ตอนถัดมาของการเดินทางของผมครับ
ซึ่งถือเป็น Hilight ของทริปครับ
สำหรับตอนที่ผ่านมา
Tokyo : http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11439863/E11439863.html
Kansai : http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11443699/E11443699.html

ก่อนอื่น ผมจะแนะนำข้อมูลของภูมิภาค Chugoku ก่อน
ซึ่งแค่ชื่อก็ไม่คุ้นแล้ว ... หากพูดว่า Hiroshima จะนึกออกง่ายกว่า

พร้อมรูปเปิดกระทู้

จังหวัดใหญ่ๆ ที่มีอยู่คือ
1. Hiroshima
2. Okayama
3. Yamaguchi
4. Tottori
5. Shimane
ในครั้งนี้ ผมเที่ยวไป 4 จังหวัด แต่ไม่ได้ทั่วครับ แวะเป็นบางจุดเท่านั้น ขาดเพียงจังหวัด Tottori
และสำหรับกระทู้นี้คือ Hiroshima ครับ ซึ่งผมจะพยายาใส่ข้อมูลให้ได้มากที่สุด ^^

credit รูป : japan-guide

Sanyo Area อยู่ตรงไหน ?
พูดง่ายๆก็คือตั้งแต่ จังหวัด Hyogo ของ คันไซ ไล่ไป จนถึง Shimonoseki ที่อยู่ปลายสุดด้านตะวันตกของเกาะ Honshu (แผ่นดินใหญ่ของญี่ปุ่น)
ดูง่ายๆ ก็คือ เส้นสีแดง ในคห 1 แนว ชินคังเซนแหละครับ Sanyo Line จะอยู่คู่ขนานกัน

แล้ว Sanyo Pass ครอบคลุมตรงไหนบ้าง
- Sanyo shinkansen
- JR Osaka Loop
- Kansai Airport
- JR Ferry to Miyajima
- Sakurajima line to Universal studio
หรือก็คือตามในรูปครับ สังเกตดูจะมีกิ่งแยกไปเล็กๆอีกด้วย
พูดง่ายๆว่า Pass นี้ ข้อจำกัดเยอะครับ ไม่ใช่เป็นทั้งภูมิภาค Chugoku

Sanyo Pass ข้อดี และ ไม่ดีคืออะไร ??
ข้อดี
- สามารถขึ้น Mizuho , Nozomi ของ Shinkansen ได้ (รถไฟที่เร็วที่สุด ที่ JR Pass ขึ้นไม่ได้)
- เที่ยวเมืองหลักๆของ Chugoku ได้ เกือบหมด ขาดแต่เมืองที่แตกแขนงไปล่ะครับ
- เดินทางในโอซาก้าได้สะดวก รวมถึง Kansai airport (ก่อนหน้านี้เคยขึ้นตู้ green ของ haruka ได้ด้วยครับ)
- ไปได้ถึง คิวชู (Hakata)

ข้อเสีย
- ไม่สามารถแยกไปเที่ยว นอกเหนือ Sanyo line ได้ เช่น ฝั่งบนๆ
- ไหนๆก็คลุม JR โอซาก้าแล้ว หากต่อไป JR Kyoto ได้ จะ perfect เลยครับ

ส่วนมากแล้วนักท่องเที่ยว ที่มาคันไซจะอยากมาฮิโรชิม่าเป็น sidetrip 1-2 วัน
ทีนี้คำถามที่ตามมาคือ
- จะซื้อ JR Pass ดีหรือไม่ ?
- จะซื้อ Sanyo Pass ดีหรือไม่ ?

ตอบครับ
Sanyo Pass --> คุ้มครับ เพราะ จาก shin-osaka ไป hiroshima เที่ยวเดียวก็ 9950 เยน แล้ว
  เนื่องจาก Sanyo Pass ใช้ได้ สี่วัน จึงควรวางแผนเที่ยวที่อื่นด้วยครับ

รายละเอียดของ Sanyo Pass ก็ตามนี้ครับ
http://www.westjr.co.jp/english/travel-information/pass/

รูปด้านล่างเส้นทางในฝั่ง Chugoku ทั้งหมด

credit รูป : chugoku kankou

ส่วนChugoku มีอะไรน่าเที่ยวนอกเหนือจาก Hiroshima ลองติดตามกระทู้ผมดูครับ ^^

อย่างไรก็ตามทริปของผม ใช้ JR Pass นะครับ ซึ่งครอบคลุมมากกว่า ..

เริ่มต้นการเดินทางครับ ด้วยอาหารเช้าซื้อมาทานบนชินคังเซน

เริ่มต้นการเดินทางครับจาก Kyoto ครับ ผมนั่ง Hikari Railstar ของ Kyushu Shinkansen มาลงที่ ฮิโรชิม่าเลย
เป็นที่นั่ง 2x2 และเป็นรถรุ่นใหม่กว่า Hikari ของ Tokaido Shinkansen ครับ

การเดินทางในเมือง Hiroshima สามารถไปได้อย่างสะดวกโดยขึ้นรถรางครับ
สามารถซื้อเป็น day pass ได้คือ 500 เยน หรือจ่ายเป็นเที่ยวก็ 150 เยน

ฮิโรชิม่า หากพูดถึงคำนี้ สิ่งแรกที่นึกออกก็คือ เมืองที่โดนระเบิดปรมาณู
ดังนั้น เมืองนี้ คือเมืองที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่
การเดินอยู่ในเมือง หากนึกว่า "ที่ตรงนี้ เคยโดนระเบิด..."
มันทำให้รู้สึกขนลุกเหมือนกัน

ตอนแรกผมคิดว่าย่าน downtown ใหญ่ๆ จะมีเฉพาะด้านบน
แต่ด้านใต้ดินก็มีเช่นกันครับ
ความคิดแรกที่โผล่ขึ้นมาคือ.. นี่มันคล้ายซูซูคิโน แถว ซัปโปโร เลย
เพียงแต่ผมมาในตอนเช้า ทุกอย่างปิดหมดครับ ผมจึงไปเดินบริเวณอื่นดีกว่า

genbaku dome mae คือชื่อสถานีรถรางที่จะลงครับ
หรือเรียกอีกอย่างว่า Atomic Bomb Dome...
ที่นี่คือ "ซาก" ที่หลงเหลือจากการทิ้งระเบิดในครั้งนั้น

จากรูปเป็นฝั่งตรงข้ามโดม ครับ

เมื่อเดินข้ามฝั่งมา
สำหรับวันที่ฟ้าใส + ใบไม้เปลี่ยนสี + Atomic dome
ภาพนี้จึงเป็นภาพทีงดงามมากครับ..

ใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณ Peace park แห่งนี้ จะมีแต่ใบแปะก๊วยครับ
แต่ผมอยากแนะนำอีกที่ ซึ่งหาข้อมูลมาแล้วแต่ไม่ได้ไป คือ Mitaki ครับ ***

ที่นี่เป็นจุดชมใบเมเปิ้ลแดงที่ขึ้นชื่อที่สุดใน เขตเมือง Hiroshima
การเดินทางก็ไม่ยาก เพียงแค่ ขึ้น kabe line ออกไปเพียง 2 สถานี
แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที โดย Mitaki นั้น เป็นวัดบนภูเขาครับ
โดยจะแดงเต็มที่ประมาณ สัปดาห์ที่  3 ของ พ.ย.

ช่วงที่ผมไปคาดว่าคงร่วงไปเยอะแล้วก็เลยไม่ได้ไป

กลับเข้ามาที่ Peace Park ต่อครับ
ช่องนี้สามารถมองได้เห็นถึงโดม มีเปลวไฟลุกโชนอยู่ตลอด
ไฟสันติภาพครับ ..

เมื่อเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งราคาน่าจะถูกสุดในญี่ปุ่น เพียง 50 เยนเท่านั้น
บรรยากาศทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปครับ
ผมไม่ได้พูดเกินจริงแต่อย่างใด แต่รู้สึกอึดอัดและเศร้ามากครับ

ณ เวลานี้ บางอย่างถูกหยุดไว้
แต่บางอย่างที่ไม่ได้ถูกหยุด กลับมีแต่ความสูญเสียและน้ำตาเหลือไว้..

เจ้าเมือง Hiroshima ในแต่ละยุค จะส่งหนังสือไปยัง นานาประเทศ เพื่อที่จะยืนยันการต่อต้านอาวุธปรมาณู
อย่างฉบับนี้ในปี 2011 นี่เอง จ่าหน้าผู้รับคือ ท่าน Obama ครับ

บรรยากาศในงานผู้เข้าชม ต่างก็เสียงเงียบไปเรื่อยๆ
เหลือเพียงเสียงกลืนน้ำลายเท่านั้น...

ภาพนี้คือภาพศิลปะ ที่ถูกวาดโดยผู้รอดชีวิต
บรรยายถึงสภาพหลัง 8.15 ที่ถูกระเบิดปรมาณูโจมตี.. เป็นภาพแม่ที่กำลังป้อนน้ำให้ลูกทางปาก

หลังจากออกจาก museum ก็ได้คิดมากมายหลายอย่างเลยครับ
สงครามมันไม่ได้มีอะไรดีเลย
ฝ่ายไหนจะถูก ฝ่ายไหนจะผิด ก็ช่าง
แต่ทำไมคนบริสุทธิ์ถึงต้องเป็นฝ่ายสูญเสีย...

หลังจากใช้อารมณ์กับประวัติศาสตร์ที่โหดร้ายมา
ผมจึงต้องไปหาอะไรทานบ้างแล้ว
สิ่งแรกที่นึกถึงที่ ฮิโรชิม่าคือ .. Okonomiyaki ครับ

ผมเลือกร้านโดยดูร้านที่คนเยอะ เช่นเคย
แล้วก็สั่ง เจ้านี่ มา...

ผมเองพึ่งค้นพบว่า Okonomiyaki ที่ใส่ Negi (ต้นหอม) เยอะๆ แบบนี้ ....อร่อยมากกก !!

คำถามที่ผมสงสัยตอนจะมาเที่ยวที่นี่คือ ร้านไหนดัง ??
คำตอบที่ผมได้คือ มันมีเยอะมาก จนผมไม่สามารถไปลองได้หมด
ผมจึงเลือกเอาจากสถานที่ครับ ที่สะดวกที่สุดคือ JR Hiroshima นี่แหละครับ
หันหน้าออกมา บริเวณที่รถรางจอด ตึกด้านขวา ชั้น 6 ด้านล่างเป็นร้านปาจิงโกะ
จะเป็นศุนย์รวมร้าน โอโคโนมิยากิ ครับ
ชื่อว่า Hiroshima Okonomi Monogatari Ekimae Hiroba

หลังจากนั้นหาของหวานซักหน่อย
ร้านขนมใส่ถั่วแดงร้านนี้ คนต่อแถวเยอะมากครับ
อยูjแถว JR เลยลองชิมซักหน่อย

เค้าทำร้อนๆ ใหม่ๆ อร่อยมาก
ถั่วแดงที่นี่ไม่แดงมากครับ !! จะออกสีขาวๆซึ่งมาจากเนื้อถั่วและมีเม็ดถั่วปน
ให้พอเคี้ยวแล้วรู้สึกแตกต่างไปจากถั่วแดงกวนทั่วไป ควรลองครับ..

จากนั้นจึงนั่ง Sanyo line มาที่ Miyajimaguchi
เพื่อข้ามไป เกาะที่เป็น Landmark ของเมืองครับ
หน้าสถานีเรือ JR Ferry ตกแต่งด้วยสีแดง
บริเวณหน้าสถานี ก็เต็มไปด้วย ร้านอาหาร

ซึ่งอาหารขึ้นชื่อที่นี่ก็คือ
1. หอยนางรม
2. ปลาไหล
ปลาไหลส่วนใหญ่ที่ได้กินในโตเกียวจะเป็น Unagi ซึ่งเป็นปลาไหลน้ำจืด
แต่ที่นี่ คือ Anago คือ ปลาไหลทะเลครับ

พอข้ามเรือมาถึง
มีทางให้เลือกสองด้านคือ ซ้ายและขวา
หากไปด้านขวาก็จะเจอ โทริอิ ยักษ์ เลย
แต่มันยังไม่ถึงเวลาครับ ผมอยากรอตอนพระอาทตย์ตกดิน
ดังนั้นจึงไปเดินฝั่งซ้ายก่อน ซึ่งเป็นทาง Nature walk ??

น้อยคนที่จะมาทางนี้ครับ
(เรียกว่า เดินนานทีๆจะสวนกับคนญี่ปุ่น)

หลังจากเดินไปซักพัก พบว่า ไม่มีอะไร และ กลับตัวช้าไปเสียแล้ว TT
ตอนหลังเหนื่อยอยู่ครับ ทางบนเขาระยะทาง 1.5 กิโล มีกวางนั่งมองเป็นระยะ
เห็นวิวเจดีย์ อยู่ลิบๆ

ในที่สุดก็ไปถึง Momijidani park หรือ สวนต้นเมเปิ้ลที่นี่
แม้บางส่วนจะเริ่มร่วงไปแล้ว แต่ก็ยังมีมุมสวยๆให้เห็นครับ

อีกมุมครับ
ที่นี่จะมีลำธารไหลผ่านด้วย หากน้ำเต็มๆ พร้อมใบเมเปิ้ลคงจะสวยมาก

สิ่งขึ้นชื่อของที่นี่คับ
หอยนางรมปิ้ง ราดมะนาวและซอสเล็กน้อย
แล้วก็ชิม .. สดหวานจริงๆ

เดินมาถึงหน้า Itsukushima shrine จนได้
มองเห็น Toyokuni shrine ส่วน เจดีย์
ใบแปะก๊วยที่นี่ เหลืองอร่ามและต้นใหญ่มาก

และก้าวเข้ามาภายในศาลเจ้า Itsukushima
เห็นโทริอิ กลางน้ำ อยู่ไกลๆ...

ขอเดินเข้ามาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์ด้านในก่อน
คนมีพอสมควร มีคนมาแต่งงานด้วยครับ
คนที่มาแต่งงานในวัดหรือศาลเจ้าได้ นี่ต้องมีฐานะพอสมควรเลยล่ะ

รอจนปลอดคน ได้ภาพนี้มา

เป็นวิวที่สวยงามจริง ...

ถ่ายกับเจ้าถื่น ก่อนจะลาจากที่นี่

กลับเข้ามาที่่ย่าน downtown อีกรอบ
แถวนี้ใหญ่มากครับ ทั้งห้าง ทั้งช้อบปิ้งสตรีท
แบรนด์ดังต่างๆมีมากมาย

หากขึ้นรถรางมาก็ลงป้าย hatchobori ครับ

ผมไม่รู้จะกินอะไรดีที่นี่ เลยเดินเล่นซักพัก
เพราะยังไม่หิวเลยลองเข้าไปห้างแถว JR
กำลังลดราคาอยู่ หมดนี้ไม่ถึง 500 เยน
จบการเดินทางของผมในกระทู้นี้ครับ

จะมีข้อมูลมาเพิ่มเติมของ Hiroshima ที่น่าเที่ยวอีกเล็กน้อย

Hiroshima city
ที่ๆ ผมวางแผนแล้วไม่ได้ไปคือ
Shukkeien garden ซึ่งเป็นสวนที่น่าเที่ยวมากในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีครับ
Mazda Museum ผมเองชอบรถ mazda มาก เสียดายที่ไม่ได้เข้าชมเหมือนกัน เนื่องจากเวลาไม่พอ

ข้อมูลทั้งหมดของเมืองนี้ เรียกว่า ครบถ้วนมาก
http://www.kankou.pref.hiroshima.jp/foreign/english/

Kure city
เป็นเมืองที่อยู่ทางด้านใต้ของ Hiroshima ครับ นั่ง Kure line มาประมาณ 50 นาที
เป็นอดีต ฐานทัพเรือที่นี่สมัยสงคราม (ปัจจุบันไม่แน่ใจ) ที่นี่เป็นเมืองชายทะเลที่สวยงามครับ

สิ่งที่น่าสนใจคือ
นี่คือ พิพิธภัณฑ์เรือรบ Yamato ที่โด่งดัง

Onomichi City
เมืองนี้อยู่บนหุบเขาที่มองเห็นทะเล seto (ระหว่าง Honshu กับ Shikoku)
กิจกรรมที่น่าสนใจคือ การปั่นจักรยานบนสะพานที่ข้ามทะเล seto ครับ
รายละเอียด
http://www.city.onomichi.hiroshima.jp/english/kanko/touristspots.html

Fukuyama City
เมืองนี้จะเป็นทางผ่านของ Shinkansen หากจะต่อไป Onomichi
จุดที่ผมสนใจคือ จุดชมวิว ซากุระของ ปราสาท Fukuyama ที่อยู่หลังสถานีเลยครับ
รายละเอียด
http://www.fukuyama-kanko.com/english/hyaka/category_museum/index.html

ขอขอบคุณที่ติดตาม
หากเห็นว่ามีประโยชน์ช่วยเก็บเข้าคลังกระทู้ด้วยนะครับ ^^
เชิญพบกับ ตอนหน้า ExPress Chugoku (2) : Yamaguchi เมืองสุดท้ายปลายฝั่งตะวันตกของ Honshu

เมืองนี้มีอะไรมากกว่าทางผ่านครับ ... ;)

ผมพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยว Hiroshima พวกท่านบอกว่าสลดหดหู่มาก จนต้องตัด Nagasaki ทิ้งในแผนวันต่อไปเลย

แถวนั้นจะมี memorial hall ที่สามารถเข้าได้ฟรี ผมสังเกตว่าไม่มีใครเข้าไปเลย คงจะจิตตกหลังออกจาก museum กันมากจนไม่พากันเข้า ทั้งที่ข้างในทำได้ดีมาก บอกเล่าเรื่องราวจนเราน้ำตาตก

ขอบคุณมากตรับ

ภาพสวยมากค่ะ ติดตามตอนต่อไปนะคะ

Peace Park เงียบสงบมาก ถ้าเป็นสวนอื่นคงไม่เท่าไหร่ แต่รอบๆ สวนนี้มีอนุสรณ์สถานหลายจุดให้รำลึกถึงที่ชวนหดหู่

พิพิธภัณฑ์แห่งสันติ มาอึ้งเอาส่วนสุดท้ายก่อนออกมา

Memorial Hall ข้างในสวยสงบมากค่ะ

เห็นภาพใน คห.15 แล้วเศร้าจังค่ะ

ไม่กล้าไป Atomic Dome อะครับ มันหดหู่พิกล

ขอบคุณทุกท่านครับ

ผมเองก็ไม่อยากเข้าหรอกครับ ในตอนแรก .. แต่คำว่า "ไหนๆก็มาแล้ว" มันค้ำคอทุกที เลย
จิตตกกันไปถ้วนหน้า ขนาดไม่ได้อ่านเนื้อหา เรื่องราวโดยละเอียด

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับบ

เห็นคห.15แล้วรู้สึกเศร้าตามเลครับ T-T

ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลกับภาพสวยๆ

โห จัดเต็มมากอ่าครับคุณ realp**
ผมเองก็อยู่ฮิโรชิมาครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยือนนะครับผม

Yahoo!


ปล. สำหรับนักเรียนในฮิโรชิมา เค้าจะมีบัตรให้เข้าMemorial Hall ฟรี ผมเข้าไปแล้ว ก็หดหู่เหมือนกัน ให้เข้าไปอีกที ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ เหอะๆ
ค่าเข้าชม 50เยนครับ และต้องต้องการaudioบรรยายด้วยก็ เสียอีก300เยนมั้ง มีภาษาไทยด้วยล่ะ ฟังกันง่าย สะดวก รู้ถึงประวัติศาสตร์

... ถ่ายรูปอาหารได้น่าทานจังเลยค่ะ ...

ได้แวะ Hiroshima แค่เพื่อกิน Okonomiyaki ครับ 555
เอาเวลาทั้งหมดที่มีไปเดินเล่นบนเกาะ Miyajima หมด

คุณ Mickey-kun : ผมชอบ ฮิโรชิม่า มากเลยครับ เสียดาย Hatchobori น่าจะอยู่ใกล้ๆ JR (แต่ผมก็เดินกลับไหวนะ 55)

คุณ ปอนคุงไม่ใช่ปังคุง : โอโคโนมิยากินี่อร่อยจริงครับ หน้าหอยนางรมนี่สุดยอดเลย

ติดตามชมรีวิวสวยๆ  ขอบคุณมากนะคะ

ชอบรีวิวนี้จังค่ะ

ภาพสวย ข้อมูลแน่นมากๆ

รอชมรีวิวตอนต่อไปนะคะ