สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวโลกสีฟ้า  


จากการรีวิวในครั้งก่อนกับตอนที่ชื่อว่า “สะพายเป้ล่องใต้ One Day One Night in Suratthani” เพื่อนหลายท่านทักว่าห่างหายไปซะนานเลย จริงๆแล้วเปล่าหายไปไหนนะคะ เพียงแต่ช่วงเดือนที่ผ่านมาไม่ได้ปล่อยรีวิวมาให้ชมกันก็เท่านั้นเอง เหตุผลในตอนแรกเพราะขี้เกียจเลยดองเอาไว้ แหะๆ แต่ต่อมาดันเกิดมหาอุทกภัยมาทับซ้อน ทำให้มัวยุ่งวุ่นวายหนีน้ำท่วม ไม่มีกระจิตกระใจจะเขียนรีวิวจริงๆค่ะช่วงนั้น...


แต่มาในวันนี้เมฆฝนจางหาย ท้องฟ้ากลับมาสดใสดังเดิม สถานการณ์ต่างๆเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้เรามีเวลาและกำลังใจในการกลับมาทำรีวิวอีกครั้งค่ะ

 


รีวิวฉบับนี้จะพาเพื่อนๆ มาเที่ยวเกาะสมุยและเกาะเต่า ที่ได้ชื่อว่าเป็นเกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทย เป็นการสะพายเป้แบคแพคเที่ยวกับเพื่อนๆ ค่ะ ไปทริปนี้ได้อารมณ์แบบลุยๆ ดีนะ การเดินทางของพวกเราจะเป็นอย่างไร เชิญติดตามได้ในรีวิวนี้เลยค่ะ

พวกเราเริ่มต้นออกเดินทางจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งหากใครพลาดชมรีวิวพาเที่ยวเมืองนี้ในตอนที่ผ่านมา สามารถติดตามชมย้อนหลังได้ตามลิงค์นี้เลยค่ะ

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11421724/E11421724.html


จากตัวเมืองสุราษฎร์เรานั่งรถสองแถวมาลงที่ปั๊มน้ำมัน PC ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองเช่นกัน ภายในปั๊มแห่งนี้เป็นที่ทำการและจุดขึ้นรถของบริษัทซีทรานส์ เฟอร์รี่ (Seatran Ferry) ผู้ให้บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามจากท่าเรือดอนสักไปยังเกาะสมุย


พอลงจากสองแถวก็มาซื้อตั๋วเรือ ซึ่งได้บวกรวมตั๋วรถบัสที่จะวิ่งไปส่งยังท่าเรือดอกสักด้วย ราคาคือคนละ 230 บ.ค่ะ

จากนั้นก็นั่งรอเวลาขึ้นรถ รอบต่อไปเป็น 12.30 น.

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หน้าตาบัตรโดยสารที่ได้มาค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อการเดินทางของเพื่อนๆ บ้างนะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ภายในออฟฟิตขายตั๋ว จะเป็นห้องปรับอากาศและมีเก้าอี้เป็นแถวให้นั่งรอแบบนี้ มีโทรทัศน์และนิตยสารต่างๆ ให้อ่านเพื่อรอเวลาด้วย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รถบัสของซีทรานส์ ที่จะรับผู้โดยสารจากจุดขึ้นรถในเมืองไปยังท่าเรือ  อยากบอกว่าแอร์ไม่เย็นเลยนะคะ ปรับปรุงนิดนึงจ๊ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วิ่งรถประมาณ 45 นาที ก็มาถึงท่าเรือดอนสัก จุดขึ้นเรือของบริษัทซีทรานส์ค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รูปนี้ถ่ายตอนขึ้นเรือมาแล้ว ดันพลาดลืมเก็บภาพเรือมาเสียได้    และที่เห็นในรูปนั่นเป็นท่าเรือ ต้องเดินแบกสัมภาระมาไกลพอสมควรกว่าจะถึงตัวเรือ นึกในใจ..ไม่น่าขนมาเยอะเรา



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันที่ไปโชคดีที่ฟ้าใสและแดดแรงทีเดียว  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ได้เวลาออกเรือแล้วค่ะ เริ่มต้นการเดินทางที่เวลาบ่ายสองโมง ใช้เวลาจากท่าเรือดอนสักประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ก็จะถึงเกาะสมุย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ด้านในห้องผู้โดยสาร จะแบ่งเป็นห้องปรับอากาศและแบบ Open air ด้านนอก

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีประตูเปิดเชื่อมทางเดินภายในตัวเรือ เพื่อออกไปชมทิวทัศน์ด้านนอกบริเวณหัวเรือ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หัวเรือกำลังมุ่งหน้าสู่เกาะสมุย  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แหงนมองเสากระโดงเรือ ฟ้าใสแดดแรงทีเดียว

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ถึงแล้วค่ะ...ท่าเรือหน้าทอนของเกาะสมุย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คืนแรกของการมาเยือนสมุย พวกเราพักกันที่โรงแรมเล็กๆ ที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน FX Resort Chawang

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บริเวณล็อบบี้ จะมีมุมนั่งเล่นไว้สองจุดค่ะ และนี่ก็คือหนึ่งในนั้น

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตรงนี้ก็มุมนั่งเล่นเช่นกัน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากบริเวณโถงล็อบบี้จะเชื่อมต่อกับห้องอาหารของทางโรงแรม  เดี๋ยวจะพาขึ้นไปดูห้องพักด้านบนค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ห้องนอนแบบ Delux Room

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีโทรทัศน์ตั้งบนโต๊ะเอนกประสงค์ ที่น่าจะเป็นโต๊ะทำงานได้ในตัว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ห้องน้ำจะเป็นแบบห้องกระจกใส แยกส่วนอาบน้ำกับชักโครกไว้ชัดเจน ถ้ากลัวอายก็มีผ้าม่านยาวทึบไว้ให้รูดปิดเช่นกันค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนเย็นๆ ก็พากันมาเดินเล่นที่หาดเฉวง ซึ่งจากที่พักก็เดินมาประมาณ 500 เมตรได้นะคะ เพราะไม่ติดทะเล

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ท้องฟ้ายามเย็นเริ่มครึ้มๆ มีก้อนเมฆเข้ามาปกคลุมเยอะกว่าตอนกลางวัน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แต่ท้องทะเลยามอาทิตย์อัสดงก็ยังคลื่นลมสงบเช่นเดิม  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เย็นนั้นเลือกทานอาหารเย็นกันที่ริมหาด และก็เก็บรูปมาได้แค่ตะเกียงบนโต๊ะอาหารเท่านั้น ... ตลอด    แถมทานเสร็จมีการเล่าเรื่องผีปิดท้ายมื้ออาหารอีก ให้มันได้อย่างนี้เซ่!!!  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เช้าวันต่อมาพวกเราซื้อ One Day Tour หมู่เกาะอ่างทองค่ะ รถตู้มารับที่โรงแรมแต่เช้าตอน 7 โมง และมาส่งที่ท่าเรือหน้าทอน เพื่อให้ทันออกทัวร์ตอน 8 โมง บนเรือส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ มีแต่กลุ่มพวกเราเท่านั้นที่เป็นคนไทย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งที่สอง หลังจากประกาศอุทยานแห่งชาติตะรุเตาซึ่งเป็นแห่งแรก ตั้งอยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร ตั้งอยู่ประกอบด้วยเกาะต่างๆ 42 เกาะ ส่วนมากเป็นเกาะหินปูน


จุดหมายแรกที่ทัวร์พาเรามาแวะ คือ เกาะแม่เกาะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บนเกาะแห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจเรียกว่า “ทะเลใน” ซึ่งจะต้องไต่บันไดเหล็กตามแนวเขาขึ้นไปสูงพอสมควรค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทางอุทยานทำบันไดแบบนี้ไว้อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวตลอดเส้นทางที่เดินขึ้นไป แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ เล่นเอาเหนื่อยจนลิ้นห้อยเช่นกันกว่าจะขึ้นไปถึงจุดชมลากูน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

และแล้วพวกเราก็เดินขึ้นมาถึงกันจนได้ “ทะเลใน” หรือ “ทะเลสาบกลางภูเขา”  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทะเลใน เกิดจากแอ่งหินปูนของภูเขาหินปูนยุบตัวลง เกิดเป็นทะเลสาบขนาดย่อม มีลักษณะเป็นวงรี กินเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บนจุดชมวิวสูงสุด จะมีที่ให้นั่งพักและชมวิวทะเลสาบเบื้องล่างด้วยค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากจุดชมวิวหากมองออกมาอีกฝั่งบริเวณด้านหน้าเกาะ ก็จะเห็นทิวทัศน์ของทะเลเปิดและเกาะน้อยใหญ่ของหมู่เกาะอ่างทอง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีทางเดินลงไปชมลากูนเบื้องล่างด้วย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พอลงมาอยู่ด้านล่างภายในลากูน มองดูกำแพงเขาหินปูนที่โอบล้อมทะเลใน ช่างดูยิ่งใหญ่อลังการซะเหลือเกิน  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

น้ำในลากูนสีเขียวสวยใสจัง  

แอบเข้ามาปาดขวาเบา ๆ

ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ  

คุณalmon Lover   :    ดีใจจัง...ลูกทัวร์คนแรกมาแว้ววววววววววว  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ชื่นชมความงามที่นี่ได้พักใหญ่ ก็ต้องกลับไปขึ้นเรือยังหน้าหาดซะแล้ว เดินขึ้นมายังไม่ทันหายเหนื่อยเลย

กลับออกมายังบริเวณหน้าหาดของเกาะแม่เกาะ มองเห็นเรือทัวร์ที่พาพวกเราเที่ยวอยู่ไม่ไกล บริษัททัวร์มีแพคเก็จพายคายัคด้วยนะคะ บวกเพิ่มจากราคาปกติไปอีก แต่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้เช่นกัน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ได้เวลาอำลาเกาะแม่เกาะกันแล้ว ต้องนั่งเรือยนต์ลำเล็กแบบนี้เพื่อไปขึ้นเรือใหญ่อีกทีค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ถ่ายรูปสวยมากเลยค่ะ

รูปนี้คว้ากล้องออกมาถ่ายได้ตอนเรือเล็กออกจากฝั่งมาได้ไม่ไกล น้ำทะเลสีสวยดี  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขึ้นเรือมาก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี ซึ่งจะรวมอยู่ในแพคเก็จแล้ว เป็นอาหารง่ายๆ รสชาติกลางๆ สามารถทานได้ทุกเชื้อชาติค่ะ อาหารทุกอย่างให้เดินตักใส่ถาดหลุมได้เอง ยกเว้นหนึ่งเมนูคือ น่องไก่ทอด ที่จะมีพนักงานบนเรือมาคอยหยิบให้ เพราะเกรงว่าหากคนแรกๆ หยิบไปเยอะ เดี๋ยวคนที่มาหลังๆ จะอดทาน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณเกาลัดเล็กๆ   :   สวัสดีค่ะ  ขอบคุณที่แวะมาชมรีวิวนะคะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


เมนูมื้อนี้ ได้แก่ ผัดผัก , ไก่ทอด มัสมั่นเนื้อ และผลไม้เป็นสับปะรดกับแตงโม แต่เราดันไม่ทานเนื้อก็เลยไม่สามารถหม่ำมัสมั่นได้ จึงได้เพิ่มไก่ทอดมาให้แทน แหะๆ  นอกจากนี้ตลอดการเดินทางจะเครื่องดื่ม ทั้งน้ำเปล่า น้ำอัดลม ชากาแฟ ไว้บริการฟรีตลอดค่ะ
ลืมบอกไปว่าแพคเก็จนี้ยังรวมอาหารว่างตอนเช้าด้วยนะคะ คือตอนเรือออกจะมีพวกครัวซอง กล้วยหอม ชา กาแฟ และโกโก้ร้อน ให้บริการตัวเองด้วยค่ะ

บรรยากาศบนเรือ ตอนนี้ทานกลางวันอิ่มกันแล้ว เดี๋ยวจุดหมายต่อไปจะแวะกันที่เกาะวัวตาหลับ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แล้วก็เช่นเดิมต้องนั่งเรือยนต์เล็กต่อเข้าไปที่หาด

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“เกาะวัวตาหลับ”  เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง บนเกาะที่ทั้งจุดกางเต้นท์ บ้านพัก ร้านค้าสวัสดิการ และห้องอาบน้ำไว้บริการ


เราชอบข้อความบนป้ายนี้จังค่ะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เค้าชื่อ แซลมอล ม่ายช่าย อัลมอน แง้ว ๆ  

มีทางเดินขึ้นเขาเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ มีระยะทางจากตรงนี้ไปยังจุดสูงสุดประมาณ 500 เมตร

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณSalmon Lover   :   คุณแซลมอน  ข้าน้อยผิดพลาดไปแล้วคร้า  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ส่วนสภาพทางเดินนั้น บอกได้เลยว่าไม่ได้สะดวกสบายเหมือนทางเดินชมทะเลในที่เพิ่งไปมานะคะ สำหรับที่นี่ขอใช้คำว่า “ปีนขึ้น” น่าจะเหมาะกว่านะ     เหนื่อยเป็นสามเท่าถ้าเทียบกับการเดินขึ้นไปชมทะเลในเลยหล่ะ


โดยจุดชมวิวของเกาะวัวตาหลับจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับตามความสูงที่ปีนขึ้นไปค่ะ เริ่มจาก 100 เมตร , 200 เมตร , 350 เมตร และสุดท้ายจุดสูงสุด 500 เมตร


และในรูปใบนี้ก็ถ่ายจากจุดชมวิวในระดับความสูง 100 เมตรแรกค่ะ     กว่าจะถึงจุดนี้ก็เหงื่อตกหน้ามันไปตามๆ กัน  

อีกหนึ่งมุมของทิวทัศน์เกาะวัวตาหลับ ในระดับความสูง 100 เมตร

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ด้วยความที่อยากเห็นสิ่งสวยงามมากกว่านี้ และไหนๆก็ปีนขึ้นมาได้ในระดับนึงแล้ว เลยพากันปีนต่อขึ้นไปอีกจนถึงระดับความสูง 200 เมตร ตามรูปเลยค่ะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บนจุดชมวิวของเกาะวัวตาหลับสามารถมองเห็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองสวยงามทีเดียว  สมกับเป็น “เมืองร้อยเกาะ” จริงๆ  



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เราและเพื่อนๆ ปีนขึ้นมาได้แค่เพียงระดับ 200 เมตรแรกเท่านั้นเองค่ะ แค่นี้สำหรับคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกายก็ถือว่าเหนื่อยจนลิ้นห้อยแล้วอ่ะ แถมเวลาในการทัวร์ยังมีจำกัด ขอเอาเวลาที่เหลือกลับลงไปยังหาด แล้วลงเล่นน้ำดีกว่า



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขาปีนขึ้นว่าลำบากแล้ว ขาลงยิ่งยากกว่า เพราะดูจะหาที่ยึดเกาะได้ยาก  แถมหากไม่ระวังอาจพลาดท่าล้มกลิ้งหรือลื่นไถลลงไปโดนเหลี่ยมคมๆของก้อนหินอีกตะหาก แต่ก็ยังดีที่มีเชือกขึงเป็นทางยาวให้เกาะคว้าไว้ได้ และยังป้องกันการเดินหลงออกนอกเส้นทางด้วย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ดูสภาพคุณเพื่อนแต่ละคน หมดแรงไปตามๆกัน  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

และแล้วก็ลงมาจนถึงพื้นด้านล่างได้อย่างปลอดภัยกันทุกคน  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เหลือเวลาอีกไม่มาก ลงเล่นน้ำกันดีกว่า...จากนี้ไปจนกลับขึ้นฝั่งที่สมุยไม่มีรูปมาให้ชมกันนะคะ เพราะพอลงเล่นน้ำและกลับขึ้นมาที่เรือใหญ่ก็เพลียจนไม่มีแรงจะถ่ายรูปแล้วค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คืนต่อมาเราย้ายที่พัก กระเถิบเข้ามาพักใกล้ถนนคนเดินหาดเฉวงมากขึ้น เรียกได้อยู่ติดถนนคนเดินเลยก็ว่าได้ “ Chaweng Palace “ เป็นที่พักเปิดใหม่ ตั้งอยู่บริเวณถนนคนเดินหาดเฉวง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ห้องพักอาจดูธรรมดาแต่ก็ใหม่ เพราะเพิ่งตกแต่งเสร็จได้ไม่นาน สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักก็มีตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไปค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทิ้งท้ายค่ำคืนของความเหนื่อยล้าจากการไปทัวร์หมู่เกาะอ่างทอง กับรูปหนึ่งใบบนถนนคนเดินเฉวง  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เช้าวันต่อมาพวกเราเลือกเช่ารถพร้อมคนขับ เพื่อให้พาไปเที่ยวรอบๆ เกาะสมุยค่ะ ที่จริงในกลุ่มก็มีคนขับรถเป็นนะคะ แต่ต่างคนต่างไม่วางใจกันค่ะ ด้วยความต่างถิ่นและไม่คุ้นเคยกันเส้นทางบนเกาะ แถมก็เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกกันทุกคน คิดว่าเช่ารถพร้อมคนขับน่าจะเหมาะที่สุดแล้วหล่ะ


รถมารับที่โรงแรมแต่เช้า พาไปแวะทานอาหารเช้าที่ร้านๆหนึ่ง อยู่ระหว่างทางแต่จำชื่อร้านไม่ได้อีกตามเคย ร้านนี้จะขายอาหารเช้าพวกข้ามต้ม , โจ๊ก และติ่มซำค่ะ


หน้าตาอาหารเช้าของพวกเรา  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จุดหมายแรกที่พี่คนขับรถซึ่งก็ถือทำหน้าที่ไกด์ท้องถิ่นไปในตัวด้วย พาพวกเรามาแวะ คือ จุดชมวิวลาดเกาะ เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่ระหว่าหาดเฉวงและหาดละไม ถ้าวิ่งรถจากหาดเฉวงมาหาดละไม จุดชมวิวนี้จะตั้งอยู่ระหว่างทางฝั่งซ้ายมือค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากจุดชมวิวนี้ สามารถมองเห็นทิวทัศน์หาดเฉวงได้ตลอดแนว สามารถจอดรถไว้ข้างทางและลงมาชมวิว ณ จุดนี้ได้ค่ะ ถ้าผ่านมาตอนกลางคืนก็จะสวยไปอีกแบบ เพราะจะเห็นแสงไฟริมหาดเฉวงเป็นแนวยาวเลยหล่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วิ่งรถเลยมาทางที่จะไปหาดละไมไม่ไกล ก็พบกับหินก้อนใหญ่มหึมา ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ริมถนนฝั่งขวามือ  พี่คนขับบอกว่า เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนสมัยจะทำการตัดถนนวิ่งรอบเกาะสมุยเสียอีก บริเวณที่ก้อนหินยักษ์นี้ตั้งอยู่คนที่นี่เรียกกันว่า “ช่องบุญตา” แล้วพี่คนขับก็เล่าให้ฟังอีกนั่นแหละว่า คำว่า “บุญตา” ตั้งตามชื่อนางงามคนแรกของเกาะสมุย เท็จจริงประการใดก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาแวะเดินเล่นกันที่หาดละไมอยู่พักหนึ่ง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หาดนี้ไม่ครึกครื้นเท่ากับหาดเฉวง ดูเงียบๆ โดยเฉพาะในเวลากลางวัน หากใครต้องการจะมาทะเลเพื่อเน้นการพักผ่อน ก็น่าจะเหมาะมาพักที่หาดนี้เช่นกัน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“หินตา”  สัญลักษณ์อีกจุดหนึ่ง ซึ่งบ่งบอกว่าคุณได้มาถึงเกาะสมุยแล้ว    ไม่มี “หินยาย” มาให้ดูนะคะ ถ้าใครเคยไปคงพอจะนึกภาพออกว่าเป็นเช่นไร  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บริเวณที่ตั้งของหินตาหินยาย ยังเป็นศูนย์รวมของการจำหน่ายของที่ระลึก เช่น กาละแม ซึ่งถือว่าขึ้นชื่อมาก

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หรือจะเป็นผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอยแบบนี้ก็มีเยอะแยะเช่นกัน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอตามไปเที่ยวด้วยคน.................ขอบคุณครับ

จากนั้นพี่คนขับก็วิ่งรถพาขึ้นมาบนเขาป้อม เพื่อพามาดูฝายชะลอน้ำและสวนทุเรียนบนเกาะแห่งนี้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณlow batt   :  สวัสดีค่ะ...จากรีวิวสุราษฎร์ฯ เราก็ข้ามเรือมาสมุยนี่แหละค่ะ ขอบคุณที่แวะมาติดตามนะคะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เพิ่งจะรู้ก็ตอนนั้นเองว่า อาชีพหลักอีกอย่างหนึ่งของชาวสมุยก็คือการทำสวนทุเรียน รถพาพวกเรามาลง ณ จุดนี้ เป็นร้านอาหารแห่งหนึ่งชื่อว่า “ร้านซีวิว”

ภายในร้านอาหารก็เหมือนทั่วไป แต่จะมีจุดขายตรงที่ตั้งอยู่บนเขาสูง คือ เขาป้อม ทำให้มองเห็นทิวทัศน์ของสมุยในมุมมองที่แตกต่างกว่าร้านอื่น แต่เป้าหมายของพวกเราไม่ได้จะมาทานอาหารกันที่นี่ค่ะ แค่มาแวะดูจุดชมวิวที่อยู่บริเวณหลังร้านเท่านั้น เดี๋ยวจะพาไปชมค่ะ...

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บริเวณด้านข้างของร้านซีวิว จะมีทางเดินเล็กๆ เชื่อมไปยังส่วนนี้ค่ะ  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ถึงแล้ว...จุดชมวิวเขาป้อม

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีสระว่ายน้ำไว้บริการแก่นักท่องเที่ยว ที่อยากจะสัมผัสวิวสวยๆ อีกมุมหนึ่งของสมุยด้วยนะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

/


ราคาค่าบริการสำหรับผู้ที่จะมาใช้สระว่ายน้ำนั้นไม่แพงเลยค่ะ แค่คนละ 100 บาทเท่านั้น มีห้องอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าไว้ให้ด้วย ถ้าหิวก็สั่งอาหารหรือเครื่องดื่มจากร้านมาทานด้วยก็ได้ค่ะ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากนั้นก็พากันเดินไปดูฝายชะลอน้ำกัน ซึ่งเดินจากร้านซีวิวลงไปไม่ไกล

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ระหว่างทางที่เดินจากร้านซีวิวก็ไม่ไกล แต่ตลอดสองข้างทางที่ผ่านจะเป็นสวนทุเรียนทั้งนั้น แต่ก็มีต้นมังคุดปลูกแซมอยู่บ้างประปราย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ซื้อกาละแมมาฝากเค้าป่าว

ต้นทุเรียนบนเกาะสมุย...ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากทุเรียนที่จำหน่ายกันบนเกาะสมุยส่วนใหญ่ ก็มาจากผลิตผลในสวนทุเรียนบนเกาะนั่นเอง    

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ถึงแล้วค่ะ ฝายชะลอน้ำตามธรรมชาติบนยอดเขาป้อม  ฝายชะลอน้ำตามธรรมชาติของที่นี่ใช้วิธีนำก้อนหินน้อยใหญ่ที่หาได้บริเวณใกล้เคียงมากั้นทางน้ำไว้ โดยเปิดช่องพอให้น้ำได้ไหลลงในเส้นทางเดิมอย่างช้าๆ โดยไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้นๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณHero11147   :   ซื้อมาค่า...แต่ทานหมดและ ทำไงดี อิ อิ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


พี่คนขับรถที่พาพวกเราเดินมาดู เล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจว่า  แต่ก่อนน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติบนเขาแห่งนี้ได้แต่ไหลลงไปยังพื้นที่ด้านล่างเพื่อนำไปอุปโภคบริโภคกัน แต่ระหว่างทางที่น้ำไหลคือบริเวณสวนทุเรียนเหล่านี้ กลับแห้งแล้งไม่มีน้ำเพียงพอต่อการทำเกษตรกรรม

ต่อมาชาวเกาะสมุยและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจึงมาช่วยกันทำฝายชะลอน้ำ เพื่อให้น้ำไหลลงไปสู่พื้นที่เบื้องล่างได้ช้าลง ทำให้พื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างทางน้ำผ่านมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ผลผลิตทุเรียนและพืชสวนต่างๆในแถบนี้ จึงค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ขึ้นมากกว่าแต่ก่อน...นี่แหละข้อดีของการทำฝายชะลอน้ำ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หิ้วท้องรอกันจนถึงบ่ายสองโมง ก็ได้เวลาทานอาหารกลางวันกันแล้วค่ะ มื้อนี้ฝากท้องไว้ที่ “ร้านบางปอ ซีฟู๊ด” เป็นร้านเก่าแก่ดั้งเดิมตั้งอยู่บริเวณหาดบางปอ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หาดบริเวณนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารสลับกับบังกะโลขนาดเล็กไปจนถึงกลาง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตามไปเที่ยวต่อครับบบ เพิ่งรู้ว่าบนเกาะมีปลูกทุเรียนด้วย ขอบคุณที่นำมาฝากครับบ

เลยตรงไปก็จะเป็นหาดแม่น้ำ ซึ่งถ้าใครจะข้ามไปพะงันก็ไปลงเรือที่นั่นได้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เดินคอตกออกไปอย่างงอลๆ

เมนูแรกของพวกเรามาแล้ว จานนี้เป็นอาหารแนะนำของที่นี่เลยค่ะ เรียกว่า “เคยจี่” เป็นการเอากะปิและส่วนผสมบางอย่าง มาทาลงในกะลามะพร้าวแล้วน้ำไปเผา ทานกับข้าวสวยร้อนๆ พร้อมผักเคียงอร่อยมากเลยหล่ะ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณสายลมแห่งวิงค์   :   ยินดีต้อนรับ ตามมาเที่ยวสมุยพร้อมกันเลยค่ะ ตอนเราขึ้นไปบนเขานั้นก็แปลกใจเช่นกันค่ะ ที่เห็นว่ามีการปลูกทุเรียนด้วย  


คุณHero11147   :   นั่น...มีงอนด้วย งั้นปลอบใจด้วยรูปอาหารทะเลแล้วกันนะคะคุณฮีโร่  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


อีกหนึ่งเมนูแนะนำของทางร้าน “วายต้มส้มใบมะขาม” เป็นปลาหมึกตัวเล็กๆ นำมาต้มกับเครื่องแกงแล้วใส่ใบมะขามอ่อนลงไป รสชาติเปรี้ยวๆ เค็มๆ อร่อยอีกตามเคย

“ปูม้านึ่ง” ปูม้าที่นี่และอาหารทะเลแต่ละเมนูที่สั่งมาสด หวานและเนื้อแน่นจริงๆ ค่ะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“เนื้อปูผัดผงกะหรี่”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“หมึกผัดพริกไทดำ”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“ปลาเห็ดโคนทอด” อันนี้กินได้ทั้งตัวเลยค่ะ กรอบมาก  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

นั่งทานอาหารไปมองวิวทะเลสวยๆ แบบนี้ไป ... เป็นความสุขเล็กๆ ที่หาไม่ยากเลยที่เกาะสมุยค่ะ  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เกาะที่เห็นตั้งอยู่ไกลๆ โน้นคือ เกาะพะงันค่ะ...


และหลังจากอาหารกลางวัน ก็แวะไหว้พระทำบุญกันที่ “วัดพระใหญ่” ที่หาดบ่อผุด

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พระใหญ่ หรือ พระพุทธโคดม เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 5 วา 9 นิ้ว  มีบันไดนาคให้เดินขึ้นไปสักการะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ถือเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ ที่ประดิษฐานไว้กลางแจ้งบนยอดเขา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บริเวณลานวัดด้านล่าง เมื่อมองจากบันไดนาคชั้นบน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สถานที่ต่อมาที่แวะกัน คือ วัดแหลมสุวรรณาราม  ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระใหญ่มากนัก

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ภายในบริเวณวัดยังประดิษฐานรูปเคารพของเทพเจ้าจีนและฮินดูมากมาย เช่น พระสังกัจจายณ์

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

องค์เจ้าแม่กวนอิม

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาชมบริเวณด้านหน้ากันบ้าง ยิ่งใหญ่และสวยงามจริงๆ ค่ะ  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ต่อไปเป็นอุโบสถกลางน้ำ จุดเด่นของวัดนี้ค่ะ อุโบสถมีฐานเป็นดอกบัวขนาดใหญ่รองรับอยู่ ภายในก็มีสถาปัตยกรรมและจิตกรรมฝาผนังที่งดงามเช่นกันนะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่หน้าประตูทางเข้าพระอุโบสถค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พระประธานภายในพระอุโบสถ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ที่นำมาให้ชมกันแต่ละภาพในรูปนี้คือ ลวดลายแกะสลัก (ไม่แน่ใจว่าจากไม้หรือว่าปูนปั้น) ของบานประตูและบานหน้าต่างโดยรอบพระอุโบสถ แต่ละบานสลักลวดลายเป็นเรื่องราวในคำสอนของพระพุทธศาสนา ทั้งสวยงามและให้ความรู้ได้มากทีเดียว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สถานที่ต่อมา คือ วัดพระเจดีย์แหลมศอ เป็นเจดีย์สีทองตั้งอยู่ริมทะเล สร้างโดยหลวงปู่แดง ดิสโส มีความเป็นมาเป็นเรื่องเล่าคร่าวๆ ว่า มีชาวบ้านที่เป็นนักดำน้ำหาของโบราณแต่ก่อนบอกว่า มีเจดีย์องค์ใหญ่อยู่ในทะเลหน้าวัดพระเจดีย์แหลมศอแห่งนี้ หลวงปู่แดงท่านจงได้จำลองสร้างพระเจดีย์ขึ้นไว้ที่ริมทะเลดังกล่าว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ด้านหลังองค์พระเจดีย์ติดทะเล มีลานกว้างพอสมควรไว้สำหรับชมวิวทิวทัศน์

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แล้วก็ยังมีหาดทรายเล็กๆ ยาวขนานไปกับสวนมะพร้าวของชาวบ้านและทะเล

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พวกเราตะลอนทัวร์กันทั้งวัน แต่ก็ยังพอมีเวลากลับมาเดินเล่นชมท้องทะเลยามเย็นของหาดเฉวงค่ะ เย็นวันนั้นถึงท้องฟ้าจะดูครึ้มไปด้วยเมฆฝนบ้าง แต่ธรรมชาติก็สร้างสรรค์ความงามได้อย่างลงตัว...ราวดั่งภาพวาด



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คืนสุดท้ายของการเที่ยวสมุยก็จบลงที่ถนนคนเดินหาดเฉวงอีกเช่นเคย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พร้อมฝากท้องกันมื้อเย็นกันที่ “Andaman Restaurant” ร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน ณ ถนนคนเดินเฉวง  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เช้าวันต่อมาสภาพอากาศดูครึ้มฟ้าครึ้มฝน  จากข่าวพยากรณ์อากาศรายงานว่ากำลังจะมีพายุเข้าแถบอ่าวไทย แอบรู้สึกเซ็งนิดๆ แต่ก็ไม่เป็นไร รถตู้ที่ติดต่อไว้มารับพวกเราจากที่พักหาดเฉวง มายังหาดแม่น้ำของเกาะสมุยในเวลา 07.00 น. เพื่อให้ทันขึ้นเรือของบริษัทลมพระยาในตอน 8 โมงเช้า เดินทางกันต่อไปสู่...เกาะเต่า

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

8 โมงเช้าก็ได้เวลาขึ้นเรือ ไม่นานก็พร้อมออกเดินทางกันแล้วค่ะ ... ลาก่อนเกาะสมุย  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เรือของลมพระยาที่เดินทางจากเกาะสมุย – เกาะเต่า จะแวะส่งและรับผู้โดยสารที่เกาะพะงันก่อนแล้วจึงออกเดินทางต่อ


ในรูปเป็นท่าเรือที่เกาะพะงัน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากนั้นหนึ่งชั่วโมงต่อมาก็มาถึงยังเกาะเต่า

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แต่ก็ยังไม่ถึงเลยซะทีเดียว เพราะต้องแล่นเลยไปส่งและรับผู้โดยสารที่เกาะนางยวนซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันก่อนด้วย


ท่าเรือเกาะนางยวนค่ะ ... แอบเสียดายที่ไม่ได้แวะลงเที่ยวเกาะที่เคยได้ชื่อว่าสวยติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก แค่ได้ผ่านมาเห็นเฉยๆ ง่ะ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หาดทรายขาวๆ บนเกาะนางยวน  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

และแล้วเรือก็พาเราย้อนกลับมาเกาะเต่า...ถึงซะทีนะ ระยะเวลาที่เรือแล่นจากสมุยถึงเกาะเต่าประมาณ 1.45 ชั่วโมงนะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รูปเยอะมากๆครับ ไว้พรุ่งนี้จะมาอ่านต่อนะครับ

ท่าเรือเกาะเต่า ตอนที่ไปถึงยังพอมีแดดให้เห็นและแอบดีใจบ้าง  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พอขึ้นจากเรือก็จะมีทั้งรถรับจ้างและมอเตอร์ไซต์รับจ้างบนเกาะมารอบริการนักท่องเที่ยวมากมาย พวกเราเลยเลือกรถสองแถวรับจ้างให้ไปส่งยังที่พักซึ่งตั้งอยู่ที่หาดทรายรี

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก   :   สวัสดีค่ะคุณดีบุก...ใช่แล้วทริปนี้เก็บรูปได้เยอะพอสมควร พรุ่งนี้อย่าลืมแวะมาเก็บตกนะคะ ฝันดีค่า  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สภาพถนนบนเกาะเต่า หากเป็นในย่านท่าเรือหรือย่านแหล่งชุมชนถนนจะเทคอนกรีตค่อนข้างดี แต่หากเลยแหล่งชุมชนไปก็จะเป็นเส้นทางออฟโรดบ้างสลับกับถนนคอนกรีต โดยรวมแล้วยังมีความเจริญทางวัตถุไม่เท่ากับเกาะสมุย ทั้งยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มากทีเดียว

ถึงแล้วค่ะที่พักของพวกเราบนเกาะเต่า ... ปราณี บังกะโล ตั้งอยุ่บนหาดทรายรี เป็นบังกะโลที่พักซึ่งเป็นกิจการของคนเกาะเต่าดั้งเดิมจริงๆ มีบ้านพักทั้งหมด 14 หลัง ราคาประมาณ 1,500 – 2,500 บ. ต่อหลังค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พวกเราไปกัน 6 คน จึงจองบ้านพักไว้  2 หลังติดกัน นอนหลังละ 3คน ภายในบ้านมีเตียงใหญ่ 1 เตียงกับเตียงเล็กอีก 1 เตียงพอดีเลย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เตียงเล็กแบบนอนคนเดียว ซึ่งก็ตั้งอยู่ในห้องนอนเดียวกันกับเตียงใหญ่

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สิ่งอำนวยความสะดวกอาจจะไม่ครบวงจรหรือหรูหรานัก แต่ก็พอใช้ได้ค่ะ...เราว่าเข้ากับบรรยากาศชาวเกาะแบบนี้ดีออก

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ด้านหน้าที่พักจะติดชายหาดเลยค่ะ ทำเลดีมากๆ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขนาดท้องฟ้าไม่ค่อยสดใส แต่น้ำทะเลก็ยังมีระดับสีไล่กันสวยขนาดนี้ แล้วหากท้องฟ้าเปิดแดดแรงๆ หล่ะ จะสวยขนาดไหนนะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เก็บสัมภาระเข้าที่ ก็ออกมาเดินเล่นสำรวจรอบๆ ที่พักและตัดสินใจทานกลางวันแบบจานด่วนกันง่ายๆ กับร้านอาหารของทางที่พักซะเลย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

กระเพราทะเลกับไข่ดาวราดข้าว  รสชาติจัดจ้านด้วยรสมือแม่ครัวชาวใต้

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทานกลางวันเสร็จ พวกเราก็ตกลงใจเหมาเรือประมงขนาดเล็กเป็นเรือยนต์ของลุงเจ้าของที่พัก เพื่อให้พาเที่ยวและดำสน๊อคเกิ้ลบริเวณรอบๆ เกาะ คุณลุงคิดราคาแบบเหมา 6 คน คือ 4,000 บาท รวมรถที่จะรับ – ส่งจากที่พักไปยังจุดลงเรือที่อยู่อีกฟากหนึ่งของเกาะ , เครื่องดื่มต่างๆ บนเรือ และอุปกรณ์ดำผิวน้ำ ทั้งหน้ากากและเสื้อชูชีพด้วย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จากแผนที่เกาะเต่า เราจะไปดำน้ำด้วยกัน 3 จุด คือ ลงเรือที่ลงเรือที่อ่าวหินวง ไปดำน้ำแถวอ่าวม่วง , อ่าวลึก และอ่าวกล้วยเถื่อน ที่ดำได้เพียง 3 จุดเท่านั้นเพราะพายุกำลังจะมา บางช่วงเวลาของการดำน้ำก็มีฝนตกลงมาบ้างและก็ยังมีคลื่นสูง คนเรือจึงเกรงจะเป็นอันตรายจึงพามาดำเฉพาะจุดที่พอหลบหลีกคลื่นลมได้บ้าง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รถกระบะแบบโฟล์วีลมาส่งพวกเราที่อ่าวหินวงเพื่อมาขึ้นเรือ โดยจะต้องมาลงเรือลำเล็กที่เห็นจอดอยู่ตรงนั้น เพื่อต่อไปยังเรือใหญ่ซึ่งจอดอยู่ไกลออกไปค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รีวิวดีมากๆเลยค่ะ ละเอียดทั้งการเดินทาง ที่พัก ที่เที่ยว ที่กิน
ดูแล้วอยากไปสมุยจัง

ข้างๆ เรือลำสีเหลืองนั่นแหละค่ะ เรือที่จะพาพวกเราไปดำน้ำ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

นั่งเรือยนต์เล็กออกจากฝั่งแล้ว...น้ำใสสีเขียวสวยดี  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุณแป้งสีฝุ่น   :   ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะคะ พยายามจะให้เนื้อหารีวิวลงรายละเอียดให้เยอะๆ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่จะไปเที่ยวบ้างน่ะค่ะ  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ถึงแล้วเรือพาเที่ยวของพวกเรา...พูลผลทัวร์ 4

หลังจากลงเรือใหญ่ก็ไม่ค่อยมีรูปเท่าไหร่นะคะ เพราะตัวเปียกตลอดเวลา จะหยิบจับกล้องมาถ่ายก็ค่อนข้างลำบาก

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ต๊กกะใจนึกว่าตัวอะไร...ที่แท้เพื่อนเรานั่นเอง เห็นสนุกอยู่คนเดียวนะ    

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ที่เห็นเป็นทุ่นสีส้มแสดนั้น มันมีไว้สำหรับเป็นสัญลักษณ์แสดงให้เรือรู้ว่า บริเวณนั้นๆ มีคนดำน้ำอยู่นะ จะได้ไม่เป็นอันตรายสำหรับนักดำน้ำไงคะ  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

น้ำทะเลสีเขียวใส แต่ก็ลึกเหมือนกันนะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เรือใครกันมาจอดไว้  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รีสอร์ทนี้ถ้าจำไม่ผิดตั้งอยู่ที่อ่างม่วงนะคะ แต่จำไม่ได้แล้วชื่อว่าอะไร

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

นี่ก็อีกลำ...เรือใครกัน  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เราชอบเกาะเต่า เพราะไม่เพียงแต่จะมีน้ำทะเลใสสวยและจุดดำน้ำมากมาย แต่เพราะความเป็นธรรมชาติบนเกาะยังมีอยู่มากนั่นเอง  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ดำน้ำกันมาเหนื่อยๆ มื้อเย็นขี้เกียจออกไปไหน ก็เลยฝากท้องไว้กับร้านอาหารของที่พักเช่นเคย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตัดมาที่เช้าอีกวัน ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันแล้วสินะ  

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทานอาหารเช้าเสร็จ ลุงเจ้าของที่พักก็วิ่งรถพาไปส่งยังท่าเรือ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาเช็คเวลาเรือและคอนเฟริม์ตั๋วที่หน้าเคาน์เตอร์  เกาะเต่า – กรุงเทพฯ เรือออกเวลา 10. 15 น.

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บริเวณท่าเรือของเกาะเต่า

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พอจะกลับแล้วฟ้าใส แดดแรงเชียวนะ  

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เรือประมงน้อยใหญ่จอดอยู่ริมหาดบริเวณท่าเรือ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แล้วก็ได้เวลาเรือออกเดินทาง พวกเราซื้อแพคเกจเรือของลมพระยา เกาะเต่า – กรุงเทพฯ ในราคา 1,000 บ.ต่อคน รวมเรือจากเกาะเต่าขึ้นฝั่งที่ท่าเรืออ่าวทุ่งมะขามน้อยจังหวัดชุมพร และต่อรถบัสปรับอากาศของลมพระยาเข้ากรุงเทพฯ จุดหมายปลายทางมาลงบริเวณถนนข้าวสารนั่นเอง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ภายในห้องโดยสารปรับอากาศของเรือลมพระยา ใช้ระยะเวลาจากเกาะเต่า – ท่าเรือที่ชุมพร ประมาณ 1.45 ชั่วโมงค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ถึงแล้วท่าเรืออ่าวทุ่งมะขามน้อย จ.ชุมพร

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอปิดท้ายทริปเดินทางแสนหรรษานี้ ด้วยเป้และ tag ประจำตัวค่ะ ...


ขอบคุณสำหรับการติดตาม ไม่ใช่เฉพาะเพียงรีวิวฉบับนี้นะคะ แต่เป็นรีวิวในทุกทริปทุกตอนที่ได้นำเสนอไปในตลอดปีที่ผ่านมาด้วย ถึงแม้ในปีนี้คนไทยจะผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ มามากมาย โดยเฉพาะมหาอุทกภัยที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป ขอให้เราทุกคนเข้มแข็งและช่วยเหลือกันอย่างที่เคยทำมานะคะ ปีหน้าเราเองก็จะยังออกเดินทางต่อไป และจะไม่ลืมนำรูปและประสบการณ์แห่งการเดินทางนั้นมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ชมกันอย่างแน่นอนค่ะ...แล้วพบกันนะคะ





  สวัสดีปีใหม่ 2555 ขอให้เพื่อนๆ ชาวโลกสีฟ้าทุกท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ที่สำคัญขอให้ได้เที่ยวกันบ่อยๆ นะคะ  

ว้าววว ตอนสองพาไปทั้งเกาะสมุย เกาะเต่า ผมไม่เคยไปเลยสักเกาะ เชยมากๆครับคุณปริม ต้องเขกกะโหลกตัวเองเป็นการทำโทษ อิอิ

อยากลงเล่นน้ำ และก็กินปลาหมึกผัดพริกไทดำค่ะ

ตามมาเที่ยวทะเลด้วยค่า
ปีหน้าจัดทริปตามไปบ้างดีกว่า
ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆนะคะ  ^__^

ยังไม่เคยไปเกาะเต่าเลยค่ะ   ได้เกาะกระทู้เที่ยวไปก่อนก็ยังชื่นจายยยย...

สวย น่าไปเที่ยวมากๆๆๆเลยคะ อยากไปปสมุย แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที :(

ทะเลช่วงนี้บรรยากาศกำลังดีเลยครับอากาศหนาวแบบนนี้ชอบเลย

ไปเที่ยวทะเลสวยๆ ด้วยค่ะ

สวย ๆ จุใจจริง ๆ ครับ

น่าไปทั้งสองเกาะเลยครับ วิวสวยมากๆ

อาหารเค้าหน้าตาแปลกๆดีแฮะ ทั้งเคยจี่ ทั้งวายต้มส้มใบมะขาม

ปล.เพิ่งรู้ว่าเรามีภูเขาเป็นของตัวเองด้วยอ่ะ ดีจัง

เกาะเต่าเคยแค่นั่งเรือลมพระยามาจอดที่ท่าเรือเท่านั้น

นั่งจากสมุยมาเที่ยวเกาะนางยวนค่ะ
วันเดียวกลับ

เห้นลอกอินนี้ยังไงก็ต้องมาดู เพราะรู้ว่าภาพสวย

ไปเที่ยวมาหลายที่เลย อิจฉา

แต่เห็น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง  เห้นแล้ว ว้าว อยากไปอะ สวยจริง

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ขอบคุณครับ น้องปริม
ไม่ได้ไปสมุยนานแล้ว...
ส่วนเกาะเต่าเคยไปแต่เหมือนไม่เคย เพราะแค่แวะไปนานริมหาดทรายรีคืนเดียวแล้วก็กลับ

เคยจี่กระแทกตาอย่างแรงค่ะน้องปริม
เกาะเต่าพี่ไม่เคยไป ขอตามไปย้อนรอยเกาะสมุยละกันนะคะ

แวะมาเช็คชื่อตอนจบด้วยคร้าาาาาา

อยากไปยืนตรงจุดชมวิว ของจริงคงสวยมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  

สวัสดีปีใหม่ครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

เป็นเกาะที่ใฝ่ฝัน อยากไปมาก ต้องหาโอกาสซะแล้ว ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

เป็นทริปที่ได้เที่ยวเยอะมากค่า

ตั้งแต่เกาะหมู่เกาะอ่างทาง แล้วก็นางยวน เกาะเต่า หนึ่งต้องไปสองรอบแนะคะ

เที่ยวได้น้อยเจงๆ อิอิ

เก่งจังเก็บได้หมดเลย ขอบคุณภาพความทรงจำที่สวยงามมากๆนะคะ

แหล่มเลย  รายละเอียดเยอะดี
ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆค่ะ

ดีใจที่ได้ชมรีวิวสวยๆ จากคุณปริมคนสวยอีกนะคะ

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะคุณปริม ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ

น่าไปทั้งสองเกาะเลยค่ะ สวยจัง

อยากไปบ้าง
ขอบคุณสำหรับรูปสวย ๆ และข้อมูลต่าง ๆ ค่ะ

กับข้าวแต่ละอย่างดูน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ

คิดถึงทะเลมากเลยครับ
ตามมาทานกะเพราทะเลไข่ดาวด้วยคน

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ตามมาเที่ยวและคิดถึงสมุยด้วยคนค่ะ
ยังจำความรู้สึกที่ปีนขึ้นไปบนจุดชมวิวของเกาะวัวตาหลับได้เรย
แตรขึ้นไปถึงจุดบนสุดเลยอ่ะค่ะ  ทิ้งเพื่อนร่วมทางให้รอที่ 200 เมตรแรก อิอิ
แต่ขึ้นไปแล้วหายเหนื่อยเลยจริงๆ

บนเกาะนี่อาหารอุดมสมบูรณ์มากๆ เลยนะคะ ถูกใจเราเป็นที่สุดค่า

คุณCoffee Blended   :   คุณแฟ งั้นต้องเก็บกระเป๋าตามรอยเค้าแล้วหล่ะ อิ อิ  


คุณFlaminio   :   พูดถึงหมึกพริกไทดำแล้วนึกถึงความอร่อยที่ยังติดลิ้นอยู่ อยากทานอีกเช่นกันคร้า  ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันนะคะ

คุณป้าฟู   :   ป้าฟูขา   เสียดายที่รีวิวปริมไม่ค่อยมีทูปี๊ดเหมือนรีวิวสิมิลันบ้างเลยอ่ะค่า ขอบคุณที่แวะอ่านรีวิวนะคะ


คุณเขื่อนขัน   :   งั้นต้องรีบหาโอกาสเลยค่ะ ช่วงปีใหม่ก็น่าไปเที่ยวนะคะ  


คุณ
คุณP r i m t a a   :   ถ้าได้ไปเที่ยวกลับมา อย่าลืมจัดรีวิวรูปสวยๆ มาแบ่งกันดูบ้างนะคะ


คุณDestiny-Boy    :   ทะเลหน้าหนาวก็สวยไปอีกแบบนะคะ เสียดายนิดหน่อยช่วงที่ไปยังมีฝนตกอยู่อ่ะค่ะ  


คุณย้ำคิดย้ำฝัน   :   ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวในรีวิวด้วยกันสม่ำเสมอนะคะ  


คุณCivict2003   :   รีวิวชุดนี้รูปเยอะเป็นพิเศษ กว่าจะปั่นรีวิวออกมาได้เหงื่อตกเช่นกันค่ะ ขอบคุณนะคะ


คุณ Koon Shy_Tour Dee   :   ทั้งเคยจี่และวายต้มส้มรสชาติดีทีเดียวค่ะ อยากให้คุณป้อมพาคุณบงไปเที่ยวไปชิมบ้างจัง ว่าแต่เท่ห์สุดๆไปเลยนะคะ มีภูเขาเป็นของตนเอง


คุณMemories pink   :   ในทางกลับกัน ปริมอยากไปเที่ยวเกาะนางยวนบ้าง แต่กลับไม่ได้ไปซะนี่ แค่แวะตรงท่าเรือเฉยๆ น่าเสียดายจังค่ะคุณแอน  


คุณชานมชงเอง   :   หวัดดีค่ะคุณชานม มีโอกาสได้ไปหลายวัน เลยพลอยได้เก็บรายละเอียดเยอะหน่อย ขอบคุณที่ตามมาเที่ยวด้วยกันนะคะ


คุณหนุ่ม ณ วันวาน   :   ปริมได้อยู่เกาะเต่าแค่คืนเดียวเองค่ะ น่าเสียดายอยากอยู่ต่ออีก ทะเลที่นั่นสวยมากค่ะ  


คุณบัวนลิน   :   สวัสดีค่ะพี่บัว   ดีใจที่ตามมาคิดถึงเกาะสมุยด้วยกันนะคะ


คุณSalmon Lover   :   คุณแซลมอน คราวนี้ไม่มีเรียกตกหล่นแล้วน๊า จริงค่ะจุดชมวิวของจริงสวยกว่าในรูปเยอะเลย บรรยากาศดีมาก


คุณเล็กทาโร่   :   ขอบคุณที่เข้ามาอ่านรีวิว และสวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ มีความสุขมากๆ นะคะ  


คุณJayJorJae   :   งั้นต้องรีบตามฝันของตัวเองให้เป็นจริงเร็วๆ นะคะ แล้วจะรอชมรีวิวค่ะ


คุณhollaneung   :   ประทับใจหมู่เกาะอ่างทองมากเลยค่ะคุณหนึ่ง เพราะได้ทำกิจกรรมหลายอย่างในทริปเดียว ทั้งปีนเขา สน้อคเกิ้ล และเล่นน้ำ สนุกมากเลยค่ะ


คุณCCE9PASS   :   ขอบคุณเช่นกันนะคะ ที่แวะมาทักทายในรีวิว  


คุณYai Klong_Tour Rai   :   คุณบง  ดีใจที่แวะมาเที่ยวด้วยกันอีกเช่นเคยนะคะ ขอให้ในปีหน้าได้เดินทางเที่ยวเยอะๆ นะคะ


คุณgagagigy   :   ดีใจที่แวะมาทักทายกันบ่อยๆ นะคะ


คุณgolove2   :   ขอให้มีโอกาสไปเที่ยวเร็วๆ นะคะ แล้วจะรอชมรีวิวสวยๆ เช่นกันค่า  


คุณBROWN STITCH   :   ทริปนี้พอกลับมาก็ตัวบวมกันทุกคนค่ะ ออกแนว...สั่งเล้ยยยอร่อยทู้กกกอย่าง  


คุณลุงแบกเป้   :   ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันนะคะ  


คุณtonhok   :   ขอบคุณเช่นกันที่แวะมาอ่านรีวิวค่ะ


คุณAngletaire   :  คุณแตร์ เก่งจังเลยค่ะปีนขึ้นไปถึงจุดห้าร้อยเมตรด้วย ปริมแค่สองร้อยเมตรก็หอบจะแย่แล้วค่า  


คุณBpearl   :   คอนเซปท์ทริปเหมือนเที่ยวไปชิมไป ยังไงไม่รู้ค่ะ หุ หุ


  ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกความคิดเห็นนะคะ  

มาช้าไปนิด ทะเลสวยมากเลยครับน้องปริม น้ำใสปิ๊งเลย
ขอบคุณที่พาเที่ยวครับ

ชอบทะเลช่วงนี้แม้จะมีมรสุมแต่น้ำทะเลสวยค่ะ

ไปถึงเกาะเต่าแล้วเช่าเรือไปเองก็ดีนะคะ เหมาเรือหางยาวราคาต่อลำ 2,400 บาทค่ะ ไปถึงเกาะนางยวนและได้ดำน้ำด้วย  

เพิ่งไปมาช่วง 5 ธันวาค่ะ ขากลับเจอฝนตกกลางทะเล  นั่งเรือหางยาวลุ้นกันสุดๆ ค่ะ

ตามมาเที่ยวเกาะเต่ายังทันนะคะ     เห็นแล้วคิดถึง   อยากไปอีกจังเลยค่ะ  ขอบคุณนะคะ 

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^

ดูแล้วคิดถึงสมุยจังครับ ไม่ได้ไปนานมากๆแล้วอ่ะน่าจะสิบกว่าปีแล้วมั้งสงสัยต้งหาโอกาสไปมั่ง ขอบคุณนะครับ

มาชมรีวิวสวยๆช้าไปหน่อยไม่ว่ากันนะคะ