ALL BLACKS, Auckland,New Zealand

ติดตามรีวิว เพื่อความต่อเนื่องนะครับ


ตอนที่ 1 :<+>OOO ALL BLACKS, Auckland,New Zealand Part I OOO<+> (CR) :  http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11297798/E11297798.html

ตอนที่ 2 : <+>OOO ALL BLACKS, Auckland,New Zealand Part II OOO<+> (CR) : http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11331947/E11331947.htm

ตอนที่ 3 :<+>OOO ALL BLACKS, Auckland,New Zealand Part III OOO<+> (CR) :http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11411939/E11411939.html

ตอนที่ 4 :<+>OOO ALL BLACKS, Auckland,New Zealand Part IV OOO<+> (CR) :  http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11419949/E11419949.html
-----------------------------------------------------------------------------

สำหรับตอนนี้ ชวนชาว BP ไปสู่ Waitomo Glow Worm Caves , Agrodome Farm Tour  ,Te Puia Maori Cultural Performance และ Whakarewarewa Thermal Reserve and Maori Arts and Crafts Intitute

วันนี้มาดู โรงแรมที่ไปพักก่อนนะครับ

Auckland City Hotel -- Hobson St .  ช่วงที่่ไปพัก อินเดียวเยอะมากๆ

สถานที่ตั้ง คราวๆนะครับ

ด้านหน้า รร.
แถวนี้ เป็นหอพัก ของนักศึกษา   เพราะเปิดม่านหลัง ดู เห็นเด็กๆอยู่กัน
ห้อง ละ 2 - 3 คน ตามประสาวัยรุ่น

ตรงข้าม รร. เป็น โรงเรียนสอนทำอาหาร  พอตกบ่าย มีการจับกลุ่ม ยืนสูบบุหรี่กันเยอะทีเดียว   ก้นบุหรี่ตกบนทางเดินกลาดเกลื่อน

ตัดภาพมาตอนกลางคืนบ้าง   ฝนตกพร่ำๆ   เลยแวะร้านค้าชำ  สำรวจสินค้า หลักๆมาจากจีน เป็นส่วนใหญ่  ของไทยเราจะเป็นบะหมี่ มียำยำ ด้วย รสต้มยำ

สถานีตำรวจอยู่เยื้องกับ รร.

แวบ ไป Check in ก่อน รวดเร็วทันใจ เลยทีเดียว

รางวัล อะไร เยอะพอควร แต่ ไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่

ห้องที่เราพัก เป็นตึกสูงๆ ที่อยู่ด้านหลัง  ผ่านทางเดิน มีบริเวณให้สูบหรี่ อยู่ด้านหน้าทางขึ้นลิฟท์

รู้สึกว่าห้องไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับ รร.อื่นๆ หรือว่าเรามาดึกไป 555

ไม่ค่อยชอบ เจ้าท่อนี้เลย มันแปลกๆ ยังไม่รู้

ห้องเดียวมี 2 อุปกรณ์ ทั้งร้อนและเย็น

ย่างเข้าวันที่ 3 อาการ เพลียๆ เหมือนนอนไม่ค่อยพอ เริ่มหายไป

ทริปวันนี้ เราซื้อ One Day Trip ของ Gray Line เพราะ ถ้าไปเองจริงๆ คงอย่างต่ำ 2 วันขึ้นไป ถึงจะพอ

ห้องน้ำกระทัดรัด ชอบกลิ่น โลชั่น เลยติด กลับบ้าน มาด้วย

Made In China ทั้งสบุ่ แชมพู โลชั่น

พอดี เป็นเดียงเดียว แต่ต้องแยกนอน เพราะ พี่เรา ตื่นง่าย เลย ถึงรู้ว่าห้องสกปรก แค่ แยก เตียงออก ฝุ่นคละคลุ้งไปหมด

ลองจับดู มีฝุ่นติดขึ้นมาบนมือด้วย  
แต่ดึกละ เลย  ไม่ยากวุ่นวาย

รายละเอียด รร. คงให้ข้อมูลคร่าวๆ แค่นี้นะครับ

ตัดบท ไปสถานที่ท่องเที่ยวของเราเลย ดีกว่า

นั่งรออยู่บนรถ Grey Line รอคุณไกด์ก๊องพาเที่ยวต่อนะครับ

กระโดดขึ้นรถไปเที่ยวด้วยนะครับบ

ไปด้วยค่ะ 

คุณก๊อง หายไปไหนครับนั่งรอไปเที่ยวอยู่นะครับ

มารอเที่ยวAucklandต่อค่ะ

ขึ้นรถรออยู่นานแล้ว

ไปเที่ยวนิวซีแลนด์ต่อครับ

ตอนนี้ที่นี่อากาศเริ่มเย็นแล้ว ได้บรรยากาศเหมือนที่นิวมากครับ

คุณกาแฟ=====> อะนะ แผ่นหลังดูดีนะคับ 5555
 คุณสายลมแห่งวิงค์ ===>  โปรดระมัดระวังก่อนก้าวขึ้นรถ อิๆ
 คุณarmern ====> รูปอาจไม่โดนเท่าไหร่ แต่ความตั้งใจเกินร้อยครับ
 คุณ น้าเถียน ===> สนใจตุ๊กตา....... ปะครับ มว๊าฟฟฟฟ
 คุณ แอน ===> ขอบคุณครับ กำลัง start รถอยู่
คุณชายป้อม ===> พยายามทำอารมณ์ ให้เข้ากับบรรยากาศครับ

-------------------------------------------------------------------------------

ขึ้นรถมา มีเอเชีย อยู่ ประเทศ อินเดีย ไทย และญี่ปุ่น

นอกนั้นมีทั้ง อเมริกา, โชเวียต, อาร์เจนไตน์,ออสเตรเลีย,เชค,เยอรมัน

อาหารบนรถ ที่นั่งว่าง เลยจองยาวเลย

ช่วงที่ไป  ต้นเดือน พย เป็นช่วงการเลือกตั้ง เห็นป้ายหาเสียง มากมายทีเดียว แต่ป้ายที่เค้าให้ เหมือนไม่ใช่แบบไวนิล ของบ้านเรา การติดตั้งไม่รก สบายตาดี

ถนนหนทาง สวยดี ชอบบรรยากาศสองข้างทาง ดูเงียบสงบ

จุดหมายแรกวันนี้ เราจะเดินทางไปสู่ Waitomo Glow Worm Caves

ตอนนั่งรถผ่าน เมือง Hamilton เหมือนกับอยู่ในหนังทีเดียว

แต่พอมาถึง Waitomo Glow Worm Caves เสียดายที่เค้าไม่ให้เก็บภาพ เลยถ่ายภาพได้แค่ทางเข้าทางออก แค่นั้น

ถ้ำนี้ถูกค้นพบตั้งแต่ปี 1887 โดยชาวเมารี ชื่อ  Tane Tinorau ร่วมกับชาวอังกฤษ ชื่อ Fred Mace

บริเวณนี้ไม่ได้มีแค่ Waitomo Glow Worm Cave ยังมี  Ruakuri Cave และ Aranui Cave

ถ้านี้ มีอายุมากกว่า 30 ล้านปีละ  แต่ตอนที่เดินเข้าไปดูชื้นๆ ชอบกล อากาศเย็น เจอหินงอกที่เป็นจุดเด่น อยู่ตรงกลางถ้ำเลย เหมือนจะหักตกอยู่ข้างๆกันนั่นละ

มาติดขอบชมรีวิวสดด้วยคนครับ

เดินผ่านบางจุด เป็นรูลงไป ลึกจนมองไม่เห็น น่าจะเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ  
การออกแบบภายนอกของWaitomo Glowworm Caves Visitor Centreนี้ ได้รับรางวัล the Architecture, Commercial Engineering Excellence and the Clever Solution Awards ในปี 2010

คุณ Destiny-Boy ====> ขอบคุณครับ อาจเนิบๆ หน่อยนะครับ

แต่จุดประสงค์หลักที่ต้องการของที่นี้ คือ Glowworm

Glow Worm ก็เป็นระยะของตัวหนอน ของเจ้าแมลงชนิดหนึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์เหมือนกัน แต่ที่ NZ ตัวนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า arachnocampa luminosa : Arachno แปลว่า คล้ายแมงมุม
'Campa' เป็นระยะดักแด้ และ 'luminosa' คือ ช่วงการให้เปล่งแสง

วงจรชีวิตของ Glow Worm

คุณยายจากญี่ปุ่น แข็งแรงมากๆ ทั้งที่ทางเดินมืด มีชื้น แฉะ แต่เดินโดยถือไม้เท้านำลิ่วก่อนใครๆ

กรุ๊ปทัวร์ก่อนหน้าเราเป็นชาวจีน  เสียงเจี้ยวจ้าวกันใหญ่  รอไกด์ประจำศูนย์พาเข้าอยู่ โดยมีรอบการเข้าชมภายในถ้ำ

กลิ่นกาแฟ หอมๆ แค่สูดกลิ่นกะตื่นละ 555

ลุงคนขับรถ  เป็นไกด์อธิบาย ระหว่างขับรถไปด้วย  ไม่รู้แกบ่นอะไร  เพราะฟังไม่รู้เรื่อง 555

ในระยะ Larva เจ้าตัวสร้างท่ออาหารได้ด้วยนะ

ต่อๆ หลังจากพาชมพวกหินย้อยต่างๆ แล้ว ภายในถ้ำจะมีแม่น้ำไหลผ่าน  เค้ากะพามาขึ้นเรือ เพื่อล่องชมแมลงหิงห้อย waitomo (ตั้งขึ้นเอง) จากการสังเกตน์ เค้าจะมีการโยงเชือกภายในถ้ำไปจนถึงทางออกปากถ้ำ เพราะไม่เห็นเค้าใช้ไม้พายเรือ แต่คนนำเรือใช้มือ จับเชือกที่อยู่บนเหนือศรีษะแล้วลากไปเรื่อยๆ มืดๆ แต่แค่เงยหน้าขึ้นไปบนผนังถ้ำ โห ระยิบระยับไปหมด เหมือนมีดาวอยู่ใกล้ๆ เรา

ที่แปลกคือ ในถ้ำไม่มีค้างคาว หรือ นกอะไรเลย เลยสบายจมูกมากๆ

แต่ ไม่ใช้ว่าจะสามารถล่องดู Glow worm ได้ทั้งปีนะ  ถ้าน้ำเยอะ มากๆ จนเรือไม่สามารถล่องได้เค้ากะงด บริการ

อีกอย่างเรือการจัดคิวการขึ้นเรือ มีบันไดกั้นด้วยแผ่นหนัง เป็นชั้นๆ ดูปลอดภัย และแข็งแรงดี

คนลากเรือ เป็นชาวเมารี ดูอวบ สงสัยเมืองหนาว ต้องสะสมไขมันใต้ผิวหนังไว้เยอะ

กลุ่มสุดท้ายที่ลงจากเรือ คือ กลุ่มชาวอินเดีย  คุณตาอินเดีย เหมือนแก จะสั่นตลอดเวลา เหมือนเป็นโรค Parkinson กลัวตก ลงระหว่าง เหว ข้างทางเดินมากๆ  ดีที่ลูกหลานประคองตลอด แกจะชอบพูดอะไรไม่รู้ แตกต่างจากคุณยายญี่ปุ่น รายนี้ฟิตเปรี้ย

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

จากนั้น จะพาไปต่อที่ Agrodome Farm

อาหารเที่ยงทานบนรถเลยละ

 สวัสดีครับ น้าเล็ก นิรุตติ์ ===> มีท่าน ผบทบ. น่ารักนะครับ 55

-------------------------------------------------------------------------------
ไม่ค่อยมีหมู่บ้านเลย เป็นฟาร์มซะส่วนใหญ่

ที่ฟาร์มนี้ มีไกด์ญี่ปุ่น กับไกด์จีน โดยเฉพาะเลยละ บ่งบอกถึงลูกทัวร์หลักที่มาที่นี้เลยละ

นานๆ จะได้เห็นรถปิคอัพ เหมือนบ้านเรา

ท้องหญ้าเขียวขจี  วัวตัวยักษ์

เข้าไปใกล้ มันยืนนิ่งๆ ไม่รู้คิดอะไรอยู่

อีกตัวขี้อาย แอบเดินหลบอยู่  มีเป็ดวิ่งไล่กันรอบ รอกินเศษอาหารที่หล่น

เขียวสุดลูกหูลูกตา

น่าลงไปวิ่ง ไล่จับมาทำลาบ จะอร่อยไหมนิ เริ่มหิว

แกะมาดัก รอ อาหารเม็ด จากนักท่องเที่ยว เหมือนปลาทะเลตามแหล่งดำน้ำตื่นบ้านเรา ที่รอขนมปัง แตกต่างตรง แกะที่นี้เค้าเลี้ยงขึ้นมา แต่บ้านเราเป็นปลาทะเลจริงๆ

มีแบบพันธุ์ ตัวเล็กๆ ด้วย  ขนนุ่มๆ เชียว

ดูหน้าตาละตลกดี

แต่อึ นี้ เต็มไปหมด

กินอย่างตะกละตะกลาม ไม่เบา

อิ่มละเดิน เชิด หนีไป  วิ่งไล่จับเล่น หนุกหนานไม่เบา

ภาพก่อนหน้านี้ ญ คนที่ 4 จากซ้ายมือ คือไกด์ญี่ปุ่น  เราได้แต่มองตาละห้อย เค้าคุยไร ดูหัวเราะกันใหญ่ ฟังมะเข้าใจ

บั้นท้ายแกะ 555

เจ้าตัวนี้ มันมองเราแปลก ไม่รู้ว่าตกกะใจ กะหน้าตา เราหรือเปล่าว้าฟฟฟ

เดี่ยวจับมาย่างซะเยย 5555

นอกจากนี้ อีกรั้วของฟาร์ม มีกวางด้วย  แต่หันไปเห็นตัวอะไรไม่รู้หน้าตาแปลกๆ ดี

เลยเดินตามกลุ่มชาวอินเดียไป

มันชื่อว่า Alpaca เหมือนเคยเห็นอยู่แถบเปรู  จากหนังสือของคุณ ฟ้า บุณยะรัตเวช

มีหลายสีทั้งสีขาว น้ำตาล ขาวดำ

แต่เจ้านี้ ขึ้ตกใจง่ายมาก วิ่งกระเจิงเลยละ

กลับมาขึ้นรถต่อ เตรียมไปชมการแสดง การต้อนแกะ เข้ากรง ของสุนัขเลี้ยงแกะ

แกะขนปุยมากครับ

มีคอกมีหมูป่า เค้าตื่นเต้น กัน สงสัยไม่เคยเห็น
แต่เรา อยากได้ Alpaca กลับมาบ้านมาด้วย

คุณชายป้อม ===> นุ่มจริงๆ ครับ แต่สงสารแกะตอนเค้าจับมันตัดขน

------------------------------------------------------------------------------

มีคอกสำหรับเลี้ยง Bison ด้วย

นกกระจอกเทศ วิ่งตามรถ

วัว อะไรไม่รู้ เขา ยาวๆๆ

ร้านขายของฝาก ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ทำจากแกะ  & alpaca

จุดจอดรถ
  ลืมบอกไป รถที่ชมฟาร์ม คนขับรถเป็นทั้งไกด์  ทั้งคนสั่งควบคุมสุนัขตอนแกะ  และสุดท้ายเป็นคนตัดขนแกะโชว์ พี่แกเหมารวมคนเดียวหมด

ร้านอาหาร ใครสนใจนั่งพักทาน

ทัวร์ชาวจีน กำลังจะกลับกันละ

จุดล้างรองเท้า ที่ติดอึ เจ้าแกะจอมตะกละ

เริ่มปล่อยแกะ ออกจากคอก เพื่อให้สุนัขเริ่มงาน

ดูแล้ว เหมือนเคยเห็นในหนัง

ท่าเดินย่องๆ ของเจ้าสุนัขต้อนแกะ ดูน่าเกรงขามมาก

ต้อนมาให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปใกล้ๆ

จากนั้นก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของเจ้าตูบได้โชว์ บทบาท

เก่งซะด้วย ต้อนจน แกะ วิ่งเข้ากรง

จบการแสดง ซะแย้ว ใช้เวลาต้อนแกะเข้าคอก ประมาณ 20 นาที

แต่แล้ว คอกปิดไม่สนิท เจ้าแกะก็หลุดออกมาใหม่ เป็นมุกสร้างเสียงหัวเราะทีเดียว

จากนั้นเราจะไปดู การแสดงการตัดแกะต่อ

เดินผ่านที่เก็บขนแกะ

เห็นภาพกิจกรรมการแข่งการตัดขนแกะ ของแต่ละปีติดไว้ ข้างผนัง

เจ้าตูบต้อนแกะ ยังมาตามด้วย

ก่อนตัดเห็นเค้าเปลี่ยนรองเท้าเป็นหนังอะไรไม่รู้แปลกๆ ดีๆ  ที่อยู่ด้านบนนั่นละเครื่องจักร แต่ห้อย บัตเตอร์เลี่ยนลงมา เรียกถูกหรือเปล่าไม่รู้

เห็นหน้าตาแกะตอนถูกตัด แล้วกะน่าสงสาร โดยเฉพาะตอนตัดเสร็จ เหมือนคนเราโดนจับถอดเสื้อผ้า ยังไงยังงั้น   แกะต้องปล่อยขนไว้อย่างน้อย 6 เดือนถึงจะตัดได้

ทีแรกมันก็ดิ้น แต่สู้แรงไม่ไหวเลย ได้นิ่งปล่อยให้เค้าตัดขนไป พี่แกก็จับพลิกซ้าย พลิกขวา ยกขึ้นยกลง เป็นอันสนุกไป

ขนเริ่มหมดไปเกือบครึ่งตัว  พี่แกชำนาญงานมาก ไม่พูดไม่จา จัดเต็มใส่แกะอย่างเดียว แถมหยอกเหย้า โดยการดึงหน้าแกะ ขึ้นมาหอมฟอดใหญ่ แต่สีหน้าแกะนี้ ไม่ปลืมเท่าไหร่ 555

ล้อนจ้อนเชี่ยวแล้วมันไม่หนาว หรือนี้

แล้วขนฟูฟ่อง ก็ตกมาอยู่ในมือเรา

ลักษณะขนเหมือนถักโดยธรรมชาติ บิดเกลียวกันอยู่

ภาพการแข่งขนตัดขนแกะประจำปี

บนผนัง  มีประวัติความเป็นมาต่างๆ เกี่ยวกับฟาร์มที่นี้ ตลอดจนวิวัฒนาการการตัดขนแกะเลยทีเดียว  สำหรับขนแกะที่ตัดแล้วจะผู้มารับซื้อต่อ ส่งออกไปสู่จีน และประเทศอื่นๆต่อไป

น่าสงสารจริงๆครับ ล่อนจ้อนเลย

ได้ไปเกาะใต้ด้วยหรือเปล่าครับ

มาเที่ยวต่อครับคุณก๊อง

อาหารบนรถน่ากินจัง 555

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ น้องสัตว์ในฟาร์มน่ารักมาก

=คุณชายป้อม== =>  ผมไม่ได้ไปเกาะใต้ ครับ ใจจริง อยากไปมาก อยากขับรถเที่ยวเหมือนที่ คุณชายป้อม คุณ OLOS & คุณYKTR ไปกัน แต่ผมขับรถไม่ค่อยเก่ง แถม ไปกะพี่สาว กะขับไม่เป็น เลยไม่ค่อยมั่นใจ 555
คุณOLOS ===> อร่อยจริงๆครับ ข้างแกงกะหรี่ไก่ ทานเกลี้ยงเลย นานๆได้ทานอาหารรสชาติ แบบเอเซียบ้าง
คุณ Bperl ====> ครับ น่ารักแถมยังแสนซนอีก ต่างหาก อากาศเย็นคงนั่งเล่นได้ทั้งวัน

----------------------------------------------------------------------------------
เสร็จจากงานหลวง มาต่อรีวิวกันใหม่

จุดนี้เป็นทั้งร้านค้าของที่ระลึก และเป็นจุดจำลองการโรงทักเส้นขนแกะด้วย
มีคุณป้า เปิดวิดีโอพร้อมอธิบายไปด้วย

มีหลายขั้นตอนทีเดียวกว่าได้เส้นทอขนแกะ

แต่แบบนี้ แถวบ้านผมกะมี แต่เป็นเส้นไหม คล้ายกัน 555

ได้ผ้าพันคอ มาผืน ไว้หนาวมากๆ เมือไหร่จะใส่ซะหน่อย อิๆๆ
แต่พี่สาว ได้ด้ายขนแกะเอาไปทักผ้าพันคอ

จากนั้นเรากะเดินทางต่อไป Te Puia Maori Cultural Performance
ผ่าน Rotorua เป็นเมืองที่บ้านสวย วิวสวย ดอกไม้บานเต็มเลย แถมยังมีน้ำพุร้อนในสวนสาธารณะด้วย  ช่วงนี้เป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้ง

ใครที่ขับรถมาเที่ยวเอง อย่าลืมมาพักที่นี้กันนะ

อยากให้เค้าจอดให้เราถ่ายรูปจัง แต่ คงไม่ได้ เหลืออีกตั้งหลายที่ คุ้มๆๆ

แล้วเราก็มาถึง วันนี้จะมีการแสดงของชนเผ่าเมารีด้วย ท่าเต้นส่วนใหญ่ เหมือนเป็นการข่มขู่ให้ต่อสู้กลัว แลบลิ้นปลิ้นตา 555

เดินตามกันไป ที่นี้ยังมีเจ้านกกีวี่ ให้นักท่องเที่ยวดูด้วย

ระหว่างที่รอ การแสดงรอบถัดไปอยู่ ก็มาพร้อมๆกันทัวร์ชาวจีน กลุ่มก่อนหน้านั้นก็มาที่นี่เหมือนกัน

ตาลุงจากอาร์เจนตินา ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนนักท่องเที่ยวเข้าไปร่วมพิธีกะเค้าด้วย  การทักทายชาวเมารีจะใช้จมูกแตะกันไปมา  แล้ว แถวบ้านเรายิ่งไม่มีดั้งนี้จะชนกันได้ไง คิดแล้วขำๆๆ

เริ่มมีคนเดินออกมารับละ

ชุดเค้า ดูแปลกๆดี

ได้เวลาที่พวกเราสามารถเดินเข้าไปชมการแสดงได้ละ

แต่ต้องถอดรองเท้าให้เรียบร้อย

กลิ่นถุงเท้าประจำชาติต่างๆเริ่มทำงาน 555

ผู้ ญ ชาวเมารีที่นำท่องเที่ยวเข้าไปเริ่มกล่าวต้อนรับ

มาลองชม การแสดงชาวเมารี ดูบ้างว่าเป็นอย่างไร Kia Ora

หลังชมการแสดงเสร็จ  ไปต่อที่ Whakarewarewa Thermal Reserve

โดยเดิน ออกมาแล้วเลี้ยวซ้ายมือ มีไกด์อธิบายด้วย

คิดว่าน่าจะเป็นชื่อสถานทีท่องเที่ยวทียาวที่สุดในโลกนะ
บ้านเรา ก็มีชื่อเมืองหลวงที่ยาวที่สุดในโลกเหมือนกัน

ภาษาเมารี มีเฉพาะภาษาพูด ไม่มีภาษาเขียนนะ  

ก่อนไปดูแหล่งน้ำพุร้อน ได้พาไปดูนกกีวี แต่ดูเหมือนมันจะแปลกๆ วิ่งชนกระจกไปมา 555 เจ้านกกีวี ถ้าไม่อนุรักษ์ คงรอดยาก ปีกกะไม่มี อาวุธ อะไรก็ไม่กะเค้า แถมต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติของเค้าเท่านั้น เพศ ผู้ เพศเมีย แยกที่ปากใหญ่จะเป็นตัว ผู้ นะ ถ้าจำไม่ผิด

กลิ่นก๊าซ ซัลเฟอร์ เหม็นตุๆ ชอบกล

ไม่ได้สนใจฟังเท่าไหร่ ชมนกชมไม้ โทรศัพท์กลับบ้าน อีกต่างหาก 555
3G บ้านเค้าแรงได้ใจจริง Up FB ให้เพื่อนทราบได้ไวทันใจ

มี รร. ตั้งอยู่บริเวณนี้ด้วย คงได้นอนดมกลิ่นไข่เน่าทั้งคืน

บ่อโคลนเดือด ตกลงไปคงหาตัวยาก

แต่ ก็ไม่มีไอร้อนเท่าไหร่ คงเป็นเพราะอากาศเย็น

แดดไม่มี ดูขมุกขมัวชอบกล

บรรยากาศเหมือนเดินท่ามกลางกองไฟ ไงไม่รู้ แต่ไม่ร้อนนะ

นั่งสูดควันกันไป แต่ไม่ไหวเหม็น พักได้นิดหนึ่ง ก็ต้องเดินต่อ

ประชากรทั้งประเทศมีแค่ 4,414,400 คน ข้อมูลเดือน กันยายน 2554

แต่มีอัตราเกิดต่ำมาก อนาคตคงมีแต่ผู้สูงอายุแน่ๆ

กลับเข้าเรื่องต่อ   หลังจากชื่นชมธรรมชาติ  เราก็เตรียมมุ่งหน้ากลับ รร.ที่พัก

สำหรับตอนที่ 3 คงจบเพียงเท่านี้

ตอนหน้าจะพา ลัดเลาะท่องไปในเมืองรอบๆ Auckland กัน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชม และให้กำลังใจกันนะครับ

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ

เข้ามาชมรีวิวสวยๆแบบรวดเดียว ชอบมากๆค่ะ

 คุณเอื้องเหมย................ขอบคุณครับที่แวะมาชม
คุณสาวหน้าใส.................ยินดีครับ อย่าลืมมาติดตามบ่อยนะครับ

ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ

คุณ cascar.............ขอบคุณเช่นเดียวกันครับที่ติดตามตลอด

เค้าพลาดให้กำลังใจคุณบารอนก๊องในตอน 3 ไปซะงั้นเลย

ในตอนนี้ได้ไปที่ไฮไลท์ของเกาะเหนือทั้งนั้นเลยนะคะ

ทั้งถ้ำหนอนเรืองแสง โชว์ตัดขนแกะ การแสดงของชาวเมารี ฯลฯ

แอบสงสัยนิดหนึ่งค่ะว่า ตอนเข้าถ้ำหนอนเรืองแสงแล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง

กลัวจะมีหนอนน้อยๆ ตกลงมาบ้างไหมคะ อิอิ