หลังจากเดินทางกลับมาได้ ราวๆ สัปดาห์เศษๆ เพิ่งมีเวลาก็วันนี้ งั้นเราอย่าเสียเวลากันเลยครับ เริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า โดยผมออกจากกรุงเืทพราวๆ สามทุ่มครึ่ง บวกกับรถติดนิดหน่อย แถวๆด่านจ่ายเงิน ธัญญบุรี เลยทำให้เสียเวลาเล็กน้อย ถึงเป้าหมายแรก อำเภอภูเรือ ประมาณตีห้านิดๆ ครับ

หลังจากแวะล้างหน้าล้างตากันเรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดอุทยานแห่งชาติภูเรือกันเลย
เนื่องจากคนค่อนข้างเยอะ เราเลยเลือกที่จะเดินขึ้นกันเองครับ ระยะทางราวๆ 1 กิโลเมตร เวลาประมาณตีห้าครึ่ง ยังไม่สว่างเลยครับ

ปล. หากท่านใดไม่ชอบเดิน จะใช้บริการรถรับส่งก็ได้ครับ คิดค่าบริการท่านละ 10 บาทครับ

ความซวยมาเยือนแล้วครับ หมอกฟุ้งจัด จนมองอะไรแทบไม่เห็นเลยครับ ยิ่งตอนขับรถขึ้นมา มองถนนไม่เห็นเลยนะครับ ทัศนวิสัยเป็นศุนย์เลยจริงๆ

หมอกจัด น้ำค้างแรก ถึงขนาดว่าเปียกกันเลยทีเดียวครับ มองไปรอบด้าน แทบไม่เห็นอะไรเลย อดดูทะเลหมอกเลย

ขอมาชมด้วยคน.............ขอบคุณครับ

บรรยากาศได้ฟิวส์มากมาย

พระอาทิตย์สูงขนาดนี้ ยังหมอกจัดขนาดนี้ เสียดายไม่ได้เห็นทะเลหมอกเลย เอาไว้มาแก้ตัวใหม่รอบหน้าละกันครับ

บรรยากาศโรแมนติคมากครับ อยากไปเที่ยวมั่งจัง

ตามไปด้วยครับ หมอกหนาเชียว

ยินดีครับ คุณ low batt
ได้ฟิวส์มาก แต่ถ่ายรูปไม่ค่อยได้อ่ะดิครับ คุณตระเวนเที่ยว
======================================================================================
ถ่ายอะไรไม่ค่อยได้ ได้พระอาทิตย์ขึ้นมาแค่นี้เองอ่ะครับ

ตามมาชมด้วยคนครับ

น้ำค้างมันแรงมาก จนไม่ค่อยโรแมนติกเท่าไหร่สิครับ คุณน้องจิมมี่
ตามมาด้วยกันได้เลยครับ คุณม่วงมหากาฬ
======================================================================================
เดินไปเรื่อย รอบๆ ก็จะเจอหินอันนี้แหละครับ

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

ยินดีครับ คุณ sujin_korn
======================================================================================
ปลายใบสนทุกใบ เต็มไปด้วยหยดน้ำทุกใบ เดินผ่านทีนึงนี่เปียกกันได้เลยนะครับ เพราะมันเยอะมากจริงๆ

ยินดีครับ คุณเล็กทาโร่
======================================================================================
นี่เจ็ดโมงกว่าแล้วนะครับ หมอกยังจัดขนาดนี้เลย ถ่ายอะไรไม่ได้ เลยลงจากยอดภูดีกว่าครับ ขับรถลงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสุงนะครับ เนื่องจากหมอกจัดมากจริงๆ

ตามไปด้วยค่ะ ยังไม่เคยไปเลย อยากไปแบบนี้อ่า

หลังจากลงมาหาอะไร รองท้องกันบริเวณตลาดเช้าภูเรือ เดินถ่ายรูปเล่นๆ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอภูเรือกันดีกว่า

ลองดูครับ คุณ tikhot แล้วจะติดใจครับ
======================================================================================
รอบๆภูเรือ ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไร เลยตัดสินใจไปดูที่สถานีวิจัยเกษตรที่สูงภูเรือกัน ออกไปไกลพอสมควรนะ ประมาณ 30 กิโลเมตร โดยส่วนตัวผมรู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้มครับ เพราะว่าไกล ถนนไม่ค่อยดี แถมไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจด้วยครับ

หลังจากผิดหวังจากสถานีวิจัยเกษตรที่สูงภูเรือ เราก็ตัดสินใจมุ่งหน้าสู่ พระธาตุสัจจะ กันต่อครับ โดยหวังว่าจะได้ชมอะไรสวยงามบ้าง
สถานที่สวยงามดีครับ แต่ถนนไม่ไหวจริงๆครับ เข้าไปแล้วรู้สึกสงสารรถจริงๆครับ

ไหนๆ ก็ลำบากเข้ามาแล้ว ถ่ายรูปเยอะๆหน่อยแล้วกันครับ

ถือว่ายังโชคดีอยู่บ้างครับ ที่ฟ้าฝนเป็นใน ได้รูปสวยๆ ติดไม้ติดมือกลับมาบ้างครับ

ขอติดรถตามไปเที่ยวด้วยคนครับบบ

เข้าไปชมด้านในองค์พระธาตุกันบ้างครับ

ไปด้วยคนนะค่ะ

ยินดีเลยครับ คุณสายลมแห่งวิงค์
======================================================================================
ตอนเดินเข้ามาครั้งแรก ตกใจแทบวิ่งออกเลยครับ เพราะเจ้าหุ่นตัวนี้แหละครับ อยู่ๆก็พูดได้ขึ้นมา แถมยังยกมือสวัสดีได้อีกด้วยนะครับ ยอมรับเลยว่าตกใจมากๆ จริงๆครับ

ยินดีครับ คุณสาวนุ้ย@ภูเก็ต
======================================================================================
ได้เวลาย้ายที่กันแล้วครับ เพราะเริ่มจะหิวแล้ว ผมตัดสินใจไปอีกทางหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจผิดเพราะเส้นทางแย่กว่าขามาหลายเท่าเลย จากอำเภอท่าลี้ไปอำเภอเชียงคานระยะทางแค่ประมาณ 60 กิโลเมตร ผมใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเต็มๆ พอมาถึงเชียงคานทุกคนก็หิวเต็มที่ ผมเลยจัดการเจ้านี่ไปซะ 2 ชามใหญ่ๆ อันนี้คือ จุ่มนัว ครับ คล้ายๆสุกี้ บ้านเรา อร่อยใช้ได้ครับ ร้านดังจะอยู่บริเวณกลางซอย 10 นะครับ

ตามไปด้วยคนครับ ชอบภาพ คห1 ครับ

อิ่มกันแล้ว ก็ได้เวลาสำรวจที่พักกันแล้วครับ โดยผมพักที่ โรงแรมพูลสวัสดิ์ ครับ พี่เจ้าของที่พักอัธยาศัยดีมากๆเลยครับ

ขอบคุณครับ คุณไม่ใช่ไม่เจ็บแต่เก็บไว้ในใจ
======================================================================================
โดยส่วนตัวแล้วผมชอบที่นี่มากเลยนะครับ แต่ขอติอย่างเดียวครับ เตียงเล็กมากอ่ะครับ นอน 2 คนเบียดเลยอ่ะครับ

ผมได้ห้องหมายเลข 2 ครับ พวงกุญแจห้องน่ารักดีครับ แม่กุญแจก็เข้ากับบรรยากาศดีนะครับ

ปิดประตู แขวนกุญแจ ได้บรรยากาศบ้านสมัยโบราณมากๆเลยครับ

บริเวณที่รับแขกด้านหน้าครับ

ชอบกุญแจห้องจริงๆ ขออีกสักรูปละกันนะครับ

โต๊ะดูทีวีครับ ที่นี่ไม่มีทีวีในห้องนะครับ จะเป็นทีวีรวม แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีคนดูหรอกครับ เพราะออกไปเดินข้างนอกกันหมด

โรงแรมพูลสวัสดิ์ ได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมไม้แห่งแรกของอำเภอเชียงคาน โดยสร้างมาแล้ว 61 ปี

โดยรวมแล้ว ถือว่าประทับใจกับที่นี่ครับ แต่อย่างที่บอกไปก่อนหน้านะครับ ถ้าปรับปรุงได้ แนะนำให้ขยายเตียงอีกสักนิดนะครับ มันเล็กไปจริงๆ

แดดร่มลมตก ปั่นจักรยานเล่นกันดีกว่าครับ วันแรก เวลาน้อย ผมเลือกปั่นจักรยานมุ่งหน้าไปยังแก่งคุดคู้ ไกลพอสมควรเลยครับ ไป-กลับ รวมระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตรครับ

ยามค่ำคืน ปิดประตูหมดทุกห้อง บรรยากาศวังเวงใช้ได้เลยครับ

โดยรวม ถือวาจัดสถานที่ได้ดีมากๆ ครับ จุดนี้เป็นบริเวณที่นั่งเล่นครับ

เมื่อความมืดมาเยือน ก็ได้เวลาเดินท่องราตรี บริเวณถนนคนเดินกันแล้วครับ ของขายค่อนข้างเยอะ มีทั้งของฝาก ของใช้ ของแต่งบ้าน อาหาร เอาง่ายๆ คือมีทุกประเภทเลยครับ

ภาพอาคารเก่ากับจักรยานสมัยโบราณ ดูแล้วก็ได้บรรยากาศความเป็นเมืองเก่าดีจริงๆ

ที่นี่เห็นคนถ่ายรูปกันเยอะดี ผมเลยขอกับเค้าบ้างสักรูป แต่ไม่ได้พักที่นี่นะครับ

คืนแรกผมไม่ค่อยได้ถ่ายรูปถนนคนเดินสักเท่าไรครับ เนื่องจากเหนื่อยจากการขับรถและอดนอนมาตลอดทั้งคืน เลยขอเข้านอนเร็วหน่อยเพื่อที่จะตื่นแต่เช้ามารอตักบาตรข้าวเหนียว

พระท่านจะเริ่มบิณฑบาตรตอนหกโมงเช้า โดยตามประเพณีแล้วจะใส่เฉพาะข้าวเหนียวนะครับ ส่วนกับข้าวนั้นจะนำไปถวายที่วัดครับ เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อพระท่านครับ

ขอบคุณครับ

ตักบาตรเสร็จก็รับพรกันหน่อยครับ

ยินดีครับ คุณคนมีแฟนขับ (chun_cx)
======================================================================================
หลังจากเสร็จภารกิจช่วงเช้าก็ได้เวลาหาอะไรทานกันแล้วครับ เราเลือกที่จะเดินมาที่ตลาดเช้ากันครับ ของดังของที่นี่ก็คือ ปาท่องโก๋ใส่ไส้ ครับ

ทอดกันสดๆ ใหม่ๆแบบนี้ กลิ่นหอมน่ากินมากๆครับ

หลังจากทอดเสร็จ ก็ตัดใส่จาน พร้อมรับประทานแล้วครับ อร่อยจริงครับ

หลังจากอิ่มกันแล้ว ก็ได้เวลาชมเมืองกันแล้วครับ โดยทางโรงแรมพูลสวัสดิ์มีจักรยานไว้ให้บริการฟรีครับ แต่ก็มีจำนวนจำกัดนะครับ ถ้าช้าก็อดครับ

สถานที่น่าสนใจเกือบทั้งหมดของเชียงคาน ก็จะเป็นวัดนะครับ โดยวัดแรกที่ไป คือ วัดศรีคุณเมือง

พระประธานในโบสถ์ครับ

ในบริเวณวัดจะมีพระธาตุอยู่เหมือนกัน แต่ผมพยายามหาชื่อแล้ว ไม่เจอชื่อพระธาตุอ่ะครับ

ไหว้พระวัดแรกกันแล้ว ลองแวะเวียนไปบริเวณริมไม่น้ำโขงกันหน่อยครับ

โชคดี ไปเจอเด็กๆกำลังเล่นน้ำกันอยู่ เลยเก๊กท่าให้ถ่ายรูปซะเลย

แถมยังโดดให้ถ่ายรูปอีกต่างหาก เด็กๆที่นี่น่ารักจริงๆ

ปั่นไปปั่นมา มาเจอ 7-11 เข้า แปลกตาดี เข้ากับบรรยากาศเลยครับ

ร้านนี้แต่งร้านน่ารักดี เก็บมาฝากครับ

ถนนคนเดินยามเช้า เงียบเหงาลงไปถนัดตา

อันนี้ใครรู้บ้างครับ ว่าเค้าเอาไว้ทำอะไร มันคือข้าวสวย เค้าเอามาตากให้แห้งครับ ผมเดาว่าเก็บเอาไว้ทำข้าวตัง แน่เลย

ปั่นไปเรื่อยๆ ก็มาถึงวัดป่ากลางหรือวัดมัชฌิมาราม

งานเข้าแล้ว ขอติดไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวมาต่อนครับ

ภาพสวยมากคะ อยากไปเชียงคานนนนนน อยากกินจุ่มบ้าง น่าทานจังเลย

ป๋มไปเชียงคลานมาเมือเดือน ม,ค,ปีนี้เอง

พอเห็นรูปแล้วอยากไปเยือนอีกจังเยยคร๊าบ

สงสัยเราไปช่วงเดียวกันแน่ๆ เลย จำน้องๆ ที่ใส่บาตรหน้าสองผัวเมียได้ เพราะไปขอส่องน้องเค้ามาเหมือนกัน ^^

จองไว้เดือนมกราคมจะไปพักที่นี่พอดี ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

มารอชมต่อครับ

ถ้ามีโอกาสได้ไป แนะนำให้ลองครับ คุณ loverose อร่อยจริงครับ
นั่นสิครับ อยากไปอีกเหมือนกันครับ คุณ dear pukka (dear pukka)
ผมไปวันที่ 26-28 อ่ะครับ คุณ sugar rabbit
ยินดีมากๆครับ คุณ H-bobo
มาแล้วครับ คุณ Destiny-Boy
======================================================================================
ขออภัยสำหรับทุกท่านที่รอชมต่อนะครับ พอดีติดงานเลี้ยง เลยดึกเลย งั้นเราไปต่อกันที่พระประธานวัดป่ากลางกันเลยครับ

ด้านหน้าโบสถ์ก็สวยไม่แพ้กันครับ

กลับมาที่บ้านหลังเดิมเมื่อคืนนี้ (บริเวณซอย 14) จักรยานหายไป เลยต้องเอาจักรยานตัวเองมาเป็นแบบเลย

ปั่นมาเรื่อยๆ ก็จะเจออีกวัด วัดมหาธาตุ ครับ

พระประธานด้านในครับ

โบสถ์วัดมหาธาตุดูเก่าแก่มากๆเลยครับ

รูปสวยมากคะ

ปั่นจักรยานไกลออกไปอีกหน่อย ก็จะมาถึง วัดป่าใต้ครับ

ขอบคุณครับ คุณน้องวี (น้องวี : we-wee)
======================================================================================
ด้านในโบสถ์วัดป่าใต้ครับ

วัดสุดท้ายแล้วครับ วัดศรีพนมมาศ วัดนี้ค่อนข้างไกลหน่อยครับ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน

ด้านใน พระประธานค่อนข้างสวยเลยครับ

ผ่านมาเจอรถสามล้อที่นี่แปลกดีครับ เลยเก็บมาฝากกัน บางคันแต่งสวยมากเลยนะครับ แต่ถ่ายไม่ทัน

หลังจากปั่นจักรยานมาทั้งวันแล้ว เติมพลังกันหน่อยด้วย ข้าวเปียกเส้น อีกหนึ่งอาหารพื้นเมืองครับ ผมเลือกทานที่ร้านบรเวณถนนคนเดิน แถวๆ ซอย 14-15 ลักษณะเหมือนก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา แต่จะใช้เส้นขนมจีนสดแทน อร่อยดีเหมือนกันครับ

อิ่มแล้ว ค่ำพอดี ได้เวลาเดินถนนคนเดินแบบจริงๆจังๆ สักที

เดินเจอเจ้าเป็ด 2 ตัวนี้น่ารักดี เก็บมาฝากครับ

ร้านกาแฟ ซอย 9 ครับ ร้านน่ารักดีครับ

คืนวันอาทิตย์ คนน้อยลงไปเยอะเลยครับ ถ้าเทียบกับคืนวันเสาร์ ร้านค้าต่างๆปิดกันเร็วกว่าปกติมากครับ

ร้านนี้ปกติถ้าเป็นคืนวันเสาร์ คนจะเยอะมากเลย แต่วันนี้วันอาทิตย์คนหายไปไหนกันหมดนะ

คนน้อยก็ดีไปอีกแบบนะครับ ถ่ายรูปสะดวกหน่อย แต่ก็ดูเงียบเหงาเหมือนกัน

มองไปทางไหนก็ไม่เห็นมีคนเลย หรือผมออกมาเดินดึกเกินไปกันแน่

ฝั่งแถวๆ ซอย 10-14 ยังพอมีผู้คนอยู่บ้าง เนื่องจากฝั่งนี้ร้านค้าจะเยอะหน่อย

เดินตลาดจนไม่รู้จะถ่ายอะไรแล้ว ก็ได้เวลานอนเพื่อตื่นมาดูทะเลหมอกภูทอกในเช้าวันรุ่งขึ้นต่อไป โดนผมเลือกที่จะออกจากที่พักกันตั้งแต่ตี 5 ครับ เพื่อขึ้นไปจับจองที่ถ่ายรูปกัน เกือบๆหกโมงเช้า แสงแรกของวันเริ่มปรากฏพร้อมกับทะเลหมอกที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย

เริ่มสว่าง ผู้คนเริ่มทะยอยกันขึ้นมาชมความงามของทะเลหมอกภูทอกกันมากขึ้น

แสงเริ่มมากขึ้นเรื่อย การถ่ายรูปก็ง่ายขึ้นตามลำดับ ความงดงามของทะเลหมอกก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ผู้คนทะยอยกันขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ถ้าให้ผมแนะนำนะครับ ควรขึ้นมาถึงก่อนหกโมงเช้านะครับ คืออย่างช้าควรออกจากเชียงคานไม่เกินตีห้าครึ่งนะครับ เพื่อชมความงามของทะเลหมอกได้อย่างเต็มที่นะครับ

ไม่นานเกินรอ พระอาทิตย์ก็มาตามนัดของเรากันแล้วครับ

พอพระอาทิตย์มารู้สึกจะถ่ายยากขึ้นเล็กน้อยครับ

ขึ้นมาแล้วอย่าให้เสียเที่ยวครับ เดินเปลี่ยนตำแหน่งถ่ายรูป เก็บความทรงจำที่สวยงามไปเรื่อยๆครับ

เมื่อแสงแดดสาดส่องเต็มที่ ก็คงได้เวลากลับสู่ตัวเมืองเชียงคานกันแล้วครับ

เมื่อลงมาถึง ยังคงมีหมอกอยู่บ้าง เลยเดินไปดูแถวๆริมแม่น้ำโขงซะหน่อย ชาวบ้านแถวนี้เริ่มดำเนินวิถีชีวิตของพวกเค้ากันแล้ว แม้ว่าหมอกจะยังคงหนาแน่นอยู่ก็ตาม

และแล้วช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่อยากให้มาถึง ช่วงเวลาแห่งการจากลา ก็มาถึง แต่ระหว่างทางเราก็ยังคงแวะไหว้พระ ณ พระธาตุศรีสองรัก เพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนกลับครับ

ข้อปฏิบัติสำหรับทุกท่านที่มาสักการะพระธาตุศรีสองรักครับ

อันนี้คนที่นี่เค้าเรียก ต้นผึ้ง เอาไว้สำหรับแก้บนที่พระธาตุศรีสองรักครับ โดยทำมาจากกาบกล้วยและเทียนครับ

บริเวณด้านในพระธาตุครับ บริเวณด้านบนนี้บางจุดจะไม่อนุญาตให้ผุ้หญิงเข้านะครับ แต่จะมีป้ายบอกอยู่แล้วครับ

ออกจากพระธาตุศรีสองรักมาไม่ไกล ก็จะพบกับอีกหนึ่งวัดที่สวยงามมาก วัดป่าเนรมิตรวิปัสสนา ครับ

ด้านในโบสถ์ครับ สวยงามมากๆเลยครับ แม้ว่าในบางจุดจะยังสร้างไม่เสร็จครับ

พระประธานด้านใน เป็นพระพุทธชินราชจำลองครับ แต่ก็สวยงามมากๆเช่นกันครับ

อีกทั้งยังมีภาพวาดฝาผนังที่สวยงามมากๆเช่นกันครับ

สุดท้ายก็ได้เวลากลับกันจริงๆแล้วครับ เอาไว้เจอกันครั้งต่อไปครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม และขออภัยที่ครั้งนี้จบดึกไปหน่อย

ครั้งหน้ายังนึกไม่ออกนะครับ แต่อาจจะเป็นวังน้ำเขียว ต้องดูก่อนว่าผมถ่ายอะไรมาได้มากน้อยแค่ไหนนะครับ

คิดถึงเชียงคานจัง T^T
เหตุที่7 สาขานี้แปลกๆเพราะชาวบ้านคัดค้านค่ะเพราะถ้าเซเว่นมีร้านขายของชำก็จะแย่ไปด้วย
แต่ทางเซเว่นก็ยืนยันจะตั้งสาขาที่นี่  เลยได้ข้อสรุปว่าจะสร้างให้กลืนกับเชียงคานบรรยากาศบ้านไม้

อิจฉาจังค่ะ  เราไปภูทอก 2 ครั้ง  ไม่เจอทะเลหมอกเลย 

ขอบคุณนะคะที่เก็บภาพสวยๆมาฝาก  ^__^

น่าไป

ไปไหว้พระด้วยคนค่ะ

กำลังจะเดินทางไปช่วงหยุด 3 วันที่จะถึงค่ะ

เข้ามาเจอแบบนี้เข้าไป
ยิ่งอยากให้ถึงวันเร็วๆ
ขอบคุณนะคะ

ขอบคุณ จขกท. สำหรับภาพสวยๆครับ อาทิตย์กำลังจะขึ้ภูเรืออยู่พอดีเลย หลังจากอาทิตย์ก่อน เพิ่งมาจากดอยอินทนนท์หหยกๆ ^^!!

ตามมาเที่ยวเมืองเลยด้วยคนค่ะ

ภูเรือหมอกลงเยอะจังเลยนะคะ ท่าทางหนาวน่าดู

เชียงคานก็อยากลองไปสัมผัสบรรยากาศหนาวๆที่นั่นบ้าง เคยไปแต่หน้าฝน

วัดเนรมิตวิปัสสนาที่ด่านซ้าย เป็นอีกวัดที่เห็นแล้วประทับใจ ในวิหารสวยมากเลยนะคะ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวค่ะ

ทะเลหมอกสวยจริงๆค่ะ

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11403746/E11403746.html

ถ่ายรูปสวยมากๆค่ะ เห็นแล้วก็ชวนให้คิดถึงเชียงคาน