สวัสดีครับเพื่อนๆชาว BP ทุกท่าน

โพสรีวิวนี้เป็นการโพสครั้งแรกของผมในห้อง BP ครับ (เป็นสมาชิกมานานแล้ว) ผิดพลาดประการใดช่วยแนะนำน้องใหม่อย่างผมด้วยน่ะครับ

สอง-สามเดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยเราประสบปัญหาอุทกภัยอย่างรุนแรงแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทรัพย์สินและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนเป็นจำนวนมาก แน่นอนในจำนวนนั้นก็มีเพื่อนๆชาว BP ได้รับความเดือดร้อนรวมอยู่ด้วยเช่นกัน

บ้านผมถึงแม้จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติน้ำท่วม ก็ประสบปัญหาและเกิดความวุ่นวายในการใช้ชีวิตประจำวันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเตรียมตัวป้องกันน้ำที่กำลังจะมา การหาที่จอดรถไว้บนที่สูง และอื่นๆ บริษัทที่ทำงานก็ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทั้งหลายทั้งปวงผมเชื่อว่าเพื่อนๆทุกท่านคงได้รับความเดือดร้อนไม่มากก็น้อยกระจายกันไปอย่างทั่วหน้า

อย่างไรก็ตาม วันที่เลวร้ายที่สุด ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว น้องน้ำมาแล้วก็ไป หวังว่าทุกอย่างจะกลับสู่สภาวะปกติในเร็ววันครับ ขอเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ

พวกเราวางแผนไปเที่ยวเยอรมันช่วงปลายเดือน ตุลาคม (22 - 31 October 2011) ที่ผ่านมาครับ แน่นอนทุกคนรู้สึกกังวลใจอยู่ไม่น้อยเพราะช่วงนั้นสถานะการณ์น้ำท่วมยังไม่มีทีท่าจะลดลงอย่างง่ายๆ แต่ในเมื่อทุกอย่างได้ชำระเงินไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน และอื่นๆ ถึงแม้จะอยู่หรือไม่อยู่ กทม ก็ไม่ได้ช่วยทำให้น้ำลดลง THE SHOW MUST GO ON พวกเราเลยตัดสินใจไปเที่ยวกันตามแผนที่วางไว้ครับ

ผมใช้บริการทัวร์ขับรถเที่ยวของคนไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ยุโรปครับ เส้นทางขับรถพาเที่ยวเยอรมันทริปนี้ของพวกเรา ตั้งต้นกันที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ( Frankfurt ) ขับรถมาเที่ยวเมือง Heidelberg ผ่านป่าดำ (Black Forest) ไล่ลัดเลาะมาตามเขตชายแดนด้านตะวันตกบริเวณส่วนที่ติดกับฝรั่งเศส ก่อนวกเข้าแคว้นบาวาเรีย (Bavaria) และมาจบที่เมืองมิวนิค (Munich) ครับ

และช่วงที่เข้าไปเที่ยวเมืองไฟรบวร์ก (Freiburg) ในเขตป่าดำ ผมแวะเข้าไปเที่ยวประเทศฝรั่งเศสตรงบริเวณรอยต่อเขตชายแดนที่อยู่ติดกันกับเยอรมันมาครับ เนื่องจากได้ยินชื่อเสียงความงดงามของหมู่บ้านนี้มานานพอสมควร พวกเราเลยไม่ลังเลที่จะใส่เมือง Riquewihr (ริค-เวีย) ไว้ในแผนเที่ยวครับ

ภาพเปิดกระทู้ ภาพทุ่งไร่องุ่นของเมือง  Riquewihr ใบองุ่นสีเหลืองทองกำลังสลัดใบทิ้งเพื่อต้อนรับฤดูหนาวที่กำลังมาเยือน

ทริปนี้นอกจากจะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ยังได้มีโอกาสไปเยือนเมืองเล็กๆน่ารัก ที่อยู่ในหุบเขาถูกโอมล้อมไปด้วยไร่องุ่น

เมืองนี้ชื่อว่าเมือง Riquewihr  (ชื่อเมืองอ่านออกเสียงว่า ริค-เวีย) เป็นเมืองที่ผมรู้สึกประทับใจมากที่สุดเมืองหนึ่งในทริปนี้ครับ

รวมลิ้งค์รีวีวิวทริป GERMAN AUTUMN LEAVES

R I Q U E W I H R : หมู่บ้านมรดกโลก เมืองแห่งไร่องุ่น เมืองริค-เวีย
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11455252/E11455252.html

C O L M A R : ลิตเติ้ลเวนิซ เมืองน่ารัก เมืองโกลม่าร์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11460817/E11460817.html

N E U S C H W A N S T E I N : ปราสาทเทพนิยายนอยชวานสไตน์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11470665/E11470665.html

F R A N K F U R T : เมืองหลวงทางการค้าของเยอรมัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11475687/E11475687.html

H E I D E L B E R G : เสน่ห์เมืองโรแมนติค เสน่ห์เมืองไฮเดลแบร์ก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11479143/E11479143.html

F R E I B U R G : เดินละเลียดชมเมืองน่ารัก เมืองไฟรบวร์ก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11486344/E11486344.html

BLACK FOREST : ล่องเรือในทะเลสาบ Titisee, แวะชมทุ่งดอกเรปส์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11490877/E11490877.html

ETTAL ABBEY : เยี่ยมสำนักสงฆ์เอ็ททาล, พาชมโบสถ์แสวงบุญมรดกโลก โบสถ์วีส์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11495019/E11495019.html

O B E R A M M E R G A U  : เดินละเลียดชมหมู่บ้านกำแพงสวย, แวะเยี่ยมปราสาทลินเดอร์โฮฟ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11499685/E11499685.html

MUNICH LOVES YOU : เสน่ห์เมืองมิวนิก เมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11501929/E11501929.html

N Y M P H E N B U R G Palace : พระราชวัง นึ้มเฟ่นบวร์ก, เดินเที่ยวชมตลาดฟิคทูอาเลี่ยนมาร์คท
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11504803/E11504803.html

RESIDENZ MUNCHEN : พระราชวังเรซิเด้นซ์มุ้นเช่น ชมขุมทรัพย์อันล้ำค่าแห่งบาเยิร์น
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11508829/E11508829.html

ความจริงแล้วเมือง Riquewihr ไม่ได้อยู่ในประเทศเยอรมัน แต่เมืองนี้อยู่ในประเทศฝรั่งเศส ติดชายแดนเยอรมันครับ เมืองนี้อยู่ในแคว้น Alsace (อัลซาส) ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Villages de France หรือว่าหมู่บ้านสุดสวยของฝรั่งเศสครับ

ถือว่าโชคดีมากๆที่ในอดีต Riquewihr ไม่เสียหายมากนักตอนสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากนั้นชาวบ้านท้องถิ่นยังคงรักษาสภาพบ้านเรือนให้เหมือนเดิมในอดีต และยังคงรักษาการทำอาชีพแบบดั้งเดิม คือการทำไวน์ ขนมท้องถิ่น ทำงานฝีมือ ซึ่งทำให้ Riquewihr กลายเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ดึงดูดบรรดานักท่องเที่ยวให้มาเยือน

ทำให้ Riquewihr ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโกอีกด้วย

เพื่อนๆที่สนใจต้องการรู้จักเมือง  Riquewihr ให้มากกว่านี้สามารถเข้าไปชมได้ที่เวป http://www.visit-alsace.com/riquewihr/

หรือ http://www.ribeauville-riquewihr.com/en/

Riquewihr ไม่ได้มีชื่อเสียงทางด้านเศรษฐกิจ ไม่ได้เป็นเมืองที่มีประชากรคับคั่ง หรือว่าเป็นเมืองท่าสำคัญ หากแต่ว่าเป็นเมืองที่มีเนินเขาสลับซับซ้อนเป็นทิว ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำไร่องุ่น มองไปทางไหนก็เจอแต่ไร่องุ่นสุดลูกหูลูกตาเลยครับ

การเที่ยวเมือง Riquewihr ที่พื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่เป็นเนินสลับซับซ้อนกัน จะสะดวกกว่าหากไปด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือขับรถเช่าครับ เพราะถ้าไม่ขับรถมาเอง คุณจะพลาดโอกาสชมความงามวิวธรรมชาติของทุ่งองุ่นระหว่างเส้นทางที่ขับรถผ่าน

Riquewihr อยู่ห่างจากเมือง ไฟรบวร์ก (Freiburg) ประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงครับ ขับรถชมไร่องุ่นไปเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึงแล้วครับ

ขับรถจากเมืองไฟรบวร์ก (Freiburg) เมื่อเข้าเขตเมือง Riquewihr จะผ่านไร่องุ่นที่ชาวไร่ลงแปลงไว้ตลอดสองฟากทาง วิวทิวทัศน์สวบงามมากๆ มองไปทางไหนก็เจอแต่ไร่องุ่นสุดลูกหูลูกตาเลยครับ

ทำให้เกิดภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สวยเกินคำบรรยายจริงๆครับ

ขับรถไปก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อยๆครับ ไร่องุ่นสีเหลืองทองกำลังสลัดใบทิ้งในช่วงปลายเดือนตุลาคม สวยงามเชียวครับ เสน่ห์ของการขับรถเที่ยวก็เพื่อมาดูวิวเหล่านี้ครับ

ซูมเข้ามาใกล้ๆ ไร่องุ่นสีเหลืองทอง ที่ด้านหลังเป็นเนินเขาสลับซับซ้อนเป็นทิว

ที่จริงไกด์บอกว่าถ้าจะลงไปถ่ายรูปกับไร่องุ่น หรือต้องการลงไปเด็ดชิม ต้องขออนุญาตเจ้าของไร่ก่อน แต่ช่วงที่พวกเราไปเป็นช่วงปลายเดือนตุลาคม ชาวไร่เขาเก็บผลผลิตไปหมดแล้ว ฉนั้นไม่ต้องขออนุญาตก็ได้

ไร่นี้ยังพอมีเหลืออยู่บ้าง เลยแวะจอดลงไปเด็ดมาชิมครับ

สำหรับเพื่อนๆที่ชอบขับรถเที่ยว + ถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ การได้มา Roadtrip ผ่านเส้นทางนี้รับรองต้องชอบแน่ๆครับ

ไหนๆมาเที่ยวเมืองมรดกโลกอย่าง Riquewihr ทั้งที เลยอยากทำความรู้จักเมืองนี้ให้มากสักหน่อย พวกเราจึงวางแผนพักที่ Riquewihr หนึ่งคืนครับ โรงแรมที่พักก็อยู่ในตัวเมืองเลย ชื่อว่า Hotel de la Couronne

ดอกเจอเรเนียมหน้าโรงแรมครับ

สวยมากเลยครับ  ตามไปเที่ยวด้วยครับ

ป้ายสัญญาลักษณ์โรงแรม

ภาพสวยมากเลยค่ะ

เมืองสวยงาม น่าไปเที่ยวจริงๆ

ทางเข้าโรงแรม ตัวตึกเก่าดูแล้วไม่เหมือนโรงแรมเลยครับ

--------------------------------------------------------------------

สวัสดีครับคุณเล็กทาโร่

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องการโพสน่ะครับ ผมโพสครั้งแรกเลยยังไม่ทราบวิธีโพสที่ถูกต้องน่ะครับ

ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวด้วยกันครับ

ไร่องุ่นสวยงามมากครับ

ตามมาค่ะ

สะดวกสบายมีที่จอดรถเฉพาะของโรงแรมให้ด้วยครับ รูปทางเข้าที่จอดรถ

--------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณครับคุณนางมารชุดส้ม

การได้พักที่โรงแรมเก่าแก่อย่างโรงแรม Hôtel de la Couronne ทำให้ได้บรรยากาศย้อนยุคสมัยก่อนได้เป็นอย่างดีเชียวครับ และแม้จะเป็นโรงแรมเก่าพื้นห้องปูด้วยไม้ แต่ภายในห้องพักก็กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

มีบริการอินเตอร์เน็ทฟรีอีกด้วย ผมได้ห้องใหญ่แบบพักได้ถึง 3 คน แต่เราจ่ายเงินเพียงสองคนเท่านั้น เพราะการมาพักโรงแรมแบบนี้เขาคิดค่าบริการเป็นรายหัวครับ พักสองคนก็จ่ายราคาเพียงแค่สองคน

Riquewihr เป็นหมู่บ้านเล็กมากครับ ในตัวเมืองมีถนน Main หลักเส้นสั้นๆเส้นเดียวเอง

สองฟากมีซอยเล็กซอยน้อยให้เดินสำรวจแบบไม่ต้องกลัวหลง ที่สำคัญนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นเนินขึ้นไปชมไร่องุ่นของชาวบ้านที่ปลูกอยู่ด้านหลังหมู่บ้านๆได้อย่างอิสระ

---------------------------------------------------------

สวัสดีครับคุณ ม่วงมหากาฬ

ยินดีครับคุณ aeewil

จากที่จอดรถของหมู่บ้าน เดินมาก็จะพบประตูเมืองเก่าแก่

ประตูเมืองเก่าก่อด้วยอิฐแดงก้อนโต ดูขลังเชียวครับ

ทันที่เมื่อเดินผ่านประตูเมืองเข้ามา ทำให้รู้สึกเหมือนว่าเราหลุดเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเทพนิยาย หมู่บ้านที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในแคว้น Alsace ของฝรั่งเศส

ผนังตึกก่อด้วยอิฐแบบโบราณ บ้านเรือนปลูกสร้างเป็นแบบอนุรักษ์ลักษณะที่เรียกว่า Timber Frame

แบบบ้านที่ฝันไว้เลยครับ สวยงามน่าอยู่

มารอชมรีวิวที่เหลือด้วยคนครับ
ไม่น่าเชื่อว่านี้รีวิวครั้งแรกหรอครับทำออกมาได้ดีมากเลยครับ

เมื่อลอดประตูเมืองเข้ามาจะพบน้ำพุประจำเมือง

สวัสดีครับคุณ mongnoi

หมู่บ้านนี้น่ารักมากครับ เดินละเลียดไม่มีเบื่อ โดยเพาะสาวๆติดอกติดใจกันทุกคน

Welcome to BP ค่า

ตามชมเดอะ แกงค์และซุปเปอร์โมเดลในเมืองที่สวยงามถูกใจสุดๆค่ะ ^^

ประตูเมืองเก่าถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของหมู่บ้าน ตกกลางคืนเขามีการประดับไฟด้วยครับ โดยที่สีของประตูเมืองจะถูกฉายด้วยไฟสปอตไลท์เปลี่ยนสีสลับไปมา น่าสนใจเชียวครับ

---------------------------------------------------------------------

สวัสดีครับคุณ Destiny-Boy

ผมทำรีวิวไว้ในเฟซบุ๊คน่ะครับ แต่รูปในเฟซบุ๊คมันออกเล็กไปหน่อย ดูแล้วไม่จุใจ เลยนำมาลงไว้ที่นี่ครับ เป็นสมาชิกมานานแล้วแต่ไม่เคยรีวิวเลยครับ เป็นครั้งแรกน่ะครับ

เมื่อเช้าปล่อยไก่ตั้งกระทู้ไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่รูปไม่ขึ้น เพิ่งทราบจากเพื่อนว่า ก่อนโพสห้ามกด พรีวิว ดูรูปน่ะครับ

ขอบคุณมากครับที่แวะเข้ามาเที่ยวด้วยกัน

สวัสดีครับน้องอุ้ม ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

มาชมประตูเมืองเปลี่ยนสีกันครับ

เขียว

ส้ม

การเดินละเลียดชมเมืองเก่าเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ผมมีความรู้สึกว่าเหมือนเดินอยู่ในเมืองเทพนิยาย

เพราะไม่ว่าจะหมุนตัวไปทางไหนก็จะพบบ้านเรือนแบบเก่า ที่เจ้าของบ้านตั้งใจปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่บริเวณประตู หน้าต่าง สวยๆเต็มไปหมดเลยครับ

ใครๆที่มาเที่ยวเมืองนี้รับรองว่าต้องตกหลุมรักแน่นอนครับ

----------------------------------------------------------------

ขอตัวไปทานข้าวก่อนครับ เดี๋ยวมาโพสต่อครับ

สวยน่าไปเยือนมากครับ

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ เคยไปเมือ 2 ปีก่อน ประทับใจมาก นอกจากริคเวียร์แล้ว เมืองละแวกนั้นสวยและน่าเที่ยวทั้งนั้นเลยค่ะ

สวัสดีครับคุณ Cherokee1
ผมเป็นแฟนคลับรีวิวเที่ยวไปกับโปสการ์ดของคุณ Cherokee1 ครับ ทริปนี้ได้ตามรอยคุณ ไปเที่ยวปราสาทเทพนิยาย กับเมืองมิวนิก มาด้วยครับ

ขอบคุณมากครับที่ทำรีวิวโปสการ์ดสวยๆให้ชม เป็นประโยชน์มากครับ และขอขอบคุณที่เข้าเที่ยวเมือง ริคเวีย ด้วยกันครับ

คุณ ทะเลดาวอาบแสงจันทร์ ขอบคุณมากครับ
พวกเรามีโอกาสแวะเมือง โกลม่าร์ มาด้วยครับ เป็นเมืองที่น่ารักไม่แพ้กันครับ

โรงแรมที่ผมพักอยู่ในหมู่บ้านเลยครับ ตื่นเช้าเปิดหน้าต่างออกมาก็เจอดอกไม้หน้าบ้านตรงกันข้าม ทำให้รู้สึกสดชื่นไปทั้งวันเลยครับ

บ้านแต่ละหลังทาสีโดดเด่นไม่แพ้กัน

แบบว่าไม่มีใครยอมใคร

ไม่รู้ว่าเค้านัดกันทาสีประชันกันหรือเปล่า

เพราะถ้าสังเกตุให้ดีแทบไม่มีสีเดียวกันแบบอยู่ติดๆกันเลยครับ

สวยงามมากๆ โรแมนติคสุดๆเลยครับ

ตึกสีหวานๆ กับบ้านไม้แบบอนุรักษ์ในเมืองเก่า เข้ากันอย่างลงตัว

ทำเอาผมเดินชมจนเพลิน เวลาหมดไปอย่างไม่รู้ตัว

---------------------------------------------------------

สวัสดีครับคุณ Koon Shy_Tour Dee
เชิญเดินเที่ยวชมเมืองได้ตามสบายครับ

ไม่สงสัยเลยว่าทำไมบ้านเรือนในเมืองนี้รวมถึงร้านค้าแทบทุกหลังมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมจริงๆครับ

บางบ้านก็ปลูกไม้เลื้อย และไม้ประดับตามขอบหน้าต่างประชันกัน

สวยมากเลยครับ สีสันสดใสถูกใจจริงๆ

ทำให้บรรยากาศของเมืองนี้มีเสน่ห์น่ารักเชียวครับ

ร้านแต่ละร้านตกแต่งมีเอกลักษณ์ของตัวเองแบบไม่ซ้ำกัน

แค่เดินดูบ้านเรือนเฉยๆก็เพลินแล้วครับ

จุดเด่นซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์และเป็นสีสันอีกอันหนึ่งของเมืองนี้คือ บรรดาป้ายที่แขวนไว้ที่หน้าร้านรูปร่างสวยงามแปลกตาที่บรรดาร้านค้า ร้านอาหาร หรือโรงแรมนำมาแขวนไว้ที่หน้าร้าน

แต่ละร้านออกแบบป้ายไม่เหมือนกันเลย ทำให้มีความรู้สึกเหมือนกับว่าเรามาเดินอยู่ในเมืองเทพนิยายครับ

ซูมเข้ามาใกล้ๆ เห็นคำว่า Hotel และ Restaurant

ภาพสวยมากกกกกกค่ะ ดูแล้วละลาย >_<

อยากไปเที่ยวจังค่ะ ชอบเมืองเล็กๆ น่ารักๆ แบบนี้
น่าไปพักผ่อน เดินเล่นสักหลายๆ วันจริงๆ

รอดูต่อนะคะ ^^

ร้านนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นภัตราคาร

อันนี้ไม่ทราบว่าร้านอะไร แต่คิดว่าน่าจะเป็นร้านพวก Cafe นั่งดื่ม(มั้งครับ)

ป้ายร้านเป็นภาษาฝรั่งเศสอ่านไม่ออก แต่ให้ Dictionary แปลได้ความว่า เป็นร้านขายพวกอุปกรณ์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร พวกช้อน ซ่อม (ถ้าไม่ถูกต้อง ขออภัยด้วยครับ)

บ้านเมืองของเขาสวยมากเลยนะคะ...

แต่คงไม่มีโอกาสไปเยือน...ขอตามติดรีวิวไปแล้วกันนะคะ...

ตึกนี้ภาพวาดฝาผนังก็สวย แถมป้ายหน้าร้านก็เก๋ไก๋ แต่ผมไม่ทราบว่าเป็นป้ายอะไร อ่านไม่ออกครับ

คุณ boy next door
บ้านและร้านค้าแต่ละหลัง เหมือนนัดกันทาสีประชันแข่งขันกันเลยครับ แถมยังประดับด้วยไม้ดอกไม้ประดับ งดงามมากๆครับ ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชม

ขอบคุณครับคุณ Clear Ice
บรรดาสาวๆติดอกติดใจเมืองนี้กันทุกคนเลยครับ ขอบคุณมากครับที่แวะเข้ามาเที่ยวด้วยกัน

คุณดอกโสนบานเช้า
คงมีซักวันต้องได้ไปแน่นอนครับ ถ้าวันนั้นมาถึงอย่าลืมใส่ หมู่บ้านริค-เวีย ไว้ในแผนเที่ยวน่ะครับ

เป็นธรรมดาที่แต่ละหมู่บ้านจะมีโบสถ์ประจำเมือง ขณะที่เดินชมเมืองจะพบหอคอยของโบสถ์ Vue sur l'Eglise protestante อันโดดเด่นเห็นมาแต่ไกล

อันนี้เป็นรูปยอดหอคอยโบสถ์ Vue sur l'Eglise protestante อีกมุมหนึ่ง แต่ขึ้นไปถ่ายบนเนินไร่องุ่นครับ

ซูมเข้ามาใกล้ๆครับ

ในตัวเมืองมีถนน Main หลักเส้นสั้นๆเส้นเดียว มีแยกซอยเล็กซอยน้อยให้เดินสำรวจแบบไม่ต้องกลัวหลง บางซอยก็เงียบเป็นบ้านพักอาศัยไม่มีผู้คน

แต่ทางเดินถนนในเมืองจะปูด้วยก้อนหิน สาวๆต้องระวังไม่ควรสวมใส่รองเท้ายกส้นมาเดินน่ะครับ

กำแพงภัตราคารร้านนี้อยู่ติดกับประตูเมืองดูเด่นกว่าร้านอื่นๆ เพราะนอกจากจะปลูกได้ประดับแล้ว ยังเพ้นท์รูปบนผนังกำแพงอีกด้วย

ร้านนี้ปลูกไม้เลื้อยไว้หน้าร้านสวยเชียว

ผนังกำแพงทาสีแดง

สีฉูดฉาดได้ใจ

กำแพงทาสีหวาน

สวยงามมากๆครับ
ขอบคุณที่รีวิวให้ชมครับ

อันนี้ออกโทนเขียว

ออกโทนส้ม

เหลือง

ฟ้า

คุณฟองสบู่

ขอบคุณมากเช่นกัน ที่เข้ามาชมอละบั้มครับ

ร้านนี้เริ่มเปิดไฟหน้าร้านตอนกลางคืน

ขนมที่ขึ้นชื่อซึ่งถือว่าเป็นสัญญาลักษณ์ของเมือง Riquewihr คือ  Pretzel Alsacien เมื่อเดินในตัวเมืองจะเห็นร้านขาย อยู่มากมายเลยครับ

Pretzel Alsacien มีทั้งแบบเคลือบน้ำตาล และแบบธัญพืช

อันนี้แบบธัญพืช

ร้านนี้แต่งร้านได้น่ารักเชียวครับ

ส่วนรสชาดของ Pretzel Alsacien ก็ธรรมดาไม่ถูกปากซักเท่าไหร่ แต่เข้าใจว่าเป็นสินค้าประจำเมืองแบบ โอทอป บ้านเราประมาณนั้นน่ะครับ

สวยจัง อยากไปจังเลยค่ะ

ขนมอีกอย่างเรียกว่า macaroon  ขนมมะพร้าวน้ำตาลอบ รสชาดคล้ายๆขนมบ้าบินบ้านเรา เพื่อนๆแวะซื้อกลับบ้านกัน แต่ผมไม่ได้ซื้อครับ ขอชิมอยู่ที่หน้าร้านดีกว่าไม่ต้องแบกกลับแถมสบายกระเป๋าอีกต่างหาก อิอิ

คุณ NLG สวัสดีครับ

ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวครับ เมืองนี้เหมาะมากที่สุดสำหรับสุภาพสตรีครับ สาวๆในกลุ่มติดใจกันทุกคน

เมืองนี้มีรถให้บริการนั่งชมเมืองด้วยครับ พวกเราใช้วิธีเดินชมเมืองกันเพราะเมืองแคบนิดเดียว เลยไม่ได้ใช้บริการนั่งรถชมเมือง

Hotel de ville หรือ City Hall ของเมืองนี้ครับ

จากจุดนี้ด้านหลังเป็นเนินที่ชาวไร่ลงแปลงปลูกองุ่นไว้ครับ

หมู่บ้านนี้ถูกโอบล้อมด้วยไร่องุ่นครับ นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นเนินไปชมวิวบนไร่องุ่นได้เลยครับ

ตามมาเลยครับ

มีทางเดินขึ้นเนินไปชมวิวไร่องุ่นและตัวเมืองจากมุมสูงครับ

เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอวิวแบบนี้ครับ

จะเห็นตัวเมืองอยู่ด้านล่างและโบสถ์ประจำเมือง

*

**

***

****

*****

ขอปิดท้ายกระทู้ด้วยภาพประตูเมืองเก่าของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกครับ

ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาให้คอมเม้นต์ และเข้ามาชม + อ่านกระทู้ครับ

น่ารักมากเลยค่ะ  อยากไปซักครั้ง  กำลังหาที่เที่ยวน่ารักๆแถบยุโรปพอดี  ขอบคุณที่เอามาให้ชมนะคะ :)

สวยมากเลยครับ...อยากไปๆ...จขกท.ถ่ายทอดความงามออกมาเป็นภาพได้ยอดเยี่ยมมากครับ...นับถือๆ

เหมือนหลุดเข้าไปในเทพนิยายเลยค่ะ...นี่ถ้ามีเด็กๆแต่งชุดพื้นเมืองมาเดินๆซะหน่อยก็ใช่เลย^^ ภาพสวยมีชีวิตชีวาดูแล้วเพลินตาเพลินใจดีจริงๆ
ทริปน่าสนุก และน่าตามรอยมากค่ะ

มาดูจนจบค่า เมืองน่ารักจริงๆ อยากไปง่ะ >_<

ไร่องุ่นสวยมากๆเลยครับบ น่าไปเที่ยวมากๆ ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆครับบ

ไม่ว่าจะดูซักกี่ครั้งก็มีความสุขค่ะ

ยินดีต้อนรับการรีวิวแรกใน BP ค่ะคุณจิโร่ ^_^


รูปใหญ่ดูแล้วสวยมากๆเลยค่ะ

เมืองสวยมากเลยครับ

แวะมาดู แล้วก็คิดถึงบรรยากาศสวยๆที่เยอรมัน หรือแถบยุโรป
เวลาดูรูปที่เพื่อนๆในห้องบลู โพส เราก็จะเข้ามาทักทายและก็บอกว่า
ที่นั่นก็เคยไป ที่นี่ก็เคยอยู่ ดูๆเหมือนคนบ้าหรือโกหก
แต่เราเคยอยู่ที่เยอรมันประมาณ 7 ปี
เป็นประเทศที่ประทับใจที่สุดในบรรดาประเทศต่างๆที่เคยไปอยู่
สวยงามทุกแห่ง แม้กระทั่งส้วมริมทาง ออโต้บาห์น ก็ยังสวยเลย
ชอบขับรถลัดเลาะไปตามทุ่งนา ป่าเขา และนอน ซิมเมอร์ไฟร สนุกดีค่ะ

รูปสวยมากเลยครับ น่าไปเที่ยวจัง ^^

ถ่ายภาพสวยมากเลยค่ะ ดูแล้วคิดถึงริคเวียจังเลย

คุณ Shundan
นอกจากเมืองริคเวีย แล้ว บริเวณใกล้ๆกันยังมีเมืองสวยน่ารักอีกหลายเมืองเลยครับ เช่นเมืองโกลม่าร์ ซึ่งผมจะรีวิวในกระทู้ถัดไปครับ ทั้งริคเวีย และโกลม่าร์ ทั้งสองเมืองเป็นเมืองน่าเที่ยวมากๆครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

คุณ mordek1
ขอบคุณมากเช่นกันครับ ที่เข้ามาให้กำลังใจ

คุณ แม่หญิงพิมาลา
เขาว่าเมืองนี้ตอนคริสมาสก็สวยมากๆครับ เขาจะตกแต่งเมืองเหมือนเทพนิยายเลยครับ ลองหาโอกาสไปชมดูซักครั้งน๊ะครับ

คุณ Clear Ice
ขอบคุณครับที่ติดตามจนจบ หวังว่าคุณ Clear Ice จะได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองนี้ครับ เหมาะกับผู้หญิงมากๆครับ

คุณ สายลมแห่งวิงค์
ขอบคุณเช่นกันครับ ที่แวะเข้ามาเที่ยวด้วยกัน

น้องยุ
ขอบคุณครับ ไว้รอชมรีวิวสวยๆของน้องยุบ้าง

คุณกุ้ง
ขอบคุณเช่นกันครับ

คุณ ray daddy
ขอบคุณที่เข้ามาทักทายครับ

คุณ Flaminio
เข้ามายกมือสนับสนุนความคิดเห็นที่ว่าเยอรมันเป็นประเทศที่น่าเที่ยวมากที่สุดในบรรดาประเทศในยุโรปครับ เนื่องจากมีทั้งธรรมชาติที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ ผู้คนน่ารักโดยเฉพาะเมื่อออกไปเที่ยวตามบ้านนอก ถ้ามีโอกาสผมต้องไปอีกแน่ๆครับ

คุณ ออร์-ฟิ-อุส_orpheus
ขอบคุณครับที่เข้ามาเที่ยว

คุณ Blue Whale
ขอบคุณครับที่เข้ามาเที่ยว

ตามมาจากหน้าหนังสือค่า
สวย
สวย
สวย

เห็นแล้วอยากตามไปจังเลย. ผมขอตัวเก็บเงินสักสองปีก่อนนะครับ

รูปงาม..อากาศสดใสมากเลยครับ  ใบองุ่นกำลังเปลี่ยนสี..เยี่ยมๆ
ยิ่งมีนางแบบ..โพสแบบกระจุยกระจายด้วยแล้ว..น่าอิจฉา..จริงๆ

ตามมารำลึกถึงความหลังเมื่อครั้งไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์เมื่อ 12 ปีที่แล้วด้วย..ครับ
ชื่นชอบและยังประทับใจทั้ง Ribeauville, Riquewihe และ Kaysersberg
แต่พวกเราไปกันช่วงต้นเดือนสิงหาคม .. มองไปทางไหนก็เขียวขจีไปด้วยแนวไร่องุ่น
ยิ่งเห็นไกลๆ คิดว่าเนินเขาทั้งหมดถูกปูด้วยพรมสีเขียวขจีไปทั้งหมด สดชื่นและสดใสดีจริงๆ
และที่ไปแถบนี้ก็เพราะอยากไปเห็นไร่องุ่น่ะ  โดยเฉพาะแหล่งผลิต Gewurztraminer
ไวน์ขาวที่ถือว่าเหมาะกับอาหารไทยมากที่สุด  โดยเฉพาะ ต้มยำ และ แกงเขียว

ขอบคุณมากครับ..ที่พาเที่ยว

คุณ at_thajak
ยินดีครับ หมู่บ้านนี้อายุผ่านมาเป็นร้อยปีแล้วแต่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี รอคุณ at_thajak เก็บเงินไปเยือนอยู่ครับ

คุณ SyeSanDee
น่าอิจฉาจังครับ ที่มีโอกาสไปเที่ยวกับคนรู้ใจเพราะเมืองนี้โรแมนติคมากๆ น่าเดินละเลียดชมเมืองแบบไม่เร่งรีบ

ทริปที่ผ่ามาผมมีโอกาสไปแวะเพียงสองเมืองคือ ริคเวีย และโกลม่าร์ครับ คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะตามรอยคุณ SyeSanDee ไปเที่ยว Ribeauville,  และ Kaysersberg ดูบ้างครับ เพราะได้ยินว่าทั้งสองเมืองนี้ก็งามเช่นกัน

กำลังจะไปมิวนิคตอนสงกรานต์ปีหน้าค่ะ... ตอนนี้กำลังทำการบ้านอยู่ สงสัยต้องแวะไปริคเวียบ้างแล้ว ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวดีดี นะคะ

สวยมากเลยคะ เมืองน่ารักมากๆ รูปก็สวย

อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆๆๆๆๆๆๆ ค่ะ สวยมากกก และที่สำคัญน่ะวันนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆเลย กำลังหาข้อมูล 2เมืองนี้RIQUEWIHR  กับ Colmar อย่างหนักเพราะกำลังทำแผนจะไปเมษาค่ะ

รูปสวยมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
อิจฉาจังเลย...

เมืองนี้สวยน่ารักมากค่ะ ชอบบ้านแบบ Timber Frame ด้วย เก๋ดีค่ะ
เราชอบเมืองแถวๆAlsaceจัง สวยทุกเมืองเลย เลือกไปไม่ถูกจริงๆ

บรรยากาศดีมากเลยนะครับรูปสวยมาก
อยากตามรอยครับ

คุณหนูน้อย
เชียร์ให้แวะไป ริคเวีย กับโกลม่าร์ ให้ได้น่ะครับ รับรองไม่ผิดหวังครับ

คุณRioMommy
ขอบคุณมากครับ

คุณKTOne
ดีใจด้วยครับที่พบรีวิว ทั้งริคเวีย และโกลม่าร์ ในวันเดียวกัน ขอให้เที่ยวให้สนุกน่ะครับ

คุณapitsara
สวัสดีครับ ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวด้วยกันครับ

คุณAngel without wings
เลือกไม่ถูก ก็ไปมันทุกเมืองเลยครับ เข้าไปค้างสักคืน สองคืน คิดแล้วน่าอิจฉาจัง

คุณลุงแบกเป้
เชิญตามรอยให้ได้น่ะครับ รับรองว่าไม่ผืดหวังแน่นอนครับ

....ภาพสวยมากค่ะ ขอบคุณค่ะ...

บรรยากาศน่าไปเดินเล่นจังเลยค่ะ ขอบคุณมากสำหรับภาพสวย ๆ และเรื่องเล่าดี ๆ นะคะ

คุณ Angy_A
ขอบคุณเช่นกันครับ ที่เข้ามาชมรีวิว

พี่ม้าแก้ว หรือเปล่าครับ ผมจิโร่ครับ
เป็นน้องใหม่ที่ห้อง BP แห่งนี้ครับ แต่ว่าผมสมัครห้อง กีฬา ไว้นานแล้วครับ
ผมเพิ่งเริ่มมาโพสที่ห้องนี้ครับ พี่ม้าแก้วมีอะไรช่วยแนะนำด้วยครับ
ไม่ได้คุยกับพี่นานเลย พี่สบายดีน๊ะครับ

สวย น่ารักมากค่ะ เมืองนี้

เห็นนางแบบสวยๆ โพสต์ท่า อยากไปเป็นแบบถ่ายภาพ portrait มั่งจัง

มุมไหนก็สวยไปหมด

ขอบคุณที่ทำให้เราได้รู้จักเมืองน่ารักอีกเมืองนะคะ

ใช่ค่ะ พี่ม้าแก้วเข้ามาชมแล้วไม่กล้าทัก เห็นบรรยากาศ คคห ที่ ๒๕ แล้ว ใจแทบขาด เพราะน่าไปเดินเล่นมาก ๆ ค่ะ อยากไปมากที่สุด
เพิ่งหายเหนื่อยจากน้ำท่วมบ้านค่ะ
ได้ชมกระทู้สวย ๆ อย่างนี้หายเหนื่อยไปเลยค่ะ ขอบตุณน้องนะคะ

คุณ hollaneung
ยินดีและขอบคุณเช่นกันครับ ที่เข้ามาเที่ยวด้วยกัน

พี่ ม้าแก้ว
น้องน้ำมาแล้วและก็ไปแล้ว ขอให้ทุกอย่างกลับเหมือนเดิมอย่างไวน่ะครับ วิกฤติน้ำท่วมครั้งนี้เดือดร้อนกันทั่วหน้า ขอบคุณพี่มากครับที่เข้ามาชมกระทู้ เมืองนี้โรแมนติค เหมาะกับพี่ ม้าแก้ว มากๆครับ ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะไปเที่ยวน่ะครับ

ขอบคุณคุณพี่จขกท นะค้า เมืองสวย ถ่ายทอดออกมาได้ยอดเยี่ยมเลยค่า เห็นแล้วอยากตามไปบ้าง ไม่เคยมีเมืองนี้อยู่ในลิสต์เลย ไปฝรั่งเศสมาสองที ไปโปรวองซ์มาทั้งสองครั้ง ยังไม่ได้ไปแถบอัลซาสเลย เล็งไว้หลายที ต้องตัดใจ เพราะมันค่อนข้างไกลพอสมควร ไม่ค่อยชอบเปลี่ยนที่นอนอ่ะค่ะ เก็บกระเป๋าแล้วรู้สึกเหนื่อย  แต่ชอบขับรถเที่ยวมากเลยค่ะ ยุโรปน่าขับเที่ยวมากๆ เคยทำสถิติเก้าโมงเช้ายันเที่ยงคืนเหมือนกันค่า อิ อิ

อ่านรีวิวนี้แล้วอยากลุกขึ้นมาเที่ยวอีกครั้ง ติดที่ลูกชายเพิ่งหกเดือน นับวันรอเมื่อไหร่เค้าจะโตน้า อยากพาเค้าไปเที่ยวด้วยกัน เดินกอดคอกัน เล่าเรื่องโน้นนี้ให้เค้าฟัง

ขอบคุณนะค้า

คุณ sastress

สวัสดีครับ คราวหน้าถ้ามีโอกาสลองมาเดินละเลียดชมบ้านเมืองตามชนบทแบบเมืองนี้ดูน่ะครับ รับรองต้องชอบแน่ๆครับ ยิ่งถ้าชอบขับรถด้วยิ่งเดินทางเข้าถึงเมืองน่ารักตามชนบทได้ง่ายกว่าเดินทางด้วยรถไฟน่ะครับ

เอาใจช่วยให้ ตัวเล็ก โตไวๆครับ จะได้พาไปเที่ยวด้วยครับ

สวยมากๆเลยค่ะ  

ภาพถ่ายแต่ละรูป สวย หวาน ดูแล้วมีความสุข

เกือบพลาดแล้ว ขอบคุณที่แนะนำให้ย้อนกลับมาดูนะคะ

ภาพสวยมากเลย ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ
เก็บไว้ใน list เมืองที่อยากไปเที่ยวของตัวเองแล้ว
จะรอชมรีวิวตอนต่อไปค่ะ

คุณ SuPerHyPerOverUltraGLUE .............. ทั้งโกลม่าร์ และ ริคเวีย อยู่ใกล้กัน ควรเข้าไปเที่ยวทั้งสองเมืองเลยครับ

คุณ adenium ................... ขอบคุณครับ และดีใจที่ชอบเมืองนี้ครับ

รีวิวนี้สวยมากๆค่ะ ชวนให้อยากตามรอยไปเที่ยวจัง  
ขอเวลาเก็บสะตังค์สักน่อย  
ขอบคุณและรอติดตามชมรีวิวครั้งต่ะๆไปด้วยคนนะคะ

คุณ สาวหน้าใส

ขอบคุณเช่นกันครับที่เข้ามาชมรีวิว เมืองนี้มีเสน่ห์มากๆครับ ใครๆก็หลงรัก

บ้านเมืองเค้าสวยจังนะคะ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆค่ะ^^

คุณสามแซ่

ขอบคุณเช่นกันครับ เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกครับ ทั้งหมู่บ้านได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้คงสภาพเดิมเป็นอย่างดีครับ เป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากๆครับ

ถ่ายภาพ สวย มาก มาย คร่าาาาา .. ชอบ ชอบบบบ

ดูแล้วอยากตามไปเที่ยวเลยค่ะ (แอบ Copy รูปวิวไว้เกือบหมดเรยคร่ะ) อิอิ

ขอบคุณนะคร๊ะ .. ^^

คุณ Nu_Kom ............. ยินดีและขอบคุณครับ ที่เข้ามาเที่ยว ก๊อปปี้รูปไปแล้ว ต้องไปเที่ยวเมืองนี้ด้วยน๊ะครับ

ดูแล้วใจละลาย น้ำตาจะไหลเลยค่ะ สวยน่ารักมากๆๆๆ ชอบเมืองแบบนี้จัง เป็นเมืองเล็กๆ แต่สวยมากกกก ดูสงบ บรรยากาศดี น่าไปเที่ยวมากๆค่ะ กำลังแพลนจะไปเยอรมนีกับฝรั่งเศสพอดี ต้องใส่เมืองนี้ไปในแพลนให้ได้เลย แต่มีใครพอทราบจะมั้ยคะว่าถ้านั่งรถไฟจากเยอรมนีเข้าฝรั่งเศสมาที่เมืองนี้ ต้องนั่งจากเมืองไหนใกล้สุดคะ กำลังแพลนทริปหัวหมุนเลย กะจะไปสามประเทศเลยตีกันวุ่นไปหมด

คุณ Lala_............ สวัสดีครับ ทั้งสองเมืองสวยไม่แพ้กัน กินกันไม่ลงครับ

ริคเวีย หมู่บ้านมรดกโลกมีไร่องุ่นเป็นเนินอยู่ในหมู่บ้านเลยครับ สามารถเดินขึ้นไปชมวิวได้ครับ ตัวหมู่บ้านยังคงอนุรักษ์ให้เหมือนเดิมไว้เป็นอย่างดีครับ

โกลม่าร์ เมืองโรแมนติคที่คู่รักชอบมาเที่ยว เมืองที่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับสวยงามมากๆ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเวนิซน้อยเพราะในตัวเมืองเก่ามีคลองเล็กคลองน้อยเต็มไปหมด

ทั้งโกลม่าร์ และ ริคเวีย ทั้งสองเมืองไม่กว้างมากครับ เดินเที่ยวได้อย่างสบาย แต่ขอแนะนำว่า ถ้าคุณLala_ เข้าไปเที่ยวเพียงเมืองใดเมืองหนึ่ง หรือเข้าไปเที่ยวแล้วไม่พักค้างคืน กลับมาคุณจะรู้สึกเสียดายน่ะครับ

ทั้งสองเมืองห่างกันเพียง 12 กิโลเมตร การเดินทางให้นั่งรถไฟไปลงที่โกลม่าร์ครับ จากโกลม่าร์ให้นั่งรถบัสเข้ามาเที่ยว ริคเวีย ต้องตรวจสอบรอบรถบัสให้ดีน่ะครับ เพราะมีวิ่งไม่กี่รอบในหนึ่งวันครับ