ต้องขอบอกว่า ปกติ รี่ ก็เข้ามาดูข้อมูลการเดินทางในห้องบลูบ้าง แต่ปกติจะอยู่ เฉลิมไทย สยาม และ โต๊ะเครื่องแป้งมากกว่า ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่รี่จะได้นำภาพสวยๆจากการท่องเที่ยวมาอวดเป็นครั้งแรกค่ะ

จ.กาญนบุรี  อาจจะไม่ไกล ในความรู้สึกของเพื่อนๆ ดูแล้วอาจจะไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ เพราะเพื่อนอาจจะอยากไปเหนือ หรือไปทะเลที่ดูแล้วไกลๆ หรือไม่เคยไปกันมากกว่า แต่ trip นี้ บอกตรงๆว่าเป็นความประทับใจของรี่มากๆ

14 ชีวิตที่ไปด้วยกัน ใช้เวลาเพียง 2 วัน 1 คืน แต่รี่รู้สึกว่า เราได้พักผ่อนในสถานที่สวยๆ และทำกิจกรรมกันอย่างคุ้มค่า ได้ทำในสิ่งที่รี่ไม่เคยทำ ได้สัมผัสอากาศหนาว ที่ไม่หนาวมากจนเกินไป มันทำให้รู้สึกมีความสุขจริงๆนะ

เสียอย่างเดียว .... กลับมาดำเลย T_T 

รี่ประมวลภาพมาให้ดูในภาพแรกไว้ด้วย มันเป็นบทสรุปความประทับใจทุกอย่างแต่ใครจะรอชมคำอธิบายแต่ละภาพ ก็ขอเชิญตามมาได้เลยนะคะ ^_^

หมายเหตุ : ขอขอบคุณช่างภาพ พี่ชาติ ที่ถ่ายภาพออกมาสวยมากๆ (เดี๋ยวพี่เค้าคงเอาภาพไปอวดในห้องกล้องเองแหละค่ะ)

เรานัดกันวันที่ 3 ธ.ค. 6.00 น. ที่ golden place สัมมากร  แต่รี่ไป golden place ตรงเลียบทางด่วน แป่ว!!!!  ผิดที่ ต้องเสียเวลามาใหม่ ได้ออกรถกันจริงๆ 6.30 น.

มุ่งหน้าไปทางเส้นพระราม 2 เพื่อไป กาญจนบุรี ด้วย รถกระบะ 2 คน ไม่มีรูปมาอวดนะคะ

ไปแวะทานข้าวกันก่อนที่ร้านอะไรก็จำไม่ได้แล้ว และ เราก็มุ่งหน้าไปที่น้ำตกเอราวัณ น่าจะถึงประมาณ บ่ายโมงนะ

น้ำตกเอราวัณมีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นที่ 1 และ 2 สามารถเอาอาหาร น้ำ ไปได้
แต่หากจะขึ้นชั้นที่ 3 ห้ามเอาอาหารขึ้นไป  แต่เอาน้ำขึ้นไปได้ โดยต้องจ่ายค่ามัดจำสำหรับขวดน้ำ แล้วตอนขากลับ ก็ค่อยเอาขวดมารับเงินคืน เป็นการป้องกันไม่ให้คนทิ้งขวดน้ำไว้บนนำตกน่ะค่ะ

รี่กับเพื่อน อยู่แค่ชั้น 3  เล่นน้ำตกกัน  ลงน้ำครั้งแรก ตกใจมากๆๆๆๆ  เพราะปลามันตอด สะดุ้งเลย เพราะมันจั๊กจี้  นานๆไปรี่เริ่มไปนั่งให้ปลามันตอดเท้า นั่งชิลๆ  สักชั่วโมงนึงก็เริ่มชิน  กลับออกมา เท้าสะอาดเลยค่ะ ^_^

เอาภาพหนุ่มๆกับน้ำตกชั้น 3 มาฝากค่ะ

ส่วนคนอื่นๆ เค้าเดินขึ้นไป ชั้นที่ 2-7 กัน เอารูปสวยๆมาฝากค่ะ

อันนี้น่าจะเป็นชั้น 4

ปาดนิ่มๆ

ส่วนอันนี้ชั้นไหนไม่รู้ เพราะรี่ไม่ได้ขึ้นไป

อ้อ.... ขอแอบกระซิบหนุ่มๆๆ  ที่นี่มีสาวฝรั่งใส่บิกินี่มาเล่นน้ำตกเยอะมากๆๆๆ
เป็นอาหารตาให้หนุ่มๆได้เป็นอย่างดี ใครมากะแฟน ก็ต้องแอบๆชำเลืองนะคะ ^^

ขอตามไปเที่ยวด้วยคน.............ขอบคุณครับ

ภาพ The gang ขณะ กำลังเดินขึ้นน้ำตกอย่างมีความสุข
เสียดายที่ช่างภาพเราไม่นิยมสาวบิกินี่ ไม่งั้นคงได้มีเอามาฝากกันบ้าง

เราอยู่กันที่น้ำตกเอราวัณ จนเกือบๆ 4 โมงเย็น เพราะรอกลุ่มที่เดินขึ้นไปบนน้ำตกทั้ง 7 ชั้น ระยะทาง น่าจะประมาณ 1 กม. กว่าๆ ไกลพอควร อีกทั้งแวะดูน้ำตก ถ่ายภาพกันด้วย เลยใช้เวลาค่อนข้างเยอะ

ส่วนรี่กับเพื่อนๆที่อยู่ชั้น 3 ก็นั่งเอาขาจุ่มน้ำทำสปาปลาตอดกันแบบสบายใจมากๆ น้ำเย็นกำลังดีเลยค่ะ

พอลงมา ก็เลยถ่ายภาพร่วมกัน 1 ภาพตรงป้าย ให้รู้ว่า มาถึงน้ำตกเอราวัณแล้วนะ แต่ละคน โพสต์ท่ากันสุดๆๆไปเลย ^^!

ก่อนจะเดินทางออกจากน้ำตกเอราวัณ ขอเอาภาพน้ำตกสวยๆมาฝากอีก 1 ภาพละกันค่ะ

ไปเที่ยวกาญจนบุรีด้วยคน

จากนั้น เราจึงเดินทางไปที่พัก ซึ่งก็อยู่ใกล้กับน้ำตกเอราวัณ แต่ต้องขับรถขึ้นเขาไปจนสุด  ชื่อที่พักว่า LAKE HEAVEN  ตอนเดินทางขึ้เขา เห็นป้ายโฆษณาว่าเป็นมัลดิฟเมืองไทยด้วย  

พอไปถึงที่พัก โห.......... สวยจริงๆค่ะ ที่พักอยู่บนแพ จริงๆก็อาจจเหมือนแพที่กาญจนบุรีทั่วไป แต่ที่พักอันนี้มันอยู่ในเขื่อน ซึ่งมองเห็นทั้งภูเขา และ น้ำก็็สีสวยค่ะ อธิบายยังไงดีล่ะ คือสรุปว่ามันสวยมากๆในสายตารี่ละกันค่ะ ^_^

เราจองบ้านพักไว้ 2 หลัง ชื่อว่า ชมพูพันทิพย์ และ ทองกวาว  

ชมพูพันทิพย์เป็นบ้าน 2 ชั้น  ราคา 4,000 บาท
ส่วนทองกวาว เป็นบ้านชั้นเดียว ราคา 3,500 บาท  

สรุป ค่าที่พัก 7500 บาท เฉลี่ยคนละ 535 บาท เองค่ะ

ห้องที่เราพักไม่มีตู้เย็น ไม่มีแอร์ ซึ่งจริงๆก็ไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะอากาศเย็นมากอยู่แล้ว

เอาภาพหน้าที่พัก บ้านทองกวาวมาฝาก แต่ละบ้านจะมีเสื้อชูชีพให้ด้วย

ตามไปเที่ยวกาญจนบุรีด้วยคนนะครับบบ............

สภาพภายในห้อง บ้านทองกวาว ก็เป็นปูฟูกให้บนพื้นค่ะ สามารถนอนได้ประมาณ 6 คน มีทีวี มีน้ำอุ่นให้ อ่างล้างหน้าอยู่ข้างนอก  มีผ้าเช็ดตัวให้    

แต่....ระวังแขกไม่ได้รับเชิญสักนิดนะคะ.....   บ้านทองกวาว เจอหนู ตัวเล็กๆด้วยค่ะ สาวๆกรี๊ด วิ่งหนีออกจากห้องกันใหญ่ หนุ่มๆ ต้องช่วยมาไล่ลงรู แล้วเอาถุงพลาสติกปิดรูไว้   และรู้สึกว่าบ้านชมพูพันทิพย์จะเจอแมลงสาบมั๊งคะ

เอาน่าาา .... นิดหน่อยเอง >*<  

ที่บ้านพักมีหน้าต่างหลายบาน แต่ตอนกลางคืนไม่แนะนำให้เปิดค่ะ เพราะแมลงเยอะมากๆๆ  ต้องปิดหน้าต่างและเปิดพัดลมเพื่อให้มีอากาศหายใจ เพราะถึงจะไม่เปิดพัดลมเลย อากาศก็ไม่ร้อนค่ะ แต่จะอึดอัด

รูปภายในห้องค่ะ.... เห็นแต่คน ไม่ค่อยเห็นห้องเลย แป่ว!!!

น่าสนุกนะคะ วิวสวย บรรยากาศคงจะดีมากๆ ^ ^

ที่นี่มีกิจกรรมให้ค่อนข้างเยอะ มีเครื่องเล่นด้วยค่ะ น้องๆก็ไปเล่นกัน  ส่วนพวกพี่ๆ หิวกันแล้ว ขอไปสั่งอาหารทานกันก่อนนะ

ที่นี่แขกเยอะมากๆ ค่ะ นักท่องเที่ยวเยอะ มีบริษัทมาจัดงานปีใหม่ด้วย

แนะนำว่าถ้าจะมาทานอาหารที่นี่ ต้องจองค่ะ   เพราะตอนแรก เรากะสั่งแบบทานเล่นๆแก้กิวกันก่อน แล้วเอาไว้ค่อยทานมื้อหลักพร้อมน้องๆ  ก็สั่งกันไป 4 อย่าง เป็นพวกยำๆ ทั้งนั้น และก็ สั่งข้าวมาแค่ 2 จาน แบ่งกัน 4 คน

แต่นึกไปนึกมา ก็คิดว่าทานให้อิ่มเลยดีกว่า สั่งไปแล้วสักพัก เลยจะสั่งเพิ่ม พนักงานก็บอกว่า ถ้าจะสั่งหลัง 5 โมงครึ่ง ต้องต่อคิว เพราะ ช่วง 5 โมงครึ่งแม่ครัวจะเริ่มทำอาหารที่มีจัดเลี้ยง และที่มีคนจอง  กว่าคิวจะได้ก็ประมาณ 2 ทุ่ม

โห..... คือช่วงเวลาห่างกันไม่กี่นาที จะได้ของอีกทีประมาณ 2 ทุ่ม ทำไมเค้าไม่บอกเราตั้งแต่เมื่อกี้นะ แล้วน้องๆที่เล่นน้ำอยู่ จะทำยังไง  เลยรีบไปบอกน้องว่าให้รีบสั่งอาหาร เดี๋ยวจะอดทานข้าว

และโต๊ะเรา ก็ไม่ได้สั่งเพิ่ม เอาแค่ 4 อย่างนั่นแหละ ... พออาหารมา อาหารเยอะมากๆ แค่ 4 อย่าง ก้ยังทานไม่หมด ต้องเอากลับไปทานที่ห้อง แต่อาหารอร่อยนะคะ  ราคาก็พอสมควร ตกจานละ 100 กว่าบาท ต้องทำใจละนะ ไปอยู่แบบนั้น แต่ก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ

ส่วนน้องๆที่สั่งอาหารไป เค้าเอาอาหารมาเสริฟให้ที่บ้านตอน 2 ทุ่มกว่าๆ

ช่วงที่สั่งอาหาร ก็ประมาณ 5 โมง - 5 โมงครึ่ง แล้ว ตากล้องของเราเกิดอาการกระสับกระส่าย อยากไปถ่ายพระอาทิตย์ตกดิน มันมีแต่ภูเขานิ ไม่มีดินไม่ตก

ก็เลยเหมือนจะพลาดตอนพระอาทิตย์ตกภูเขา เก็บภาพสวยๆมาได้ประมาณนี้

ภาพนี้แสงสวย

ตอน 6 โมงครึ่ง มีกิจกรรมจุดเทียนถวายพระพรในหลวงด้วยค่ะ เป็นกิจกรรมที่ทางที่พักอยากจัดร่วมกับแขกที่มาพัก .....  ขอในหลวงจงทรงพระเจริญนะคะ

ตอนกลางคืน เราก็ไปเดินเล่นรอบๆ อากาศเริ่มหนาวแล้ว ขอถ่ายภาพกับป้ายที่พักหน่อยเหอะนะ ให้รู้ว่ามาถึงที่นี่แล้ววว

เสร็จแล้ว ก็กลับไปนอนดู สายชล-นางฟ้า ในบ้านพัก ไม่ยอมพลาดเลยจริงๆ ^_^

อากาศ ตอนกลางคืนเย็นค่ะ  ยิ่งตอนเช้ามืด แทบอยากจะซุกอยู่กับผ้าห่ม แต่ก็ต้องตื่น เพราะตอนเช้ามีกิจกรรมใส่บาตรพระด้วยค่ะ

รูปนี้เพิ่งตื่นนอนเลย  >*<   นั่งอยู่หน้าบ้านพักแหละค่ะ ไม่เดินเซตกน้ำไปก็ดีเท่าไหร่แล้วววว

ตื่นมาแล้ว ก็เลยไปทานอาหารเช้ากัน

อาหารเช้าที่นี่ ต้องซื้อคูปอง คนละ 80 บาทค่ะ
อาหารก็มี ข้าวต้มหมู ข้าวต้มไก่  ขนมปัง กาแฟ โอวัลติน ปาท่องโก๋ ประมาณเนี๊ย ไม่ได้มีหลายอย่างให้เลือก แต่ก็อิ่มนะคะ ก็ทานข้าวต้มไปตั้ง 2 ถ้วย อร่อยดีค่ะ ^_^

พอทานอาหารเช้าแล้ว ใส่บาตรแล้ว  ก็ไปเล่นน้ำกันค่ะ อยากเล่นมากๆๆๆเลย
เริ่มต้นด้วย สไลเดอร์  

คือเขาจะให้ทุกคนใส่เสื้อชูชีพ เพราะน้ำลึกมาก น้ำเย็น แต่ก็ไม่เย็นมากจนเกินไปค่ะ  ตื่นเต้นมากๆๆๆ

น้ำมันหนักค่ะ  พาให้ตัวหนักขึ้น ตอนขึ้นมาจากน้ำ หมดแรงเลย

แล้วขอบอกว่า ไม่ได้ทาครีมใดๆมาทั้งสิ้น  แดดจัดๆแบบนี้ ดำแน่ๆ  T_T

เครื่องเล่นอันนี้ก็สนุกค่ะ

ขอโพสต์ท่าถ่ายรูปกันสักหน่อย ^_^

และเราก็ตัดสินใจว่ายน้ำจากเครื่องเล่นกลับที่พักกันค่ะ  ช่างภาพถ่ายภาพตอนกระโดดน้ำมาให้ ตอนนั้น ก็กล้าๆกลัวๆ เลยทำท่าได้แค่แบบนี้อ่ะ >*<

ลอยคอ....

บอกตรงๆว่าว่ายน้ำไม่เป็น และไม่ค่อยได้เจอน้ำ ส่วนใหญ่เวลาจะเล่นอะไรเลยลังเลอยู่บ้าง  แต่คนที่ชอบน้ำอยู่แล้วน่าจะชอบค่ะ

ถ้าใครอยากพายเรือ ก็สามารถพายได้นะคะ

น้องๆอีกบ้านไม่ได้มาเล่นน้ำตอนเช้าด้วย สงสัยแฮ้งค์จากเมื่อคืน เพราะท่าทางจะดึกกัน

พอเล่นน้ำจนจุใจ แล้ว จากนั้น เราก็ไปอาบน้ำ เตรียมตัวเช็คเอ้าท์  ..... คือไม่อยากบอกเลยว่า เห็นสภาพตัวเองในกระจกแล้วแทบจะร้องกรี๊ดดดดด  ดำมากๆ  แดดเผาหน้าจนมืดไปหมด แงๆ T_T

ไม่เป็นไร เครื่องสำอางขั้นเทพ + ฝีมือกล้อง+การถ่ายภาพชั้นเซียน จะต้องช่วยเราได้สิน่า  อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เลยเดินไปถ่ายรูปเล่นซะหน่อย .....
เย้ๆๆๆ  ออกมาไม่ดำแฮะ  อิอิ

น่าสนุกมากเลย ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

ออกจากที่พัก ตอนประมาณน่าจะเที่ยงครึ่ง แล้วเราก็ไปแวะทานอาหารกันที่ตลาดค่ะ เป็นเหมือนแหล่งอาหารเลย สั่งพวกไก่ย่าง ส้มตำ มาทานกัน ไม่มีรูปถ่ายหรอกค่ะ เพราะช่างภาพหิว ^^!

จากนั้น ก็ไปที่ถ้ำพระธาตุค่ะ  ซึ่งต้องเดินขึ้นเขาไปประมาณ 600 ม.  
แต่ยังดีที่มีบันไดตลอดเส้นทางขึ้นค่ะ และมีไม้ไผ่มาช่วยค้ำระหว่างเดินด้วย แต่บางคนก็มองว่ามันเกะกะ

ขอไปเที่ยวด้วยค่ะ

คือไม่คิดเลยนะว่า จะต้องมาเดินขึ้นเขาอีก อุตส่าห์ไม่เดินขึ้น ตอนไปน้ำตกเอราวัณแล้วน๊าาาาา  

แต่พี่ๆ+น้องๆบอกว่า  แม้ทางเดินน้ำตกเอราวัณจะไกลกว่านี้ และไม่มีบันได แต่เดินเหนื่อยน้อยกว่า  อันนี้แม้จะจะมีบันได แต่ขึ้นเขาตลอดทาง เลยเหนื่อยกว่ามาก เดินไป หยุดพักไป

และแล้ว ก็มาถึงสักที  ......  

ข้างบนมีไกด์นำทางให้ด้วย  ข้างในมืดมากๆ แบ่งเป็น 5 ห้องใหญ่ มีสะพานทางเดินอย่างดี เขาทำดีมากๆเลย  

แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป เพราะถ่ายออกมาแล้วมันไม่สวย  คือ หินข้างในสวยมากๆนะ  แต่พอถ่ายแบบใช้แฟลช ความวาว ระยิบระยับของหิน และความสวยงามมันจะหายไปหมดเลย  ต้องไปชมเอง และเก็บภาพความประทับใจเองอ่ะค่ะ

ตอนเดินลง เดินลงมาอย่างง่ายดายมากๆๆๆ  เพราะลาดลงตลอด แป๊บเดียวก็ถึง

เลยถ่ายรูปหมู่ที่ป้ายกันสักหน่อยค่ะ

ลงมาจากถ้ำ ก็ประมาณ 4 โมงเย็นกว่าๆแล้ว ตอนแรกตั้งใจจะไปที่ถ่ายทำสมเด็จพระนเเรศวรด้วย แต่คงไปไม่ทัน ก็เลยกลับ กทม. เลย และก็แวะทานข้าวเย็นกันที่อัมพวาค่ะ  

ภาพนี้ เป็นภาพที่อัมพวา คงเป็นภาพปิดท้ายสำหรับทริปนี้แล้ว

ที่รี่ทำรีวิวนี้ขึ้นมา ก็แค่อยากบอกว่า แม้เรามีเวลาแค่เสาร์ อาทิตย์ ไม่ต้องหยุดยาว ก็สามารถหาเที่ยวพักผ่อนแบบมีกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ในสถานที่สวยๆ โดยที่ไม่ไกลจาก กทม. มาก   เผื่อจะเป็นทางเลือกในการตัดสินใจในการหาที่เที่ยวของเพื่อนๆค่ะ

ขอบคุณเพื่อนๆร่วมทริปทุกๆคน ขอบคุณนุ๊ค-หนิง ผู้เริ่มคิดทริปนี้และชวนพี่ ขอบคุณภาพสวยๆจากพี่ชาติ  ขอบคุณกอล์ฟ และมิน สุดยอดโชวเฟอร์เหยียบมิดแต่ปลอดภัย และขอขอบคุณผู้ที่เข้ามาชมรีวิวนี้ทุกท่านค่ะ

อาจจะพบกันใหม่ในความประทับใจครั้งหน้าค่ะ ^_^

ตามไปเที่ยวด้วยครับ

ขอสอบถามหน่อยค่ะ..วางแผนจะไปเที่ยวต้นเดือนหน้าค่ะ อยากรู้ว่าแพชมพูพันทิพย์สภาพเป็นยังไงค่ะ วิวสวยหรือป่าว พอมีรูปให้ดูอีกหรือป่าวค่ะ

รี่ไม่ได้อยู่บ้านนั้น เลยไม่ได้ถ่ายน่ะค่ะ  
แต่บ้านชมพูพันทิพย์จะอยู่ติดกับทองกวางค่ะ คืออยู่บ้านหลังถัดไปนั่นเอง ถ้าถามว่าสวยมั๊ย วิวจะคล้ายๆกันค่ะ เพราะมีที่นั่งชมวิวเหมือนกัน

บ้านทองกวาวจะอยู่หลังที่ 2 ชมพูพันทิพย์ หลังที่ 3 ถ้าจะให้วิวดีสุดไม่มีอะไรมาขวาง ต้องบ้านหลังที่ 1 แต่ไม่รู้ว่าชื่ออะไรนะคะ  ตอนไปจอง เค้าจองกันแล้วเลยจองหลังนั้นไม่ทันค่ะ

แต่เอารูปจากเฟสน้องที่เค้าพักบ้านนั้นมากให้ชมละกันค่ะ ถ่ายมาเฉพาะข้างใน   (ขออนุญาตน้องกอล์ฟนะคะ)

ข้างหน้าบ้านจะหน้าตาเหมือนๆกันค่ะ

ส่วนข้างใน ด้านล่างจะเป็นที่ว่างๆกว้างๆ เอาไว้สังสรรค์ มีทีวีด้วย  ส่วนชั้นบนจะเป็นที่นอนค่ะ

อันนี้น่าจะเป็นรูปชั้นล่าง ถ่ายจากบันไดลงมา

อันนี้เป็นชั้นบนค่ะ เป็นเหมือนห้องใต้หลังคา

ถ้าไปกันไม่เยอะมาก และอยากสังสรรค์ชมบรรยากาศหน้าบ้าน แนะนำบ้านทองกวาวจะดีกว่าค่ะ เพราะวิวจะดีกว่า เพียงแต่ตอนกลางคืน แมลงจะเยอะไปหน่อยค่ะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ..รูปหน้าบ้านพักของทองกวาวดูกว้างมากเลยค่ะ..แพชมพูพันทิพย์จะกว้างเท่านี้ม่ะเนี้ย..!

คุณ rib_so คะ

หน้าบ้านชมพูพันทิพย์ กว้างพอๆกันกับบ้านทองกวาวค่ะ แต่หันหน้าออกทางเดิน วิวเลยจะไม่ค่อยสวย แต่บ้านทองกวาวจะหันออกแม่น้ำ ตามที่เห็นตามรูป เลยจะวิวดีกว่าค่ะ

ตอนกลางคืน น้องๆบ้านชมพูพันทิพย์ ก็มาสังสรรค์กันที่หน้าบ้านทองกวาวค่ะ

ไปเที่ยวด้วยค่ะ

เห็นบรรยากาศแล้วอยากไปกาญเลยครับ

น่าเที่ยวจังเลยค่ะ น่าสนุก อิอิ

เคยเห็นในงานไทยเที่ยวไทย
เขาบอกว่า ราคานี้ต้องพักในวันธรรมดา
มีแต่คนเขาอยากไปพักในวันหยุด
ก็เลยไม่สนใจ เพราะราคาที่พักที่นี่แอบแพงอ่ะ

คุณ sa_bkk คะ

รี่ไม่แน่ใจเรื่องราคาเหมือนกันค่ะ  แต่ได้มาในราคานี้ทั้งๆที่เป็นช่วงวันหยุดยาวด้วย
น่าจะถือว่าราคาถูกแล้วหรือเปล่าคะ  เพราะบ้าน 1 หลัง 3,500 บาท พักได้หลายๆคน เฉลี่ยก็คนก็ถือว่าไม่แพงเลยนะคะ 500 กว่าบาท  ถ้าเทียบกับวิว บรรยากาศ และเครื่องเล่น  ^_^

เห็นบรรยากาศแล้วเที่ยวน่าสนุึกกันมากเลยครับ

ไปกันหลายคนน่าสนุกค่ะ  เห็นรูปน้ำตกแล้วแอบหนาวๆอ่ะ อากาศช่วงนี้น่านอนห่มผ้ามาก ^^