ช่วงวันหยุดวันรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา(10 ธค54-14ธค 54)ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาะชวามาครับ  โดยโปรเเกรมหลักๆที่จะไปก็คือ Yogyakarta เเละ Bromo ครับ หลังจากนั่งปรับเเต่งเเผนกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ โปรเเกรมก็ลงตัวตามนี้ครับ
วันที่1 ขึ้นเครื่องจากไทยตอน 2ทุ่ม ไปลงที่สนามบินSurabayaราวๆ 5ทุ่มครึ่งหลังจากนั้นนั่งรถไปYogyakaryta
วันที่2 ถึงYogya ราวๆ9โมงเช้า เข้าที่พัก พักผ่อนตามสบาย ตอนบ่ายไปเที่ยวPrambanan,Taman Sari เดินเล่นที่ถนนMalioboro
วันที่3 ออกจากYogyakarta ไปเที่ยว Dieng Plateau เเละกลับมาเข้าพักที่Manohara Resort
วันที่4 ชมบุโรพุทโธยามเช้า เเละเดินทางไปยังBromo
วันที่5 เที่ยวBromo เเละตอนบ่ายไปเที่ยวน้ำตก Madakaripura เเล้วกลับมาพักที่ Bromo
วันที่6 ออกเดินทางจากBromo มายังSurabaya เเล้วขึ้นเครื่องกลับไทย
เเละการเที่ยวครั้งนี้ต้องขอขอบคุณ คุณ Kugar ด้วยครับที่รีวิวการเที่ยวBromo เเละทำให้ผมรู้จักน้ำตก Madakaripura ขอบคุณจริงๆครับ

ทริปนี้ของผมมีเรื่องตื่นเต้นกันตั้งเเต่ก่อนไปเลยทีเดียวคือ เพื่อนของผมลืมเช็คพาสปอร์ต ปรากฎว่าเพิ่งมารู้ตัวก่อนเดินทางวันเดียวว่าพาสปอร์ตเหลืออายุเเค่3เดือน จะทำใหม่ก็ไม่ทัน ผลสุดท้ายคือให้ทางที่ทำงานเพื่อนออกจดหมายยืนยันการเป็นพนักงาน +printเอกสารการจองที่พัก โปรเเกรม เเละหลักฐานทุกอย่างไปให้มากที่สุด ซึ่งผลสุดท้ายก็ผ่าน ตม.มาได้ด้วยดี(เเต่โดนลากเข้าห้องเย็นไปสัมภาษณ์นิดหน่อย ขอขอบคุณ ตม. สุราบายามา ณ ที่นี้ด้วยครับ)
พอผ่าน ตม มาได้ก็เดินออกมาด้านนอกสนามบิน คนขับรถที่ติดต่อไว้ก็มารออยู่เเล้วพอดี ว่าเเล้วก็ขึ้นรถ เดินทางตรงดิ่งไปยังเมืองYogyakarta ซึ่งใช้เวลาราวๆ 7 ชม กว่าจะมาถึง Yogyakarta ก็ 9โมงเช้าพอดี

สำหรับที่พักที่ Yogyakarta ของผมนั้น ผมพักที่ Rumah Mertua Resort ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองออกมาราว 5-6 กม ได้ ซึ่งตอนเเรกผมเล็งโรงเเรมในตัวเมืองเอาไว้ เเต่เห็นว่าที่นี่ได้Rank อันดับ1ในTripadvisor เลยขอลองดูหน่อยสิว่าดียังไง

เเละที่นี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆครับ พนักงานน่ารักมากกกก บรรยากาศดี ห้องพักสะอาด
เนื่องจากผมไปถึงตอน 9โมงเช้าซึ่งยังไม่ใช่เวลาเช็คอิน เเต่พนักงานเห็นผมเเละเพื่อนโทรมสนิทมาก (ลืมบอก รถที่นั่งมาเเอร์เสียครับ ต้องนั่งเปิดหน้าต่าง หน้ามันจากSurabaya มายังYogyakarta)จึงบอกว่า เดี๋ยวจะเปิดห้องที่ว่างให้เข้าไปพักผ่อนกันก่อนห้องนึง ส่วนอีก2ห้องต้องรอให้เเขกcheck out ออกไปก่อน ซึ่งเเค่นี้ผมก็ปลื้มกับความมีน้ำใจของพนักงานเเล้ว

ตามไปเที่ยวชวาด้วยคนค่า

หลังจากล้างหน้าล้างตา ผมกับเพื่อนก็มานั่งเล่นที่ริมสระ ส่วนคนขับรถขอตัวเอารถไปซ่อมเเอร์
(นอกเรื่องนิดนึง คนขับรถผมวัยรุ่น เเต่สุภาพมากกกกกกกกกก ขอโทษเรื่องเเอร์มาตลอดทาง เเถมขับรถดีมาก ถ้าใครสนใจหลังไมค์มาได้นะครับ)

สระน้ำที่นี่ สะอาดดี เเต่ขนาดไม่ใหญ่มาก เอาไว้เเช่เล่นพอเพลินๆก็พอได้อยู่

ขอบคุณคุณ หมูอ้วนขี้อ้อน ที่เข้ามาชมนะครับ :)
สักพัก พนักงานก็เดินเอาWelcome Drinkมาเสิร์ฟพร้อมกับขนมให้ทานเล่น ซึ่งขนมที่เสิร์ฟนั้นเป็นเหมือนมะพร้าวกวนห่อด้วยเเป้งปอเปี๊ยะ รสชาติก็โอเค เเต่ผมว่ามันหวานไปหน่อย ส่วนWelcome Drinkดันเป็นชาร้อน เนื่องจากนั่งอบในรถมาตลอดคืน จึงขอน้ำเเข็งจากพนักงาน ซึ่งเธอก็เอามาให้ด้วยความยินดี

นั่งเล่นสักพัก พนักงานก็เเจ้งว่าห้องพักอีกห้องว่างเเล้ว เลยได้มีโอกาสเข้ามาถ่ายรูปภายในห้องพัก(ห้องเเรกเละไปตั้งเเต่3นาทีเเรก เพราะเเค่กระเป๋าของคน9คนก็เละเเล้ว -_-")ในห้องมีน้ำ เเอร์ ทีวี ผ้าเช็ดตัว เเต่ไม่มีตู้เย็นนะครับ

ห้องน้ำมีอุปกรณ์ครบ มีน้ำอุ่น ไม่มีสายชำระเเต่! ชักโครกเค้ามีที่ฉีดชำระอยู่ในตัวคร้าบบบบบบบบบ หมดกังวลเรื่องนี้ไปได้ เเหล่ม!

เข้าห้องพัก อาบน้ำ นอนเล่น พอเที่ยงๆก็ออกมาหาอะไรทานในตัวรีสอร์ทนั่นเเหละ ขี้เกียจไปไหนไกล เหนื่อยเเละร้อน

ร้านอาหารของรีสอร์ท เป็นร้านเล็กๆ ทางรีสอร์ทคงตั้งใจเอาไว้บริการเเค่เเขกทื่มาพักเพราะตัวร้านอยู่ด้านในของรีสอร์ท เเถมมีที่นั่งไม่กี่ที่เท่านั้น

อาหารของทางร้านก็จะเป็นอาหารท้องถิ่นของอินโด จำพวกNasi Goreng,Mie Goreng รสชาติดีทีเดียว เเต่ราคาค่อนข้างสูงไปหน่อย(เมื่อเทียบกับค่าครองชีพของอินโด) ตกจานละ 140 บาท

ที่พักสดชื่นมากมาย สีเขียวสดชื่นมาก

ตามทริปนี้ไปด้วยคนครับ

นั่งรอสักพัก อาหารก็มา หน้าตาเเละรสชาติ ผ่าน! อร่อยโอเคทีเดียว สำหรับใครที่กหังวลเรื่องอาหารการกินเวลามาอินโด ผมว่าไม่ต้องกังวลเลยครับ อาหารเค้าคล้ายๆอาหารไทย เพียงเเต่จะไม่ค่อยมีเมนูหมู เน้นไปทางไก่ ไม่ก็เนื้อมากกว่า

ตามไปเที่ยวอินโด

ขอบคุณที่ติดตามครับ คุณชานมชงเอง วันนี้อาจจะเน้นไปทางโบราณสถานนิดนึง เเต่กระทู้หน้าจะหนักไปทางธรรมชาติ เขียวๆ สไตล์คุณเลย อย่าลืมติดตามนะครับ
อันนี้เป็นวิวจากสระว่ายน้ำมองไปยังร้านอาหาร ร่มรื่นทีเดียว

หลังจากทานอาหารเสร็จ ก็นอนเล่นสักพัก เนื่องจากโปรเเกรมวันนี้คือจะไปPrambananซึ่งเป็นที่เที่ยวกลางเเจ้ง ขืนไปตอนบ่าย คงเเห้งตายคาศาสนสถาน เลยขอนอนเล่นให้เเดดร่ม ลมตกหน่อยละกัน

ตามมาเที่ยวด้วยกันครับ คุณ Travelmax
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่พักสงบๆ บริการดีๆที่Yogyakarta ขอเเนะน้ำRamah Mertua Resortนะครับ บริการเค้าดีจริงครับ

พอสักบ่าย3 ผมก็ออกเดินทางไปยังPrambananในรถคันเดิม(ที่ซ่อมเเอร์เรียบร้อยเเล้ว เย่ห์) จากที่พักผมไปPrambananไม่ไกลมาก นั่งรถประมาณ15-20 นาทีก็ถึง (ที่อินโดรถติด เเละถนนเล็กกว่าไทยครับ)

ติดตามจ้า มีแผนจะไป มิใย ปีหน้าค่ะ แต่ไป บาหลี ลอมบก แวะโบรโม หน่อยนึงค่ะ

อยากเห็นโบรโมกับตาตัวเองจัง

ที่พักก็ดูสวยคลาสสิคมากๆครับ

เที่ยวด้วยกันครับคุณwallapaza เดี๋ยวช่วงBromo ผมจะลงให้เเบบละเอียดๆ เลยครับ มีที่พักใหม่ที่Bromoมาเเนะนำด้วย
ค่าเข้าPrambananนั้น 13 USD เเต่ถ้าเป็นนักศึกษาลดเหลือ 6USD ครับ ผมว่ามันเเพงเกินอะเมื่อเทียบกับระบบการจัดการ อย่างที่นครวัด นครธม ที่นั่นค่าเข้าเเพงก็จริง เเต่ระบบการจัดการเค้าเเหล่มกว่าเยอะ

Koon Shy_Tour Dee ครับ Bromo สวยจริงๆ สวยมากกกกกกก เเนะนำให้ไปครับ
สำหรับ Prambanan นั้นเป็นศาสนสถานของศาสนาฮินดู สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ในราชวงศ์สัญชัย ช่วงศตวรรษที่8-10 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่ศาสนาฮินดูเป็นใหญ่ในเกาะชว่าได้

ขอบคุณค่ะ ตอนนี้กำลังเก็บข้อมมูลเรื่องที่พัก ค่าใช้จ่ายเข้าชม และเรื่องรถค่ะ ไม่ทราบคุณ Traveller Among Mountains เหมารถเที่ยวรึเปล่าค่ะ หรือใช้รถโดยสารสาธารณะ

Prambananเป็นศาสนสถานฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในชวา ประกอบด้วยปรางค์หลักๆ3องค์ องค์ใหญ่สุดตรงกลางนั้นสร้างเพื่อถวายพระศิวะ ส่วนปรางค์รองทั้ง2ด้านสร้างเพื่อถวายพระพรหมเเละพระวิษณุ

คุณwallapaza ผมใช้วิธีเหมารถเที่ยวครับ เนื่องจากไปกัน9คน เลยเหมาะรถตู้1คันเที่ยวตลอดทริป (ค่ารถ+คนขับ+ค่าน้ำมัน+ค่าทางด่วนวันละ 900000IDR หรือราวๆ3150 บาทครับ)
สถานที่เเห่งนี้ ชาวอินโดมักจะเรียกว่าวัดโลโรจองรังมีความหมายว่าสาวน้อยผู้รูปร่างผอมบางโดยเชื่อว่าหมายถึงธิดาของกษัตริย์พราบู โบโก ซุ่งมีอาณาจักรตั้งอยู่ทางใต้ของPrambanan ซึ่งชื่อพรัมบานันนั้นก็ตั้งตามชื่อของทุ่งที่เป็นที่ตั้งของศาสนสถานเเห่งนี้นี่เอง

หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมPrambanan ซึ่งเป็นศาสนสถานฮินดูถึงได้ตั้งอยู่ไม่ไกลกับบุโรพุทโธซึ่งเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธได้ ทั้งนี้เนื่องจากราชวงศ์สัญชัย(ฮินดู)เเละราชวงศ์ไศเลนทรา(พุทธ)นั้นใช้วิธีให้ลูกหลานเเต่งงานกันเพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง2ราชวงศ์ จึงทำให้ไม่ต้องเป็นศัตรูต่อกัน

ต่อมาราวศตวรรษที่16 ศาสนาฮินดูเริ่มเสื่อมถอยลงไป จึงมีการย้ายไปยังบาหลี เเต่นักวิชาการบางท่านก็เชื่อว่าการย้ายไม่ได้เกิดจากความเสื่อมถอยทางศาสนาเเต่เกิดจากภูเขาไฟระเบิด

ครั้งหนึ่งเคยเกิดเเผ่นดินไหวอย่างรุนเเรงที่เกาะชวา ทำให้วิหารเเห่งนี้พังลงมาราบ เเต่ต่อมาได้มีการบูรณะซ่อมเเซม ซึ่งปัจจุบันนี้ เราก็จะยังเห็นการบูรณะที่ยังคงทำอยู่อย่างต่อเนื่อง

ความจริงโดยรอบของPrambananจะมีกลุ่มศาสนสถานเล็กๆตั้งอยู่กระจัดกระจายกันออกไป มีรถรางให้นังชม(เเต่ตอนผมไปเห็นรถรางจอดเฉยๆไม่มีคนขับ?)

สำหรับผม ตัวองค์ปรางค์ของPrambananนั้นค่อนข้างสวย ได้สัดส่วนทีเดียว เเต่เรื่องความละเอียดของการเเกะสลัก เเละความยิ่งใหญ่อลังการ ผมว่ายังห่างชั้นกับนครวัดอยู่เยอะนะ (อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ)

ผมใช้เวลาทีนี่ราวๆชั่วโมงครึ่ง ก็ตัดสินใจไปเที่ยวในตัวเมืองYogyakarta ต่อ

ระยะทางจาก Prambananมายัง Yogyakarta นั้นราวๆ 17 กม. เเต่รถเยอะ+มีไฟเเดงเยอะ เลยใช้เวลาเดินทางเกือบ1 ชม. -_-"

ที่ต่อมาที่ผมมาก็ที่นี่เลยครับ Taman Sari ซึ่งเป็นสระน้ำขององค์ศุลตานในสมัยก่อน

เส้นทางในเมืองแคบมั้ยค่ะ

สถานที่เเห่งนี้ตั้งอยู่กลางชุมชนเเออัด พอรถจอดปุ๊ป ก็มีไกด์เข้ามาเสนอตัวปั๊ป หน้าตาเเบบว่า เอิ่มมมม คือดูตัวโกงมากอ่ะ เเต่ทำไรไม่ได้ เนื่องจากเค้าประกบสุดๆ พูดจากเพราะ เเนะนำทางดิบดีเลยต้องปล่อยเลยตามเลย ได้เเต่ลุ้นในใจว่าจะโดนฟันเท่าไรวะ(ตรู)

คุณwallapaza เส้นทางในเมืองไม่เเคบครับ(4เลน) เเต่การจราจรค่อนข้างเเออัดครับ

เนื่องจากวันที่ผมไป ที่นี่ปิด(จากปากคำของลุงไกด์หน้าโหด) เเละจะปิดอีกที2ในวันข้างหน้าตามปฎิทินจันทรคติ คุณลุงเเกเลยพาผมเดินลัดเลาะในหมู่บ้านเพื่อปีนกำเเพงขึ้นไปชมTaman Sariในมุมสูงเเทน

แง๊ ไกด์น่ากลัว หวังว่าเราจะเป็นหญิงเหล็กเหมือนตอนไปแชงกลีล่านะ สู้ และต่อราคา สุดฤทธิ์

โดยสระ2สระนี้จะเป็นที่ให้เหล่าพระสนมของศุลตานมาอาบน้ำกัน เเล้วศุลตานก็จะนั่งมองจากหอคอยด้านบน เเล้วจะทำการเลือกนางสนมเพื่อมาทำการปรณนิบัติพัดวีในเเต่ละวัน (conceptคุ้นๆเเฮะ)

คุณ wallapaza ครับไกด์หน้ากลัว เเต่เดี๋ยวมีเรื่องเซอไพรซ์ครับ
ประตูสวยๆหน้า Taman Sari ด้านหลังจะเป็นที่สำหรับจอดราชพาหนะของศุลตาน

ด้านหลังของTaman Sari จะเห็นได้ว่าถูกล้อมรอบไปด้วยชุมชนเเออัด ตอนผมเดินลัดเลาะ ได้เดินผ่านบ่อนด้วย มีเเต่ผู้หญิงเล่นกันตรึมเลย น่าสนุกดี อยากเข้าไปลองเล่นมั่งจัง :)
ปล.ชุมชนเเออัดที่นี่ไม่น่ากลัวนะครับ สบายใจได้

หลังจากนั้นลุงไกด์ก็พาเดินลงอุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งเป็นทางสัญจรลับในสมัยก่อน เนื่องจากเดิมทีพื้นที่ส่วนนี้จะเป็นอ่างเก็บน้ำ ศุลต่านจะใช้อุโมงค์นี้สำหรับการเดินทาง เเละหนีในกรณีที่ข้าศึกบุก โดยอุโมงค์นี้จะเชื่อมต่อไปยังทะเลซึ่งห่างออกไปจากตัวเมืองราว27 กม โดยเมื่อศุลตานหนีออกไปเเล้วจะทำการปล่อยน้ำเข้าอุโมงค์ เพื่อเป็นการสกัดไม่ให้ศัตรูตามได้ทัน

กลอุบาย เจ๋ง มาก

ภายในอุโมงค์จะมีสถานที่ทำสมาธิของศุลตานอยู่ด้วย โดยพระองค์จะนั่งทำสมาธิตรงกลางลานที่มีน้ำล้อมรอบ เเละด้านหนึ่งของลานจะเป็นที่ประทับของโอรสของพระองค์

เมื่อขึ้นมาด้านบน จะเห็นหอคอยเตี้ยๆเเทรกกลางตัวชุมชนเป็นระยะๆ นั่นคือตำเเหน่งป้อมที่ใช้เป็นที่ระบายอากาศของทางเดินใต้ดิน
ปล.ทางเดินนี้นอกจากจะเป็นที่หนีของศุลตานเเล้ว ยังมีตำนานว่าเป็นทางที่ศุลตานเเต่ละพระองค์ใช้เดินทางเพื่อไปหาระตูกีดุล(เทพีเเห่งทะเล)ที่ชายหาดปารังตริติส โดยตำนานของระตูกีดุลมีดังนี้
เมื่อราวปลายศตวรรษที่15 กษัตริย์แห่งปาจาจารันได้มีพระมเหสีงดงามยิ่งนัก ซึ่งทั้ง2พระองค์ได้มีพระธิดาร่วมกัน1องค์ชื่อว่ากาดีตาซึ่งงดงามไม่ต่างจากพระมารดา ซึ่งความงามของทั้ง2พระองค์เป็นที่อิจฉาของพระสนมองค์อื่นๆ จึงร่วมกันทำคุณไสยทำให้กษัตริย์รังเกียจ2เเม่ลูกเเละขับไล่ออกจกาวังไป ทั้ง2พระองค์ต้องระหกระเหิน ซึ่งต่อมาพระมารดาก็ตรอมใจตายส่วนกาดีตานั้นได้หมดสติลงริมทะเล เหล่าภูตทะเลเห็น จึงพาร่างของเธอลงไปใต้ทะเลซึ่งทำให้มนต์ดำเสื่อมฤทธิ์ลง เเลพระนางได้รับการเเต่งตั้งให้เป็นเทพเเห่งห้องทะเล เป็นผู้ปกปักรักษาทะเลใต้เเห่งชวา ภายหลังได้มีเรื่องเล่าต่อว่าระตูกีดุลได้สัญญากับกษัตริย์เเห่งอาณาจักรมะตะรัมว่านางจะสมรสกับหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ของชวาทุกพระองค์
ซึ่งถ้าใครได้ชมการเเสดงการรำของราชสำนักจะเห็นว่านางรำจะเป็นเลขคี่เพื่อเว้นที่ให้พระนางระตูกีดุล ซึ่งผู้ที่จะเห็นพระนางได้มีเพียงองค์ศุลตานเท่านั้น

พอวนครบรอบTaman Sari คุณลุงไกด์ก็มาส่งตรงที่จอดรถเเละ....เดินจากไป ไม่ขอทิป ช็อคมาก! กะโดนฟันเต็มที่ ทำตัวไม่ถูก เลยรีบวิ่งเอาเงินไปให้เเก เเกก็ขอบคุณ   อืมมมมมมม คนเราตัดสินจากภายนอกไม่ได้จริงๆ

หลังจากนั้นผมก็มาเดินเล่นที่ถนนMalioboro ซึ่งเป็นเหมือนข้าวสารบ้านเรา ในความคิดผมมันไม่ค่อยมีอะไรอ่ะ ของขายก็เหมือนๆกันไปหมด ว่าจะหารร้านอาหารสำหรับมื้อเย็นก็หาไม่เจอ เจอเเต่ร้านรถเข็น ไม่ก็นั่งกับพื้น ผลสุดท้ายไปเจอร้านอาหารในห้าง Malioboro mall ซึ่งรสชาติเเละราคาโอเคทีเดียว

อ่านรีวิวนี้รู้เรื่อง ตำนานเยอะดีน้อ

หลังจากนั้นก็กลับเข้าที่พัก ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยเชียว :)

ฮ่า เราเคยเจอแบบนี้เหมือนกัน จนต้องรู้สึกผิดเอาเงินยัดใส่มือไกด์เลย

เนื่องจากเพิ่งค่ำ ผมกะเพื่อนเลยมานั่งเล่นที่ริมสระ น่าเเปลกอย่างนึง มาที่ชวา ไม่เจอยุงเลย ทั้งๆที่อากาศชื้น ยุงน่าจะเยอะ เเต่นี่ไม่เจอเลย เเปลกจริง

เเละที่ขาดไม่ได้คือนี่เลยครับ J Co Donut คราวที่เเล้วไปบาหลีพลาดไม่ได้กิน พอมาที่นี่เลยของลองสักหน่อยเเล้วพบว่า เออ ของเค้าอร่อยจริง เเนะนำๆ

เอ้า อันนี้แนะนำชะมั้ย ต้องลองซะละ

ว่าแต่ร้านที่บาหลีอยู่ตรงไหนคะ

ขอจบวันเเรกไว้ที่คห นี้นะครับ ไว้กระทู้หน้าจะพาไปเที่ยว Dieng Plateau ซึ่งเป็นสถานที่ที่เปรียบไว้ว่าเป็นบ้านของเทพเจ้า ไว้มาดูกันว่าบ้านเทพเจ้าตอนผมไปนั้นเป็นอย่างไรครับ

พรุ้งนี้จะรอนะ

คุณ Wallapaza ร้านที่บาหลีอยู่ที่ห้าง Matahari Mall,Kuta ครับ

ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จขกท ทำเวลาได้ดีจัง ไป 5 วัน ไม่เสียเวลาเดินทางเท่าไหร่เพราะนอนเอาในรถ แถมกลางคืนการจราจรน่าจะเบาบาง  รอชมต่อตอนหน้าด้วยครับ

ดูลึกลับดีจัง เหมือนในหนัง ^^

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

ตามไปเที่ยวครับ

ดูเป็นที่ลึกลับน่าไปสัมผัสและค้นหามากเลยครับ

กิฟลุงหมดแล้วขอตามไปเที่ยวฟรีครับ
โดนัทน่าทานมากอิอิ

สวยครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

สวยมากครับบ ขอบคุณภาพสวยๆครับ

.. ที่พักสวยมากครับ .. แถมขนมที่เสิร์ฟกับ Welcome Drink เยอะมากเลย .. และก็ได้รู้ว่าถ้าพาสปอร์ตเหลือไม่ถึง 6 เดือนก็ไปได้ .. ขอบคุณครับ ..

ขอบคุณรีวิวครับ ไปปรามบะนันกับบุโรพุทโธมาแล้วเหมือนกัน

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยมากๆค่ะ

ขอบคุณมากเลยค่ะ.. เก็บข้อมูลไว้ก่อน
อยากไป Bromo ค่ะ ^^

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับ นี่คือLink รีวิววันที่2 ครับ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11482192/E11482192.html#1
@MRBIG173  เรื่องพาสปอร์ตถ้าเป็นไปได้ก็ทำให้ถูกต้อง(6เดือน)ก็ดีนะครับกันไว้ดีกว่าเเก้ เกิดวันนั้น ตม.อารมณ์เสีย เข้าประเทศไม่ได้ จะนอยซะเปล่าๆครับ :)

ชอบมากครับ รีวิวกระชับ ภาพสวย แถมตอบคำถามอีก เยี่ยมๆครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวน่ะค่ะ