ความเดิมตอนที่แล้ว
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11410146/E11410146.html

จากเส้าชิ่ง เรามุ่งหน้าสู่โฝซานเมืองเก่าแก่ด้านตะวันตกของกวางโจว โฝซานมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สวยงาม ใครที่มาเที่ยวกวางโจวแล้วน่าจะหาโอกาสมาเที่ยวชมเมืองแห่งนี้ เพราะอยู่ห่างจากกวางโจวเพียงแค่ยี่สิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้น แต่มีตัวเลือกด้านสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้เลือกชมอย่างหลากหลาย ถ้าพร้อมแล้วก็ล่องแม่น้ำซีเจียงตามมาเลยค่ะ ^^

เช้าวันที่สาม เราอำลาเมืองเส้าชิ่งด้วยการไหว้ขอพรแม่มังกรที่วัดหลงหมู่ วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมาก ทุกปีจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่

ตามตำนานเล่าว่าหลงหมู่ (แม่มังกร) เป็นผู้เก็บไข่มังกรมาเลี้ยงดูไว้ ภายหลังมังกรตัวนี้ได้กลับคืนสู่สวรรค์ บรรดาชาวบ้านจึงได้สร้างศาลแม่มังกรไว้เป็นที่เคารพบูชา

รอบบริเวณวัดมีการแขวนผ้ายันต์หลากสี ดูละลานตาและสวยงามมาก

จากวัดแม่มังกร เราออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโฝซาน ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ที่แรกในโฝซานที่ขอนำเสนอ คือ เขาซิจ้าว หรือซิจ้าวซาน

ที่นี่เก็บค่าผ่านประตูคนละ 300 กว่าบาท ด้านในมีกระเช้าสำหรับนั่งขึ้นเขา แต่เสียดายที่วันที่ไปกระเช้าปิด ก็เลยอดขึ้นไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมด้านบนเลย T^T

ในเมื่อกระเช้าปิด เราก็เลยขอต่อรองกับเจ้าหน้าที่ขายตั๋วว่าจะขอเข้าไปดูแค่บริเวณตีนเขา แต่ขอลดราคาตั๋วหน่อยได้มั๊ย สุดท้ายเค้าก็เลยยอมให้โดยขายตั๋วให้เราเพียง 75 บาทเท่านั้น (สำหรับคนท้องถิ่นที่อายุเกิน 70 ปี เค้าให้เข้าฟรีทุกที่ค่ะ)

เดินผ่านประตูทางเข้าไปไม่ไกลมากก็มาถึงวัดแห่งนี้

ธูปที่นี่มีลักษณะเป็นขดๆ คล้ายยากันยุงเลย ^^

ด้านในมีเทพเจ้ามากมาย สำหรับองค์นี้เป็นเทพสี่ตาค่ะ (คนดูไม่ได้ตาลายนะคะ แต่เป็นสี่ตาจริงๆ ค่ะ)

บรรยากาศบริเวณตีนเขาซิจ้าว จัดเป็นสวนแบบจีน มีเก๋งจีนอยู่บนสระน้ำ เคียงด้วยต้นไม้ใหญ่ สงบร่มรื่นดีจริงๆ

ต่อจากเขาซิจ้าว เราไปต่อกันที่วัดเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโฝซาน "จู่เมี่ยว" เค้าว่ากันว่ามาถึงโฝซานแล้วไม่มาจู่เมี่ยวก็เหมือนมาไม่ถึง

เป็นวัดที่ยิ่งใหญ่และสวยงามสมคำร่ำลือจริงๆ

ด้านหน้าวัดเป็นป้ายรถเมล์ เห็นคนกำลังยืนเข้าคิวขึ้นรถเมล์อยู่ก็อดคิดถึงบ้านเราไม่ได้ ถ้าเป็นบ้านเรา รถเมล์มาถึงปุ๊บก็คงมะรุมมะตุ้มแย่งกันขึ้นเป็นแน่ แต่คนจีนกลับยืนเข้าคิวเป็นระเบียบ เห็นแล้วช่างรู้สึกแตกต่างกันจริงๆ เลย เมื่อไหร่คนบ้านเราจะมีวินัยแบบนี้บ้างนะ

จังหวะที่เราไปถึงเค้ากำลังมีโชว์เชิดสิงโตอยู่พอดี

ภายในวัด

กำแพงมังกร (อลังการมาก)

แถบผ้าแดงสำหรับเขียนคำอธิษฐาน

จากจู่เมี่ยว เรารีบตีรถไปทางชุนเต๋อเพื่อที่จะไปชมสวนเลี่ยงหยวน แต่น่าเสียดายมากที่เรามาถึงไม่ทันเวลา ประตูสวนปิดซะแล้ว ก็เลยอดชมสวนที่ขึ้นชื่อว่างดงามติดอันดับของมณฑลกวางตุ้งเลย ได้แต่ถ่ายรูปตรงประตูทางเข้า T^T

ตามชมต่อค่ะ 

เพื่อเป็นการปลอบใจที่ไม่ได้ชมสวน ญาติๆ ก็เลยจัดให้ไปชมแสงสีแสงริมแม่น้ำจูเจียงแทน สรุปว่าสุดคุ้มจริงๆ... เล่นเอาอยากจะเดินมันทั้งคืนเลยล่ะ  องค์ประกอบของแสงสีเสียงและลมหนาวที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้บรรยากาศริมแม่น้ำจูเจียงในยามนี้โรแมนติคสุดประมาณ

อีกรูปค่ะ ทนดูนางแบบหน่อยนะคะ

ปิดท้ายด้วยความสวยงามของแสงสียามค่ำคืนบริเวณสนามกีฬาทางน้ำนะคะ ที่นี่เคยเป็นสถานที่ในการจัดแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ผ่านมาค่ะ

ยามค่ำคืนของกวางโจวละลานตาด้วยแสงสีเสียงเกือบทุกมุมเมือง สมกับเป็นมหานครที่ไม่เคยหลับไหลจริงๆ ค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ คุณ armearn เดี๋ยวตอนหน้าจะพาซิตี้ทัวร์เมืองกวางโจวนะคะ

เพิ่งเคยเห็นธูปแบบนี้ (ภาพใน คห 5) สวยดีค่ะ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

ไฟตอนกลางคืนสวยมากเลยครับ

ขอบคุณคุณ BROWN STITCH พี่เล็กทาโร่ และคุณDestiny-Boy นะคะที่ติดตามชม ^^

ผ่านไปหลายวันไม่ว่างเข้าบีพีเลยค่ะ เพิ่งได้ตามมาชมรูปสวยๆอีก  ^_^