เมื่อรัตติกาลที่หนาวเหน็บ กับอุณหภูมิ เพียงแค่ 9 องศา ผ่านพ้นไป
ผมตื่นนอนเวลาตี 4 เพราะอากาศหนาว

แล้วก็ได้ยินเสียง "พี่ตุ๋ม" ซึ่งเป็นคนนำทางของพวกเรา มาปลุก
จะพาขึ้นยอดกิ่วลมฝั่งขวา เพราะว่ามีของสวยงาม ให้พวกเราได้ถ่ายรูปกันเยอะ

ณ เวลานั้น ความสวยงามเป็นอย่างไร พวกเรายังไม่ได้คาดคิด เพราะความงัวเงีย
ทำให้ออกมายืนล้อมวงกันหน้าเต๊น สั่นงั๊ก ๆ

ฝากความ ก่อนความงามของเชียงดาว จะโดนย่ำยี เพราะฝีมือพวกเรา

ขอความร่วมมือ ขอความกรุณา จากทุกท่านที่จะไปชมความงาม ของดอยหลวงเชียงดาว
ได้โปรดเถิดครับ ผมทราบดีว่า การเดินทางมันแสนเหนื่อยหน่าย และลำบากยากเย็น

แต่ช่วยกันเก็บขยะของท่าน ใส่ไว้ในเป้ กระเป๋ากางเกง ได้ไหม
เปลือกลูกอม ซองหมากฝรั่ง ห่อช็อคโกแล็ต บาง ๆ ขนาดเล็กกว่าธนบัตรที่ท่านมี
มันเบา กว่ากล้องถ่ายรูปที่ท่านสะพาย เบากว่ารองเท้าที่ท่านใส่ เยอะหลายสิบเท่า

ช่วยกันเก็บเปลือกลูกอม ห่อหมากฝรั่งเหล่านั้น ติดตัว ไว้ค่อยใส่ถุงขยะที่จุดกางเต๊นท์
หรือค่อยเอากลับมาทิ้งข้างล่างจะได้ไหม

กระดาษทิชชู่ กระดาษเช็ดหน้า กระดาษซับมัน ที่ท่านหยิบขึ้นมาซับหยาดเหงื่อ
ช่วยเก็บมันใส่กระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อ หรือยัดลงในเป้ ของท่านก่อนได้ไหมครับ

อย่าทิ้งไว้ตามทางเดิน ซอกต้นไม้ ในพงหญ้า หรือว่า ซอกหินเลย เพราะขยะพวกนี้
มีแต่จะทำให้ความงามของเชียงดาว โดนทำลาย เพราะน้ำมือของพวกเรานักท่องเที่ยวเอง

ได้โปรดเถิดครับ ช่วยกันคนละนิด ร่วมมือกันคนละหน่อย เอาขยะที่ท่านสร้าง เอาลงมาทิ้งข้างล่าง
ให้เชียงดาว ได้อยู่คู่ เชิดชูความงาม ไปอีกแสนนาน

ตามต่อ ตอนที่ 2 นะยิ้ม

ปล.ได้ใส่ปุ๋ยบนยอดหรือเปล่า ฮี่ๆ

พวกเรา ออกเดินฝ่าความมืด จากจุดกางเต๊นท์ ขึ้นไปยังยอดกิ่วลม
การเดินทางยามกลางคืน ก็มีอุปสรรคเพียงเล็กน้อย ลื่นบาง สะดุดบ้าง

เมื่อถึงทางแยก พี่ตุ๋ม ก็พาพวกเราขึ้นยอดกิ่วลมขวา
รอพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมากล่าวอรุณสวัสดิ์

แต่รอแล้วรอเล่า ใยเจ้ายังไม่มา เมื่อพระอาทิตย์ไม่โผล่มา

ฟ้าสว่าง แต่ดวงอาทิตย์ไม่ออกมาทักทาย

พวกเราก็ถ่ายรูปเล่นไป พลันสายลมก็พัดสายหมอก
เข้ามาด้านหลังพวกเรา เมื่อสายหมอกปะทะแสงสว่าง ก็เกิดความงามเช่น

รุ้งกินน้ำ ให้ได้เห็น

ฝ่าหมอกสวยๆไปดอยหลวงเชียงดาวด้วยคนนะคะ

ฟี๊ววววววว ตามไป ..

ในที่สุด พระอาทิตย์ ก็โผล่พ้นขอบฟ้า ส่องแสงแรงกล้า ให้เป็นไออุ่น

อยู่บนม่านหมอก ที่ลอยพลิ้ว ให้พวกเราได้เก็บบรรยากาศสวย ๆ

ตามมาเที่ยวด้วยคนนะครับ

ฝั่งหนึ่งก็ทะเลหมอก ฝั่งหนึ่งก็ม่านหมอก
ถึงจะอยู่กันคนละฝั่งฝัน แต่นั่นก็ล้วนอยู่ในฝั่งฝัน ของพวกเราแทบทั้งสิ้น

ความงาม ที่ต้องยอมตื่นเช้าตรู่ แลกมาด้วยความเมื่อยล้า
มันลบล้างให้ความเหนื่อยเมื่อยขบตามร่างกาย หายไปโดยปริยาย

ตามมาด้วยค่า เร็วมากๆ ไม่ต้องรอนานเลยนะคุณยิ้ม

ไปๆ ค่า ไปปีนเขาแบบไม่เหนื่อย ตามติด

กรี๊ดดด ตามมาชมต่อคะ ทะเลหมอกสวยมากๆๆเลย

ยังไม่เคยไปเชียงดาวเลยง่าส์ ทางคงจะทรหดมากมาย เหอๆๆ

โอ้วววว

เฝ้าดูทะเลหมอก จนกลายเป็นเมฆ
พี่ตุ๋ม ก็นำทางพวกเรา ไปหาที่ถ่ายรูปกันต่อ

ต้นไม้บนยอดกิ่วลม ถูกปกคลุมไปด้วยมอส
หมายความว่า อากาศที่นี่ ดีมาก ๆ

เดินตามพี่ตุ๋ม ไม่นานนัก
ก็ได้ยินเสียงบอกมาว่า ตรงนี้มีกุหลาบพันปีเชียงดาว

กำลังบานสะพรั่ง แต่ต้องใช้ความพยายามปินป่าย
ลงไปเพื่อถ่ายรูป

กลัวก็กลัว เสียวก็เสียว รูปก็อยากได้
เลยค่อย ๆ ปีนลงไป จะได้ยลความงาม ที่ซ่อนตัวอยู่ริมผา

ดอกไม้มากมาย บนยอดเชียงดาว กำลังบานรับลมหนาว

หญ้าดอกลาย รูปดาวห้าแฉก บานให้ได้เห็นเป็นระยะ

บางชนิด ก็จำชื่อไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่พี่ตุ๋ม กับพี่ลูกหาบ คอยบอกให้ได้รู้จัก

ถึงเป็นเพียงแค่ดอกหญ้าที่ดูไร้ราคา แต่ความงามนั้นก็ไม่น้อยเลย

ตามมาชมด้วยความอิจฉา

เดินกลับมาบนยอด เพื่อรอเพื่อน ก็มองวิวรอบตัว 360 องศา

สายหมอก ลอยสูงขึ้นพ้นทิวไม้
กลายเป็นม่านเมฆ

แสงแดดที่แผดร้อน สร้างความอบอุ่นให้แก่เราเป็นอย่างดี
เมื่อมีลมหนาววูบมาเป็นระยะ

มองเห็นชมพูเชียงดาว ชูช่อล้อลมพริ้ว
สีสันสดใส ยั่วใจให้มอง

แม้แสงแดด จะสว่างจ้าขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ม่านหมอก ก็ยังมีให้เราได้เห็น ไม่หาย

ขณะเดิน จะไปต่ออีกยอด ก็สะดุดกับ หัวใจ ของใครลืมทิ้งไว้

หัวใจแห่งเชียงดาว

คงสื่อให้รู้ว่า ความรัก ทำให้ทุกสิ่งรอบตัวสวยงาม
ธรรมชาติ ก็ช่วยให้โลกสวยงาม

ตามมาต่อค่ะ^^

ปล.อยากจะแจกกีบให้ใจจะขาด...แต่หมด T_T

เดินตามเสียงพี่ลูกหาบ คอยอธิบายคุณสมบัติของต้นไม้ใบหญ้าชนิดต่าง ๆ
ชี้ให้ดูร่องรอยกวางผา

ก็เห็นชมพูเชียงดาว มากมาย อวดความงามให้พบเห็น

.

แสงแดง ชู่ช่อ ล้อลมเล่น
อากาศ หนาวเย็น ชวนสยิว
แกว่งกิ่ง เอนก้าน ไหวปลิว
เป็นทุ่ง เป็นทิว แสนงาม

มอสที่นี่เจริญเติบโตกันดี

อากาศที่นี่ คงดี เหมาะแก่ความเป็นอยู่ของพืชพันธุ์เหล่านี้อย่างยิ่ง

เหยื่อจง พบเห็นได้ทั่วบริเวณยอดกิ่วลม รวมทั้งบริเวณยอดเชียงดาว

ค้อเชียงดาว พืชเฉพาะถิ่นอีกหนึ่งชนิด
ที่เจริญเติบโต ตามผาหิน บนเชียงดาว

ขอมาชมด้วยคน...............ขอบคุณครับ




ปล.......คห.5 @ คุณ ยายแก่สีม่วง.......55555

ขาวปั้น กำลังอวดดอก ล่อแมลงมาดมดอม
บ้างก็เริ่มผลิบาน บ้างก็เริ่มร่วงโรย ล้วนเป็นไปตามวงเวียนชีวิต

บนยอดกิ่วลม มีขาวปั้น มากมาย ให้เราได้ชม
ดอกกลม ๆ น่ารัก ๆ

มองไปทางยอดเชียงดาว
บริเวณลานกางเต๊นท์ โล่งมาก

มีแค่กลุ่มของพวกเรา และน้องๆ นิสิตจุฬา กลุ่มนั้น
รวมกัน ทั้งดอยแค่ 20 คนล่ะมั้ง

ตามไปชมทะเลหมอกด้วยจ้า ภาพสวยค่ะ

หรีดเชียงดาว หลบซ่อนอยู่ตามพื้นดิน ใต้พงหญ้า
ต้องก้ม ๆ เงย ๆ อยู่หลายรอบ กว่าจะได้เก็บมาสักรูป

มองนาฬิกา 9.30 แล้ว หลายคนเริ่มหิว
พวกเราเลยชวนกันเดินกลับ

แวะถ่าย เอื้องตาเหิน อีกชื่อจำไม่ได้

กลับถึงจุดกางเต๊นท์ 10 โมงตรง ช่วยกันทำอาหารมื้อเช้า-กลางวัน
รวบรัดไว้ในมื้อเดียวกัน อาหารที่ดูแสนธรรมดา แต่รสชาติอร่อยยิ่งนัก

กินข้าวเสร็จ นั่งล้อมวงคุย เล่าเรื่องผี จนหลายคนค่อย ๆ ทยอยเข้าเต๊นท์

อากาศหนาว ๆ แค่ 13 องศา เข้าไปขดตัวในถุงนอน ตกลงกันไว้ว่า
พวกเราจะเดินขึ้นยอดเชียงดาว อีกครั้ง เวลา 15.00 น.
เพื่อไปรอพระอาทิตย์ตก

เมื่อได้เวลานัดแนะ ก็พากันเดินขึ้นไป แม้แสงแดดจะจ้าเพียงไหน
แต่อากาศก็ยังหนาวจับใจอยู่ดี

เดินมาได้ครึ่งทาง ก็เจอกุหลาบป่า กำลังบาน ดอกขาว ๆ

เดินขึ้นมาถึงยอดเชียงดาว บ่าย 3 ครึ่ง แวะพักกันตลอดทาง
ทั้งที่ระยะทางไม่ไกล แต่ความชัน ทำให้หอบ

แดดกำลังร้อนแรง มองไปรอบ ๆ วิวทิวทัศน์ ก็พอให้สดชื่นได้

ระหว่างรอพระอาทิตย์ตก ก็ถ่ายรูปเล่น
เรียกว่า พรีเว็ดดิ้ง ให้เพื่อนร่วมทริปคู่นี้ไปพลาง ๆ

กระโดดกันเต็มที่ เพราะยอดดอย ตอนนี้ มีเพียงกลุ่มเรา 8 คน

ความหวานของคู่นี้ ทำให้คนไร้คู่อย่างผมอิจฉา ผ่าว ๆ

...


ดีนะเนี่ย ยังพอมีกิฟหลงเหลือ


อยากลองไปเที่ยวแบบนี้บ้างจังครับ

พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงแล้ว

ใกล้จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกแล้วสิ

ในที่สุด พระอาทิตย์ก็อัสดง

แม้วันนี้ จะไม่มีทะเลหมอกอย่างเช่นเมื่อวาน
แต่ความงาม ก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย

พระอาทิตย์ลับเหลี่ยมโลก แสงของทิวา ใกล้หายไป

รัตติกาลกำลังคืบคลานเข้ามาเยือนแล้ว

ตามมาชมต่อค่ะ

แสงสุดท้ายของวัน เริ่มเลือนหาย

และแล้ว ทิวา ก็ลาจาก

แวะมาบอกว่ารูปเปิดเท่ห์มาก ๆ

ตามมาเที่ยวค้าบบ



ยิ่งดูยิ่งอยากไปเสียดายจริงๆ T___T

ตามมาชมรูปสวยๆ ต่อค่ะ

ภาพสวย บรรยากาศได้ใจมากครับ

หลังจาก ร่ำลากับแสงสุดท้ายของวันแล้ว
พวกเราก็รีบลงจากยอดเชียงดาว

กินข้าว แล้วก็มุดเต๊นท์ เข้านอน  
วันที่ 2 บนดอยหลวงเชียงดาว ผ่านไปแล้ว

เช้าวันกลับ พวกเราก็ตื่นแต่เช้า
เพื่อขึ้นยอดกิ่วลมฝั่งซ้าย

รอพระอาทิตย์ขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ
จนแสงแรกของวัน มาทักทาย

นั่งคุยไป พี่ตุ๋ม คนนำทาง ก็ต้มน้ำร้อน
ชงกาแฟ พร้อมเอาแยมปาดขนมปัง ส่งให้กินรองท้องกันพลาง

แต่ด้านหลังของพวกเรา
ท้องฟ้า กำลังเป็นสีชมพู-ฟ้า สวยงาม

เมื่อหันกลับมาด้านตะวันออก พระอาทิตย์ก็โผล่มาพอดี

เพียงไม่นาน พระอาทิตย์ก็สาดแสงแรงกล้า
ให้ได้เห็นทิวทัศน์ด้านล่าง พร้อมทั้งไอหมอก ก็ลอยอ้อยอิ่งขึ้นสู่ด้านบน

ตามไปเที่ยวชมภาพสวยๆต่อครับบ ชอบรูปพระอาทิตย์ตกที่สุดครับบ

แดดแรงกล้าขึ้นเรื่อย ๆ พวกเราก็ยังชื่นชม ภิรมย์รื่นกับบรรยากาศรอบตัวกัน

มองนาฬิกา 7 โมงครึ่งแล้ว คงต้องลงจากยอดกิ่วลม
เพื่อกินข้าว แล้วเดินกลับสู่พื้นล่างซะที

ตามมาเก็บตะวันต่อค่ะ

เชียงดาวเฮ้อเป็นดอยที่ได้แต่มอง

กินข้าว เก็บสัมภารก เก็บเต๊นท์ เรียบร้อย ก็พร้อมเดินกลับ

พวกเราออกเดินกลับ เวลา 09.40 ถึงจุดปล่อยตัวตอน 13.45

ระหว่างเดินกลับ ไม่นาน แบตกล้องผมก็หมด เลยอดถ่ายรูปสวย ๆ
วิวงาม ๆ ข้างทางมาฝาก

อำลา ยอดเชียงดาว แล้วคงถึงคราว เราได้พบกันใหม่

24 - 26 พ.ย. 54

2 ยอด 4 รอบ ฟ้าเปิดทุกวัน วิวสวยไม่ซ้ำกัน
คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม  

เชียงดาวจ๋า สัญญา ว่าปีหน้าจะกลับไปอีก

พี่ตุ๋ม คนนำทาง และพี่ ๆ ลูกหาบ บริการดีมาก หากใครจะไปเชียงดาว
ต้องการคนนำทาง หลังบ้านมาถามได้ครับ ยินดีให้ข้อมูล

ขอบคุณที่พาไปชมหมอกสวยๆครับ

สวยมาก ขอบใจนะ เหมือนได้ไปเองอีกครั้งเลย

รูปสวยนะเธอว์

บรรยากาศสวยงามมากครับ

คิดถึงเชียงดาว มีโปรแกรมจะไปปีนี้ พอดีน้ำมาท่วมซะก่อน  ได้ไปเหมือนกัน แต่ไม่ได้ขึ้นดอย

ตามชมต่อครับ

บรรยากาศสุดยอดดด แจ่มจริงๆครับ

นาน ๆ ทีจะได้เห็นรีวิวของคุณรอยยิ้มของคนดี
ไม่ผิดหวังจริง ๆ สวยมาก ๆ ค่ะ

สวย

ภาพสวยมากๆ ค่ะ  เห็นแล้วอยากไปเที่ยวเลย  ^^

ตามมาชมครั้ง

คิดถึงลมหนาวเลยอย่างนี้

คงไม่มีโอกาสปีนเขาสูงๆอย่างนี้ เกินเอื้อมคร้า

มาชมรีวิวสวยๆอีกค่ะ 

อ่านแล้วก็นึกถึง อยากไปอีก(รึเปล่า) ยังไม่แน่ใจ

สงสัยว่ากลุ่มเรากับเจ้าของกระทู้ต้องเดินสวนกันแน่ๆเลยค่ะ

กลุ่มเราไปกันวันที26 ส่วนคุณยายที่เห็นในกลุ่มนั่นเป็นแม่ของเพื่อนค่ะ

แต่ขอแก้ข่าวท่านยังไม่70นะ แค่60กว่าๆ (ฮา....)

ท่านเดินเก่งมากกกกก สาวๆอย่างเรานี่อายเลยค่ะ