ทริปไหว้พระอยุธยา ตามหาพระ องค์ดำ (ตอนที่ 4: วัดพระศรีสรรเพชญ)

ต้องกล่าวสวัสดีเพื่อนๆ ที่รู้จักและเคยติดตามกระทู้ พาเที่ยวเชิงวิเคราะห์เจาะลึกของผม ช่วงนี้ห่างหายไปหลายเดือน เพราะติดน้ำท่วม ที่ต้องเปลี่ยนแนวไปรายงานน้ำท่วมในห้องข่าวมาตลอด  วันนี้จะได้มาเดินทางต่อกัน จากตอนที่แล้ว ที่ตามหาพระ องค์(สี)ดำ ที่อยุธยากัน และได้พบแล้วคือ หลวงพ่อมงลคลบพิตรนั่นเอง ซึ่ง ในระหว่างที่เดินออกมาจากวิหารนั้น ก็ได้สังเกตุคนเดินไปเที่ยว ชมเจดีย์ใหญ่ 3 องค์ ที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ใกล้ๆ จึงได้เข้าไปดู พบว่าเป็นวัดพระศรีสรรเพชญ ซึ่งต้องเสียค่าเข้าชม 10 บาท ราคาคนไทยก่อน ซึ่งผมก็ซื้อตั๋วเข้าไปดู เพราะไหนๆ ก็มาถึงแล้ว

ขอวางลิ้งค์ในตอนก่อนหน้านี้ให้ดูกัน เผื่อใครสนใจเข้าไปตามดูได้นะครับ
ตอนที่ 1 :วัดพนัญเชิง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11122517/E11122517.html
ตอนที่ 2 :วัดใหญ่ชัยมงคล - สถานีรถไฟอยุธยา
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11147364/E11147364.html
ตอนที่ 3 :วิหารพระมงคลบพิตร
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11167148/E11167148.html

และเพื่อกันสับสนในเรื่องน้ำท่วม คือทริปนี้ผมไปมาเมื่อปีที่แล้วครับ สภาพเดิมๆก่อนน้ำท่วมนะครับ

จากคุณ : mirage_II [14 ธ.ค. 54 15:01:56 ]
ความเห็นที่ 1

ตั้งแต่เริ่มตั้งกระทู้ตอนแรก น้ำยังไม่ท่วมอยุธยา จนปัจจุบันน้ำได้ลดลงจน เกาะประวัติศาสตร์ได้เปิดให้เที่ยวชมได้ปกติแล้ว ซึ่งหลังจากชมกระทู้ผมแล้วก็อาจนึกอยากไปสำรวจ ดูด้วยตาตัวเองชัดๆ ก็เชิญตามสบายได้นะครับ ผมเองระหว่างจัดเตรียมภาพก็ยังรู้สึกอยากกลับไปดูอีก เพราะตอนที่เข้าไปนั้น ไม่ได้เตรียมการหาข้อมูลอะไรมาก่อนเลย เลยเดินวนไปวนมา ถ่ายภาพตรงโน้นที ตรงนี้ที รู้สึกว่ายังขาดภาพบางจุดไปด้วยซ้ำ

แต่ก็ยังดีที่ได้กลับมาคิด วิเคราะห์ สรุป ว่าสิ่งใดอยู่ตรงไหนบ้าง ต้องยอมรับว่า วัดพระศรีสรรเพชญนี้มี โบราณสถาน หรือ วิหารเยอะจริงๆ แถมอยู่ในสภาพชำรุดคล้ายๆกัน มากมายลานตาไปหมด จนยากแก่การสังเกตุจดจำได้ว่า นี่คือวิหารอะไร จำต้องมีแผนที่ประกอบในการเดินชม

ผมจึงขอนำภาพแผนที่ดาวเทียมมา เพิ่มเติมเส้นทางการเดินสำรวจของผมด้วยเส้นสีเขียว เพื่อดูจุดต่างๆ ในวัดครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 15:09:18 ]
ความเห็นที่ 2

ขอมารอชม............ขอบคุณครับ

จากคุณ : low batt [14 ธ.ค. 54 15:12:51 ]A:49.49.77.224 X: TicketID:329936
ความเห็นที่ 3

เริ่มจากการเข้าประตูด้านข้างที่ติดกับวิหารพระมงคลบพิตร เข้าไป มีแผ่นป้ายรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับวัดพระศรีสรรเพชญ พอสรุปรวมกับที่ค้นในเว็บไซต์ กูเกิ้ล ดังต่อไปนี้

"วัดนี้เป็นต้นแบบวัดพระแก้วที่กรุงเทพฯ คือมีวัดอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง  วัดนี้แต่เดิมเป็นพระราชวัง ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พ.ศ.1991) ได้ทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือของวัดนี้ ซึ่งก็คือ พระราชวังโบราณ แล้วยกที่เดิมนี้ให้เป็นเขตพุทธาวาส ก็คือวัดหลวง ที่ไม่มีพระจำพรรษา แต่ใช้ในพระราชพิธีต่างๆ

ส่วนความเป็นมาของพระสถูปเจดีย์นั้น มีการสร้าง 2 ครั้ง ครั้งแรกสร้าง 2 องค์ ทางด้านทิศตะวันออกก่อน ในปี พ.ศ.2035  โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (พระราชโอรสของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ) ได้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุ พระบรมอัฐิ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ และ พระบรมราชาธิราชที่ 3 (พระเชษฐาของพระองค์)  แล้วต่อมาในสมัยพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระหน่อพุทธางกูล ผู้เป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ที่สร้างพระสถูปเจดีย์ 2 องค์แรกนั่นเอง) จึงได้สร้างเพิ่มขึ้นอีก 1 องค์ทางทิศตะวันตกในภายหลัง (ประมาณช่วงปี พ.ศ.2072 - 2076) เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2

สำหรับวิหารหลวงที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของ พระสถูปเจดีย์ที่ 1 นั้น ได้สร้างสมัย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ในปีพ.ศ.2042  ซึ่งในปีถัดมาพระองค์ได้หล่อพระพุทธรูปปางยืน สูง 16 เมตรไว้ในวิหาร พระราชทานนามว่า พระศรีสรรเพชญดาญาณ ซึ่งปัจจุบันได้ชำรุดเสียหายมากเมื่อคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 จนเหลือแต่แกนสำริด ครั้นจะหล่อใหม่อีกครั้ง ก็ไม่สมควรเลย รัชกาลที่ 1 จึงโปรดให้สร้าง พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ ครอบไว้ที่วัดพระเชตุพนฯ

นอกจากนี้ในระหว่างเจดีย์ทั้ง 2 องค์นั้น ได้มีการสร้างมณฑป คั่นไว้ (ปัจจุบันได้เหลือแต่ซากฐานอิฐเท่านั้น) ในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (ช่วงปีพ.ศ.2172 - 2198) และพบร่องรอยการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัย พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (ช่วงปี พ.ศ.2275 - 2301)

หลังจากนั้นช่วง รัชกาลที่ 5 ได้มีการขุดสมบัติจากกรุภายในเจดีย์ พบพระพุทธรูป เครื่องทองคำมากมาย จนสมัยจอมพล ป. ก็ได้มีการบูรณะอีกครั้งดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน"

มีเพิ่มเติมจากเว็บ
http://www.oocities.org/wnccnm.geo/topics/wat_srisan.htm
น่าสนใจ ครับ ว่า วัดพระศรีสรรเพชญ ที่เดิมเป็นพระราชวังหลวง นั้นเป็นที่ประทับของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) สร้างในปี พ.ศ.1873 เป็นพระราชวังที่สร้างด้วยไม้ มี 3 หลัง คือ พระที่นั่งไพชยนต์มหาปราสาท, พระที่นั่งไพฑูรย์มหาปราสาท, พระที่นั่งไอศวรรย์มหาปราสาท

และหลังจากที่ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้ทรงย้ายพระราชวังไปทางทิศเหนือ และทรงอุทิศที่ให้สร้างเป็นวัดพระศรีสรรเพชญ ใช้สำหรับสำหรับ ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และเป็นที่เสด็จ ออกทรงบำเพ็ญ พระราชกุศล ส่วน พระองค์

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 15:54:10 ]
ความเห็นที่ 4

ตามไปไห้วพระด้วยครับ

จากคุณ : เล็กทาโร่ [14 ธ.ค. 54 15:55:56 ]
ความเห็นที่ 5

ไปอยุธยาหลายรอบมาก ๆ
นั่งรถไฟไป , ไปกับบริษัท , ไปคนเดียว , ไปตุ๊กตุ๊ก ๆ
ไปกี่ครั้ง ขนลุกทุกครั้ง ...
ครั้งนี้ครั้งแรกคับที่เที่ยวแบบออนไลน์ อิอิ เกาะไปด้วยน่ะ

จากคุณ : Ultrachultz [14 ธ.ค. 54 15:58:34 ]
ความเห็นที่ 6

สวัสดี คุณlow batt ที่แวะเข้ามาทักทาย  และต้องขอขอบคุณ คุณยุงบินชุม ก่อนเลยที่ให้กิฟท์ถูกใจ ตั้งแต่ ต้นกระทู้เลย อย่างนี้สู้ใจขาดเลยครับ

รายละเอียดข้อมูลในเชิงประวัติศาสตร์เยอะไปหน่อยนะครับ แต่ก็พออธิบายให้ทราบว่า วัดนี้มีความสำคัญในอดีต และของสิ่งก่อสร้างในวัด ที่ฝรั่งต่างชาติเขาสนใจเข้ามาศึกษากัน ในขณะที่คนไทยเองกลับไม่ค่อยสนใจนัก

เอาละ...ซื้อบัตรเข้าชม เพื่อใช้ในการบริหารจัดการสถานที่ แล้วก็เดินผ่านช่องกำแพง ที่เป็นประตูผ่านเข้าออกทางด้านวิหารพระมงคลบพิตร เข้าไป ซึ่งก็ได้พบกับเจดีย์ใหญ่ 2 องค์ต่อหน้า  เป็นเจดีย์ที่ 1 กับ ที่ 2 นะครับ (ลำดับเลขที่เจดีย์นี้ ผมมารู้ตอนที่เดินสำรวจครับ)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 16:00:19 ]
ความเห็นที่ 7

สวัสดีครับ คุณเล็กทาโร่ และคุณUltrachultz : เชิญติดตามมาได้ครับ รับรองครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่เคยไปมาแล้วแน่นอน....อิอิ..ก็นั่งชมจากหน้าจอในห้องแอร์เย็นๆ ไม่ต้องเดินให้เหนื่อยครับ

พบป้ายประกาศ ห้ามปีนขึ้นบนโบราณสถานต่างๆ พร้อมรูปภาพประกอบ คงเป็นเพราะมีคนพยายามอยากถ่ายภาพกับสิ่งเหล่านี้แบบใกล้ๆ และแบบเท่ห์ๆ แปลกๆ จนอาจทำให้เกิดความเสียหาย และดูแล้วไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นสถานที่ควรให้ความเคารพ ฝรั่งชาวต่างชาติอาจไม่ทราบ คิดว่าเป็นแค่ หลักฐานทางโบราณคดี เชิงวิชาการเท่านั้น ซึ่งสำหรับคนไทยแล้ว เชิงจิตใจด้วยครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 16:05:48 ]
ความเห็นที่ 8

ตรงแนวกำแพงนี้ มองไปทางซ้ายและขวา จะเห็นเจดีย์ขนาดเล็ก สลับกับ ซากวิหารเล็กๆ เรียงรายกันไปตลอดในแนวกำแพงเลย นิยมเรียกว่า วิหารราย กับ เจดีย์ราย ครับ  ซึ่งเจดีย์รายนี้ใช้บรรจุ อัฐิของพระมหากษัตริย์ และพระบรมศานุวงศ์ แห่งกรุงศรีอยุธยา บางพระองค์  และวิหารราย นี้ก็ใช้เป็นสถานที่ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว ครับ
 น่าเสียดายที่วิหารรายนั้นเหลือแต่ ฐานราก คงสร้างด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ เมื่อถูกเผาตอนเสียกรุงครั้งที่ 2 เลยพังสูญหายไปหมด เหลือแต่อิฐที่เป็นฐานรากเท่านั้น

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 16:10:25 ]
ความเห็นที่ 9

เมื่อก้าวเข้าไปอีกเล็กน้อย ก็จะเห็นมหาเจดีย์ใหญ่ทั้ง 3 องค์เรียงรายกันสูงตระหง่านต่อหน้า แต่ก็ไม่ง่ายในการเก็บภาพให้ครบทั้งหมด ในเฟรมเดียว เลยต้องนำมาต่อกันให้ดูครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 16:12:27 ]
ความเห็นที่ 10

ลองใช้โหมดถ่ายภาพแบบมุมกว้างพานอรามาดู ได้ครบทั้งสามองค์ แถมด้วยเจดีย์รายเล็กๆ ด้านข้างมาอีก 2 องค์  บรรยากาศในวันนี้ พอดีมีนักเรียนนายร้อยเข้ามาทัศนศึกษาด้วย เลยได้ภาพนายแบบแถมมาหลายนายด้วย

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 16:16:22 ]
ความเห็นที่ 11

จากภาพข้างบนจะเห็นกำแพงเตี้ยๆ ด้านในอีกชั้น ผมเดินผ่านเข้าไปก็จะมีแนวระเบียงคตอยู่ข้างหน้า ก่อนที่จะถึงฐานเจดีย์ยกระดับขึ้นไปอีกชั้น  มองไปทางขวาจะเห็น สิ่งก่อสร้างที่คล้ายวิหารกำลังชำรุดปรักหักพัง น่ากลัวจะเกิดอันตราย จนมีการล้อมรั้วห้ามเข้าไว้โดยรอบครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 16:20:53 ]
ความเห็นที่ 12

ก้าวเลยแนวระเบียบคตเข้ามา มองไปทางขวาก็คือ สิ่งก่อสร้างปรักหักพัง ดูจากตรงนี้แล้วคล้ายกับซุ้มประตู โคปุระของพระปรางค์เลย

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 16:29:51 ]
ความเห็นที่ 13

จากตรงนี้จะมองเห็นพระสถูปเจดีย์องค์ที่ 1 ได้ชัดเจน สังเกตุง่ายๆว่ามี สิ่งก่อสร้างด้วยอิฐเหมือนห้อง ต่อไป นิยมเรียกว่า จระนำ ที่เชื่อมเข้ากับวิหารหลวง (วิหารพระศรีสรรเพชญ) ด้านทิศตะวันออก

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 16:42:32 ]
ความเห็นที่ 14

ผมขอขึ้นไปบนจระนำด้านข้างเจดีย์องค์ที่ 1 ก่อนดีกว่า น่าสนใจว่ามีอะไรอยู่บนโน้น ระหว่างที่เดินขึ้นไปก็จะเห็นสิ่งก่อสร้างปรักหักพังใกล้ชิดขึ้น

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 16:50:42 ]
ความเห็นที่ 15

ผมขึ้นไปบนจระนำแล้ว (อย่าเผลอเรียกว่า จระเข้นำ นะครับ) หันกลับลงมามองสิ่งก่อสร้างปรักหักพังด้านหลังอีกที  ดูเหมือนซุ้มประตูจริงๆ น่าจะเป็นอาคารเก็บสิ่งของใช้ สำหรับพระสถูปเจดีย์เท่านั้น เลยไม่มีชื่อโดยเฉพาะแต่อย่างใด

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 17:01:23 ]
ความเห็นที่ 16

เข้ามาในส่วนจระนำหน้าเจดีย์องค์ที่ 1 ไม่พบสิ่งใดนอกจากแท่นเปล่าๆ ที่คาดว่าจะเป็นแท่นบูชาตรงหน้าทางเข้าเจดีย์ เท่านั้น มีคนนำก้อนหินไปวางเรียงกัน และจานคงสื่อให้ทราบว่าเป็นแท่นบูชากระมังครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 17:12:54 ]
ความเห็นที่ 17

ลองเดินเข้าไปในองค์เจดีย์ดู ข้างในมีพระพุทธรูป 2 องค์ และรูปพระสุพรรณกัลยา กับแท่นบูชาให้กราบไหว้กันตามอัธยาศัย   สำหรับพระพุทธรูปยืนคงมีนัย ให้ทดแทนพระศรีสรรเพชญเดิมที่เคยประดิษฐานหน้าพระสถูปเจดีย์องค์นี้กระมังครับ (น่าเสียดายที่ ไม่มีรูปของพระศรีสรรเพชญองค์จริงเลย)

สังเกตุดีๆ ตรงส่วนบนของประตู ทางเข้า ทำไมมีส่วนโค้งแค่ครึ่งเดียว หรือคงพังลงมาครึ่งหนึ่ง เพราะข้างบนเป็นช่องโพรง อิฐด้านซ้ายเลยยึดได้ไม่ดี (สมัยก่อนไม่มีการใส่โครงเหล็กเข้าไปข้างใน ถ้าจะให้ประตูทนทานก็ต้องนำหินมาสกัดทั้งแท่งครับ)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 17:20:40 ]
ความเห็นที่ 18

ลองแหงนดูเพดานข้างบน ภายในเจดีย์องค์ที่ 1 บ้าง เป็นปล่องเข้าไปข้างในระยะหนึ่งแล้วตัน ปกติจะมองไม่เห็นเพราะมืดมาก ต้องใช้แฟลชยิงออกมาถึงเห็นครับ  เสร็จแล้วมองกลับออกมาข้างนอก จะเห็นไปไกลถึง หอระฆังด้านหน้าเลย (ตอนที่ยังไม่ถูกเผาทำลาย น่าจะมองไม่เห็น เพราะมีหลังคาวิหารหลวงบังอยู่)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 17:26:36 ]
ความเห็นที่ 19

ระหว่างเดินกลับออกมา แหงนดูส่วนบนของซุ้มประตูอีกที รู้สึกกลัวจะพังลงมาอีกข้างเหมือนกัน ข้างหน้าผมก็คือแท่นบูชาด้านหน้า เลยออกไป ก็เป็นช่องว่างระหว่างกำแพงเตี้ยๆ ที่คาดว่าแต่ก่อนคงมีบันไดเดินลงไปยังวิหารหลวงได้ นะครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 17:29:17 ]
ความเห็นที่ 20

เดินออกมาดูตรงหน้าจระนำ ที่เป็นช่องว่างของกำแพงเตี้ยๆ  มองลงไปข้างล่างเสียวเหมือนกัน เพราะเป็นช่องว่างไม่มีอะไรกั้น แต่ก่อนคงมีบันไดทอดยาวลงไปข้างล่าง  ซึ่งเป็นเนินอิฐ ผมคิดว่าคงเคยเป็นจุดที่ประดิษฐานองค์พระศรีสรรเพชญ นะครับ (ผมไม่ได้ลงไปเดินข้างล่าง เลยไม่แน่ใจ เพราะไม่เห็นมีป้ายบอกตำแหน่งเดิมของพระศรีสรรเพชญ ก่อนจะถูกย้ายไปที่วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 17:33:27 ]
ความเห็นที่ 21

ข้างหน้ามีอาคารโบราณสถานเยอะ เลยเก็บภาพแบบมุมกว้างมาให้ดูกัน

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 17:39:18 ]
ความเห็นที่ 22

มองไปทางขวา(ทิศใต้) จะเห็นวิหารป่าเลไลยก์ ชัดเจน จุดสังเกตก็คือมีเสากลมสีขาวสองต้นอยู่ตรงกลาง ข้างหน้าเป็นพระอุโบสถ  (มองไกลๆ จะเห็นพระปรางค์อยู่ นั้นเป็นของวัดพระรามฝั่งโน้นนะครับ)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 17:44:04 ]
ความเห็นที่ 23

ภาพซ้าย : มองไปทางเหนือ เป็นช่องทางลงบันไดอีกด้าน จะเห็นพระราชวังโบราณอยู่ไม่ไกล เดี๋ยวสักครู่ผมก็จะแวะไปดูเหมือนกัน

ภาพขวา : ผมเดินลงมาจากจระนำ แล้วหันกลับขึ้นไปดูข้างบนอีกที  ดูแล้วคิดว่าคงสร้างทีหลังเจดีย์ น่าจะสร้างพร้อมๆกับวิหารหลวง ในปี พ.ศ.2042 ขณะที่เจดีย์สร้างเมื่อปี พ.ศ.2035 ห่างกัน 7 ปี  แต่ก่อนคงมีหลังคาครอบไว้ น่าเสียดายที่ไม่เคยมีภาพวาดตอนที่ยังใช้งานได้อยู่นะครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 18:56:53 ]
ความเห็นที่ 24

ภาพซ้าย : มองไปทางพระราชวังโบราณ จะเห็นช่องประตูผ่านออกไปอยู่ไม่ไกล มีวิหารรายขวางไว้เล็กน้อยครับ

ภาพขวา : เดินลงมาจากฐานเจดีย์ (ด้วยบันไดเล็ก 5 ขั้น) พบป้ายเล็กๆ ที่ว่างเปล่าอันหนึ่ง คาดว่าใช้บอกชื่อเจดีย์องค์ที่ 1

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 19:01:55 ]
ความเห็นที่ 25

ยืนตรงนี้มองไปทางหน้าวัด (ทิศตะวันออก) จะเห็นวิหารพระไตรโลกนาถอยู่ข้างหน้า ถัดไปเป็นพระที่นั่งจอมทอง อยู่ข้างหน้าสุด

สำหรับวิหารพระไตรโลกนาถนี้ เคยเป็นที่ประดิษฐานองค์พระไตรโลกนาถ (พระพุทธรูปปางยืน) ปัจจุบันได้ย้ายไปประดิษฐานที่วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 19:18:50 ]
ความเห็นที่ 26

จะว่าไปแล้ว วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯนี้ได้เก็บ สิ่งที่มีค่าจากวัดพระศรีสรรเพชญนี้ 2 ชิ้นคือ

องค์พระศรีสรรเพชญ ที่คงเหลือเพียงแกนกลาง ซึ่งได้สร้างเจดีย์ครอบไว้ ชื่อ "เจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณ"  อันเป็นเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1

องค์พระบรมไตรโลกนาถ
(ภาพจากเว็บ
http://www.oocities.org/wnccnm.geo/topics/wat_srisan.htm)

ส่วนพระประธานในวิหารป่าเลไลยก์นั้นไม่ปรากฏว่าได้ถูกย้ายไปประดิษฐานไว้ที่ใด  แต่ลองค้นดูในเว็บเกี่ยวกับวัดโพธ์ของ
http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/4-5/no06-15/wat/watpao2.html
แล้วพบว่า มีพระพุทธป่าเลไลยก์ อยู่ด้วย แต่ไม่ระบุที่มาว่าเกี่ยวเนื่องกับวัดพระศรีสรรเพชญหรือไม่ ครับ

วันนี้ขอพักกระทู้ไว้แค่นี้ก่อน ยังมีจุดสำคัญๆ ที่น่าสนใจอีกเยอะครับ คอยติดตามชมกันนะครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [14 ธ.ค. 54 20:03:08 ]
ความเห็นที่ 27

เข้ามาดูและขอเพิ่มข้อมูลนิดหนึ่งนะคร้าบบบ ซากอาคารหน้าพระเจดีย์หมายเลขหนึ่งที่จริงคือมณฑปพระพุทธบาท (แท่นอิฐที่อยู่กลางก็คือแท่นประดิษฐานรอยพระพุทธบาท) ไม่ใช่จระนำท้ายวิหารพระศรีสรรเพชญ์
จระนำท้ายวิหารฯ ที่จริงคือที่อยู่ในภาพที่ 20 (ขวา)

จากคุณ : น้องหมูแดง [14 ธ.ค. 54 20:34:53 ]
ความเห็นที่ 28

เข้ามาชมด้วยครับท่านเจ้ากรมฯ

จากคุณ : tiger's nest [14 ธ.ค. 54 21:14:26 ]
ความเห็นที่ 29

ตามไปชมแบบเจาะลึกด้วยค่ะ  เคยไปหลายครั้งแล้วแต่เที่ยวไม่ละเอียดสักที  เพราะมันร้อนนนน... อิอิ

จากคุณ : ป้าฟู [15 ธ.ค. 54 07:58:13 ]
ความเห็นที่ 30

สวัสดี คุณน้องหมูแดง : ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่ช่วยเข้ามาแก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลให้ เพราะค้นหาข้อมูลยากจริงๆ ยิ่งในสถานที่จริงแล้วแทบจะไม่ทราบอะไรเลย คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ไกด์นำเที่ยวกระมัง ไม่งั้นไกด์คงไม่มีรายได้

สวัสดีครับ คุณtiger's nest : ด้วยความยินดีครับ  ขอบคุณมากสำหรับกิฟท์นะครับ

สวัสดีครับ คุณป้าฟู : แฟนประจำกระทู้ ขอบคุณมากครับ โชคดีในวันที่ผมไปไม่ค่อยร้อน อาจเป็นเพราะผมเข้าไปเวลา 4 โมงเย็น ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงพอดี

ขอบคุณ คุณฟ้ากำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว สำหรับกิฟท์ให้กำลังใจนะครับ

วันนี้มาต่อกัน ผมเดินกลับขึ้นมาบนฐานเจดีย์ เพื่อเข้าไปดูเจดีย์องค์ที่ 2 ถัดไปครับ มีบันไดขึ้นไปยัง พื้นยกระดับระหว่างเจดีย์ที่ 1 กับ องค์ที่ 2 ซึ่งเคยเป็นมณฑปมาก่อน  มีป้ายบอกชื่อเจดีย์อยู่ที่เชิงบันไดนี้ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 13:07:09 ]
ความเห็นที่ 31

ผมขึ้นจากบันไดด้านหลังเจดีย์ (ด้านทิศเหนือ) จึงเลี้ยวขวาเพื่อเข้าไปดูข้างในเจดีย์องค์ที่ 2 กัน เพราะทางเข้าเจดีย์ทั้งสามองค์ หันไปทางทิศตะวันออก ครับ มองเข้าไปข้างในดูน่ากลัวเหมือนกัน

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 13:09:28 ]
ความเห็นที่ 32

เดินเข้าไปข้างในหน่อย จึงสังเกตว่าเป็นสถูปอยู่ภายในเจดีย์อีกชั้น ได้กลิ่นเหม็นสาปอย่างแรง จากมูลค้างคาว พื้นทางเดินเป็นทรายมีขยะรก พอดู

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 13:11:37 ]
ความเห็นที่ 33

ผมลุยเข้าไปถึงหน้าสถูปข้างใน แหงนดูข้างบนด้วยตาก็มืดๆ ต้องใช้แฟลชยิงถึงได้เห็นว่ามีค้างคาวเกาะสถูปห้อยหัวอยู่หลายตัว  มองลงมาที่พื้นพบว่า มีช่องทางเดินเข้าไปด้านหลังสถูปได้ ถ้ามีไฟฉายก็น่าเข้าไปดู ผนังเจดีย์ข้างในมีรอยคราบน่ากลัว ท่ามกลางกลิ่นมูลค้างคาวอย่างแรง

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 13:14:32 ]
ความเห็นที่ 34

ผมอยู่ข้างใน มองออกมายังข้างนอกเจดีย์ มีคำกำลังเดินเข้ามา เลยออกมาสูดอากาศข้างนอกก่อนที่จะหน้ามืดอยู่ข้างใน...ฮา มองเห็นด้านหลังของเจดีย์องค์ที่ 1 ที่มีซุ้มประตูเช่นกัน แต่เป็นผนัง ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 13:16:51 ]
ความเห็นที่ 35

ตรงเนินมณฑประหว่างเจดีย์องค์ที่ 1 กับ องค์ที่ 2 นี้มองไปทางวิหารมงคลบพิตร จะเห็นกำแพงด้านนอก กำแพงด้านใน และระเบียบคตที่มีคนนั่งพักชัดเจน

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 14:44:41 ]
ความเห็นที่ 36

ลงจากฐานมณฑป(เจดีย์ 1,2) มาเดินต่อไปยังเจดีย์ที่ 3 ระหว่างนั้นมองไปทางกำแพงด้านพระราชวังโบราณ บรรยากาศร่มรื่นกว่าฝั่งวิหารมงคลบพิตร สังเกตเห็นวิหารรายหลังหนึ่งอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์กว่าหลังอื่น เดี๋ยวสักครู่จะวนกลับมาดูข้างในกัน

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 14:50:12 ]
ความเห็นที่ 37

ตอนนี้มาถึงเจดีย์องค์ที่ 3 แล้วต้องขึ้นบันไดไปมณฑประหว่างเจดีย์องค์ที่ 2 กับ องค์ที่ 3 เช่นเคย

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 14:53:13 ]
ความเห็นที่ 38

ขึ้นมาบนฐานมณฑประหว่างเจดีย์องค์ที่ 2 กับองค์ที่ 3 แล้วก็หันไปดูด้านในเจดีย์องค์ที่ 3 ครับ   นับว่าแปลกไปกว่า 2 องค์ที่แล้ว เพราะมีช่องเข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของซุ้มประตูทางเข้า ลองเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่ามีร่องรอยถูกขุดลึกเข้าไปอีก สังเกตให้ดีว่าเป็นสถูปอยู่ข้างในแยกกับเจดีย์เช่นกัน

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 15:01:46 ]
ความเห็นที่ 39

มองกลับออกมาข้างนอก ก็จะเห็นด้านหลังของเจดีย์องค์ที่ 2  เสร็จแล้วก็ออกมายืนตรงเนินมณฑป แล้วหันไปดูวิหารพระมงคลบพิตร ได้ชัดเจนกว่าจุดอื่นๆ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 15:07:09 ]
ความเห็นที่ 40

กลับลงมาที่ฐานเจดีย์ แล้วมองขึ้นไปที่เจดีย์องค์ที่ 3 บันไดด้านเหนือมีรอยแตกร้าว สังเกตเห็นชัดเจนมาก

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 15:10:38 ]
ความเห็นที่ 41

ภาพซ้าย : เดินเลยมาเล็กน้อยเพื่อเก็บภาพบันไดขึ้นด้านเหนือของเจดีย์ทั้ง 3 องค์ได้

ภาพขวา : ลองถ่ายภาพบันไดทางขึ้นเจดีย์ด้านเหนือของเจดีย์องค์ที่ 3 เต็มๆ สักภาพ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 15:21:26 ]
ความเห็นที่ 42

มาดูอีกฝั่งของเจดีย์ ทิศใต้ด้านวิหารมงคลบพิตร ครับ สักพักก็มีคนขึ้นบันไดที่สูงชันนี้ ไปถ่ายภาพเจดีย์อื่นๆ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 15:27:38 ]
ความเห็นที่ 43

ลองขึ้นไปบ้าง ว่าข้างบนจะมีมุมมองเป็นอย่างไร (ผมขึ้นเจดีย์องค์ที่ 2 เพราะองค์ที่ 3 ไม่ว่าง) ขึ้นไปแล้ว ตรงประตูด้านข้าง(ด้านใต้) มีช่องเล็กๆ ที่มีการนำตุ๊กตานางรำแก้บนมาไว้ด้วย

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 15:35:47 ]
ความเห็นที่ 44

มองลงไปทางฝั่งวิหารพระมงคลบพิตร ตรงนี้เห็นทางเดินเข้ามาชัดเจน

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 15:40:40 ]
ความเห็นที่ 45

ปัญหาต่อไปก็คือการลงบันได ครับ ซึ่งเป็นบันไดที่สูงชันไม่มีราวบันได ต้องค่อยนั่งลงช้าๆ ถ้าเซตกลงไป ยังมีบันไดข้างล่างอีกช่วงรับต่อไปอีก คงได้ทั้งเจ็บและอายแน่นอนเลยครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 15:46:09 ]
ความเห็นที่ 46

พอดี เจดีย์องค์ที่ 3 ว่าง ผมเลยไปขึ้นบันไดข้างเจดีย์องค์ที่ 3 อีกครั้ง แล้วหันไปทางเจดีย์อีก 2 องค์ด้านทิศตะวันออก เลียนแบบช่างภาพในคห.42 ครับ  จะมองเห็นฐานมณฑปและบันไดขึ้นด้านหน้า(ทิศใต้)ชัดเจน  เสร็จแล้วก็ไม่ลืมหันมาดูวิหารพระมงคลบพิตรอีกครั้ง ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 15:53:29 ]
ความเห็นที่ 47

เสร็จแล้วก็เดินลงมาข้างล่าง เห็นคนไปยืนเล็งภาพเจดีย์อยู่ด้านทิศตะวันตก เลยไปลองดูบ้าง อ๋อ...เป็นจุดที่ถ่ายภาพเจดีย์ได้ครบทั้ง 3 องค์ในรูปแบบที่ครบมากที่สุด และเป็นภาพที่คุ้นตา สมดังคำที่กล่าวไว้ว่า "อยุธยา ยอยศยิ่งฟ้า" ก็เพราะยอดเจดีย์ที่สูงเสียดฟ้านี่เองครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 15:59:10 ]
ความเห็นที่ 48

เราไม่สามารถถ่ายภาพเจดีย์ทั้งสามองค์ได้ในลักษณะที่ไม่มีสิ่งใดมาบดบัง ผมเลยแยกถ่ายทีละองค์ แล้วนำภาพมารวมกันเปรียบเทียบให้ดู แทบไม่มีความแตกต่างกันเลย ต้องดูที่ฐานมณฑปที่ต่อเชื่อมกับซุ้มจระนำของเจดีย์แต่ละห่างเท่านั้น จึงจะทราบว่าองค์ไหนเป็นลำดับที่เท่าใดครับ

เจดีย์ทั้งสามองค์นี้ เคยทำให้ผมเข้าใจผิดคิดว่าอยู่ที่ ด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรีโน้น เพราะเคยเห็นภาพในหนังสือเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ซึ่งพอผมไปดู ก็พบว่าไม่ใช่ครับ เพราะเจดีย์ที่ด่านเจดีย์ 3 องค์นั้นเล็กมากๆ แต่ก่อนเป็นแค่กองก้อนหิน 3 กองที่คนผ่านไปพม่าวางไว้เพื่อเป็นการสักการะเจ้าที่ก่อนข้ามไปมา เรียกว่า "หินสามกอง" ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ.2472 พระศรีสุวรรณคีรี เจ้าเมืองสังขละบุรี ได้นำชาวบ้านมาสร้างเป็นเจดีย์ถึงได้มีการเปลี่ยนชื่อมาเป็นเจดีย์สามองค์ในปัจจุบัน

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 16:30:58 ]
ความเห็นที่ 49

พอมีเวลาเหลือ ผมเดินเลยไปทางทิศตะวันตกของเจดีย์องค์ที่ 3 เพื่อดูว่ามีอะไรน่าสนใจหรือไม่ ก็ได้พบกับป้าย "วิหารจตุรมุข" และสภาพวิหารที่ยังคงเหลือแค่ซุ้มประตูด้านใต้ เพียงด้านเดียว ที่เห็นการก่ออิฐตะแคงโค้งตรงส่วนบนของขอบประตู ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 16:37:08 ]
ความเห็นที่ 50

ลองเดินเข้าไปในบริเวณ วิหารจตุรมุข ตรงกลางมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่อยู่องค์หนึ่งที่ชำรุดเสียหายเหลือแต่หน้าตักและองค์บางส่วน

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 16:58:21 ]
ความเห็นที่ 51

ภาพซ้าย : นี่เป็นด้านหลังขององค์พระใหญ่ ในวิหารจตุรมุขที่ชำรุดอย่างมากจนเกือบจะไม่ทราบว่าเป็นพระพุทธรูปมาก่อน

ภาพขวา : เดินออกมาทางด้านเหนือ พอเห็นผนังวิหารที่หลงเหลืออยู่มากกว่าด้านอื่น

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 17:05:31 ]
ความเห็นที่ 52

ลุงไปครั้งล่าสุดน้ำยังไม่ท่วมอยุธยา เที่ยวยังไม่ทั่วเลย
ต้องกลับไปซ่อมซะแล้ว
ขอบคุณนะครับ

จากคุณ : ลุงแบกเป้ [15 ธ.ค. 54 17:19:23 ]
ความเห็นที่ 53

จากด้านทิศตะวันตก (วิหารจตุรมุข) ผมเดินไปทางเหนือ ฝั่งพระราชวังโบราณ พบเจดีย์ยอดหัก 1 องค์  ต้นไม้ฝั่งนี้ร่มครึ้มมาก บดบังเจดีย์ 3 องค์แทบมองไม่เห็นเลย

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 17:30:31 ]
ความเห็นที่ 54

สวัสดีครับ คุณลุงแบกเป้ : ขอบคุณสำหรับกิฟท์ให้กำลังใจครับ ถ้าได้ไปเที่ยวหลังน้ำลดนี้ถือเป็นการดีอย่างหนึ่ง ที่จะได้ตรวจสอบไปในตัวว่า ท่วมตรงไหนบ้าง มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างครับ

ระหว่างนี้ผมก็ลองพยายามหาช่องว่างต้นไม้ เพื่อถ่ายภาพพระสถูปเจดีย์ทั้ง 3 องค์ให้ได้บ้าง ซึ่งนับว่ายากจริงๆ ได้แค่ยอดเท่านั้น

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 18:20:18 ]
ความเห็นที่ 55

ตรงจุดนี้เก็บได้มากหน่อยแต่ ก็แค่ 2 องค์เองครับ  ด้วยเหตุนี้ จึงไม่เคยเห็นภาพเจดีย์จากด้านนี้เลย

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 18:32:38 ]
ความเห็นที่ 56

ระหว่างเดินเลียบกำแพงพระราชวังโบราณ ไปทางด้านเหนือ ก็พบวิหารรายหลังหนึ่งที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ดังที่เคยเห็นมาแล้วในรูป คห.36 ลองเดินเข้าไปชมข้างในว่ามีอะไรบ้าง พบว่ามีพระประธานที่ชำรุดเกือบทั้งองค์ และฐานเสาค้ำหลังคาที่เหลือโผล่ออกมาเล็กน้อย แล้วมีคนเอาก้อนอิฐไปวางทับกันให้สูง ตามที่นิยมทำกันบนภูเขา

จากรูปด้านซ้าย จะเห็นว่าไม่มีหน้าต่าง เพราะสมัยก่อนยังไม่มีการใช้ปูนซิเมต์ หรือใช้เหล็กสอดข้างใน ใช้แต่ก้อนอิฐล้วนๆ เมื่อต้องการหน้าต่างช่องระบายลม ก็เลยใช้วิธีวางให้เป็นช่องยาวๆ แทน

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 18:51:55 ]
ความเห็นที่ 57

เดินต่อมา ตรงกำแพง เห็นมีป้ายห้ามปีนขึ้นไป(ถ่ายภาพ หรือสำรวจ) เพราะอาจทำให้กำแพงพังลงมาได้  ถัดมาหน่อย ก็เป็นช่องประตูออกไปยังพระราชวังโบราณ ซึ่งมีป้อมโบราณอยู่ติดกัน น่าสนใจไปดูใกล้ๆก่อนดีกว่า  

แหม..ทีแรกคิดว่าจะมาดูแค่ เจดีย์ใหญ่ 3 องค์เท่านั้น ทำไปทำมา ชักจะแถมกันไปใหญ่แล้ว... ไม่ได้ตั้งใจมาขนาดนี้นะครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 19:04:19 ]
ความเห็นที่ 58

ป้อมยามโบราณแห่งนี้มีลักษณะแปลกคือ มีรู อยู่ข้างในด้วย เป็นรูที่ทะลุผ่านกำแพงเข้าไปในเขตพระราชวังโบราณ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามีไว้ทำไม ถ้าจะให้ตอบ ผมขอเดาว่าไว้ส่งของผ่านเข้าออก เพื่อการตรวจรักษาความปลอดภัย ส่วนประตูนั้นให้เฉพาะตัวคนเดินผ่านเท่านั้น  

ติดกันก็คือประตูผ่านเข้าออก สมัยก่อนคงทำด้วยไม้ ปัจจุบันไม่หลงเหลือ แต่เพื่อความปลอดภัย จึงต้องสร้างใหม่ด้วยเหล็กครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 19:11:47 ]
ความเห็นที่ 59

เดินผ่านประตูออกมายังเขตพระราชวังโบราณ ก็พบป้ายชื่อ และป้ายข้อมูลพระราชวังโบราณ (ซึ่งอยู่ด้านหลังป้ายขวามือในภาพ) พอสรุปได้ดังนี้ครับ

เป็นพระราชวังสร้างใหม่ จากที่เคยอยู่ในบริเวณวัดพระศรีสรรพเพชญ สร้างโดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ในปี พ.ศ.1991  ประกอบไปด้วย พระที่นั่ง7 หลัง ดังต่อไปนี้ครับ

1.พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ สร้างโดยสมเด็จพระนารายณ์ สร้างแทนพระที่นั่งเดิม "พระที่นั่งเบญจนรัตรปราสาท" ที่สร้างโดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ในตอนแรก

2.พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท สร้างโดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เพื่อเป็นที่ประทับในการออกว่าราชการและต้อนรับแขกเมือง  และทางเมืองโบราณที่บางปู ก็ได้จำลองแบบไปสร้าง(ถ้าอยากเห็นก็ต้องไปชมที่นั่น)

3.พระที่นั่งวิหารสมเด็จ สร้างโดย สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง แทนพระที่นั่งเดิม "พระที่นั่งมังคลาภิเษก" ที่สร้างโดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ

4.พระที่นั่งจักรวรรดิ์ไพชยนต์ สร้างโดย สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ใช้สำหรับใช้ประทับทอดพระเนตรการฝึกทหาร ประลองอาวุธ และขบวนแห่ทางสถลมารค (ทางบก)

5.พระที่นั่งบรรยงค์รัตนศาสน์ หรือพระที่นั่งท้ายสระ สร้างโดยสมเด็จพระเพทราชา เพื่อเป็นที่ประทับฝ่ายใน

6.พระที่นั่งตรีมุข ไม่ปรากฏว่าสร้างในสมัยใด แต่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ได้เคยโปรดให้สร้างพลับพลาขึ้นแทนพระที่นั่งนี้ เพื่อประกอบพิธีบวงสรวงอดีตบุรพกษัตริย์กรุงศรีอยุธยาเมื่อครองราชย์ ครบ 40 ปี

7.พระที่นั่งทรงปืน ไม่ปรากฏว่าสร้างในสมัยใด แต่ สมเด็จพระเพทราชา ได้โปรดให้ทำพระที่นั่งแห่งนี้เป็นท้องพระโรงเสด็จออกของขุนนาง

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 19:52:37 ]
ความเห็นที่ 60

เลยแผ่นป้ายนี้ไป ก็เป็นสนามหญ้า กับซากอิฐที่เคยเป็นฐานรากของพระที่นั่งต่างๆ เนื่องจากระยะทางดูไกล เวลาไม่มาก เพราะคณะที่มาด้วยกัน ยังคงรออยู่แถวๆรถ (งงเหมือนกัน ว่าทำไมไม่ลงมาเดินเล่นกันบ้าง) เลยได้ภาพมาแค่นี้ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 19:55:30 ]
ความเห็นที่ 61

มองกลับมายังวัดพระศรีสรรเพชญ อันเป็นมุมมองถ้าหากเดินเข้าวัด มาจากพระราชวังโบราณ  ประตูวัดด้านนี้ไม่มีป้อมเก็บเงินค่าเข้าชมวัด คาดว่าอีกด้านของพระราชวังโบราณน่าจะมีประตูทางเข้าที่มีป้อมเก็บเงินเหมือนกัน หรือไม่มี เข้าได้ทางเดียวจากทางวัด อันนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจเพราะไม่ทราบครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 20:00:20 ]
ความเห็นที่ 62

ภาพซ้าย : เดินกลับเข้าไปใกล้วัด มองเห็นป้อมยามโบราณ ด้านนี้ที่มีรูทะลุกำแพงออกมา รูปกลมมาก จนคิดว่าอาจเป็นการมาสร้างเพิ่มในภายหลัง(น่าจะไม่ถึงร้อยปีเพราะดูแล้วเหมือนเป็นการนำท่อคอนกรีตเข้าไปเสียบแทน)

ภาพขวา : มองไปทางขวามือ เลียบกำแพงวัด มีถนนเล็กๆ คนเดินได้ยาวไปสุดกำแพงวัดเลย แต่ในใจคิดว่า คงต้องมีกำแพงต่อจากวัดไปอีก เพื่อกันคนเดินเข้ามาพระราชวังโบราณโดยตรงได้

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 20:06:53 ]
ความเห็นที่ 63

ภาพซ้าย : คือป้ายห้ามปีน เหมือนกับทางเข้าด้านวิหารพระมงคลบพิตร ครับ เห็นแบบนี้เป็นไปได้ที่จะมีทางเข้ามาจากทางพระราชวังโบราณ มิฉะนั้นจะมีป้ายซ้ำทำไม ถ้าหากมีทางเข้าทางเดียวด้านวิหารพระมงคลบพิตร

ภาพขวา : ลองเดินเข้าไปใกล้ป้อมยามโบราณนี้ดู ฝั่งด้านนอกกำแพงวัด มองเข้าข้างใน พบรูทะลุกำแพงอีกด้าน ยิ่งทำให้งงไปกันใหญ่ว่ามีไว้ทำไม เพื่อนคนใดทราบก็เข้ามาเพิ่มเติมได้นะครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 20:20:28 ]
ความเห็นที่ 64

นี่เป็นภาพแรกที่เห็น สำหรับคนที่ก้าวเข้ามาวัดพระศรีสรรเพชญจากฝั่งพระราชวังโบราณครับ จะเห็นเสาของวิหารรายที่อยู่ข้างหน้าประตูทางเข้าอยู่ 2 อัน ให้อารมณ์เมืองเก่าสุโขทัยไปเลย  แต่จะมองเห็นเจดีย์ได้เพียงองค์เดียว คือองค์ที่ 1 ต่างกับประตูฝั่งวิหารพระมงคลบพิตรที่ภาพแรกจะเห็นเจดีย์ 2 องค์ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 20:25:26 ]
ความเห็นที่ 65

เดินผ่านช่องประตูเข้ามาก็หันซ้ายขวาไปตามแนวกำแพงวัด ครับ (เพิ่งสังเกตเห็นถังขยะตรงป้อมโบราณ ดูมิดชิดดี นึกว่าไม่มีซะแล้ว)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 20:27:44 ]
ความเห็นที่ 66

จากตรงทางเข้าด้านเหนือนี้ ลองมองหามุมถ่ายภาพที่เก็บพระสถูปเจดีย์ได้ครบทั้ง 3 องค์ดู ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 20:30:11 ]
ความเห็นที่ 67

เดินเบี่ยงไปทางทิศตะวันออก คือใกล้วิหารพระไตรโลกนาถ แล้วมองไปทางเจดีย์ 3 องค์ พบว่าเก็บได้มากขึ้น แถมมี ซากปรักหักพังอยู่ข้างหน้ามากทำให้รู้สึกเหมือนย้อนอดีตไปในสมัยโบราณเลยครับ

วันนี้ขอพักกระทู้ก่อนนะครับ ยังไม่จบ ยังเหลือกลุ่มพระวิหารด้านหน้า และพระที่นั่งจอมทองอีก ไว้พรุ่งนี้มาต่อกันนะครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [15 ธ.ค. 54 20:34:37 ]
ความเห็นที่ 68

เดินมาทางวิหารหลวง (วิหารพระศรีสรรเพชญ) แล้วมองไปทางพระสถูปเจดีย์ทั้ง 3 อีกครั้ง คราวนี้ได้เห็นบันไดด้านข้างด้วย แถมได้เห็นบันไดลงจากฐานเจดีย์ที่มีป้ายบอกชื่อเจดีย์องค์ที่ 1 ที่หลุดหายไป (ภาพขวา คห.24) ด้วยครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 16:22:19 ]
ความเห็นที่ 69

ข้างหน้าผม (ด้านหน้าวิหารพระบรมไตรโลกนาถ) เป็นพระที่นั่งจอมทอง ที่ยังพอมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดเทียบกับวิหารต่างๆในบริเวณนี้ อาจเป็นเพราะผนังทำด้วยอิฐก่อหนาสูงตระหง่านราวกับป้อมปราการ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 16:28:16 ]
ความเห็นที่ 70

เดินอ้อมมาทางด้านหน้าพระที่นั่งจอมทองนี้  เห็นเสาต้นใหญ่ๆ อยู่ข้างใน ดูน่าจะมีพระองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ข้างใน เหมือนพระประธาน

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 16:32:01 ]
ความเห็นที่ 71

ภาพซ้าย : เลยมองผ่านช่องด้านหน้าพระที่นั่งเข้าไป พบแต่ความว่างเปล่าครับ ไม่มีพระพุทธรูปใดๆ อยู่ในนั้นเลย พระที่นั่งแห่งนี้ ไม่มีหลักฐานปรากฏว่าสร้างในสมัยใด แต่มีบันทึกไว้ว่า สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมได้ใช้เป็นสถานที่ ให้พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ใช้บอกหนังสือสงฆ์ ซึ่งภายหลังในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชก็ได้มีการรื้อสร้างใหม่ดังที่เห็นในปัจจุบันครับ
(ข้อมูลจากเว็บไซต์ เมืองโบราณ
http://www.ancientcity.com/en?q=/th/location/TheChomThongPalaceHall)

ภาพขวา : เดินอ้อมมาข้างหลัง เพื่อดูช่องทางเดินด้านข้างพระที่นั่ง ซึ่งมองทะลุออกไปถึงประตูกำแพงด้านหน้าวัดได้เลย

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 16:41:59 ]
ความเห็นที่ 72

จากตรงหน้าพระที่นั่งจอมทอง มองเข้าไปที่เจดีย์ใหญ่ 3 องค์อีกครั้ง จะมองเห็นวิหารต่างๆที่อยู่หน้าเจดีย์ (แถวสอง รองจากแถวแรกของพระที่นั่งจอมทอง)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 16:58:16 ]
ความเห็นที่ 73

เดินเบี่ยงมาทางพระอุโบสถ (ผมยืนตรงวิหารรายติดกำแพงด้านหน้าสุด) มองเข้าไปทางพระเจดีย์ใหญ่  จะเห็นวิหารป่าเลไลยก์ และวิหารหลวงในอีกมุมหนึ่ง

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 17:01:53 ]
ความเห็นที่ 74

ภาพซ้าย : สาเหตุที่ผมทราบว่าเป็นพระอุโบสถ ก็เพราะมีใบเสมา อยู่โดยรอบ เนื่องจากทำมาจากหินอ่อนเลยทำให้ยังคงอยู่ในสภาพดี ไม่แตกหักเหมือนก้อนอิฐ ในแต่ละจุดจะวางซ้อนกัน 2 แผ่น  แผ่นนอกจะตั้งไว้ดี แต่แผ่นในมีแตกหัก ล้มไปบ้าง

ภาพขวา : ตรงจุดนี้ถ่ายภาพเจดีย์ 3 องค์ได้สวยดูเก่าโบราณดี (สาเหตุที่ต้องทำภาพแบบซีเปียให้ดูเก่าก็เพราะบังเอิญถ่ายมาไม่คมชัดครับ)

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 17:07:16 ]
ความเห็นที่ 75

เดินเข้าไปอีกหน่อย เพื่อเก็บภาพวิหารป่าเลไลยก์ชัดๆ  น่าแปลกที่ไม่มีการบันทึกเรื่องพระประธานข้างในว่าถูกย้ายไปไว้ที่ไหนเหมือนกับ พระศรีสรรเพชญ และพระไตรโลกนาภ ที่ถูกย้ายไปไว้ที่วัดพระเชตุพฯ กรุงเทพฯ ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 17:09:19 ]
ความเห็นที่ 76

ดูคร่าวๆ เกือบครบแล้ว เลยเดินเตร็ดเตร่ไปทางกำแพงด้านใต้เล็กน้อย แล้วหันไปเก็บภาพเจดีย์ใหญ่อีกครั้ง สังเกตเห็นมีกลุ่มนักเรียนมาทัศนศึกษา นั่งรอฟังบรรยายก่อนออกไปเดินชม

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 17:12:19 ]
ความเห็นที่ 77

แถวนี้มีพระพุทธรูปหลายองค์วางไว้ใกล้กับ เจดีย์ราย ลองเก็บภาพมาให้ชมกันครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 17:16:09 ]
ความเห็นที่ 78

ระหว่างเดินกลับออกมา ได้เห็นแผนผังภายในพระราชวังโบราณและวัดพระศรีสรรเพชญ เสียดายเพิ่งมาเห็นป้ายนี้จะอยู่ติดกับเจดีย์ราย เมื่อเดินเข้ามาจากประตูด้านวิหารพระมงคลบพิตร จะอยู่ด้านขวามือครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 17:22:34 ]
ความเห็นที่ 79

มาถึงภาพสุดท้ายของกระทู้นี้แล้วครับ เป็นภาพมหาเจดีย์ใหญ่ 3 องค์ ตรงหน้าป้ายแผนที่ คห.78 นั่นแหละครับ สาเหตุทีต้องทำภาพแบบเก่าอีกครั้ง ก็เพราะต้องนำมาต่อกันแล้วสีของภาพไม่เชื่อมต่อกัน เลยเอาสีออก พอดูได้เป็นภาพเดียวกันครับ

เกือบจบแล้วครับ ทริปไหว้พระอยุธยา ยังเหลืออีกวัด คือวัดหน้าพระเมรุ ครับ ตอนสุดท้ายผมจะพาไปครับ  วัดนี้มีสิ่งที่สนใจอย่างคาดไม่ถึงหลายอย่างคือ หลวงพ่อขาว(พระพุทธรูปสีขาว) เศียรพระในต้นไม้คล้ายกับวัดมหาธาตุ และพระคันธารราฐ ศิลปะโบราณ อายุประมาณ 1,500 ปี ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 17:54:59 ]
ความเห็นที่ 80

ขอวางภาพแผนที่เดินสำรวจภายในวัดพระศรีสรรเพชญที่แก้ไขแล้ว (เปลี่ยนจาก พระวิหาร เป็น พระที่นั่งจอมทอง) ให้ดูอีกครั้งนะครับ เพราะไม่สามารถแก้ไขภาพในคห.1 ได้ครับ

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [16 ธ.ค. 54 18:37:42 ]
ความเห็นที่ 81

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยมากๆค่ะ เข้ามาชมช้าไปหน่อยไม่ว่ากันนะคะ

จากคุณ : สาวหน้าใส [20 ธ.ค. 54 00:37:45 ]
ความเห็นที่ 82

ภาพก็สวย มีรายละเอียดประกอบอีกต่างหาก ขอบคุณมากครับ

จากคุณ : preecha127 [22 ธ.ค. 54 11:14:09 ]
ความเห็นที่ 83

สวัสดีครับ คุณสาวหน้าใส และ คุณ preecha127 : ด้วยความยินดีที่ชอบครับ

วันนี้เพิ่งได้โอกาสมาต่อกันให้จบในตอนที่ 5 พาไปวัดหน้าพระเมรุ ด้านเหนือของเกาะเมืองอยุธยา สนใจติดตามไปชมกันได้ครับ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11776292/E11776292.html

จากคุณ : มิราชช (mirage_II) [1 มี.ค. 55 16:18:51 ]