โบกแบบไปคนเดียว หรือแบบไปกับเพื่อนก็ได้ครับ
มาแชร์กันนะ ว่าเป็นไงบ้าง
ส่วนของผมประสบการณ์เมื่อประมาณสามปีกว่าๆแล้ว
เป็นเรื่องราวที่พวกผมประทับใจมากๆ
ตอนนั้นไปเที่ยว อช. น้ำหนาวที่ เพชรบูรณ์
ขาไปเราก็นั่งรถประจำทางกันไปแล่ะครับ 4 คน ชายหนุ่มล้วน มีแต่หน้าโหดๆ
อ่อ ตอนนั้นเราพึ่งเรียนจบใหม่ เลยยังพอมีกลิ่นเด็กๆใสๆอยู่บ้าง
แต่พอขากลับ เราก็เลยเดินมาที่หน้าอุทยานกัน เพื่อโบกรถลงมายัง ทางแยกไปอำเภอคอนสาร
เพื่อจะไป เขื่อนจุฬาภรณ์ที่ชัยภูมิต่อ
คือตอนแรก เรารอรถประจำทางอยู๋ ก็ไม่มาสักที
จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะโบกครับ คุยกันแบบว่า เดินลงเขากันไปเรื่อยๆตามทางลาดยาง
ถ้ารถประจำทางมาเราก็ขึ้น เดินแล้วเดินเล่า คาดว่ากิโลกว่าๆละ ชักเมื่อยแฮะ
ไม่รอแล้ว โบกรถเลยๆ ต่างเชียร์กันให้โบก
แล้วใครจะเป็นคนโบกล่ะ เกี่ยงกันซักพัก ก็ให้เพื่อนที่คิดว่าหน้าด้านที่สุดเป็นคนโบก
มันก็โบก แบบเถื่อนๆมันอะ ใครล่ะจะจอด ฮามาก
จำได้ว่าโบกไปประมาณ 3 คัน เปลี่ยนคนโบก ฮาไปกว่าเดิมอีก
คิดดูนะ พวกเราแต่งตัวแบบว่าเซอร์สุดๆ เหมือนลูกหมาตกน้ำลุยดงหญ้ามาหมาดๆ
คันแล้วคันเล่า ก็ไม่ไม่มีคันจอด วิ้ว ฟิ้ววววววว ผ่านไป
เรารู้อย่างหนึ่งว่า ถ้าเค้ามาคนเดียว หรือเป็นจำพวกรถเก๋ง เค้าจะไม่จอดแน่นอน เป็นผมผมก็ไม่จอดนะ
แต่มีกระบะคันหนึ่งมาสองคน เราก็คาดหวังเต็มที่ว่าจะจอด เราก็ช่วยกันโบกแบบไม่อายเลยงานนี้
พี่แกก็บีบแตรให้อีก อย่างฮา พวกเราว่าจะไม่เดินต่อแล้ว นั่งรอรถข้างทางดีกว่า
สักแป๊บนึง ก็มีกระบะบรรทุกมาเต็มคัน มาจอดถามเรา แล้วให้เราขึ้นไปด้วย แบบว่า พวกท่านเหล่านี้ยังให้ลูกให้หลานนั่งตักกันเลย
ตอนแรกเราบอกว่าไม่เป็นไรครับ และขอบคุณพวกลุงป้าน้าอามากๆเลย
เพราะมันไม่มีที่นั่งท้ายกระบะแล้ว พวกเราจะไปเบียดเบียนได้อย่างไร
น้าคนหนึ่งบอกว่า ขึ้นมาเลยหนุ่ม เบียดๆกันไปนี่แล่ะ ไปได้ๆ ทุกคนท้ายรถก็รับเชิญพวกเราหมดเลย ยิ้มแย้มน่ารักสุดๆ
แบบว่ามาเป็นครอบครัว พี่คนขับก็บอกเราว่ามาเลยๆ ไปได้ๆ เหมือนพวกเรารู้จักกันแล้วไมได้เจอกันมานานอะไรเทือกนั้นอะ
เราก็เลยโอเคอ๊ะ เบียดกันสุดๆ สอบถามได้ว่าพวกท่านเหล่านี้เป็นครอบครัวใหญ่จะไปเยี่ยมญาติอยู่ ชัยภูมิพอดี ผ่านสามแยกที่เราจะไปเขื่อนด้วย
สักพักก็มีน้าผู้หญิงท่านหนึ่ง ถามเราว่า เอาหน่อยลูก หยึย เหล้าขาวมาเลยคราบบบบบ
โดนใจพวกผมมากๆ จัดให้เลยเพราะมันหนาวจริงๆนั่งท้ายรถกระบะบนเขาเนี่ย เป็นการนั่งรถฟรีกับชาวเพชรบูรณ์ที่ประทับใจสุดๆ
รู้สึกจะประมาณ 30 กว่าโล ลงจากเขามายังสามแยกอำเภอคอนสาร ชัยภูมิ
ยิ่งตอนลา เราก็ไม่รู้จะขอบคุณพวกท่านอย่างไรกับน้ำใจนี้
ได้แค่ไหว้ขอบคุณ ให้งามที่สุดเท่าที่ผู้ชายหน้าโหดจะทำได้ครับ
ทีนี้เราจะไปเขิ่อน ยังไงต่ออะ พวกเราติดใจการโบกรถครั้งแรกมาก เลยจะโบกรถอีก คราวนี้แย่งกันโบกเลย 555
แต่นีมันอยู๋ในเขตชุมชนนะ ใครจะบร้าจอดเนี่ย แต่ก็มีจอดจริงๆครับ
เป็นกระบะมีลุงวัยกลางคนให้พวกเราขึ้นไปด้วย แต่ท่านบอกว่า ผ่านทางแยกไปเขื่อนนะ
จังหวะนั้นขอแค่ไปได้เรื่อยๆเราไปหมดแหะๆ
จากนั้นจะโบกอีก แต่ไม่ทันละมีรถประจำทางที่จะไปเขื่อนผ่านมาแล้ว ก็เลยได้เสียตังค์แล้วทีนี้ แย่จัง อยากโบกรถ
รู้ไหมว่า คุณต้องได้โบกจริงๆ เพราะรถไปจอดแค่ทางขึ้นเขื่อน
อะไรนะ ทางขึ้นเขื่อน หมายความว่าไงอะครับ งงในตอนแรก
อ่อ เขื่อนจุฬาภรณ์ เป็นเขื่อนที่อยู่บนเขานะครับ สูงด้วย ถ้าจำไม่ผิดเขื่อนนี้เป้นเขื่อนที่ตัวเขื่อนอยู่สูงที่สุดในประเทศไทยด้วยครับ
สูงแค่ไหนไม่รู้ แต่มีสนป่าข้างทางตลอดระยะทางขึ้นไปเขื่อนละครับ อากาศก็ดีมาก ระยะทางจากทางขึ้นผมจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ น่าจะประมาณ 7-10 โล
เดี่ยวตอนเย็นจะเอารูปมาลงให้ดูนะครับ
สรุปว่าเราขึ้นไปได้อย่างไร ก็โบกรถแล่ะครับ เป็นกระบะพวกพี่ๆคนงานก่อนสร้างบนเขื่อน
ขากลับเราก็โบกรถลงมาอีก รวมๆแล้ว ทริปนี้เราโบกรถพ่อแม่พี่น้องชาวไทยแบบฟรีๆ ไปประมาณ 60-70 กิโลได้
ประทับใจมากครับ
จริงๆผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าการโบกรถเป้นการสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นหรือเปล่า
ผมว่านั้นคือเหตุผลหลักในตอนแรกที่ทำให้เราไม่กล้าโบกรถ แต่บางทีมันก็จำเป็นอ่า บางทีเราก็จะให้ตังค์ด้วย
แต่เชื่อเลย คนที่จอดรับเราอะ พวกท่านอยากช่วยจริงๆ ร้อยทั้งร้อย ส่วนมากไม่มีใครเอาตังค์
แล้วเพื่อนๆนักเดินทางละครับ โบกแบบไหน ระยะทางเท่าไหร่ ในสถาการณ์แบบไหนบ้าง เล่าสู่กันฟังหน่อยครับ.....
[6 ธ.ค. 54 15:12:55
]
5 คน ชาย3 หญิง2 ไทรโยคใหญ่-เมืองกาญฯ
จำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้วครับ เกือบ 30 ปีแล้วมั้ง
เคยโบกจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปฝาง
โบกคันแรกก็จอดรับเลย เป็นรถกระบะ ผู้ชายอายุยี่สิบกว่า ๆ มาคนเดียว
ถามว่าไปฝางมั้ยเค้าก็บอกว่าไป เพื่อนไปนั่งหน้าสองสามคน
นั่งหลังสามคนมั้ง จำจำนวนคนไม่ได้ ไปกันหลายคน
นั่ง ๆ ไปมีแวะขออ้วกกลางทางด้วย
ทางไปฝาง พึ่งเคยไปครั้งแรก อ้วกซะสองรอบ
เค้าไปส่งจนถึงหน้าบ้านเพื่อนที่ฝาง
แต่คุยไปคุยมา เค้าไม่ได้จะมาฝางหรอก เค้าอยู่ที่เชียงใหม่นั่นแหละ
เป็นนักศึกษาปริญญาโท (ถ้าจำไม่ผิด) กำลังจะกลับบ้าน
แล้วเจอพวกเราโบกรถ เค้าเห็นผู้ชายในกลุ่มเรา นึกว่าเป็นคนที่เค้ารู้จัก
ก็เลยจอด แต่พอจอดแล้วไม่ใช่ แต่ก็เลยตามเลย
ส่งเราเสร็จเค้าก็ขับรถกลับฝาง ซึ้งมาก ๆ ๆ
[6 ธ.ค. 54 16:08:01
]
10 กม. ครับ โบกกระบะตอนเดียว มีหญิงสาวนั่งมาสองคน ขึ้นไปนั่งหน้าติดประตู ผมนั่งตัวลีบเลยครับ 555
จากคุณ : แอ๊บแบ๊ว [6 ธ.ค. 54 16:18:29 ]A:125.27.127.187 X: TicketID:294750เคยโบกขอขึ้น อินทนนท์ ครับ 55+
จากคุณ : ขนมกุบ (auddyjung)
[6 ธ.ค. 54 16:21:12
]
2 อาทิตย์ 2คนกะเพื่อน จากเชียงใหม่ไปดูบั้งไฟพญานาคที่หนองคาย
ระหว่างทางก็ แวะนอน ตามอช.ไปเรื่อยอ่าคร้าบ....
[6 ธ.ค. 54 16:24:52
]
สมัยมหาลัยเคยโบกรถไปค่ายกับเพื่อน ผู้หญิงสามคน ทรหดอดทนมากๆ
ไม่ได้ไปพร้อมกับน้องๆทั้งหลาย เพราะตรงกับวันสอบจบพอดี ค่ายสุดท้ายของเรา
ก็บอกน้องไม่ได้ไป แต่ก็อดคิดถึงไม่ได้ ค่ายนี้เรากับเพื่อนๆเตรียมงานกันมาตั้งเเต่เเรกเนี่ยนะ แล้วไม่ได้ไป ประธานชมรม รองประธาน และคุณเลขา = ="
มันต้องขึ้นไปบนดอย แล้วตอนนั้นเย็นๆมากๆเเล้วก็เลยตัดสินใจจะโบกรถกันไป ไปหมู่บ้านเล่าตาชาว ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ไกลโคตรๆ
โบกรถกระบะที่จะขึ้นผ่านทางไปหมู่บ้านนั้นก่อน แล้วพอจะเข้าหมู่บ้านได้รถที่จะขึ้นไปขายของใกล้ๆหมู่บ้านนั้นอ่ะ แล้วก็เดินเท้าเข้าไปกัน
ไกลมากๆ แวะพักนานก็ไม่ได้ เพราะกลัวจะดึกก่อนถึงนู่น แล้วก็ไม่ได้บอกน้องก่อนด้วยว่าจะไปหา กะจะเซอร์ไพรซ์ อิอิ
เดิน เดิน เดิน จนแบบเข้าตัวหมู่บ้าน ไปที่โรงเรียนที่เราไปพักกัน เห็นราวตากผ้าแล้วเเบบ น้ำตาจะไหล ถึงเเล้ว(โว้ย) 555 เปิดประตูเข้าไปหาน้องๆเลย กำลังนั่งล้อมวงกินข้าวกันอยุ่เลย
บางคนนี่ทิ้งจานข้าวมากอดพี่มันเลยอ่ะ แบบว่าไหนว่าไม่มาไง ฮือๆๆๆๆๆๆๆ อายเค้าไหม๊เนี่ย ประธานชมรมคนต่อไปร้องไห้ต่อหน้าน้องๆครึ่งร้อยเนี่ย 555
แต่ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย จากที่โบกรถหลายต่อเมื่อกี้นี้ เดินอีกตั้งไกล คลุกฝุ่นมรสุมมา มาเห็นน้องๆที่จะสานต่อเจตนารมณ์เราก็มีความสุข อย่างน้อยสิ่งที่เราทำก็มีคนสานต่อแล้ว
จขกท ถามเรื่องโบกรถไปเที่ยว นี่ก็โบกรถเหมือนกันไปค่าย 555 นี่เล่าอะไรไปเยอะเเยะซะงั้น
คิดถึงค่ายสมัยมหาลัยอ่ะ เดี๋ยวนี้จะลาไปทีช่างเเสนยากเย็น
[6 ธ.ค. 54 16:29:17
]
ประมาณ 12-13 ปีก่อน เคยโบกจาก อ. เมือง สงขลา มาตัวเมืองสุราษค่ะ ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม ได้ ต่อประมาณ 3-4 คัน นั่งกระบะหลังตลอด ตอนนั้นมันมากค่ะ ... แต่ตอนนี้ คงไม่ไหวแล้ว กลัวอันตรายด้วยส่วนหนึ่ง แต่ที่กลัวมากๆคือ...กลัวหน้าดำค่ะ 555
จากคุณ : semasky
[6 ธ.ค. 54 16:38:28
]
@คุณ low batt >> น่าจะจำไม่ค่อยได้จริงๆแล่ะครับอา แหะๆ นานจริงๆ
@คุณ Ssachiy >> ประทับใจด้วยอีกคนครับ
@คุณ แอ๊บแบ๊ว >> หุหุ เข้าใจสถาการณ์นั้นครับ คงประหม่าน่าดู 555 สั่นเทิ้ม
@คุณ ขนมกุบ (auddyjung) >> ค่ารถขึ้นมันแพงไปหรอคราบบ ถึงได้โบกเค้าไป 5555
@คุณ tuman47 >> สะใจมากครับสองอาทิตย์เลย น่าสนุกจริงๆ
@คุณ VeRy HaPpY sOmMa >> ไม่เป็นไรครับ เล่ามาเลย ผมก็นักกิจกรรมตัวยงเหมือนกันสมัยเรียนครับ ทำค่ายบ่อยด้วย จริงๆแล่ะ ตอนทำงานนี้ไม่มีเวลาทำอะไรแบบนั้นเลย หายากมากๆ
@คุณ semasky >> ทรหด สุดยอดเลยครับ
[6 ธ.ค. 54 16:39:12
]
ไม่กล้าอ่ะ กลัวโดนไถตังค์
จากคุณ : tottui
[6 ธ.ค. 54 16:48:53
]
เชียงใหม่ ลงมาที่ Future Park รังสิตครับ
ทั้งหมด 3 ต่อ
[6 ธ.ค. 54 16:53:38
]
เคยโบกมั้ยเหร๋อ บ่อย ๆ น่ะ ไปกับพี่ที่ทำงาน 2 คนเอง
โบกจากหน้าวัดพระธาตุแช่แห้ง เพื่อจะกลับไปที่ขนส่งจะไปเที่ยวจังหวัดอื่นต่อ
เนื่องจากเย็นมากแล้วงัยคับ ก็ไม่มีรถประจำทางวิ่ง โบกอยู่เกือบชั่วโมงก็ไม่มีรถคันไหนรับเลย พอดีมีพี่เค้าถอยรถมาพอดี ก็เลยด้าน ๆ ถามไปว่า "ผ่านขนส่งมั้ยคับ"
คำตอบคือ ผ่าน แค่นั้นแหละคับ ดีใจโล๊ดเลย ... ก็ประทับใจครั้งนึง
อีกครั้งก็โบกรถขึ้นพนมรุ้ง เนื่องจากถ้าเรียกมอไซค์ขึ้นไปแพงมาก ตอนแรกก็เดิน เพราะคิดว่าไม่ไกล รถอีแต๋นมาก็โบกรถอีแต๋น พอลงจากรถอีแต๋นก็โบกอีก แต่ก็ไม่มีรถจอดเลย จนมีพี่ขับรถขนไอติมขึ้นไปส่ง นั่นแหละ ถึงได้รู้ว่า ... การเดินขึ้นไปพนมรุ้งนี่มันยากจริง ๆ ...
ขาลง ก็โบกอีกเหมือนเดิม คราวนี้ได้พี่วีโก้ (เพราะแกขับวีโก้) ใจดีมาก ตอนแรกบอกส่งแค่หน้าปากทางก็ได้ เพื่อจะต่อรถ พอลงรถแกก็ถามว่า จะไปไหน ก็บอกไปว่า จะไปขนส่ง พี่วีโก้บอกว่า มะ เดี๋ยวไปส่ง ... ใจดีมาก
จนป่านนี้ ผมยังไม่ลืมพระคุณพี่เค้าเลย... รวมทริปนั้น ผมเดินทางไปกลับพนมรุ้งแค่ 25 บาทเอง...
[6 ธ.ค. 54 16:55:02
]
อ่อ ทริปเดียวกันมี
พิษณุโลก (ลงมาจากสอยดาว) โบกไปแม่จัน
(ขึ้นแม่สลองนั่นแหล่ะ) อันนี้หลายต่ออยู่
ดอยแม่สลองลงมาที่แม่ฝาง 2 ต่อ
[6 ธ.ค. 54 16:55:19
]
กทม. - อ่างขาง - อินทนนท์ - กทม. จ้า
จากคุณ : มู๋ซุ่มซ่าม
[6 ธ.ค. 54 17:21:50
]
เคยรับคนโบกครับ
จากคุระบุรีไปส่งที่สามแยกราชกรูด น้องๆ เค้าจะไประนองกัน แต่ผมจะไปหลังสวนต้องเลี้ยวขวาไปทางพะโต๊ะ ธุระด่วนไปส่งให้ไม่ได้จริงๆ แต่ก็แซงปาดหน้า บขส.ให้ (เจอรถ ภูเก็ต-ระนอง พอดี)
อีกครั้งจากแยกราชกรูดที่เดิม ผมจะขับเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจตรงสามแยกโบกฝากน้องนักศึกษา (สาวด้วย) ไปด้วยคนนึง ไปลงหน้าโรงเรียนในตัวเมืองระนอง น้องเค้าท่าทางจะกลัวผมแฮะ เลยรีบๆ เหยียบๆ ไปส่ง เดี๋ยวจะไม่ทันสอบ
ครั้งสุดท้าย จากปากช่องไปผากล้วยไม้ คราวนี้ผมจะไปทางปราจีน วันนั้นว่าง ไหนๆ รับมาขึ้นแล้วก็ทำให้่สุึดๆ ไปเลย ส่งเสร็จแล้วยังลงไปช่วยกางเต๊นท์ให้อีก 555
[6 ธ.ค. 54 17:51:06
]
โบกต่อเดียวไกลที่สุด ก็ กรุงเทพ - หัวหิน สมัย ปี 2530 แต่ทริปนั้นเที่ยวไกลครับ โบกไปถึง เบตง โบก หลายต่อมาก ตอนนั้น ถนนลงใต้ยังเป็น ถนนสองเลนวิ่งสวนกันอยู่เลย ส่วนขากลับ ยอมจ่ายค่ารถไฟ
จากคุณ : นายสบายสบาย
[6 ธ.ค. 54 18:08:38
]
โบกรถผ้าป่า เชียงราย-อยุธยา (เที่ยวจนเงินหมด 30 ปีแล้วเหมือนกัน)
จากคุณ : thaiMBA
[6 ธ.ค. 54 18:12:43
]
เคยแค่จากแถวเพชรเกษม ไปแยกท่าพระครับ ...
เคยเพราะน้ำท่วมครับ โบกรถกระบะ ขอบพระคุณรถกระบะคันนั้นมากๆเลย T T
[6 ธ.ค. 54 18:37:48
]
อาจจะไม่ได้ไกลมาก
แต่เป็นความสนุก ท้าทายในวัยเรียน (สมัยที่เรียน มช.ค่ะ)
เคยโบกไปกับเพื่อนๆ หลายครั้งค่ะ
มีครั้งนึงไปกับเพื่อนๆ ห้าหกคน หญิงล้วน
โบกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปแจ้ซ้อนที่ลำปางค่ะ กว่าจะถึงฮาดี
มีเืพื่อนคนนึงแต่งตัวไฮโซมาก เลยบอกกันว่ามานั่งแอบเหอะเดี๋ยวไม่ได้ไป
บางครั้งก็โบกจากเชียงใหม่ไปปายค่ะ (สมัยที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก)
แต่กว่าจะไปถึงปายนี่เหนื่อย ต้องโบกหลายต่อ
ขากลับจากปายจะเข้าเชียงใหม่ก็โบกยากค่ะ
เพราะสมัยนั้นมีการขนส่งยาด้วย พี่ๆ ที่เกสต์เฮ้าส์เตือนว่ารอนานนะ
และจะไม่ค่อยมีใครรับ
เพื่อนที่ไปด้วยกันเป็นคนเมารถ เลยกินยาแก้เมาไว้ก่อน
ปรากฏว่ารอรถนานมากกว่าจะมาให้โบกสักคัน เพื่อนเลยหลับเพราะฤทธิ์ยาอยู่ข้างทาง ทีนี้พอโบกรถได้ เพื่อนเลยเมารถ อ้วกกันบนรถกระบะนั่นแหล่ะ
แต่หลายๆ ครั้งที่โบก
เจอคนใจดีตลอด เลี้ยงขนมบ้าง พูดคุยกันบ้าง
บางคนบอกว่าที่เลือกรับเราเพราะสมัยเรียนเคยโบกรถเหมือนกันค่ะ
เล่าแล้วก็คิดถึง
อยากโบกรถไปเที่ยวอีกจัง
ขอบคุณที่ตั้งกระทู้นี้นะคะ
[6 ธ.ค. 54 18:50:09
]
- โบกจากปาย กลับมาแม่แตง
- โบกจากกรุงเทพฯ ไปภูโค้ง จ.ชัยภูมิ
- โบกจาก อ.ชาติตระการ ไปภูสอยดาว
- โบกจากผานกเค้า ไปภูกระดึง
- โบกจากชุมพร ไป อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
- โบกจาก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ ไป จ.พัทลุง
มีอีกหลายครั้งเลยครับ สนุกดีครับแล้วก็ลุ้นว่าจะมีพี่ๆใจดีแวะรับเรามั่งป่าว ^^
[6 ธ.ค. 54 19:48:13
]
สมัยเรียนปี 1 (37 ปีที่แล้ว) ไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่วิเศษชัยชาญ
โบกได้รถบัสของ ม.ราม เข้ากรุงเทพฯ 8 คนกับเพื่อน สบายเลย
ทุกวันนี้ก็ยังโบกจากหน้าหมู่บ้าน ไปตลาดริมทางปากซอย 5 ก.ก.
คนกรุงเทพฯ ไม่เคยรับเลย มีแต่คนท้องที่...ใจดีเสมอ
[6 ธ.ค. 54 20:46:30
]
เมื่อปี 2537 ผมและเพื่อน 5 รวมคน โบกรถจากกรุุงเทพ (รังสิต) ไปเชียงใหม่ ใช้เวลา 2 วันถึงเชียงใหม่ จำนวนรถที่โบกได้ 5 คัน หมดเงินคนละ 500 บาท กับเวลา 9 วัน...ภูมิใจและซะใจกับการเดินทางครั้งนั้นมาก
จากคุณ : b_samart
[6 ธ.ค. 54 20:51:29
]
จาก Mt. Pocono รัฐ Pennsylvania ไป New Jersey 3-4 ชั่วโมง
หลายปีมาแล้ว ยังจำรถได้เลย กะบะจีเอ็มซี ลุงแกขับเรื่อยๆ เอื่อยๆ
[6 ธ.ค. 54 21:05:42
]
กทม.-เชียงใหม่ หกคนชายล้วนครับ
โบกรถสิบล้อไป นอนสบาย
[6 ธ.ค. 54 21:32:14
]
โบกสมัยเรียนมหาลัย(สิบกว่าปีที่แล้ว)ที่ไกลสุดก็ ...จากอุตรดิตถ์ไปที่ไหนสักแห่ง
ไปเที่ยวกันกลุ่มใหญ่ ชายหญิง 8 คน โบกหลายคันไม่เป็นผล เลยต้องลงมือเอง สำเร็จ!
พี่กระบะก็แสนจะใจดี แวะข้างทางซื้อปลาทอด ทอดมัน น้ำ เลี้ยงอีกต่างหาก
เกิดเป็นคนน่ารักมันดีอย่างนี้เอง 555
เพิ่งโบกเมื่อเมษานี่เอง ไปเชียงคาน แต่ไปเริ่มที่อุดร เพราะมีเพื่อนคนนึง
จะลงมาจากเชียงใหม่ ไม่งั้นปกติ จะเริ่มที่ กทม
ส่วนโบกก็เคยโบกมาแล้วทุกชนิด ตั้งแต่เมอซีเดส ยันรถบรรทุก พ่วงด้วยนะ
เจอคนใจดีมากมาย เส้นเหนือ อีสาน ใต้ ตะวันออก โบกได้ทั้งนั้น
โบกไกลสุด ขาไป วังน้อย (อยุธยา) จะไปประมาณอ่างทอง นครสวรรค์
ปรากฏว่าเค้าไปส่งเราถึงขุนตาน ไปนอนสุโขทัยกับเราคืนนึง ไปเที่ยว
อุตรดิตถ์ด้วยกันอีก 
ขากลับ ไกลสุด ได้ยิงยาว จาก อ.พาน มาถึง กทม.
สั้นสุด โบก 1 กม. คือเราลองโบกไปเรื่อยๆ พอบอกแล้ว คุณลุงคุณป้า
จะไปแค่ทางเข้าบ้าน แต่ก็คะยั้น คะยอให้เราไปด้วย ไอ้เรามันพวกใจง่าย
ก็ขึ้นรถไปหน่อย แล้วลง 
รถใหญ่สุด รถพ่วง
รถเล็กสุด อีแต๋น (จริงๆเคยโบกมอไซค์ด้วยพี่เค้าก็ไปส่งจริง อิอิ)
รถเหม็นสุด โบกรถขนขยะ บนอินทนนท์ (ทำไปได้)
รถสวยสุด รถแต่งโลงศพ ประดับกระดาษเงินกระดาษทองเต็มรถ
ซึ้งที่สุด คือโบกแล้วไปลงปากซอยบ้านพี่คนนึงที่ชุมพร
เค้าถามเราว่า จะไปอีกไกลมั้ย ถ้าซักสิบโล เค้าจะไปส่ง แต่เราไปอีกไกล
เค้ายังมีน้ำใจ บอกว่าบ้านเค้าอยู่ในซอยนี้อีกสองกิโล ถ้าไปไม่ได้
ให้ไปนอนที่บ้านได้นะ ดีว่าเราไปต่อได้
อีกงานซึ้ง คือโบกรถคุณลุงคนนึง ไปศุนย์รักษาพันธ์สัตว์ป่า จะไปนอน
ปรากฏว่าเค้าปิด คุณลุงเลยให้ไปนอนบ้านสวนแก ให้เก็บผลไม้กินได้
ยังแซวว่าจะเอาเป็ดคุณลุงมากิน แกบอกว่าตามสบาย ไข่ อะไรเก็บได้นะ
ซึ้งสาม โบกรถอาจารย์ท่านหนึ่ง จะไปลงแถวๆ โรงเรียนท่านนี่แหละ
พอท่านทราบว่าเราจะไปไหนกัน ก็บอกไม่มีรถไปหรอก แล้วขับไปส่ง
พาเราออกมา แถมหารถอาจารย์ท่านอื่น ให้ติดออกไปหาที่พักได้อีกแน่ะ
อิ่มสุด โบกที่ภูเก็ต ปรากฏว่า ไปนอนวนอุทยานที่เดียวกัน คืนนั้นทำกับข้าว
เลี้ยงพวกเราอย่างอิ่มหมีพีมัน แถมข้าวเช้าอีกแน่ะ
อิ่มสอง โบกรถพี่คนนึง แกบอกจะพาไปกินขนมจีนระนองเจ้าอร่อยมากกก
(ตรงศาลเจ้า) ไปถึงร้านเพื่อนฟาดขนมจีน 1 เข่ง ปลาบปลื้มมาก
เพราะโบกสายใต้มาหลายวัน เพิ่งได้กินขนมจีนผักเหนาะเยอะๆหนแรก
เจอคนดีๆตลอดทาง เป็นเครื่องยืนยันว่า คนไทยยังมีน้ำใจเสมอ
[7 ธ.ค. 54 00:03:37
]
หลายครั้งนะ
เคยโบกรถบรรทุกกับแฟนจากตราด (เกาะช้าง) เข้ากรุงเทพ (หรือบ้านเพ เสม็ดหว่า) นานล่ะ
เชียงรายลงเชียงใหม่มั้ง ตอนนั้นโบกๆอยู่ มีรถสปอร์ตขับจอดอย่างเร็ว แล้วถอยหลังมาให้อีก (แบบข้างหลังนั่งได้) แต่สรุปไปคนละทางกัน แต่ประทับใจสุดๆ นั่นสมัยอยู่มหาลัย
โบกจากดอยอะไรไม่รู้ลงมาเชียงใหม่
ที่กาญ โบกไปน้ำตกไรไม่รู้
โบกมือลาสาวก็บ่อยครั้ง
ล่าสุด โบกรถทหาร เข้าไปลาดพร้าว 555
เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งหัดโบกครั้งแรกเลยครับ ช่วงน้ำท่วม บ้านอยู่สะพานพระราม 8 ฝั่งธน น้ำท่วมหนัก ส่วนฝั่งพระนครแห้ง ต้องรอโบกตรงจุดขึ้นสะพานนี่แหละครับ เป็นอีกความประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิตเลย ช่วงนั้นมีแต่คนใจดี โบกปุ๊ปจอดปั๊ปเลยครับ
[7 ธ.ค. 54 03:14:01
]
โบกอย่างจริงจังก็ต้องย้อนกลับไปซัก 10 ปีได้ ช่วงเป็นนักศึกษายังไงก็โบกไว้ก่อน สมัยนั้นใครเที่ยวแบบต้องจ่ายค่ารถมีหวังโดนเพื่อนอำตาย
แม้แต่ไปเชียงใหม่ถึงจะมีรถก็ต้องหาเวลาแอบไปโบกให้ได้ มันเป็นความสุขลึกๆ ในใจ
ครั้งหนึ่งเมื่อปี 2000 นั่งรถไฟไปเด่นชัยถึงประมาณตีสองครึ่ง แล้วก็เริ่มโบกกันกลางดึก อากาศตอนนั้นก็หนาวสุดขั้วหัวใจ พอเค้ามาส่งเราก็ลงไปขอ
ผิงไฟกับชาวบ้านเพื่อรอโบกต่อเป็นอย่างนี้ไปจนถึงยอดดอยภูคา พี่ที่รับเราขึ้นดอยภูคาเห็นว่าบนดอยคนเยอะก็ถามว่าน้องเอาไง
น้องก็บอกไปว่าผมเผ่นดีกว่า มีรุ่นพี่บอกว่ามีอุทยานฯ เปิดใหม่ชื่อนันทบุรียังไม่ค่อยมีคนรู้จัก ผมจะไปที่นั่น ... คันแล้วคันเล่าที่ขับพาผมผ่านไปตามทางหมู่บ้าน ขึ้นเขา ลัดเลาะไปตามเส้นทางบนสันเขาแบบเห็นภูเขาสลับซับซ้อนทั้งด้านซ้ายและขวา ในที่สุดก็ต้องเดินต่อจนมาหยุดอยู่ที่ดอยวาว แล้วก็อยู่กับดอยวาวไปอีกสองสามคืน
ขากลับ ด้วยความห่ามของพวกเราในตอนนั้นทำให้เราเลือกจะเดินลงจากดอยในตอนกลางคืน หนาวเหน็บ มืด น่ากลัวจนไม่กล้าจะไปต่อเพราะมีสมาชิก
เป็นหญิงสาวอยู่สามคน ทันใดนั้นก็มี Ford Exploror คันหนึ่งมีพ่อแม่และลูกน้อยอีกสองสามคน จอดรับพวกเราลงจากดอย ส่งในตัวเมืองน่านแล้วจะยัง
เลี้ยงข้าวอีกด้วย ... ก็ขอบพระคุณกันยกใหญ่เลยทีเดียว
หลังจากนั้นผมก็ลาออกจากการโบกรถเที่ยว ... เหลือไว้แต่จำเป็นๆ ระยะสั้นๆ และเก็บเรื่องราวในวันนั้นเป็นที่สุดของเหตุการณ์ที่สวยงามในชีวิต
[7 ธ.ค. 54 06:56:38
]
แต่ละความเห็นอ่านแล้ว
ได้อารมณ์ตามมากๆครับ
มาแชร์กันอีกเยอะๆนะครับ
[7 ธ.ค. 54 08:27:29
]
โบกกทม.ไปอ.ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี 13 ต่อ โบกเป็นร้อยคัน ออกจากกทม.เที่ยงคืน บอกที่บ้านว่าจะไปรถทัวร์ แต่รู้อยู่ว่ารถหมดแล้ว ตั้งใจไปโบก ต่อหนึ่งเป็นรถเก๋งคนขับเป็นจนท.การรถไฟ บังคับให้เราไปขึ้นรถไฟต่อ จากสถานีลูกกา เข้าตัวเมือง หลังจากนั้นก็โบกต่อ
โบกกทม.ไประยอง
โบกทางแยกจากถ.เพชรเกษม เข้าไปอุทยานแก่งกระจาน ที่จริงคนพาไปไม่ได้ตั้งใจจะไปหรอก แต่อยากไปดูด้วย แถมพากลับกทม.พร้อมกัน
[7 ธ.ค. 54 10:40:26
]
หัดโบกตั้งแต่ ม.1จากโรงเรียนกลับบ้าน 7กม. ทริปไกลสุดจากปัตตานีไปกาญจนบุรีครับ เมื่อ 20ปีก่อน ถนนสายใต้ยังเป็น 2เลน ใช้เวลา 2วันครับ
จากคุณ : N416
[7 ธ.ค. 54 15:20:15
]
เคยโบกไกลสุดก็ ภูกระดึง-มข.
นอกนั้นก็โบกที่อินทนนท์ ภูหินร่องกล้า เขาใหญ่ อช.ไทรทอง
[7 ธ.ค. 54 17:42:57
]
โบก 17ปีก่อนจากค่ายอดิศร ไปวังน้อย ตีหนึ่งตีสองนีละ รถบขสไม้ยอมจอด แต่รถสิบล้อมีน้ำใจจอดรับ
รับคนโบก ขับมอไซรับสาวๆไปส่งถึงที่หลายคนแล้ว
[8 ธ.ค. 54 10:41:07
]
เข้ามาอ่าน เผื่อจะพบเพื่อนที่เคยโบกรถเราขึ้นดอยอินทนนท์เมื่อหลายปีก่อนค่ะ
[13 ธ.ค. 54 06:03:24
]
เคยรับคนโบกบ่อยมากๆๆ.....คราวหนึ่งรับเด็ก นักเรียน ที่เลิกเรียนพอดี....เลยรับมากลุ่มใหญ่ไปส่งหมู่บ้าน...จอดส่งทีละคน สองคน กว่าจะหมดก็ถึงท้ายหมู่บ้านพอดี.....เหมือนรถโรงเรียนเลยครับ..แต่สนุกดี....ดีใจได้ช่วยเด็กๆๆก็น่ารัก...ยกมือไหว้ทุกคน......ครับ
จากคุณ : TOMCAT (ต้อม ตื่นตูม)
[14 ธ.ค. 54 09:46:49
]
สมัยเรียน (พ.ศ.2544-2549) จะโบกรถเป็นปกติเลยครับ
ช่วงนั้นเป็นช่วงชีวิตที่เรียนไป ทำกิจกรรมไป โดยเฉพาะเรื่องของค่ายอาสา
การไปสำรวจค่าย เยี่ยมค่าย หรือแม้แต่สอบเสร็จหลังชาวบ้านแล้วต้องตามไปค่าย ก็ล้วนแต่ ไปกันได้ ด้วยการโบก
และทุกการโบกเราก็จะได้รับความเมตตาจากประชาชนทุกหมู่เหล่าบนท้องถนน เคยได้นั่งทั้งรถเก๋ง รถกระบะ รถบรรทุก และรถตู้ มีหลายครั้งที่เราโบกรถแล้วมีรถแย่งกันจอด แสดงให้เห็นถึงน้ำใจคนไทยมาก ๆ เลยครับ
ส่วนการโบกที่ประทับใจที่สุด ถ้าเป็นโบกสำรวจค่าย ก็เป็นทริปแรกในชีวิต ในช่วงหยุดวันแม่ เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2544 พี่ ๆ เขาชวนไปสำรวจค่ายในจังหวัดฝั่งอันดามัน หลังจากโทรศัพท์หาแม่บอกว่า ปีนี้ไม่ได้กลับบ้าน แต่จะยังคงทำดีในวันแม่ด้วยการไปสำรวจค่าย เราก็เริ่มโบกรถกันตั้งแต่ หาดใหญ่ ไล่ไปสุราษฏร์ กระบี่ พังงา ได้นอนในอาคารเรียนที่รุ่นพี่รุ่นก่อนหน้าเคยสร้างไว้ ได้พบปะพูดคุยกับครูและชุมชนที่ยังขาดแคลนอาคารเรียนในหลาย ๆ ที่ เป็นความประทับใจในฐานะ ครั้งแรกของประสบการณ์การทำงานอาสาน่ะครับ
ส่วนถ้าเป็นทริปเที่ยว ก็จะเป็นทริป หาดใหญ่-เกาะช้าง เพราะนอกจากจะเป็นการโบกไปกันเป็นระยะทางที่ยาวมากแล้ว ยังไปกันเป็นกลุ่มใหญ่อีกด้วย (7 คน ชาย 3 หญิง 4 น่ะครับ)
การโบกต้องวางแผนค่อยข้างเยอะ ทีว่าเยอะ ไม่ใช่เพราะต้องการความแน่นอนอะไร แต่เพราะเพื่อนที่ไปด้วยคนหนึ่งเป็นคนประเภทผู้พิทักษ์ เลยพยายาม "กะ" ทุกอย่างให้เป็นไปอย่างปลอดภัยที่สุด ทั้งชนิดรถที่จะโบก เวลาที่จะหยุด แต่สุดท้ายก็เหลว เพราะจากที่กะว่า ถ้าโบกได้รถเก๋งจะต้องทำไง ได้กระบะจะต้องทำไง และหลังจากกังวลเรื่องระยะเวลาในการโบก หลังจากโบกได้กระบะเป็นช่วงสั้น ๆ อยู่พักหนึ่ง ในที่สุดเราก็ได้เจอกับพี่สิบล้อใจดีในช่วงเกือบบ่าย นั่ง (ทั้งนั่งตื่น และ นั่งหลับไปทั้งคืน) ทีเดียวถึงราชบุรีเลยครับ
ต่อจากนั้นเราก็โบกรถไปจนถึงตราด โดยมีพี่คนขับใจดีเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวเป็นมื้อเที่ยง แวะนอนที่จันทบุรีหนึ่งคืน และเช้าอีกวันก็มาถึง เกาะช้าง จังหวัดตราดจนได้
รวมการโบกขาไปก็ 3 วัน 2 คืน ครับผม
เรื่องมันนานมาก ๆ แล้ว จำรายละเอียดไม่ค่อยได้ แต่สนุกมากครับ ยิ่งตอนขากลับยิ่งยุ่งใหญ่ เพราะสาวหนึ่งต้องรีบกลับมา ในขณะที่เพื่อน ๆ อยากอยู่ต่อ เลยต้องแตกเป็นสองกลุ่ม เป็นชายหนุ่ม-หญิงสาว หนีตามกันคู่หนึ่ง กับเพื่อน ๆ ที่เหลือ ที่ยังอยู่บนเกาะช้างครับ
[8 เม.ย. 55 15:52:08
]