สวัสดีค่ะ  

รีวิวฉบับนี้เราจะพาเพื่อนๆ ล่องใต้ไปเที่ยวในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีกันค่ะ ด้วยระยะเวลาของการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นแค่ 1 วัน 1 คืน ถึงแม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็มีความหมายกับความทรงจำดีๆของเราที่มีต่อเมืองนี้ค่ะ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงเป็น 1 วัน 1 คืน ไม่ใช่ 2 วัน 1 คืนเหมือนอย่างรีวิวคนอื่นเค้าหรือยังไง?   ก็เพราะเราเดินทางมาถึงเมืองสุราษฎร์ในช่วงเย็นของวันนั้นและเดินทางต่อไปที่อื่นในช่วงเที่ยงของวันถัดไปค่ะ  จริงๆ มีเวลาอยู่ที่เมืองนี้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่เป็นไร ถึงจะมีเวลาน้อยนิด  ก็เพียงพอที่จะได้สัมผัสความเป็นไปของผู้คนที่นี่อยู่บ้าง ถ้าพร้อมกันแล้วก็ตามมาเที่ยวปักษ์ใต้ด้วยกันเลยนะคะ


  คนปาดดดดด     ทุกความคิดเห็น     ทุกคนที่เข้ามาชมรีวิวค่ะ  

สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดของภาคใต้ มีระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 685 กิโลเมตร มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว เช่น อุทยานแห่งชาติเขาสก , เขื่อนรัชประภา , เกาะสมุย , เกาะพะงัน , เกาะเต่า , เกาะนางยวน และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นต้น

การเดินทางไปสุราษฎร์ธานี สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถยนต์ส่วนตัว , รถโดยสารประจำทาง (ประมาณ 11 ชั่วโมง) , รถไฟ (ประมาณ 9-11 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทขบวนรถ ถ้าเป็นสปรินเตอร์ก็จะเร็วกว่านิดหน่อย) ส่วนสายการบินที่บินตรงก็เช่น การบินไทย , นกแอร์ , ไทยแอร์เอเชีย และวันทูโก

ทริปนี้พวกเราเลือกนั่งรถไฟกันค่ะ โดยออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพงในช่วงเช้า เวลา 08.05น. และมีกำหนดการถึงสถานีรถไฟพุนพินในเวลา 16.30 น. ค่ะ เป็นขบวนรถสปรินเตอร์ ขบวนที่ 43 ซึ่งมีเพียงขบวนเดียวที่เดินทางจากกรุงเทพฯ – สุราษฎร์ธานีในช่วงกลางวัน  เพราะนอกนั้นจะออกเดินทางในเวลากลางคืนและจะถึงปลายทางในเช้าของอีกวัน
ด้วยเพราะผู้ร่วมทริปติดภารกิจบางประการ ทำให้ต้องเลื่อนมาออกเดินทางในช่วงเวลาเช้าๆ แบบนี้ค่ะ แต่ก็ดีไปอย่างนะคะ จะได้เห็นวิวสองข้างทางได้ถนัดตา  รถไฟออกจากหัวลำโพงได้ตรงเวลาแล้วก็มาถึงสถานีปลายทางสุราษฎร์ธานี ที่สถานีรถไฟพุนพินอย่างตรงเวลาเช่นกันนะคะ ปลื้ม,,,อ่ะ
 


ในรูปคือสถานีรถไฟพุนพิน สุราษฎร์ธานีค่ะ  

พอลงจากรถไฟก็พากันมายืนงงที่ชานชาลาอยู่พักหนึ่ง คิดกันอยู่ว่าจะหารถสองแถวที่ไหนต่อเข้าไปในเมืองดี เพราะสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีมีตัวสถานีตั้งอยู่ที่อำเภอพุนพิน  การจะเข้าไปอำเภอเมืองสุราษฎร์ต้องต่อรถไปอีกต่อหนึ่ง แต่ระยะทางไม่ไกลกันมากราวๆ 14 กิโลเมตรค่ะ
แล้วก็มาได้รถสองแถวแบบเหมาคันให้ไปส่งในเมืองบริเวณหน้าสถานีรถไฟนั่นเอง เพราะพวกเรามากันตั้ง 8 คน แถมมีกระเป๋าอีกคนละใบสองใบ คนขับเลยคิดแบบเหมาราคา 400 บ. ค่ะ ตกคนละ 50 บ. พอตกลงราคาเสร็จสรรพก็ออกเดินทางกันต่อ  นั่งรถมาเรื่อยๆ ถึงได้รู้ว่าที่จริงระยะทางก็ไกลระดับหนึ่งเลยนะเนี่ย คิดสี่ร้อยบาทกับแปดคนก็ถือว่าคุ้มค่ะ แถมยังได้นั่งรถชมเมืองอีกต่างหาก


หนึ่งคืนในเมืองสุราษฎร์ธานี พวกเราเลือกพักกันที่นี่ค่ะ “โรงแรม The One”

The One เป็นโรงแรมเปิดใหม่ได้ไม่นาน ตั้งอยู่ที่ถนนท่าทอง ในอำเภอเมืองสุราษฎร์ค่ะ ถึงแล้วค่ะ...บริเวณด้านหน้าโรงแรม

ตรงจุดนี้ตอนเย็นๆ จะเป็นคล้ายกับห้องอาหารแบบเปิดโล่งและมีบริการบาร์เครื่องดื่ม  ตั้งอยู่ด้านหน้าโรงแรมเลยค่ะ

เคาน์เตอร์เช็คอินค่ะ พวกเราจองเป็นห้องสุพีเรียทั้งหมด ราคาอยู่ที่ 790 บ. ต่อห้องและมีอาหารเช้าให้ด้วยนะคะ

ไปด้วยค่ะ คุณปริม

บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม  จะตกแต่งโดยเน้นสีแดงเป็นหลัก

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณMemories pink   :   สวัสดีค่ะคุณแอน ขอต้อนรับลูกทัวร์คนแรกด้วย ค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีอินเตอร์เน็ตและ WiFi ให้บริการฟรีอยู่บริเวณล็อบบี้ด้วย   ส่วนรหัส WiFi สามารถขอรับได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอินค่ะ

มุมนั่งพักอีกมุมบริเวณล็อบบี้    

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เป็นทางเข้าห้องอาหารของโรงแรมค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเราจะมาหม่ำอาหารเช้ากันที่นี่แหละ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตามมาติดๆครับ

กรอกแบบฟอร์มการเข้าพักเรียบร้อย ก็ขึ้นไปพักผ่อนด้านบนกันเลยค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณHero11147   :   คุณฮีโร่ ไม่ได้ทักทายกันนานเลยนะคะ ต่างคนต่างห่างหายนะคะ ดีใจที่แวะมาเที่ยวด้วยกันค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ห้องที่เราอยู่นอนกัน 3 คน เลยต้องมีเตียงเสริมแบบที่เห็น และผู้ที่ขันอาสานอนตรงกลางก็คือเราเองค่า คือคิดเอาเองไงว่านอนตรงกลางมันอุ่นใจดี...

ข้างเตียงฝั่งซ้ายมีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งให้ด้วยค่ะ แต่เก็บภาพมาไม่หมด ไปทริปนี้มัวแต่เฮฮารื่นเริงจนลืมเก็บรายละเอียดมาให้ชมกัน  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ห้องน้ำ มีอ่างล้างหน้า เครื่องทำน้ำอุ่น สายฉีดชำระ กระดาษชำระ และ Amenities ให้พร้อมค่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไปด้วยคนนะครับคุณปริม ยังไม่เคยแวะเที่ยวจังหวัดนี้เลย เชยสุดๆกระผม

ขอมาชมด้วยคน...............ขอบคุณครับ

คุณtummeng_in  :  สวัสดีค่ะคุณตั้ม...วันนี้ฉลองกับน้องจันทร์สมที่ไหนคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

โรงแรมนี้จะไม่มีระเบียงเปิดออกไปนะคะ จะเป็นหน้าต่างกระจกใสๆแบบที่เห็นในรูป  สามารถเปิดรับลมได้  แต่มันเป็นห้องแอร์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้เปิดเลยค่ะ

เค้าซุ่มโป่งตะหากละ.....

พอใกล้ค่ำก็พากันเดินออกจากที่พัก เข้าไปยังตลาดโต้รุ่งในเมืองซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมาก เดินเรื่อยๆ แค่ยี่สิบนาทีก็ถึงแล้วค่ะ ผู้คนที่นั่นเรียกตลาดกลางคืนบริเวณนี้ว่า “ตลาดศาลเจ้า”  คงเพราะว่าตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าจีนแห่งหนึ่งซึ่งกลุ่มพวกเราก็เดินผ่านมาเหมือนกัน แต่จำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ พอตกเย็นที่นี่จะครึกครื้นด้วยผู้คนที่ต่างออกมาเดินซื้อข้าวของและอาหารทานกัน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณCoffee Blended   :   คุณกาแฟ งั้นต้องรีบจัดทริปแล้วหล่ะ ...ไม่งั้นคุณจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่องนะ !!!

คุณlow batt   :   ยินดีต้อนรับค่ะ มาเที่ยวปักษ์ใต้ด้วยกันนะคะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


พวกเราแวะทานอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่ง แต่ไม่มีรูปมาฝากกันนะคะ (ตล๊อดดดดดด   ) จากนั้นก็มาเดินหาของว่างไว้ไปตุนยามดึกอีกเล็กน้อย


อันนี้เป็นลูกชิ้นหมูเสียบไม้และขายแบบยกชุด ตามที่มีหนังยางรัดไว้ ชุดละ 30 บ. ค่ะ เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบทานลูกชิ้นแต่พอมาทานเจ้านี้ อยากบอกว่าอร่อยมากกกกกกกกค่ะ กินอยู่คนเดียวจริงๆ นะ
   

คุณHero11147   :   อ้าวว รีบลบรูปทำไมคะคุณฮีโร่ รูปแลดูเหมือนตัวจริงใช่เป่า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ร้านนี้ขายขนมหลากหลาย เพื่อนเราซื้อขนมต้มจากในรูปที่อยู่ไกลสุดนั้น ชิ้นเล็กๆ พอดีคำ ลองชิมดูหอมอร่อยดีค่ะ

ส่วนอีกคนอยากกินข้าวโพด  ก็จัดไปอย่าให้เสีย  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีทั้งของกินแล้วก็เสื้อผ้าให้ได้ซื้อหากัน เดินกันเพลินจนอาหารเย็นเริ่มย่อยก็ได้เวลากลับที่พักกันแล้วค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขากลับเดินมาขึ้นรถบริเวณหน้าทางเข้าตลาด โบกสองแถวให้ไปส่งคิดราคาแบบเหมา 90 บ. ค่ะ แบบว่าขามาเดินมาได้เพราะว่ามันหิวไงมีเป้าหมายรออยู่ตรงหน้า แต่ขากลับนี่อิ่มแล้วความขี้เกียจเริ่มถามหา

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

กลับถึงโรงแรมประมาณสามทุ่ม มารวมตัวกันที่ห้องพักของเพื่อนในกลุ่มห้องหนึ่ง จัดการอาหารว่างต่างๆ ที่ซื้อมาจากตลาดจนอิ่มไปอีกรอบ และนั่งคุยเล่นกันจนง่วงจึงแยกย้ายกันไปนอน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เช้าวันต่อมาตื่นขึ้นมาจัดการกับตัวเอง และลงมาทานอาหารเช้าพร้อมกันตอนเจ็ดโมงครึ่งค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อาหารเช้าที่นี่เป็น Breakfast Buffet มีอาหารทั้งสากลและอาหารพื้นบ้านให้เลือกทานเยอะพอสมควร

ตรงนี้จะเป็นโซนอาหารเช้าแบบอเมริกัน มีสลัด , แซนวิช , แฮม , ไส้กรอก และไข่ดาวให้เลือกตักได้เองตามใจชอบค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มุมนี้เป็นอาหารไทยและอาหารพื้นบ้านพวกแกงใต้ก็มีนะคะ มีขนมจีนและน้ำยาปักษ์ใต้ให้เลือกทานด้วย  ส่วนริมสุดทางด้านไกลจากรูปจะเป็นมุมข้าวต้มและโจ๊กค่ะ จะแยกเครื่องเคียงเอาไว้ให้เราปรุงได้เอง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

โซนนี้เป็นขนมปังปิ้ง พร้อมเนยและแยม แต่ต้องบริการตัวเองนะคะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มุมเครื่องดื่ม มีชา , กาแฟ , โอวัลตินให้ชงเอง และน้ำผลไม้ก็สามารถเลือกกดได้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หน้าตาอาหารเช้าจานแรกของเรา...ย้ำนะคะ ว่านี่คือจานแรก...

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอตามไปเที่ยวสุราษฎร์ด้วยคนครับบบ

ชุดที่สองขอเป็นข้าวต้มหมูแบบเบาๆ แต่เบิ้ลสองชามนะคะ เพราะน้ำซุปเค้าอร่อยมากกกกอ่ะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอตามไปเที่ยวสุราษฎร์ด้วยคนครับบ....

หลังจากอาหารเช้าก็เช็คเอาท์ออกจากที่พัก เพื่อนเราคนหนึ่งก็ไปโบกรถซุบารุรับจ้างแถวนั้นให้มารับเพื่อนๆ ที่รออยู่หน้าโรงแรม พอรถมาจอดตรงหน้า จากความตั้งใจเดิมที่จะให้รถไปส่งยังจุดหมายที่วางแพลนกันไว้ในตอนแรก แต่แล้วก็เกิดไอเดียบรรเจิดกัน อยากไปเที่ยวรอบๆ ตัวเมืองก่อน ปรึกษากันแล้วว่ายังพอมีเวลาเถลไถล จึงตกลงกับพี่คนขับให้ขับรถพาพวกเราเที่ยวรอบเมืองสักหน่อย พี่คนขับรถอัธยาศัยดีมากเลยค่ะ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะขับรถพาพวกเราเที่ยวพร้อมทำหน้าที่เป็นไกด์ท้องถิ่น แนะนำโน่นนี่ไปในตัวด้วย นับว่าโชคดีมากๆ ที่มาเจอพี่ท่านนี้พอดีน่ะ

คุณสายลมแห่งวิงค์   :   ดีใจที่แวะมาเที่ยวด้วยกันนะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ที่แรกซึ่งพี่คนขับรถพามาแวะเที่ยวกันก็คือ “สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำตาปี ในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีค่ะ

อ้าว...ลืมรูปซะงั้น

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เป็นสวนสาธารณะที่สร้างขนานไปกับถนนและริมแม่น้ำตาปี

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตามไปหม่ำ เอ้ย..ไปเที่ยวด้วยคนค่ะคุณปริม

มีศาลาแบบนี้ให้นั่งเล่นอยู่หลายจุด ตั้งกระจายๆกันไปตลอดริมน้ำ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณZoSha   :   ดีใจที่แวะมาค่ะ  ทริปนี้ค่อนข้างเน้นชิมและกินค่ะ ขากลับกรุงเทพฯ ตัวบวมไปตามๆกัน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หรือจะเป็นม้านั่งแบบใกล้ชิดติดริมน้ำแบบนี้ก็มีนะคะ ที่นี่เหมาะกับมาเดินเล่นนั่งเล่นหรือวิ่งออกกำลังกายในช่วงเช้าๆ หรือในช่วงเย็นค่ะ ถ้ามากลางวันนี้คงร้อนมากแน่ๆ เลยนะ

อีกฟากฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ พี่ไกด์ท้องถิ่นของเราบอกว่า คือ “เกาะลำพู”  แล้วเดี๋ยวจะเป็นจุดหมายต่อไปที่จะพาพวกเราไปเที่ยวกันด้วย จากจุดนี้สามารถข้ามไปเกาะลำพูได้โดยวนรถย้อนไปข้ามสะพานข้ามแม่น้ำตาปีที่เห็นในรูปไกลๆโน้นนนน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

และตอนนี้พวกเราก็ได้มาถึงเกาะลำพูกันแล้วค่ะ   เกาะลำพูเป็นเกาะเล็กๆที่โผล่ขึ้นมากลางลำน้ำตาปี ในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี  บนเกาะก็คล้ายๆ พื้นที่ในเมืองทั่วไป มีบ้านเรือนตั้งอยู่ และมีสวนสาธารณะสำหรับการมาพักผ่อนและออกกำลังกายด้วยค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีสนามเทนนิสด้วยอ่ะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตรงบริเวณที่เราจอดรถ  มีโต๊ะให้นั่งเล่นรับลมเย็นๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยนะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ม้านั่งแบบนี้ก็มีค่ะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บริเวณตรงนี้เค้าเอาไว้เป็นที่เก็บเรือคายัคด้วยนะคะ แต่มีเรือไว้สำหรับไปพายที่ไหนนี่ไม่ทราบจริงๆ  ด้วยสีสันสดใสของเรือก็ดึงดูดให้ผู้คนสนใจไม่น้อยเลยนะคะ ก็ดูเพื่อนๆ เราสิ...ตัวอย่างมีเห็นๆ  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีเรือยนต์ลำเล็กของชาวบ้านแล่นผ่านมาเป็นระยะๆ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ฝั่งตรงข้ามก็คือสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ ที่เราเพิ่งจากมานั่นเอง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ถ้าไม่ติดว่ามีจุดหมายต่อไปรออยู่ข้างหน้าล่ะก็ อยากจะนั่งพักตรงนี้ให้นานๆ จัง  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ก่อนกลับออกจากเกาะลำพู พี่ไกด์จำเป็นพามาวนรถชมแม่น้ำตาปีทางฝั่งตะวันตกของเกาะลำพูค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากนั้นก็มาสักการะ “ศาลหลักเมือง” ของสุราษฎร์ธานีกัน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บริเวณทางขึ้นไปสักการะศาลหลักเมือง จะมีร้านขายพวกเครื่องสักการะอยู่ด้านล่างตรงบันไดทางขึ้นด้วย  ทั้งดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องแก้บนหรือเครื่องรางต่างๆ หาได้จากจุดนี้เลยค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่ไปบังเอิญเจอกับเหล่าน้องหนูนักเรียนกลุ่มนี้พอดี  นัยว่าคุณครูคงจะพามาทัศนศึกษาสถานที่สำคัญในท้องถิ่นกระมัง ดูซุกซนเหมือนจับปูใส่กระด้งเลยค่ะ แต่พอคุณครูถามอะไรก็พร้อมใจกันตอบได้หมดเลยนะคะ ... รักเด็กค่ะ  



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี มีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างแบบศรีวิชัย ได้ก่อสร้างเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชสักการะและเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2539


องค์หลักเมืองประกอบด้วยยอดเสาหลักเมือง แกะสลักมาจากไม้ราชพฤกษ์ เป็นพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสี่หน้า หันพระพักตร์ไปทั้งสี่ทิศเหมือนการแกะสลักพระพรหมสี่หน้าไว้ตามยอดหลักเมืองทั่วๆไป ส่วนตัวเสาหลักเมืองก็แกะสลักจากไม้ราชพฤกษ์เช่นเดียวกัน

สามารถจุดธูปเทียนและถวายเครื่องสักการะบูชาได้ยังพื้นที่ด้านล่างค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มุมมองอีกฝั่งหนึ่งของศาลหลักเมือง  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ออกจากศาลหลักเมืองก็ไปไหว้พระทำบุญต่อที่ “วัดพัฒนาราม” ค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วัดพัฒนารามหรือวัดใหม่ ตั้งอยู่บนถนนหน้าเมือง ในตัวเมืองเช่นกัน สาเหตุที่มีสองชื่อด้วยกันคือ “วัดใหม่” เนื่องจากเป็นวัดที่สร้างขึ้นหลังวัดอื่นๆ ในย่านนั้น ชาวบ้านจึงเรียกว่าวัดใหม่ ส่วน “วัดพัฒนาราม” ใช้เป็นชื่อวัดหลังจากหลวงพ่อพัฒน์ ผู้ซึ่งก่อสร้างวัดนี้ได้มรณภาพไปแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงท่าน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ศาลาหลังนี้เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อพัฒน์ และพระเกจิอาจารย์ชื่อดังต่างๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

องค์ทางซ้ายมือ คือรูปหล่อของ “พระศรีปริยัตโยดม” อดีตเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้เช่นกัน ส่วนองค์ทางขวามือ คือรูปหล่อของพระสีวลีค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตรงกลางของศาลาแห่งนี้ มีมณฑปของหลวงพ่อพัฒน์ตั้งอยู่ด้วย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“หลวงพ่อพัฒน์” พระเกจิอาจารย์ผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บริเวณรอบๆศาลายังมีจุดให้ทำบุญกันด้วย ทั้งรอยพระพุทธบาทจำลองและใส่บาตรด้วยเหรียญสตางค์

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาต่อกันที่ “ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากน้ำตาปี ตรงข้ามกับศุลกากรจังหวัดสุราษฎร์ธานีค่ะ  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากบริเวณศาลสามารถมองเห็นปากน้ำตาปีได้ในระยะไกล

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เข้าไปสักการะเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ ด้านในศาลกันนะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่5) ได้เสด็จไปทรงศึกษาเกี่ยวกับวิชาการทหารเรือยังต่างประเทศ และเสด็จกลับมาดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองเรือในสมัยนั้น นั่นเป็นสาเหตุที่ไม่ว่าจะไปที่ใดในประเทศโดยเฉพาะเมืองทางแถบชายทะเล ก็จะมีอนุสาวรีย์หรือศาลของพระองค์ท่านให้ได้สักการะกันเสมอ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บริเวณข้างๆ กัน เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อองค์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์เคารพนับถือเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แม่น้ำตาปีบริเวณหน้าศาลกรมหลวงชุมพรฯ ชาวบ้านที่นั่นเค้าเรียกกันว่า “ปากน้ำบ้านดอน”  ถ้ามาจากตัวเมืองถึงจุดตรงนี้วิ่งรถประมาณ 7 กิโลเมตรได้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีบ้านเรือนชาวบ้านตั้งอยู่ริมน้ำบริเวณนั้นด้วย ส่วนใหญ่น่าจะทำอาชีพประมงค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ปิดท้ายทริปเที่ยวรอบเมืองสุราษฎร์ธานีกันด้วยอาหารกลางวันง่ายๆ แต่อร่อยกันที่ร้านนี้ค่ะ “ข้าวไก่อบนิวเลี้ยงฟ้า” ตั้งอยู่บนถนนตลาดใหม่ในตัวเมือง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เมนูเด็ดที่นี่ก็คือ “ข้าวไก่อบ”  เนื้อไก่จะนุ่มและหนังจะกรอบ น้ำจิ้มก็อร่อยและที่สำคัญเค้ามีผักเคียงเป็นแตงกวาดองที่ทำเองด้วยนะคะ สรุปคืออร่อยและไม่แพงด้วยค่ะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เห็นรูปแล้วก็อยากกลับไปทานอีกจัง...ว่าแต่เมื่อไหร่จะมีโอกาสอีกนะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีน้ำซุปให้ด้วยนะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พอทานเสร็จก็ขึ้นรถให้พี่คนขับใจดีพาไปส่งยังจุดหมายที่แท้จริงของพวกเราในตอนแรก ซึ่งแพลนกันไว้ตั้งแต่ก่อนออกจากโรงแรมแล้ว ตอนนี้ก็หมดเวลาเริงร่ากันในตัวเมืองแล้ว ต้องไปต่อสักที

จากในรูปคือสัมภาระของพวกเราทั้งกลุ่มเลยค่ะ ดูขนกันมาเหมือนจะย้ายบ้านเลยทีเดียว ว่าแต่พวกเราจะไปไหนกันต่อโปรดติดตามบันทึกการเดินทางได้ใหม่ในตอนหน้านะคะ...จะเป็นที่ไหนมาคอยดูกันนะ

  ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ  

...ว้าว รีวิวน่าสนใจมาก ...
โรงแรมน่าพักจัง..

ตามมาเที่ยวสุราษด้วยครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับน้องปริม หายไปนานเหมือนกันนะครับ

คุณRaiso Akira   :   ขอบคุณที่แวะมาอ่านรีวิวนะคะ ใช่แล้วค่ะที่พักประทับใจทีเดียว ทั้งห้องใหม่ อาหารอร่อยและราคาก็น่าคบ


คุณOne Light One Shadow   :   คุณเหา...หนุ่มฮอตประจำปีนี้สินะ อิอิ ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะคะ


คุณม่วงมหากาฬ   :   พี่เอกกี้คะ น้องอาจห่างหายไปบ้าง เพราะมหาอุทกภัย แต่ก็ยังไม่หายไปจากห้องนี้แน่นอนจร้า คิดถึงๆ เช่นกันค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ การเดินทางโดยรถไฟนี่ก็น่าสนุกดีเหมือนกันเนอะ ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆค่ะ 

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

สวัสดีครับ น้องปริม
หายไปนานเลย ที่แท้หนีไปสุราษฎร์ฯนี่เอง
จะไปเกาะไหนต่อหรือครับ...ตามติดนะครับ

ถ่ายภาพสวยน่ารักดีค่ะ  รอตามทริปต่อไปค่ะ  นอกเรื่องนิดนึง ใช้กล้องยี่ห้ออะไรคะ

เคยไปเมื่อหลายยยยปีก่อนแล้ว แต่แค่ผ่านนะครับ ไม่ได้ไปเที่ยว

บรรยากาศที่สวนดูสบายๆจังครับ ถ้าไม่ร้อนนะ

ตลาดโต้รุ่งท่าทางจะของไม่เยอะเท่าไร่

ที่พักตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่ดูโอเคครับ

สวยครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ไปทำงานที่สุราษฎร์มาเหมือนกันครับ

ผมนอนวันที่ 2 ครับ

หลวงพ่อพัฒน์ ตอนผมไปมีงานประจำปีอยู่ครับ

ถ้าไปปากน้ำตาปี คงผ่านที่ผมทำงานอยู่แหละครับ

ที่พักสวยมากเลยครับ เที่ยวสนุกจังเลยครับน่ามันส์

เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง
ขนมจีนอร่อย อิอิ พี่ชอบ

รีวิวไม่บอกกล่าววอีกแล้วนะปริมมี่ ไม่ต้องมาหาที่บ้านเลย งอน ! เอาข้าวหมูกรอบมาง้อบัดเดี๋ยวนี้


อยากลงไปเที่ยวใต้บ้าง ใต้ที่ไม่ใช่ภูเก็ต กระบี่ อะไรแบบนี้อ่านะ เพราะคิดว่ามีอะไรน่าสนใจไม่แพ้ที่ดัง ๆ ฮิต ๆ เลย

ตามมาชมครับคุณปริม   The One นี่คุ้นๆว่าเคยเห็นตอนขับรถไปครั้งล่าสุด

ชอบสุราษฎร์ตรงที่มีข้าวแกงอร่อยๆหลายร้านเชียวครับ ^^

ของกินเยอะเชียวงับคุณปริม เด๋วไว้ไปนอนเอกเขกชิลๆบ้านเพื่อนที่สุราษฏร์บ้างดีกว่า


รอชมการย้ายบ้านเที่ยวตอนต่อไปงับ

วันเดียวก็เที่ยวได้เนอะ  ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ

ตามคุณปริมคนสวย นั่งรถไฟไปสุราษฎร์

จริงๆ ก็ไม่ได้นั่งรถไฟบ้านเรามานานมากนะคะ

เก็บข้อมูลไว้ตามไปลุยเองบ้างค่า

ปูลู สุราษฎร์เนี่ย ที่เที่ยวเยอะมากกกกกก เก็บไม่หมดซักกะทีเลนนะคะ

ตามมาแล้วค่าาาคุณปริม สุราษฎร์เค้าเคยไปลงรถไฟครั้งเดียวเองค่ะ

แต่ก็แอบประทับใจเมืองเขาที่สงบเงียบและเป็นธรรมชาติมากๆ

มีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่งเลยนะคะ ถ้ามีโอกาสคงได้ไปบ้าง

ขอบคุณคุณปริมสำหรับบันทึกการเดินทางนี้นะคะ

อยากหม่ำข้าวโพด ขอบคุณรีวิวจ้า

..

ล่องใต้ด้วยคนครับ

..

คุณปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง   :   ขอบคุณคุณโอเช่นกันที่แวะมาชมรีวิวนะคะ การเดินทางโดยรถไฟถึงแม้จะนานและไม่สะดวกสบายนัก แต่ก็ได้อารมณ์สนุกสนานไปอีกแบบค่า อิ อิ


คุณarmearn   :   ขอบคุณที่แวะเข้ามาเที่ยวด้วยกันนะคะ


คุณย้ำคิดย้ำฝัน   :   ดีใจที่แวะมาล่องใต้ด้วยกันค่ะ ครั้งหน้าจะพาข้ามไปเที่ยวเกาะนะคะ  


คุณหนุ่ม ณ วันวาน   :   สวัสดีค่ะพี่หนุ่ม  เดาเก่งจังเลยนะคะ ใช่แล้วค่ะ ตอนหน้าจะพาข้ามน้ำข้ามทะเลไปกลางอ่าวไทยฮับ


คุณรับทรัพย์   :   ขอบคุณที่แวะมาอ่านรีวิวค่ะ ปริมใช้กล้องคอมแพคธรรมดาค่ะ ของพี่แคนเค้าน่ะ รูปยังแอบเบลออีกด้วย แต่ก็จะพยายามพัฒนามุมถ่ายรูปต่อไปนะคะ


คุณKoon Shy_Tour Dee   :   หวัดดีค่ะคุณป้อม   ใครบอกโต้รุ่งของเยอะมากๆ แต่น้องมัวแต่รื่นเริงกะของกิน จึงพลาดการเก็บภาพมาจร้า


คุณเล็กทาโร่   :   ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวด้วยกันนะคะ


คุณ tonhok   :   ขอบคุณเช่นกันค่ะ


คุณBaLL182   :   ตนเราไปก็ไปถึงแค่ตรงศาลเสด็จเตี่ยอ่ะค่ะ แต่ก็พอมองเห็นปากน้ำตาปีแบบไกลๆ นะ


คุณDestiny-Boy   :   การเดินทาง อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับเพื่อนที่ไปด้วยกันนะคะ ทริปนี้เลยสนุกสนานไม่น้อยทีเดียว ขอบคุณที่แวะมานะคะ


คุณบัวนลิน   :   สวัสดีค่ะพี่บัว ดีใจที่แวะมานะคะ แสดงว่าตอนที่พี่บัวไปต้องเน้นเสาะหาเมนูอร่อยแน่ๆ เลยใช่มัี๊ยคะ


คุณP.S. i love you   :   ตัวแชมป์ อะไร ยังไง ต้องให้น้องไปตามตลอดเลยชิมิ มาช้าแล้วยังจะมาร้องขอข้าวหมูกรอบอีกนะ ห้ามขับรถผ่านปากซอยบ้านน้องนะ


คุณPalm Jung Won   :   คุณเถียน ใช่แล้วค่ะ ตอนไปเดินตลาดโต้รุ่งก็เห็นมีร้านน่าหม่ำหลายร้านเลย อาหารใต้รสชาติจัดจ้านได้ใจดีจริงๆค่ะ


คุณJuly 15th   :   เห้...คุณบอล หายไปนานเหมือนกันเลยนะนี่ ดีใจที่แวะมาชมรีวิวตอนนี้นะคะ อย่าลืมตามติดรีวิวตอนหน้าด้วยน๊า


คุณDOGHALL   :   สวัสดีค่ะพี่บี ไปทริปนี้ปริมรู้ว่ามีเวลาเที่ยวน้อย จึงพยายามเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุดค่ะ ดีใจที่แวะมานะคะ


คุณhollaneung  :   เห็นด้วยกับคุณหนึ่งเลยค่ะ สุราษฎร์มีที่เที่ยวเยอะมากๆ คงต้องไปอีกหลายครั้งกระมั้งจึงเก็บได้หมด


คุณYai Klong_Tour Rai  :   คุณบงมาแว้ววว...   นั่งรถไฟนานและเมื่อยก้นมากเลยค่ะคุณบง แต่ก็สนุกและเพลินกับวิวสองข้างทางดีเหมือนกันนะคะ


คุณHappy_Jeab   :   ขอบคุณที่แวะมาชมรีวิวนะคะ


คุณPOGGHI   :   สวัสดีค่ะคุณป๊อกกี้  ดีใจที่แวะมา ทริปหน้าจะพาไปล่องเรือนะคะ ตามชมด้วยนะคะ


  ขอบคุณทุกความคิดเห็นและทุกกำลังใจนะคะ  

เพิ่งได้เข้ามาชมรีวิวรูปสวยๆด้วยคนค่ะ  

มาเพิ่มข้อมูลสำหรับท่านที่จะมาสุราษทางรถไฟครับ

หลังจากที่มาถึงแล้วเดินออกมาด้านนอกถ้าจะไป
- ตัวเมืองสุราษ ให้มองด้านซ้ายครับ จะมีรถ สุราษ - พุนพินจอดอยู่หรือถ้ายังไม่จอดรอไม่นานครับ ไม่เกิน 15 นาทีจะมีรถมา

- เขื่อนรัชชประภา เขาสก เขาหลัก ภูเก็ต ให้มองขวาครับ แถมร้านน้ำชาจะมีคิวรถโดยสาร สุราษ ภูเก็ตอยู่ให้ไปติดต่อซื้อตั๋วตรงนั้นได้เลย มีรถมาทุกชั่วโมง ทั้งรถปรับอากาศ

ตลาดศาลเจ้า ของขายเยอะมากมายนะคะ ของกินก็เพียบ อร่อยมากด้วยค่ะ

ขอบคุณที่รีวิวค่ะ