ย้อนอดีตกันเล็กน้อย:
วันที่ 1 (เสาร์ 5 พ.ย. 54) : Insadong (Ssamzigil) - Jogyesa - Hongdae - Yehadoye Guesthouse Review
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11360799/E11360799.html

วันที่ 2 (อาทิตย์ 6 พ.ย. 54) : Insadong - Heyri Art Valley - Dongdaemun Design Plaza & Park (DDP) - Insadong
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11377180/E11377180.html

วันที่ 3 (จันทร์ 7 พ.ย. 54) : Insadong - Haneul Park & Seoul World Cup Stadium - MMMG, Anguk Branch - Insadong
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11383494/E11383494.html

-----------------------------------------------------------------------------

วันนี้ตื่นเช้าค่ะ เพราะต้องเดินทางไกล (พอประมาณ) ไปนอกโซล
จริงๆ วางแผนจะไปวันเดียวกันกับ Heyri Art Valley แต่ก็มัวแต่เพลินที่ Heyri จนมืดค่ำ
วันนี้เป็นรอบแก้ตัว ต้องทิ้งโปรแกรมเที่ยวอื่นๆ เพื่อมุ่งหน้าไปที่นี่ค่ะ "Ilsan Lake Park"
ถามว่ามีอะไรพิเศษ ... ก็ไม่มี แต่ไม่ไปได้มั้ย ... ก็ไม่ได้ :P
รู้สึกว่าถ้าไม่ไปคราวนี้ ก็จะติดค้างอยู่ในใจไปอีกนาน ประมาณนั้นค่ะ

หากเวลาเหลือจากอิลซาน ก็ว่าจะไปตามรอย Coffee Prince ซักหน่อย
คราวนี้ไม่ใช่ร้านกาแฟที่ฮงแดนะคะ แต่เป็นคาเฟ่บนเนินเขา ที่อยู่ใน Buam-dong
ต้องออกแรงเดินขึ้นเขาไปประมาณ 1 กม. ... จะคุ้มค่าถ่อสังขารหรือไม่ ไว้ตามดูกันค่ะ ^^

# เว้นช่วงนาน พิมพ์ผิดตรึมเลย แฮ่ๆ

เริ่มต้นวันด้วย Insadong Daily เช่นเคย
วันนี้เห็นได้ชัดว่าใบแปะก๊วยสีเหลืองเริ่มร่วงเยอะขึ้น
มีใบไม้ที่กวาดไว้เป็นกองๆ ตลอดแนวถนนเลยค่ะ

ถ้าจะไป Ilsan Lake Park ให้นั่งรถไฟสาย 3 สีส้ม ไปที่สถานี Jeongbalsan ทางออกที่ 2 ค่ะ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที โดยบางช่วงจะมีวิวสวยๆ สองข้างทางให้ชมกันด้วย

พอออกจากสถานี สิ่งแรกที่ทำคือหาซื้ออะไรไว้รองท้องก่อน
ใกล้จะถึง Pepero Day (11/11/11) แล้ว ขออินเทรนด์กับเค้าหน่อยนะ
ส่วนนมกล้วยสุดฮิตเราไม่พิสมัย ขอเปลี่ยนเป็นนมสตรอเบอรี่แทนค่ะ

พอออกมาจากทางออกที่ 2 แล้ว ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ
จะเห็นที่จอดจักรยาน สะพาน และทิวสนอยู่ข้างหน้า
ให้เดินตามทางระหว่างทิวสนทั้งสองข้างไปเรื่อยๆ เลยค่ะ

ระหว่างที่เดินตามทิวสน ด้านซ้ายมือจะเป็นลานกว้างๆ สำหรับพักผ่อน
ส่วนขวามือจะเป็นห้าง Lotte ค่ะ ต่อมช้อปอย่าเพิ่งทำงานนะคะ ไปเที่ยวกันก่อนค่ะ

เดินต่อไปอีกนิด จะเห็นทางเข้าห้าง Lafesta หน้าตาแบบนี้อยู่ด้านขวามือค่ะ
ซีรี่ย์หลายเรื่องเคยมาถ่ายทำที่นี่ด้วยนะคะ ที่พอจะจำได้ก็มี Dream High และล่าสุดก็ Protect The Boss ค่ะ

ตามไปเที่ยวด้วยครับ

เดินมาสุดทางจะเป็นสะพานข้ามแยกค่ะ เราก็ข้ามไปได้เลย
หรือจะเลือกเดินข้างล่าง แล้วข้ามทางม้าลายไปก็ได้ค่ะ

# คุณเล็กทาโร่ : สวัสดีค่ะ ทานข้าวเย็นแล้ว ก็ไปเที่ยวด้วยกันต่อเลยค่ะ ^^

วันนี้วันทำงาน แต่รถราไม่เยอะเท่าไหร่ ดีจัง

ข้ามสะพานมาก็จะถึง Ilsan Lake Park เลยค่ะ
ดูสะอาด เรียบร้อย และกว้างขวางมากกกกก
เพราะที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่เกือบ 1 ล้านตารางเมตร
มีทะเลสาบสังเคราะห์ขนาดใหญ่เป็นไฮไลท์ และมีสิ่งน่าสนใจอีกเยอะเลยค่ะ

ทั้งสวนเล็กสวนน้อย ต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ลานกิจกรรม ที่นั่งปิคนิค
ทางสำหรับเดิน-วิ่ง และปั่นจักรยาน สนามกีฬาย่อยๆ สนามเด็กเล่น
รวมถึงน้ำพุแห่งเสียงเพลง หรือ Singing Fountain ที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง
ที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดงาน Goyang Korea Flower Show ซึ่งเป็นงานใหญ่ขึ้นชื่ออีกด้วย
เรียกได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่เหมาะสำหรับทุกวัยในครอบครัวจริงๆ ค่ะ

อุณหภูมิวันนี้ 10 องศา เย็นพอดีๆ ค่ะ ตรงนี้จะเป็นแผนที่บอกระยะทางของแต่ละจุด
ใกล้ๆ กันจะเป็นโบรชัวร์และแผ่นพับของ Ilsan Lake Park และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ตอนแรกว่าจะไม่เอาเพราะมีแต่ภาษาเกาหลี
แต่พอจ้องหน้าปกดีๆ อ้าว แก๊งค์เด็กๆ จากซีรี่ย์ Dream High นี่นา ... รีบคว้าเลย ^^

เดินดุ่มๆ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน เลยแวะพักกินนมกับป๊อกกี้เกาหลีที่ซื้อมาเมื่อกี๊
ที่นั่งพักแบบนี้เค้ามีอยู่ทั่วบริเวณสวนเลยค่ะ ถ้านั่งพักแล้วอยากทานอะไร
ใกล้ๆ นี้ก็มีพวกมินิมาร์ท หรือตู้หยอดเหรียญไว้บริการด้วยค่ะ

เงาสะท้อนสวยๆ จากน้ำใสๆ

ใสจนเห็นตัวปลาเลยค่ะ
ดูๆ แล้วน้ำไม่น่าจะลึกเท่าไหร่นะคะ

แท่นหินสลักสวยๆ ค่ะ อ่านได้แต่แปลไม่ออกอีกแล้ว

มองไปอีกด้านนึงบ้างค่ะ วันนี้ท้องฟ้าสดใสดีจัง

ตรงนี้มองไปจะเห็นประติมากรรมห่วงๆ ที่ตั้งอยู่ในลานกว้าง
ที่เราผ่านมาในตอนแรกค่ะ

ศาลาแปดเหลี่ยมที่เห็นนี้ดูเหมือนจะใกล้ แต่จริงๆ แล้ว ต้องเดินอ้อมไกลไปอีกฝั่งเลยค่ะ
ถ้าอย่างนั้นขอตัว ชมความงามจากแค่ตรงนี้ก็แล้วกัน :)

เมื่อวานนี้ที่ไป Haneul Park เราพลาดการลอดอุโมงค์โค้งๆ เพราะหาไม่เจอ
วันนี้ได้รางวัลปลอบใจเป็นอุโมงค์กุหลาบ (ที่ชอบยิ่งกว่า) ค่ะ

Rose Lover แบบเรา เจอกุหลาบพวงสวยๆ แบบนี้ แล้วก็ตื่นเต้นดีใจ
ถ้าปีนขึ้นไปดมกลิ่นหอมๆ ได้ คงปีนไปแล้ว 555

ตรงนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์ เรื่อง Brilliant Legacy ด้วยนะคะ
เป็นตอนที่นางเอก (น้องฮันฮโยจู) กับพระรอง (แพซูบิน) ไปปั่นจักรยานกันค่ะ
ส่วนพระเอกเรื่องนี้ก็คือหนุ่มน้อยอีซึงกินั่นเอง~

เดินจากซุ้มกุหลาบไปเรื่อยๆ ก็มาเจอมุมนี้ค่ะ ต้นไม้หลากสีได้ใจมากๆ

จากตรงนี้จะมองเห็นตึก MBC ด้วยค่ะ
ไม่รู้จะมีเวลาชะแว้บเข้าไปดูข้างในตึกได้หรือเปล่า
เผื่อจะเจอร่องรอยซีรี่ย์ Miss Ripley ของมิคกี้ที่อยู่ค่ายนี้บ้าง :P

เจอแผนผังของ Ilsan Lake Park แล้วค่ะ
ได้ความรู้ใหม่ว่า Hosu แปลว่า Lake ^^

กำลังจะเดินไปมุมอื่น แต่ก็สะดุดตากับมุมสวนเล็กๆ ใกล้กับแผนผัง
ใบไม้กำลังร่วงได้ที่ สวยเลยค่ะ

Ilsan-dong อยู่ใน Goyang-Si ค่ะ
ป้ายหรือสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเลยมีคำว่า Goyang อยู่ด้วย
แต่เจ้า Let’s Goyang เนี่ย ถูกใจเราที่สุดเลย

ตรงนี้สีเหลืองจริงจัง ทั้งข้างบนและข้างล่าง

ใกล้ๆ กันจะเป็น Goyang Flower Centerค่ะ
คุณทหารมาดเข้ม (แต่หน้าเด็ก) กำลังช่วยกันขนกระถางดอกไม้อย่างขะมักเขม้น
น่าจะกำลังเตรียมตัวสำหรับงาน Goyang Korea Flower Show ที่จะมีขึ้นต้นปีหน้าค่ะ

เดินจาก Goyang Flower Center มาทางขวามือ ก็จะเจอกับทิวสนสวยๆ ค่ะ

มีม้านั่งให้นั่งหย่อนอารมณ์กันเพลินๆ ด้วย

เดินลงบันไดไปดูส่วนอื่นๆ กันบ้างค่ะ
ดูเหมือนว่าใบไม้ที่นี่จะร่วงเร็วกว่าโซลเยอะเลยค่ะ
เจอแบบแห้งกรอบเต็มไปหมดเลย

ตามมาดูต้นไม้สวยๆ

จริงๆ จะมีสะพานไม้โค้งๆ ยื่นเข้าไปในทะเลสาบด้วยค่ะ
แต่เห็นว่ามีรั้วกั้นไว้ เลยเข้าไปไม่ได้
อาจเป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัยมั้งคะ

เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอป้ายนี้ เอ๊ะ โกฮเยมีกับจินกุ๊กจาก Dream High
เคยมานั่งคุยกันตรงนี้ด้วยเหรอ? สงสัยคงต้องกลับไปดูซีรี่ย์อีกรอบแล้วมั้ง
เพราะทั้งเรื่องมัวแต่ดูเจสัน (น้องอูยอง ณ 2PM) 555

# i_like_reading : ตามสบายเลยนะคะ แต่ใบไม้ของจริงสวยกว่านี้มากค่ะ

สะพานนี้ ... ที่อยู่ในรูปเมื่อกี๊

ลายเพ้นท์รูปดอกไม้สวยๆ ค่ะ มีนายแบบรุ่นเดอะนั่งอยู่ด้วยหนึ่งคน ^^

มองทะลุไปอีกฝั่ง ก็มีลายดอกไม้เหมือนกันค่ะ

มองย้อนกลับไปบ้าง สะพานโค้งๆ แบบนี้ก็สวยดีนะคะ

หากต้องการจะเดินไปอีกฝั่งของทะเลสาบ ก็ข้ามสะพานไม้นี้ไปได้เลยค่ะ

แต่เราเดินมาเยอะมาก พลังและเวลา ไม่เหลือพอจะไปต่อแล้ว
เลยได้แต่ชะโงกมองฝั่งตรงข้ามจากตรงนี้แทนค่ะ ~.~

เส้นทางสวยๆ สำหรับเดิน-วิ่งออกกำลังกายค่ะ

หรือจะปั่นจักรยานเหมือนหนุ่มโจ๋คนนี้ก็ได้
(หน้าคล้ายน้องแทยัง - บิ๊กแบง เวอร์ชั่นมีหนวด ^^)

สวยไล่สี สดใสมากๆ ค่ะ

เปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีชมพู

มองไปไกลๆ เห็นอภิมหาก้อนหินมากมาย
ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่เราคงจะไปไม่ถึงค่ะ

แวะนั่งและก็ชื่นชมกับใบไม้ร่วงๆ อีกแล้วค่ะ

ใบอะไรไม่รู้ แต่สีสวยสดดีจัง

ใบไม้ยังต้องหลบ ยอมสยบให้กับสีเสื้อของป้าๆ ^^

เหมือนจะไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่ก็ใช้เวลาเพลินอยู่ที่นี่เกือบสี่ชั่วโมงแล้วค่ะ
ได้เวลาอำลา Ilsan Lake Park ด้วยประโยคนี้ “IMPOSSIBLE IS NOTHING”
จริงๆ นะ ...อย่าคิดว่าเราทำอะไรไม่ได้ เพราะขนาดคนขี้กลัวและขาดความมั่นใจอย่างเรา
ยังมาเที่ยวคนเดียวได้เลย เพราะฉะนั้นใครที่ยังกั๊กๆ ไม่แน่ใจ ก็ใส่เกียร์ห้าเดินหน้าได้เลยค่ะ!

ทีแรกว่าจะเดินกลับทางตึก MBC เผื่อว่าจะแวะดูอะไร
แต่สมองแก่ๆ ก็สั่งการให้มุ่งหน้ามาทางเดิม จะย้อนกลับไปก็ไกลได้อีก -*-

ระหว่างเดินข้ามสะพาน เจอสวนเล็กๆ ที่อยู่ด้านล่าง
ใบไม้ร่วงไปเยอะแล้ว แต่ที่เหลือบนต้นก็ยังสวยอยู่

หน้าตาใบสนเกาหลีเป็นแบบนี้เองสินะ
ของบ้านเราที่เคยเห็น เป็นเส้นๆ แต่ไร้ใบ

แต่การมาทางนี้ ทำให้ได้เห็นทิวสนสีสวยๆ
(และนายแบบ-นางแบบรับเชิญ) แบบนี้
ก็พอจะชดเชยได้บ้างนะ

มุมจักรยานดูจะหนาแน่นกว่าตอนขามานิดหน่อย
เข้าไปด้อมๆ มองๆ ลองศึกษาว่าเค้าใช้งานกันยังไง
สุดท้ายจนปัญญาเพราะอ่านภาษาเกาหลีไม่ออก ... กลับดีกว่า --"

ขากลับนั่งรถไฟสาย 3 สีส้ม จากสถานี Jeongbalsan ไปที่สถานี Gyeongbokgung ได้เลยค่ะ
เรากำลังจะไปปีนเขากันพอหอมปากหอมคอ และตามรอยซีรี่ย์ Coffee Prine ที่ Buam-dong ค่ะ

ระหว่างเดินไปที่ทางออก 3 มีนิทรรศการ Seoul Good Sign Exhibition ให้ดูกันด้วยค่ะ
เท่าที่ดูรูป ป้ายแต่ละร้านก็ออกแบบได้เก๋และสวยงามสมกับที่ได้รับรางวัลค่ะ
ป้ายของ Sangsang Madang ตึกดีไซน์เก๋ย่านฮงอิก ก็ติดอันดับด้วยนะคะ

ระหว่างทางที่รถแล่นไป ก็อดจะตื่นเต้นไม่ได้
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มาเที่ยวแปลกที่แปลกทางแบบนี้ แถมยังมาคนเดียวซะอีก
แบบว่าอ่านเจอข้อมูลปุ๊บ ก็ทำการบ้าน ปะติดปะต่อโน่น นี่ นั่น อย่างจริงจัง

สุดท้ายก็มาจนได้ ... ลงรถบัสที่ป้ายนี้เลยค่ะ

มองจากป้ายรถบัสไป จะเห็นตึกรามบ้านช่องใน Buam-dong ค่ะ
แม้จะอยู่ห่างโซลแค่ 15 นาที แต่ก็ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
อากาศและบรรยากาศก็ดีมากๆ เลยค่ะ ^^

แม้ว่าวิถีชีวิตส่วนใหญ่จะยังเรียบง่ายแบบดั้งเดิม
แต่ก็จะมีร้านฮิปๆ เก๋ๆ ให้เห็นอยู่เป็นระยะค่ะ

ร้านที่อยู่บนถนนเส้นนี้ สีสันสดใสมาก

ป้ายร้านน่ารักๆ กับใบแปะก๊วยบนทางเท้า

ร้านดอกไม้สวยๆ ค่ะ คนจัดดอกไม้ก็สวยไม่แพ้กันเลย

คาเฟ่สีหวาน ที่เป็นทั้งร้านกาแฟและร้านเย็บปักถักร้อย

ร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของที่นี่ค่ะ

แต่เราจะแวะกันที่ร้านนี้ค่ะ
เอ้าเชียร์กันหน่อย เอ้ากินกันหน่อย ... กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ

ร้านนี้มีดีอะไรเหรอคะ? คำตอบ คือ “ไก่ทอด” ค่ะ
เราจะมากินไก่ทอดที่เค้าว่ากันว่า ถ้าไม่ได้กินก็มาไม่ถึง Buam-dong กันค่ะ
อะไรจะขนาดนั้น ต้องลองซะหน่อยแล้ว ว่าแต่ ... ไหงเมนูมีแต่ภาษาเกาหลีล่ะค่ะ โอโตเค~

ว่าแล้วก็หันไปมองโต๊ะข้างๆ ฮั่นแน่ มีไก่ด้วยแฮะ
เลยกวักมือเรียกพี่พนักงานผู้ชาย
ชี้ไปที่ตะกร้าไก่ทอด แล้วก็บอกว่าเอาแบบนี้ที่นึง!

ระหว่างรอก็จะมีเสียงแว้ดๆ อิโล้งโช้งเช้งดังมาจากห้องครัว
ช่องที่มีกระดานสีน้ำตาล และผ้าสีดำๆ นั่นล่ะค่ะ
คาดว่าจะเป็นเสียงเจ๊ใหญ่ประจำร้าน
ถ้าใครเคยไปทานก๋วยเตี๋ยวลุงว้ากที่ตลาดหลังมช.
ก็ประมาณนั้นเลยค่ะ --"

ผ่านไปเกือบ 15 นาที ไก่ทอดของเราก็มาเสิร์ฟค่ะ
แต่ว่า ... มาเป็นตะกร้าบิ๊กไซซ์เลยทีเดียว
เลยถามเค้าว่าอันนี้คือรายการไหนในเมนู
พอเค้าชี้ให้ดูก็เห็นราคาว่า 20,000 วอน
พระเจ้า!!! ไก่ตะกร้านี้ราคาเกือบ 600 บาท!!!

แล้วมาแค่ไก่ เค้าคงกลัวจะไม่อิ่มมั้ง
เลยแถมมันฝรั่งทอดชิ้นโตๆ คละเคล้าเข้ามาอีก
อืม หนูกินคนเดียวนะคะป้า Y_Y

แต่ต้องยอมรับว่าไก่ทอดเค้ารสชาติดีจริงๆ ค่ะ
แบบว่าหมักได้เข้าหนัง เข้าเนื้อ เข้ากระดูกดำเลยทีเดียว
แล้วน้ำจิ้มก็เด็ดมาก แถมยังมีเครื่องเคียงเป็นหัวไชเท้าดองชามโตอีก
งานนี้อิ่มอืด จนต้องขอห่อกลับบ้านเลยค่ะ ใครจะว่างกก็เหอะ เสียดายอ่ะ

ส่วนเรื่องที่เจ๊เค้าเสียงดัง จริงๆ แล้วไม่มีอะไรหรอกค่ะ
เป็นธรรมชาติแบบนั้นเอง เพราะพอมาเห็นตัวเป็นๆ
ปากเค้าก็พูดอะไรไป แต่มือก็มาช่วยจัดถ้วยจัดชาม ดูแลลูกค้าทุกโต๊ะมิได้ขาด
พอกินเสร็จและจ่ายเงินแล้ว เราก็เลยทำใจกล้าขอถ่ายรูปด้วยซะเลย
ปรากฏว่าเจ๊แอ๊บทำท่าสู้ตายค่ะซะงั้น 555

พอท้องอิ่มก็มีแรงเดินต่อค่ะ
คาเฟ่ที่เราจะไปตามรอยเรื่อง Coffee Prince นั้น
ชื่อ Sanmotoonge แปลว่า Corner of the Mountain ค่ะ
จึงมิแปลกใจเลยว่าทำไมถึงต้องปีนเขาขึ้นไป

เราเดินไปตามทางตรงกลาง ที่ลูกศรแดงชี้เลยค่ะ

ระหว่างทางก็จะเจอป้ายชี้ไปสถานที่ต่างๆ
อย่าง Art for Life นี้ก็จะเป็นแกลเลอรี่และร้านอาหารค่ะ

เดินขึ้นมาอีกนิด ก็จะเจอมุมต้นไม้สวยๆ ค่ะ

ตรงนี้เป็นสตูดิโอ

เจอป้ายชี้ทางไปคาเฟ่ของเราแล้วค่ะ ^^

คาเฟ่ Soon ที่เราหวังว่าจะได้มาเก็บตกในไม่ช้าค่ะ

Art for Life อยู่นี่เอง เค้าประยุกต์บ้านแบบโบราณ
ให้เป็นแหล่งงานศิลป์สมัยใหม่ ได้ลงตัวดีค่ะ

ลายแทงบนกำแพง ที่เราแปลความหมายไม่ออก แฮ่ๆ

เห็นบ้านรั้วอลังการหลังนี้ แสดงว่าใกล้จะถึงที่หมายแล้วค่ะ

มารอติดตามชมรีวิวด้วยคนครับ

มองไปด้านซ้ายมือ จะเห็นภูเขาและกำแพงกรุงโซลทอดยาวเป็นแนว
ใครสนใจจะเดินเขาก็ตามสบายเลยนะคะ ถ้ายังแรงดี มีพลังไม่อั้น
ส่วนเราเหนื่อยตั้งแต่เห็นแล้วค่ะ -"-

เดินผ่านโค้งสุดท้าย แล้วตวัดมาทางซ้ายเล็กน้อย
เราก็จะเจอกับ Sanmotoonge Cafe & Gallery แล้วค่ะ
สาวก Coffee Prince เริ่มคุ้นกันบ้างหรือยังคะ
ตรงนี้คือบ้านของพี่ชายพระเอกที่นางเอกของเรามาส่งของ
แล้วแวะเล่นกับหมาน้อยหน้าบ้านนั่นเองค่ะ

# คุณ Destiny-Boy : รีวิวนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ เดินอย่างเดียวเลย ^^

ตุ๊กตาปูนปั้นและของเล่นตรงลานหน้าคาเฟ่ค่ะ

เข้าประตูไปก็จะเจอมุมต้อนรับนี้ก่อนเลย
ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ Coffee Prince ที่มาถ่ายทำที่นี่นะคะ
แอบเห็นรูปพี่ซงซึงฮยอนด้วยอ่ะ

เดินเข้ามาอีกหน่อย มุมนี้ Coffee Prince ล้วนๆ ค่ะ ^^

ด้านในซ้ายมือจะเป็นเคาน์เตอร์สั่งอาหารและเครื่องดื่มค่ะ
แต่เรากวาดสายตาอย่างรวดเร็ว แล้วไปจองที่นั่งก่อนเลย
แล้วก็ได้ที่นั่งตรงนี้ มีวิวข้างหน้าเป็นภูเขา Bugaksan มั้งคะ (ถ้าจำไม่ผิด)
แล้วบนโต๊ะก็มีรูปน้องยุนอึนเฮ-นางเอกกับพี่ชายพระเอกด้วย เริ่ด!
(มัวแต่ลืมตัว เลยไม่ได้ถ่ายรูปเคาน์เตอร์ซะงั้น -*-)

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ นะคะ

เห็นแล้วอยากไปเกาหลีอีกจังเลยค่ะ ^_^

เราสั่งคาปูชิโน่เย็นกับบลูเบอรี่ชีสเค้กค่ะ
ค่าเสียหาย 11,000 วอน แต่อาหารออกมาหน้าตาดี และรสชาติดีด้วยค่ะ
ร้าน Coffee Prince ที่ฮงแดรสชาติสู้ไม่ได้เลยค่ะ (ขอโทษที่ต้องตรงๆ นะ)

ดูพวกเบอรี่ของเค้าซะก่อน
มาแบบสดๆ เป็นลูกๆ เลยค่ะ คุ้มค่ามากกกก

# คุณ August Rush : เกาหลีนี่ไปแล้วติดใจเกือบทุกคนเลยนะคะ
เราเองก็อยากไปอีกค่ะ แต่ไม่รู้จะเป็นไปได้หรือเปล่า ~_~

กับแกล้มก็น่าสนใจ ^^

กินอาหารพร้อมทั้งลมชมวิวเรียบร้อยแล้ว
ก็ถึงเวลาเดินสำรวจร้านให้เต็มอิ่มบ้างค่ะ
เริ่มจากมุมนี้เลย ... รูปถ่าย ลายเซ็น และของเล่นต่างๆ ค่ะ

อีกมุมนึงใกล้ๆ กันค่ะ

เดินไปดูวิวธรรมชาติด้านนอกบ้าง
อากาศเย็นสบายมากๆ เลยค่ะ
เท่าที่ดูๆ มีหนุ่มสาวในชุดทำงานมาที่นี่กันเยอะเลยนะคะ

เดินต่อมาอีกโซนนึงค่ะ
ตรงนี้มองไปจะเห็นวิวภูเขาและกำแพงกรุงโซล
ที่เราเห็นตอนเดินขึ้นมาค่ะ

แต่ด้วยความที่เราชอบมองไปทั่ว ทุกทิศทาง เราเลยเจอนี่ค่ะ ...

กรี๊ด ... ปิดตาเวลาดูพี่กงยูด้วยนะคะ (จะโดนเซ็นเซอร์หรือเปล่าเนี่ย)

วิ่งเขินคุณพี่กงยูขึ้นไปชั้น 2 ดีกว่า >.<

มีรูปฉากในละครติดไว้ให้ย้อนนึกถึงอดีตหลายมุมเลยค่ะ

ตรงนี้เป็นห้องที่พี่ชายพระเอกใช่แต่งเพลงใช่มั้ยเอ่ย
จำไม่ค่อยได้แล้วค่ะ ... 4 ปีแล้วนะ

ใช้เวลาอยู่ชั้น 2 พอสมควรแล้ว
ก็เดินลงไปดูแกลเลอรี่ที่ชั้นใต้ดินกันค่ะ

แต่พอลงไปปรากฏว่าส่วนที่เป็นแกลเลอรี่ไม่เปิดค่ะ
เศร้า คอตก เหมือนเจ้าตุ๊กตาตัวนี้เลย ~~

แต่เท่านี้ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการปีนเขาขึ้นมาแล้วค่ะ
อย่างน้อยได้นั่งจิบกาแฟ นึกถึงโมเม้นท์น่ารักๆ ในละคร
แล้วก็ทำให้ยิ้มได้ค่ะ

ขากลับก็เดินลงทางเดิม ดูวิวสวยๆ ยามเย็นกันค่ะ

เดินเลาะถนนเส้นนี้ไปเรื่อยๆ
ผ่านหน้าร้าน Cheers และอื่นๆ เหมือนตอนขาขึ้นค่ะ

เราจะไม่เดินย้อนไปทางร้านที่มีสีสันสดใสแล้ว
แต่จะไปทางตรงกันข้ามค่ะ โดยข้ามถนนไปฝั่งที่เป็นร้าน Club Espresso
อีกหนึ่งร้านกาแฟชื่อดังของ Buam-dong แล้วเดินต่อไปอีกนิดค่ะ

ตรงนั้นจะมีบันไดขึ้นไปชมกำแพงกรุงโซลบางส่วนที่พาดผ่าน
และชมวิวสวยๆ จากมุมสูงค่ะ ลอดซุ้มใบไม้เหลืองตรงนี้ขึ้นไปเลยค่ะ

จากตรงนี้จะเห็นภูเขาและบ้านเรือนที่อยู่ด้านล่างค่ะ
ขวามือ (ตกเฟรม --") จะมองเห็น N Seoul Tower ด้วยค่ะ

พอเดินกลับลงมาข้างล่าง ก็จะเจอประตู Changhuimun
ประตูสำคัญอีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นเส้นทางผ่านของการเดินชมกำแพงกรุงโซลด้วยค่ะ

เลี้ยวขวาจากมุมที่เห็นประตูเมื่อสักครู่ไปไม่ไกล
ก็จะเป็นป้ายรถบัสสีเขียวที่จะพาเรากลับโซลค่ะ
รอรถไม่นานค่ะ เพราะมีรถวิ่งวนตลอดเวลา

รถบัสพาเรามาส่งที่ป้าย ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับขาไป
เราก็เดินต่ออีกนิดหน่อย เพื่อหาทางลงไปซับเวย์ค่ะ

อยากกินส้มจัง >.<

เรานั่งรถไฟจากสถานี Gyeongbokgung ไปที่สถานี Anguk
เพื่อเอาไก่ทอด (ที่ป่านนี้คงไม่กรอบแล้ว) ไปเก็บที่ห้องก่อนค่ะ
แล้วค่อยมุ่งหน้าไปที่เป้าหมายต่อไป ... Myeongdong!

จากนั้นก็ต่อรถไฟสาย 4 สีฟ้าไปลงที่สถานี Myeongdong
ทางออกประจำแน่นอนว่าต้องเป็นทางออกที่ 6
ขอแวะไปอัพเดทข่าวสารในฐานะแฟนคลับซักเล็กน้อยค่ะ

อันยอง กึนซอกอ่า~ ชินฮเยอ่า~
น่ารักทั้งคู่เลยอ่า

แล้วนี่ก็คือร้านประจำ มาทีไรต้องได้อะไรติดไม้ติดมือไปทุกทีสิน่า
ของเค้าเยอะ น่ารัก น่าลุ้น ทุกอย่างเลยค่ะ ^^

จริงๆ แล้ว เป้าหมายในการไปมยองดงครั้งนี้
คือ การไปถ่ายรูปโบสถ์มยองดงค่ะ
ไปมาสามครั้ง ไม่เคยจะได้ยลโฉมซักที
ไปคราวนี้ แม้จะมืดตึ๊ดตื๋อก็จะไม่ยอมแพ้ค่ะ ขอแค่เห็นหลังคาก็ยังดี

แต่พอก้าวเท้าเข้าถิ่นมยองดงปุ๊บ ก็เจอ 3 หนุ่มนี้ สกัดดาวรุ่งอีกแล้ว
แหม ไม่เจอกันซักวันก็ได้นะตัว อิอิ

หลังจากตัดกิเลสจาก JYJ ฝ่าดงแท็กซี่ ขี้เมา ความมืด ฯลฯ ได้แล้ว
ก็ได้ยลโบสถ์มยองดงเป็นบุญตาแล้วค่ะ สวยงามสมคำร่ำลือจริงๆ
กลางคืนมีแสงไฟประดับ แต่กลางวันก็คงสวยไปอีกแบบค่ะ

มุมมองจากด้านข้าง โดดเด่นเป็นสง่ามากค่ะ

เห็นหนุ่มสาวคู่นึงเดินเข้าประตูไปข้างใน ก็เลยเดินตามเค้าไปแบบเนียนๆ
พอเข้าไปก็มีเสียงเพลงสวดช้าๆ เย็นๆ ค่ะ นอกนั้นคือความเงียบสงบล้วนๆ
ข้างในสวยมากค่ะ แต่สารภาพว่าแอบเกรงๆ บรรยากาศนิดนึง
เลยขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถ่ายรูป แล้วก็รีบออกมาอย่างรวดเร็ว

มองผ่านโถงประตูด้านนอก

หลากหลายแสงสี จากฝั่งตรงข้ามโบสถ์

เดินกลับเข้าสู่มยองดง ก็เจอเจ้ามันฝรั่งทอดเป็นเกลียวๆ ค่ะ
จริงๆ แล้วเราตั้งใจจะถ่ายป้าย ABC Mart ไว้เตือนความจำ
ว่าทางไปโบสถ์ต้องผ่านห้างนี้

แต่คนขายมันฝรั่งทอดคงกลัวเราจะก๊อปตัวสินค้า ไปทำขายแข่งมั้ง
ก็เลยเดินหน้าดุเข้ามา ท่าทางหาเรื่อง เอามือปัดๆ หน้ากล้องเรา
ดูจากในรูปจะเห็นเลยว่าจ้องกันเป็นหมู่คณะเลยทีเดียว

ก็ดีเหมือนกันที่เห็นหน้า เราจะได้จำไว้และจะไม่อุดหนุนร้านนี้เลย
ไม่ว่าจะไปตั้งทำเลที่ไหนในมยองดงก็ตาม ข้อหาทำตัวไม่น่ารัก!

เจอร้านเมื่อกี๊ ทำเอาคนบ้ากล้องอย่างเราทำตัวไม่ถูก
จะถ่ายรูป ก็เกร็งว่าจะโดนแบบเมื่อกี๊อีกมั้ย

หวังว่าน้องคนสวยคงจะไม่ว่าอะไรนะ เสื้อร้านน้องน่ารักดีอ่ะ

ไม่ถ่ายสินค้า ถ่ายแต่พรีเซ็นเตอร์ก็ได้เอ้า ใครจะว่าเราอีกมั้ย

แต่พี่วอนบินเข้าใจหนูใช่มั้ยคะ?

หนูจุงกิ ลงไปทำอะไรข้างล่างคะ
ขึ้นมาโชว์หน้าหล่อๆ เร้ว

ทักทาย JYJ กับน้องกึนซอกอีกรอบ
คราวนี้มีน้องฮาร่าคนสวยมาแจมด้วย

อ๊ะ เมื่อกี๊เจอ 3 ตอนนี้เดินมาเจออีก 2 ... ครบ 5 แล้วจ้า ^^
(ใครที่มิใช่แฟนคลับโปรดข้ามตรงนี้ไปได้เลยค่ะ แค่เวิ่นเว้อไปวูบนึง ~.~)

ปิดท้ายการช้อปปิ้ง (พรีเซ็นเตอร์สินค้า) ที่มยองดง ณ ร้าน Evisu ค่ะ
แทคยอนกับอูยอง ณ 2PM เท่กินกันไม่ลงเลยนะจ๊ะ

จากนั้นก็เป็นการเดินชมแสงสีของตึกต่างๆ ตอนกลางคืนค่ะ
เริ่มจาก Lotte Young Plaza ที่สดใสไม่เบา

ห้าง Shinsegae และน้ำพุ ที่ประดับไฟสีนวลสวย

ตึก Korea Post ในมุมเงย แบบใกล้ชิด

ปิดท้ายด้วยแสงไฟที่สวยที่สุดในคืนนี้
N Seoul Tower นั่นเองค่ะ ^^

คืนนี้คงกลับที่พัก เก็บของให้เรียบร้อย
เตรียมตัวเที่ยวส่งท้ายในวันพรุ่งนี้ค่ะ
ไม่ได้ไปที่ไหนเป็นพิเศษ เพราะลุยมาเต็มที่แล้ว
คงจะเดินเล่น เก็บตกสถานที่ที่เคยคุ้นมาบ้างแล้ว

ที่ลุ้นๆ หน่อย คงจะเป็นการตามรอยซีรี่ย์ Heartstrings
ที่ Bukchon Hanok Village ค่ะ

คืนนี้นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์
แล้วเที่ยวต่อด้วยกัน ในวันอำลานะคะ~

ขอบคุณนะคะสำหรับรีวิว ..แถวอิลซานน่าไปจังเลยค่ะ

#74
고진감래 แปลว่า เมื่อความทุกข์หมดไปแล้วความสุขก็จะเข้ามาค่ะ
เดินขึ้นเขาเหนื่อยๆ แต่พอไปถึงยอดเขาเจอทิวทัศน์ที่สวยงามก็หายเหนื่อย ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยครับบ

Aigoo ... คุณหัวหอมพาไปเที่ยวแบบ unseen ตลอดเลย เก่งจังเลยครับ ขอชมจากใจจริงๆ เริมจากที่แรก Ilsan Lake Park ทั้งๆที่ผมดู BL แท้ๆ แต่ลืมไปละว่ามีฉากที่นางเอกไปขี่จักรยานกับพระรองในสวนด้วย เพราะเรื่องยาว และดราม่ามาก (แต่ชอบมากๆเช่นกัน อิอิ) ส่วนเรื่องอื่นๆที่คุณหัวหอมเอ่ยมาที่เหลือ ไม่เคยดู อิอิ


เว้นแค่ Coffee Prince ที่ชอบบ้านพระรองตั้งแต่ดูซีรีส์แล้วล่ะครับ ตอนถ่ายละครบ้านสวยมาก ตอนนี้ก็สวยนะ แต่ว่าพอเป็นร้านกาแฟแล้วมันดูไม่สงบ ไม่โรแมนติกเหมือนในหนังเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม น่าไปตามรอยรำลึกถึงซีรีส์เรื่องนี้อยู่ดี เพราะสองข้างทางก่อนถึง ร้านก็แนวและน่ารักไม่น้อยครับ ^^


รอชมตอนหน้าต่อนะครับ อย่าเพิ่งรีบจบรีวิวเลย

ขอบคุณ สำหรับรีวิวนะค่าา  :)

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวย ๆ นะคะ

อยากไปบ้างค่ะ แต่ยังไม่มีโอกาสเลย

เป็นสาวก ลีจุนกิ ค่ะ กะว่าจะไปตามรอย อิลจิแม

# คุณ uhoo_dolphin : ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ อิลซานเป็นเหมือนเมืองใหม่ค่ะ
เหมือนจะไกลแต่ก็มีอะไรครบครันไม่น้อยกว่าโซลเลยค่ะ โดยเฉพาะสถานี MBC, SBS
เดินๆ เล่นแถวนั้น อาจได้เจอดารากำลังถ่ายละครอยู่ก็ได้ :)
ขอบคุณสำหรับคำแปลด้วยค่ะ ความหมายดีจังเลย ^^

# คุณสายลมแห่งวิงค์ : ยังคงติดตามอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณนะคะ

# คุณ Ms.Simple : ขอบคุณที่ติดตามอ่านเช่นกันค่ะ ^^

# คุณ thiya-nurse : ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ
เป็นแฟนของพ่อหนุ่มหน้าหวาน ยิ้มสวย นี่เอง
ขอให้ได้ไปตามรอยอิลจิแมในเร็ววันนะคะ


# คุณกาแฟ : อะโห คุณกาแฟขา ขออนุญาตลอยก่อนนะคะ~
ได้รับคำชมจากผู้รู้ลึก รู้จริง ลองและลุยมาเยอะ แบบคุณกาแฟ
แล้วก็รู้สึกปลื้มมากๆ ค่ะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านและให้คำแนะนำหลายๆ อย่างด้วยนะคะ _/l\_

เรื่องสถานที่ต่างๆ นั้น ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่เค้าเคยไปเที่ยวแล้วรีวิวไว้ค่ะ
เราอ่านเจอแล้วรู้สึกว่าอยากลองไปดูบ้าง และก็พยายามหาข้อมูลให้เยอะที่สุดค่ะ
และเมื่อเราไปมาแล้ว ก็อยากกลับมารีวิวให้เพื่อนๆ อีกต่อนึง
เผื่อว่าใครมีโอกาส จะได้ไปลองเที่ยวในที่แปลกใหม่ดูบ้างค่ะ
เป็นการส่งต่อประสบการณ์และความสุข ประมาณนั้นค่ะ ^^

ส่วนรีวิวทริปนี้ แม้ไม่อยากให้จบ แต่ก็ต้องจบค่ะ
เพราะไปเร็ว มาเร็ว แค่ไม่กี่วัน T_T
ถ้าชีวิตไม่ต้องทำอะไร คงจะล่องลอยอยู่ในโซลและเกาหลีอีกนานเลยค่ะ~

ตามคุณ Onion Admirer ไปเที่ยว Ilsan ด้วยคน
พรุ่งนี้ไปเที่ยวสถานที่ถ่ายทำบ้านนางเอกและพระเอกใน Heartstrings ใช่มั้ยคะ
แล้วได้ไป Trick Eye Museum ด้วยมั้ยคะ เห็นในซีรี่ย์แล้วน่าไปมากๆ *0*

# คุณ iam_miw : ใช่แล้วค่ะ พรุ่งนี้จะพาไปบ้านลีกยูวอนกับลีชินค่ะ ^^

ส่วน Trick Eye Museum ที่ฮงแดเราไปมาแล้วเมื่อทริปก่อนค่ะ
พอดูอีกที เราว่า Trick Eye Museum ใน Heartstrings น่าจะเป็นที่เชจูค่ะ
เพราะรูปคล้ายกันมาก แต่บางอันเราว่าเราไม่เห็นที่ฮงแดนะคะ

ภายสวย วิวสวยมากเลยค่ะ แต่ดูแล้วเหนื่อยจริงๆ ไปเกาหลีต้องทำใจกับการเดินจริงจัง ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ เห็นแล้วอยากไปเดินเที่ยวแบบนี้บ้าง บรรยากาศสวยมากๆ

ติดตามรีวิวของคุณOnion Admirerมาตั้งแต่  
วันที่ 1 ละ แต่ละที่ที่คุณ Onion Admirer ไป
น่าสนใจมากเลยค่ะ อยากจะตามรอยไปบ้างจัง
รูปที่คุณถ่ายก็ออกมาสวย ทำให้ยิ่งอยากไปเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับ รีวิว อันนี้มากเลยนะค่ะ

ปล. เราก็เป็นสาวก เจวายเจ เหมือนกัน อิอิ

รูปสวยมากๆค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะอีกรอบนะคะ
แอบมีสาวก JYJ ด้วย ดีใจๆๆ :)

ฝากรีวิววันที่ 5 ไว้ด้วยค่ะ ส่งท้ายแล้วนะคะ ^^
Bukchon Hanok Village (Heartstings & Personal Taste) -
Samcheongdonggil - Gwanghwamun Plaza - Cheonggyecheon (Lantern Festival) -
City Hall & Seoul Plaza - Change of Royal Guards @ Deoksugung -
Jeongdonggil & Seoul Museum of Art - Insadong - ICN - BKK
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11417773/E11417773.html