อันดับแรกขอขอบคุณสมาชิกพันทิปทุกท่านที่ช่วยเหลือเกื้อกูลข้อมูลกันมาตลอดทำให้การเดินทางครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี (หรือเปล่า ยังไม่ทันกลับบ้านเลย) เนื่องด้วยการเดินทางตรงกับวันที่น้ำท่วมกรุงเทพ เราจึงเลือกนั่งรถไฟไปค่ะ นั่งอ้อมพอสมควร ส่วนเด็กน้อยหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่นั่นลูกสาวเราเองค่ะ ขอโปรโมทนิดนึง อิอิ นั่งรถไฟครั้งแรก ตื่นเต้นน่าดู เจ้าตัวไม่ยอมนอนเลยทั้งคืน โหนนั่นนี่ยังกะลิง

การเดินทางครั้งนี้ แน่นอนค่ะ สายการบินหางแดง สายการบินสุดประหยัด ที่ทำให้เงินเราหมดกระเป๋าได้บ่อยๆ ..ลูกสาว หลานสาว คุณแม่ คุณพ่อ พากันมาส่งที่สนามบินค่ะ เป็นการมาสุวรรณภูมิครั้งแรก 5555+ ตอนนี้ดูรูปคิดถึงเจ้าตัวเล็กสุดๆ T^T

ต่อเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ค่ะ แวะทานข้าวมันไก่ 31 ริงกิต

ถึงแล้วค่ะสนามบินอินชอน เราก็รีบออกมาซื้อตั๋วไปกวางจูทันทีด้วยราคา 30,900 วอน

ถึงกวางจู พอเดินออกจากสถานีรถ ก็จะเจอกับ E-Mart ห้างสรรพสินค้าที่มีเยอะมากในเกาหลี วันที่เราไปเป็นวันที่ 3 พฤศจิกายนค่ะ ใบไม้ยังเขียวๆเหลืองๆดูน่าชม

ตามมาแอบดูงานแต่งงานแบบเกาหลีด้วยครับ ^^

อาหารมื้อแรกจัดเต็มกับปลาดิบพร้อมหม้อไฟทะเล

ตามมาเลยค่ะคุณไผ่พริ้ว

/////////////////////////////////////////////

ขากลับบ้านเจอใบ้ไม้เหลืองๆส่องกับแสงยามค่ำคืนก็สวยไปอีกแบบค่ะ

วันต่อมา  สำหรับสาวๆอย่างเราจะเป็นอะไรไปได้ นอกจากการช็อปปิ้งเครื่องสำอาง 555555+ พร้อมถุงเท้ากับกางเกงใส่นอนลายน่ารัก

และอาหารเย็นวันนี้ แท๊น แทน แท้น หมูย่างนั่นเองค่า

เอาล่ะเข้าสู่หัวข้อกระทู้สักที สำหรับงานแต่งงานที่นี่ จะเป็นในรูปแบบสำเร็จรูปทุกอย่าง คือเค้าจัดการให้หมด เราไม่ต้องทำอะไรเลยก็ว่าได้ จ่ายตังอย่างเดียว ..เจ้าสาวแอบให้นมลูกด้วยซ้างั้น

เสร็จแล้วก็จะต้องมานั่งถ่ายรูปกับผู้ร่วมงานตรงนี้

สถานที่จัดการแต่งงานของหลี จะเป็น Hall สำหรับแต่งงานโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีหลายชั้นมากๆ ก่อนหน้าที่เราจะมาแต่ง ก็จะมีคู่ก่อนหน้า ซึ่งระหว่างที่รอ เราก็ต้องรอในห้องถ่ายรูปเมื่อสักครู่นี้นี่เอง และหลังจากเราแต่งงานเสร็จ ก็จะมีคู่ต่อไป เป็นคิวๆ การแต่งงานจัดเพียง 1 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้นค่ะ

พิธีเป็นไปอย่างเรียบง่าย (แต่ฟังลุงแก่ๆคล้ายๆบาทหลวงพูดนั้นนานมากๆ ไม่รู้ว่าพูดอะไร กินเวลาไป 60% ของงานเลยทีเดียวเชียว -..-)

หลังจากนั้น ก็เคารพพ่อแม่ และผู้ที่มาร่วมงาน แล้วก็มาตัดเค้กนั่นเองค่ะ

หลังจากนั้น ก็จะย้ายไปในห้องเล็กๆ ซึ่งจะเป็นพิธีของทางเกาหลี นั่นคือการรินน้ำชาให้พ่อแม่ การรับถุงเงินจากพ่อแม่ รินน้ำชาให้กันและกัน และกินลูกอะไรไม่รู้คนละครึ่ง พร้อมเจ้าบ่าวต้องแบกเจ้าสาวรอบโต๊ะด้วยนะคะ

หลังจากจบพิธีแขกผู้ร่วมงานก็จะต้องไปกินอาหารบุฟเฟ่ต์ซึ่งจะต้องมีบัตรเข้าด้วยนะคะ ซึ่งเค้าจะเอาไปคิดเงินกับทางเจ้าบ่าวอีกที 5555+ อาหารมีเยอะพอสมควรแต่ว่าเรารีบถ่ายรีบกินเพราะหิวมาก ตั้งแต่เช้ายันบ่ายเดินๆยืนๆ

ปิดท้ายด้วยวิวเล็กๆของกวางจูค่ะ เจอกันตอนหน้าที่เกาะเชจูนะคะ ^^

เจ้าสาวเป็นคนไทยและเป็นเพื่อน จขกท ใช่มั้ยครับ

ตอนไปอากาศกี่องศาครับ

.. ตามมาร่วมงานด้วยคนครับ ..

คนไทยค่ะ เป็นญาติที่ไม่ใช่ญาติค่ะ -..- คือเป็นเครือญาติแต่ไม่มีสายเลือดเดียวกันค่ะ ปกติการแต่งงานเกาหลี เจ้าบ่าวเจ้าสาว เค้าต้องออกคนละครึ่งนะคะ และซองใครก็ซองมัน แต่เนื่องด้วยเจ้าสาวเป็นคนไทยดังนั้นเจ้าบ่าวต้องออกหมดค่ะ อิอิ

ลืมบอก ตอนนั้นเราไป วันที่ 3 เป็นต้นไป ก็ประมาณ 10 กว่าองศาค่ะ

 งานน่ารักจิงๆๆคร้า เห็นแล้วอิจฉา อิอิอิ

งานน่ารักมากครับเห็นแล้วอมยิ้มเลยครับ

ตามมาดูด้วยคนค่า

โชคดีจริงค่ะ ถ้าเจ้าสาวเกาหลีต้องออกคนละครึ่ง
แยกซองด้วยซองฝ่ายใครฝ่ายมัน
คูปองกินอาหารก็ต้องแยกของเจ้าภาพฝ่ายไหน
จะได้ตามเก็บเงินกันถูก
ยินดีกับเพื่้อน จขกท ด้วยจ๊ะ

ยินดีกับคู่บ่าวสาวด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆ อาหารน่าทานมาก

ตามไปงานแต่งงานที่เกาหลีด้วยค่ะ...

ได้เห็นชุดเจ้าสาวแบบเกาหลีด้วย สวยจัง ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^