พาไปเที่ยวกันต่อจากภาคแรกนะครับ คราวนี้ไปถึงชายแดนฝรั่งเศสกันที่เมือง Strasbourg ครับ
ตอนที่ 1 ที่ Paris Again ครับ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11275607/E11275607.html
[3 พ.ย. 54 22:24:59
]
เมืองสตรัสบรู๊กภาษาออกจะเป็นไปทางเยอรมันมากกว่า ใช่แล้วครับเพราะเมืองนี้อยู่ติดขอบชายแดนเยอรมันแบบเดินข้ามแม่น้ำไปเลยก้อถึงเยอรมันแล้ว (แต่ออกเสียงเยอรมันว่าสแตร๊บเบิร์ก) ปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส ที่มีชื่อเสียงด้านอาหารและไวน์ของฝรั่งเศสด้วยครับ และยังเป็นที่ทั้งตั้งของรัฐสภายุโรปด้วยครับ รวมไปถึงศาลมนุษย์ชนแห่งยุโรป และสำนักงานผู้ตรวจการรัฐสภาแห่งยุโรปด้วยครับ เมืองเล็กๆ แห่งนี้จึงคราคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย เมื่อเทียบกับขนาดของตัวเมือง แต่เนื่องจากเราไปวันอาทิตย์นะครับ เมืองนี้จึงเรียกได้ว่า "เงียบโพด"
เนื่องจากอยู่ชายแดนหากนั่งรถไฟธรรมดาไปคงใช้เวลาทั้งวัน แต่ถ้านั่ง TGV ไปก้อแค่สองชั่วโมงเองครับ ตรงนี้เองหากใครซื้อ Pass ไว้ควรจะไปจองเนิ่นๆ นะครับ ค่าจอง 6 ยูโรต่อเที่ยว ต่อพาส (หมายความว่าถ้าซื้อพาสแบบ 5 คนไปด้วยกัน ก้อเสียแค่ 6 ยูโร) ของผมไปจองเมื่อถึงปารีสแล้ว ปรากฎว่าเต็มตลอดแถมที่สไตร์กด้วย ได้ขากลับคือ TGV เที่ยวสุดท้ายออกจากสตาร์สบรูกก้อ 4 ทุ่ม ถึงปารีสก็เที่ยงคืนกว่า ทำให้กลับเมโทรไม่ทันเอาเลยครับ แล้วสถานีที่ถึงแค่การ์ดูนอร์ด์ ถ้าพักที่เก่าแถวแบร๊กซี่ตามกระทู้แรก ค่า Taxi คงบานเลยครับ เพราะจากเหนือไปซะตะวันออกเฉียงใต้ของปารีสเลย แต่โชคดีวันนั้นเราย้ายมาอยู่ในเมืองแถวมงปรานาส ค่าแท๊กซี่ (นั่งเมซิเดสด้วย แต่ที่นี้ก้อเบนซ์ทั้งนั้น) ด้วยราคา 500 บาท 10 ยูโรนิดๆ เองครับ
อันนี้เรามาถึงสถานีที่สตาร์สบรูกแล้วครับ
[3 พ.ย. 54 22:36:17
]
อย่างที่บอกครับที่นี่เป็นเมืองหลวงแห่งรัฐสภายุโรปครับ โชคดีที่อากาศที่นี่ดีกว่าที่ปารีสเยอะมากครับ หนาวหน่อยแต่เดินตากแดดแล้วเย็นสบายมาก
จากคุณ : Aeykun
[3 พ.ย. 54 22:37:38
]
การเดินทางในเมืองเล็กๆ เดินด้วยเท้าก้อแทบจะครบส่วนเมืองเก่าแล้วครับ (แต่เมื่อยเอานา) หรือไม่ก็ซื้อตั๋วแบบสามคนหนึ่งวัน (Trio) ราคา 5.6 ยูโรใช้รถรางรถบัสได้หมดเลยครับ
ส่วนเมืองเก่าจะตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ นั่งแทรมสาย A หรือสาย D ไปลงย่านการค้ากลางเกาะเลยครับ แล้วก้อเริ่มต้นเดินตรงนั้นเลยครับ ส่วนเมืองเก่าเดินไปสักพักก้อจะเห็นสัญลักษณ์ของเมือง โบสถ์ Stasbourg Cathedral มาแต่ไกลเลยครับ
[3 พ.ย. 54 22:46:50
]
เราไปวันอาทิตย์ร้านจะปิดกันเสียส่วนใหญ่ครับในยุโรป แต่แมคโดนัลไม่เคยปิดยังช่วยชีวิตเราได้ (จริงๆ ร้านอาหารท้องถิ่นหลายร้านก้อเปิดอยู่ล่ะครับ ข้อเสียหนึ่งของผมคือไม่ค่อยกล้าจะลองกับอาหารท้องถิ่นนอกเหนือจากไทยและญี่ปุ่นล่ะครับ ที่เมืองจีนก้อซัดเคิ่นเต๋อจี หรือ KFC เป็นหลักเลยครับ)
ส่วนเมืองเก่าของ Strasbourg ที่เรียกว่า เกาะใหญ่หรือ Grande Île ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกที่ในปี 1988 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกเลยนะครับที่ทั้งเมืองได้รับเป็นมรดกโลก (ทำให้เราอยากมาดูสักหน่อย) ความโดดเด่นคือศิลปะกึ่งฝรั่งเศสและเยอรมัน และยังเป็นกึ่งโรมันคาธอลิกและกึ่งโปรเตสแตนท์อีกด้วยครับ
[3 พ.ย. 54 22:56:22
]
ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ย้อนหลังกลับไปได้ถึงหกแสนปีที่แล้วเลยครับว่ามีคนอยู่อาศัยแล้ว จากการค้นพบเครื่องใช้ในยุคทองแดงและยุคเหล็ก และยังเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกเคลท์บรรพบุรุษร่วมกับสก็อตและอังกฤษ แต่เริ่มเป็นเมืองจริงจังก็ในยุคโรมันที่มาตั้งฐานทางการทหารท่ี่นี่นะครับในราวปีที่ 12 ก่อนคริสตกาล เรียกได้ว่าอายุกว่า 2000 ปีแล้วครับเมืองนี้ โดยชื่อเดิมในสมัยนั้นคือ Argentina หรือ Argentoratum ครับ ซึ่งก้อตั้งอยู่บนเกาะใหญ่แห่งนี้ล่ะครับ
จากคุณ : Aeykun
[3 พ.ย. 54 23:02:41
]
พอพวกโรมันหมดอำนาจลง Strasbourg พวกแฟรงค์และพวกฮันส์ (พวกเดียวกะฮังการีไงครับ ในกระทู้พาเที่ยวบูดาเปสต์) ก้อผลัดกันมายึดครอง ชื่อ Strasbourg ปรากฎขึ้นครั้้งแรกแทน Argentina ราวปี 842 เป็นการผสมผสานระหว่างภาษาละตินกับเยอรมัน ก่อนที่ต่อมาจะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมันศักดิ์สิทธิ (ไม่ใช่โรมันโบราณนะครับคนละพวกกัน) ที่มีศูนย์กลางอำนาจแถวบาวาเรีย (มิวนิค) และออสเตรีย ในราวศตวรรษที่ 10 จนปี 1332 เกิดการปฏิวัติล้มล้างอำนาจกษัตริย์ของส่วนกลาง และสถาปนาตัวเองเป็นสาธารณรัฐอิสระและคงความเป็นกลางท่ามกลางการแก่งแย่งอำนาจมาอีกหลายร้อยปีครับ จนกระทั่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ผู้เกรียงไกรผู้สร้างพระราชวังแวรซายส์ก้อทรงผนวก Starsbourg ให้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรในปี 1681 แต่ก้อยังมีสถานะเป็นเมืองที่ปกครองตนเองอยู่จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติฝรั่งเศสจึงได้ยกเลิกสถานะนั้นไปครับ
จากคุณ : Aeykun
[3 พ.ย. 54 23:14:03
]
เมือง Strasbourg กลายเป็นเมืองสำคัญทางการค้าและอุตสาหกรรมของยุโรปในเวลาต่อมาครับ เพราะตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำไรน์มีท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองในยุโรป แต่ตลอดเวลาก็ต้องเผชิญกับภาวะความขัดแย้งในยุโรปย่อยครั้งทั้งในระหว่างสงครามฝรั่งเศสกับปรัสเซีย จนหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 Strasbourg ได้ประกาศเอกราชของตัวเองนชื่อสาธารณรัฐอัลซาสลอร์เรน (Alsace-Lorraine) แต่ก็ถูกฝรั่งเศสเข้ายึดครองหลังประกาศอิสรภาพแค่สองวันเองครับ
จากคุณ : Aeykun
[3 พ.ย. 54 23:19:19
]
และก้อพามาถึง Strasbourg Cathedral หรือจริงๆ คือ Notre Dame de Strasbourg เองครับ (รู้่สึกโบสถ์ในฝรั่งเศสทำไมใช้ชื่อนี่เยอะจัง)
จากคุณ : Aeykun
[3 พ.ย. 54 23:22:38
]
โบสถ์จะมีลักษณะไปในทางเยอรมันมากกว่าครับ ไปนมัสการด้านในกันครับ
จากคุณ : Aeykun
[3 พ.ย. 54 23:27:16
]
โบสถ์มีชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า Cathédrale Notre-Dame-de-Strasbourg หรือ Liebfrauenmünster zu Straßburg ในภาษาเยอรมันครับ เป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบโรมัน แต่ก้ออยู่ในยุคที่จะเริ่มเอาสถาปัตยกรรมแบบโกธิคมาใช้ปนกันไปด้วยครับ
ตัวโบสถ์มีความสุง 142 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกเหมือนกันช่วงปี 1647 ถึง 1874 ก่อนที่โบสถ์เซนต์นิโคไลในฮัมบรูกจะแซงหน้าไปครับ
[3 พ.ย. 54 23:54:28
]
จริงๆ แล้วโบสถ์สตราบรูกสร้างอยู่บนรากฐานของโบสถ์เดิมที่สร้างทับกันไปกันมาหลายครั้ง ตั้งแต่ยุคโรมัน ซึ่งตัวโบสถ์เดิมที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษ์ที่ 4 เพิ่งขุดพบเจอในปี 1948 และปี 1956 เองครับ ส่วนตัวโบสถ์ที่เห็นในปัจจุบันมาเริ่มสร้างในราวปี 1176 และต่อเติมมาเรื่อยๆ จนได้แบบที่เห็นในปี 1439 ครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 00:01:24
]
พาไปดูสถาปัตยกรรมและศิลปด้านในกันดีกว่าครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 00:03:02
]
ไปดูด้านอื่นๆ กันบ้างครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 00:05:36
]
ด้านที่เข้ามาครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 00:06:49
]
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งที่โบสถ์แห่งนี่คือตัว Astronomical Clock ที่ตั้งอยู่บนเสาเทวา หรือ Pillar of Angels ครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 00:10:53
]
Astronomical Clock ของที่นี้ถือว่าเก่าแก่และใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยครับ ตอนที่สร้างใหม่ๆ ชือ นาฬิกาสามกษัตริย์ในภาษาเยอรมัน หรือ Dreikönigsuhr สร้างขึ้นระหว่างปี 1352-1354 ครับ แต่ก้อมีการสร้างเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ แบบที่เห็นในปัจจุบันเพิ่งสร้่งในปี 1833 ครับ
สงสัยเพื่อนๆ เข้านอนกันหมดแล้วงั้นผมขอพักกระทู้นี้ก้นแค่นี้ก่อนนะครับสำหรับคืนนี้ พรุ่งนี้คืนวันศุกร์อาจจะได้ยาวกว่านี้ครับผม
[4 พ.ย. 54 00:15:44
]
โบสถ์สวยงามมากครับ ขอบคุณครับที่พาชม
จากคุณ : ลุงแบกเป้
[4 พ.ย. 54 08:43:32
]
รูปสวยคมมากเลยครับ ชอบ
จากคุณ : MedicinePath
[4 พ.ย. 54 12:32:07
]
เที่ยวด้วยคนครับ เพิ่งกลับมาเหมือนกันอารมณ์กำลังคิดถึงยุโรป
รูปสวยมากครับ
[4 พ.ย. 54 14:32:02
]
ตามมาชม ขอบคุณค่ะ
จากคุณ : Ebony
[4 พ.ย. 54 15:55:39
]
รอติดตามอยู่ค่ะ
จากคุณ : Wiangphangkham
[4 พ.ย. 54 15:58:21
]
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่
[4 พ.ย. 54 16:06:28
]
สวยงามแบบวิจิตรพิถีพิถันมากครับ
จากคุณ : Destiny-Boy
[4 พ.ย. 54 19:02:02
]
สวยมากค่ะ อยากไป Strasbourg เพราะโบสถ์ Notre Dame นี่ล่ะค่ะ ^^
จากคุณ : Blue Whale
[4 พ.ย. 54 22:00:29
]
คุณ Blue Whale ครับเห็นด้วยมั่กครับ ตอนแรกเห็นจากรูปว่าสวย ไปเห็นของจริงมีอึ้่งกิมกี่ครับ
นอกจากนี้ต้องขอขอบคุณคุณลลุงแบกเป้ คุณหมอ MedecinePath คุณ Power of Tyrol คุณ Ebony คุณ Wiangphangkham คุณเล็กทาโร่ คุณ Destiny-Boy ด้วยครับ
[4 พ.ย. 54 22:30:18
]
กลับมาที่นาฬิกาจักรวาฬกันอีกทีนะครับ ปัจจุบันนาฬิกานี้ยังใช้งานได้อย่างดีครับตามกลไกที่เราเห็นอยู่ (ก้่อเพิ่งปรับปรุงเมื่อร้อยกว่าปีเอง) ทุกๆ ชั่วโมงจะมีเสียงระฆังในขณะที่ตุ๊กตาด้านบนของนาฬิกาก้อจะหมุนไปด้วยครับ การแสดงของตุ๊กตาจะแสดงช่วงชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตายล่ะครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 22:35:18
]
ตุ๊กตาที่ว่าแสดงช่วงชีวิตของมนุษย์ครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 22:43:16
]
จากนาฬิกาไปดูส่วนอื่นๆ ในโบสถ์มั่งครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 22:44:37
]
โบสถ์ข้างนอกวิจิตร ข้างในก้อสวยงามครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 22:45:47
]
รูปสลักอาจดูหดหู่แต่ก้อเหมือนจริงครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 22:46:51
]
กระจกสีจากอาหรับกลายเป็นยอดนิยมในยุโรป
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 22:48:58
]
รูปสลักอัศวินเทมพลาร์ครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 22:50:27
]
พาไปเที่ยวด้านนอกกันดีกว่าครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:05:51
]
ออกมานอกโบสถ์ก้อเป็นย่านการค้าแต่โบราณครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:07:14
]
วันนี้่อากาศดีมั่กครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:08:16
]
ศิลปรอบโบสถ์ครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:09:24
]
แหงนมองโบสถ์กันอีกทีพาไปเที่ยวกันต่อครับ ไปดูบรรยากาศรอบๆ เมืองกันดีกว่าครับ วันอาทิตย์ก็มีแต่รอบโบสถ์นี่ล่ะครับที่ยังคึกคักอยู่
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:11:42
]
อาคารที่นี่อายุหลักร้อยครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:13:06
]
ย่านนี้มีร้านอาหารให้นั่งชิลๆ เยอะครับ ก่อนที่เราจะเดินไปถึงแม่น้ำลิล ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาย่อยๆ ของแม่น้ำไรน์ครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:14:45
]
การตกแต่งร้านอาหารครับ ยังมะได้ลองฟัวกลาร์เลย
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:16:03
]
ไปเดินเล่น (Promenade) รอบแม่น้ำลิลกันครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:18:30
]
บรรยากาศโดยรอบ ช่วงนี้พาทัวร์กินลมชมเมืองเฉยๆ นะครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:19:31
]
อาคารฝั่งตรงข้ามเกาะครับ ฝั่งนั้นเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย Strasbourg ที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสด้วย
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:24:31
]
วันอาทิตย์ช่วงสายบ่ายคนยังน้อยไม่เท่าไรครับ บางมุมของเมืองก้อเงียบซะน่ากลัว แต่จริงๆ ก้อไม่ควรเดินสะเปะสะปะตามซอกซอยแบบนี้่อะครับ
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:28:18
]
แม่น้ำลิลอ่ะครับ ช่วงนี้คงน้อยพาไปดูย่านฝรั่งเศสน้อย Petite France ดีกว่า คนอาจจะคึกคักหน่อย
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:30:42
]
บรรยากาศและบ้านเรือนน่าเดินมากเลยค่ะ ชอบแดดดีๆ ฟ้าสวยๆ แบบนี้ค่ะ
จากคุณ : Blue Whale
[4 พ.ย. 54 23:31:17
]
ใช่แล้วครับคุณ Blue Whale
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:56:50
]
เดี๋ยวคุณ Blue Whale ได้เห็นแม่น้ำไรน์แล้วครับ แต่ไม่รู้ว่าคืนนี้จะปิดกระทู้ได้ครบไหมหนอ เพราะกลับดึกเหลือเกิน
จากคุณ : Aeykun
[4 พ.ย. 54 23:58:47
]
ผมข้ามสะพานมาเดินฝั่งตรงข้ามเพื่อเก็บบรรยากาศของเกาะใหญ่ครับ ตรงข้ามคือ Palais Rohan ครับ สถาปัตยกรรมแบบบาโรคน้างในราวปี 1731-1742 เพื่อใช้เป็นพระตำหนักเวลาพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แปรพระราชฐานมาที่นี่ครับ รวมทั้งยังเคยเป็นที่ประทับของพระนางมารี อังตัวเนต์ในปี 1770 รวมไปถึงที่ฮันนีมูนของจักรพรรดินโปเลียนและจักรพรรดินีโจเซฟินด้วยครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:02:53
]
บรรยากาศของเมืองเงียบสงบ น่าพักผ่อนมากครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:04:22
]
แต่พอใกล้กลางเมืองก้อเริ่มคึกคักขึ้นครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:05:29
]
สะพานกอบัว เอ้ย กอโบ (Corbeau) ครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:07:48
]
แถบนี้นักท่องเที่ยวเยอะหน่อยนะครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:10:29
]
อัปไปก้อลุ้นน้ำไป
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:11:26
]
จะอัปไปเรื่อยๆ ทุกวันให้ครบทุกเมืองที่ไปนะครับ จนกว่าจะถูกประกาศให้เป็นผู้อพยพเหมือนกัน
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:14:05
]
พาไปเดินเล่นย่านที่เรียกว่า Petite France กันครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:15:36
]
Petite France ตั้งอยู่ปลายเกาะใหญ่ในช่วงที่แม่น้ำลิลแยกสาขาออกเป็นคลองเล็กๆ เริ่มต้นตั้งแต่อาคารที่ชื่อ Maison Des Tanneures ครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:22:09
]
หลายคนเข้าใจว่าชื่อ Little France มาจากอาคารต่างๆ ที่มีรูปลักษณ์เป็นแบบฝรั่งเศส แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:23:23
]
แต่จริงๆ แล้วมาจากการที่บริเวณนี้เคยใช้เป็นสถานที่พักฟื้นและดูแลผู้ป่วยโรคกามโรคหรือซิฟิลิสครับในราวศตวรรษที่ 15 ซึ่งคนเยอรมันเรียกโรคนี้ว่า Franzosenkrankheit แปลว่าโรคของพวกฝรั่งเศสครับ คงเพราะสมัยนั้นฝรั่งเศสเป็นศูนย์กลางความบันเทิงต่างๆ หรือเปล่าหนอ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:26:19
]
ขอแว่บไปดูน้ำนิดนะครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:34:50
]
หลังจากนั้นพากันไปเที่ยวนอกเมืองดีกว่า นั่งแทรมสาย E ออกไปนอกเมืองสัก 10 นาที ก้อถึงที่นี่ล่ะครับ รัฐสภายุโรปครับ (Parlement Europeen)
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:39:30
]
ถ้ามาถึงแถวนี้ก้อใกล้จะปิดกระทู้แล้วล่ะครับ อันนี้คือที่ตั้งของสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปครับ ถัดไปก้อเป็น Parc De l'Orangerie ครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:41:46
]
ด้านหน้าของรัฐสภายุโรปครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:42:38
]
บรรยากาศของแม่น้ำลิลส่วนที่ผ่านรัฐสภายุโรปครับ เดี๋ยวจะพาไปที่สุดท้ายปิดท้ายเมืองนี่กันที่ชายแดนฝรั่งเศสของแท้เลยครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:45:08
]
จากในเมืองแถวๆ Place de la Republique เราจะนั่งรถเมล์สาย 2 ไปราวๆ ครึ่งชั่วโมงออกไปนอกเมืองกันครับ เพื่อไปยังปลายทางคือสะพานยุโรป Pont de L'Europe ที่ข้ามแม่น้ำไรน์ไปและเป็นจุดสิ้นสุดชองฝรั่งเศสแล้วครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 00:51:23
]
เดินกันไปได้จนถึงเยอรมันฝั่งตรงข้ามกันเลยทีเดียวครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 01:03:52
]
เมืองเล็กๆ ของเยอรมันครับชื่อเมืองคีล Kehl ครับ เป็นเมืองขนาดย่อมๆ เรียกว่าหมู่บ้านดีกว่า เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง เพราะเป็นที่พำนักของพระนางมารีอังตัวเนต์ในระหว่างเส้นทางเสด็จจากออสเตรียมาเป็นพระราชินีแห่งฝรั่งเศสครับ ถ้าเราจะมาเมืองนี้ต้องนั่งรถเมล์มานะครับ แต่ปีหน้าเห็นว่าแทรมสาย D จะมาถึงเมืองนี้ด้วยครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 01:10:15
]
รูปเยอรมันจากมุมมองของฝรั่งเศสครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 01:11:38
]
และสุดท้ายเพื่อนๆ คงนอนหมดแล้ว งั้นขออำลาและปิดกระทู้นี้ก่อนกระทู้หน้าจะพาลง(เกือบ) ใต้ไปเที่ยวเมืองลียง (Lyon) กันครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 01:13:01
]
ขอแตกกระทู้พาไปเที่ยวลิยงครับ
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 01:22:40
]
บ้านเมืองสวยน่ารักจริงๆ เลยค่ะ รูปก็คมชัดสวยใสดีจัง
คุณ Aeykun สบายดีนะคะ
[5 พ.ย. 54 15:18:15
]
สวัสดีและขอบคุณคุณ Red-Rose-14Feb ครับ ตอนนี้สบายดีครับแต่ลุ้นว่าคุณย่าน้ำจะมาเมื่อไรครับ T___T
จากคุณ : Aeykun
[5 พ.ย. 54 21:01:00
]
มาชมรูปสวยๆอีกค่ะ
[6 พ.ย. 54 17:45:47
]
ขอบคุณครับคุณสาวหน้าใส
จากคุณ : Aeykun
[6 พ.ย. 54 17:53:41
]
โบสถ์ที่ยุโรปหน้าตาคล้ายๆกันนะคะ ถ้าไม่บอกว่าเป็นโบสถ์ใน Strasbourg นึกว่าเป็นโบสถ์ใน Vienna ซะอีก
เมืองนี้ใช้เวลาเที่ยวกีวันดีคะ หนึ่งวันเต็มๆพอมั้ยคะ หรือควรจะอยู่ซักสองวันคะ
[7 พ.ย. 54 04:03:29
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^
จากคุณ : สามแซ่
[7 พ.ย. 54 14:38:47
]
ขอบคุณคุณ Angel Without Wings คุณสามแช่ครับ
แม่นแล้วครับโบสถ์ที่ Strasboug ได้อิทธิพลของเยอรมันมาพอควรเลยครับ เหมือนกับที่เวียนนา เที่ยววันเดียวเหลือๆ ครับผม เอาโบสถ์ที่เวียนนามาฝากด้วยครับ
[7 พ.ย. 54 20:47:05
]