ผมไม่เคยไปฮ่องกง เเละไม่เคยอยากไปฮ่องกง!
ที่ผ่านมาผมมองว่าที่นี่เป็นเหมือนเมืองสำหรับชอปปิ้ง ไม่ก็ไหว้พระ คงไม่ต่างจากการเอาเยาวราชมาผสมกับสุขุมวิท เเต่อาจจะเพราะชะตากำหนด(มั้ง) วันหนึ่งเพื่อนก็โทรมาชวนไปเที่ยวที่นี่ ผมจึงได้มีโอกาสทำความรู้จักกับฮ่องกงเเบบตัวต่อตัว เเละเมื่อไหนๆก็ไปเเล้ว เลยเลือกไปมาเก๊าด้วยเลยดีกว่า ยิงปืนนัดเดียว ได้นก2ตัว จึงเป็นที่มาของทริปHongkong  Macau,The Fortunate City ของผมครับ

ไฟล์ทผมออกจากสุวรรณภูมิตอนสายๆ จึงไม่ต้องมึนหัวกับการตื่นเช้ามาเช็คอิน โดยรวมการเดินทางวันนี้ดีทีเดียว จะเสียนิดนึงก็ตรงที่หาทางเข้าAirport Link ตรงสถานีมักกะสันไม่เจอ เลยต้องเเบกกระเป๋าเดินเอา-_-"

พอ 10 โมง เครื่องก็take off จากสุวรรณภูมิ ตรงดิ่งไปยังมาเก๊า ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชมครึ่ง

พอลงเครื่องที่มาเก๊าก้เดินทางมาที่นี่เป็นที่เเรก...Venetian Macau คาสิโนชื่อดัง โดยการเดินทางใช้วิธีขึ้นรถโค้ชฟรีที่ทางคาสิโนมีบริการวิ่งระหว่างสนามบินเเละคาสิโน

รถโค้ชมาจอดฝั่งMain Lobby ซึ่งเราสามารถฝากกระเป๋าที่นี่ได้ วิธีการก็ไม่วุ่นวาน เเค่เดินไปที่เคาท์เตอร์ เเล้วเเจ้งว่าจะฝากกระเป๋า ทางพนักงานจะให้เราเซ็นสลิป เเล้วฉีกหางสลิปให้เราเก็บไว้เเสดงตอนมารับกระเป๋า

ซึ่งตรงที่ฝากกระเป๋าจะมีซุ้มทางเดินซึ่งนำไปสู่พื้นที่คาสิโน ซึ่งวันนี้โปรเเกรมผมจะยังไม่เข้าไป เเต่จะไปที่อื่นก่อน มาเเวะที่Venetian เพื่อฝากสัมภาระ

โปรเเกรมเเรกที่นี่คือไปชมโชว์ Dragon's Tresureที่ City of Dream ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับVenetian

โชว์จะมีทุกๆ 30 นาที ค่าเข้าชม 30 MOP(หรือ 30 HKDเเต่จ่ายเป็นMOP จะถูกกว่า)
เมื่อเข้าไปด้านในจะเป็นการฉายภาพ3มิติลงบนหลังคาทรงโดม

ถามว่าดีไหม ก็ถือว่าโชว์ทำได้ดีทีเดียว 20กว่านาทที่ผ่านไปไม่น่าเบื่อ เเต่ถามว่าถึงขั้นห้ามพลาด!ไหม ผมว่ายังไม่ถึงขนาดนั้น เอาเป็นว่าถ้าไม่มีอะไรทำ มาดูหน่อยก็ดี

หลังจากจบโชว์ ผมก็นั่งเเท็กซี่ไปหมู่บ้านTaipa ซึ่งเป็นFood Street ของมาเก๊า ซึ่งความจริงระยะทางจากVenetian ไปยังหมู่บ้านก็ไม่ไกลมาก ประมาณ 1กม ได้เเต่เพราะไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหนเเน่ เลยนั่งเเท็กซี่ไปดีกว่า ชัวร์ดี :)

เมื่อมาถึง (ค่าเเท็กซี่ประมาณ 20MOP) ก็มาหาอะไรกินที่นี่ ซึ่งทั้ง2ฝั่งซอยจะเป็นร้านอาหาร เเละร้านขายขนมของฝากมากมาย เเต่ละร้านก็ออกมาเรียกลูกค้ากันสุดชีวิต เดินไปชิมไปก็อิ่มได้เลย

เดินผ่านร้านขายขนมร้านหนึ่งมีคนรุมเยอะ เลยเเอบเเทรกเข้าไปดู เห็นว่าเค้าซื้อไอ้ขนมถ้วยๆอันนี้มากินกัน เลยขอลองมั่ง ปรากฎ อร่อยเเฮะ! รสชาติเหมือนไอศครีมนมข้นๆโรยด้านบนด้วยคุ้กกี้บด

เเละไม่พลาดที่จะลองชิมทาร์ตไข่ เเต่เจ้าที่ผมชิมวันนี้ไม่ใช่ทั้งมากาเรต หรือ ลอร์ด สโตล ซึ่งรสชาติก็โอเคนะ เเต่ไม่ต่างจากทาร์ตป๋าต๊อบเลยอ่ะ

หลังจากกินขนมพอหอมปากหอมคอก้เดินสำรวจต่อ ซึ่งหมู่บ้านไทปานี้ นอกจขากจะเป็นเเหล่งอาหารเเล้ว ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์บ้านสมัยโคโลเนียลด้วย

ตัวบ้านเป็นเเค่บ้านหลังเล็กๆ 5หลัง เเต่ละหลังก็ตั้งfurnitureโชว์นิดๆหน่อยๆ

ขอปาดเจ้าของกระทู้นิดนึง... ที่ city of dreams ไม่มีที่ฝากกระเป๋าหรอครับ จริงๆจาก city of dreams นั่ง shuttle bus ฟรีไปลง taipa village ได้นะ .... ภาพสวยมากครับ ขอบคุณนะครับ เอารูปสวยๆมาให้ดู :)

ผมว่าที่ไทยมีอาคารโคโลเนียลสวยๆกว่านี้เยอะมาก เอาเป็นว่าที่นี่ไม่ต้องมาก็ได้ นอกซะจากจะมาหาของกินที่food street

คุณนายนพพร ผมไม่เเน่ใจว่าที่city of dreamจะมีที่ฝากกระเป๋าหรือเปล่า เเต่เห็นว่าไหนๆก็นั่งรถของVenetianมาเเล้ว เลยขอฝากกระเป๋าด้วยเลยละกัน
ผมใช้เวลาเดินเล่นที่นี่ประมาณชั่วโมงนิดๆก็หมดเเล้ว หันไปเห็นGalaxyอยู่ไกลๆ เลยเดินไปดูซะหน่อย

ระหว่างเดินก็เห็นCity of Dream อยู่ไม่ไกล เเต่ไม่อยากเดิน 555

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

เดินมาสัก1เหนื่อย ก็มาถึงGalaxy คาสิโนใหม่กิ๊กของมาเก๊า

เดินเข้าไปข้างใน เจอเเท่งคลิสตัลสีๆ...เเค่เนี้ย! งง นึกว่าจะมีอะไรมากกว่านี้ เอ หรือว่าผมเข้าผิดลอบบี้หว่า?

ว่าเเล้วก็เดินออกมาขึ้นรถบัสของGalaxy ไปยังVenetian ดีกว่า

ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ^^

พื้นที่ส่วนของ Grand Canal จะอยู่บริเวณชั้น3 หาไม่ยาก เพราะมีป้ายบอกตลอดทาง

วันที่ผมไป คนไม่ค่อยเยอะเท่าไร เลยได้ถ่ายรูปเเบบสบายๆ ไม่ต้องคอยหลบคนมากนัก
จะว่าไปเเล้วที่นี่เค้าทำสวยทีเดียว สีสันดูกลมกลืนกันดีจัง

ซึ่งบริเวณ Grand Canal นั้นจะเเบ่งโซนย่อยๆลงไปอีก โดยเเต่ละโซนฟ้าจะสว่างไม่เท่ากัน มีตั้งเเต่ฟ้าใส ฟ้าหม่น จนถึงพลบค่ำทีเดียว เรียกว่าไปชม.เดียว ได้มาทุกบรรยากาศ

ใครที่ชอบถ่ายรูป เเต่ไม่ชอบตากเเดด เบื่ออากาศร้อน เบื่อความไม่เเน่นอนของดินฟ้าอากาศ มาที่นี่คงจะชอบ เดินถ่ายรูปสบายๆ เหนื่อยก็เเวะคาเฟได้

ตอนเเรกผมเข้าใจว่าไอ้หน้าต่างชั้นบนๆนั้นจะเป็นห้องพัก ไม่ก็ส่วนเก็บของของร้านต่างๆ ปรากฎเป็นหน้าต่างหลอกๆนี่หว่า

...ไปด้วยคนครับ ...

ต้องนับถือบริษัทก่อสร้างที่นี่ ถึงอาคารจะใหญ่ เเต่งานเนี้ยบทีเดียว คารวะๆ

ผมเดินเล่นที่นี่เรื่อยๆ ไม่ได้ดูเวลา ปรากฎปาไป5โมงกว่า นี่เดินอยู่ในนี้2 ชม กว่าเเล้วเรอะ!

ว่าเเล้วก็รีบวิ่งมาที่ Grand Lobbyเพื่อรับกระเป๋าที่ฝากเอาไว้ ดีนะที่คิวไม่มาก เลยรอไม่นาน

เเล้วก็เดิน เดิน เดิน ไปยังฝั่งWest Lobby เพื่อที่จะขึ้นรถโค้ชไปยังท่าเรือ Taipa Ferry ซึ่งอยู่ใกล้ๆสนามบิน

ถึงท่าเรือเกือบ6โมง โชคดีที่คนน้อย ผ่าน ตม.ได้เร็วจึงทันขึ้นเรือข้ามไปยังฮ่องกงตอน6โมงพอดี ค่าเรือคนละ 170 HKD ซึ่งขาไปฮ่องกงผมนั่งของCotai Jet
ใช้เวลาเดินทางจากมาเก๊าไปฮ่องกง1 ชม พอดี มาถึงฮ่องกงทุ่มนิดๆ ก็จัดการซื้อบัตรปลาหมึก เเล้วนังsubwayมายังจิมซาจุ่ย เพื่อเข้าที่พัก

รูปสวยมากๆ ค่ะ ขอตามไปเที่ยวด้วยค่ะ

ขอตามไปเที่ยวด้วยครับ ^^

ภาพสวยจัง

กว่าจะเดินหาโรงเเรมที่จองไว้ กว่าจะเช็คอิน เก็บกระเป๋า ก็ปาไปเกือบ2ทุ่ม รีบเดินมาที่Avenue of the Stars ก็พบว่า Symphony of Light จบไปเเหล่ว-_-"

ได้เเต่เดินโต๋เต๋ สวนทางกับคนที่เพิ่งดูโชว์จบ ยังดีที่เดินเล่นอยู่สักพัก เรือสำเภาลำสวยดีก็มาอวดโฉม

พยายามซูมสุดชีวิต เเต่ไม่มีขาตั้งกล้องมาด้วย เลยได้ดีที่สุดเเค่นี้ครับผม T_T

ตัดฉับ!มาวันรุ่งขึ้น เพื่อนผมลากไปกินโจ๊กเจ้าดังย่านจิม ซา จุ่ย ซึ่งน่าจะดังในหมู่คนไทยจริงๆ เพราะมีเมนูภาษาได้ คนขายพูดไทยได้(นิดหน่อย) เเถมเจอคนไทยเจ้ามากินอย่างไม่ขาดสาย

หลังจากนั้นก็นั่งsubwayไปยังวัดนางชี

วัดนี้อยู่ห่างจากสถานี Diamond Hill(Exit C3)นิดเดียว จากสถานนีก็มีป้ายบอกทางตลอด มาเองได้สบายๆ

ดูจากวัดเเล้ว ออกเเนวญี่ปุ่นๆไงไม่รู้ ไม่รู้ว่าเป็นวัดนิกายไหน ใครรู้ช่วยบอกด้วยครับ

สารภาพเลยว่าที่อยากมาที่นี่เพราะติดใจเจ้าสะพานสีเเปร๋นอันนี้ ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ สวยดีจัง

ตัววัดสะอาดมากกกกกกกกกกก น้ำในสระใสจนเห็นก้นสระ ไม่มีใบไม้เเห้ง ไม่มีฝุ่นเลย การจัดการขั้นเทพ

# ความเห็นที่ 41 ใช่ร้าน Hung Lee ตรงถนน Hau Fook หรือเปล่าครับ ร้านเปิดกี่โมงพอทราบไหมครับ

มีมุมบ้านโบราณด้วย น่ารักดี ชอบๆๆ

เอ่อ คุณ นายนพพร ไม่ใช่ร้านHung Lee อ่ะครับ ไม่เเน่ใจว่าร้านชื่ออะไร เรื่องร้านอาหารนี่เพื่อนผมเป็นคนจัดการครับ โทษทีครับ
สะพานเเดงอีกมุม เด่นดีจัง :)

ตัววัดใหญ่มากๆ โดยจะเเบ่งเป็น2ฝั่ง ฝั่งที่เป็นอาคารใหญ่ เเละฝั่งศาลาทอง ถูกเเบ่งด้วยถนน เเต่ทางวัดกทำลานลอยฟ้าเพื่อเชื่อมทั้ง2ฝั่งเข้าด้วยกัน

ถ้าใครชอบวัดสไตล์เรียบๆ สงบๆ คงหลงรักวัดนี้ได้ไม่ยาก ตอนผมไป คนไม่เยอะ อากาศเย็นกำลังดี เเถมวัดเปิดดนตรีเบาๆ สร้างบรรยากาศให้เคลิ้มกันเลยทีเดียว

ผมเดินเล่นในวัดนี้เกือบ 2 ชม มองไปมุมไหนก็สวยไปหมด สำหรับใครที่ชอบงานสถาปัตย์ งานlandscape หรือชอบวัด วัดนี้ไม่ควรพลาดอย่างเเรงครับ

เดินอ้อยอิ่งอยู่ในวัดนี้สักพักก็ได้เวลาต้องอำลาวัดนี้ เพราะผมมีดปรเเกรมตะลุยย่านCentral

ทิ้งท้ายวัดนางชีด้วยมุมสงบเล็กๆครับ

ตัดมาที่สถานที่เเห่งกิเลส....ย่าน Central นั่นเอง เเหล่งรวมร้านค้ามากมาย รูปนี้เป็นเพียง1ใน5รูปที่ผมถ่ายที่นี่ ส่วนเวลาที่เหลือ....ชอปครับ!!

ไปเที่ยวฮ่องกงด้วยคนครับ

หลังจากนั้นก็ไปทานห่านย่างที่ร้าน Zen ในห้าง Harbour City เข้าไปรอคิว สั่งอาหารเเล้วพบว่าห่านหมด! กรรมเลยสั่งอย่างอื่นมาทาน เเนะนำว่าร้านนี้หมูเเดง หมูกรอบ เเละเนื้อผัดพริกไทยดำอร่อยเทพ เเต่เมนู Soup of the dayไม่เเนะนำให้สั่ง เฟลสุดๆ
หลังจากทานอาหารก็กลับมาที่สถานี Central เพื่อที่จะไปขึ้น The Peak

เนื่องจากยังพอมีเวลาเหลือนิดหน่อย+เพื่อนผมหมดเเรงเดินขอนั่งพัก ผมเลยมีเวลาเเว่บไปถ่ายรูปตึกดังๆของฮ่องกง

นอกจาก Bank of China (ตึกซ้าย คห57) ซึ่งออกเเบบโดย I. M. Pei สถาปนิกชาวอเมริกัน เชื้อสายจีน(คนเดียวกะที่ออกเเบบพีระมิดเเก้วหน้าลูฟท์)ยังมีอีกตึกที่เด่นไม่เเพ้กันคือตึก HSBC ซึ่งออกเเบบโดย Sir Norman Foster

ตึกนี้ออกเเบบโดยเน้นประเด็นเรื่องการประหยัดพลังงาน เเละ......การเเก้เคล็ดด้านฮวงจุ้ย เนื่องจากBank of China ออกเเบบตึกเป็นรูปดาบ ทางHongkong Shanghai Bank จึงสร้างปืนใหญ่(จำลอง)หันพุ่งไปสู่อาคารคู่เเข่ง

โดยปืนใหญ่จะตั้งอยู่บนยอดตึก HSBC

นอกจาก2ตึกนี้ ตึกอื่นก็เเข่งกันอวดโฉมน่าดู

ใช่ว่าจะมีเเต่ตึกใหม่ๆ ย่านนี้เค้าก็มีตึกสไตล์อนุรักษ์นิยมอยู่เหมือนกัน

เดินพอหอมปากหอมคอก็กลับมารวมพลกับเพื่อนเพื่อเดินไปยังจุดขึ้นรถรางPeak Tram

คิวขึ้นรถรางยาวมากกกกกกกกก เเต่ใช้เวลาไม่นานเท่าไร สัก30 นาทีก็ได้ขึ้นเเล้วครับ :)

ขึ้นไปด้านบน เนื่องจากยังไม่มืด เเถมลมเเรง อากาศหนาว เลยไปนั่งหลบลมในstarbuck(ถ่อมากินถึงฮ่องกง -_-") รอจนฟ้าเริ่มมืด ค่อยขึ้นไปSky Terrace

ลมเเรงมากกกกกกก เเถมอากาศเย็นอีก เลยได้ใส่เสื้อที่เพิ่งซื้อมา 5555 คุ้มจริงๆ

วิวที่นี่สวยทีเดียว เสียดายอากาศเย็นไปหน่อย เลยอยู่ชมวิวนานๆไม่ไหว

ฮ่องกง มุมกว้างงงงงงงงงง

พอสักประมาณทุ่มกว่าๆผมก็นั่งรถรางลงกลับมาด้านล่าง

ลาThe Peak กันที่รูปนี้

เมื่อลงมาถึงด้านล่างผมก็เดินต่อไปย่านชอปปิ้งของCentral อีกครั้งเพื่อทานอาหารเยย็น

เนื่องจากเมื่อกลางวันพลาดห่านร้านZenมาเเล้ว ค่ำนี้เพื่อนเลยลากมาอีกร้าน ซึ่งน่าจะดังไม่เเพ้กัน เพราะรอคิว1 ชม กว่า -_-"

ในที่สุดก็ได้กินซะที รสชาติอร่อยดีทีเดียว เเต่ผมว่ารอนานเกิ๊นนนนนน

หลังจากทานเสร็จก็กลับมาเดินย่านที่พัก(จิม ซา จุ่ย)เป็นอันจบวัน

ร้านโจ๊กน่าจะเป็นร้านที่ตรงโนโวเทลนาธานครับ ร้านนี้เจ๊รับออเดอร์คุยไทยได้ ร้านเล็กๆมีโจ๊กกบ โจ๊กเป๋าฮื้อ อร่อยขั้นเทพ

โนโวเทลนาธาน อยู่จอแดน นะครับ

ถ่ายรูปสวยจังเลยคะ >////<

เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อนลากผมไปทานนกพิราบ เเต่ปรากฎว่า เมนูนี้ไม่มีขายตอนเช้า -_-" เลยได้กินอย่างอื่นเเทน หลังจากนั้นก็เดินเเถวจิม ซา จุ่ย ขนาดตอน 9โมงกว่า คนยังเยอะเลย ร้านเเบรนด์เนมทั้งหลายยังไม่เปิด เเต่คนก็เข้าคิวรอกันเเล้ว    เฮ้อ คนที่นี่นี่รวยเกิ๊นนนนนนนนนน

ผมเดินเล่นเลยมาถึงริมอ่าว ก็มาเจอโรงเเรมไฮโซ สวยดีเเท้

ด้านล่างสุดของโรงเเรมจะเป็น Plaza ที่มีร้านค้าสวยๆเยอะเเยะ เเถมตอนนี้เค้าเริ่มจัดร้านรับเทศกาลคริสต์มาสเเล้วด้วย ;)

ผมเดินเล่นที่นี่ได้สักพักก็กลับที่พัก เช็คเอาท์ เเล้วเดินทางไปขึ้นกระเช้านองปิง

ลาอ่าวฮ่องกงด้วยภาพนี้ครับ

จากจิม ซา จุ่ย นั่งรถไฟใต้ดินไปสุดสาย ใช้เวลาเกือบๆ40นาที ก็ถึงCity Gate Outlet รอเข้าคิวขึ้นกระเช้าอีกเกือบๆ ชม.ใครจะมาที่นี่ เผื่อเวลาไว้นิดนึงนะครับ

นั่งกระเช้าสักประมาณ 30 นาที ก็เริ่มเห็นองค์พระใหญ่ อยู่บนยอดเขา

พอลงจากกระเช้าจะเจอกับหมู่บ้านจีนโบราณ(เเบบจำลอง) ซึ่งภายในจะเป็นพวกร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก

ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงเทศกาลบอลลูนพอดี เลยมีเครื่องทำบอลลูนสบู่เป่าเต็มไปหมด สวยไปอีกเเบบ

เดินผ่านหมู่บ้านมาเรื่อบๆก็จะเป็นทางเพื่อนำไปสู่องค์พระใหญ่

เนื่องจากเวลามีจำกัด ผมเลยไม่ได้ขึ้นไปด้านบนขององค์พระใหญ่
หลังจากนั้นก้นั่งsubway กลับมาจิมซาจุ่ยเพื่อข้ามเรือเฟอรี่ไปยังมาเก๊า ปรากฏมัวโอ้เอ้ ตกเรือ ต้องรอขึ้นเรือรอบ 19.30 กว่าจะถึงมาเก๊า ผ่านตม. เดินหาที่พักก็ปาไป3ทุ่มกว่าเเหล่ว

สำหรับที่พักที่มาเก๊า ผมเลือกพักที่ New Nam Pan Hotel(ไปถึงกลางคืน เเต่ภาพนี้ถ่ายตอนเช้า)

ที่นี่อยู่ห่างจากคาสิโน เเกรนด์ ลิสบัว เเละเซนาโดสเเคว เเค่จึ๋งเดียว เดินไปทั้ง2ที่ได้สบายๆ

ที่พักให้อารมณ์เกสต์เฮ้าส์เล็กๆ เเต่ดูอบอุ่นดี มีมุมอินเตอร์เนตให้ใช้ด้วย บริเวณเคาท์เตอร์เช็คอิน

เเถมมีมุมอ่านหนังสือเล็กๆให้อีกด้วย วิธีการจองก็ไม่ยุ่งยาก เเค่ส่งเมล์ไปจอง เเล้วจ่ายเงินวันที่ไปถึง +ค่ามัดจำอีก 100MOP ซึ่งจะได้คืนตอนเช็คเอาท์

มีหลายคนคอมเมนท์ว่าห้องไม่สะอาดเเละมีกลิ่นบุหรี่ เเต่ห้องที่ผมพัก(ห้อง304)ไม่มีกลิ่นบุหรี่ เเละห้องน้ำสะอาดดี

เนื่องจากเพื่อนผมเมาเรือ เลยนั่งพักกันในโรงเเรมก่อน กว่าจะออกมาหาอะไรกินย่านเซนาโด ก็5ทุ่มจึงไม่มีอะไรกิน โชคดีไปเจอร้านนี้ เห็นคนรุมเยอะเลยขอลองซะหน่อย รสชาติอร่อยดี

หลังจากอิ่มท้องก็ขอเข้าคาสิโนหน่อยละกัน ซึ่งวันนี้ขอไปวัดดวงที่Casino Grand Lisboa

ผลการวัดดวง ได้กำไรมาประมาณพันนึง เฮะๆๆๆ

วันรุ่งขึ้นผมตื่นเเต่เช้าไปเดินเล่นเเถวซากโบสถ์เซนต์ ปอล

ผมเฉยๆกะที่นี่เเฮะ เลยใช้เวลาไม่นาน ก็ไปเดินเล่นดูตึกอื่นๆย่านเซนาโด

เเถวเซนาโดมีตึกสวยๆเยอะมาก เเถมยังสามารถเดินเข้าไปชมได้อีก เเหล่มเลย

ตึกนี้สวยดี สไตล์โปรตุกีสชัดมากกกกก

มุมมหาชนของเซนาโด สเเคว

หลังจากนั้น ผมเดินข้ามมาอีกด้านเพื่อมาชมตึกสวยๆหน้าWyne Casino

ตึกสวยๆหน้า Wyne อยากออกเเบบตึกได้เเบบนี้มั่งจังเลย

Casino Grand Lisboa เวอร์ชันกลางวัน ...อืม   กลางคืนสวยกว่านะ

หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมาที่พักเพื่อเช็คเอาท์

ตึกสวยๆย่านที่พัก

หลังจากนั้นผมก็เ้ดินทางไปVenetian (อีกรอบ)

โถงสวยๆของVenetian ที่นี่มีคนบอกว่าภาพวาดทั้งหมดบนเพดานจะเเฝงให้คนที่เข้ามาดวงซวย

ซึ่งก็น่าจะจริง เพราะผมเล่นที่นี่ตอนเเรกได้เงินมากมาย สักพัก เสียๆๆๆๆๆ จนเท่าทุน จึงต้องรีบเลิก ก่อนที่จะวอดวาย T_T

หลังจากอกหักจากคาสิโนก้มาเดินเล่นเเถวGrand Canalดีกว่า

คราวนี้ผมได้ลองชิมทาร์ตไข่ร้าน Lord's stow ที่มีสาขาอยู่ในVenetian ซึ่งเหมือนเดิม...ผมเเยกความเเตกต่างระหว่างที่นี่กับของป๋าต๊อบไม่ออก

หลังจากนั้นก้เดินทางไปซื้อของฝากที่หมู่บ้านไทปา

หน้าทางเข้าหมู่บ้านเจอ เเองกรี้ เเพนด้าซักผ้าอยู่ ตลกดี

พอซื้อของที่หมู่บ้านเสร็จก็เดินทางไปสนามบิน เเต่คราวนี้เจอเเท็กซี่กวน มันเก็บค่าเอากระเป๋าไว้ท้านรถใบละ3MOP ผมโดนไป9MOP -_-" เเถมส่งที่ชั้นผู้โดยสารขาเข้าอีก เซ็ง!!!

ผมขึ้นเครื่องกลับมาถึงไทยตอน4โมงเย็น พร้อมกับความคิดที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับเกาะเล็กๆ2เกาะนี้ เเละตั้งใจไว้ว่าจะต้องกลับไปอีกรอบให้ได้ :)

ถ่ายรูปสวยจังค่ะ น๊อตก็เพิ่งไปมาก่อนคุณไม่กี่วัน (ตอนที่ยังร้อนอยู่) ถ่ายรูปมาไม่เห็นมีสวยๆ งี้มั่ง แหะๆ

ตอนไปฮ่องกง ไม่ได้เดินช็อปฯ ย่าน Central Station เลยค่ะ เสียดายๆ (เวลาไม่พอ)
ส่วนที่มาเก๊า ตอนแรกน๊อตติดต่อ Nam Pan ไว้เหมือนกันค่ะ แต่เค้าตอบเมล์ช้าเลยจอง Sun Sun ไปซะแล้ว อดเลย - -"

Hong Kong น่าไปจริง ๆ

สวยครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

รีวิวสนุกดีคะ ชอบๆ

น้ำลายไหล อยากไปซะพรุ่งนี้เลยครับ

ถ่ายรูปมาได้สวยงามมากเลยค่ะ เห็นแล้วอยากกลับไปอีกครั้ง

รูปสวยมากค่ะ เห็นรูปเดอะพีคที่คุณถ่ายมาเราอายมากๆ แหะๆๆ เหมือนไม่ได้ไปที่เดียวกันเลย ของเราถ่ายออกมาแย่มาก

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ ไว้เดี๋ยวหลังวันรัฐธรรมนูญจะมารีวิวทริปโบรโมให้ชมเป็นการส่งท้ายปีครับ

ชอบมากเลยค่ะ ภาพสวยมากกกก

เข้ามาเก็บข้อมูล จะไปอีกครั้ง เดือนหน้าครับ กะว่าต้องเปลี่ยนแผนข้ามไปมาเก๊ามั่งดีกว่า ภาพสวยมาก ๆ ครับ