ย้อนอดีตกันเล็กน้อย:
วันที่ 1 (เสาร์ 5 พ.ย. 54) : Insadong (Ssamzigil) - Jogyesa - Hongdae -
Yehadoye Guesthouse Review
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11360799/E11360799.html

วันที่ 2 (อาทิตย์ 6 พ.ย. 54) : Insadong - Heyri Art Valley (Protect The Boss) -
Dongdaemun Design Plaza & Park (DDP) - Insadong
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11377180/E11377180.html

วันที่ 3 (จันทร์ 7 พ.ย. 54) : Insadong - Seoul World Cup Stadium &
Haneul Park (JYJ's In Heaven MV) - MMMG, Anguk Branch - Insadong
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11383494/E11383494.html

วันที่ 4 (อังคาร 8 พ.ย. 54) : Ilsan Lake Park (Dream High & Brilliant Legacy) -
Buamdong & Sanmotoonge Cafe (Coffee Prince) - Myeongdong - Insadong
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11406839/E11406839.html

-----------------------------------------------------------------------------

วันสุดท้ายของทริปอินเลิฟกับใบไม้เปลี่ยนสีในโซลแล้วค่ะ ... เศร้าจัง T_T
เมื่อคืนเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เช้านี้ก็เช็คโน่น นี่ นั่นอีกรอบ
กะว่าจะฝากไว้ แล้วกลับมาเอาตอนเย็น ลากไปป้ายแอร์พอร์ทบัสได้เลยค่ะ

จริงๆ แล้ว แผนเที่ยววันสุดท้ายควรจะหลวมๆ หน่อยใช่มั้ยคะ
แต่ของเรามันรวนมาตั้งแต่วันแรกแล้ว วันนี้เลยเป็นวันที่แน่นที่สุด
ประมาณว่าต้องตามเก็บทุกสิ่งอย่างให้ได้มากที่สุดค่ะ
(พลาดไปหลายที่เลย ทริปนี้ T~T)

แผนเที่ยวค่ะ:
วันที่ 5 (พุธ 9 พ.ย. 54) : Bukchon Hanok Village (Heartstings & Personal Taste) -
Samcheongdonggil - Gwanghwamun Plaza - Cheonggyecheon (Lantern Festival) -
City Hall & Seoul Plaza - Change of Royal Guards @ Deoksugung -
Jeongdonggil & Seoul Museum of Art - Insadong - ICN - BKK
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11417773/E11417773.html

ไปเที่ยวส่งท้ายทริปใบไม้เปลี่ยนสี ต้อนรับลมหนาว ด้วยกันนะคะ ^^

ตามมาส่งท้ายเป็นคนแรกเลยครับ T__T

เหมือนทุกๆ วันค่ะ --- Insadong Daily
คงจะได้เดินและหยุดมองทิวต้นแปะก๊วยที่อินซาดงถึงแค่วันนี้แล้วค่ะ
คงจะคิดถึงไม่น้อยเลย ไม่ใช่แค่ใบไม้สีสวยๆ นะคะ
แต่รวมถึงบรรยากาศและผู้คนในแต่ละวัน ที่ประทับใจไปคนละแบบค่ะ ~.~

# สวัสดีค่ะคุณกาแฟฯ

ขอบคุณที่มาช่วยส่งท้ายทริปค่ะ ... แต่วันนี้จะไปแบบสโลว์มากเลยนะคะ
ประมาณว่าพิมพ์ไป ก็นึกถึงอดีตแสนหวานไป อ้อยอิ่งได้อีก
คุณกาแฟจะแว้บไปดูซีรี่ย์เกาหลีซักเรื่องก่อน แล้วกลับมาดึกๆ ก็ได้นะคะ ^O^

ตามมาด้วยคน

เนื่องจากที่พักเราอยู่ในอินซาดง ก็เดินไป Bukchon Hanok Village ได้เลยค่ะ
เดินเพลินๆ ดูสองข้างทาง ก็ไม่ถือว่าไกลมากนะคะ

เดินผ่าน MMMG Cafe ที่มานั่งหม่ำขนมปังอบแฮมชีสอร่อยๆ เมื่อวันก่อน
เช้าๆ แบบนี้ร้านยังไม่เปิดค่ะ

เดินไปถึงแยกที่เป็นทางออก 2, 3, 4 ของสถานี Anguk
ถ้าเลี้ยวซ้ายก็ไป Bukchon ค่ะ แต่มองไปทางขวาเห็นรั้วสวยๆ
เดาๆ ว่าน่าจะเป็น Unhyeongung (ที่หนุ่มเต๋อกับหนูนาเคยเดินผ่านในกวน มึน โฮ - รึเปล่า?)

เลยข้ามถนนไปดูแป๊บๆ ค่ะ แต่เป็นแค่ข้างนอกกับสวนที่อยู่ใกล้ๆ กันนะคะ
เพราะวังยังไม่เปิดค่ะ (เปิด 9 โมงเช้า) วังนี้เป็นวังเล็กๆ ไม่เน้นตัวอาคารค่ะ
จะหนักไปทางกิจกรรมมากกว่า ประเภทการแสดง โชว์ เต้นแบบโบราณ
การสอนเขียน-เรียนภาษานานาชาติ ฯลฯ ประมาณนี้ค่ะ

จาก Unhyeongung ก็ข้ามถนนไปฝั่งทางออกที่ 2, 3 กันค่ะ
สองข้างทางมีใบแปะก๊วยร่วงเต็มเลย
เหลือง-แดงแบบนี้ก็สวยดีนะ

อยากไปด้วยจริงๆเลยค่ะ

ปีหน้าเจอกัน เกาหลี

# คุณกระจ่างเนตร : สวัสดีค่ะ เราไปแบบช้าหน่อยนะคะ
อยากปาดตอนไหน ตามสะดวกเลยค่ะ ^^

ถึงบูธ Information แล้วค่ะ แต่ยังไม่เปิด (อีกแล้ว)
ดูแผนที่ใหญ่ๆ จากด้านนอกก็ได้ค่ะ
จะมีจุดถ่ายรูปไฮไลท์ทั้ง 8 จุดบอกไว้ด้วยค่ะ

ใครอยากลุ้นสนุก (และเหนื่อย) จะตามเก็บให้ครบก็ได้นะคะ
แต่เราไม่ไหวค่ะ เจอก็ดี ไม่เจอก็เสียดายกันไป

# คุณ chaii_latte : สวัสดีค่ะ ปีหน้าไปดูซากุระเกาหลีหรือเปล่าคะ
เราอยากไปบ้างจัง เหลือตามเก็บอีกหนึ่งฤดู (ที่หาโอกาสไปได้ยากมากๆ T_T)

จากบูธ Information เมื่อซักครู่ เดินไปไม่ไกลจะเจอทางเข้า Bukchon ค่ะ
เห็นบ้านเลขที่ 1 แล้ว ก็เลี้ยวขวาเข้าไปได้เลยค่ะ

เจอต้อนรับด้วยเนินชันพอประมาณ
ออกกำลังกายกันแต่เช้าเลยน้อ~

บนสุดในรูป คือ Donglim Knot Museum ค่ะ
ใครสนใจอยากชมหรือลองทำพวงกุญแจหรือผูกปมต่างๆ แบบเกาหลี
ก็เชิญแวะได้นะคะ น่าจะได้เรียนรู้จริง ในบรรยากาศจริง
เป็นประสบการณ์ที่อยากจะลองซักครั้ง

จากนั้นก็เดินไปตามทางค่ะ จะผ่าน Gahoe Museum (วาดรูป ภาพพิมพ์),
Han Sang Soo Embroidery Museum (เย็บ ปัก ถัก ร้อย)
ซึ่งก็น่าสนใจไปคนละแบบค่ะ

ถ้าเดินต่อก็จะเจอมุมนี้ คราวก่อนใบไม้แดงแห้งกรอบไปแล้ว
คราวนี้สวยจัดเต็ม ทุกสีเลย ^^

พอเดินไปจนสุดทาง จะเป็นสามแยกค่ะ
แต่ก่อนจะแยกไปไหน หันไปทางขวาแล้วมองวิวข้างล่างซักหน่อยค่ะ
จะเห็นหลังคาบ้านแบบโบราณสวยๆ ลดหลั่นกันไป
และมองต่อไปไกลๆ ก็จะเห็น N Seoul Tower และ Jongno Tower ค่ะ

เราเลี้ยวขวาแล้วเดินลงเนินไปนะคะ เพราะเรามีมิชชั่น
ไปตามหาบ้านของลีกยูวอนกับลีชินในซีรี่ย์แนววัยรุ่น เรื่อง Heartstrings กันค่ะ

ลงไปซักแป๊บ จะเจอสามแยกอีก ให้เลี้ยวขวา ลงเนิน (อีกแล้ว)
พอลงมาแล้วมองกลับขึ้นไป จะเห็นประตูทางเข้าของโรงเรียนมัธยม Chungang
ที่เป็นโลเคชั่นถ่ายทำซีรี่ย์ เรื่อง Winter Sonata เพลงรักในสายลมหนาว นั่นเองค่ะ
(ตกลงเรื่องนี้ถ่ายทำเกือบทุกสถานที่ในเกาหลีรึเปล่าเนี่ย ไปไหนก็เจอ --")
หน้าโรงเรียนมีสินค้า K-Pop ขายอยู่ 2-3 ร้านค่ะ อัพเดทใช้ได้

ต้นแปะก๊วยต้นใหญ่ สวยสะดุดตามาก

เดินไปเรื่อยๆ ดูชีวิตของคนที่นี่ตอนเช้าก็เพลินดีค่ะ
มีออกมาเทขยะ กวาดถนน ส่งลูกไปโรงเรียน ฯลฯ

ร้านค้าสองข้างทางน่ารักหลายร้าน แต่คงเปิดกันตอนสายๆ ค่ะ
จุดนี้ก็ได้แต่เสียดายว่าเรามาเช้าไปหน่อย

รูปต่อไปเริ่มการแกะรอย Heartstrings แล้วนะคะ
1. เดินตามเส้นทางนี้ไปเรื่อยๆ
2. จะเจอร้านพิซซ่าสีน้ำเงินสดใส
3. มองขึ้นข้างบน จะเจอป้าย Bukchon-ro 6-gil ชี้ไปทางซ้าย    
   ก็เดินเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเล็กๆ ไปเลยค่ะ

เดินเข้าไปแค่อึดใจ ก็จะมองเห็นรั้วแล้วค่ะ
1. รั้วบ้านนางเอก-พระเอก
2. บ้านลีกยูวอน
3. บ้านลีชิน
ส่องบ้านเลขที่กันเอาเองนะคะ

ตอนเข้าไป เราไปแบบเงียบๆ นะคะ ถ่ายรูปเท่าที่จำเป็น เพราะมีเพื่อนบ้านมองนิดหน่อย
(แหงล่ะ หน้าก็แปลก พฤติกรรมก็ยังแปลกๆ 55)

ที่นี้มาดูฉากในซีรี่ย์กันบ้างค่ะ
รูปสุดท้าย จะเห็นป้ายร้านพิซซ่าสีเหลืองจิ๋วๆ ด้านหลังด้วยค่ะ

อ่ะ โอเคเดินกลับไปทางเดิมค่ะ
เป็นการตามรอยที่สั้นมาก 555

ถ้ามาจากอีกทาง มุมมองก็จะประมาณนี้
แล้วก็เลี้ยวขวาเข้าซอยที่เห็นผนังสีเขียวเข้มค่ะ

จริงๆ จะเดินเที่ยวดูร้านรวงในซอยเล็กซอยน้อย
ของ Bukchon ฝั่งนี้ (11 Gahoe-dong) ก็ได้นะคะ
แต่เรามีเวลาจำกัด ต้องข้ามไปเดินอีกฝั่ง 31 Gahoe-dong ด้วย
เลยต้องเดินย้อนกลับไปผ่านโรงเรียนมัธยม Chungang เหมือนเดิมค่ะ

ระหว่างทางมีแกลเลอรี่สลับกับคาเฟ่น่าสนใจมากมาย

ตึกและต้นไม้สวยๆ

อ้าว ลีชิน!
มายิ้มเผล่อยู่หน้าโรงเรียนนี่เอง กลับบ้านได้แล้ว~

ขามาเราลงเนินใช่มั้ยคะ
ตอนนี้ขึ้นบ้างแล้วค่ะ ชันได้อีก ...

อ๊ะๆ ใบไม้แดงกับกำแพงสูงๆ

มาเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยครับ ^^

ตามไปเที่ยวเกาหลีต่อครับบบ

เดินต่อมาอีกนิด ก็จะเจอกับเนินตรงนี้ในเรื่องกวน มึน โฮ
ฉากน้องจุ๋ยอ่ะค่ะ จำกันได้มั้ยเอ่ย

# สวัสดีสองหนุ่ม คุณไผ่พริ้ว และคุณสายลมแห่งวิงค์ ค่ะ
ถ้าอยากดูใบไม้สีสวยๆ รบกวนรอซักครู่ (ใหญ่) นะคะ
เดี๋ยวจัดให้ที่ Samcheongdong ค่ะ ^^

เดินลงมาเจอถนนใหญ่ ก็ให้ข้ามไปฝั่งตรงข้ามค่ะ
ถ้าเห็นร้านหมอฟันมีลายบนผนังน่ารักๆ แบบนี้
ก็เดินขึ้นเนินด้านขวามือของร้านไปได้เลยค่ะ
จะเห็นป้อมยามหรือเจ้าหน้าที่เดินๆ มองๆ เรา ก็ไม่ต้องกังวลนะคะ
ยิ้มให้แล้วก็เดินของเราต่อไปค่ะ

.. ตามมาปิดตอนจบด้วยคนครับ ..

พอขึ้นไปถึงข้างบน จะเจอแยกไปหลายทาง ให้เดินวนไปทางซ้ายค่ะ
ซ้ายแล้ว ก็ขวาบ้างค่ะ ตามรูปเลย

ขึ้นไปแล้ว พยายามมองทางขวานะคะ
จะเห็นกำแพงแบบในรูปและป้ายเล็กๆ บอกว่าเป็นทางไป Bukchon ค่ะ

เดินตามทางครึ้มๆ ไป แล้วก็จะเจอ ...
จำได้มั้ยเอ่ย บ้านใคร เรื่องอะไรน้อ

อาจจะรู้กันแล้วนะคะ แต่อยากเฉลย ^^
ลีมินโฮ ขวัญใจสาวๆ นั่งอยู่หน้าบ้านในเรื่อง Persanal Taste นั่นเอง
คราวก่อนก็เดินผ่านนะ แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ คราวนี้เลยมาตามเก็บค่ะ

ชอบมุมนี้ค่ะ ดูสวยและสงบดี
ซอยข้างหน้าซ้ายมือ ถือจุดถ่ายรูปที่ฮิตที่สุดของ Bukchon ค่ะ

ใกล้จะถึงจุดหมายของเราแล้ว ... ข้างหน้านี่เอง
แต่ ... เราไม่ได้ถ่ายค่ะ T_T

อยู่ๆ ป้าๆ ทัวร์ญี่ปุ่นที่เดินตามหลังเรามากลุ่มใหญ่
ก็กรูกันเข้าไปถ่ายรูปทางเข้า ทางลาด ตรงนั้น และก็ปักหลักไม่ไปไหน
จนเรามองไม่เห็นมุมที่จะเล็ง (แล้วออกมาดูดี) ได้เลย งอนได้มั้ยอ่ะ!
ดีนะที่คราวก่อนถ่ายเก็บไว้บ้างแล้ว

หลบหัวคน ได้มาแค่นี้ T_T

Photo Spot ด้านล่างของซอยเมื่อกี๊ค่ะ

ถ่ายข้างล่างขึ้นบนก็ได้เอ้า

ระหว่างสองซอย
ป้ายสีขาวตรงกลางๆ จะเป็นป้ายเตือนให้คุยกันเบาๆ ค่ะ
เพราะถึงจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีคนอาศัยอยู่
ต้องเกรงใจกันนิดนึงค่ะ

เดินทะลุซอยนั้นซอยนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ
เป้าหมายคือจุดถ่ายรูปที่อยู่ฝั่ง Samcheongdong-gil ค่ะ

ชอบสีบ้านหลังนี้จัง ^^

หลังเล็กๆ กระทัดรัด

จากตรงนี้ จะมีบันไดเดินลงไปบริเวณที่เป็นจุดชมวิวและ Photo Spot
ที่จะมองเห็นถนน Samcheongdong และพระราชวัง Gyeongbokgung ค่ะ

กระถางน่ารักๆ ^^

ลงบันไดไปแล้ว จะเลี้ยวขวาหรือซ้าย ก็ได้ทั้งนั้นเลยค่ะ
เพราะจะเป็นทางเดินและระเบียงยาววววว สำหรับชมวิวและถ่ายรูปโดยเฉพาะ

จากมุมนี้จะเห็นพระราชวัง Gyeongbokgung บางส่วนของ Blue House
และร้านรวงบนถนน Samcheongdong ค่ะ

มองไปทางขวา จะเห็นถนน Samcheongdong ลดเลี้ยว คดเคี้ยว
และสีสันสวยๆ จากต้นไม้นานาชนิด

มุมชมวิวชั้นดาดฟ้าของ Zoo Coffee (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)
แอบเคืองที่เห็นป้ายเขียนว่า "Couples Only"
มาตัวคนเดียวไม่มีสิทธิ์ว่างั้นเหอะ ~.~

เหลืองได้ใจเป็นที่สุดอ่ะ

ชื่นชมกับวิว อากาศเย็นๆ และถ่ายรูปเต็มที่แล้ว
ก็เดินลงเนินทางซ้ายมือค่ะ จะไปสุดทางที่ถนน Samcheonggong ด้านล่างพอดี

ระหว่างทางก็จะมีแกลเลอรี่หรืองานอาร์ทๆ น่าสนใจให้ดูค่ะ

ร้านอาหารธรรมดาหรือแบรนด์ดังก็มีให้เลือกค่ะ

World Jewellery Museum
สาวๆ น่าจะชอบนะ

ผ่าน World Jewellery Museum ข้างบนไปเล็กน้อย จะเจอทางแยก
ถ้าจะไปถนน Samcheongdong ให้เลี้ยวขวาค่ะ
จะเห็นร้านค้าตกแต่งน่ารักบ้าง ฉูดฉาดบ้าง ส่วนใหญ่จะขายเสื้อผ้าและรองเท้าค่ะ

สวยแบบขรึมๆ บ้าง

แอร๊กกกกกกกกก สงสัยจะชนกัน งือ งือ งือ


มากี๊ดดดดดเหมือนเิดิม โดยเฉพาะ บ้านพระนางจากเรื่อง heartstrings งือ งือ อยากป๊ายยยยยยยยยยย

ได้บรรยากาศของ Samcheongdong แล้วค่ะ
ตลอดถนนเส้นนี้จะมีทั้งร้านเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รองเท้า
ร้านอาหาร คาเฟ่ แกลเลอรี่ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ
เดินแบบเก็บทุกเม็ด ก็ใช้เวลาเกินครึ่งวันแน่ๆ ค่ะ เผื่อไว้ได้เลย

มองไปซ้ายมือ จะเห็นทิวแปะก๊วย
และกำแพงพระราชวัง Gyeongbokgung อยู่ลิบๆ ค่ะ

จุดนี้ของใหม่แน่ๆ เลย คราวก่อนยังไม่เห็น
แต่ก็สวย สดใส ดีค่ะ

อย่าเพิ่งเบื่อใบแปะก๊วยร่วงๆ นะคะ
แบบว่าเราชอบอ่ะค่ะ

นี่ก็ด้วยค่ะ จะว่าไปถนนเส้นนี้ก็เป็นแบบนี้เกือบทั้งสายเลยค่ะ
เราดูว่าสวย แต่คนกวาดถนนคงจะไม่เห็นด้วย แฮ่ๆ

กลุ่มนี้ตามมาจาก Bukchon หรือเปล่าเนี่ย
ดีนะที่ไปกันคนละทาง เดี๋ยวมีงอนอีก

ตึกนี้เป็นศูนย์เกี่ยวกับเยาวชนอะไรซักอย่างนี่ล่ะค่ะ
แต่ประเด็นของเราคือ ถ้าใครจะตามรอยมิคกี้ JYJ ไปที่ Cafe Rosso
ก็ให้เลี้ยวเข้าซอยข้างๆ ตึกนี้นะคะ (ตรงที่เห็นรั้วสีเขียวๆ ค่ะ) :)

คราวนี้ว่าจะแวะ Toykino Museum แต่เจอป้ายบอกว่าปิด
แถมยังดูร้างๆ อีก ขอให้ปิดแบบชั่วคราว มิใช่ถาวรนะจ๊ะ

ฝั่งตรงข้ามค่ะ ฟ้าใสดี

น่าจะเป็นร้านอาหารค่ะ
จุดประสงค์คือถ่ายใบไม้หล่นบนซอกหลังคา แค่นั้นแหละ

เจอแผนผัง Samcheongdong-gil แล้วค่ะ
เราเดินมาแค่ครึ่งทางเอง แต่ต้องไปที่อื่นต่อค่ะ ทำเวลากันหน่อย
แต่ก็ยังดีที่ไม่ถึงกับชะโงกมากค่ะ ตรงไหนชอบก็แวะนานหน่อยค่ะ

ร้านขนมหวาน วาดได้น่ารักดีค่ะ

ร้านค้าที่นี่ปรับและเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันค่ะ
บางร้านก็เปลี่ยนชื่อร้าน บางร้านก็เปลี่ยนรูปแบบ
ส่วนร้านตรงกลางนั้นยังเป็นคาเฟ่ ปีก่อนทาสีน้ำเงิน แต่ปีนี้ทาสีเหลืองสด
(ให้เข้ากันกับใบแปะก๊วยหรือเปล่าน้า อิอิ)

ร้านนี้นำเสนอรองเท้าได้น่าสนใจมาก
ใครผ่านมาเป็นต้องมองล่ะ (แต่คิดอะไรไม่รู้ ฮ่าๆ)

ตรงนี้น่านั่งมาก
เหมือนจะเป็นคาเฟ่ แต่ก็ไม่เห็นตัวร้าน
แต่ถ้าเป็นที่นั่งสาธารณะ ก็จะดูไฮโซไปนิด

กำแพงเมื่อกี๊ มองจากอีกมุมนึงค่ะ

ชอบสีบันได ตัดกับสีใบแปะก๊วยดี

เดินออกมาถึงหน้าทางเข้าถนน Samcheongdong แล้วค่ะ
ซ้ายมือจะมี Jinsun Book Cafe & Gallery
เป็นหนึ่งในสถานที่แนะนำของที่นี่ค่ะ

เยื้องๆ กับ Jinsun จะเป็น aA Cafe ค่ะ
ถ้าใครคุ้นๆ จะมี aA Design Museum & Cafe อยู่ที่ฮงแดด้วยนะคะ
(ที่เราไปตามรอย JYJ เมื่อคราวก่อน)
ตกแต่งคนละโทนสี คนละสไตล์ แต่ก็แนวๆ อาร์ทๆ เหมือนกันค่ะ

ชอบรีวิวของคุณ Onion Admirer มากค่ะ ตามอ่านจนถึงตอนสุดท้ายเลย ( รีวิวก่อนๆก้อไปตามอ่านด้วย ^^ )

อยากรู้ว่า แผนที่ Bukchon ขอที่ information บริเวณอื่นๆจะมีแจกมั้ยคะ พอดีอยากเดินเข้าจากข้างวัง แล้วไปออก อินซาดง จะได้ไม่พลาด photo spot ...

ขอบคุณค่ะ :D

Hakkojae Gallery ที่ตัวอาคารจะออกแบบคล้ายๆ Hanok
ต่างจาก Gallery อื่นที่เน้นอาคารรูปทรงแปลกตาหรือทันสมัย

Gallery Hyundai กับ Art Cube
คนละแนวกับ Hakkojae

อยู่ๆ มิสเตอร์บีน เอ๊ย ผู้ชายตาโตคนนี้ ก็ถามทุกคนที่เดินผ่านไปมาว่า ...

เพราะมีแบบนี้มั้งเลยต้องถาม ^^

ใบไม้เปลี่ยนสี สวยจังเลยค่ะ
เก่งจัง จขกท ไปคนเดียวด้วย

เดาๆ ว่าเค้ากำลังคงสร้างโครงการอลังการดาวล้านดวงแบบที่ไม่มีมาก่อน
แล้วใช้ชื่อว่า Naked Museum อาจจะแบบไม่ใช่โป๊ เปลือย มั้งเนอะ
แต่เป็นแบบเอาอะไรมาให้ดู ให้เห็น กันจะจะ ดูแล้วว้าว ตื่นตะลึง อะไรเงี้ย
แต่ถ้ามันจะ Naked ตรงตัวล่ะก็ ... คุณผู้ชายคงจะชอบ (มั้ง?)

แอบถ่ายไซท์ก่อสร้างเค้ามาด้วย แบบว่าใหญ่โต
และเจาะลงไปลึกมากอ่ะค่ะ ลุ้นๆๆ อยากเห็นตอนเสร็จแล้ว ที่เที่ยวใหม่ ^^

# คุณยายปลุก...มาแว้ว... : สวัสดีค่ะ ว่าแต่อะไรชนค่ะ แอบตกใจ

# คุณชาติหน้าขอเกิดมาหมวย : ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ ^^
สำหรับแผนที่ Bukchon จริงๆ เรามีสองอันแหละ แต่หาไม่เจออันนึง
ยังไงเดี๋ยวเราจะถ่ายรูปมาแปะให้ได้มั้ยคะ แต่ต้องรอแป๊บเพราะกล้องไม่อยู่ T_T
ฝากเก็บ Photo Spot เส้นเลียบวังเผื่อด้วยนะคะ เพราะเราคงไม่สามารถแล้ว
จริงๆ คราวที่เราไปมานี่ล่ะ ควรจะไปถ่ายมาก เพราะใบไม้กำลังสวย
แต่เราลืม!!! ก็เศร้าแซ้ดกันไป ส่วนแผนที่ไม่เคยเห็นที่อื่นแจกนะคะ
ถ้าจะมีอาจจะเป็นที่บูธ Information ของอินซาดงหรือแถวๆ จองโนนะคะ

# คุณยิ้มแล้วโลกสดใส : ใบไม้ช่วงต้นพ.ย. นี่สวยจริงๆ ค่ะ ได้ทุกสีเลย
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ

อันยอง Gyeongbokgung ค่ะ
ทริปนี้เราคงได้เจอกันแค่นี้แหละ

สาวๆ วง 4 Minutes รึเปล่าเนี่ย
เดินได้จังหวะใกล้เคียงกันมาก

ถ่ายท้องฟ้าบนกระจกรถ :)

ป้ายน่ารักๆ หน้าสำนักงานใหญ่ของ Seoul Selection ค่ะ
ชั้นใต้ดินจะมี Hank's Book Cafe (เปิดบริการ 09.30-18.30 น.)
มีหนังสือสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากมาย
และก็เป็นคาเฟ่ในตัวด้วยค่ะ

เดินฉับๆๆ ตัดภาพมาที่ Gwanghwamun Plaza แล้วค่ะ
แต่ละฤดูก็จะมีดอกไม้แปลกๆ ใหม่ๆ มาให้ดูกันนะคะ
ฤดูใบไม้ร่วงแบบนี้ นอกจากสารพัดดอกไม้ในรูปแล้ว
ก็เห็นมีดอกหญ้า (เหมือนฮานึลพาร์ค) มาแซมด้วยค่ะ

สำหรับใครที่สนใจเรื่องราวของ King Sejong ก็สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้นะคะ
ทางเข้าก็อยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์ของท่านนั่นเองค่ะ

หรืออีกทางหนึ่งก็เป็นทางเข้าใหญ่
ด้านหลังอนุสาวรีย์ของ Admiral Lee Sun Shin ค่ะ

มีบูธสำหรับถ่ายรูปในชุดโบราณด้วยค่ะ
เท่าที่ลองอ่านผ่านๆ ดู เหมือนจะฟรีนะคะ
นานๆ จะมาซักคนนึงค่ะ ลุงก็รอไป กินน้ำไป แดดร้อนด้วยล่ะ

โดดเด่น น่าเกรงขาม

ตึกสวยๆ ค่ะ
Kyobo Building, ... (ตรงกลางไม่ทราบค่ะ แฮ่ๆ) ...  Jongno Tower

ถึงคลองชองกเยชอนแล้วค่ะ อันยอง~

ช่วงนี้อย่างที่เกริ่นไปบ้างแล้ว ว่ามีเทศกาลโคมไฟนานาชาติ
จัดปีละครั้ง ใครๆ ก็ไม่พลาด แต่เราพลาด! เศร้าค่ะ ลืมๆ ไปละกัน
ไม่ได้เห็นตอนกลางคืนที่แสงไฟนวลสวย
ก็มาดูเวอร์ชั่นกลางวันกันบ้างนะคะ เปลี่ยนบรรยากาศ ^^

ขบวนแรก เป็นโคม 12 นักษัตรค่ะ
จะมีคำอธิบายลักษณะของสัตว์ต่างๆ
และเชื่อมโยงถึงนิสัยของคนที่เกิดในแต่ละนักษัตรด้วยค่ะ

ลอดสะพานกันเอาบรรยากาศกันเล็กน้อย

ขบวนต่อไปเป็นนักรบประจำยุคโชซอนค่ะ
อธิบายว่ากษัตริย์ท่านต่างๆ ได้ร่วมกันสร้างเมืองและประตูเมือง 4 ทิศ
และพยายามปรับปรุงปรับเปลี่ยนเมืองให้ดีขึ้นตลอดมา

ปัจจุบันนี้มุ่งหวังให้โซลเป็นเมืองที่พรั่งพร้อมไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม
ซึ่งจุดนี้ เห็นด้วยว่า เค้าได้ทำและทำได้ดีจริงๆ ด้วย
จะมุมไหนของโซล (และเกาหลี) ก็จะมีศิลปะแฝงอยู่ไม่แง่ใดก็แง่นึง
และในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทิ้งของเก่า แต่เอามาประยุกต์ใช้ด้วย ชอบอ่ะ

ถึงประตูเมืองแล้วค่ะ
เป็นของจำลองที่ใกล้เคียงของจริงมาก (ไม่นับความแข็งแรง ฮ่าๆ)
ลอดได้จริง และก็มีเพ้นท์ลายบนเพดานเหมือนของจริงด้วย

Haechi สัตว์ในตำนานที่เป็นตัวแทนในเรื่อง "Justice" และ "Security"
ตัวนี้เป็น Haechi ลายดอกไม้ สเปเชี่ยลสำหรับเทศกาลนี้โดยเฉพาะ
เค้ามีที่ครอบใสๆ กันไว้ด้วยนะ สงสัยกลัวใครจะอุ้มติดมือกลับบ้านไป ^O^

ระหว่างทางไป City Hall & Seoul Plaza จะมี Exhibition เกี่ยวกับสงครามเกาหลี
ก็ดูผ่านๆ จนมาเจอธงชาติไทย และก้มมองป้ายด้านล่างถึงได้เห็น
และก็ชอบมากกับคำว่า "Thanks Run Forever"

นี่คงเป็นการขอบคุณประเทศที่ให้การสนับสนุนเกาหลีในช่วงสงคราม
และคงจะเป็นสาเหตุให้คนไทย สามารถเข้าเกาหลีโดยไม่ต้องทำวีซ่าใช่มั้ยเอ่ย

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ อยากไปชมใบไม้แดงที่เกาหลีจังเลย

ผมสงสัยว่าบ้าน Heart string นี่ใช่บ้านหลังเดียวกับเรื่อง Personal taste หรือเปล่า

ถึง City Hall & Seoul Plaza แล้วค่ะ
ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ City Hall ยังคงปิดซ่อมแซมอยู่
โซลพลาซ่าก็กว้างขวางและเขียวสบายตามาก
จุดเด่นบริเวณนี้น่าจะเป็นตึกสูงๆ ที่อยู่รายล้อมมากกว่า
แต่ละตึกสวยโดดเด่น ยิ่งแซมด้วยสีเขียวๆ เหลืองๆ ของต้นไม้
ระหว่างตึกและตามถนนก็ยิ่งสวย และสมกับเป็นที่พักผ่อนของคนที่ผ่านไปมาด้วยค่ะ

# คุณฟองนมเย็น : สวัสดียามดึกค่ะ
บ้าน Heartstrings กับ Personal Taste เป็นคนละหลังค่ะ
Heartstrings อยู่ฝั่ง 11 Gahoe-dong (ฝั่งขวาของถนนหลัก)
แต่ Personal Taste อยู่ฝั่ง 31 Gahoe-dong (ฝั่งซ้ายของถนนหลัก)
รีวิวนี้จัดให้ครบทั้ง 2 หลังเลยค่ะ ^^

ชมบรรยากาศฝั่งโซลพลาซ่าแล้ว
ก็ข้ามถนนไปหาความดั้งเดิมที่ฝั่งพระราชวัง Deoksugung บ้าง
วันนี้เวลามีน้อย เลยไม่ได้เข้าไปชมด้านในวังนะคะ
แต่มีโอกาสได้ดูพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารพอดี

เพิ่งเห็นว่าเค้ามีการกั้นโซนให้ผู้ชมยืนเฉพาะด้วย
ประมาณว่าถ้าอยากดูใกล้ ก็ไปอยู่ด้านข้างทั้งสองข้าง
แต่ถ้าอยากอยู่กลางๆ ระยะก็จะไกลไปอีกหน่อย
เราอยากเห็นภาพรวมเลยอยู่ตรงกลางค่ะ
เค้ามีบรรยายระหว่างการเปลี่ยนเวรยามด้วยนะคะ
แต่เราดูไม่จบค่ะ เลยไล่เรียงเล่าพิธีการไม่ถูก :P

ต่อไปเป็นอะไรที่อยากทำมาก "เดินเลียบกำแพงวัง"
เค้าว่ามันโรแมนติค และก็คงจะจริงอย่างว่า
เพราะมีแต่คู่รักพากันมาเดินเกี่ยวก้อยบ้าง โอบบ้าง เต็มไปหมด
แต่เราเดินคนเดียว เลยโรแมนติคกับต้นไม้ใบหญ้าแทน
จ้องๆ มองๆ อยู่นั่นล่ะ ใบไม้สีนี้สวยจัง โอ๊ะ โค้งนั้นกิ่งมันโน้มๆ ด้วย
จะมีใครมาตื่นเต้น วิเคราะห์ใบไม้เหมือนดิฉันไหมเนี่ย
(บ้านนอกเข้ากรุงสุดๆ อ่ะ เกิดมาไม่เคยเห็น 555)

ต้นถนนซ้ายมือ จะมีคาเฟ่สีม่วง ตกแต่งน่ารัก
แถมชื่อยังน่ารักด้วย "Daddy & Me" ... ต้อนรับวันพ่อได้เลยนะเนี่ย

มองข้างบนแล้ว ก็ก้มมองข้างล่างบ้าง
ดูๆ แล้วเหมือนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณนี้นะคะ
เราคงไปได้ไม่ครบค่ะ อย่างมากซัก 3 ที่เองมั้ง

ในความสวยงาม มักมีเรื่องให้เราพบเจอและสะท้อนใจอยู่เสมอ
ที่เห็นคือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโซลครั้งใหญ่เมื่อ 2-3 เดือนก่อนค่ะ
ไม่รู้สาเหตุของการชุมนุม แต่คงจะเกี่ยวกับเรื่องการขอความช่วยเหลือ
การเยียวยา ขอความเห็นใจ ประมาณนี้มั้งคะ

นึกถึงน้ำท่วม ก็นึกถึงเมืองไทย หนักกว่าโซลเยอะเลย T_T

ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นการโชว์ภาพ ประดับให้สวยงามเฉยๆ

แต่คุณป้าคนนี้มาด้อมๆ มองๆ แล้วพูดกับเราว่า
"I want to buy this. Where is the artist?"
ก็เลยถึงบางอ้อ แต่ไม่รู้นะคะว่าราคาเค้าซื้อขายกันที่เท่าไหร่

ก่อนจะไปเลยขอให้คุณป้าเค้าเป็นนางแบบให้หน่อย
ได้รับความร่วมมืออย่างดีซะด้วย น่ารักและใจดีมากค่ะ ^^

ช่วงนี้ Autumn พอดี
รูปโปรดของเรา เลยเป็นรูปนี้~

เดินเลียบกำแพงวังมาเรื่อยๆ ตามถนน Jeongdong
เราก็จะเจอกับวงเวียน มีทางแยกสามทางค่ะ

- ขวาไปไหนไม่ทราบแน่ชัด รู้แต่ว่ามีเจ้าหน้าที่คุมค่อนข้างแน่นหนา
 ถ่ายรูปไม่ได้ด้วยนะคะ เราไม่รู้ กดไปหนึ่งแชะ เจอเจ้าหน้าที่วิ่งหน้าตั้งมา
 หาเลย
- ตรงไปก็จะไปโบสถ์ Chungdong กับ Chungdong Theater
- ซ้ายมือไป Seoul Museum of Art (SEMA)

ทายสิ ว่าเราไปไหน?

ไม่ใช่เมื่อกี๊นะคะ
เราไปที่นี่ค่ะ มีนิทรรศการ Seoul Photo Festival 2011 พอดีเลย ^^

ยังไม่ทันเข้าไปในงาน กรี๊ดกร๊าดกับนี่ก่อนเลย
สีส้มอมเหลือง สวยมากค่ะ

เห็นแบบนั้นปุ๊บ เราเลยเปลี่ยนแผน
ไม่เดินเข้าตึก แต่เดินเข้าสวน ไปส่องใบไม้อีกแล้ว
แล้วก็เจอทั้งลาน ที่เต็มไปด้วยใบแปะก๊วยเหลืองอร่าม ถูกใจจริงๆ

แต่จากสวน ก็สามารถเดินลัดเลาะไปอาคารหลักได้เหมือนกันค่ะ
สีสวยจัง (ต้นไม้ + ป้ายบนตึก)

เข้าประตูไปแล้ว สิ่งแรกที่รู้สึก คือ โปร่ง โล่ง และกว้างขวางมากค่ะ
สไตล์ข้างนอกกับข้างในนี่คนละแบบกันเลย

เข้าไปก็ติดต่อขอโบร์ชัวร์จากเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ได้เลยค่ะ
วันที่เราไปไม่เสียค่าเข้าสถานที่นะคะ
แต่สำหรับนิทรรศการแต่ละงาน อาจจะเก็บหรือไม่เก็บแตกต่างกันไปค่ะ

เจอสี่สาวอีกแล้ว คราวนี้เป็นเด็กนักเรียนบ้าง
ดีจัง ชวนกันมาพิพิธภัณฑ์ด้วย

งาน Seoul Photo Festival 2011 ที่เราจะดู ไม่เสียค่าเข้าชมค่ะ
แต่ห้ามถ่ายรูปในงาน เราก็เลยขอหน้างานไว้เป็นที่ระทึกซักรูปนึง
(ระทึกจริงๆ เพราะมีกล้อง cctv เต็มเลย)

สำหรับในงานก็มีภาพถ่ายหลากหลายแนว ในหลายรูปแบบ
จากศิลปินทั้งหน้าใหม่และมืออาชีพค่ะ (แต่เราไม่รู้จักนะ ฮ่าๆ)
ที่เราชอบ คือ ภาพของคุณ Sang Bin Im ที่ดูแล้วต้องคิดตาม

- ในภาพมีคลองชองกเยชอน (ตัดบางส่วนออก) และท้องฟ้า
 ถามว่าอะไรหายไป?
- ในภาพมีภูเขานัมซาน (ตัดบางส่วนออก) และเสาส่งสัญญาณ
 ถามว่าอะไรหายไป?
- ในภาพมีภูเขาบูกักซาน (ตัดบางส่วนออก) และท้องฟ้า
 ถามว่าอะไรหายไป?

มีใครอยากตอบคำถามมั้ยคะ มีของรางวัลเล็กๆ จากเกาหลีให้ด้วยนะ (จริงๆ)

เมื่อดูงานจบแบบอิ่มอกอิ่มใจพอสมควรแล้ว
เราก็ขึ้นไปหาอะไรให้อิ่มท้องที่ Beaux Arts Cafe ชั้น 3 ค่ะ
เห็นเค้าบอกในเว็บไซต์ว่าเป็นคาเฟ่ที่สามารถมองเห็นวัง Deoksugung ได้ด้วยนะ
ไปพิสูจน์กันค่ะ

เห็นจริงๆ ด้วย ไม่ชัดมาก แต่ก็ยังเห็นใบไม้สวยๆ ค่ะ

ร้านขายของที่ระลึกอยู่ชั้น 1 ค่ะ
ของเยอะมาก และก็ดูอาร์ทๆ เข้ากับสถานที่ดีค่ะ

ลา Seoul Museum of Art ไปด้วยภาพใบไม้สวยๆ
ที่มองเห็นได้จากด้านในตึกค่ะ

ตรงข้ามกับ Seoul Museum of Art เป็น Chungdong Church ค่ะ
ใหญ่โตและสวยงามมากค่ะ

และตรงข้ามกับ Chungdong Church อีกฝั่งถนนก็คือ Chungdong Theater ค่ะ
ละครชื่อดังของที่นี่ก็คือ Miso ค่ะ

ระหว่างทางกลับ ก็มีนิทรรศการเกี่ยวกับโซลในอดีตและปัจจุบันค่ะ
ซึ่งคนที่เดินผ่านไปมาก็ให้ความสนใจกันเยอะมาก
ทุกคนยืนดูทีละรูปอย่างตั้งอกตั้งใจ มีวิเคราะห์วิจารณ์กันด้วย จริงจังดีค่ะ

โอ๊ย ... มดกัด

เดินออกมาจากถนน Jeongdong ผ่านหน้าวัง Deoksugung
ก็ได้ยินเสียงฆ้อนตอกอะไรเป็นระยะๆ
แล้วก็เห็นว่ามีคุณลุงกำลังแกะสลักไม้อยู่
และใกล้ๆ ตัวลุง ตามรั้ววัง ก็จะมีผลงานของลุงวางอยู่เป็นแนว

เข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่างานประณีตและสวยงามมาก
เลยดูชิ้นงานที่ลุงกำลังอยู่ แล้วก็อึ้ง ... ลุงไม่มีมือข้างขวาค่ะ ~~
แต่เป็นก้อนกลมๆ พันด้วยผ้า แล้วมีหัวฆ้อนโผล่ออกมาแทน T_T
เห็นสภาพมือลุงและผลงานที่ออกมาแล้ว รู้สึกตื้อไปเลย
เค้าขาดบางอย่าง แต่เค้าก็ชดเชยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ชื่นชมและประทับใจลุงมากๆ เลยค่ะ

รักพี่ (เมเปิ้ลยักษ์) เสียดายน้อง (แปะก๊วย)
แต่สุดท้ายก็ต้องบอกลาทั้งคู่อยู่ดี
จะกลับบ้านแล้วนะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก
แต่จะพยายามกลับไปเจอให้ได้ ... ในซักวันหนึ่งของฤดูใบไม้ร่วง
(อีกกี่ปีก็ไม่รู้) นะจ๊ะ

เรานั่งรถไฟสาย 1 สีน้ำเงินจากสถานี City Hall ไปสถานี Jongno-3-Ga
แล้วเปลี่ยนเป็นสาย 3 สีส้ม ไปที่สถานี Anguk
เพื่อกลับไปเอากระเป๋าที่เกสต์เฮ้าส์

ขอบคุณและร่ำลากับคุณ JAY เจ้าของเกสต์เฮ้าส์แล้ว
ก็ลากกระเป๋าฝ่าฝูงชนไปที่ป้ายแอร์พอร์ทบัส ที่อยู่เลย MMMG ไปหน่อย
แต่ระหว่างรอรถบัส ก็มีรถตู้วิ่งมาจอด ลุงคนขับมาชี้ๆ รถ
แล้วถามเราว่าจะไปแอร์พอร์ทหรือเปล่า (มีคำว่า Incheon Limousine Service ด้วย)
เราบอกว่ารอรถบัสดีกว่า เค้าก็บอกว่าราคาเท่ากันนะ ไปรถตู้ดีกว่า เร็วกว่า
เราเองจริงๆ ก็รีบนะ เลยเข้าไปดูคนอื่นๆ ในรถ (อารมณ์กลัวโดนหลอก)
ปรากฎว่ามีแม่และเด็กคู่นึง ผู้ชายวัยทำงานคนนึง และกระเป๋าเต็มท้ายรถ
ก็เลยตัดสินว่าเอาเว้ย! แล้วก็ขึ้นไปนั่งบนรถ จนสุดท้ายก็ถึง Incheon โดยสัวัสดิภาพ

หน้าตาของรถเหมือนรถแวนทั่วไปค่ะ แต่ในรถแอบมีอุปกรณ์ไฮเทคเพียบเลย

นับเป็นโชคชะตา โชคดี หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่เราได้เจอลุง
เพราะลุงพามาถึงสนามบินแบบปลอดภัย ในเวลาอันรวดเร็ว
พอเราไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ถึงได้รู้ว่าไฟลท์เราเปลี่ยน
โดยเร็วขึ้นเกือบชั่วโมงครึ่ง พระเจ้า!!! แทบไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว
ได้แต่วิ่งไปส่งโปสการ์ดที่ Information ที่มีตู้แดงเหมือนในรูป (ส่งให้ฟรี)
แล้วก็กลับไปชั้นบน ตรวจผ่านด่านต่างๆ แล้วก็วิ่งหาเกทตับแล่บ
เกือบจะเจอไฟนอลคอลซะแล้ว เหนื่อยที่สุดในชีวิตการเดินทางแล้วอ่ะค่ะ

เอามาฝากค่ะ
หน้าตาของเจ้า Self/Speedy-Check In
ไม่ได้ลองนะคะ เพราะถ้าลองคงจะตกเครื่องอ่ะค่ะ
งมอยู่นั่นล่ะ เป็นพวกโลว์เทคฯ 555

อาหารบนเครื่องค่ะ
มื้อนี้อิ่มอร่อยมากๆๆๆ

แม้ขามาไฟลท์จะดีเลย์ ขากลับไฟลท์จะเลื่อนเร็วขึ้น (ให้มันสมดุลย์กันรึไงค้า!!!)
สร้างความยุ่งยากใจและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแค่ไหน
แต่แอร์สายการบินนี้ก็ยังคงบริการสุดชีวิต
ทำเอาโกรธไม่ลงเลยจริงๆ เฮ้ออออ ...

มาถึงตม. ยังงงว่าทำไมชาวต่างชาติเยอะแยะ
บ้านเราน้ำท่วมไม่ใช่เหรอ มาทำอะไรกัน
ตั้งนานกว่าจะนึกได้ว่า พรุ่งนี้วันลอยกระทง อืม ...

กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้วสินะ
ต่อไปก็ต้องทำงาน ทำงาน ทำงาน
ชาร์จแบตฯ มาเต็มที่แล้ว (โดยการแบกกล้องหนักๆ + ปีนเขาทุกวัน เนี่ยนะ *_*)
สู้ๆ ค่ะ~

เป็นรีวิวที่สีสวยมากกกกกเลยค่ะ สนุกมากด้วย ^^
ตามอ่านเงียบๆ (ฮา) มาตั้งแต่สี่ทุ่มเลย ติดหนึบ!!!

เดี๋ยวใบไม้แดงปีหน้าๆ จะไปตามรอยนะ

# คุณ myo : ยังตามอ่านเหรอคะ เข้าใจว่าคุณผู้ชมเข้านอนกันหมดแล้ว
แบบว่าช้าเกิ๊น แถมรีวิวไป นั่งสัปหงกไป (เพราะเมื่อคืนมัวแต่ดูซีรี่ย์เกาหลี 555)
ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ ถ้าจะไปแล้วอยากถามอะไรก็ยินดีค่ะ :)

จบแล้วค่ะ ทริปลุยเดี่ยวเล็กๆ ของเรา ช่วงปลายฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ขอบคุณทุกการอ่าน (ทั้งเปิดเผยและซุ่มเงียบ) ทุกคอมเม้นท์ และทุกกิ๊ฟท์นะคะ
สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนเพื่อน กำลังใจ และผลสะท้อนกลับที่ดีสำหรับเราค่ะ
ใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติม ก็ยินดีนะคะ ^^

ขอบคุณอีกครั้งจากใจจริงค่ะ _/l\_

----------------------------------------------------------------------------

ช่วงนี้เกาหลีก็เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว และบางที่หิมะก็ตกแล้วด้วย

ขออนุญาตฝากรีวิวของปีที่แล้วช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง-ต้นฤดูหนาว
เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับเพื่อนๆ ที่มีแผนจะเดินทางในช่วงดังกล่าวค่ะ
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/02/E10256867/E10256867.html

แวะกลับมาอีกรอบ หลังจากตะลุยดูซีรีส์ อิอิ ตอนนี้กำลังดู Midas อยู่ครับ พอดีรอบที่แล้วที่ไปโซล (ช่วงซากุระ) ซีรีส์เรืองนี้ฉายพอดี ตอนกลับมาว่าจะหามาดู ไปๆมาๆดองไว้ยาว เพราะมัวแต่ไปดูเรื่องที่เก่ากว่า และใหม่กว่า อย่างเช่น 49 Days, Lie to me เพิ่งจะได้ฤกษ์มาดูช่วงนี้ แหะแหะ

ขอบคุณครับสำหรับรีวิวชุดนี้ ถ้าได้ไปเกาหลีอีก (ไม่นับรอบที่กำลังจะไปนะ) คงจะได้ไปเดินทอดน่องชมโน่น ชมนี่บ้างละดีกว่า

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆค่ะ

มาตามเก็บทริปวันสุดท้ายค่ะ
ภาพสวย วิวสวยเหมือนเดิม ^^
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ ถ้าไปเองคงไม่มีโอกาสได้เดินเที่ยวชมต้นไม้แบบนี้แน่ๆ

น่าตามรอยมากเลยครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

ชอบรีวิวของ คุณOnion Admirer ค่ะ...
ตรงใจของเราเลย ชอบเดินชมแบบนี้แหละ ดูวิถีชีวิตของผู้คนแบบเพลินๆ ต้องเก็บเป็นข้อมูลไว้ เผื่อจะมีโอกาสได้ไป หรือมีเพื่อนๆได้ไป จะได้มีข้อมูลการเดินทาง...

ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆนะคะ...

ขอบคุณสำหรับรีวิวทุกตอนเลยครับสนุกมากกับใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาหลี

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะค่ะ ละเอียดมากๆเลยค่ะ
อยากไปตามรอยบ้านนนน มั้งจัง แต่เราคงหลงอะ  55555
คงไม่ได้ไปไหนมากมาย แบบคุณ จขกท แน่ๆเลย
^^

ตามมาปิดท้ายทริปด้วยคนค่ะ สำหรับสาวสวยลุยเดี่ยว

ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากเลยครับ
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ^.^

# คุณกาแฟฯ :
Midas ยังไม่เคยดู แต่ดาราน่าสนใจทั้งนั้นเลยค่ะ อาจจะเป็นโปรแกรมถัดไป ^^
ล่าสุดนี้ดู The Princess Man รวดเดียวจบ 24 ตอนค่ะ แพนด้าสุดๆ เลยตอนนี้
Lie to Me ก็ยังค้างๆ คาๆ สงสัยต้องตามเก็บในเร็ววัน

ไปเกาหลีหน้าหนาวเหรอคะ เก่งจัง เป็นฤดูที่เราไม่สู้เอาซะเลยค่ะ
คราวก่อนกลัวหนาวตายในคอนเสิร์ต JYJ มาก (สเตเดี้ยมหลังคาโล่ง)
ไม่เอาแล้ว T_T
อย่าลืมไปทอดน่อง ทอดอารมณ์ และกลับมาถ่ายทอดเรื่องราวและรูปภาพสวยๆ
สไตล์คุณกาแฟฯ ให้ดูด้วยนะคะ ... ส่วนทริปเก่าๆ ไม่ได้ทวงนะคะ แค่ถามถึง 555

# คุณสาวหน้าใส :
ขอบคุณค่ะสาวหน้าใส แถมยังใจดี แวะมาประจำเลย ^^

# คุณ Muminnie :
ขอบคุณค่ะที่แวะมาให้กำลังใจตลอดเลย
ขอให้คุณ Muminnie ได้มีทริปส่วนตัวที่แสนสนุกในเร็ววันนะคะ

# คุณเล็กทาโร่ :
ขอบคุณที่ติดตามอ่านเช่นกันค่ะ
เจอคุณเล็กทาโร่ทุกกระทู้เลย ขยันอ่านและขยันตอบมากๆ ค่ะ :)

# คุณดอกโสนบานเช้า :
ขอบคุณที่ชอบรีวิวแบบนี้นะคะ เราเป็นพวกเรื่อยเปื่อยค่ะ
เดินดูนั่น ดูนี่ ดูผู้คน สาระไม่ยุ่ง (มาก) มุ่งบันเทิง (เป็นหลัก) 555
ถ้าอยากถามอะไรเพิ่ม ก็ยินดีนะคะ

# คุณ Destiny-Boy :
ขอบคุณที่ติดตามอ่านและให้กำลังใจทุกตอนเช่นกันค่ะ ^^

# คุณ Ms.Simple :
ขอบคุณมากนะคะ เราอยากให้เห็นภาพว่าอะไรเป็นไง เลยยาวหน่อยค่ะ
แต่บางทีก็แอบคิดว่าจัดเต็มไปหรือเปล่า กลัวคนอ่านจะเบื่อ ไม่ก็ง่วงไปซะก่อน ^O^
เรื่องเที่ยวนั้น ไปหลายที่ก็จริง แต่มีเวลาให้แต่ล่ะทีน้อยไปด้วยค่ะ
อยากไปอยู่นานๆ แล้วเที่ยววันละที่ให้จุใจ เก็บรายละเอียดเยอะๆ มากกว่า
แต่คงได้แค่ฝันล่ะค่ะ T_T

# คุณกรีน..ที :
ขอบคุณที่แวะมาส่งท้ายค่ะ ลุยเดี่ยวจริงๆ ด้วย แต่ไม่สวยนะคะ 555

# คุณ attsarana :
ขอบคุณค่ะ ใบไม้ช่วงต้นพ.ย. นี่สวยจริงๆ ค่ะ

----------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณทุกๆ ท่านอีกครั้ง ด้วยรูปต้นไม้ ใบไม้ ดอกหญ้า สารพัน ฯลฯ
ที่เราพบเจอในแต่ละวันค่ะ ... อยากไปเจออะไรแบบนี้อีกจังเลย~

วันที่ 1 : 5 พ.ย. 54

วันที่ 2 : 6 พ.ย. 54

วันที่ 3 : 7 พ.ย. 54

วันที่ 4 : 8 พ.ย. 54

วันที่ 5 : 9 พ.ย. 54

-----------------------------------------------------------------------------

ในแต่ละวันเราได้เห็นต้นไม้ ใบไม้ หลายชนิด หลากสี
แต่ละที่ก็จะสวยงามและมีรายละเอียดแตกต่างกันไป
ยังมีต้นไม้น้อยใหญ่ ซ่อนตัวอยู่ในที่ที่เราไปไม่ถึง
แต่ได้เห็นเท่านี้ ก็ถือว่าเกินความคาดหมายแล้ว

รู้สึกได้เลยว่าใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งที่อยู่บนต้นและร่วงหล่นอยู่บนพื้น
ทำให้ผู้คนในโซลมีความสุขและอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด
เราเองก็มีความสุขและช่วงเวลาดีๆ ในโซล (และใกล้เคียง) ไม่น้อย
หวังว่าจะมีวันดีๆ แบบนี้อีกในอนาคต (อันไกลพ้น) สาธุ~

ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยกันนะคะ ^^

ชอบมากกก  มาดูช้าดีกว่าไม่ได้ดู


เค้าเกือบพลาดตอนจบไปแย้ววว

ไม่ทราบกล้อง DSLR ที่คุณหัวหอมเอาไป
ต้องเอา CFcard ไปกี่กิ๊กคะ ถึงได้รูปสวย ๆ มาเพียบเลย
เรากลัวว่าถ้าแบกกล้องใหญ่ไปจะเป็นภาระ
แต่ก็กลัวความจำในไอโฟนไม่พอ เห้ออออออ
จะตามรอยคุณหัวหอมไปตามซีรีย์ Heartstrings ^^
ไปสูดกลิ่นอายของพ่อหนุ่ม Jong Hwa ซะหน่อย

สวัสดีค่ะคุณ Falling Sl:-)
จขกท. มาตอบช้ายิ่งกว่า 555 ขอบคุณที่ชอบนะคะ ^^

คุณ PukPik (ruxsy13) เราเอาไปประมาณ 24 GB สำหรับกล้องใหญ่ค่ะ (ถ่ายรูปล้วนๆ)
แล้วก็มีอีก 4 GB สำหรับกล้องเล็ก เอาไว้อัดวีดิโอและบรรยากาศเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ
ซึ่งสำหรับคนชอบถ่ายๆๆ แบบเรา คิดว่าน้อยไปนิดนึงค่ะ
แต่ถ้าไอโฟน 32 GB น่าจะเอาอยู่นะคะ หรือ 16 GB ก็ยังได้ถ้าถ่ายเฉพาะช็อตเน้นๆ
เรื่องแบกกล้องลำบากนี่ต้องทำใจค่ะ แต่จะไม่เอาไปก็เหมือนขาดอะไรซักอย่าง
ถ้าได้ไปอีก เราก็คงบ้าหอบฟาง อีรุงตุงนังเหมือนเดิมค่ะ แฮ่ๆ ^^