ทริปนี้ขอพาไปชมโรงแรมเครือแอคคอร์บ้างนะครับ เป็น Novotel Melbourne on Collins และแถมภาพ Royal Orchid Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ติดตามชมได้เลยนะครับ

ครั้งนี้ผมให้แท็กซี่จอดตั้งแต่ entrance 1 เลยเพราะตั้งใจจะมาใช้บริการเช็คอินการบินไทยในช่องพิเศษสำหรับผู้โดยสารชั้น BIZ & FIRST class

แต่ผมจองตั๋วการบินไทยชั้น ECO เท่านั้นนะครับ เพราะว่ามีไฟลท์กลางวันเลยเลือกบินกลางวันชั้นประหยัดเซฟเงินไว้ก่อน เอาไว้ไปที่ไหนที่ไม่มีไฟลท์กลางวันถึงจะยอมจัด BIZ หรือ FIRST เนื่องจากเกลียดการที่ต้องนอนบนเครื่องบินมาก

ที่มาเช็คอินในช่องนี้ได้เพราะใช้สิทธิ Meet and Assist ของบัตร Wisdom ครับ

สิทธิพิเศษนี้อำนวยความสะดวกให้โดยทางการบินไทยจะส่งพนักงาน 1 ท่านมารออำนวยความสะดวกตั้งแต่เช็คอิน ทำให้เราสามารถมาเช็คอินที่ช่อง row A ซึ่งปกติให้บริการเฉพาะผู้โดยสารชั้น BIZ และ FIRST class เท่านั้น

เจอป้าย Wisdom อยู่ด้วย มาไม่ผิดที่แล้ว

ตรงนี้จะเป็นเช็คอินแบบนั่ง ไม่ต้องยืนต่อคิวแบบเคาเตอร์เช็คอินปกติ

ใกล้ๆเคาเตอร์เช็คอิน มีโซฟาให้นั่งรออีกหลายชุด

ถึงจะมีเก้าอี้ให้นั่งเช็คอิน แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้นั่งอยู่ดีอะ โดนขาใหญ่มาแย่งที่นั่งไป

หลังจากเช็คอินเสร็จ ก็เดินต่อไปจะเป็นช่อง ตม.พิเศษ แยกจากผู้โดยสารทั่วไป ไม่ต้องรอคิวนาน เป็นประโยชน์มากเวลาเดินทางในช่วงพีคที่ผู้โดยสารเยอะๆ

เจ้าหน้าที่จากการบินไทยถามว่าจะให้ไปส่งที่เล้าจน์หรือเกท ผมบอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องไปส่ง จะเดินดูช็อปต่างๆ แล้วจะไปที่เล้าจน์เอง ในใจนึกว่าไม่เห็นต้องจัดเจ้าหน้าที่มาต้อนรับให้เสียเวลา เอาเวลาไปเปิดช่องเช็คอินตรงชั้น ECO อีกช่อง ดูแลลูกค้าที่ต่อคิวยาวๆให้รวดเร็วขึ้นก็จะดีกว่า จัดเป็นวอยเชอร์ให้ไปเช็คอิน row A มาให้ก็พอ เผื่อจะได้ใช้ประโยชน์เวลาเดินทางในช่วงไฮซีซั่น แค่นั้นก็พอใจแล้ว................เข้าใจไหม Wisdom Kbank และ Thai Airway

ครั้งนี้เดินไกลมาก row A อยู่ด้าน east สุด ต้องมาขึ้นเกท E อยู่ west สุด

เดินมาเจอพญานาค 3 หัว แสดงว่ามาถึงตรงกลางสนามบินแล้ว

รูปปั้นไทยๆ ตัดกับแบรนด์อินเตอร์ด้านหลัง.......................เดี๋ยวนี้โลกไร้พรมแดนจริงๆ

เดินมาถึงเกท E เจอเป้าหมายละ Royal Orchid Lounge จริงๆเล้าจน์การบินไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิมีทั้งหมด 8 แห่ง แต่เลือกตรงนี้เพราะใกล้เกทที่จะขึ้นเครื่องจะได้ไม่ต้องวิ่งขึ้นเครื่องถ้าลืมดูเวลา

ปกติเล้าจน์การบินไทยให้เข้าได้เฉพาะผู้โดยสารชั้น BIZ และ FIRST class แต่ครั้งนี้ผมใช้สิทธิของบัตร Wisdon Kbank ซึ่งอนุญาตให้ใช้ได้ปีละ 2 ครั้ง

เข้าไปหาอะไรทานกันก่อนนะครับ วันนั้นที่เล้าจน์คนแน่นมาก  เพราะเล้าจน์การบินไทย 1 ใน 8 ปิดซ่อมปรับปรุงอยู่ ผมเลยไปแจ้งพนักงานที่เคาเตอร์ให้ช่วยหาที่ให้หน่อย พนังงานเลยพาไปห้องแยกซึ่งปกติให้ใช้เฉพาะสตาฟเท่านั้น

วิวสวยดี

ขอเกาะหางเครื่องบิน ตามไปเที่ยวออสเตรเลียด้วยคนครับบบ

ไปชมอาหารกันหน่อย ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารทานเล่นๆ ทานง่ายๆ

ตามมาเลยครับคุณ สายลมแห่งวิงค์ แต่ตอนนี้จะเน้นไปที่การเดินทางและที่พัก ยังไม่ได้ลงรายละเอียดของ Melbourne นะครับ

------------------------------------------------------------------------------------------

เบเกอรีก็น่าทานดี

ตามชมค่ะ 

ตามมาเลยครับคุณ armearn ตามมาชมโรงแรมเครือ Accor โดยแฟนพันธุ์แท้ Starwood อย่างผม ว่าจะคอมเม้นท์ว่าอย่างไรนะครับ

------------------------------------------------------------------------------------------

ชากาแฟ โอวัลติน

จัดมาทานนิดหน่อย มากไปเดี๋ยวขึ้นเครื่องทานไม่ลง

หลังจากทานอะไรไปบ้าง เดินออกมาดูข้างนอกโล่งขึ้นแล้ว คงจะมีไฟลท์ก่อนหน้าออกไปบ้าง เลยได้โอกาสมาเก็บภาพบรรยากาศในเล้าจน์มาให้ชมกัน

มีนิตยสาร หนังสือพิมพ์ให้อ่านฆ่าเวลา

ตามมาชมทั้ง Lounge และห้องพักครับ

เพิ่งเคยเห็นว่ามีนั่งเชคอินซะด้วย...เหอะๆ
Lounge ดูหรูดีไม่แ้พ้ Blue Ribbon Club Lounge เลยครับ

มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ฟรี 3-4 เครื่อง

แต่อาหารไม่เยอะเท่า Blue Ribbon Club Lounge นะครับ คุณ TeeChoco

-----------------------------------------------------------------------------

ข้างๆอินเตอร์เน็ต มีซอกแบ่งเป็นห้องๆ

เป็นห้องนอนพักชั่วคราวครับ มีประมาณ 8 ห้อง

ห้องนี้วิวดีนะ แต่คงนอนไม่หลับ มันสว่างเกิน

ไปชมห้องน้ำกัน

ความสะอาดดีเยี่ยม เพราะมีพนักงานยืนอยู่หน้าห้องน้ำ พอเห็นแขกออกมาก็รีบเข้าไปเช็ดที่น้ำที่กระเด็นเลอะเคาเตอร์ทันที

ห้องสุขาก็เหมือนกัน พนักงานเดินเข้ามาเช็คเรื่องความสะอาดบ่อยมาก

มีห้องอาบน้ำด้วยครับ

ตัดมาออสเตเลียเลยนะครับ พอถึงสนามบินที่ Melbourne ส่วนใหญ่จะใช้บริการ Skybus เดินทางเข้าตัวเมือง เพราะสนามบินที่นี่ค่อนข้างไกล ถ้านั่งแท็กซี่จะแพงมาก ไม่เหมือน Sydney สนามบินไม่ไกล นั่งแท็กซี่สะดวกกว่า

ให้ชมภาพภายใน Skybus มีที่ให้วางกระเป๋าใบใหญ่ๆได้สบาย ไม่ต้องกังวล

^ ^   นั่ง  Skybus เหมือนกันเลย


ตาม จขกท. ไป ชม รร. Novotel สวยๆๆ ใน MelBourne

ปกติ เคยพัก แค่ Novotel @ Nathan



ปล. แอบถาม TG Lougne ที่ Gate ไหนใหญ่ และสบายสุดอ่ะครับ

โรงแรมที่มาพักคราวนี้เป็นเครือ Accor แบรนด์ Novotel แบรนด์นี้เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ที่เลือกมาพักที่นี่ก็เพราะเริ่มเข้ามาดูพันทิพท์ห้อง BP นี่แหละครับ ปกติผมพักแต่เครือสตาร์วูด

ตอนนั้นเข้ามาดูเห็นในห้องนี้ดูโปร. Accor Supersale กัน เลยลองดูตามบ้าง โอววววว ทำไมราคามันถูกมากมาย ตอนแรกผมตั้งงบไว้คืนละหมื่น ราคาที่นี่ในโปร.ตก 3 พันกว่าบาท เช็คดูแล้วเป็นเตียง double (กว้าง 4.5ฟุต) 2 เตียง ให้พักได้ 2 เด็ก + 2 ผู้ใหญ่ ผมเลยลองเสี่ยงดวงดูสักที แต่ในใจก็ยังหวั่นๆอยู่ว่าสภาพโรงแรมจะเป็นอย่างไร

ตอบคุณ Brad Pooh : ที่ผมไปรอบนี้เป็น Royal Orchid Lounge ฝั่ง east ตรง concourse E ด้านขวามือ เคยไปใช้บริการ Royal Silk Lounge ที่ concourse C ทั้งด้านซ้ายและด้านขวามือ ฝั่งขวามือกว้างขวางกว่านี้ครับและกว้างกว่า concourse C ด้านซ้ายมือ แต่กว้างสุดน่าจะเป็น Royal SilK Lounge concouse D นะครับ (ไม่นับ Royal First Lounge นะครับ อันนั้นสำหรับ First Class เท่านั้นนะครับ ) แต่ยังไงรบกวนเซียนสุวรรณภูมิช่วยคอนเฟิร์มหรือแก้ไขด้วยละกันครับ

****เข้ามาเพิ่มเติมข้อมูลเล้าจน์การบินไทยให้อีกรอบครับ****

ถ้าไม่นับ Royal First Lounge , Royal Orchid Spa , Domestic Royal Silk Lounge ที่ลักษณะการให้บริการต่างออกไปแล้วแล้ว เล้าจน์การบินไทยจะเหลือ 5 แห่ง ใน 5 เล้าจน์นี้ Royal SilK Lounge ที่ concoruse D ใหญ่สุดครับ 2,410 ตรม. ที่เหลืออีก 4 แห่งคือ Royal Silk Lounge ที่ concourse C ซ้ายมือ+ขวามือ , concourse E ซ้ายมือ และ Royal Orchid Lounge ที่ concourse E ขวามือ มีขนาดเท่ากันครับ 667 ตรม. แต่ที่ทำให้ผมดูว่าเล็กใหญ่ต่างกันเพราะการตกแต่งภายใน การแบ่งซอยห้อง ไม่เหมือนกัน สรุปว่า ตามความเห็นของผมเลือก Concourse D อันดับ 1 รองลงมาก็ Concourse C ขวามือครับ  

-----------------------------------------------------------------------------

ตอนแรกแพลนว่าจะมาพักที่นี่ครับ Westin Melbourne  ผมเช็คราคาตกคืนละประมาณหนึ่งหมื่นบาท แต่กะจะใช้ SPG. point แลกไปพักฟรี   Westin Melbourne อยู่ใน cathegory 5 ใช้แต้มแลก 12,000 SPG point ต่อ 1 คืน แลก 4 คืน คืนที่ 5 พักฟรี สรุปใช้ 48,000 point พักได้ 5 คืน มูลค่าประมาณห้าหมื่นบาท เฉลี่ยแล้วแลกพ้อยท์ ได้มูลค่าประมาณ 1 บาทต่อ 1 point ถือว่าคุ้มมากครับ แต่ในที่สุดก็ต้องล้มไปเพราะเจอโปร.แอคคอร์ครับ

มาถึงโรงแรมที่มาพักคราวนี้ Novotel Melbourne on Collins เสียที โรงแรมติดกับห้างสรรพสินค้า Australai on Collins ครับ มีทางเชื่อมเดินทะลุเข้าห้างได้ ซึ่งสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว

เนื่องจากด้านล่างต้องเจียดพื้นที่ส่วนใหญ่ไปเป็นห้างสรรพสินค้า เลยเหลือพื้นที่สำหรับโรงแรมนิดเดียว มีพนักงานอยู่แค่ 2-3 คนที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า

ภายในชั้นล่างมีแค่เคาเตอร์คอนเซียส ถัดไปก็เป็นลิฟท์

ขึ้นลิฟท์มาถึงเจอลอบบี้ครับ กระเป๋าสัมภาระลากกันขึ้นมาเองครับ

การตกแต่งก็พอใช้ได้

ที่นั่งรอสวยงามดี ด้านหลังจะเห็นว่าเชื่อมต่อกับโถงของห้าง

หมอนอิงสีแดงแรงฤทธิ

เคาเตอร์ขาย Day Tour มีส่วนลด 10% แต่ซื้อข้างนอกบางที่มีถูกกว่านี้

จากภายในห้างมีทางเชื่อมต่อเดินเข้าโรงแรมได้เลย

มาชมภายในห้องพักกัน ที่ปรับอุณหภูมิแอร์เป็นแบบโบราณจัง ยังดีเปิดปิดประตูใช้คีย์การ์ดแล้ว

เลย์เอ้าของห้องเป็นแบบทั่วๆไปเข้ามาห้องน้ำอยู่ด้านนึง อีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้า ตู้เซฟวางซะสูงเชียวต้องใช้มือควานหาของ มองไม่เห็นถึงด้านในลึกๆ

ถัดจากตู้เสื้อผ้าเป็นที่วางกระเป๋าเดินทาง โต๊ะทำงาน และมินิบาร์

ห้องตกแต่งเป็นโทนสีขาว รูปภาพตกแต่งก็ใช้เป็นสีขาว-ดำ  LCD TV ติดผนังจิ๋วมากน่าจะ 20 นิ้ว

โต๊ะทำงานมีเก้าอี้ให้ตั้ง 2 ตัว แปลกดี

มินิบาร์เหมือนๆบ้านเรา ชากาแฟฟรี ไม่มีคอฟฟีเมท มีแต่นมสดเป็นถ้วยพลาสติกเล็กๆแทนอยู่ตรงฝาตู้เย็น ไม่มีน้ำดื่มฟรีเลยต้องเสียตังแล้วแพงด้วย แนะนำให้ออกไปซื้อร้านสะดวกซื้อใกล้ๆดีกว่า

มาดูด้านเตียงนอนบ้าง ผนังด้านนี้เป็นสีฟ้าเข้ม หัวเตียงบุผ้าสีน้ำตาลอ่อน สวยดี

จากการกะด้วยสายตา ขนาดเตียงเป็นขนาด 4.5 ฟุต (double bed) 2 เตียง เท่ากับที่เชอราตันหัวหิน เปิดแอร์เย็นๆ 1 เตียงนอนพอสำหรับ 2 คน ผู้ใหญ่+เด็ก

ปล.ยังดีกว่าได้เตียง Single 2 เตียงนะครับ เพราะเตียง Single กว้างแค่ 3.5 ฟุต

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ
โดยเฉพาะรอชม GOR หนึ่งในที่ที่ประทับใจสุดๆ ครับ

รูปแหล่งท่องเที่ยวมีให้ชมแค่ที่ละ 2-3 รูปเป็นน้ำจิ้มนะครับตุณ cold river ตอนนี้ขอเน้นที่พักก่อน เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังเลือกโรงแรมอยู่

-----------------------------------------------------------------------------

โต๊ะหัวเตียงมี โทรศัพท์ โคมไฟ และนาฬิกาปลุก

ที่ถูกใจลูกชายและลูกสาวก็คือ ตุ๊กตากวางมูสที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้เอาใจเด็กๆ

มาชมห้องน้ำเป็นแบบเรียบง่าย ปูกระเบื้องสีขาวดูสะอาดตา ด้านซ้ายเป็นอ่างล้างหน้า ตรงกลางเป็นอ่างอาบน้ำ ด้านขวาเป็นโถสุขภัณฑ์

อ่างล้างหน้า กระจกบานใหญ่ เรียบง่าย ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมาย แต่ก็สะอาดดีครับ

โอ้.....มารอชมรีวิวสดด้วยคนครับ

ต้องยืนอาบในอ่างอาบน้ำ ไม่มีห้อง shower แยกครับ

เชิญครับคุณ Destiny-Boy

-----------------------------------------------------------------------------

ไปชมห้องอาหารกันครับ อาหารเช้าเป็นแบบ buffet ใช้บัตร Accor Advantageplus ผู้ใหญ่ทาน 2 จ่าย 1 เด็กฟรี 2 คน โรงแรมเครือแอคคอร์ในต่างประเทศหลายที่เงื่อนไขเป็นแบบนี้ แต่ไม่เห็นที่เมืองไทยเป็นแบบนี้เลย ฟรีเด็กแค่คนเดียว

อีกมุม

ไลน์อาหาร จัดว่าปานกลาง

เบเกอรีอร่อยดีหอมกลิ่นนมเนยมาก

ตามภาพซ้ายล่าง ไข่ลวก ไข่ดาวของเขา บล็อกเป็นทรงแปลกดี

ตามภาพขวาล่างเป็นเครื่องทำแพนเค้กอัตโนมัติ ไม่เคยเห็นมาก่อน

มาพักทั้งหมด 5 คืน ทานอาหารเช้าที่โรงแรม 2 วัน อีก 3 วันไปหาอย่างอื่นทานบ้าง

สรุปเนื่องจากไม่ได้คาดหวังมาก ก็ถือว่าผ่านฉลุยสำหรับราคาโปร. Accor Supersale สามพันกว่าบาท สภาพห้องพักดีเกินความคาดหมาย แต่ถ้าราคาเต็มหกพันกว่าบาทต้องคิดดูก่อน

โรงแรมอยู่ในทำเลดี สามารถเดินไปสถานีรถไฟหลักของที่นี่ Flinder Street ได้ไม่ไกล หาของทานง่าย แม้จะไม่หรูหรา แต่ก็สะอาดดี เผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่จะไปเที่ยว Melbourne ครับ

ก็ต้องขอขอบคุณห้อง BP เป็นอย่างมากที่มีโปร.ดีๆมาบอกกัน ทำให้เซฟเงินไปได้เยอะเลยครับ

ไหนๆก็พามาเมลเบิร์นแล้ว ก็ขอพาไปชมวิวสวยๆเป็นออร์เดิฟ เผื่อจะมีใครอยากจะไปเที่ยว Melbourne บ้าง ล่าสุดเมลเบิร์นเบียดแวนคูเวอร์ขึ้นมาเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกแล้วนะครับ

ถนนหนทาง ไม่ค่อยมีรถติด มีรถรางให้บริการอยุ่โดยจะวิ่งตรงกลางถนน รถยนต์วิ่งข้างๆ ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมป้ายรถเมล์ไปอยู่กลางถนน ที่จริงเป็นป้ายจอดรถรางครับ

ทริปนี้มา 6 วัน 5 คืน หักวันเดินทางก็เหลือเที่ยวได้ 4 วันเต็ม วันแรกเป็นวันเดียวที่เที่ยวเอง อีก 3 วัน ซื้อ day tour

วันแรกไปเที่ยว Puffing Billy

Puffing Billy ไปเองไม่ยากครับ จากโรงแรมเดินมาสถานีรถไฟ Flinder Street นั่งรถไฟต่อเดียวถึงเลยครับ ไม่ซับซ้อน

หน้าตารถไฟ ใช้ไฟฟ้านะครับ

ภายในสะอาดดีครับ

Puffing Billy ต้องห้อยขากันแบบนี้ครับ

วันที่ 2 ไป Sovereign เป็นเหมืองทองเก่า

ตอนนี้ทำเป็นเมืองจำลอง ให้นักท่องเที่ยวชมบรรยากาศเก่าๆ มีพนักงานแต่งตัวแบบโบราณ

มีการให้ทดลองร่อนทอง เด็กๆสนใจมาก ตั้งใจร่อนทอง อยากจะได้ทองเป็นของติดไม้ติดมือกลับบ้าน

ติดกันมี Gold Museum มีก้อนทองคำชิ้นใหญ่ๆ อันนี้ผู้ใหญ่ถึงสนใจ

วันที่ 3 ไป GOR

บางคนบอกว่านั่งรถไปกลับเกือบ 500 km. ไปดูก้อนหินในทะเล ไม่ค่อยคุ้ม แต่ผมว่ามันคุ้มมากครับ เพราะ GOR มัน Great จริงๆ

วันที่ 4 แบ่งเป็นเช้า และ บ่าย+เย็น ตอนเช้าไป city tour เป็นของแถม ชมไปเรื่อยๆ จอดรถพัก 2-3 จุด ตรงนี้เป็น Royal Botanic Garden

ภาพนี้เป็น Fitzroy Garden ตรงนี้มีกระท่อมกัปตันคุกส์อยู่ด้วย

อนุสาวรีย์ทหารผ่านศึก

ตอนบ่ายถึงเย็นค่ำ ไปเกาะฟิลลิป อันนี้ก็เป็นอีกส่วนที่ชอบมากครับ ไปดูเพนกวินในธรรมชาติเดินขึ้นจากทะเลกลับบ้าน แล้วตามไปดูจนถึงหน้าบ้านของเพนกวินแต่ละครอบครัว ตรงที่จอดรถยังมีป้ายบอกไว้เลยครับว่าก่อนออกรถ กรุณาตรวจดูว่ามีเพนกวินอยู่ใต้รถหรือไม่ เพราะกลัวว่าเพนกวินอาจจะเดินหลงมาอยู่แล้วโดนรถทับตาย

ขากลับที่สนามบิน Melbourne ก็เตรียมจะใช้สิทธิบัตร Priority Pass ที่มาพร้อมกับบัตร Wisdon Kbank ใช้บริการเล้าจน์ที่สนามบิน

เช็คมาแล้วว่าใช้ได้ที่ Red Carpet Club แต่เกิดพลิกล็อคเล้าจน์ปิด เพราะเขาจะเปิดเฉพาะเวลามีไฟลท์ของ UA เท่านั้น วันที่ไปเล้าจน์ปิดไปแล้ว 1 ชม. เลยอดเข้าเล้าจน์เลย

ยังดีที่สนามบินมีมุมเล็กๆเป็น Play Zone ให้เด็กๆเล่น

ตอนนี้ขอลากันด้วยภาพนี้ละกันครับ GOR

ขอบคุณมากครับ เห็นรีวิวแล้วอยากกลับไปเที่ยวอีก

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆๆนะครับ

สวยงามมากครับ  ขอบคุณที่รีวิวให้ชมครับ

 ตามมาชม ฉบับสมบูรณ์ อีกครั้งนึง

อยากกลับไป ขับรถเที่ยว MelBorne อีกจังเลย

เยี่ยมครับ

พูดถึงวิสดอมรุ้สึกว่าระบบยังไม่เรียบร้อย(หรือเปล่า)

ในทางปฏิบัติเลยยังไม่สามารถจำกัดจำนวนการใช้บริการเลาจ์ปีละสองครั้ง

เอาเข้าจริงปีหนึ่งใช้กี่ครั้งก็ได้ พนักงานว่ามางั้นครับ

แอบมาดูด้วยคน รู้สึก Accor ในเมือง Mel นี่ห้องเล็กทั้งนั้นเลยแฮะ ถ้าไปไกลๆ นี่ห้องใหญ่มาก Novotel ได้ 2 King bed เลย

เข้ามาชมรีวิวสวยๆด้วยคนค่ะ