----ทริปวงกลมเชียงใหม่ ไป แม่ฮ่องสอน----

เคยได้ยินมานานถึงความสวยงาม ของแต่ละสถานที่ในทริปวงกลมอันลือชื่อทริปนี้
ประกอบกับเพื่อนแต่งงานที่จังหวัดกำแพงเพชรพอดี ก็เลยคิดกันว่า ไหน ๆ ไปจะค่อนเหนืออยู่แระ ลุยต่อกันอีกหน่อยจะเป็นไร

ปฎิบัติการค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งในBPด้วย จึงเริ่มขึ้น.....

เริ่มต้นกันที่แผนที่กันก่อนเลย มี๊ไม่เคยขับไปเหนือไกลเกินกำแพงเพชร หรือพิษณุโลกมาก่อน
ถึงจะมี GPS ก็เถอะนะ ขอ Print เจ้านี้ติดรถไว้ก่อน พออุ่นใจ
(ขอขอบคุณรูปจากเจ้าของที่เจอในอากู๋ด้วยนะคะ -/\- )

เส้นทางที่ 2 ชีวิตกับ1 คันคู่ใจ จะไปตะลุยกันจร้า!!

---Map---

ไปแอ่วเจียงรายด้วยคน

เริ่มจากคุณเพื่อนจัดงานแต่งงานคืนวันที่ 24 พ.ย. ก็เลยออกเดินทาง
จากกทม.วันที่ 24 ตอนสายๆหน่อย

ที่แรกที่ได้ไปแวะหาอะไรรองท้องกัน คือร้านนี้ "ร้านกุ้งเผาทองชุบ"
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่จ.สิงห์บุรี อยู่ในวัดตราชู ติดกับถนนสายเอเชีย
สังเกตุทางด้านซ้าย หาง่าย หรือจะใช้ GPS ระบุพิกัดวัดตราชูก็ตามสะดวก

รอชมรีวิวสวยๆด้วยคนนะค่ะ

จริง ๆ แล้ว ร้านต้องอยู่ทางด้านใต้ป้ายที่เห็น แต่เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วม
ป้าเจ้าของร้านบอกว่า ร้านด้านล่างติดริมน้ำโดนผลกระทบไปด้วยไม่ใช่น้อย
ยังไม่ได้ทำความสะอาด เลยต้องย้ายมาขายทีตึกด้านขวาแทน

ร้านนี้เค้าโด่งดังเรื่องกุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่บิ๊กบึ้ม มันบนหัวกุ้งเยิ้ม ๆ น้ำจิ้มอร่อย
ส่วนอาหารชนิดอื่นรสชาดดีมากไม่แพ้กัน พวกปลาคัง ปลาม้า ก็สดดี

เราเพิ่งเคยไปกันครั้งแรก เลยสั่งมาลองสะหลายอย่าง เต็มโต๊ะเลยทีเดียว
แต่ขอบอกว่า 2 คนนะ แต่หมด... ไม่มีเหลือให้ได้ทิ้ง 555


คุณตระเวนเที่ยว  -  ตามมาเลยจร้า

ที่นี่มีขนมไทยไว้ให้ซื้อกินตอนกลับด้วยนะจ๊ะ หน้าตาน่าทานทีเดียว
ก็เลยลองรวม ๆ หลายอย่างมา 1 กล่อง ก็แหม .. รักพี่เสียดายน้องนินา

หลังจากไปงานแต่งงานเสร็จ นอนพักกันที่กำแพงเพชร 1 คืน
เช้าวันที่ 25 พ.ย. เราก็ออกเดินทางไปเชียงใหม่กันเจ้า

ที่แรกที่แวะ วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อยู่ในอ.เมือง จ. ลำพูน

นู๋หวานซ่าแสบ - อาจจะช้าบ้างนิดหน่อยนะคะ มือใหม่หัดเที่ยว หัดโพส 555

พระประธานด้านใน สวยงามมากมายคะ

ไฮไลท์ของที่นี่คะ
พระธาตุหริภุญชัย  มาพร้อมกับมุมมหาชนคะ

ไหว้พระเสร็จ เราก็มุ่งหน้าสู่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่กันคะ

คนข้าง ๆ ก็เริ่มบ่นว่าหิว...  ก็เลยพาไปร้านนี้คะ

"ข้าวซอยเสมอใจ"  ตั้งอยู่ติดกับวัดฟ้าฮ่าม จอดรถในวัดได้เลยคะ
แล้วเดินมาที่ร้านเอาสะดวกกว่า
แล้วขากลับก็ช่วยกันบริจาคเงินบำรุงวัดโดยใส่กล่องด้านหน้าที่เค้าจัดเตรียมไว้ ตามแต่กำลังศรัทธาคะ

ขอตามไปเที่ยวด้วยคน........ขอบคุณครับ

อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ก็ต้องนี่เลยคะ ข้าวซอย
เลือกกันตามใจว่าชอบกิน ไก่ หมู เนื้อ...
ก็เลยจัดข้าวซอยไก่มา 1 ชาม หมูอีก 2 ชาม พร้อมหมูสะเต๊ะ

(คหสต.) มี๊ว่าอร่อยนะ น้ำเข้มข้นดี ส่วนหมูสะเต๊ะ ธรรมดามากกว่า

ถ้าไปเชียงใหม่คราวหน้า รับรองว่าต้องไปกินอีกแน่ ๆ คะ ^^

คุณ low batt  -  เข้ามานั่งด้านหน้าชิดๆได้เลย คนยังไม่เยอะคะ 55

เนื่องด้วยมี๊เป็นคนปีจอ  เคยดูหมอลักษณ์ตั้งกะต้นปีแระ เค้าบอกว่า
ถ้าเกิดปีจอ ต้องมาสักการะพระธาตุที่วัดเกตุการามให้ได้
เราก็นะ ไหนๆ มาถึงเชียงใหม่ละ ขอไปสักครั้งเพื่อขอพรเป็นศิริมงคล
แก่ตัวเองและ การเดินทางในครั้งนี้

สัญลักษณ์ประจำปีจอ ตั้งเด่นอยู่ด้านหน้าพระธาตุเลยคะ

ของไหว้ที่ทางวัดจัดไว้ให้ น่ารักมากเลยคะ
เป็นดอกไม้ ธูป ข้าวตอก เทียนอยู่ในถาดดินเผาเล็กๆ
แล้วเราก็สามารถเลือกรูปปั้นเซรามิกตามปีเกิดได้

เราสามารถพบเห็นรูปปั้นสุนัขได้ทั่วบริเวณวัดเลยคะ

พระประธานภายในวัดคะ เป็นศิลปะแบบทางเหนือ
สวยแปลกตาดี

ด้านในยังมีพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงของโบราณ เกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรมต่าง ๆ อาทิ ถ้วยชาม ผ้าทอโบราณ
มาที่วัดนี้แล้วอย่าลืมแวะไปชมนะคะ เพราะบางอย่าง หาดูที่ไหนไม่ได้แล้ว

โดยส่วนตัวชอบอันนี้มากเลยคะ
"ธงชาติไทยสมัยก่อน"
เคยเห็นแต่ในหนังสือคะ เพิ่งจะได้เห็นผืนจริงก็ที่นี่

แบบเรียนสมัยก่อน  มีใครทันบ้างยกมือขึ้น!!!

ไหว้พระเสร็จ ก็มุ่งหน้าสู่ที่พักที่ได้จองไว้คะ

โรงแรม "B2 Green"
ได้ข้อมูลมาจากใน BP นี่ละคะ เห็นเค้ารีวิวกัน สวยดี ราคาไม่แรง 590 บาท
แถมเป็นตึกที่เพิ่งสร้างไม่นาน ยังใหม่อยู่คะ สถานที่ตั้งก็อยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่เลยทีเดียว
อยู่ซอยตรงข้ามกับกาดสวนแก้ว แต่ขอติหน่อยเหอะคะ  ถ้าคนไม่รู้ทางนี่หาซอยเข้าไม่เจอ ในGPS ก็ไม่มีเพราะใหม่เกิน
ป้ายบอกทางน้อยไปนิด แถมตัวก็กระจิดริด เล่นเอาหลงไป 3 รอบคะ 555
อีกอย่างวันที่ไป รถติดมหาโหดมาก นึกว่าอยู่สุขุมวิทหรือทองหล่อสะอีก เฮ้อ....

เข้ามาด้านในกันคะ
ที่นี่เค้าตกแต่งสไตล์ลอฟท์นิดๆ โมเดิร์นหน่อยๆ
แต่มีสีเขียวแซมทุกพื้นที่ ตามชื่อของโรงแรมคะ
ทำให้ดูดี ไม่แข็งจนเกินไปคะ

เราพักที่นี่ทั้งขามาถึงเชียงใหม่ และขากลับที่วนมาจากแม่ฮ่องสอนแล้ว

แอบชอบโดยส่วนตัวคะ แต่ที่นี่ไม่มีอาหารเช้านะ
เรื่องอาหารไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราคะ เพราะมื่อแรกกว่าจะกินกันก็โน่น...
เทียงทุกวันเลยคะ ไม่รู้ซิ เช้าๆท้องมันยังไม่รับไงไม่รู้

ด้านในห้อง กุญแจห้องเป็นคีย์การ์ด ดูปลอดภัยแน่นหนาดีคะ
ด้านซ้ายจะเป็นตู้เสื้อผ้า ขวาเป็นห้องน้ำ
ด้านหน้าห้องน้ำเป็นกระจกบานเต็มตัว คุณผู้หญิงไปคงชอบคะ ใหญ่ดี
พร้อมทีวีแอลซีดี และตู้เย็นสีเขียว!!

เตียงนอนนิ่มสบาย...
ห้องน้ำก็สะอาดดี มีเครื่องทำน้ำอุ่นพร้อมของใช้ครบครัน
ที่สำคัญกระจกบานบะเริ่ม  555  

โรงแรมนี้เอาคะแนนไป 9/10 เลยคะ
ขอหัก 1 คะแนนค่าหลงสักหน่อย

มีที่จอดรถให้ใต้ตึกคะ

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่มีรถส่วนตัวอาจจะลำบากนิดถ้าจะพักที่นี่
เพราะต้องเดินเข้าซอยมาพอสมควรคะ แต่ถ้าไม่หวั่น เดินไปคุยไป
แป๊บเดียวก็ถึงคะ

นอนพักเอาแรง ก็รีบตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปปายกันคะ

ตามแผนที่ เราขับจากเชียงใหม่ ไปทางแม่ริม - แม่แตง เลี้ยวซ้ายไปปาย
ป้ายชัดเจนตลอดทาง ไม่หลงแน่นอนคะ

***สำหรับคุณ ๆ ท่าน ๆ ที่คิดว่าทางคดโค้งขึ้นเขา จะไม่ทำให้เมารถได้
เตือนไว้นิดคะ หากอยากเที่ยวแบบสนุก ไม่ปล่อยโฮกลางทาง
แวะซื้อยาแก้เมารถ จากตัวเมืองเชียงใหม่ กินกันไว้ก่อนจะดีมาก
ที่อื่นเคยไปมาไม่เมาเราไม่รู้ แต่ที่นี่อย่าได้ประมาทเชียวน้าาาาา***

ขับวนขึ้นเขา เลี้ยวไปเลี้ยวมาได้สักพัก ก็เห็นร้านนี้สีขาว
ตั้งเด่นท่ามกลางป่าเขาเขียวขจี เลยแวะพักรถ หากาแฟกินนิดหน่อยคะ

หอคอยสีขาว

ร้านนี้เค้าชื่อ "The Vintage" คะ
มีกาแฟพร้อมเบเกอรี่จำหน่าย รสชาดก็กลาง ๆ คะ
แต่ที่สำคัญ มีมุมสวย ๆ ไว้ให้แอคท่าถ่ายรูปเพียบ

ตามทริปที่ตกลงกันไว้ เราจะวิ่งเส้น 1095 แวะเที่ยวรายทางไปเรื่อย ๆ
จนถึงปายเย็น ๆ หน่อยแล้วค่อยเข้าที่พักคะ

ที่แรกที่แวะกันก็นี่เลยคะ "โป่งเดือดป่าแป๋"
อยู่ที่ประมาณกิโลเมตรที่ 42 คะ เลี้ยวขวาขึ้นไปประมาณ 6 กม.
ทางก็จะวิบากนิดๆ เป็นดินลูกรังแดง เล็กหน่อย ๆ
แป๊บเดียวก็ถึงที่จอดรถ

ที่ทำการกว้างขวาง สะอาดดีคะ จอดรถเสร็จก็เดินลุยตามป้าย ไปทาง
สะพานไม้กันเลย

กว่าจะถึงตัวโป่งเดือด ก็เล่นเอาเหนื่อย 1 หอบใหญ่คะ 555
แต่สองข้างทางที่เดินนี่มีต้นไม้เขียวขจี อุดมสมบูรณ์ดีมากๆ คะ
เลยหายใจสะเต็มปอด.... สะสมออกซิเจนไว้คะ

ถึงตัวน้ำพุร้อนแล้วคะ เดือดปุดๆๆ ให้เห็นตลอด
เค้าบอกว่าเมื่อก่อน เดือดสูงกว่านี้อีกคะ  
ยืนใกล้ๆ นี่ขอบอก ไอร้อนมากระทบหน้าให้รู้สึกกันได้เลยคะ

ด้านในอุทยานยังมีห้องสำหรับแช่น้ำร้อน บ่อแช่ และบ้านพักด้วยคะ

ออกจากโป่งเดือด ไม่ไกล เราก็ไปต่อกันที่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
ซึ่งตั้งอยู่ที่หลักกิโลเมตรประมาณ 65-66 เลี้ยวขึ้นทางลูกรังอีกประมาณ 6 กม.
เราแวะกันที่ จุดชมวิวดอยกิ่วลม

อากาศกำลังเย็นสบาย หน้าที่ทำการติดไว้ 12 องศา ในเวลา 12.30 น.
มี๊ต้องไปดึงเสื้อกันหนาวในรถมาใส่เลยคะ

สถานที่สวยมากกกก เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยทีเดียว เสียดายเรามากันตอนเที่ยง หมอกเลยหายไปหมดแล้ว

มาแอบเก็บข้อมูลค่ะ

ตามชมครับ

คุณขอบคุณกันและกัน -  หวังไว้ว่าจะเป็นประโยชน์คะ ถึงจะนอกเรื่องนอกทางไปบ้าง 55
คุณCDNew - ตามมาเลยจร้า

เราเดินทางกันต่อ ผ่านทางโค้งไปโค้งมา
จนคนข้าง ๆ ถึงกับมึนคะ
บ่นกระปอดกระแปดว่าชักอยากจะเอากาแฟเมื่อเช้าที่กินเข้าไปออกสะแระ ฮา..

แล้วเราก็มาถึง "สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย"
ตั้งอยู่ที่หลักกม.ประมาณ 88 ก่อนเข้าสู่ปายคะ

สะพานนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 คะ
กองทัพญี่ปุ่นสร้างขึ้นเพื่อใช้ลำเลียงอาวุธข้ามแม่น้ำปายไปพม่า
ปัจจุบันสะพานนี้ก็อาจจะมีทรุดโทรมไปบ้าง ถ้าใครแวะไปถ่ายรูป
ก็ระวังพื้นไม้ไว้บ้างคะ เด๋วถ่าย ๆ ไปแล้วร่วงผลุบลงไป
ตากล้องอาจตกใจได้คะ

ด้านฝั่งตรงข้ามสะพาน มีร้านกาแฟมาเปิดใหญ่พอดูคะ
แถมด้วยร้านขายของที่ระลึกของเมืองปาย กางร่มขายกันสองข้างถนน

ป้ายติดน่ารัก ๆ

หลักกิโลเมตร กระเป๋าใส่เหรียญ

และแล้ว... ยังไม่ทันถึงตัวเมืองปาย
เราก็ได้เสียสตางค์กันแล้วคะ

สินค้ายอดฮิต มาแล้วไม่ซื้อ ก็จะเหมือนกันมาไม่ถึง!!!

เสื้อปาย มีหลายสีหลายแบบ เลยสอยมาเหมือนกันสะ 1 คู่

สบายกระเป๋าแล้ว...

เรามาต่อกันที่เที่ยวต่อไป ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 88
"กองแลน" หรือที่เค้าเรียกกันเก๋ ๆ ว่า ปายแคนย่อน

ที่จอดรถกว้างขวางดีคะ

ลักษณะของกองแลน คือ เป็นเหมือนพื้นดินที่ถูกกัดเซาะ แล้วยุบตัวลง
คล้ายหน้าผา

ขอบอกนะคะที่เห็นในรูปเรานึกว่าเป็นช่องดิน  ด้านข้างคงไม่สูงมาก
เห็นในรีวิวของคนอื่นเค้าเดินไป-มาบนกองแลนกัน

พอเห็นของจริงถึงกับผงะคะ  สูงมากกกกกก โห!! แล้วคนก่อน ๆ เค้ากล้า
เดินไปกันได้ยังไง

ขอเตือนเลยคะ คนที่ไป กรุณาอย่าเดินไปเลย เสี่ยงมากมาย
เพราะมันไม่มีอะไรใดๆ กั้นทั้งสิ้น
ซ้ายเหว ขวาเหว สูงมากคะ เด๋วจะเจ็บตัวสะเปล่าๆ

เดินกันพอเหงื่อออก ก็ว่าจะไปต่อกันที่สถานที่ยอดฮิตคะ
"Coffee In Love" แต่พอเห็นคนแล้ว ถอยดีกว่า ไม่เอาาาา ดีกว่า

ขับรถผ่าน แล้วก็เสียดาย อืม.. ไว้คราวหน้าค่อยมาช่วงคนน้อย ๆ

ก็เลยตั้งใจว่าจะไปที่ ที่พักที่จองไว้ก่อนดีกว่า
เดี๋ยวจะมืดค่ำหาไม่เจอสะ
เพราะใน GPS ของเรามันไม่มีคะ
(คนข้าง ๆ ก็เปรย ๆ ขึ้นมาว่า ทำไมมี๊ จองที่ไหนทีไร GPS ก็หาไม่เจอทุกทีเลยน๊อ??)

เราก็ขับตามแผนที่ ที่ปริ้นท์มาจากเวปของที่พัก
หาไม่ยากเท่าไหร่คะ มีป้ายบอกทางให้ แต่เล็กกระจิ๋ว
ถ้ามืดแล้วหาทางไปนี่เลิกเลิยคะ แนะนำว่าถามชาวบ้านเอาดีกว่า

ถึงแล้วคะ "Love Pai Home"

บริเวณหน้าล็อบบี้
แถมตอนเช้าเราใช้พื้นที่ตรงนี้ทานอาหารเช้ากัน
ร่มรื่น วิวดีทีเดียว

สำหรับบ้านพัก มีทั้งหมด 6 หลัง 6 ห้อง
แต่ละห้องจะตกแต่งโดยมีสไตล์เป็นของตัวเอง ไม่ซ้ำกัน

โดยบ้านหลังเล็ก ๆ สีเขียวครึ้มจากต้นตีนตุ๊กแก 4 หลังนี้
เจ้าของออกแบบสีด้านในตามลักษณะธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

ส่วนทางด้านขวาของรีสอร์ท เป็นบ้านทรงโมเดิร์นอีก 2 หลัง สอบถามได้ความว่า
เพิ่งสร้างทีหลัง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
โดยมีพื้นฐานจากสีขาว และสีดำคะ

อันนี้แบบบ้านที่เราพักคะ --FIRE--

ส่วนอันนี้แบบบ้านสีขาว และสีดำคะ

หลังจะใหญ่กว่า สวยกว่า และแพงกว่าคะ 555+

ยังไม่ทันได้เข้าห้องพัก ก็ขอถ่ายรูปบรรยากาศด้านหน้าให้ชมกันสะหน่อย

วิวสวย ด้านหน้าเป็นภูเขา เห็นทุ่งนากว้าง ๆ โล่ง ๆ สบายตาดีคะ

ด้านหน้าห้อง มีเก้าอี้ไว้ให้นั่งเล่น แนว ๆ 2 ตัวคะ

มาดูด้านในกันบ้าง

ขึ้นชื่อว่าเป็นห้อง Fire ตัวห้องเลยตกแต่งเป็นโทนสีแดงคะ

ภายในห้องมีที่นอน โต๊ะวางของ โคมไฟตกแต่งนิดหน่อย
ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวีนะคะ มีพัดลมน้อย ๆ สีแดงไว้ให้ 1 ตัว

แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะร้อนคะ กลางคืนอากาศเย็นมาก แต่เราก็เปิดพัดลม
เพื่อให้อากาศได้ถ่ายเท  เข้าข่ายที่ว่า เปิดพัดลม ห่มผ้า(หนาๆ)นอน

(คหสต.) ด้วยความที่คงใช้งานมาพอสมควร และคนคงมาพักบ่อย
ปูนตัวห้องอาจจะดูเก่าไป ถ้าปรับปรุงทาสีใหม่ คงจะดีขึ้นกว่านี้ โดยเฉพาะห้องน้ำ

อีกเรื่องคือ กระจกหน้าต่างทั้งในห้องน้ำและตรงหัวนอนมันล็อกไม่ได้
พอกลางคืนเสียงก็เงียบมาก จิ้งเหลนเดิน ใบไม้ร่วงนี่ได้ยินตลอด
เราเลยแอบผวากันสองคนคะ ..

เวลากลางคืน เปิดไฟแล้ว สวยแบบนี้คะ

รอครับ รอได้อีก หุหุ

(คหสต.) ที่นี่เอาไป 7/10 คะ

หัก 3 คะแนนสำหรับค่าหลงและป้ายไม่ชัดเจน + ค่าเก่า + หน้าต่างล็อกไม่ได้

ที่นี่แนะนำสำหรับคนมีรถยนต์ส่วนตัวนะคะ มอเตอร์ไซค์หรือเดิน
ไม่แนะนำคะ ถึงจะมาหลายคนก็เถอะ
เพราะขากลับจากถนนคนเดินปาย ทางจะเปลี่ยวมาก มืดและไกลพอควร

วิวตอนกลางคืนอีกสักรูป

เก็บของเสร็จ ก็ไปหาอะไรกินกันคะ

เราใช้วิธีจอดรถในวัด แล้วเดินมาตรงสี่แยกปายหนาว

เหลียวซ้ายและขวา กินไรดีน้อ???  
ก็มาเจอกับป้ายนี้คะ "ร้านน้องเบียร์"

ตั้งอยู่ตรงสี่แยกเลยคะ แต่ตอนเราไปถึงประมาณ 5 โมงเย็น เค้ายังไม่ขาย
บอกว่าขาย 5 โมงครึ่ง เราเลยเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น
กว่าจะขายได้จริง ๆ ปาไป 6 โมงคะ สงสัยจะเป็นยุทธวิธีเพิ่มความหิว
เพื่อให้ได้รสชาดอาหารที่อร่อยสุดๆ คะ 555+

เพิ่งมาอ่านเจอตอนหลังว่า เป็นร้านที่รสชาดใช้ได้ มีคนรีวิวกันเยอะ
ราคาไม่แพง อ้าวววว เข้าถูกร้านแล้วนินาเรา

(ขออภัยภาพไม่ชัด เพราะไม่ได้พกกล้องไป เอามือถือถ่าย)

อาหารที่นี่จะเป็นเหมือนข้าวราดแกงคะ ต้องซื้อคูปอง

ดูจากรูปแล้วกันว่าน่าทานขนาดไหน ^^

มีที่ให้ลวกช้อนด้วยน้าาา

นี่เป็นของที่เราสั่งมากินคะ ขอบอกว่าราคาไม่แพง รสชาดอร่อยสมคำร่ำลือ

ที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นน้ำพริกอ่องนี่ละ เด็ด!!

กินอิ่มเสร็จ ก็ถึงเวลาเดินย่อย

"ถนนคนเดินปาย.."
โดยเค้าจะปิดการจราจรบริเวณถนนชัยสงคราม ตรงท่ารถปาย
ให้เป็นถนนสำหรับขายสินค้า โดยมีทั้งสินค้าจากท้องถิ่น
สินค้าที่ระลึก และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะเสื้อปาย เห็นขายกันเยอะมาก

ที่นี่เปิดตั้งร้านกันประมาณ 6 โมงเย็นสักประมาณ 5 ทุ่มก็ปิดแล้วคะ

แต่ไม่ได้มีแค่เสื้อคนนะคะ เสื้อน้องหมาก็มีหลายร้านเหมือนกัน

แล้วน้องหมาน้องแมวที่นี่เค้าใส่เสื้อเก๋ ๆ กันทุกตัวคะ

สอบถามได้ความว่า ก็แหม...คนยังหนาวเลยนินา น้องหมาก็หนาวเป็นนะ ฮา..

ร้านยอดฮิตอีกที่คะ สำหรับคนที่ชอบสะสมโปสการ์ด

"ร้านมิตรไทย"

"รถประถม 1"

ขายของเล่นที่เห็นแล้วนึกถึงสมัยเรียนป.1 จริง ๆ คะ

ร้านนี้คงถูกใจสาว ๆ ราคาก็ถูกด้วยนะ

ร้านนี้เห็นคนรุมกันเยอะ ท่าทางจะอร่อย

ร้านนี้เห็นแล้วต้องรีบกระชากแขนคนข้าง ๆ ให้เดินตามทันที 55

ก็แหม น่ารักสะขนาดนี้ มีทั้งผ้าพันคอ หมวกเก๋ ๆ

แต่นี่เลยคะที่อดใจไม่ไหว ซื้อมา 2 อัน ที่ให้ความอบอุ่นกับหูเวลาหนาว...

ตอนที่เราเดิน อากาศเย็นมากนะ แต่คนนี้เค้าไม่หวั่นคะ

ถอดเสื้อเหลือแต่กางเกง ยืนแข็ง ๆ นิ่ง ๆ ให้คนได้เขียนข้อความลงบนตัว

แกยืนนิ่งสะจนคิดว่าแกนิ่ง หรือแกแข็งตายไปแล้ว......

นี่เลยคะ ขนมยอดฮิต ไม่ได้ลองกิน ก็จะเหมือนมาไม่ถึงปาย

"ข้าวปุกงาดำ"

สอบถามจากพี่คนขายได้ความว่า เค้าใช้ข้าวเหนียวดำมานึ่งแล้วผสมกับงาดำ
ตีเป็นแผ่น ๆ ใส่ใบตองเตรียมไว้

พอลูกค้ามาซื้อ ก็จะนำข้าวปุกไปปิ้งไฟอ่อน ๆ ให้สุก พอพองตัว
นำขึ้นมาใส่ใบตอง แล้วก็โรยด้วยงาดำ น้ำตาล ราดนมข้นอีกรอบ เป็นอันเสร็จ

ทั้งหมดที่กล่าวมานี่ราคา 10 บาทเท่านั้นคะ

ขอบอกว่า อร่อยง่ะ ยิ่งกินตอนร้อน ๆ อากาศหนาว ๆ แหม!! มันเข้ากันดีจัง

แล้วก็ต้องไปสะดุดตากับป้ายร้านนี้เลย

ร้านนี้เค้าสเก็ตภาพไม่เหมือนคะ  ถ้าใครอยากได้ภาพเหมือนข้ามไปร้านอื่นได้เลย  55

ขอจบรีวิวภาคนี้ ด้วยภาพนี้เลยคะ

มาทางภาคเหนือก็ต้องนี่.. โคมยี่เป็ง ราคาอันละ 20 บาทเท่านั้น

ติดตามกันต่อได้ในภาค 2
เกริ่นให้พออยาก....
จะพาไปเที่ยวบ่อโคลน นอนปางอุ๋ง ดูดอกบัวตองแม่อูคอ ^^

ไปด้วยครับ

คุณบอนดอนเมือง - มาเลยคร้า

ตามไปเม้าท์กันต่อที่กระทู้นี้เลยนะคะ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11442225/E11442225.html

สวยอ่ะ ไปมาเหมือนกันครับ

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11429390/E11429390.html

เข้ามาเกาะท้ายรถเที่ยวด้วยคน

คุณโกะกะซี - ตามไปดูรีวิวมาแล้ว รูปที่ปางอุ๋งสวยมากมาย อยากถ่ายได้อย่างนี้บ้างจังคะ ถามหน่อยจิคะ ใช้กล้องอะไร+เลนส์อะไรหรอ

คุณอ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ - เข้ามานั่งด้านในได้เลยคะ คันนี้คนไม่เยอะ รถไม่แน่น 55

ตามไปเที่ยวต่อค่ะ

ตามมาแอ่วเมืองเหนือด้วยคนนะคะ

ห้องพักที่ปายน่าพักจังค่ะ เห็นแล้วอยากไปปายบ้างงง

คุณสาวหน้าใส - ลุยต่ออีกกระทู้เลยคะ จะจบแล้ววว
คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน  - แอบเสียดายคะ พอกลับมาจาปาย ปายก็หนาวกว่าเดิม 55+