ย้อนรอยกระทู้ที่แล้ว ที่ได้พาไปเที่ยว ฮ่องกง และฮานอย
และเอารูป (ที่คิดว่า) สวยๆที่ถ่ายด้วยดิจิตอลคอมแพ็ค เพราะว่ากล้อง DSLR
มันเทอะทะ พกลำบาก กว่าจะถ่ายได้ก็ยากเย็นแสนเข็นเหลือเกินสำหรับผม
ก็เลยชื่นชอบกล้องดิจิตอลคอมแพ็คเป็นชีวิตจิตใจ คราวนี้จะพาไปเที่ยวกันต่อครับ
เพราะการเดินทางยังอีกไกลพอสมควรครับ

จากกระทู้เดิม ตอนที่แล้วครับ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11467974/E11467974.html

คราวนี้จะขอพัก ฮานอย ฮาลองเบย์ไว้กันก่อนนะครับ
เดี๋ยวมาต่อให้ครับ สำหรับฮาลองเบย์และฮาลองบก
ขอพาลัดมาเที่ยวฮ่องกงกันอีกรอบ
คราวนี้เป็นการไปฮ่องกงครั้งที่2 ในรอบปีครับ
จุดมุ่งหมายคือกาลไปฉลองเทศกาลฮาโลวีน
แต่ครวนี้ บินด้วย EK  และพักที่ JJ Hotel
ฮ่องกงช่วงปลายเดือนตุลาคม อากาศเริ่มเย็นสบายครับ
มีลดพัดตลอดเวลาและ เริ่มมีหมอกปกคลุมบ้างแล้วครับ

วันนี้ไปเที่ยว เกาะลันตา นั่งกระเช้าไหว้พระใหญ่ครับ
การเดินทางก็ไม่ยากนั่ง MTR มาลง Tung Chung แล้วเดินอ้อมมาขึ้นกระเช้าที่ข้างๆ ห้าง City Gate Outlet ครับ

ทางขึ้นกระเช้าครับ
ถ้าใครไม่อยากนั่งกระเช้าก็จะมีรถบัสบริการอยู่ข้างล่าง
แต่แน่นำให้นั่งกระเช้าดีกว่าครับ เพราะว่าเส้นทางขึ้นนั้นวกวน
และหวาดเสียวพอควร ซึ่งอาจทำให้เวียนหัวในการนั่งรถขึ้นไปได้ครับ

วันที่เดินทางไปเป็นวันธรรมดา นั่งท่องเที่ยวเลยไม่ค่อยเยอะ

กระเช้าแบบคริสตัลราคา 188 HKD
กระเช้าแบบธรรมดาราคา 130 HKD

ผมเลือกที่จะนั่งกระเช้า แบบ กระจกใสคริสตัลครับ เพราะว่าใช้บัตรส่วนลดจาก MTR Travel Pass ซึ่งได้ส่วนลดเหลือแค่ 159 HKD ซึ่งราคาไม่ต่างจากแบบธรรมดามาก แถมไม่ต้องรอคิวนานด้วย
กระเช้านั่งได้ 6 คนครับ

คนรอในแถวประมาณ 10 คนครับ รอไม่ถึง 5 นาทีก็ได้ขึ้นกระเช้าแล้ว ส่วนกระเช้าแบบธรรมดาก็มีคนรอในแถวประมาณ 30 คนได้ แต่ถ้าเป็นวันหยุดคุณอาจจะต้องรอแถวนานถึง 4 ชั่วโมงได้ครับเพราะคนเยอะมากก

กระเช้านำพาเราขึ้นมาแล้วครับ

กระใจพื้นใสมองทะลุข้างล่าง
อาจจะดูหวาดเสียวสำหรับคนที่ขวัญอ่อน กลัวความสูงนะครับ
แต่ก็ตื่นเต้นไปอีกแบบครับ

ผ่านท้องทะเลข้างล่าง ถ้ามันแตกทะลุลงไปนี่ จะเป็นยังไงน๊อ ^^

กระเช้าเริ่มนำเราขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงยอดเขา
นั่งชมวิวดูอะไรไปเพลินๆ ดีครับ

เริ่มมองเห็นองค์พระมาไกลๆ จากเขาอีกลูกแล้วครับ

กระเช้าจะนำเรามาส่งถึงแค่หน้าหมู่บ้านนะครับ
จากนั้นเราต้องเดินไปต่อครับ

ช๊อบๆ อะไรที่เป็นสถาปัตยกรรมจีน
มันดูสวยงามดีครับ

รู้สึกว่าตุ้กตาจะเป็นแมสคอ็ตของที่นี่รึปล่าวไม่รู้ครับ
แต่คาดเดาว่าน่าจะเป็นปีนักกษัตริย์ ปีกระต่ายปีนี้มากกว่า

เดินรับลมเย็นๆ สบายๆ ผ่านจุดขายของที่หมู่บ้าน
ซึ่งตรงนี้เป็นประตูทางเข้าหมู่บ้านและวัดก่อนที่จะเดินขึ้นไปยังตัวพระครับ

วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศดีจริงๆ

องค์พระอยู่ข้างบนนู่นนะครับ
ยังต้องเดินเข้าไปกันก่อน ^^

ธูปใหญ่ ใหญ่จริงๆครับ คาดว่าน่าจะจุดกันได้ทั้งอาทิตย์เลย

เดินข้ามกำแพงเข้ามาในตัววัด ตอนนี้วัดยังอยู่ในช่วงบรูณะ
ซ่อมแซมอยู่นะครับ แต่ก็สามารถเข้าไปชมได้ตามปกติ

อากาศดีมากๆเลย

ถ่ายจากบานหน้าต่างด้านบนวัดครับ

รู้สึกว่านี่จะเป็นต้นมะเขือ ?
แต่ต้นสูงมากยังกะต้นมะยม
ใช่มะเขือจริงป่าวเนี่ย

จากนั้นก็เดินขึ้นบันได มายังตัวพระครับ
ขอบอกว่าถึงแม้จะอายุไม่เยอะแต่ก็ทำเอาหอบไปหลายพัก
คิดว่าบันไดทางขึ้นน่าจะสูงกว่าพระธาตุดอยสุเทพนะครับ
แต่ด้วยความที่อากาศเย็นๆ เลยทำให้เดินได้สบายกว่า

ชอบตรงทางเดินระหว่างหมู่บ้านเข้ามายังทางขึ้นครับ
ตรงที่ขายของที่ระลึกและโรงหนัง Waliking with Buddha
แต่ไม่ได้เข้าชม เพราะต้องซื้อบัตรเพิ่มต่างหาก
แต่ตรงนี้จะมีการปล่อยฟองลูกโป่งออกมาตลอดเวลา ชอบครับ

บรรยากาศด้านบนเย็นสบายครับ มีลมพัดตลอดเวลา

เหล่าทวยเทพ องค์บริวารพระใหญ่ครับ

องค์พระใหญ่ที่ตั้งตระหง่านตัดกับผืนฟ้า ที่ต้องแหงนคอมองครับ
เพราะองค์ใหญ่จริงๆ

น่าสนุกมากเลยครับ... เห็นลิฟกระจกแล้วอดหวาดเสียวแทนไม่ได้

หล่นไป ตายแน่ๆๆ

@ คุณชานมชงเอง
หล่นไปคิดว่าคงไม่ตายนะครับ เพราะมีกิ่งไม้รองรับ หรือไม่ก็คงตกทะเล
555555

#

Close Up แบบไกล้ๆไปที่พระใหญ่
องค์ใหญ่จริงๆครับ ไม่สามารถที่จะถ่ายได้หมด

เดินรับลมชมวิว เล่นๆไปรอบๆครับ

#

ชมวิวทิวทัศน์

ระหว่างทางเดินบนบันได้ ก็จะมีกระดาษเขียนคำอธิษฐานที่มีขายจากด้านล่าง ห้อยไว้ตามกิ่งสน ตามทางเดินบนบันได้ครับ

ขาลงมา มองเห้นองค์พระอยู่ไกลๆนู่นแนะ

ชอบตรงนี้แหละ ตรงทางเดินที่มีฟองลูกโป่งปล่อยออกมาตลอดเวลา
เพลินจริงๆ

#

นั่งกระเช้ากลับลงมาด้วยความอิ่มใจ  
บันไดมีภาษาไทย กล่าว ยินดีต้อนรับด้วยนะ

มาดูโรงแรมที่พักกันดีกว่าครับ
โรงแรม JJ Hotel อยู่ย่าน Wan Chai
เป็นโรงแรมที่มีห้องกว้างขวางแตกต่างจากโรงแรมทั่วไปในฮ่องกงครับ
ค่าห้องพักคืนละ 3600 ครับ
แต่ถ้าช่วงไม่ใช่ High Season ก็อาจจะได้ราคา 2400 -2600 ครับ

ห้องน้ำเป็นกระจกใส
ค่อนข้างจะหวาดเสียวนะเนี่ย

ห้องกว้วงขวาง ใหญ่โตโอ่อ่า พักสบายครับ

คืนนี้เราจะพาไปชมบรรยากาศฮาโลวีน อันสนุกสนานที่ Lan Kai Fong กันครับ

ออกมาฉลองฮาโลวีนคืนแรกที่ ลานไควฟง ซึ่งถือเป็นถนนหลัก
ที่จัดฉลองที่นี่ ผู้คนราวครึ่งหมื่นจะออกมาแต่งตัวฉลองกันอย่างเต็มที่
ราวกับงานคานิวัล ตลอดถนนยาวหลายกิโลเมตรที่ผ่านตามตรอกซอกซอยต่างๆ
คนจำนวนมาก จะแต่งตัวกันออกมาเต็มที่ ซึ่งมีให้ทุกรูปแบบตั้งแต่น่ารักไปจนถึงน่ากลัว
ทั้งนางฟ้า ปีศาจ ยอดมนุษย์ สัตว์ประหลาด
มีกันให้เห็นครบทุกประเภทบนถนนแห่งนี้
โดยงานจะเริ่มตั้งแต่หัวค่ำ จนไปจบราวๆตีสามของอีกวัน
อาจเป็นเพราะว่าที่นี่เคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ คนฮ่องกงจึงฉลองฮาโลวีนกันอย่างเต็มที่
เหมือนกับการฉลองสงกรานต์ที่บ้านเรา
ถ้ามีโอกาส ฮาโลวีน เป้นอีกเทศกลาที่น่าสนใจของฮ่องกงครับ

Costume เต็มรูปแบบเลย บรื๋อออ

สาวๆน่ารักๆ

Iron Man

คนที่นี่เค้าเต็มที่กันจริงๆ
ตลอดทางเดินหลายกิโลเมตร สนุกสนานมากๆ เพราะได้เห็นตัวการ์ตูน เรียกได้ว่าแทบจะครบทุกตัวในหนังเลย

ตัวอะไรนี่ น่ากัว

เป็นอีกค่ำคืนของชีวิตที่ Enjoy มากๆ

บรูซ ลี คราบ

สาวๆน่ารักๆ อีกแล้ว

สาวน่ารักอีกแล้ว

ดูหนุ่มน่ารักบ้าง

แล้วนู๋ล่ะคร๊าาาา เป็นไงบ้าง 5555

#

ซินเดอรเรลล่า แต่ไม่มีคนแคระทั้ง 7

คนเยอะมากกก ครับ ผู้คนเต็มไปหมดตามท้องถนน
แทบจะทุกคนต่างแต่งตัวออกมาเฉลิมฉลองกันเต็มที่

#

คนเยอะมากก  สนุกกันสุดฤทธิ์เลย
ผมขอเรียกว่า มันคือ The Unforgetable Night

^^

ส่งท้ายคำคืนฮาโลวีนคืนแรกด้วย คอลเล็กชั่นจาก Paul Frank
น่ารักมากก แต่ว่าไม่ได้วางขายทั่วไป
เนื่องจากเป็นคอลเล็กชั่นที่สะสมแสตมป์แลกซื้อจาก 7-11 เท่านั้น
เหมือนสะสมแสตมป์ที่บ้านเราครับ เลยอดเลย เสียดายอยากได้มากกก

ลืมรูป

อีกวันพามาเที่ยวที่ อ่าววิคตอเรีย เป็นจุดสำคัญ ที่เปิดแสดงชุด
The Symphony Of Lights เวลา 2 ทุ่ม ทุกคืน ซึ่งจุดดังกล่าว
เป็นจุดที่ประทับรอยนิ้วมือ ของเหล่าดาราชื่อดังในฮ่องกง ทั้ง
Bruce Lee และ Jacky Chan ด้วยครับ

บรรยากาศฮ่องกงปลายเดือนตุลาคมเริ่มมีหมอกปกคุมบางส่วนแล้วครับ
เพราะกำลังจะเข้าหน้าหนาวแล้ว

บริเวณรอบๆ อ่าวจะเป็นทางเดินยาว ซึ่งเป็นที่ประทับรอยนิ้วมือ
ของดาราฮ่องกง ตลอดทางเดินยาวรอบอ่าวครับ

อีกหนึ่งจุดที่ได้รับความสนใจ จากนักท่องเที่ยว
ที่มาถ่ายรูปกัน จุดแสดงถึงวงการบันเทิงของฮ่องกงที่มีชื่อเสียง

Action !!

รูปปั้น บรูช ลี ที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญ ของอ่าวแห่งนี้

เก้าอี้แห่งนี้เป็นอีกจุดที่ได้รับความสนใจ และคนถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก
สังเกตุจากสีของเก้าอี้ที่ถลอก

บริเวณฝั่งถนนด้านนอกของอ่าว เป็นตึกสูง ซึ่งเป็นเอกลักณ์ของเกาะฮ่องกง

#

เมื่อถึงยามคำคืน บริเวณอ่าวแห่งนี้ จะเปลี่ยนความมืดมิดของเวลากลางคืน
ให้สวยงาม ด้วยแสงไฟจากตึกใหญ่ๆต่างๆ  ที่ต่างพร้อมเพรียงกัน
ตกแต่งไฟอย่างสวยงาม เพื่อเปิดการแสดง The Syphony of Lights
ในเวลา 2 ทุ่มของทุกคืน เหมือนกับมังกรที่ตื่นขึ้นมา แสดงถึงอำนาจและความยิ่งใหญ่
ที่สะกดสายตาและความรู้สึกของผู้ได้มาเยือนที่นี่ทุกคน

การแสดง The Symphony of lights เปิดแสดงทุกคืนเวลา 2 ทุ่ม
ใช้เวลาแสดง 15 นาทีเท่านั้นครับ

เพียงแค่แสงสีจากตึก ก็สะกดสายตาแล้วครับ

#

#

#

คืนวันพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว

#

#

เดินเล่นโต้ลมเย็นๆ รอบๆอ่าวยามค่ำคืน
กลิ่นปลาหมึกบดย่างลอยพัดโชยมากับสายลม
มันช่างเย้ายวนจริงๆ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆนะครับบ

ตามมาชมรีวิวด้วยคนค่ะ  รูปสวยมาก