ความเดิมตอนที่แล้ว....

เรานอนกันที่ "Love Pai Home"
ตื่นมาตอน 6 โมงเช้า แทบไม่อยากจะลุกจากที่นอน หนาว!!

ลุกขึ้นได้ก็หยิบกล้องเดินออกจากห้อง อะโห หมอกเต็มเลยคะ
ไม่ต้องไปดูที่ไหน นั่งดูกันหน้าห้องนี่แหละคะ

ถ่ายรูปได้สักแป๊บ ก็โงนเงนเข้าห้อง นอนต่อคะ

ไม่ไหว ๆ ถ้าให้อาบน้ำตอนนี้สงสัยไข้จะกิน เลยหลับต่อไปตื่นเอาแปดโมงกว่าคะ

หมอกเริ่มจางลงบ้าง กลั้นใจอาบน้ำเพราะกลัวว่าจะไปเที่ยวต่อที่อื่นไม่ทัน

เก็บของเรียบร้อยก็ไปทานอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้

ตกใจกับหน้าตาและปริมาณอาหารมากคะ มันใหญ่มาก คุ้มจริง ๆ
มีกาแฟและชาเตรียมไว้ให้ ไปชงกินกันเองได้ตามสบายคะ

ต้องลาจากปาย เพื่อไปต่อกันที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน

เราต้องไปรับใบจองที่พักที่ถ.ขุนลุมประพาส ศูนย์ศิลปาชีพ จ.แม่ฮ่องสอน
ระยะทางรวมประมาณ 110 กม. (กิโลแม้ว)

ที่บอกว่ากิโลแม้วเนี่ยก็เพราะว่า ด้วยความที่ไม่เคยไป
เห็นว่า 110 กม.ก็คงแป๊บเดียวถึง
แต่ที่ไหนได้ ตลอดทาง เด๋วเลี้ยวซ้าย หักศอกขวา ขึ้นเขา ลงเนินตลอดเวลา
จากที่คิดว่าไม่กี่ชม. ก็กลายเป็นหลายชม. เหมือนที่เวลาชาวเขาชาวแม้ว
เค้าเดินข้ามเขากันเลยทีเดียว ฮา...

ขับกันมาได้ประมาณ 45 กม. ก็เจอที่ให้ได้พักคนและพักรถ

"จุดชมวิวปางมะผ้า"

พักรถให้หายเหนื่อยสะหน่อย เพราะใส่เกียร์ 2 มาตลอดทาง

วิวจากจุดชมวิว...

ตรงบริเวณนี้มีห้องน้ำไว้ให้เข้า

มีร้านค้าขายสินค้าพื้นบ้านของชาวเขาแถวนี้

จากนั้นก็รีบขับไปศูนย์ศิลปาชีพ

แล้ววกกลับทางเดิมเพื่อไปภูโคลน ซึ่งอยู่ทางเดียวกับปางอุ๋งคะ

ภายในก็จะมีห้องไว้สำหรับพอกหน้า พอกตัวด้วยโคลน

คนข้าง ๆ เลยจัดพอกหน้าไป 1 ชุดคะ ต้องใช้เวลาให้โคลนเซ็ทตัวประมาณ 20 นาที

ระหว่างรอให้โคลนแห้ง มี๊ก็เลยชวนมานั่งแช่เท้าในน้ำแร่ร้อนคะ
ย้ำว่าร้อนมากจริง ๆ

พนักงานบอกว่า เวลาจะแช่ เราต้องค่อย ๆ หย่อนเท้าลง
โดยไม่ให้น้ำกระเพื่อม  ไม่อย่างงั้น คุณจะร้อนมาก ...

เราจึงค่อย ๆ หย่อนเท้าลงไป กว่าจะหย่อนได้หมดเท้าก็ใช้เวลาทำใจอยู่นาน
(ก็มันเหมือนเอาเท้าแหย่ลงไปในหม้อต้มน้ำเลยนินา)

แถมห้ามขยับ เพราะถ้าขยับนิดนี่ จะรู้สึกร้อนสุดๆ ไปเลยคะ
จริงดังเค้าว่า

ออกจากภูโคลน ก็มุ่งหน้าไปหาอะไรเด็ด ๆ กินกันเพื่อเป็นมื้อเย็นที่นี่คะ

"บ้านรักไทย"

ที่นี่เป็นหมู่บ้านของชาวจีนยูนนาน อดีตทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) “ก๊กมินตั๊ง”

บ้านรักไทยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล กว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่นี้
เหมาะกับการปลูกชา

ทิวทัศน์ของหมู่บ้านจะมีอ่างเก็บน้ำอยู่ตรงกลาง โอบล้อมไปด้วยทิวเขา และบ้านเรือนแบบชาวจีน เหมือนหลุดไปอยู่ในหนังจีนโบราณเลยคะ นึกไปว่าตัวเองเป็นนางพญางูขาวสะอีก 55

ตัวบ้านจะทำจากดินปั้นขึ้นรูปแล้วทาสีหลังคามุงด้วยใบตองตึง มีเสน่ห์มาก ๆ

ตามร้านมีสินค้าต่าง ๆ ขาย

สินค้าขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือชา มีอุปกรณ์การชงขายควบคู่ไปด้วย

อันนี้เป็นพวกบ๊วย ลูกท้อ มะยมหยี ลูกพรุน ทั้งเชื่อม แช่อิ่ม
มีให้เลือกหลายชนิดตามความชอบ

สนนราคาก็ขีดละ 25-35 บาทแล้วแต่ชนิด

เราเลยซื้อไปสะหลายอย่าง เอาไว้กันขากลับ กินเพลิน ๆ ขับรถเพลิน ๆ

แล้วก็มาถึงทีเด็ดของที่นี่คะ

"ร้านลีไวน์รักไทย"

ร้านหาง่าย ตั้งอยู่ทางเข้าหมู่บ้านเลยคะ

สำหรับอาหารที่เราจะมากินกันวันนี้ก็คือ ขาหมู+หมั่นโถวยูนนาน

ระหว่างรอก็จะมีพนักงานนำชามาให้ชิมฟรีคะ แต่ถ้าชอบชาชนิดไหน
สามารถสั่งเพิ่มได้ เหยือกละ 20 บาทเท่านั้นคะ

(คหสต.) ที่ให้ชิมมาทั้งหมด มี๊ชอบชาโสมอู่หลงมากที่สุด มันหอม ๆ นวล ๆ
บอกไม่ถูก ส่วนอีกคนชอบชาน้ำค้างคะ เลยสั่งต่างหากมาอีก 2 เหยือก

แล้วอาหารก็มาคะ ...

ตะลึงกับชามขาหมูคะ เพราะมันใหญ่มากกกกก มองหน้ากันแล้วหัวเราะคะ จะกินหมดเร๊อะ!!
แถมสั่งผัดเต้าซี่กับไก่ดำตุ๋นยาจีนมาอีก

หลังจากกินหมั่นโถวขอบอกว่าอร่อยคะ  แป้งนุ่มกำลังดี ส่วนขาหมูก็อร่อย
อร่อยแบบรสชาดคนจีนยูนนานคะ คือยังไงดีละ
ขาหมูบ้านเราจะออกหวาน ๆ แต่ขาหมูของจีนยูนนานเค้าจะมันๆเค็มๆ
ทานกับน้ำจิ้มที่ให้มาเข้ากันได้ดีทีเดียวคะ

สรุปแล้ว ทานไม่หมดสักอย่าง เลยให้เค้าห่อให้ กะว่าจะไปทานเล่นกันที่ปางอุ๋งคืนนี้

ถ้าแน่จริงต้องทานหมดนะครับ...อิอิ

ตามไปเที่ยวต่อครับบบ ขาหมูน่าทานมากๆ

ทีนี้ก็มุ่งหน้าไปบ้านรวมไทย หรือที่เรารู้จักกันว่า "ปางอุ๋ง"

หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)”
เป็นโครงการในพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ดังนั้นมี๊จะขออธิบายก่อนนิดนึงสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวและพักที่นี่นะคะ

1. สำหรับคนที่ไปเที่ยวแต่ไม่พัก แล้วนำรถมาเองจะสามารถเข้าชมได้
ในเวลา 09.00-18.00น.
โดยขับรถขึ้นไปได้เลยคะ จะมีแค่เจ้าหน้าที่เก้บค่าเข้าอุทยาน

2. สำหรับคนที่ไปเที่ยวแต่ไม่ได้พักแล้วอยากสัมผัสบรรกาศสุดยอดของที่นี่
คือช่วงเช้าและช่วงเย็น
สามารถนำรถไปจอดที่โรงเรียนบ้านนาป่าแปก
แล้วนั่งรถโดยสารขึ้นไป ในเวลา 04.00-18.00 น. ค่าโดยสาร 50 บาท
รถออกทุก 20 นาที

3. สำหรับคนที่ต้องการจะพักที่นี่ จะต้องจองล่วงหน้าก่อนโดยโทรจองได้ที่
      โทรศัพท์ 053-611-244 มือถือ 085-618-3303
      โทรสาร 053-611-649, 053-611-690
แล้วโอนค่าเข้าพักพร้อมแฟกซ์ยืนยันใบเสร็จไปให้

ถึงวันที่จะไปเที่ยวก็แวะไปรับใบจองที่ที่ทำการศุนย์ศิลปาชีพ ถนนขุนลุมประพาส
ตรงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน

สำหรับเราได้พักกันที่โฮมสเตย์ชื่อ ยุ้ยโฮมสเตย์

อ้อ!! สำหรับคนที่คิดไว้ว่าจะพักรีสอร์ทหรู ๆ ที่พักมีน้ำอุ่น มีแอร์นี่หายห่วงเลยนะคะ
ไม่มีแน่นอน 55 เพราะที่นี่เค้าคงความเป็นธรรมชาติไว้สุด ๆ คะ

เรารีบตื่นกันแต่เช้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้นและหมอกระเรี่ยน้ำ เลยได้ออกมา
เป็นภาพนี้คะ

ปล. ต้องขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายบ้านพักให้ดู แบตหมดคะ

คุณบูสท์มาตอนดึก - ไม่หมดจริง ๆ คะ นี่ขนาดว่าทานเก่งแล้วนะเนี่ย
คุณสายลมแห่งวิงค์ - ตามมาเลยคะ น่าทานแถมอร่อยด้วยน้า ทานคู่ชาร้อนๆนี่สุดๆคะ

ตื่นเช้ามาประมาณตี 4 ไม่ได้ฟิตแต่ประการใด แต่เป็นเพราะคนที่นี่ตื่นเช้าคะ

เค้าก็ทำโน่นนี่ตามประสา ไอ้เราก็เลยต้องตื่นตามคะ

ขอบอกว่าหนาวสุดๆ นี่ขนาดใส่ถุงเท้า ถุงมือ กางเกงขายาว เสื้อโค๊ทยังสั่นเลยคะ

สำหรับวิวปางอุ๋งนั้น บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่อ่างเก็บน้ำ มีภูเขาโอบล้อม สวยมากมายคะ
ไม่ผิดหวังจริง ๆ ที่นอนที่นี่ (ถึงแม่จะไม่ได้อาบน้ำก็เหอะ)

ถามพนักงานประจำอุทยาน เค้าบอกว่าตอน4ทุ่มเค้าดูแล้วประมาณสัก 7-8 องศา

ดึกๆไปคงจะหนาวกว่านั้น

แต่วิวนี่สวยไม่รู้ลืมจริง ๆ คะ ส่วนตัวทั้งทริปประทับใจที่นี่ที่สุดแล้วคะ

แล้วเราได้ก็เลยลงแพเพื่อไปสัมผัสหมอกใกล้ ๆ

ค่าล่องแพก็ 150 บาท ใช้เวลาไปกลับประมาณ 30 นาที

หันหน้ามาดูคนพาล่องแพ อ้าว.. พี่ยุ้ยนี่นา เจ้าของโฮมสเตย์เมื่อคืนคะ
แลยแซวแกไปว่า แหม... เด๋วก็รวยแย่ แบ่ง ๆ คนอื่นเค้าบ้าง 555

ปางอุ๋งสวยครับ ไปมาเหมือนกัน

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11429390/E11429390.html

ที่ที่เราจะล่องไป ก็นี่เลยคะ

ไปดูหงส์ขาวพระราชทานคู่นี้.....

ส่วนหงส์ดำเค้าอยู่ด้านในลึกๆคะ เสียดายไม่มีโอกาสได้เห็น

ด้านนี้เป็นสถานที่สำหรับกางเต้นท์  

กลุ่มนี้คงได้บรรยากาศมากๆ วิวดีคะ

อันนี้เป็นที่พักของอุทยานคะ ตอนแรกอยากจะนอนที่นี่ แต่เป็นบ้านขนาดกลาง
ที่มีห้องน้ำนะ แต่จองไม่ทันคะ เต็มหมดแล้ว

สำหรับใครที่ตั้งโปรแกรมจะมา ก็จองกันตั้งแต่เนิ่น ๆ นะ ราคาไม่แพงคะ

อิ่มบรรยากาศกันเรียบร้อย ก็เก็บของออกเดินทางกันได้คะ
(ทั้งๆที่ยังไม่ได้แม้แต่ล้างหน้า)

ก็เลยตกลงกันว่าจะไปไหนดี เพราะยังเช้าอยู่ 08.30น.

ก็เลยไปนี่ดีกว่า "หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว บ้านห้วยเสือเฒ่า"

เพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองแค่ 6 กม.
และไม่ไกลจากทางที่เราลงมาจากปางอุ๋ง

เสียค่าเข้าชม 20 บาทต่อคนคะ

ด้านหน้าหมู่บ้าน

ด้านในก็จะมีกะเหรี่ยงคอยาวให้เห็นประปราย แล้วก็มีสินค้าพื้นเมืองขาย

คิดถึงแม่ฮ่องสอนจังเลย เห็นแล้วนึกถึงอากาศหนาวๆลมเย็นๆเลยน่ะค่ะ

เดินไปได้ยินเสียงชาวเขาร้องเพลงเล่นกีตาร์ เราเลยหยุดฟัง

พี่คนนี้นี่เองคะ มีซีดีเพลงของตัวเองขายด้วยนะ

แกบอกว่าแกไม่ได้มีคนหัดกีตาร์ให้แต่อย่างใด แต่ใช้วิธีเทียบเสียงเอา

เก่งได้อีก!!

คุณzapawow - ใช่เลยคะ นี่ก็เพิ่งกลับมา แต่ยังอยากไปอีกจัง...

เที่ยวกันเสร็จก็มาแวะหาอะไรกินกันที่ตลาดสายหยุด

เห็นอาหารหน้าตาแปลกๆ ก็เลยลองสั่งมากิน

ถามแม่ค้าเค้าอธิบายว่าเป็นขนมจีนน้ำเงี้้ยวแบบชาวไต
คือไม่ใส่เลือด หน้าตาก็เป็นแบบที่เห็น

รสชาดแปลกๆ ใช้ได้คะ 55

ปล.ขออภัยไม่ชัด ใช้มือถือถ่ายคะ

ขอตามไปเที่ยวด้วยคน...............ขอบคุณครับ

จากนั้นเราก็เดินทางไปดอยแม่อูคอ

ระยะทางจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนก็ประมาณ 45 กม.
ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก็ถึงคะ

เส้นทางเลี้ยวลดคดเคี้ยว แต่พอเห็นทุ่งบัวตองแล้วหายเหนื่อยคะ

คุณ low batt - เอ้ายินดีคะ ตามกันมาจากรีวิวที่แล้วนินา ดีใจๆ

ธรรมชาติช่างบรรจงสร้างจริง ๆ คะ เทือกเขาแถวนี้มีแต่ดอกบัวตอง
บานเต็มไปหมด หันซ้ายก็เหลืองอร่าม หันขวาก็เหลื้องเหลืองคะ

แอบคิดในใจ นี่ขึ้นเองหรือเค้าปลูกหว่า???  ฮา...

หน้าตาของดอกบัวตองใกล้ ๆ

ชาวบ้านเค้าเรียกกันว่า ดอกทานตะวันป่า

ออกจากดอยแม่อูคอ ก็มาถึงเวลาต้องตัดสินใจขั้นเด็ดขาดในทริปนี้

ว่าเราจะขับรถไปทางแม่สะเรียงซึ่งเป็นทางหลัก ลาดยางอย่างดี
แต่ไกลกว่ากัน100กว่ากิโลเมตร

หรือจะขับไปทางแม่แจ่ม ออกจอมทองตามที่แพลนไว้ เพราะคิดไว้ว่า
อยากจะไปให้ทันพระอาทิตย์ตกดินที่ดอยอินทนนท์ ก่อนจะเข้าตัวเมืองเชียงใหม่อีกรอบ

แต่ด้วยเสียงทัดทานตอนก่อนมาของบรรดาเพือนสนิท และญาติ เลยใช้วิธี
บีบีไปถามเพื่อนที่เพิ่งจะมาก่อนเราไม่เกินสัปดาห์ มันก็บอกว่า
"ถ้าแกขับผ่านเส้นปางมะผ้ามาแล้ว เส้นแม่แจ่มก็จิ๊บๆ"

เราก็เลยใช้เส้นทางหลวงชนบท 1263 เข้าแม่แจ่ม และวิ่ง 1092 ถึงอช.อินทนนท์พอดี
ไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมา รวมระยะทาง 117 กม.

แต่เป็น 117 กิโลแม้วที่โหดที่สุดในชีวิต ><'

เพราะทางดังกล่าวถนนลูกรัง เป็นหลุมเป็นบ่อ แถมสองข้างทางเป็นเหวกับเหวตลอด
แทบไม่มีรถสวนมาให้เห็น มีแต่รถขนผักขนผลไม้

ถนนก็เล็กมาก ขับนี่ต้องช้ากันสุดๆ คนขับห้ามมองข้างทางเด็ดขาด มันเสียวอ่ะ

เราออกจากดอยแม่อูคอประมาณเที่ยงกว่าจะถึงแม่แจ่มก็ปาไป4โมงเย็นแล้วคะ

ต้องขอโทษจริง ๆ ที่ไม่ได้ฟ้องด้วยภาพ เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับถนนหนทางอยู่

แถมไม่กล้าจอดพักกลางทาง มันเปลี่ยวสุดๆ มากันสองคน
อยากจะให้ถึงให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้

พอถึงแม่แจ่มก็ค่อยโล่งใจ อีกไม่กี่กม.ก็จะถึงอช.อินทนนท์แล้ว แต่.. ทีเด็ดอยู่ตรงนี้

ว่าทางนั้นโหดแล้วนะ เจอเส้นนี้โหดยิ่งกว่า เพราะเป็นทางแคบ ๆ ขึ้นเขาชันตลอด
แล้วเหวนี่ไม่มีต้นไม้กั้น หูย.. เห็นแล้วเสียวว๊าบบบบ
อย่างว่ายอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยนินา แค่เราขึ้นผิดที่ผิดทางเท่านั้น

อากาศก็หนาว ท้องฟ้าก็ชักจะเริ่มมืดลง เราก็ดีใจสุดๆ มาโผล่ตรงที่ถนนใหญ่ทางขึ้นอุทยาน
ป้ายบอกว่า อีก 10 กม.ก็จะถึงแล้ว

สรุปเรามาถึงจุดชมวิวทันพระอาทิตย์กำลังตกพอดี ใช้เวลาเดินทางรวม 5ชม.ครึ่งกับระยะทาง 117 กม. 555+

**เตือนพี่ๆน้องๆ ที่จะวิ่งไปทางแม่แจ่มเหมือนเรานิดนึงคะ ทางโหดมาก
ถนนก็เสียสุดๆ ยิ่งถ้าไปกัน 2 คนนี่เราว่าอันตรายคะ ยิ่งรถที่ขับไม่แน่นจริงอย่าไปเลย
ไปทางแม่สะเรียงอ้อมเอาหน่อยดีกว่า หรือถ้าใครอยากได้เสียวได้ลุ้น
อยากจะลองของกัน มี๊ก็ไม่ว่า**

เลยได้วิวนี้คะ

ขับกลับมาถึงตัวเชียงใหม่ก็2 ทุ่มกว่า ๆ เช็คอินกันที่ B2 Green อีกรอบ
อาบน้ำอาบท่า ... เพราะได้กลิ่นตุๆ หลังจากดองเค็มมา 2 วัน 1 คืน

ก็ออกไปเล่นกันที่ตลาดไนซ์บาซ่า แล้วก็ไปหาของอร่อยของเชียงใหม่กินกัน
ที่นี่เลยคะ "ร้านข้าวเหนียวเที่ยงคืน"

ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงถนนกำแพงดิน ใกล้กับโรงหนังแสงตะวัน
เคยได้ยินคุณโน๊สอุดมพูดไว้ในเดี่ยวไมโครโฟน เลยต้องจัดกันสักครั้ง

ปล. ภาพไม่ชัด เพราะใช้มือถือถ่าย(อีกแล้ว)

ร้านนี้เค้าเปิดขายตั้งแต่ประมาณ 5ทุ่ม หาไม่ยากคะ วิ่งเข้าถนนกำแพงดิน
แล้วสังเกตุด้านซ้ายไว้ จะเห็นคนมุงกันเยอะๆ นึกว่ามีเรื่อง...
แสดงว่าถึงแล้วคะ  หาที่จอดรถแถวๆนั้นได้เลย

ต่อแถวด้านหน้าร้านแถวด้านขวาซื้อกลับบ้าน แถวด้านซ้ายกินในร้าน

ที่นี่เมนูขึ้นชื่อก็ ไก่ทอด หมูสามชั้นทอด ไส้หมูทอด ไข่ต้ม และน้ำพริกหนุ่ม
กินกับข้าวเหนียว ไม่ต้องหวังน้ำจิ้มแจ่วเหมือนตามกทม.นะคะ
ที่นี่มีให้แต่น้ำปลา!!

เราก็สั่งทุกอย่างมาลองคะ
(คหสต.) น้ำพริกหนุ่มอร่อยคะ กินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ
แล้วต้องใช้มือเปิบเท่านั้น ส่วนของทอดอื่นธรรมดามากกว่าคะ

เต็มโต๊ะ..

ตื่นเช้ามาก่อนกลับกทม. ก็แวะกันที่นี่คะ

"ร้าน IBERRY"

ร้านนี้อยู่ที่ถนนนิมมานเหมินทร์ซอย 17 หรือซอยอนุบาลสวนน้อย
เข้าไปเกือบสุดซอยขวามือ

เข้ามาก็จะเจอเจ้าตัวนี้ สัญลักษณ์ประจำร้าน

ด้านหน้าร้าน

หน้าตาไอศกรีม เลือกกันได้ตามชอบ

พร้อมด้วยเบเกอรี่หลากหลาย

เลยสั่งไอศกรีมชาเย็น1ลูกสตอเบอรี่1ลูก
ชาเขียว 1แก้ว กาแฟปั่นอีก 1 แก้ว รอนานพอควรคะ เพราะคนเยอะ

ระหว่างรอของก็เก็บบรรยากาศในร้านไปพลางๆ คะ

โคมไฟเก๋ๆ

ตามชมรอบดึกครับ ทางผมก็เพิ่งวนแม่ฮ่องสอนมาครับ แต่่ว่าสวนทางกับ จขกท ทางนี้ขึ้นอินทนนท์ ลงแม่แจ่ม ไปแม่อูคอครับ แล้วก็ไปแม่ฮ่องสอน จากนั้นก็ไปปาย แล้วก็กลับเชียงใหม่ครับ

ชอบคุณตำรวจคนนี้จัง

ถัดไปนิดก็เป็นร้านไว้ขายสินค้าที่ระลึกของร้านคะ

สินค้ายอดนิยมคะ

เสร็จแล้วเราก็เดินทางกลับกทม. กันด้วยใจหวังไว้ว่าจะได้กลับมาอีก

ประทับใจในผู้คน อาหาร สภาพแวดล้อม หวังไว้ว่าเร็วๆนี้จะเจอกันอีกนะจ๊ะ เชียงใหม่จ๋า!!

ลากันไปด้วยภาพนี้คะ ไอศกรีมจาก IBERRY

มีใครสงสัยตรงไหนทิ้งคำถามไว้ได้เลยคะ ยินดีตอบสำหรับผู้ที่สนใจ
แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาสรุปยอดค่าใช้จ่ายให้คะ .....

เอาภาพหงส์ดำมาฝากคะ แต่ไม่เห็นหงส์ขาวเลย
เราไปหลังคุณสองสามวัน ภาพไม่ชัดหน่อยนะคะ รีบๆกดเพราะกลัวจะไม่ทัน ^_^

แก้ไขภาพค่ะ ใหญ่ไปหน่อย

หงส์ดำทั้ง4ตัวนี้ ว่ายนำแพนักท่องเที่ยว ลำแรกของเช้าวันนั้นค่ะ

ขอบคุณรีวิวมากๆนะครับ

แม่ฮ่องสอน ปาย ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

ทุ่งดอกบัวตองนี่สวยมากเลยครับ ดอกกำลังออกเลย
ปางอุ๋งนี่จะฤดูไหนก็สวย

สวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ

คุณCD New - เห็นมีแต่คนเค้าไปทางนั้นกันคะ
นี่เราเล่นทวนเข็มนาฬิกาสะง้าน 55

คุณStill Alive - ขอบคุณมากเลยคะ นี่ละเจ้าตัวที่อยากเห็น
คราวหน้าต้องไปพลาด จะไปบุกถึงรังเลยถ้าไม่ออกมา 55

คุณpaipaiphuart - จริงคะ เหมือนเป็นดินแดนที่มีมนต์เสน่ห์จริง ๆคะ

คุณDestiny-Boy  - ถูกต้องที่สุดเลยคะ แต่เสียดายที่วันนั้นไปหนาว
แต่ไม่ค่อยมีหมอกเท่าไหร่
เห็นเค้าว่าปกติหมอกจะต้องเยอะกว่านี้มาก ๆ

คุณอ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ - ขอบคุณคะ  ไว้มีโอกาสอย่าลืมไปเที่ยวกันนะคะ

มาสรุปค่าใช้จ่ายตามสัญญาคะ

สำหรับทริปนี้รวมระยะทางทั้งหมดที่วิ่ง 2,412 กม.
เติมน้ำมันทั้งหมด 7,700 บาท
ค่าที่พัก 3,640 บาท
ค่ากิน+เที่ยว+ซื้อของฝาก+อื่น ๆ อีกสารพัด ประมาณ 10,900 บาท

รวมค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ 24 พ.ย. - 29 พ.ย.
6 วัน 6 คืน หมดไปประมาณ 22,240 บาท

เอาไว้เป็นแนวทางเท่านั้นนะคะ คนอื่นอาจไม่เยอะเท่านี้
เพราะจขกท. บ้ากิน บ้าเที่ยว บ้าซื้อคะ

ขอบคุณที่ติดตามรีวิวจนจบ -/\-

ตามมาชมรีวิวสวยๆ สนุกอีกค่ะ  
มาช้าแถมมาสะดึกเลย ไมม่ว่ากันนะคะ

ดูรีวิวนี้แล้วอยากไปเยือนแม่ฮ่องสอนจังค่ะ

บ้านรักไทยน่าไปจัง ดอยแม่อูคอก็ยังไม่เคยไป

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ