ความเดิม
ทริปนั่งรถบัส รถไฟ จากกรุงเทพฯ ปลายทางที่ฮ่องกงของผมเริ่มต้นเมื่อตอนเย็นของวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554
ผ่านเวียงจันทน์ ฮานอย ฮาลองเบย์ ซาปา หนานหนิง กุ้ยหลิน กวางโจว เซินเจิ้น จนถึงปลายทางที่ฮ่องกงครับ
____________________________________
ติดตามตอนก่อนหน้านี้ได้ที่นี่ครับ
นั่งรถบัส-ขึ้นรถไฟ-ไปฮ่องกง! 01 หมอชิต เวียงจันทน์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11434910/E11434910.html
นั่งรถบัส-ขึ้นรถไฟ-ไปฮ่องกง! 02 เวียงจันทน์ถึงฮานอย รถบัส 26 ชั่วโมง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11435357/E11435357.html
นั่งรถบัส-ขึ้นรถไฟ-ไปฮ่องกง! 03 ฮาลองเบย์ เย็นสุดใจ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11439410/E11439410.html
นั่งรถบัส-ขึ้นรถไฟ-ไปฮ่องกง! 04 สองเท้าก้าวเดิน หนึ่งวันในฮานอย
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11442274/E11442274.html
นั่งรถบัส-ขึ้นรถไฟ-ไปฮ่องกง! 05 ซาปา เมืองน่ารักในม่านหมอก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11447074/E11447074.html
[12 ธ.ค. 54 20:02:55
]
วันที่ 8 เสาร์ 26 พฤศจิกายน 2554
แผนการของผมวันนี้คือเที่ยวในตัวเมืองฮานอยครับ ก่อนที่ตอนเย็นจะไปส่งเพื่อนหญิง 2 คนที่จะบินกลับกรุงเทพฯวันนี้ตอน 5 ทุ่ม (กาตาร์แอร์เวย์ส) คืนนี้ และรอเพื่อนชาย 3 คนที่จะบินมาฮานอยแล้วร่วมทริปไปกับผมต่อพรุ่งนี้เช้า (แอร์เอเชีย โปร 1,800 บาท)
เนื่องจากเวลาช่วงที่ไปส่งเพื่อนหญิงกับเวลาช่วงที่ไปรับเพื่อนชายอยู่ห่างกันไม่กี่ชั่วโมง ตอนแรก ผมกะจะนอนค้างที่สนามบินนอยไบครับ แต่หลังจากค้นข้อมูลไปมาแล้ว ได้ยินมาว่าสนามบินนอยไบปิดตอน 4 ทุ่ม ถ้าไม่มีที่พักคงได้เป็นคนเร่ร่อนแน่ เลยเปลี่ยนแผนไปจองโรงแรมง่ายๆแถว Old Quarter อยู่สักคืนละกัน เพื่อนๆจะได้อาบน้ำให้สบายก่อนเดินทางกลับบ้านด้วย
และแล้วเวลาประมาณตี 4 ครึ่ง รถไฟมาถึงฮานอยครับ ผมคิดว่าตอนนี้ยังเช้าเกินไปที่จะเดินทางไปหาโรงแรมที่ย่าน Old Quarter เพราะที่พักอาจจะไม่ว่าง แขกยังไม่ Check-out กัน แถมยังเป็นวันเสาร์ด้วย คงต้องรอให้เช้ากว่านี้ก่อน เลยมานั่งรอที่สถานีรถไฟ รอให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆก่อนครับ
ลงจากรถไฟมาแล้ว อาคารฝั่งตะวันออกจะมีห้องพักผู้โดยสารครับ อาคารนี้ติดกับถนนเส้นหลักของฮานอยคือถนน Le Duan
[12 ธ.ค. 54 20:04:20
]
คนมาพักที่นี่เยอะเหมือนกัน
ห้องพักผู้โดยสารไม่ใหญ่มาก แต่ดูแล้วปลอดภัยครับ เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอด
[12 ธ.ค. 54 20:05:00
]
เวลาที่รออยู่นั้น ผมออกมาเดินสำรวจแถวๆสถานีรถไฟครับ คุ้นกับสถานีไว้จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นครับ เพราะผมอาจจะต้องมาซื้อตั๋วรถไฟไปหนานหนิงที่นี่ หรือไม่ก็อาจจะต้องมาใช้บริการฝากกระเป๋าของที่นี่
สถานีรถไฟตอนตีสี่ตีห้า ก็มืดอย่างนี้ล่ะครับ ที่เห็นในภาพคือโถงกลาง ที่จะปิดประตูตอนกลางคืน เปิดอีกที 6 โมงเช้าครับ ภายในมีจุดรับฝากกระเป๋าด้วยครับ
[12 ธ.ค. 54 20:05:27
]
แผนผังของสถานีครับ จะเห็นว่า Ticket Counter | Great Hall | Waiting Room จะอยู่คนละส่วนกัน
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:05:57
]
หลังจากศึกษาเส้นทางรถเมล์ของฮานอย เราพบว่าการเดินทางด้วยรถเมล์ของที่นี่ไม่ยากเท่าไหร่ รถเมล์จะไม่วิ่งเข้าไปใน Old Quarter ตรงๆเนื่องจากถนนแคบ ส่วนใหญ่จะวิ่งผ่านๆ แต่หลังจากที่เราเดินสำรวจเมืองมาแล้วรอบหนึ่ง คิดว่าน่าจะพอขึ้นรถเมล์ได้แล้วครับ
แผนที่รถเมล์ โหลดได้จากที่นี่ครับ http://www.tramoc.com.vn/modules.php?name=Content&opcase=viewcontent&mcid=137
เวลาตอนนั้นตี 5 กว่าๆแล้วครับ เนื่องจากเวียดนามอยู่ทางทิศตะวันออกของไทย แต่ใช้เวลาเดียวกับประเทศไทย ดังนั้น จึงเห็นดวงอาทิตย์ก่อนบ้านเราครับ ดังนั้น ตี 5 ของเขาก็เริ่มสว่างแล้ว เราจึงตัดสินใจออกเดินไปหาป้ายรถเมล์ครับ
เราเห็นว่า สายรถเมล์ที่พอจะไปทางทะเลสาบฮว่านเกี๋ยมได้ก็มีสาย 2, สาย 34 หรือสาย 45 ก็ได้ครับ แต่ไม่ได้ขึ้นตรงนี้ ต้องเดินไปหน่อย ตามเส้นนี้ครับ
[12 ธ.ค. 54 20:06:31
]
ระหว่างทางที่เราเดินฝ่าฝูงชนของ Taxi นั้น เราเจอกับฝรั่งกลุ่มหนึ่ง เป็นผู้หญิง 3 คนที่พยายามคุยกับ Taxi สุดท้าย เหมือนกับว่าเค้าจะคุยกับ Taxi ไม่เข้าใจกันครับ เราเลยอาสาให้เค้ายืมแผนที่ Google Map ที่เรามีอยู่กับตัว สุดท้ายก็ยังคุยกันไม่รู้เรื่องอยู่ดี
คุยกับเค้าแล้ว เหมือนเขาจะอยากไปโบสถ์คาทอลิกที่อยู่แถวๆทะเลสาบฮว่านเกี๋ยมครับ พวกเราเลยถามเค้าว่าสนใจจะไปรถเมล์มั้ยล่ะ เค้าตอบโอเคครับ เราก็เลยได้เดินด้วยกันไปป้ายรถเมล์ที่ว่า
ระหว่างที่เดินไปนั้นมีโอกาสได้คุยกัน เลยรู้ว่าเค้าเป็นคนอังกฤษครับ ไปเที่ยวซาปามา วันนี้จะไปเที่ยวฮานอยก่อนจะบินกลับบ้านเหมือนกับพวกเราเลยครับ
ตอนนี้ยังไม่สว่างมาก ถนนยังมืดๆอยู่
[12 ธ.ค. 54 20:07:47
]
ถนนตอนเช้านี่ไม่มีรถเลย ต่างกับตอนกลางวันมากมาย
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:08:07
]
เดินไปได้ 10 นาที ก็ถึงแล้วครับ ป้ายรถเมล์
พอถึงแล้ว สาวชาวอังกฤษก็ขอแยกกับเราตรงนี้ครับ สงสัยว่าจะไปหาอะไรรองท้องก่อนเดินทางต่อ (คิดในแง่ดีครับ)
ป้ายรถเมล์ของที่นี่ไม่ค่อยเหมือนที่บ้านเรา มีลักษณะเป็นป้ายเฉยๆ ไม่มีที่นั่งรอ สงสัยเพราะถนนตรงนี้แคบกระมัง วิธีการขึ้นรถเมล์ เราอาศัยสังเกตจากป้าคนข้างๆที่ยืนอยู่ที่ป้ายเดียวกับพวกเราครับ
[12 ธ.ค. 54 20:08:23
]
และแล้ว เราก็ขึ้นมาจนได้ครับ รถเมล์สาย 45 ค่าโดยสารคนละ 3,000 ดองเท่านั้น
ขึ้นมามึนๆเล็กน้อยครับ มีแต่คนขับกับพี่ชายคนนี้ โชคดีที่พี่คนนี้พูดภาษาอังกฤษได้ครับ เลยบอกค่าโดยสารเราและคุยกับคนขับให้ครับ เราก็จ่ายผ่านพี่เขานี่แหละ พี่คนนี้มาพร้อมรถมอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน ยกขึ้นมาบนรถเมล์กันเลยทีเดียว
เราเอาแผนที่ให้เขาดูครับว่าอยากจะลงตรงป้ายนี้ๆ พี่เขาก็มีน้ำใจ บอกคนขับให้จอดให้ครับ ถ้าไม่ได้พี่เขา เราก็แย่เหมือนกัน เพราะถนนหนทางข้างนอกมืดมากจนไม่เห็นอะไรเลย
นอกจากนี้ คนขับรถเมล์ยังพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยนะครับ ถึงเบาะคนขับจะอยู่ไกลจากที่พวกเรานั่ง แกก็ยังอุตส่าห์ชวนเราคุยครับ
[12 ธ.ค. 54 20:08:51
]
เวลาใกล้ๆ 6 โมง พี่ชายก็บอกให้เราลงจากรถครับ บอกถึงแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าถึงไหนครับ เดินตามสัญชาติญาณแล้วหาจุดสังเกต ปรากฏว่าจุดสังเกตแรกที่เจอ คือ โอเปร่าเฮาส์
โอ๊ะ เดินมาผิดทางแล้วเรา แต่ไม่เป็นไร เดินไปเรื่อยถึง Old Quarter ได้
ปรากฏว่า ไกลเกินคาดครับ ไกลจริงๆ ทำไมระยะทางตอนเดินริมทะเลสาบมันไม่ไกลอย่างนี้ล่ะ
[12 ธ.ค. 54 20:09:56
]
เป้าหมายของเราคือถนน Hang Bac ครับ เพราะเป็นที่ตั้งของโรงแรม Prince 79 โรงแรมที่ผมเล็งไว้เป็นที่แรก จะเข้าไปถามราคาเสียหน่อย
แต่เรามาเช้าเกินไปครับ ถึงหน้าโรงแรมก็ 6 โมงครึ่งเท่านั้นเอง โรงแรมยังไม่เปิดครับ กดกริ่งเรียกก็ไม่มีใครตอบ ท้องเริ่มร้องเลยไปเจอร้านเบเกอรี่ข้างๆโรงแรมครับ รองท้องหน่อยดีกว่า
แต่โชคไม่เข้าข้างเลย พอโรงแรมเปิดเราเดินเข้าไปถาม ก็ได้คำตอบว่า เต็มแล้วครับๆ เสียดายจัง แต่ก็ต้องทำใจเพราะวันนี้วันเสาร์
ออกเดินต่อ ถามโรงแรมอื่นๆ บ้างก็บอกเต็มครับ บ้างก็ราคาแพงเกินไปทั้งที่เราต้องการแค่ห้อง Single Room เท่านั้น ลัดเลาะไปเรื่อยๆ ก็ย้อนกลับมาที่นี่ครับ Friendly Travel
คุ้นๆมั้ยครับ ก็โรงแรมที่ผมไปจองตั๋วรถไฟไปซาปานั่นแหละครับ พี่พนักงานจำผมได้ด้วย แถมให้ราคาผมมาแค่ 12 เหรียญเท่านั้น ผมตอบตกลงทันทีเลย
แต่พี่แกบอกว่าให้ Check-in ได้ตอนประมาณเที่ยงๆเพราะตอนนี้แขกห้องนั้นยังไม่ Check-out ครับ และเรามาก่อนเวลา Check-in ปกติเยอะมาก เลยบอกให้เราฝากกระเป๋าไว้ก่อนแล้วไปหาข้าวเช้าทานก่อน เราก็ยอมแต่โดยดีครับ อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าที่ฝากกระเป๋าของสถานีรถไฟ (15,000 ดอง) แน่นอน
[12 ธ.ค. 54 20:10:54
]
เราออกเดินหาข้าวเช้าครับ มาเจอกับร้านแปลกๆ ไม่รู้ว่าใช่ 7-ELEVEn ของจริงรึเปล่า
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:12:37
]
เดินมาริมทะเลสาบอีกครั้ง
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:13:04
]
ตอนเช้าจะมีคนมาออกกำลังกายเยอะแยะครับ โดยเฉพาะคนสูงอายุ
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:19:34
]
มาเจอร้านอาหารร้านหนึ่งริมทะเลสาบครับ จัดร้านได้น่านั่งดี เอาร้านนี้ละกัน
เราไม่รู้จะทานอะไร สุดท้าย ลงเอยที่อาหารยอดฮิต เฝอนั่นเองครับ
[12 ธ.ค. 54 20:25:59
]
มาแล้ว เฝอของเรา
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:26:12
]
ผมสังเกตว่ารสชาติของเฝอแต่ละที่นี่จะไม่ค่อยเหมือนกัน สงสัยว่าเป็นสูตรของร้านใครร้านมันล่ะครับ
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:26:25
]
ลองดูสักหน่อย เปาะเปี๊ยะทอด แต่ร้านใส่น้ำมันเยอะไปนิดนึงครับ เลยรู้สึกเลี่ยนๆ
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:26:39
]
ทานเสร็จแล้ว ออกเดินเที่ยวกันต่อ ที่นี่มีจุดบริการข้อมูลการท่องเที่ยวด้วยครับ เป็นตู้ Kiosk ให้นักท่องเที่ยวให้หาข้อมูลกัน
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:27:10
]
ผมเดินเรื่อยๆมาตามถนน Trang Tien ครับ ถนนเส้นนี้ขึ้นชื่อเรื่องร้านขายหนังสือ ผมคาดว่าหนังสือที่เวียดนามน่าจะราคาถูก เลยกะจะเดินหา Lonely Planet ฉบับประเทศจีนสักหน่อย ผมเคยเดินตามร้านหนังสือ Outlet แถวบ้านเราแล้วเจอดาวเหงาฉบับปีเก่าหน่อยแต่ราคาลดลงมาเยอะมาก ดังนั้น ถ้าที่เวียดนามข้อมูลของดาวเหงาไม่เก่ามากก็น่าลองดูเหมือนกัน
ร้านหนังสือตามถนนนี้มีหลายแบบครับ ตั้งแต่แบบเป็นแผงข้างถนน กับร้านหนังสือจริงๆ หลังจากที่ผมเดินหาอยู่หลายร้านแล้วก็ไม่เจอเสียที ก็มาเจอ Lonely Planet ฉบับประเทศจีนอยู่ที่แผงของอาแปะ ตั้งอยู่หน้าร้านหนังสือเลย สภาพก็โอเคนะครับ ใส่ซองพลาสติกไว้ให้อย่างดีด้วย ผมเข้าไปถามราคา อาแปะบอกว่าเล่มละ 200,000 ดอง ก็ราวๆ 300 บาท ตอนแรกผมก็ไม่คิดจะซื้อหรอกครับเพราะคิดว่าหาข้อมูลมาพอแล้ว แถมมีไกด์บุ๊คจีนตอนใต้ภาษาไทยอยู่แล้วด้วย แต่คิดดูอีกที มีไว้ก็อุ่นใจดีเหมือนกัน เลยตัดสินใจซื้อไปครับ
[12 ธ.ค. 54 20:27:34
]
ด้วยความสะเพร่าของผม หลังจากจ่ายเงินไปแล้ว ผมแกะหนังสือออกมาดู
ช็อคครับ เป็นหนังสือซีร็อกซ์ทั้งเล่ม pull-out map ก็ไม่มี ถึงว่าทำไมหน้าปกมันดูเบี้ยวๆ เจ็บใจสุดๆ จะเอาไปคืนก็คงไม่ได้คืนแน่ๆ เลยได้แต่ทำใจครับ ไม่รอบคอบเอง เลยโดนเข้าให้
ยังดีที่เป็นหนังสือซีร็อกซ์คุณภาพดี ยังพออ่านรู้เรื่องครับ ข้อมูลก็ใหม่ เป็นของปี 2011 ซะด้วย ถือว่าอ่านเอาข้อมูลละกัน
[12 ธ.ค. 54 20:27:48
]
เพื่อไม่ได้ดวงตกไปมากกว่านี้ ผมรีบเดินออกจากย่านนี้ทันทีครับ ฮา
แล้วก็มาเจอจุดที่เราลงรถมาเมื่อเช้านี้ โอเปร่าเฮาส์
[12 ธ.ค. 54 20:28:04
]
ย่านนี้น่าจะเป็นย่านหรูอยู่เหมือนกัน เห็นได้จากร้าน GUCCI
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:28:17
]
โรงแรมฮิลตัน
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:28:29
]
โอเปร่าเฮาส์ โอ่โถงดีเหมือนกัน
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:28:41
]
มีงานแสดงอยู่เรื่อยๆครับ
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:28:53
]
พักซักหน่อย อ่าน Lonely Planet ปลอมให้ช้ำใจเล่น
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:29:08
]
เที่ยวกันต่อดีกว่าครับ แล้วเราก็เดินมาถึงพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติเวียดนาม (Museum of Vietnamese Revolution)
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:29:25
]
เสียค่าบัตรเข้าชม 10,000 ดองก่อนครับ
ถ่ายรูปกับรถถังสมัยสงครามกันหน่อย
[12 ธ.ค. 54 20:30:05
]
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ
จากคุณ : dezembertattoo
[12 ธ.ค. 54 20:30:40
]
เข้ามาชมด้านในของพิพิธภัณฑ์ครับ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงการสร้างชาติเวียดนามใหม่ ตั้งแต่ยุคตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ สงครามประกาศอิสรภาพ สงครามอินโดจีน สงครามเวียดนาม มาจนถึงยุคสร้างชาติในปัจจุบันครับ แบ่งนิทรรศการออกเป็นหลายๆห้อง มีทั้งหมดเกือบๆ 30 นิทรรศการย่อยเลย
[12 ธ.ค. 54 20:30:41
]
เนื่องจากผมไม่รู้ประวัติศาสตร์เวียดนามแบบเจาะลึกเท่าไหร่ บรรยายไปอาจจะผิดพลาดได้ ขอเสนอเป็นรูปแทนนะครับ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีคำบรรยาย 3 ภาษา คือ เวียดนาม อังกฤษ และฝรั่งเศส ครับ
[12 ธ.ค. 54 20:31:08
]
ท่านผู้นำคอมมิวนิสต์ของเวียดนามในสมัยหนึ่ง
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:31:26
]
ธงชาติเวียดนามสมัยก่อนแบบใช้ผ้าเย็บต่อกัน
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:31:37
]
ประธานาธิบดีโฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพที่จตุรัสบาดิงห์ ขอเป็นเอกราชไม่ขึ้นต่อฝรั่งเศสครับ
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:32:10
]
ก่อตั้งเวียดนามใต้ ได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐอเมริกาเพื่อไม่ให้ดินแดนส่วนนี้เป็นส่วนเดียวกับเวียดนามเหนือที่เป็นคอมมิวนิสต์
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:32:25
]
สหรัฐอเมริกาสู้รบกับเวียดนามเหนือด้วยการระดมทิ้งระเบิดอย่างหนัก นี่เป็นส่วนที่เหลือส่วนหนึ่งครับ
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:32:42
]
การต่อสู้ของท่านโฮจิมินห์
กับวลีเด็ด Khong co gi qui hon doc lap tu do ที่แปลว่า Nothing is more precious than independence and freedom หรือ ไม่มีสิ่งใดล้ำค่ากว่าอิสรภาพและเสรีภาพ
[12 ธ.ค. 54 20:32:58
]
โฆษณาปลุกกำลังใจของคนในชาติ ว่ายิงเครื่องบินอเมริกันร่วงครบ 2,700 ลำแล้ว
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:33:14
]
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดทุกวันครับ เวลา 8:00-11:30 น. และปิดพักเที่ยง ก่อนจะเปิดอีกที 13:30-16:15 น. เหมาะสำหรับคนที่ชอบประวัติศาสตร์สมัยใหม่และการทหารอย่างยิ่งครับ
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:33:26
]
เราเดินมาอีกหน่อย ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติเวียดนาม ก็เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เวียดนาม (Museum of Vietnamese History) แล้วครับ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงวัตถุโบราณในแต่ละยุคประวัติศาสตร์ของเวียดนามเลย
[12 ธ.ค. 54 20:33:44
]
หลังจากที่เริ่มรับข้อมูลประวัติศาสตร์มาเยอะจากพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติฯ เราเลยขอผ่านพิพิธภัณฑ์นี้ไปครับ มาเข้าร้านกาแฟซะเลย ตั้งอยู่ภายในรั้วของพิพิธภัณฑ์ครับ
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:33:58
]
ใช้เวลาอยู่ที่นี่ซะนานเลยครับ มี WIFI เล่นได้เรื่อยๆ บรรยากาศหรู เห็นคนใส่สูทมานั่งร้านนี้กันเพียบ ราคาก็ใช่ย่อย อย่างแก้วนี้ก็ 75,000 ดอง
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:34:12
]
เลยตอนเที่ยงมานิดๆ กาแฟที่เราจัดการไปเมื่อครู่ทำให้เราไม่รู้สึกหิวเลยครับ
ที่ร้านกาแฟ ผมนั่งวางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้
จากที่หาข้อมูลมานั้น การซื้อตั๋วรถไฟไปหนานหนิงจะต้องนำพาสปอร์ตที่มีหน้าวีซ่าจีนแล้วมาแสดงตอนซื้อตั๋วด้วย แผนการของผมสำหรับวันพรุ่งนี้ก็คือ ทันทีที่เพื่อนๆลงเครื่องและ Check-in ก็จะรีบบึ่งมาที่สถานีรถไฟฮานอย (GA HA NOI) ทันทีเพื่อมาซื้อตั๋วรถไฟสำหรับคืนนั้นที่จะเดินทางไปหนานหนิงเลย อันที่จริงแล้ว ผมเคยถามเอเยนต์ที่ซื้อตั๋วแล้ว เขาก็ขอเลขที่พาสปอร์ตของทุกคนที่จะเดินทางซึ่งตอนนั้นผมยังไม่มี แต่ไปถามเอเยนต์อีกบริษัทหนึ่ง (SINH CAFE) เขาบอกว่า ไม่มีเลขที่พาสปอร์ตก็ได้ ขอแค่มีชื่อจริงนามสกุลจริงก็พอ แต่ผมยังไม่ตัดสินใจซื้อกับเอเยนต์ครับ
ผมมานั่งนึกๆดูว่า ถ้าเอเยนต์บอกอย่างนั้น แสดงว่า มันก็มีโอกาสที่ผมจะซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟในวันนี้ได้เลยโดยที่ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต หรืออาจจะใช้แค่เลขที่พาสปอร์ตเท่านั้น
ผมเลยได้ไอเดียว่า ไหนๆวันนี้ก็พอจะมีเวลาว่าง ขอใช้เวลาสัก 2 ชั่วโมงในการไปซื้อตั๋วรถไฟไปหนานหนิงให้เสร็จสรรพไปเลยดีไหม เพราะถ้าซื้อตั๋วได้จริง พรุ่งนี้ก็จะสบายใจไปมาก แต่ถ้าซื้อไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็ตามแผนเดิมคือลงเครื่องแล้วรีบมาที่สถานีรถไฟ
ผมตัดสินใจไม่นั่งรถเมล์เข้าเมืองครับ แต่ไปสถานีรถไฟอีกแห่งหนึ่ง คือ GA GIA LAM ที่อยู่นอกเมืองแทน เพราะคาดว่าระยะทางคงพอๆกัน
[12 ธ.ค. 54 20:35:22
]
จากหน้าพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ จุดที่จะขึ้นรถเมล์ไม่ได้อยู่ตรงนี้ครับ ต้องเดินย้อนมาหน่อยตรงโอเปร่าเฮาส์
เลยได้เจอหนุ่มสาวมาถ่ายรูปแต่งงานกัน
[12 ธ.ค. 54 20:35:48
]
มีคนบอกว่า มาฮานอยแล้วเจอคนถ่ายรูปแต่งงานจะโชคดี งานนี้ต้องบอกว่าเราโชคดีมากๆครับเพราะมีคนแต่งงานกันที่นี่หลายคู่เลย เท่าที่นับดูก็ราวๆ 5-6 คู่ได้
เดินไปตามถนน Ly Thai To ที่เป็นถนนที่เราเดินมาเมื่อเช้าครับ เพื่อไปขึ้นรถเมล์สาย 34 ที่จะพาเราไปยัง Ben Xe GIA LAM
ค่ารถเมล์เพียง 3,000 ดอง รถแน่นไปหน่อย แต่ก็พาเรามาส่งที่ Ben Xe GIA LAM ได้ครับ ที่นี่เป็นสถานีรถบัสสายตะวันออกนะครับ อยู่คนละที่กับสถานีรถไฟนะครับ แต่อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ เดินไปประมาณ 800 เมตรก็ถึงสถานีรถไฟแล้ว มีป้ายบอกชัดเจนครับ
แต่ถนนหนทางออกจากสกปรกไปหน่อยนึง
[12 ธ.ค. 54 20:36:15
]
ถึงแล้วครับ GA GIA LAM สถานีรถไฟต้นทางของสายที่จะไปเมืองจีน เพราะที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของรถไฟรางกว้างมาตรฐานครับ
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:36:38
]
เดินงงๆ หาเคาน์เตอร์ซื้อตั๋วไปเมืองจีนไม่เจอ รถไฟไปหนานหนิงต้องมาซื้อตั๋วที่ห้อง Waiting Room นะครับ จะมีเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษได้
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:36:57
]
ผมเข้าไปถามทันทีเลยครับว่าซื้อตั๋วไปหนานหนิง 4 ใบ รู้แต่เลขที่พาสปอร์ตจะได้มั้ย เจ้าหน้าที่ก็ยื่นใบๆหนึ่งให้ผมกรอกเลยครับ เหมือนเป็นใบที่ต้องกรอกเวลาซื้อตั๋ว
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:37:16
]
ยาวมากครับ เข้าใจแล้วว่าทำไมต้องมีเอเยนต์ซื้อตั๋ว
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:37:33
]
ข้อมูลที่ต้องกรอกก็คือชื่อ นามสกุลของทุกคนที่เดินทาง พร้อมกับเลขที่พาสปอร์ตของทุกคนครับ ผมไม่รู้เลขที่พาสปอร์ตของเพื่อนคนหนึ่งครับ ถามเจ้าหน้าที่แล้วเขาบอกไม่เป็นไร เลยโล่งใจไป แต่เขาก็ย้ำครับว่า ชื่อต้องตรงกับพาสปอร์ตนะ
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:37:59
]
ได้มาเรียบร้อยแล้วครับ ตั๋วราคา 467,000 ดอง ผมขอจ่ายเป็นเงินดอลล่าร์สหรัฐ ตกใบละ 24 เหรียญครับ หนานหนิงอีกไม่ไกลแล้ว
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:38:15
]
เวลาตอนนั้นบ่าย 2 กว่าๆแล้ว เหลือเวลาอีกไม่นาน เราเลยขึ้นรถเมล์กลับย่านเก่าคือ Old Quarter ครับ แต่เนื่องจากรถเมล์ทุกคันจะไม่ผ่าน Old Quarter ครับ โดยเฉพาะสาย 3 ที่เราขึ้นมานี่จะอยู่ถนนเส้นหลักเสียมากกว่า ผมดูแล้วจุดที่น่าจะลงแล้วข้ามไป Old Quarter ได้ง่ายที่สุด คือ เชิงสะพาน Chuong Duong ครับ
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:38:46
]
ผมบอกกระเป๋ารถเมล์ไปตามนั้นว่าเราจะลงตรงนี้ โดยเอาแผนที่ Google Map ให้ดูครับ พอถึงป้าย กระเป๋าก็บอกให้เราลงครับ ใจดีจริงๆ
แต่ลงมาแล้วอึ้งครับ ผมไม่คิดว่าถนนมันจะกว้างขนาดนี้ แล้วเป็น Highway ด้วยครับ รถจะมาเร็วมาก ทางข้ามก็ไม่มี ความรู้สึกเหมือนโดนปล่อยลงกลางทางด่วนเลยครับ
เป็นความผิดพลาดของผมเองครับ ไม่เช็คให้ดีว่าควรจะลงตรงไหน มึนครับ งานนี้
[12 ธ.ค. 54 20:39:46
]
ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็มาลงตรงหน้ากำแพงลายกระเบื้องที่จัดลายได้สวยครับ ถ่ายรูปแก้เซ็งกันหน่อย
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:40:08
]
สุดท้าย กว่าจะหาจุดข้ามถนนได้ ต้องเดินไปเชิงสะพาน Long Bien ครับ
เราเดินต่อเรื่อยๆเข้าย่าน Old Quarter ใช้เวลาที่เหลือไปกับการเดินช็อปปิ้งที่ตลาดตงส่วน ตลาดค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ตั้งใจเอาไว้ ได้ของฝากของที่ระลึกติดไม้ติดมือมาเพียบ
[12 ธ.ค. 54 20:40:19
]
เสร็จจากซื้อของก็ใกล้เวลากลับแล้ว ทุกคนเดินกลับมาที่โรงแรม Friendly Travel เพื่อรับกระเป๋า เรามาช้าไปเล็กน้อย พี่พนักงานบอกเราว่าพอดีห้อง 12 เหรียญมีคนมาพักไปแล้ว แต่ได้สำรองไว้ให้เราอีกห้องคือห้อง 14 เหรียญ แต่ห้องใหญ่ขึ้น เราก็ตอบตกลงครับ และห้องก็ใหญ่กว่าเดิมจริงๆ เอาไว้นอนกัน 4 คนได้เลย
แล้วเราก็อาบน้ำ และเตรียมตัวกลับบ้าน (ยกเว้นผม) เวลาตอนนั้น 6 โมงเย็นแล้ว
[12 ธ.ค. 54 20:40:39
]
เรามีทางเลือกไปสนามบินอยู่ 2 ทาง คือ
1. ไปด้วยรถเมล์สาย 17
2. ไปด้วยรถมินิบัสไปสนามบิน
ลองดูจากแผนที่แล้ว เราเห็นว่าที่พักของเรา (จุด B ในแผนที่) อยู่ใกล้กับจุดขึ้นรถเมล์สาย 17 (จุด A ในแผนที่) มากกว่าจุดขึ้นรถมินิบัส ขณะที่รถมินิบัสนั้นเท่าที่เราสอบถามมานั้นรถจะออกเป็นรอบเวลา ห่างกันประมาณ 1 ชั่วโมง และจากการที่เราไม่ได้จองไว้ล่วงหน้า เราก็กลัวว่ารถจะเต็มก่อนครับ แถมจุดนั้นยังเต็มไปด้วยกองทัพ Taxi อีก
เราเลยเลือกจะไปด้วยรถเมล์สาย 17 ครับ เพื่อยิงยาวไปสนามบินนอยไบเลย
[12 ธ.ค. 54 20:41:05
]
เวลา 6 โมงครึ่ง เราเดินมาถึงจุดขึ้นรถเมล์สาย 17 ครับ จุดนี้ไม่ใช่แค่ต้นสายของรถเมล์สาย 17 เท่านั้น แต่ยังเป็นต้นสายของรถเมล์อีกหลายๆสายเลยครับ เปรียบได้กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิของบ้านเราล่ะครับ เราพบว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่วุ่นวายมาก คราครั่งไปด้วยผู้คนที่มารอขึ้นรถเมล์ พฤติกรรมการขึ้นรถเมล์ของคนฮานอยค่อนข้างแก่งแย่งครับ ทุกคนจะมาออกันที่ประตูตอนรถมาเพื่อให้ตนเองได้ขึ้นไปบนรถก่อนและได้นั่งครับ เพราะอย่างที่เห็นคือ รถเมล์มีที่นั่งน้อยกว่าที่ยืนครับ (คล้ายกับรถเมล์สีเหลืองในกรุงเทพฯตอนนี้ล่ะครับ)
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:41:28
]
เนื่องจากเราต้องนั่งรถเมล์สาย 17 ไปลงสุดสายครับ สัมภาระเราก็เยอะ เราเลยตัดสินใจกันว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เราจะแย่งขึ้นก่อนบ้าง เพื่อให้ได้นั่ง ไม่เช่นนั้นต้องยืนขาแข็งแบกกระเป๋าใบโตๆไปตลอดทางแน่เลย
จากคุณ : Dr.Noguchi
[12 ธ.ค. 54 20:42:00
]
ไม่นาน รถสาย 17 ก็มาครับ สมกับเป็นต้นสายจริงๆ รถว่างไปหมด เราเล็งไว้แล้วครับ
ตามคาดครับ คนแย่งกันขึ้นรถคันนี้ แต่พวกเราไวกว่า เลยได้นั่งที่นั่ง 3 ที่พอดีเลย ยิ้มครับ
รถจอดที่สถานีนี้ไม่นานก็ออกครับ
แต่กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น
เมื่อเพื่อนผมคนหนึ่งพบว่ากระเป๋าสะพายข้างของตัวเองนั้นซิปเปิดอยู่ ทั้งที่ก่อนขึ้นรถเมล์รูดซิปปิดเอาไว้แล้ว
ตรวจสอบของในกระเป๋าดู พบว่า กระเป๋าสตางค์ใบเล็กหายครับ!
ชัดเจนครับ โดนล้วงกระเป๋า!!!!!!!
เพื่อนเล่าให้ฟังว่า จังหวะที่ขึ้นรถเมล์มานั้น รู้สึกเหมือนมีป้าคนหนึ่ง ใส่เสื้อกันหนาวสีดำ สวมผ้าปิดจมูก มาเบียดๆครับ แต่จังหวะตอนนั้นยังไงก็ต้องขึ้นรถเมล์ไปให้ได้ ก็เลยออกแรงดันหน่อยๆ แต่ก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเหมือนๆจะโดนดึงกระเป๋าสะพายเอาไว้
เจ็บใจมากครับ โดนมิจฉาชีพฮานอยเข้าให้แล้ว โชคร้ายจริงๆ จะกลับอยู่แล้ว
[12 ธ.ค. 54 20:42:25
]
ถึงแม้พวกเราใช้เทคนิคแบ่งเงินไว้ในกระเป๋าสตางค์หลายๆใบ แต่หายไปใบหนึ่งก็แย่เหมือนกันครับ
ให้เพื่อนลองนึกๆดูว่าอะไรหายไปบ้าง
เงินสด 100 ดอลล่าร์ โอ้ คิดเป็น 3,000 บาทเลยนะครับนั่น
SD Card ของกล้องที่ถ่ายช่วงแรก ตั้งแต่เวียงจันทน์ ถึง ฮาลองเบย์ ช่วงแรกๆ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้รีวิวของผมช่วงแรกๆไม่ค่อยมีรูปด้วยครับ เพราะผลัดๆกันถ่ายครับ เกรงว่าถ้าถ่ายพร้อมกันทุกคน แบตจะหมดพร้อมกัน อาจจะพลาดรูปสำคัญๆได้
พาสปอร์ต!
ช็อคครับ พาสปอร์ตหาย!!!!
[12 ธ.ค. 54 20:42:56
]
จังหวะที่รู้ตัวว่าโดนล้วงกระเป๋านั้นรถออกมาได้ไม่ไกล แต่ถ้าให้ลงตอนนี้เราก็ไม่รู้ครับว่าจะไปที่ไหน ป่านนี้ป้าคนนั้นคงหนีไปไกลแล้ว เพราะเราตรวจดูบนรถ ไม่มีใครส่อเค้าจะหน้าตาเหมือนที่เพื่อนผมเล่าเลย
อะไรอย่างอื่นหายพอทำใจได้ แต่พาสปอร์ตหาย พวกเราตั้งตัวไม่ติดเลยครับ
ติดตามตอนต่อไปครับ ว่าหลังจากนี้เกิดอะไรขึ้น และเราจะแก้ปัญหานี้กันอย่างไร...
[12 ธ.ค. 54 20:43:23
]
สนุกมากครับ รออ่านตอนต่อไป จบแบบตื่นเต้น
จากคุณ : aon_micro
[12 ธ.ค. 54 21:57:30
]
แหม๋ๆๆ พอตอนนี้ดันทิ้งปริศนาไว้ ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ สนุกมากครับ
จากคุณ : Dr.DJ
[12 ธ.ค. 54 22:18:47
]
ตามมาดูครับ อยากรู้ว่าจะทำยังไงเรื่องพาสปอร์ตครับ
จากคุณ : คนบ้านฉาง
[12 ธ.ค. 54 22:19:46
]
ลุ้นดีจัง ต้องระวังตัวด้วย เพราะมิฉาชีพมีอยู่ทุกทีจริงๆ
จากคุณ : jinjang
[12 ธ.ค. 54 22:56:47
]
เฮ้ยย. จริงดิ้. แล้วเพื่อนหาพาสปอร์ตเจอไหมครับ?
จะรออ่านตอนต่อไปนะครับ
ผมพอจะจำบรรยากาศบนรถเมย์สาย17ได้เหมือนกัน. ตอนที่กลับ กทม ปีที่แล้ว.
บินการ์ต้าไฟล์ท5ทุ่มกว่าๆๆ. คนบนรถเมย์เยอะมาก.
แล้วตอนนั้นผมต้องยืนตลอดทางจากฮานอย ไปนอยไบ่. กับเป้ใหญ่ๆใบหนึ่ง
ทรมานเหลือเกิน
[12 ธ.ค. 54 23:37:35
]
ลุ้นตาม..ตอนพาสปอร์ตหาย..เอาใจช่วยครับ
จากคุณ : vuddiken
[12 ธ.ค. 54 23:43:25
]
ตามอ่านตั้งแต่อันแรก จนมาถึงตรงนี้บอกตรงๆอยากลอกเส้นทางมากๆ ^^
ปล.ขอลุ้นด้วยคน กำลังมันเลย
[13 ธ.ค. 54 00:21:47
]
ทิ้งให้ลุ้นตอนต่อไปเหมือนในละครเลย ^^
จากคุณ : RiverNoReturn
[13 ธ.ค. 54 00:32:40
]
เก่งมากครับ ทำการบ้านได้ดีทีเดียว ขึ้นรถเมล์เป็นด้วย
เล่าเรื่องก็เก่ง รู้จักขมวดปมให้คนรออ่านเป็นด้วย
[13 ธ.ค. 54 10:50:42
]
รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ
จากคุณ : โกโก้ปั่นไม่ใส่วิปครีม
[13 ธ.ค. 54 10:51:22
]
น่าติดตามมากๆ ค่ะ
จากคุณ : ชา (ชาเขียวเย็นใจ)
[13 ธ.ค. 54 14:37:45
]
ตื่นเต้นเหมือนอ่านนิยายเลยอ่า เรื่องน่าติดตามภาำพสวยๆ
จากคุณ : เต็กกอ2000
[13 ธ.ค. 54 16:26:03
]
น่าติดตามจังครับ มีแอบลุ้นระทึกด้วย
จากคุณ : Destiny-Boy
[13 ธ.ค. 54 19:35:12
]
คืนนี้ติดตามตั้งแต่กระทู้แรกมาถึงตรงนี้ อยากบอกว่า รีวิวสนุกมาก รอลุ้นอ่านเรื่องพาสปอร์ตด้วยคนนะคะ
[13 ธ.ค. 54 23:24:56
]
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมากๆเลยนะครับ
มีกำลังใจเขียนรีวิวต่อมากๆเลยครับ
ติดตามตามต่อไปได้ที่นี่ครับ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11454056/E11454056.html
[13 ธ.ค. 54 23:59:19
]