Willkommen ยินดีต้อนรับทุกคนอีกครั้งครับ
เมื่อวานนี้เราเที่ยวกันวันเดียว 3 ประเทศแบบมาราธอนไปแล้ว วันนี้จึงปรับเข้าสู่โหมดปกติ เที่ยวแบบสบายๆไม่รีบร้อน (เท่าเมื่อวาน) โรงแรมเมื่อคืนนี้จัดว่าดีทุกอย่าง แต่เสียอย่างเดียวคือไม่มีแอร์ พอสภาพอากาศเกิดร้อนวูบขึ้นมาอย่างฉับพลัน ก็เลยต้องนอนทนร้อนจนกว่าจะมืด อากาศถึงจะเย็นลง เมื่อคืนทุกคนเลยแพ็คเสื้อหนาวเก็บเข้ากรุอย่างเป็นทางการ
เรื่องราวของวันก่อนๆครับ
Day 1 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11278778/E11278778.html
Day 2 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11279326/E11279326.html
Day 3 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11280453/E11280453.html
Day 4 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11300921/E11300921.html
Day 5 Part 1 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11306493/E11306493.html
Day 5 Part 2 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11326573/E11326573.html
[15 พ.ย. 54 15:30:05
]
โรงแรมที่เราพักส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมเล็กๆ ที่มักเป็นธุรกิจของครอบครัว สามีภรรยาทำหน้าที่ทุกอย่าง ตั้งแต่เตรียมบุฟเฟต์อาหารเช้า ดูแลเรื่องห้องพัก ช่วยยกกระเป๋า (ในบางครั้ง) ไปจนกระทั่งเตรียมดินเนอร์ บางครั้งก็มักจะมีลูกๆ มาช่วยงานบ้าง ดูน่ารัก และให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองดีนะครับ
ที่โรงแรมนี้ก็เช่นกัน นอกจากคุณสามีจะดูแลเรื่องอาหารเช้าสำหรับแขกแล้ว ยังต้องแว๊บไปแว๊บมาขายขนมปังให้กับลูกค้าขาจรที่แวะมาที่ร้านเบเกอรี่เล็กๆของโรงแรมอีกด้วย
[15 พ.ย. 54 15:31:01
]
มื้อเช้าที่นี่อร่อย และเยอะมาก มีตับบดหลากหลายชนิดให้เลือกกิน (ชอบมากๆ) พอลองครบทุกชนิดแล้ว เราก็ไปสำรวจร้านเบเกอรี่และร้านขายของเล็กๆของที่นี่กัน
เส้นพาสต้าธรรมดาๆ ที่นำมาทำให้ไม่ธรรมดา น่ารักน่าซื้อจริงๆ
คุณลุงสอยเส้นก๋วยเตี๋ยวแบบแบนมาสองแพ็ค สำหรับผัดให้เราพรุ่งนี้ตอนกลางวัน
[15 พ.ย. 54 15:31:33
]
งานหัตถกรรม งานฝีมือท้องถิ่น ก็มีขายนะครับ ที่สำคัญราคาไม่แพงเลย
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:32:20
]
ที่ผ่านมาเราซื้อน้ำดื่ม/น้ำอัดลมบรรจุขวดกันตามสะดวก แต่พอเข้าเยอรมันแล้ว ควรพยายามหลีกเลี่ยงการซื้อเครื่องดื่มบรรจุขวดพลาสติกนะครับ เพราะว่าเราจะต้องเสียค่ามัดจำขวดเพิ่มเข้าไปด้วยตามกฏหมายเยอรมันครับ ซึ่งเราจะต้องเก็บขวดเปล่าที่กินหมดไว้แล้วนำไปแลกเงินค่ามัดจำคืนตามสถานที่ๆกำหนดครับ แต่บางคนก็เห็นว่าเป็นเรื่องยุ่งยากก็เลยทิ้งขยะไปซะเลย ไม่สนใจเอาเงินคืน (เยอะนะ ตั้ง 15% ของราคา)
ทางที่ดีคือเลือกซื้ออะไรที่เป็นกระป๋อง หรือขวดแก้ว แทนนะครับ แล้วนำไปทิ้งให้ถูกถังขยะ ก็จะได้ไม่ต้องลำบากเก็บขวดไปเอาเงินคืน
[15 พ.ย. 54 15:32:43
]
ยังมีเหล้าท้องถิ่น ไวน์ท้องถิ่น และ แยมท้องถิ่น มีให้เลือกหลายอย่างครับ
เสร็จจากช้อปปิ้งกันเล็กน้อย ก็พร้อมออกเดินทาง
[15 พ.ย. 54 15:33:22
]
อย่างที่ทราบว่าตอนนี้เราอยู่ในเขตพื้นที่ของป่าดำ หรือ Black Forest ที่กินอาณาบริเวณกว่า 12,000 ตารางกิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีแต่ป่ากับป่า หากยังมียอดเขาสูง ทะเลสาบ และทุ่งหญ้าสลับกับป่าสน
เราสามารถสัมผัสวิวของป่าดำสุดสวยได้ที่นี่ครับ ทะเลสาบทิติเซ Titisee
[15 พ.ย. 54 15:33:47
]
ทะเลสาบทิติเซ ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแถบบริเวณป่าดำมานานร่วม 100 ปี ปัจจุบันมีทั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก ครบครัน สมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
มุมสวยของทิติเซยามเช้า ล้อมรอบด้วยป่าดำสุดคลาสสิคที่สะท้อนเงาลงบนพื้นน้ำ
[15 พ.ย. 54 15:35:23
]
กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่ก็คือการล่องเรือ มีทั้งเรือใหญ่ เรือเล็ก ให้เลือก
ทิติเซ เป็นทะเลสาบที่ไม่ใหญ่มาก และไม่ลึกมาก ดังนั้นในช่วงฤดูหนาว ที่นี่จึงมีโอกาสกลายเป็นทะเลสาบน้ำแข็งได้ไม่ยาก หากสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย
[15 พ.ย. 54 15:35:54
]
เมื่อมาถึงป่าดำ ก็จะพบกับของที่เป็นสัญลักษณ์ของป่าดำ ขอบอกว่าไม่ใช่เค้กนะครับ (หลายคนแอบคิดถึงเค้กแบล็คฟอเรส) แต่เป็นนาฬิกาคุกคู Cuckoo Clocks นาฬิกาแขวนทำจากไม้ ที่จะมีนกตัวน้อยออกมาร้องกุ๊กกูๆ ทุกๆชั่วโมง เป็นที่เพลิดเพลินเจริญใจอย่างมาก
เห็นนาฬิกาที่แขวนอยู่ในร้านขายของที่ระลึกแต่ละร้านแล้วเครียด อยากเหมาหมดทั้งผนังเลย
[15 พ.ย. 54 15:36:11
]
จริงๆแล้ว นาฬิกาคุกคูมีให้เลือกหลากหลาย Size หลายขนาด หลายราคามาก ตามแต่กำลังทรัพย์ และตามความชอบ แบบที่ไม่แพงก็มีนะครับ แต่งานก็จะหยาบๆหน่อย หรือแบบเล็กๆที่เป็นแมกเน็ตติดตู้เย็นก็มีเช่นกันครับ แต่ไม่มีนกคุกคู
ขออภัยที่ไม่ได้เก็บรูปมาฝากกัน เพราะมัวแต่เมามันกับการหาซื้อของฝาก ขอบอกว่าร้านขายของที่นี่ใหญ่มาก สินค้าที่ระลึกมากมายมหาศาล เลือกดูเลือกซื้อกันสนุกจริงๆ
หนุ่มขายนาฬิกาคุกคูบนหลังคา
[15 พ.ย. 54 15:36:36
]
เมื่อวานคุณลุงให้ทางกรุ๊ปตัดสินใจเลือกว่า ระหว่างเมืองสตราสบอร์ก Strasbourg กับเมืองไฮเดลแบร์ก Heidelberg เขาสนใจจะไปเที่ยวเมืองไหนมากกว่ากัน เพราะไม่สามารถเก็บเธอไว้ทั้งสองคน เอ้ย ทั้งสองเมืองได้ ซึ่งทั้งสองคน เอ้ย เมืองก็ต่างมีความน่าสนใจไม่แพ้กันทั้งคู่ รักพี่เสียดายน้องจริงๆ
สุดท้ายด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ เราก็ข้ามกลับมายังประเทศฝรั่งเศสกันอีกครั้ง เพื่อพบกับมหานครซึ่งอยู่ติดกับประเทศเยอรมนี อย่างที่เห็น (แอบเสียใจเล็กๆ)
[15 พ.ย. 54 15:37:25
]
เมื่อมาถึงลานใกล้กับมหาวิหารแห่งสตราสบอร์ก Notre-Dame-de-Strasbourg คุณลุงบอกให้ผมรีบไปซื้อตั๋วขึ้นเรือ เพื่อให้ทันล่องเรือในรอบถัดไปจะได้ไม่เสียเวลา ท่าขึ้นเรืออยู่ตรงบริเวณใกล้กับ พระราชวังโรอาน (ค่าล่องเรือ 9 EURO)
เรือกำลังจะออกพอดี เดี๋ยวค่อยๆเล่าเกี่ยวกับสตราสบอร์ก ระหว่างการล่องเรือนะครับ
[15 พ.ย. 54 15:37:46
]
พอจะเล่าก็ไม่รู้จะเล่ายังไง เพราะคิดว่าเมืองนี้คงมีคนรีวิวไว้เยอะอยู่แล้วแน่ๆ ถ้างั้นขออนุญาตเล่าแบบย่อๆ ไม่เยอะมากนะครับ
สตราสบอร์ก หรือ สตราสบรูก์ หรือสตราสบวร์ก แล้วแต่จะเรียก เป็นเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส Alsace ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ริมฝังแม่น้ำอิลล์ Ill River ที่ไหลลงสู่น้ำไรน์ Rhine River บริเวณชายแดนประเทศเยอรมนี ด้วยทำเลที่ตั้งที่สำคัญขนาดนี้ ดังนั้นจึงเป็นเป้าที่ก่อให้เกิดการแย่งชิงเมืองนี้กันไปมาระหว่างฝรั่งเศส และเยอรมนี สุดท้ายเมืองนี้ตกเป็นของฝรั่งเศสอย่างสมบูรณ์ แต่ก็เป็นเมืองฝรั่งเศสที่มีหน้าตาเป็นเมืองเยอรมันอย่างมาก มองตึกรามบ้านช่องแล้วนึกว่าอยู่ในเยอรมนี
เราโชคดีมากที่ได้ขึ้นเรือรอบที่มีหลังคา ถึงแม้ว่าเวลาถ่ายรูปจะมีเงาสะท้อนเยอะอยู่ แต่ก็ดีกว่านั่งเรือเปิดโล่งให้แดดเผาศรีษะตลอด 1 ชั่วโมง (แค่นี้ยังเหงื่อหยดแหมะ)
[15 พ.ย. 54 15:38:18
]
พื้นที่เมืองเก่าตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่ากรองอิล์ Grande Ile หรือ Grand Island ที่ห้อมล้อมไปด้วยคลองสาขาของแม่น้ำอิลล์ ซึ่งเรากำลังล่องเรือไปตามลำน้ำนี้อยู่
ภายในเขตกรองอิล์ทั้งหมดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ เมื่อปี 1988
[15 พ.ย. 54 15:38:51
]
บนเรือจะมีหูฟังแบบหลายภาษาให้เราเลือกฟังบทบรรยายประวัติความเป็นมาของสถานที่ต่างๆ สองข้างลำน้ำ แน่นอนว่าไม่มีภาษาไทย ดังนั้นจึงรู้เรื่องบ้าง หลุดบ้าง เพราะมัวถ่ายรูป 55
แต่ที่รู้แน่ๆคือ นี่คือหอคอยยุคกลาง 2 หอ จากทั้งหมด 4 หอ บนเกาะเล็กๆกลางแม่น้ำ ที่เชื่อมกันด้วยสะพาน Ponts Couverts
[15 พ.ย. 54 15:39:18
]
ไม่ทันได้นับว่าเราลอดข้ามสะพานมาทั้งหมดกี่สะพาน แต่น่าจะมีกว่า 30 สะพาน ตลอดเส้นทาง ทำเอาพวกเรานั่งเมาสะพานกันเลย
ตรงข้ามกับเด็กนักเรียนฝรั่งเศสกลุ่มใหญ่ (ราว 30 คน) ที่มาทัศนศึกษาโดยล่องเรือพร้อมกับเรา แอบสังเกตเห็นเขานั่งเงียบคอยฟังคำบรรยายจากหูฟัง แล้วจึงเติมคำตอบลงในแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้องกับสะพานทั้งหมดที่เรือลอดผ่านไป นับเป็นการกระตุ้นทั้งทักษะการฟัง ความช่างสังเกต และการจดจำที่ดีทีเดียว เห็นแล้วอยากไปขอมาทำบ้าง
[15 พ.ย. 54 15:39:49
]
แทนที่เรือจะวนรอบกรองอิล์เพื่อกลับมาที่จุดเดิม เรือเกิดเลี้ยวออกไปทางซ้ายบริเวณทางแยกของแม่น้ำ
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:40:25
]
ที่แท้คือเขาตั้งใจพาเรามาเพื่อชมอาคารรัฐสภาแห่งยุโรป European Parliament อันสง่างามที่ตั้งอยู่ที่เมืองสตราสบอร์กแห่งนี้ (อีกแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม)
จากนั้นเรือก็วกกลับมายังท่าเรือ ใช้เวลาล่องเรือร่วม 1 ชั่วโมง จริงๆระยะทางไม่ไกลหรอกครับ แต่เรือแล่นได้เหมือนเต่าคลานมาก ไหนยังจะต้องผ่านประตูกั้นน้ำต่างๆอีก กว่าจะปรับระดับน้ำขึ้นๆลงๆแต่ละทีนานเกิ้น
[15 พ.ย. 54 15:40:54
]
เมื่อมาถึงสตราสบอร์กแล้ว ก็ต้องมาชมสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ของสตราสบอร์ก อย่างมหาวิหารแห่งสตราสบอร์ก มหาวิหารโกธิคขนาดใหญ่สีชมพูแดง ที่โดดเด่นด้วยหอคอยสูงสุดยอดสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ทุกทิศทุกทาง
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:41:20
]
เป็นสถานที่ที่ถ่ายรูปยากจริงๆ เพราะลานหน้ามหาวิหารแคบก็แคบ ยอดหอคอยสูงก็สูง พยายามเก็บภาพจากมุมไหนก็เก็บไม่หมด
อีกทั้งนักท่องเที่ยวเยอะแยะวุ่นวาย แถมชอบมามองกล้องเราด้วยเวลาเราถ่ายรูป โอ้ยจะบ้าตาย นี่ยังไม่รวมที่ต้องพยายามเดินห่างๆ พวกคนดำที่คอยตามเพื่อขายนาฬิกาปลอมกับหมวกร่ม อีกนะ
[15 พ.ย. 54 15:41:42
]
ในอดีตมหาวิหารแห่งนี้เคยถูกบันทึกว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก รวมถึงเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดในโลกมาแล้วด้วย (ปี 1647-1874) ก่อนที่จะโดนโบสถ์เซนต์นิโคไล ในเมืองฮัมบวร์ก เยอรมนี แย่งตำแหน่งไปภายหลัง แต่ถึงอย่างไรปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ก็ยังรั้งตำแหน่ง โบสถ์ที่สูงที่สุดอันดับ 6 ของโลกอยู่
สิ่งที่ไม่ควรพลาดชมภายในมหาวิหารก็คือนาฬิกาดาราศาสตร์ Astronomical Clock ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (อีกสองแห่งที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ที่กรุงปราก และนาฬิกาดาราศาสตร์ที่กรุงเบิร์น)
[15 พ.ย. 54 15:42:28
]
ผมเดินเข้าไปดูแค่นาฬิกาดาราศาสตร์แป๊บเดียวก็กลับออกมา เพราะผมค่อนข้างรู้สึกเฉยๆกับภายในโบสถ์แบบโกธิคหน่ะครับ คือผมมองว่ามันดูเป็นแบบเดียวกันหมดทุกแห่ง มีโถงยาวๆ เพดานสูงๆ เสาใหญ่ๆ แต่บางคนอาจจะชอบก็ได้นะครับ
เมื่อพูดถึงภายในแล้ว ส่วนตัวผมชอบโบสถ์แบบบาโร้ค กับ แบบร็อคโคโค่ มากกว่า เพราะมันไม่ค่อยมีรูปแบบที่ตายตัว แต่ละที่ล้วนมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ดูสวยงามหรูหรา ด้วยงานปูนปั้นที่อ่อนช้อย และภาพเขียนที่เต็มไปด้วยสีสัน เสียดายที่ทริปนี้ไม่ได้ชมโบสถ์เซนต์กัลเลน Abbey of Saint Gallen ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตามที่หวังไว้
บริเวณลานหน้ามหาวิหาร ภาพนี้ดูยังไงๆ ก็นึกว่าอยู่ในเยอรมนี
[15 พ.ย. 54 15:42:52
]
หลังจากเดินชมและช้อปปิ้งกันในเขตเมืองเก่าจนพอใจแล้ว ก็ถึงเวลาอำลาฝรั่งเศสกันจริงๆเสียที และออกเดินทางสู่จุดหมายต่อไปยังเมืองที่เกริ่นไปแล้วว่าสวยที่สุดของเยอรมนี นั่นก็คือโรเทนบวร์ก ออบ แดร์ เทาเบอร์ Rothenburg ob der Tauber
ส่งท้ายเมืองสตราสบอร์กกันที่ภาพทางเข้าพระราชวังโรอาน Palais Rohan ใกล้ๆกับมหาวิหาร
[15 พ.ย. 54 15:43:48
]
โรเทนบวร์ก ออบ แดร์ เทาเบอร์ Rothenburg ob der Tauber มีความหมายว่า Red fortress above the Tauber หรือ ปราการสีแดงเหนือแม่น้ำเทาเบอร์ เป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาวาเรีย Bavaria แคว้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนี
โรเทนบวร์ก ออบ แดร์ เทาเบอร์ ตั้งอยู่บนจุดตัดของเส้นทางท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียง 2 เส้นของเยอรมนี อันได้แก่ ถนนสายโรแมนติก Romantic Road ถนนสายสมมุติที่พาไปยังเมืองอันทรงเสน่ห์และแสนโรแมนติกมากมายของเยอรมนี เริ่มต้นจากเมืองเวือซบวร์ก Wurzburg ผ่านโรเทนบวร์ก และอีกหลายๆเมือง ไปสิ้นสุดที่เมืองฟืซเซ่น Fussen เป็นแนวเหนือ-ใต้
อีกเส้นทางหนึ่งคือ ถนนสายปราสาท Castle Road ถนนสายสมมุติอีกเช่นกันที่จะนำไปสู่เมืองแห่งปราสาทเก่าและพระราชวังอันสวยงามตลอดเส้นทาง เริ่มต้นจากเมืองมันน์ไฮม์ (พระราชวังมันน์ไฮม์) ประเทศเยอรมนี ผ่านโรเทนบวร์ก ไปสิ้นสุดที่กรุงปราก (ปราสาทปราก) สาธารณรัฐเชค เป็นแนวตะวันตก-ตะวันออก
ภาพนี้จากเน็ต แสดงให้ถึงที่มาของชื่อเมือง โรเทนบวร์ก ออบ แดร์ เทาเบอร์ ได้อย่างชัดเจน
[15 พ.ย. 54 15:44:15
]
โรเทนบวร์ก ออบ แดร์ เทาเบอร์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองยุคกลางที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดของเยอรมนี มีกำแพงเมืองล้อมรอบอย่างสมบูรณ์พร้อมด้วยประตูเมือง และหอคอยทั้ง 8 หอ ภายในเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโกธิค และเรอเนสซองส์ พร้อมบ้านเรือนรูปแบบเยอรมันขนานแท้
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:45:51
]
ภาพเปรียบเทียบของเพลินไลน์ Plonlein หรือ Little Square เมื่อปี 1900 (คห.บน) และปัจจุบัน(ปี 2011) ดูแล้วแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด แม้เวลาจะผ่านมากว่า 111 ปีแล้ว
ไม่น่าเชื่อว่ามุมตรงนี้จะเป็นจุดที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดจุดหนึ่งของประเทศเยอรมนี และกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโรเทนบวร์กทันทีหลังจากนั้น
โดยปกติแล้วรถนักท่องเที่ยวจะต้องจอดบริเวณนอกกำแพงเมือง จะอนุญาตให้นำรถเข้ามาภายในเมืองได้เฉพาะผู้ที่พักอาศัย หรือรถนักท่องเที่ยวที่พักค้างคืนในเขตเมืองเก่าเท่านั้น
[15 พ.ย. 54 15:46:31
]
พูดมาซะเยอะ แต่ยังไม่มีภาพโรเทนบวร์กให้ดูนะครับ 555 เพราะจะขออนุญาตเล่าต่ออีกนิด
โรงแรมที่พักของเราตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเขตเมืองเก่าเลยครับ ดังนั้นเราจึงสามารถนำรถเข้ามาจอดข้างๆโรงแรมได้เลย
จริงๆเรามาถึงตอนประมาณ 6 โมง ร้านค้าบางส่วนในเมืองจึงปิดไปแล้ว แต่เรายังมีเวลาพรุ่งนี้ช่วงครึ่งวันเช้าในการชมเมืองและซื้อของส่งท้าย (พรุ่งนี้กรุ๊ปของเราจะกลับกันแล้ว) หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จแล้ว สิ่งที่ถือว่าต้องทำเป็นอย่างยิ่งเมื่อมาถึงโรเทนบวร์กแล้วก็คือ การทัวร์เมืองยามค่ำคืนกับ Night Watchman
ภาพโรเทนบวร์กจากปี 1900 เช่นเดียวกัน เดี๋ยวเราจะเห็นอะไรเคยอยู่อย่างไร ก็ยังคงอยู่อย่างงั้น
[15 พ.ย. 54 15:47:12
]
โรเทนบวร์กนับเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อย่างยิ่งแม้กระทั่งยามค่ำคืน ที่ทั่วทั้งเมือง ตลอดจนร้านค้าต่างๆ (ที่ปิดทำการไปแล้ว) จะประดับประดาไฟอย่างสวยงาม โรแมนติกอย่างยิ่ง
ดังนั้นการเดินชมเมืองกับทัวร์ของ Night Watchman จึงเป็นที่นิยมมากสำหรับผู้ที่มาเยือนโรเทนบวร์ก (ค่าทัวร์คนละ 7 EURO เริ่มเวลา 2 ทุ่มทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) ซึ่งเจ้าไนท์วอท์ชแมนนั้น ในอดีตมีหน้าที่ตรวจตราเมืองยามค่ำคืน ระแวดระวังความปลอดภัยให้กับชาวเมืองโรเทนบวร์กทุกคน ปัจจุบันกลายมาเป็นผู้ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ และตำนานเล่าขานของเมืองให้กับผู้มาเยือน
โฉมหน้าของไนท์วอท์ชแมน ที่เหมือนหลุดออกมาจากยุคกลาง ถือหอกปลายขวาน และตะเกียงโบราณเดินนำนักท่องเที่ยว
[15 พ.ย. 54 15:48:19
]
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของผมในเมืองโรเทนบวร์กแห่งนี้ และเนื่องจากผมศึกษาเรื่องราวและเส้นทางเดินในเมืองโรเทนบวร์กมาพอสมควร คุณลุงเลยมอบตำแหน่งไนท์วอท์ชแมนจำเป็นให้กับผม (อีกครั้ง) โดยการให้เดินพากรุ๊ปของเราทัวร์เมืองแทนที่จะไปเสียตังค์ให้กับไนท์วอท์ชแมนตัวจริง 555
ดังนั้นรีวิวในวันนี้ เราจะได้เห็นโรเทนบวร์กในยามค่ำคืนกันแทนนะครับ ส่วนโรเทนบวร์กยามปกติขอไปรีวิวในตอนหน้าครับ
ก่อน 2 ทุ่มเล็กน้อย เราก็เริ่มออกเดิน ร้านค้าและสถานที่ต่างๆเริ่มเปิดไฟกันบ้างแล้ว ทั้งที่ยังไม่ค่อยมืดมาก
[15 พ.ย. 54 15:49:44
]
เราเดินไปยังฝั่งตะวันตกสุดของเมืองซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ทำให้เห็นเมืองทางด้านทิศใต้ หอคอยสูงตรงกลางภาพคือหอคอยเซแบร์ Siebers Tower ที่อยู่บริเวณที่เรียกว่าเพลินไลน์ Plonlein จุดที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดของเยอรมนีที่ได้กล่าวไป
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:50:20
]
หนึ่งในถนนสายหลักของเมืองที่จะนำเราไปสู่ศาลาว่าการเมือง หรือ Town Hall
อากาศกำลังสบายๆครับ ไม่หนาว ไม่ร้อน
[15 พ.ย. 54 15:51:10
]
ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ
[15 พ.ย. 54 15:51:46
]
เรามาหยุดดูกันที่ตุ๊กตาทหารตัวใหญ่ ที่เรียกว่าตุ๊กตานัทเครกเกอร์ Nutcracker หนึ่งในสินค้าที่ระลึกที่มีชื่อเสียงของโรเทนบวร์ก และที่นี่ก็เป็นสำนักงานใหญ่ของร้านคาทเต้ โวล์ฟาร์ท Kathe Wohlfahrt ผู้ผลิตสินค้าสำหรับเทศกาลคริสต์มาสรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี รวมถึงตุ๊กตาทหารนัทเครกเกอร์ด้วย
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:51:48
]
ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์คริสต์มาส ที่รวบรวมของตกแต่งสำหรับเทศกาลคริสต์มาสที่สวยงามตระการตามาจัดแสดงเป็นแห่งแรกของเยอรมนีอีกด้วย หรือหากไม่ต้องการเสียค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ แค่การเข้าชมร้านของคาทเต้ โวล์ฟาร์ท ก็สามารถทำให้เราเพลิดเพลินจนลืมวันเวลาภายนอกไปได้เลยทีเดียว
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:52:52
]
ของที่เป็นที่นิยมอีกอย่างหนึ่งของคาทเต้ โวล์ฟาร์ท ก็คือตุ๊กตาที่เรียกว่า Incense Smokers ตุ๊กตาทำจากไม้ที่สามารถแยกออกได้เป็นสองส่วน ได้แก่ ส่วนตัวและส่วนขา โดยส่วนขาจะมีช่องสำหรับวางธูปหอม และเมื่อประกอบทั้งสองส่วนเข้าด้วยกัน ก็จะได้ตุ๊กตาที่สามารถพ่นควันออกทางปากได้
ตุ๊กตา Incense Smokers มักจะทำออกมาเป็นรูปร่างบุคคลในอากัปกริยาต่างๆ ซึ่งจะสะท้อนวิถีชีวิตของชาวเยอรมันหลากหลายอาชีพ ส่วนมากจะถือไปป์เพื่อให้ดูเข้ากับการที่ตุ๊กตาพ่นควันได้ นับเป็นงานหัตถกรรมของท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่นๆ
[15 พ.ย. 54 15:53:16
]
ของตกแต่งสำหรับเทศกาลคริสต์มาสที่เกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์ มีทั้งเทวดา นางฟ้า แกะ ฯลฯ
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:53:44
]
ร้านนี้เป็นร้านขายตุ๊กตาหมี Teddy Bear ร้านใหญ่ของโรเทนบวร์ก เห็นวินโดว์ดีสเพลย์แล้วมันน่ายกไปตั้งในบ้านทั้งอย่างนั้นเลยจริงๆ
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:54:23
]
เมื่อมีของที่ระลึกประจำเมืองแล้ว ก็ต้องมีของกินประจำเมืองด้วยเช่นกัน ลูกบอลกลมๆ ที่เห็นอยู่นี้เป็นขนมหวานที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น เรียกว่า ชนีบัลเลิน Schneeballen หรือ ลูกบอลหิมะ Snow Ball ทำจากแป้งและน้ำตาล ดูๆน่ากลัวนิดหน่อย เวลากินไม่ใช่ว่าจะกัดเข้าไปทั้งลูกนะครับ มันเป็นเหมือนพายกรอบซ้อนกันหลายๆชั้น ค่อยๆ ลอกออกมาทีละชั้นได้ครับ
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:54:50
]
นึกเสียดายแทนคนที่แวะผ่านมาเที่ยวโรเทนบวร์กเฉพาะตอนกลางวัน ไม่มีโอกาสได้เห็นอย่างนี้
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:55:29
]
ไนท์วอท์ชแมนตัวจริงพาชมกำแพงเมืองกับหอคอย แต่ไนท์วอท์ชแมนตัวปลอมอย่างผมพาชมแต่วินโดว์ดีสเพลย์ครับ 555 ใครอยากได้อะไร ก็จำร้านไว้ พรุ่งนี้จะได้เดินกลับมาเลือกซื้อถูก
จากคุณ : teayouem
[15 พ.ย. 54 15:55:54
]
เรามาสิ้นสุดการเดินทัวร์กันที่จัตุรัสกลางเมือง หรือ Market Square ทางซ้ายมือคือ ศาลาว่าการเมือง ทางขวามือคือศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของเมือง
หากได้แวะผ่านมาช่วงที่นาฬิกาตีบอกเวลาพอดี ให้สังเกตไปที่หน้าต่าง 2 บานด้านข้างนาฬิกา เพราะจะพบกับตัวละครในตำนาน 2 คนออกมาเคลื่อนไหวให้ชม โดยหนึ่งในนั้นตั้งหน้าตั้งตาดื่มไวน์แบบไม่ลืมหูลืมตา เป็นช่วงเวลาสั้นๆที่สะกดให้ทุกคนหยุดนิ่งและเฝ้ามองไปที่จุดๆเดียวกัน
รูปนี้เสียใจมาก เพราะดูในกล้องแล้วดูดี นึกว่าจะไม่สั่นแล้วนะเนี่ย T _ T
[15 พ.ย. 54 15:56:34
]
แค่การเดินชมโรเทนบวร์กยามค่ำคืน เพียงชั่วโมงเดียว ก็แทบจะทำให้หลงรักโรเทนบวร์กแบบฝั่งแน่นเลยทีเดียว ณ เวลานี้ยังไม่มีเมืองไหนในเยอรมนีมาแย่งตำแหน่งเมืองที่สวยที่สุดสำหรับผมไปได้
พรุ่งนี้ถึงจะเป็นภาพของโรเทนบวร์กแบบเต็มๆนะครับ
ทิ้งท้ายกันที่ภาพโบสถ์เซนต์จาคอปส์ Saint Jakobs Kirche โบสถ์โกธิคหลังงามของโรเทนบวร์ก สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ
[15 พ.ย. 54 15:59:48
]
พิพิธภัณฑ์คริสต์มาสน่าไปมากเลยค่ะ
จากคุณ : BROWN STITCH
[15 พ.ย. 54 16:34:06
]
ภาพสวยมากเหมือนเคยครับ
Strasbourg สวยน่าสนใจมากครับ แต่แคว้น Alsace ผมเคยไปแต่เมืองเล็กๆอย่าง
Colmar กับ Kaysersberg ที่อยู่ไม่ไกลจากแถวป่าดำ
แต่น่าเสียดายแทนคุณ teayouem ที่ไม่ได้แวะ Heidelberg
Rothenburg ob der Tauber ตอนกลางคืนสวยน่าสนใจมากครับ
ผมไม่เคนเดินทั่วเมืองตอนกลางคืน ครั้งแรกไปกันแค่สองคน ไปนอนโรงแรมแถว Plonlein
ไปอีกครั้งกับเพื่อนหลายคนก็พักแถว Market Square แต่ไปถึงก็ดึกมากแล้ว เลยไม่มีโอกาส
คงต้องหาโอกาสไปชม Rothenburg ในยามค่ำบ้าง คงได้บรรยากาศยุคกลางมากขึ้น
ขอบคุณมากครับ
[15 พ.ย. 54 17:58:54
]
ตามมาชมรีวิวรูปสวยๆ เที่ยวเพลินๆอีกค่ะ
[15 พ.ย. 54 18:56:55
]
Rothenburg น่าไปมากมายค่ะ ดูเป็นเมืองที่น่ารักมาก รอชมรีวิวเมืองนี้แบบเต็มๆ นะคะ
จากคุณ : Blue Whale
[15 พ.ย. 54 19:23:40
]
@ คุณ armearn
ยินดีครับ มาเที่ยวหลายๆคนสนุกดีครับ
@ คุณ BROWN STITCH
ผมยังไม่เคยเข้าส่วนพิพิธภัณฑ์นะครับ แต่ส่วนที่เป็นร้านขายของที่สวยงามราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์แล้วครับ
@ คุณ สาวหน้าใส
เชิญครับ เที่ยวเพลินๆไปด้วยกันเลยครับ
@ คุณ Blue Whale
โรเทนบวร์กแบบเต็มๆละเอียดๆ ไม่รู้ว่าเคยมีคนเขียนถึงไปรึยัง เอาเป็นว่าโรเทนบวร์กแบบเต็มๆของผม คือมีให้ชมทั้งกลางวันและกลางคืน อาจไม่ละเอียดมากเท่าไหร่ แต่หวังว่าจะชอบกันนะครับ
[15 พ.ย. 54 19:35:08
]
@ คุณ Naddh
ขอบคุณครับ เสียใจจริงๆครับที่ไม่ได้ไปไฮเดลแบร์ก อ่านหนังสือเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่เอาไว้โอกาสหน้าได้ครับ
เท่าที่เคยท่องเที่ยวผ่านมา ยังไม่เคยเห็นเมืองไหนเลยที่มี Night Walking Tour แบบนี้นะครับ ซึ่งมันก็เหมาะกับที่นี่เป็นอย่างมากเลยทีเดียว มีโอกาสก็ไม่ควรพลาดครับ เห็นคุณลุงบอกว่ามีอีกเมืองหนึ่งที่มีการเปิดไฟยามค่ำคืนแบบนี้ ก็คือ เมืองเนินแบร์ก หรือ นูเรมเบิร์ก Nurnberg ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่รู้ว่าจะสวยแบบที่นี่รึเปล่านะครับ
[15 พ.ย. 54 19:46:28
]
สวยจริงๆเลยครับ...รอลุ้นอยู่ครับ...ปีหน้าแพลนว่าจะไปค้างที่เมืองนี้เหมือนกัน...รีวิวนี้มีประโยชน์มากที่สุดเลยครับ...อ่านguidebookหลายเล่มแล้วยังไม่เห็นภาพเท่านี้เลยครับ...จดไว้แล้วครับ...คาทเต้ โวล์ฟาร์ท...กับ...ตุ๊กตาที่เรียกว่า Incense Smokers ...คุณจขกท.เล่าแล้วอยากได้มากเลยครับ...จริงๆแล้วเป็นคนไม่ชอบซื้อของ...แต่งวดนี้จะหยอดกระปุกเตรียมไว้ครับ...เสียดายไม่มีคนพา night tourอย่าง จขกท.ครับ
จากคุณ : mordek1
[15 พ.ย. 54 20:18:32
]
@ คุณ mordek1
ถ้ามีโอกาสได้ไปจริงๆ ก็อยากแนะนำว่าควรไปให้ถึงสักช่วงบ่ายๆหรือเย็นๆครับ ถ้าเดินเที่ยวได้ก็อยากให้เดินเที่ยวเลยครับ เพราะเป็นช่วงเวลาที่จะทำให้ตกหลุมรักเมืองนี้ ด้วยความที่ไม่พลุกพล่านวุ่นวายมาก ถ้ามาถึงช่วงสายหรือเที่ยง นักท่องเที่ยวจะเยอะมากถึงมากที่สุด อาจจะทำให้ขัดหูขัดตาได้ครับ
หลังอาหารค่ำก็เริ่มออกเดินทัวร์กันเลย เริ่มจาก Market Square ไปทางตะวันตกของเมือง แล้วค่อยๆลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอย ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผมคิดเอาเอง แต่บังเอิญไปเหมือนกับเส้นทางของ Night Watchman ตัวจริง 5555 แล้วกลับมาจบที่ Market Square เพื่อรอชมนาฬิกาคุกคูยักษ์ตีบอกเวลาตอน 3 ทุ่ม
ใครที่ชอบถ่ายรูปจริงๆจังๆ หรือชอบช้อปปิ้งตัวแม่ หรือชอบสัมผัสประวัติศาสตร์แบบลึกซึ้ง น่าจะใช้เวลาที่เกินกว่าครึ่งวันนะครับ
เดี๋ยวรอตอนหน้าจะมีเรื่องมาเล่าเพิ่มเติมนะครับ ยินดีที่รีวิวนี้พอเป็นประโยชน์อยู่บ้างครับ
[15 พ.ย. 54 20:40:11
]
ขอบคุณมากๆเลยครับ...ตอนหน้าเล่าละเอียดหน่อยนะครับ...แอบงก..555...แต่เท่าที่เล่ามาก็ละเอียดมากเลยครับ...ยังอยากได้น้องIncense Smokersอยู่นะครับเนี่ย...แอบเซฟกระทู้นี้เก็บไว้แล้วด้วย
จากคุณ : mordek1
[15 พ.ย. 54 21:18:34
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^
จากคุณ : สามแซ่
[16 พ.ย. 54 11:42:37
]
สวยมากเลยค่ะ บ้านแม่สามีอยู่แถวๆทิทิเซ แต่เรายังไม่เคยไปเลย ได้แค่ขับรถผ่านหลายครั้ง หน้าร้อนสวยจริงๆค่ะ แต่มันจะมีอีกที่ใบแบล๊คฟอเรสคือเมืองทรีแบกอ่ะค่ะ มันเป็นที่พักฟื้น แล้วก็แหล่งท่องเที่ยว หน้าร้อนคนเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ ร้านค้าวันอาทิตย์ก็เปิดด้วย ชอบสุดๆ ฮี่ๆๆๆ
น่าเสียดายที่ไม่ได้ไปไฮเดลแบกนะคะเนี่ย สวยมากเหมือนกัน ถ้าได้เห็นต้องหลงรักแน่ๆสำหรับคนชอบถ่ายรูป ถ้าเทียบกับสตราทบวกกับไฮเดนแบกนี่ ถ้าชอบถ่ายรูปต้องไปไฮเดนแบกค่ะ ถ้าชอบช้อบปิ้ง ไปสตราทบวดจะดีมาก ร้านค้าตรึม ช้อบมันส์จริงๆ 555
ขอแย้งนิดนึงเรื่องคืนขวดอ่ะค่ะ กระป๋อง หรือขวดแก้วก็คืนได้ค่ะ คืนได้เกือบหมดทุกอย่าง จะมีแค่บางอย่างที่คืนไม่ได้อ่ะค่ะ ต้องดูข้างๆขวดเอา ...
[16 พ.ย. 54 18:07:09
]
@ คุณ aaauuunnn
ขอบคุณมากนะครับ ที่ช่วยแก้ไขข้อมูลให้
ที่คิดว่ามีเฉพาะขวดพลาสติกเท่านั้นที่ต้องนำไปคืน เพราะว่าเวลาไปเที่ยวทีไร จะเห็นคุณลุงเจาะจงซื้อน้ำดื่มเฉพาะจากที่สวิส หรือ เชก ตลอดครับ บอกว่าไม่ต้องเสียค่ามัดจำขวด
สำหรับไฮเดลแบร์กนี่เป็นเมืองที่อยากไปมาก แต่ก็ยังไม่ได้ไปเสียที หวังว่าคราวหน้าคงไม่พลาดครับ
ส่วนทิติเซ ผมว่าถ้าได้ไปนอนโรงแรมริมทะเลสาบเลยก็คงดีนะครับ
[16 พ.ย. 54 19:11:56
]
สมเป็นเมืองที่สวยที่สุดของเยอรมันครับ สวยมากๆเลย
จากคุณ : Destiny-Boy
[16 พ.ย. 54 20:49:57
]
สำหรับรีวิวตอนสุดท้ายนะครับ
จากคุณ : teayouem
[16 พ.ย. 54 22:12:43
]