

ชอบรูปนี้มากๆค่ะ

พาเหรดรอบแรกค่ะ
แต่อยู่ดูไม่จบเพราะว่ารีบออกมาหาอะไรทานก่อนที่ช่วงเที่ยงคนจะเยอะ
เดี๋ยวค่อยดูอีกทีรอบบ่ายค่ะ

อาหารที่นี่ค่อนข้างแพงทีเดียวค่ะ ทานสี่คน 8000 กว่าเยน แต่พุดดิ้งอร่อยค่ะ อิอิ แนะนำว่าถ้าไม่อยากเสียตังค์แพงๆทานอาหารในนี้ ก็ซื้อแซนด์วิช หรือข้าวปั้นเข้ามานั่งทานชิลล์ๆดีกว่าค่ะ

ปราสาทใกล้ๆค่ะ

สวน Snow white ค่ะ

สาวญี่ปุ่น

อีกมุมสวยๆ

it's a small world ข้างในเป็นตุ๊กตาจากหลากหลายชาติ มีของไทยเราด้วยนะ ล่องเรือไปดูตุ๊กตาเต้นระบำไป ฟังเพลงไป น่ารักมากๆ

น่ารักมาก

Pooh corner

บ้านพี่หมีพูห์

Welcome to Toontown

เมืองการ์ตูน

พาเหรดมาแล้วววววว

พี่มินนี่กับมารี

Stitch

พี่มิกกี้

พี่โดนัลด์

น่ารักๆๆ

เจ้าหญิงกับเจ้าชาย

Snow white สวยมาก เหมือนมาก

Disney Resort ค่ะ

รถไฟสาย Tokyo disney resort

เห็นแล้วอยากไปบ้างจัง ขอบคุณน๊า....

หนีน้ำมาเที่ยวด้วยค่า ^^

ชอบสไตล์การเที่ยวของ จขกท จังครับ กระจุกกระจิก น่าไปเดินเล่นเพลินๆดี ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวภาพสวย อ่านสนุกนะคะ ...จะติดตามต่อไปค่ะ

อยากไปทุกที่ที่ จขกท ไปเลยครับ
โดยเฉพาะร้านขายของมือสอง

ดิสนี่แลนด์ก็น่าไป เคยไปมาครั้งเดียว ได้เล่นน้อยมากๆ
(แต่จริงๆก็ชอบดิสนี่ซีย์มากกว่า)

เสร็จจาก Disney land แล้ว วันต่อมาก็ ไปลุย Disney Sea ต่อค่ะ สำหรับวันนี้ นัดกับเพื่อนที่เป็นนักเรียนทุนจากไทยมาเรียนที่ญี่ปุ่น นัดไปกันสองคนค่ะ เจอกันตอนประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆที่ Shibuya เนื่องจากเพื่อนมีคลาส แล้วก็นั่งรถไฟไปด้วยกันค่ะ

สำหรับตั๋วทั้ง Disney land กับ Disney Sea นั้น เราให้อี๊พาไปซื้อที่สถานีรถไฟค่ะ จากการแนะนำของชาวญี่ปุ่น ถ้าเป็นพลเมืองของที่นี่และซื้อที่ Metro ก็จะได้ราคาถูกกว่าซื้อที่หน้าทางเข้าค่ะ ตั๋ว 1 ใบ ราคา 5200 เยน เลือกได้แค่ว่าจะเข้า disney land หรือ disney sea ที่ใดที่นึงเท่านั้นค่ะ อย่างเราคือจะไปสองที่เลย ก็ซื้อมาสองใบค่ะ

พอไปถึงพวกเราก็ต่อรถไฟสาย Disney resort line เพื่อที่จะนั่งเข้าไปถึงที่ Disney sea เลย ไม่ต้องเดินค่ะ
รถไฟน่ารักมากๆ ค่านั่ง 250 เยนค่ะ

# M E T R O S E X Y สำหรับเราก็เทใจให้ Disney Sea ค่ะ

หน้าทางเข้าค่ะ คนเริ่มบางตา เพราะว่าเรามาถึงบ่ายสามโมงกว่าๆเข้าไปแล้ว ถือว่ามาช้าเกินไปค่ะ แต่อย่างที่บอกมาเที่ยวคราวนี้เราไม่รีบ เที่ยวแบบสบายๆค่ะ ^^

ตอนที่เราไป Disney sea เป็น Theme 10 years anniversary ค่ะ ถือว่าโชคดีสุดๆ

ต้องขอโทษจริงๆที่รูปจาก disney sea จะมีเราติดอยู่นิดหน่อย เพราะว่าไปถึงเย็นแล้วเลยรีบถ่ายแต่รูปตัวเองกับเพื่อน อิอิ

เข้าไปข้างในก็ถึงกับจะลึงเลยค่ะ คือเราไม่เคย search หาข้อมูลเกี่ยวกับ Disney sea ก่อนไปเลย เนื่องจาก อยากจะ surprise แล้วก็ตะลึงจริงๆค่ะ มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากๆ เหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกนึงเลยค่ะ ประทับใจมากๆ

รูปอาจจะไม่สวยค่ะ เพราะว่าไปตอนเย็นแล้ว แต่ของจริงสวยมากๆจริงๆค่ะ

ตอนเข้าไปที่ Disney sea ไม่รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในอีกโลกนึงมากกว่า แล้วเราก็สังเกตได้ว่า ทุกคนถือน้องหมีกันทุกคนเลย บ้างถือตัวเล็ก บ้างถือตัวใหญ่ ไอเรามาถึงนี่ทั้งที อยากได้มาครอบครองอีกแล้วค่าาาา ภารกิจตามล่าหาซื้อน้องหมีจึงเริ่มต้นขึ้น

ตรงนี้เป็น venetian ค่ะ
สวยงามมากๆ
แนะนำว่าไป disney sea ให้แต่งตัวแบบที่คิดว่าจะไป venetian หรือ คิดว่า เดินเล่นอยู่ใน New york อะไรสไตล์นั้นอ่ะค่ะ ถ่ายรูปมาจะได้เหมือนไปอยู่ในที่จริงๆ หมวกมิกกี้และคอสตูมของเราดูไม่ค่อยเข้ายังไงไม่รู้ค่ะ

งามมากๆ

คอสตูมที่ไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศค่ะ ><

^o^ เรือกอนโดล่า

ปราสาทใน disney sea ค่ะ

รถที่รับส่งภายใน Disney sea ค่ะ มีหลายแบบหลายสไตล์

อีกมุมนึงค่ะ

ทะเล ทะเล

เนื่องจากเราเอาเวลาไปต่อคิวเล่นเครื่องเล่นอยู่ค่ะ เลยเก็บภาพบรรยากาศมาได้น้อยมากๆ เครื่องเล่นที่ Disney sea จะหวาดเสียวกว่า Disney land ค่ะ เข้าทางคนชอบอะไรหวาดเสียวๆแบบเรา

การต่อคิวเครื่องเล่นเนื่องจากไม่มี Fast pass ก็เฉลี่ยประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ไหนๆเราก็มาแล้ว ก็เลยไปต่อคิวเครื่องเล่นดังๆของที่นี่ค่ะ เช่น Journey to the center of earth นั่งยานดิ่งลงไปที่แกนโลก เสียวนิดๆค่ะ ไม่ถึงกับน่ากลัวอะไรมาก พอนั่งแล้วจะทึ่งกับสองข้างทางก่อนที่ยานจะพาเราดิ่งลงไปที่แกนโลก ถ้าใครมีโอกาสได้เล่น ขอแนะนำว่าอย่าหลับตาค่ะ ไม่งั้นคุณจะพลาดวิวสวยๆ ของ Disney sea จากมุมสูงค่ะ และเนื่องจากกว่าที่เราจะต่อแถวเข้าไปกว่าจะได้เล่นก็เย็นแล้ว วิวที่เห็นก็คือวิวยามค่ำคืนที่มีแสงไฟ สวยงาม มากค่ะ เพื่อนเราหลับตาอดเห็นเลย เสียดายมากๆ

ระหว่างการต่อคิว เค้าก็จะมีฉากต่างๆไว้ให้เราถ่ายรูปหรือดูเล่นกันเบื่อ คุยกับเพื่อนไป ถ่ายรูปไป มองคนญี่ปุ่นคุยกับหมีไป ก็ถือว่าช่วยฆ่าเวลารอไปได้เยอะค่ะ

เนื่องจากเดินผ่านและเห็นว่าคิวไม่ยาวมากเลยไปเล่นค่ะ เพลินดี นั่งดูไฟสวยๆ วิวสวยๆ

หลังจากตระเวณต่อคิวเล่นเครื่องเล่นที่เป็นเป้าหมายหลักครบแล้ว ก็ได้เวลาออกมาดู Disney magic in the sky ค่ะ พลุสวยมากๆ ยิ่งได้มาดูพลุสวยๆอย่างนี้ในบรรยากาศแบบ disney sea พร้อมเพลงสไตล์ disney ต้องบอกว่ามีความสุขมากๆค่ะ บรรยากาศของสวนสนุกตอนกลางคืน เป็นอะไรที่โรแมนติกมากๆ(ถึงจะมากับเพื่อนก็เถอะ) Disney sea เป็นอีกที่ในฝันค่ะ ว่าถ้ามีแฟนต้องมาเดตที่นี่ ฮ่าๆๆๆ

ชุดใหญ่ค่ะ

หลังจากที่เจอร้านน้องหมี Duffy และ Shelliemay ไปแล้ว ก็ตัดสินใจว่าจะมาซื้อตอนก่อนกลับบ้าน จะได้ไม่ต้องหิ้วไปต่อคิวเครื่องเล่นค่ะ

น้องหมีของเราค่ะ n'Shelliemay หมีแต่ละตัวจะหน้าตาแตกต่างกันนิดหน่อยนะค่ะ วิธีเลือกของเราคือ ดูว่าตัวไหนมีอารมณ์อยากกลับไปกับเรา ก็เอาตัวนั้นแหละค่ะ ง่ายดี ค่ารับน้อง Shelliemay กลับบ้านมาเลี้ยงก็ 3800 เยนค่ะ ตอนแรกก็อยากจะซื้อเสื้อผ้าสวยๆให้น้องใส่ แต่ดูราคาแล้วมามี๊คนใหม่จะเป็นลมค่ะ แปดพันกว่าเยน เพื่อนเลยบอกว่าให้กลับไปสั่งตัดเถอะ ฮ่าๆๆ ตามนั้นค่ะ

น้องหมีถ่ายรูปกับบ้านเกิดเป็นครั้งสุดท้ายค่ะ

แล้วก็ได้เวลา Bye bye อาณาจักร Disney ค่ะ

จากการที่ไปมาทั้งสองที่ เราเทใจให้ Disney Sea ค่ะ เพราะดูท่าจะเหมาะกับคนวัยยี่สิบอย่างเรามากกว่า นอกจากนี้เครื่องเล่นที่ Disney sea ก็ยังน่าหวาดเสียวกว่าด้วย ชอบ อิอิ แต่ถ้าถามว่าชอบ Disney land มั้ย ก็ตอบว่ามากค่ะ แต่อาจเป็นเพราะเราคาดหวังว่าที่ญี่ปุ่นอาจจะมีอะไรแตกต่างกับที่ florida บ้าง ก็เลยไม่ได้ตื่นเต้นมากค่ะ

Disney Land เหมาะกับคนที่ต้องการจะไปดูอะไรน่ารักๆ มีความสุขกับโลกของตัวการ์ตูน ถ่ายรูปกับมุมน่ารักๆที่มีให้เลือกมากมายๆ สไตล์ว่ากลับไปเป็นเด็กอีกครั้งค่ะ

ส่วน Disney Sea ก็เหมาะกับการที่จะผจญภัยในอีกดินแดนนึง แล้วก็ถ่ายรูปกับฉากสวยๆค่ะ

สำหรับใครที่ต้องเลือกระหว่างสองที่นี้ ก็ขอให้ศึกษาดูรูป แล้วตัดสินใจเอาตามที่ชอบค่ะ
กระซิบนิดนึงว่า Disney Sea มีที่โตเกียวที่เดียวค่ะ ><

แต่ถ้าใครมีเวลาและโอกาสได้ไปทั้งสองที่ก็ขอให้สนุกกับอาณาจักร Disney กันอย่างเต็มที่นะค่ะ ^^

ชอบเจ้าของรีวิวจริงๆน่ารัก พร็อพ จัดเต็มจัดแน่น

รอ 2 ลิงพาแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่นอยากไปปปป

# คุณแม่จีน-ไทย ขอบคุณมากค่ะ อิอิ

โอ่ย อยากไปๆ
จะไปดีมั้ย สิ้นเดือนนี้

คุณ Mickey-kun  ไปโลดค่ะ

[CR] ทริป 15 วัน 14 คืนในประเทศญี่ปุ่น(Tokyo,Kyoto,Yokohama) Final Part

Review จัดเต็มดีครับ ชอบย่าน Jiyugaoka มากบรรยากาศดี ของแต่งบ้านสวยๆ ทั้งนั้นเลย

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^