+ + + H E I D E L B E R G : เสน่ห์เมืองโรแมนติค เสน่ห์เมืองไฮเดลแบร์ก [ GERMAN AUTUMN LEAVES 5 ]

สวัสดีครับเพื่อนๆชาว BP ทุกท่าน

รีวิวทริป GERMAN AUTUMN LEAVES เข้าตอนที่ 5 แล้วครับ

วันนี้ขอพาเพื่อนๆไปเที่ยวเมือง ไฮเดลแบร์ก (Heidelberg) ครับ

รวมลิ้งค์รีวีวิวทริป GERMAN AUTUMN LEAVES

R I Q U E W I H R : หมู่บ้านมรดกโลก เมืองแห่งไร่องุ่น เมืองริค-เวีย
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11455252/E11455252.html

C O L M A R : ลิตเติ้ลเวนิซ เมืองน่ารัก เมืองโกลม่าร์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11460817/E11460817.html

N E U S C H W A N S T E I N : ปราสาทเทพนิยายนอยชวานสไตน์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11470665/E11470665.html

F R A N K F U R T : เมืองหลวงทางการค้าของเยอรมัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11475687/E11475687.html

H E I D E L B E R G : เสน่ห์เมืองโรแมนติค เสน่ห์เมืองไฮเดลแบร์ก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11479143/E11479143.html

F R E I B U R G : เดินละเลียดชมเมืองน่ารัก เมืองไฟรบวร์ก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11486344/E11486344.html

BLACK FOREST : ล่องเรือในทะเลสาบ Titisee, แวะชมทุ่งดอกเรปส์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11490877/E11490877.html

ETTAL ABBEY : เยี่ยมสำนักสงฆ์เอ็ททาล, พาชมโบสถ์แสวงบุญมรดกโลก โบสถ์วีส์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11495019/E11495019.html

O B E R A M M E R G A U  : เดินละเลียดชมหมู่บ้านกำแพงสวย, แวะเยี่ยมปราสาทลินเดอร์โฮฟ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11499685/E11499685.html

MUNICH LOVES YOU : เสน่ห์เมืองมิวนิก เมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11501929/E11501929.html

N Y M P H E N B U R G Palace : พระราชวัง นึ้มเฟ่นบวร์ก, เดินเที่ยวชมตลาดฟิคทูอาเลี่ยนมาร์คท
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11504803/E11504803.html

RESIDENZ MUNCHEN : พระราชวังเรซิเด้นซ์มุ้นเช่น ชมขุมทรัพย์อันล้ำค่าแห่งบาเยิร์น
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11508829/E11508829.html


ภาพเมืองโรแมนติค Heidelberg ยามหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:12:07 ]
ความเห็นที่ 1

I lost my heart in Heidelberg (Ich hab mein Herz in Heidelberg verloren)

คือเพลงฮิตประจำเมืองไฮเดลแบร์ก เพราะว่าเมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่โรแมนติก เนื่องด้วยความสวยงาม สง่า และสงบของเมือง ประกอบกับมีแม่น้ำ Neckar ไหลผ่านเมือง จึงทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์และสร้างความประทับใจทุกครั้งแก่ผู้มาเยือน

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:12:49 ]
ความเห็นที่ 2

สำหรับเส้นทางขับรถพาเที่ยวทริป GERMAN AUTUMN LEAVES เรียงเมืองตามลำดับก่อน-หลัง ดังนี้ครับ

Frankfurt - Heidelberg - Freiburg - Colmar - Riquewihr - Titisee - Fussen (Neuschwanstein, Linderhof) - Munich

จากแฟรงค์เฟิร์ต ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงไฮเดลแบรกแล้วครับ (ระยะทางจากแฟรงค์เฟิร์ต - ไฮเดลแบรก = 90 กิโลเมตร)

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:13:50 ]
ความเห็นที่ 3

ไฮเดลแบร์ก หรือ ไฮเดลเบิร์ก ถ้าอ่านออกเสียงแบบภาษาอังกฤษ จัดเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญเมืองหนึ่ง ของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นอกจากนี้ยังมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ไทยด้วยนะครับ เพราะเป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ทรงประสูติ สมัยที่พระบิดาทรงศึกษาวิชาทางการแพทย์ ณ มหาวิทยาลัยที่นี่

ไฮเดลแบร์ก ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากในทางวิชาการ แม้กระทั่ง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ก็เคยมาเดินบนเส้นทางนักปราชญ์ (Philosophenweg) ของเมืองนี้มาแล้ว

ข้อมูลอ้างอิงประกอบคำบรรยายใต้รูปภาพ ส่วนใหญ่นำมาจากหนังสือ เที่ยวไม่ง้อทัวร์ตีตั๋วลุยเยอรมัน และบางส่วนนำมาจาก Wikipedia ครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:14:14 ]
ความเห็นที่ 4

ชื่อเมืองไฮเดลแบร์กนั้นถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ. 1196 และมามีชื่ออีกครั้งสมัยที่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยไฮเดลแบร์ก (Ruprecht-Karls-Universität Heidelberg) เมื่อปี ค.ศ. 1386  ต่อมาได้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งหนึ่งของลัทธิมนุษยนิยมในคริสต์ศตวรรษที่ 15

ผลกระทบจากสงคราม 30 สิบปีทำให้เมืองไฮเดลแบร์กถูกทำลายไปมาก และกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งในคริสต์ศตวรรษที่ 19 นอกจากนี้ยังเป็นเมืองหนึ่งที่ไม่ได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สองแม้แต่น้อย

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:14:37 ]
ความเห็นที่ 5

ปัจจุบัน ไฮเดลแบร์กมีประชากรประมาณ 140,000 คน เป็นชาวต่างชาติเสียราวๆ 20,000 คน มีนักศึกษาทั้งหมดประมาณ 30,000 คน (ข้อมูลปี พศ 2549) ด้วยความที่เป็นเมืองมหาวิทยาลัยและเมืองท่องเที่ยว การใช้ชีวิตที่นี่จึงสามารถอยู่ได้โดยใช้ภาษาอังกฤษเพียงภาษาเดียว

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:15:01 ]
ความเห็นที่ 6

เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยว ใครที่เคยมาเที่ยวเมืองไฮเดลแบร์ก (หรือวางแผนจะมาเที่ยว) แล้วก็ต้องนึกถึงปราสาทไฮเดลแบร์กเป็นอันดับแรก ไฟจากสงครามสามสิบปีได้ทำลายปราสาทนี้ไปมาก

แต่ซากปรักหักพังที่เหลืออยู่นั่นแหละครับ ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเป็นจำนวนมากในแต่ละปี มีการแสดงละครบนลานของปราสาทในช่วงฤดูร้อน และมีการจุดพลุไฟในวันสิ้นปี

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:15:33 ]
ความเห็นที่ 7

นอกจากนี้ทาง UNESCO ก็ได้ประกาศให้ปราสาทไฮเดลแบร์กที่ว่านี้ และตัวเมืองเก่า (Altstadt) ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:15:57 ]
ความเห็นที่ 8

ปัจจุบันไฮเดลแบรก มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการพิมพ์อย่างมาก แท่นพิมพ์มีดีไซน์ที่โดดเด่น และยังเป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรมการพิมพ์ระดับโลก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของโรงพิมพ์ขนาดใหญ่ และเป็นผู้ผลิตแท่นพิมพ์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งจำหน่ายแท่นพิมพ์ให้กับบ้านเราจำนวนไม่น้อย

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:16:18 ]
ความเห็นที่ 9

ยิ่งไปกว่านั้นไฮเดลแบรกยังขึ้นชื่อเรื่องการศึกษาอีกด้วย เพราะเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยสำคัญๆอย่าง Ruprecht-Karls Universitat Heidelberg ที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน และมีชื่อเสียงด้านการแพทย์ ด้านกฏหมาย ภาษาศาสตร์ และปรัชญา หรือมหาวิทยาลัยการแพทย์ไฮเดลแบร์ก

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:16:47 ]
ความเห็นที่ 10

เพื่อนๆที่สนใจต้องการรู้จักเมืองโรแมนติคอย่างไฮเดลแบร์ก ให้มากกว่านี้ ลองคลิ๊กเข้าไปดูที่ลิ้งค์นี้ดูน่ะครับ http://www.heidelberg-marketing.de/content/index_eng.html

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:17:10 ]
ความเห็นที่ 11

หลังจากที่วันแรกบินมาถึงและเที่ยวเมืองแฟรงค์เฟิร์ต เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเราเข้าไปเที่ยวเมืองไฮเดลแบร์กครับ

โดยพักที่โรงแรม Heidelberg Elite Hotel เป็นโรงแรมเก่าเข้ากับบรรยากาศของเมืองเก่าอย่างไฮเดลแบร์ก ห้องพักตกแต่งสีแดงฉูดฉาด และกว้างขวางเชียวครับ

ห้องนี้ห้องใหญ่เป็นห้องพักแบบ 4 คน แต่เรานอนกันเพียง 2 คนเท่านั้น โรงแรมมีบริการอาหารเช้า อยู่ไม่ไกลจากเมืองเก่ามากนัก เพื่อนๆที่สนใจสามารถคลิ๊กเข้าไปดูรายละเอียดได้ครับ http://www.hotel-elite-heidelberg.de/

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:17:38 ]
ความเห็นที่ 12

จากโรงแรมเดินผ่านเมืองเก่ามุ่งหน้าสู่ปราสาทก่อนครับ เนื่องจากควรขึ้นไปชมปราสาทตอนช่วงเช้า เพราะถ้าขึ้นไปตอนช่วงบ่ายจะทำให้ถ่ายรูปย้อนแสงได้เมื่อยืนเก็บภาพที่จุดชมวิวบนปราสาท

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:18:02 ]
ความเห็นที่ 13

ถนนสายหลัก Hauptstrasse แหล่งรวมร้านค้าชั้นนำไปจนถึงห้างคอมเพล็กซ์

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:18:22 ]
ความเห็นที่ 14

ถนนเส้นนี้มีจุดเริ่มต้นที่ Bismarckplatz และยาวไปเรื่อยๆ จนสุดเขตเมืองเก่า เป็นถนนคนเดินผ่าใจการเมืองเก่าเลยครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:18:41 ]
ความเห็นที่ 15

เมื่อเดินมาถึงบริเวณจัตุรัส Marktplatz จะเห็นโบสถ์ Heiliggeistkirche อยู่บริเวณจัตุรัส

โบสถ์ Heiliggeistkirche โบสถ์นี้มีชื่อเสียงมากในเมืองไฮเดลแบรก สร้างโดยเจ้าอีเล็กเตอร์รูเปร็ชท์ที่ 3 และกินเวลาก่อสร้างนานถึงศตวรรษครึ่ง โดยเดิมทีตัวโบสถ์สร้างในสไตล์โกธิกสมัยใหม่ แต่หลังได้รับความเสียหายจากสงครามในปี คศ 1709 ระหว่างสงครามกับฝรั่งเศส จึงมีการก่อสร้างใหม่แบบบาร็อก และเนื่องจากโบสถ์แห่งนี้ต่างจากโบสถ์อื่นๆตรงที่ว่าเป็นโบสถ์ประจำมหาวิทยาลัย จึงทำให้มีห้องสมุดภายในโบสถ์ด้วย

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:19:03 ]
ความเห็นที่ 16

ภาพยอดหอคอยของโบสถ์ Heiliggeistkirche ถ่ายจากจุดชมวิวมุมสูงจากข้างบนระเบียงปราสาท

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:19:23 ]
ความเห็นที่ 17

จัตุรัส Marktplatz (มาร์คทพลัทซ์) บริเวณนี้ไม่ได้มีความสำคัญในการเป็นที่ตั้งของโบสถ์ Heiliggeistkirche เท่านั้น หากยังเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (ร้าทเฮ้าท์ Rathaus) อีกด้วย

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:19:43 ]
ความเห็นที่ 18

อาคารศาลาว่าการเมือง (ร้าทเฮ้าท์ Rathaus) สีส้มอมชมพูสวยสดุดตาที่สร้างในปี คส 1701 แทนอาคารเดิมที่ถูกทำลายลงในสงครามกับฝรั่งเศส

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:20:03 ]
ความเห็นที่ 19

น้ำพุสไตล์บาร็อกที่สร้างในปี คศ 1706-1709 กลางลาน และได้รับการบูรณะใหม่หลังสงคราม 30 ปี โดยด้านบนเป็นรูปปั้นเฮอร์คิวลิส นามว่าแฮร์คิวเลสบรุนเน่น (Herkulesbrunnen)

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:20:26 ]
ความเห็นที่ 20

รูปปั้นเฮอร์คิวลิส

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:20:49 ]
ความเห็นที่ 21

นอกจากนี้ลานหน้าศาลาว่าการเมือง (ร้าทเฮ้าท์ Rathaus) ยังเคยเป็นลานประหารและเผา (คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น) แม่มดกับคนนอกรีตมาก่อนในยุคกลาง

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:21:13 ]
ความเห็นที่ 22

บริเวณรอบจัตุรัสมีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งตามหน้าร้านเหล่านี้จะนำโต๊ะเก้าอี้ออกมาเชื้อเชิญลูกค้าถึงกลางลานเลยทีเดียว

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:21:38 ]
ความเห็นที่ 23

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:21:53 ]
ความเห็นที่ 24

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:22:08 ]
ความเห็นที่ 25

ก่อนถึง จัตุรัส Marktplatz ให้พยายามดูทางด้านขวามือไว้ จะเป็นที่ตั้งของโรงแรม Haus zum Ritter ที่สวยสดุดตาเป็นที่สุด ซึ่งจะพบเห็นนักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:22:31 ]
ความเห็นที่ 26

โรงแรมนี้สร้างขึ้นเมื่อปี คศ 1592 โดยชาวฝรั่งเศสผู้นับถือนิกายโปรเตสแตนต์ เพื่อใช้เป็นบ้านของพ่อค้าเสื้อผ้า ซึ่งปัจจุบันถือว่ามีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมอย่างมาก เพราะเป็นตึกแบบเรอเนสซองซ์ หนึ่งในไม่กี่หลังที่รอดพ้นจากสงคราม 9 ปี ในช่วงปลาย ศตวรรษที่ 17 มาได้

หน้าโรงแรม Haus zum Ritter สวยสดุดตา จนหลายๆคนต้องหยุดแวะถ่ายภาพ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:23:01 ]
ความเห็นที่ 27

จากจัตุรัส Marktplatz (มาร์คทพลัทซ์) ให้เดินไปในทิศทางที่เราเห็นปราสาทไฮเดนแบร์กที่อยู่บนเนินเขา ก็จะพบกับลานกว้างอีกลานหนึ่ง ที่เดิมทีเป็นลานขายนม ต่อมาได้พัฒนาเป็นตลาดขายเมล็ดพันธุ์จนเป็นที่มาของชื่อลาน Kornmarkt c3

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:23:22 ]
ความเห็นที่ 28

จุดที่น่าสนใจของลานนี้อยู่ที่กลางลาน อันเป็นที่ตั้งของพระแม่มารี (ในยุคกลางเรียกพระแม่ว่ามาดอนนา) อุ้มพระบุตรในมือขวา ยืนอยู่บนลูกโลกทองที่มีเทวดาน้อยล้อมรอบอยู่ มุมนี้เป็นมุมถ่ายภาพยอดฮิตครับ นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพมาดอนนาที่มีปราสาทเป็นแบคกราวน์อยู่ด้านหลังครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:23:39 ]
ความเห็นที่ 29

พระแม่มารี (ในยุคกลางเรียกพระแม่ว่ามาดอนนา) อุ้มพระบุตรในมือขวา

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:23:57 ]
ความเห็นที่ 30

พวกเราใช้บริการรถรางไต่เขาเพื่อขึ้นไปชมปราสาท โดยนั่งรถรางจากสถานี Kornmarkt ซึ่งสถานีอยู่ใกล้ๆลาน Kornmarkt ครับ นั่งรถขึ้นไปเพียงสถานีเดียว โดยลงที่สถานีหน้าปราสาท Schloss (ปราสาท)

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:24:20 ]
ความเห็นที่ 31

ส่วนขาลงพึ่งบริการขาของตัวเองครับ เพราะขาลงเดินลงไม่เหนื่อยเหมือนตอนขาเดินขึ้นเนิน

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:24:39 ]
ความเห็นที่ 32

ใครที่ไม่อยากเดินลงเพราะกลัวเหนื่อยก็ไม่เป็นไรครับ นั่งรถรางกลับลงมาที่เดิม รถรางไต่เขาที่ว่านี้ให้บริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ แวะจอดให้ที่ Kornmarkt, Schloss (ปราสาท), Molkenkur และ Konigstuhl

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:24:59 ]
ความเห็นที่ 33

การขึ้นมาชมปราสาทเป็นไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เมื่อลงรถรางที่สถานี Schloss (ปราสาท) แล้ว ถ้ามีเวลามากพอขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งซื้อตั๋วเข้าไปชมในตัวปราสาท แต่ให้เดินเบี่ยงมาทางซ้ายก่อน เพื่อตรงไปยังระเบียงชมวิว คุณจะได้เห็นวิวเมืองเก่าไฮเดนแบร์กเป็นมุมกว้างจากจุดชมวิวข้างบนนี้

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:25:18 ]
ความเห็นที่ 34

โบสถ์ Heiliggeistkirche

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:25:45 ]
ความเห็นที่ 35

โบสถ์ Jesuitenkirche

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:26:03 ]
ความเห็นที่ 36

สะพาน Alte Brucke (อัลเท่อะ บรุ๊คเค่อะ)

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:26:24 ]
ความเห็นที่ 37

ปราสาทไฮเดนแบร์ก เป็นปราสาทที่ทอดตัวยาวขนาบลำน้ำเนคคาร์บนเนินเขาเคอหนิกซตู้ล์ ที่ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ทั่วเมืองไฮเดนแบร์ก แต่คงเพราะความเด่นสง่าไร้ที่กำบังนี้เอง จึงทำให้ปราสาทแห่งนี้ถูกฟ้าผ่าเสียหายหลายครั้งหลายครา

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:26:45 ]
ความเห็นที่ 38

ทั้งนี้แรกเริ่มทีเดียวตัวปราสาทไม่ได้มีขนาดใหญ่ขนาดนี้ แต่ว่าได้รับการขยายในปี คศ 1294 ทว่าก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่เหมือนที่เห็นในปัจจุบันและยังเล็กมากด้วยซ้ำ ตัวโครงสร้างที่เห็นในปัจจุบันสืบเนื่องมาจากการขยายและปรับปรุงโครงสร้างปราสาทในปี คศ 1650 หลังจากที่ปราสาทถูกทำลายและถูกเผาเนื่องจากสงคราม 30 ปีในปี คศ 1622

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:27:04 ]
ความเห็นที่ 39

แต่ยังมิทันปราสาทได้รับการซ่อมแซมก็ถูกทำลายอย่างหนักอีกครั้ง ด้วยผลจากสงครามกับฝรั่งเศสในปลายศตวรรษที่ 17 ตามพระบัญชาของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งเมืองบางส่วนก็ถูกทำลายไปด้วย

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:27:26 ]
ความเห็นที่ 40

ความที่ปราสาทไม่ได้รับการบูรณะดีพอ จากการขาดแคลนงบประมาณและอุปสรรคนานัปการ กว่าจะได้รับการบูรณะอย่างจริงจังก็ปลายศตวรรษที่ 19 โดยรัฐบาเด้น-ววร์ทเท่มแบร์ก (Baden-Wurttemberg) ใช้งบประมาณถึง 40 ล้านมาร์กทีเดียว กระนั้นก็ไม่ทำให้การบูรณะเสร็จสมบูรณ์สักที

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:38:42 ]
ความเห็นที่ 41

และความที่ปราสาทผ่านการปกครองจากกษัตริย์และผู้ครองนครมานาน แต่ละยุคสมัยจึงมีการสร้างต่อเติมตามความชอบของแต่ละพระองค์ มิได้มีการตกแต่งเป็นอันหนึ่งอันเดียว นอกจากนี้การก่อสร้างปราสาทนั้นครอบคลุมเวลถึง 300 ปี

ปราสาทจึงมีหลายสไตล์ประกอบกัน แรกสุดนั้นปราสาทเป็นศิลปะแบบโกธิก ภายหลังการปรับปรุงกลายมาเป็นแบบเรอเนสซองซ์ ซึ่งครั้งกระนั้นถือว่าสวยที่สุดในเยอรมันก็ว่าได้

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:39:12 ]
ความเห็นที่ 42

อย่างไรก็ตามปราสาทไฮเดนแบร์กได้ถูกทิ้งร้างและถูชาวเมืองมาเซาะเอาหินยักย้ายสิ่งตกแต่งอื่นๆจากปราสาทไปก่อสร้างบ้านเรือนของตน ก่อนที่ท่านเค้าน์ชาร์ลแห่งกรามแบร์ก (Count Charles de Graimberg) จะอุทิศตนเป็นปู่โสมเฝ้ารักษาโบราณสถาณแห่งนี้เอาไว้ ก่อนเปิดให้ให้เข้าชมครั้งแรกในปี คศ 1810 จนมีชื่อเสียงก้องโลกในฐานะซากปราสาทที่โด่งดังที่สุดตั้งแต่ยุคสมัยโรแมนติค (ไม่ได้หรูหราโอ่อ่า และงดงายอย่างที่เราเคยไปชมปราสาทกันมาแล้วในแถบบาเยิร์น)

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:39:58 ]
ความเห็นที่ 43

อีกทั้งทุกร่องรอยยังเต็มไปด้วยอดีตที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์ยุโรปในหลายสมัยด้วย ปัจจุบันปราสาทเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ Baden-Wurttemberg และแยกเป็นตึกต่างๆ ซึ่งตั้งชื่อตามผู้สร้าง

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:40:17 ]
ความเห็นที่ 44

การเข้าชมปราสาทจะเดินชมเอง หรือใช้บริการไกด์นำชมก็ได้ แต่ว่าพวกเราเลือกอย่างแรกคือการเดินละเลียดชมบริเวณโดยรอบของตัวปราสาท สวน และชมวิวตัวเมืองไฮเดนแบร์กจากจุดชมวิว

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:40:36 ]
ความเห็นที่ 45

ตึกเก่าแก่ที่สุด ตึก Ruprechtsbau (รูเปร็ชทส์เบา) สร้างขึ้นโดยเจ้าอีเล็กเตอร์รูเปร็ชท์ที่ 3 ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยไฮเดนแบร์ก ตึกนี้ก่อสร้างปลายศตวรรษที่ 14 ในช่วงศิลปโกธิก จึงไม่ค่อยมีการตกแต่งประดับประดามากนัก

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:40:54 ]
ความเห็นที่ 46

สภาพตึกเก่าแก่ ตึก Ruprechtsbau (รูเปร็ชทส์เบา) อยู่ทางด้านขวามือของรูป

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:41:13 ]
ความเห็นที่ 47

เมื่อเข้ามาด้านในตัวปราสาท จะพบอาคาร Friedrichsbau ต้อนรับเราอยู่เบื้องหน้า

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:41:32 ]
ความเห็นที่ 48

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:41:49 ]
ความเห็นที่ 49

อาคาร Friedrichsbau เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของปราสาท ซึ่งสร้างในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยเจ้าอีเล็กเตอร์ฟรีดริชที่ 4

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:42:12 ]
ความเห็นที่ 50

โดยจุดเด่นนอกจากด้านหน้าอาคารที่ประดับไปด้วยรูปปั้นของนักปกครองตระกูลวิทเทลบาคส์ 16 ท่าน (ตระกูลเดียวกันกับนักปกครองแคว้นบาเยิร์น) พร้อมด้วยรูปปั้นตัวแทนฤดูใบไม้ผลิ ความยุติธรรม และฤดูร้อนบนหลังคาที่ดูงดงาม

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:42:32 ]
ความเห็นที่ 51

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:42:57 ]
ความเห็นที่ 52

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:43:13 ]
ความเห็นที่ 53

ซากอาคารที่อยู่ข้างๆทางด้านขวาของ อาคาร Friedrichsbau คืออาคารปราสาท Ottheinrichsbau (อ๊อตไฮน์ริชส์เบา)

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:43:32 ]
ความเห็นที่ 54

อาคารปราสาท Ottheinrichsbau (อ๊อตไฮน์ริชส์เบา) สร้างโดยเจ้าอีเล็กเตอร์อ๊อตโต ไฮน์ริช กลางศตวรรษที่ 16 ด้วยศิลปะแบบเรอเนสซองซ์ ซึ่งนับเป็นปราสาทแบบเรอเนสซองซ์ที่สวยที่สุดทางเหนือของเทือกเขาแอลป์

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:43:51 ]
ความเห็นที่ 55

ให้สังเกตุที่ด้านหน้าปราสาทที่ประดับรูปปั้นตัวแทนกำลังอำนาจจากทหารและการเมืองที่รัฐบาลที่ดีควรมี ซึ่งจัดเป็นแถวทั้งหมด 4 แถว

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:44:11 ]
ความเห็นที่ 56

น่าเสียดายที่ปราสาทหลังนี้ถูกทำลายเสียหลายส่วน เลยเหลือเพียงกำแพงด้านหน้าและห้องด้านล่างอีกนิดหน่อยให้ได้ชม

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:44:30 ]
ความเห็นที่ 57

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:44:47 ]
ความเห็นที่ 58

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:45:03 ]
ความเห็นที่ 59

พวกเราเดินลอดซุ้มประตู เพื่อไปยังระเบียงด้านหลังอาคาร Friedrichsbau ระเบียงนี้หันหน้าเข้าหาแม่น้ำเนคคาร์ เป็นอีกจุดไฮไลท์หนึ่งที่ไม่ควรพลาดชม เมื่อยืนอยู่ที่ระเบียงคุณจะเห็นภาพแม่น้ำคู่กับเมืองเก่าไฮเดนแบร์กที่สวยงามน่าประทับใจ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:45:22 ]
ความเห็นที่ 60

ขณะที่ยืนอยู่บนระเบียงด้านหลังอาคาร Friedrichsbau ของปราสาทไฮเดลแบร์ก เมื่อมองจากระเบียงลงไปยังเบื้องล่าง ทำให้ผมรู้สึกว่าเมืองเก่าไฮเดลแบร์กแห่งนี้เป็นเมืองที่สวยและโรแมนติกมากที่สุดเมืองหนึ่ง

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:45:41 ]
ความเห็นที่ 61

ตัวเมืองตั้งอยู่ระหว่างเนินเขา 2 ลูก บนฝั่งแม่น้ำเนคคาร์ ที่ไหลผ่านจากด้านตะวันออกไปตะวันตกของเมือง ตัวอาคารย่านเมืองเก่าหลังคาสีอิฐแดง เป็นระเบียบสวยงามทอดตัวตามริมฝั่งลำน้ำ ให้ภาพวิวที่น่าประทับใจที่ยากจะลืมเลือน

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:45:59 ]
ความเห็นที่ 62

ทิวทัศน์โรแมนติคที่ผู้คนทำหัวใจหล่นหาย

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:46:24 ]
ความเห็นที่ 63

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:46:41 ]
ความเห็นที่ 64

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:47:01 ]
ความเห็นที่ 65

ผนังอาคาร Friedrichsbau

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:47:22 ]
ความเห็นที่ 66

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:47:43 ]
ความเห็นที่ 67

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:47:59 ]
ความเห็นที่ 68

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:48:19 ]
ความเห็นที่ 69

ออกจากปราสาท พวกเราเดินผ่านสวนที่อยู่ข้างปราสาท ผ่านตึก Englischer Bau (อิงลิชช่าร์ เบา) ตึกสมัยศตวรรษที่ 17 ที่สร้างโดยพระเจ้าฟรีดริชที่ 5 กษัตริย์ผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ผู้มีฉายาว่า The Winter King เนื่องจากครองราชเป็นกษัตริย์แห่งแคว้นโบฮีเมีย เพียงฤดูหนาวเดียว จุดประสงค์การสร้างก็เพื่อมอบให้แก่พระชายาผู้อ่อนชันษาชาวสก๊อตแลนด์ (เจ้าหญิงเอลิซาเบธ สจ๊วจ) โดยภาพที่เห็นนี้เป็นสภาพดั้งเดิมมิได้มีการดัดแปลงแต่อย่างใด

อิงลิชช่าร์ เบา ที่เสียหายเหลือเพียงแค่นี้

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:48:45 ]
ความเห็นที่ 70

ป้อม Pulverturm (พูลเวอร์ทวร์ม) ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ได้ถูกสร้างในสมัยพระเจ้ารูเปร็ชท์ ช่วงศตวรรษที่ 14 เพื่อใช้เป็นป้อมปราการ ทว่าสงครามกับฝรั่งเศสที่เกิดขึ้นในอดีต เลยทำให้ป้อมปราการแห่งนี้ได้รับความเสียหายเหลือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

ป้อม Pulverturm (พูลเวอร์ทวร์ม) ที่เหลือเพียงครึ่งเดียว

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:49:07 ]
ความเห็นที่ 71

บริเวณสวนข้างปราสาท ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี สวยเชียว

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:49:30 ]
ความเห็นที่ 72

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:49:52 ]
ความเห็นที่ 73

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 09:50:08 ]
ความเห็นที่ 74

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:02:18 ]
ความเห็นที่ 75

ชมสวนเสร็จพวกเราใช้วิธีเดินลงจากปราสาทครับ เนื่องจากการเดินลงไม่ทำให้เหนื่อยมากนักแถมยังได้ชมความงามริมฝั่งแม่น้ำเนคคาร์ได้อีกด้วย

วิวบริเวณทางเดินลงจากปราสาท

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:03:14 ]
ความเห็นที่ 76

เห็นแม่น้ำเนคคาร์และบ้านเรือนผู้คนบนเนินเขาฝั่งตรงข้าม

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:03:35 ]
ความเห็นที่ 77

เมื่อลงมาถึงด้านล่างที่บริเวณจัตุรัส Marktplatz ให้เดินทะลุซอยข้างโบสถ์ Heiliggeistkirche ไปยังสะพาน Alte Brucke (อัลเท่อะ บรุ๊คเค่อะ) เพื่อเดินข้ามสะพานไปอีกฟาก ซึ่งจากต้นซอยเราจะเห็นซุ้มประตูเสาสีขาวสองต้นที่หัวสะพานเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกลเชียว

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:03:58 ]
ความเห็นที่ 78

ที่บริเวณซุ้มประตูนี้ มีร้านอาหารไทยชื่อร้าน ภูเก็ต ให้บริการด้วยน่ะครับ มื้อกลางวันพวกเราเลยฝากท้องไว้ที่ร้านนี้ครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:04:21 ]
ความเห็นที่ 79

ก่อนข้าสะพานให้สังเกตุรูปปั้นบรอนซ์รูปลิงทางซ้ายมือ มันเป็นลิงหัวกลวงที่สามารถเอาหัวสอดเข้าไปแล้วถ่ายรูปได้ แต่ว่าลิงหัวกลวงนี้ไม่ใช่ลิงธรรมดา มันมีประวัติมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15

กล่าวคือลิงตัวนี้เป็นสัญญาลักษณ์แห่งความอัปลักษณ์ ไร้ยางอาย ความโลภ และความอวดดีทะนงตน โดยส่วนท้ายหมายถึงความอัปลักษณ์ กระจกที่ถือและแหวนที่สวมไว้ที่ขาหลังแทนความอวดดี

ที่สำคัญยังน่าแปลกที่เชื่อกันว่าการแตะกระจกจะทำให้ร่ำรวย หากแตะนิ้วจะได้กลับมาไฮเดลแบร์กอีก และหากแตะหนูที่อยู่ข้างๆอันเป็นสัญญาลักษณ์ของผู้ปั้นลิงจะทำให้มีลูกมากครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:04:45 ]
ความเห็นที่ 80

รูปปั้นทางขวามือของซุ้มประตูในภาพ เป็นรุปปั้นของท่าน Karl Theodor (คาร์ล ธีโอดอร์) ซึ่งมีความขัดแย้งกับประชาชนจนต้องย้ายไปเมืองมานไฮน์ และท้ายสุดจึงย้ายไปอยู่ที่มิวนิกในฐานะเจ้าอีเล็กเตอร์แห่งบาเยิร์น

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:05:21 ]
ความเห็นที่ 81

ส่วนเหตุที่มีรูปปั้นของท่านบนสะพานนี้ เนื่องจากท่านเป็นผู้สร้างสะพาน Alte Brucke (อัลเท่อะ บรุ๊คเค่อะ) ในปี คศ 1784 ทดแทนสะพานไม้ที่มักเสียหายทุกครั้งที่น้ำท่วม

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:06:08 ]
ความเห็นที่ 82

บนสะพานยังมีรูปปั้นขององค์เทพีโรมัน คือรูปปั้นของเทพี Minerva อีกด้วย (ด้านซ้ายมือของภาพ)

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:06:29 ]
ความเห็นที่ 83

รูปปั้นของเทพี Minerva ยามต้องแสงทไวท์ไลท์หลังพระอาทิตย์ตกดิน

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:06:50 ]
ความเห็นที่ 84

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:07:10 ]
ความเห็นที่ 85

1

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:07:28 ]
ความเห็นที่ 86

ทิวทัศน์ที่มองจากสะพาน  Alte Brucke นั้นโรแมนติคไม่น้อยไปกว่าที่มองลงมาจากปราสาทเลย นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนรวมทั้งพวกเราด้วย บอกว่ามาทำหัวใจหล่นหายไว้ที่นี่

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:07:54 ]
ความเห็นที่ 87

ส่วนท่านนักปราชญ์เกอเธ่ ก็กล่าวไว้ว่า ทิวทัศน์จากสะพานอัลเท่อะ บรุ๊คเค่อะสวยที่สุดเท่าที่ท่านเคยประสบมา

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:08:47 ]
ความเห็นที่ 88

2

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:09:26 ]
ความเห็นที่ 89

มองเห็นปราสาท อยู่บนเนินเขา

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:09:59 ]
ความเห็นที่ 90

3

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:10:30 ]
ความเห็นที่ 91

4

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:10:55 ]
ความเห็นที่ 92

ซากปราสาท ที่ก่อสร้างด้วยอิฐแดง ยามต้องแสงไฟ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:11:15 ]
ความเห็นที่ 93

มุมที่ทำให้ใครต่อใครหลงไหลมาแล้วนักต่อนัก

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:11:35 ]
ความเห็นที่ 94

แนะนำให้มาเดินบนสะพานตอนเย็นน่ะครับ แสงแดดอ่อนๆถ่ายภาพออกมาแล้วให้ความรู้สึกที่อบอุ่นเชียวครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:11:56 ]
ความเห็นที่ 95

7

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:12:15 ]
ความเห็นที่ 96

8

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:12:34 ]
ความเห็นที่ 97

9

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:12:57 ]
ความเห็นที่ 98

ผมเดินข้ามสะพานไปอีกฝากหนึ่ง เดินลงไปที่ริมฝั่งแม่น้ำเพื่อไปรอเก็บภาพสะพานกับปราสาท ยามหลังพระอาทิตย์ตกดิน

ทางเดินริมฝั่งแม่น้ำ Neckar ครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:13:21 ]
ความเห็นที่ 99

วิวริมฝั่งน้ำด้านตรงข้ามปราสาท ร่มรื่นน่านั่งเล่นผ่อนคลายมากครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:13:43 ]
ความเห็นที่ 100

บ้างก็พากันมาเป็นครอบครัว เห็นแล้วมีความสุขมากๆครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:14:04 ]
ความเห็นที่ 101

พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตัวเมืองเก่า และปราสาทก็เริ่มเปิดไฟครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:14:29 ]
ความเห็นที่ 102

9-5

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:14:53 ]
ความเห็นที่ 103

9-6

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:15:13 ]
ความเห็นที่ 104

เดินกลับขึ้นมาบนสะพาน เจอท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนเป็นสีแดงพอดี

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:15:37 ]
ความเห็นที่ 105

ใจละลาย สวยเกินจะบรรยาย
อยากแจกกิฟหลายๆภาพ แต่หมดไปแล้ว
น่าจะเปลี่ยนกิฟเป็น Like แบบไม่จำกัดแทน

ขอบคุณสำหรับรีวิวที่งดงามมากๆ

smile

จากคุณ : ฟองสบู่ [20 ธ.ค. 54 10:16:15 ]
ความเห็นที่ 106

ขอปิดท้ายกระทู้ด้วยภาพวิวสะพานอัลเท่อะ บรุ๊คเค่อะ +แม่น้ำเนคคาร์+เมืองเก่า+ปราสาท ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกครับ

ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาให้คอมเม้นต์ และเข้ามาชม + อ่านกระทู้ครับ

รีวิวตอนต่อไปจะพาไปเที่ยวเมือง ไฟรบวร์กครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 10:16:58 ]
ความเห็นที่ 107

I LOST MY HEART IN HEIDELBERG

จากคุณ : tanakar [20 ธ.ค. 54 10:35:39 ]
ความเห็นที่ 108

ขอบคุณครับ   สวยงามมากๆ

จากคุณ : ข้าวซอยคอยเครื่องเคียง [20 ธ.ค. 54 10:58:59 ]
ความเห็นที่ 109

สวยงามมากครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

จากคุณ : เล็กทาโร่ [20 ธ.ค. 54 11:11:58 ]
ความเห็นที่ 110

เจสัน

แวะมาชมครับ ภาพสวยมาก ขอตามไปเที่ยวด้วยคน

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

จากคุณ : กัปตันลูกชุบ [20 ธ.ค. 54 11:15:19 ]
ความเห็นที่ 111

ตามมาเที่ยวอีกรอบค่ะ  สวยทุกที่ ที่รีวิวให้ชมเลยนะคะ

ต่อไป คงต้อง จำชื่อ ล็อกอิน Chris Evert ไว้แล้วล่ะคะ

รีวิวเมื่อไร ต้องคอยดู

จากคุณ : SuPerHyPerOverUltraGLUE [20 ธ.ค. 54 11:49:54 ]
ความเห็นที่ 112

สวยมากเช่นเคยค่ะ

จากคุณ : Ameise [20 ธ.ค. 54 13:53:05 ]
ความเห็นที่ 113

เมืองสวยน่าอยู่มากๆครับบบ.........

จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ [20 ธ.ค. 54 14:02:11 ]
ความเห็นที่ 114

ภาพสวยมากทุกกระทู้เลยค่ะ

จากคุณ : adenium [20 ธ.ค. 54 14:24:49 ]
ความเห็นที่ 115

สวยงามมากครับ
Heidelberg เป็นเมืองที่ใครๆไปแล้ว ก็จะหลงสเน่ห์แทบทุกคน
แต่ถึงยังไรได้เห็นภาพจากกระทู้นี้แล้ว ต้องยอมรับว่าช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
ช่วยเพิ่มความงามและความน่าหลงไหล มากขึ้นเยอะ

ยิ่งได้ตากล้องฝีมือดี ก็ยิ่งเสริมกันอย่างดี

จากคุณ : Naddh [20 ธ.ค. 54 15:26:34 ]
ความเห็นที่ 116

Heidelberg ช่วงใบไม้เปลียนสีงดงามหมดจดเกินจะบรรยายค่ะ^^
ขอบคุณภาพสวยๆผ่านเลนส์ของคุณ chris Evert ที่ให้ความรู้สึกเสมือนจริงมีชีวิตชีวาทุกภาพดูเพลินจริงๆค่ะ

จากคุณ : แม่หญิงพิมาลา [20 ธ.ค. 54 16:34:59 ]
ความเห็นที่ 117

กิฟลุงหมดแล้วเทใจให้เลยครับสำหรับรีวิวอันสวยงาม
ภาพสวยใสมากๆครับ งดงามดั่งฝันจริงๆ

จากคุณ : ลุงแบกเป้ [20 ธ.ค. 54 16:52:32 ]
ความเห็นที่ 118

ภาพสวยสุดคำบรรยายเลยค่ะ

ขอบคุณรีวิวสวยๆนะคะ :))

จากคุณ : LoveParadise [20 ธ.ค. 54 17:55:14 ]
ความเห็นที่ 119

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

จากคุณ : the Sixth Floor [20 ธ.ค. 54 18:06:44 ]
ความเห็นที่ 120

คุณฟองสบู่ ................ ขอบคุณมากครับ กิฟท์หมดไม่เป็นไรครับ แค่เข้ามาชมกระทู้ก็ดีใจเป็นที่สุดแล้วครับ คุณฟองสบู่ไปเที่ยวเมืองไฮเดลแบร์ก มาหรือยังครับ

คุณ tanakar .................เพลงเขาว่าอย่างนั้นน่ะครับ แต่ผมยังไม่เคยฟังเลยครับ ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวครับ

คุณ ข้าวซอยคอยเครื่องเคียง ............. ด้วยความยินดีครับ

คุณ เล็กทาโร่ ................... ขอบคุณเช่นกันที่แวะเข้ามาเที่ยวครับ

คุณ กัปตันลูกชุบ ............... เชิญเดินตามมาได้เลยครับ เมืองนี้มีเสน่ห์มากครับ เดินได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ

คุณ SuPerHyPerOverUltraGLUE .................ขอบคุณมากครับที่ติดตามชมรีวิว ชื่อล๊อกอินผมอาจจะจำยากสักหน่อย อยากเปลี่ยนอยู่เหมือนกัน (เปลี่ยนไม่ได้) เนื่องจากเป็นชื่อที่ลงทะเบียนไว้นานแล้วสมัยที่เล่นห้องกีฬาน่ะครับ เรียกผมว่า จิโร่ ก็ได้ครับ

คุณ Ameise ..................ขอบคุณมากครับ

คุณ สายลมแห่งวิงค์ .......................เมืองเค้าน่าอยู่จริงๆครับ ได้ยินว่ามีนักศึกษาจากเมืองไทยไปเรียนที่ ไฮเดลแบร์กมากโขอยู่ครับ

คุณ adenium ...........................ขอบคุณครับที่เข้ามาให้กำลังใจ

คุณ Naddh .................. ขอบคุณครับ คิดเหมือนกันเลยครับ ผมว่าฤดูใบไม้เปลี่ยนสีทำให้เวลาถ่ายภาพออกมาแล้วดูมีสีสรรมากกว่าฤดูอื่นน่ะครับ แต่ว่ายังเสียดายอยู่ที่ว่าช่วงที่ผมเข้าไปไฮเดลแบร์ก ใบไม้เปลี่ยนสียังไม่ พีค น่ะครับ เจ้าของโรงแรมบอกว่าใบไม้ปีนี้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เนื่องจากช่วงหน้าร้อนปีนี้ร้อนมากและร้อนนานด้วย ทำให้ใบไม้เกิดอาการ ซ๊อก น่ะครับ พอถึงช่วงที่ต้องเปลี่ยนสี ใบไม้กลับไม่เปลี่ยนสีแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ใบไม้เค้ารีบเปลี่ยนสีและสลัดใบทิ้งเลยอ่ะครับ ทำให้สีของใบไม้ออกมาไม่สวยเท่าไหร่ เหมือนคนเป็น โปลิโอ น่ะครับ

คุณ แม่หญิงพิมาลา ..................ขอบคุณเช่นกันครับคุณแม่หญิง ได้รับคำชมแบบนี้ทำให้มีกำลังใจโพสเป็นอย่างมากเลยครับ

คุณ ลุงแบกเป้ ...................คุณลุงครับ กิฟท์หมดไม่เป็นไรครับ แค่ลุงกดเข้ามาชมรีวิวผม ก็รู้สึกดีใจและขอบคุณมากๆครับ เมืองนี้ใครๆได้ไปเยือนก็ตกหลุมรักกันทุกคนเลยครับ

คุณ LoveParadise ..................... ขอบคุณเช่นกันครับ ที่เข้ามาชมรีวิวครับ

คุณ the Sixth Floor ..................ยินดีครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 19:03:47 ]
ความเห็นที่ 121

สวยม้ากค่ะ

จากคุณ : Bpearl [20 ธ.ค. 54 20:47:15 ]
ความเห็นที่ 122

ยังไม่เคยไปเลยครับ คุณจิโร่
เส้นทางขอเก็บไว้ในลิสต์ ไว้มีโอกาสคงจะได้ตามรอยไปชมใบไม้เปลี่ยนสี

พฤษภา ที่ผ่านมาพึ่งจะไปขับรถท่องยุโรปตะวันออกมาครับ
ถ้ามีเวลา ขอเชิญแวะชมกระทู้ที่รีวิวไว้นะครับ
ผมเอากระทู้สุดท้าย มาแปะไว้นะครับ เพราะจะมีลิงค์ไปกระทู้ต้นๆ

ขับรถเที่ยว ออสเตรีย เช็ก เยอรมัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10972797/E10972797.html

จากคุณ : ฟองสบู่ [20 ธ.ค. 54 20:50:30 ]
ความเห็นที่ 123

I lost my heart in Heidelberg (Ich hab mein Herz in Heidelberg verloren)

จากคุณ : ฟองสบู่ [20 ธ.ค. 54 21:18:31 ]
ความเห็นที่ 124

บรรยากาศแสงไฟยามค่ำคืนแบบนี้โรแมนติกสุดยอดเลยครับ

จากคุณ : Destiny-Boy [20 ธ.ค. 54 21:20:59 ]
ความเห็นที่ 125

ภาพแสงไฟยามเย็นสวยมากๆ เลยค่ะ

จากคุณ : Blue Whale [20 ธ.ค. 54 21:37:22 ]
ความเห็นที่ 126

โอย คุณฟองสบู่ ขอบคุณมากๆที่นำเพลง I lost my heart in Heidelberg
มาแปะให้ครับ

ได้เข้าไปชมรีวิวมาแล้วครับ คุณฟองสบู่ถ่ายทอดได้สุดยอดเลย ภาพสวยทุกภาพ อย่างนี้ไม่ต้องเปลี่ยนกล้องแล้วละครับ

เส้นทางที่คุณฟองขับรถเที่ยวก็คล้ายๆกับผมเลยครับ ของผมไปแวะเที่ยวบูดาเปสด้วย แต่ว่าไม่ได้เข้าเยอรมันครับ ดูรีวิวคุณฟอง แล้วคิดถึงมากๆเลย

ที่ฮัลสตัท ก็มีคลิปเกาหลีให้ชมด้วย ที่ปรากก็ตื่นแต่เช้ามืดไปที่สะพานเหมือนกันเลย โอ้ย คิดถึงอ่ะ

เดี๋ยวรีวิวใบไม้เปลี่ยนสีเสร็จ จะขอนำมาลงบ้างครับ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 21:41:45 ]
ความเห็นที่ 127

คุณ Bpearl .................ขอบคุณมากครับ

คุณ Destiny-Boy ...................ใช่ครับ เมืองนี้โรแมนติค น่ามาเดินกับคนรู้ใจ

คุณ Blue Whale ........................ขอบคุณครับ ที่เข้ามาให้กำลังใจ

จากคุณ : Chris Evert [20 ธ.ค. 54 21:44:22 ]
ความเห็นที่ 128

ชอบรายละเอียดเรื่องรูปปั้นลิงมากคะ ตอนไปถ่ายรูปแนบติดเลยคะแต่จนถึงตอนนี้กว่าสิบห้าปีแล้วยังไม่ได้กลับไปเที่ยวอีกเลย ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและรีวิวดีๆ ได้สาระครบถ้วนทีเดียวคะ

จากคุณ : ป้าปุก [20 ธ.ค. 54 21:59:10 ]A:125.25.174.121 X: TicketID:336551
ความเห็นที่ 129

รูปฟ้าสีแดงนี่สุดยอดไปเลยค่ะ อยากไป>___<

จากคุณ : เบนจัง [20 ธ.ค. 54 22:26:13 ]
ความเห็นที่ 130

สวยสุดยอดครับ เคยไปชมใบไม้แดงฝั่งอเมริกาแล้ว อยากไปชมแถวเยอรมันบ้าง

จากคุณ : Coffee Blended [21 ธ.ค. 54 01:31:55 ]
ความเห็นที่ 131

ถ่ายภาพมาได้สวยงามจับตาจับใจมากเลยค่ะ  ^_^

จากคุณ : ชอบกินชอบเที่ยว [21 ธ.ค. 54 07:16:06 ]
ความเห็นที่ 132

ขอบคุณสำหรับภาพสวยสุดใจ
แม่น้ำเนคคาร์ไหลผ่านเมืองที่ดิฉันอยู่ด้วยค่ะ และเมืองที่ดิฉันอยู่ห่างจากไฮเดลเบิร์กประมาณ 120 กม.

จากคุณ : ทะเลดาวอาบแสงจันทร์ [21 ธ.ค. 54 15:28:06 ]
ความเห็นที่ 133

คุณ ป้าปุก ................. สวัสดีครับ ผมเห็นนักท่องเที่ยวบางคนเอาหัวมุดไปไปข้างในตัวลิงแล้วถ่ายรูปด้วยครับ โฮ เคยไปเที่ยวมาตั้ง 15 ปีแล้วเหรอครับ ดูจากรูปที่ผมโพส เมืองนี้เปลี่ยนไปมากไหมครับ

คุณ เบนจัง ................. ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวครับ รูปฟ้าแดง ค่อนข้างฟุ๊คน่ะครับ นานๆจะได้เห็นท้องฟ้าแบบนี้

คุณ Coffee Blended .................... สวัสดีครับ ใบไม้แดงฝั่งอเมริกาเป็นอย่างไรบ้างครับ มีใบเมเปิ้ลสีแดงไหม ที่เยอรมันหาใบเมเปิ้ลไม่ได้เลยครับ โทนใบไม้เลยออกมาเหลืองอมส้มแบบเย็นตาอ่ะครับ

คุณ ชอบกินชอบเที่ยว .................ยินดีครับ และขอบคุณที่แวะเข้ามาชมรีวิวครับ

คุณ ทะเลดาวอาบแสงจันทร์  ..................... อาศัยอยู่เมืองอะไรครับ ถ้าห่างจากไฮเดลแบร์ก 120 กิโลเมตร ขับรถชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแล้ว ขอบคุณมากครับที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์

จากคุณ : Chris Evert [21 ธ.ค. 54 16:20:26 ]
ความเห็นที่ 134

สวยทุกรูปโดยเฉพาะความคิดเห็นที่ 104 งามมากจริง ๆ ครับ

จากคุณ : Cherokee1 [21 ธ.ค. 54 16:58:56 ]
ความเห็นที่ 135

ผู้ชายคนนี้เอาพลังมาจากไหนกัน ^_^

ตามอ่านไม่ทันเลยค่ะ คุณจิโร่

 

จากคุณ : kungtalay [21 ธ.ค. 54 20:17:15 ]
ความเห็นที่ 136

คุณ Cherokee1 ............ ขอบคุณมากครับที่เข้ามาทักทาย

คุณกุ้ง .............. สวัสดีครับ พิมพ์เตรียมไว้แล้วน่ะครับ แล้วบอร์ดบีพีก็โพสได้ไวด้วยสนุกดีครับ อยากโพสให้จบก่อนไปอียิปต์ด้วยครับ ปีใหม่คุณกุ้งไปไหนหรือเปล่าครับ

จากคุณ : Chris Evert [21 ธ.ค. 54 20:45:37 ]
ความเห็นที่ 137

ตามมาชมรีวิวอีกค่ะ  บอกได้คำเดียวว่า สวยมาก กระพริบตา

จากคุณ : สาวหน้าใส [22 ธ.ค. 54 06:53:56 ]
ความเห็นที่ 138

คุณ สาวหน้าใส .................. ยินดีครับ ที่เข้ามาเที่ยวเมืองไฮเดลแบร์ก เมืองที่หลายคนทำหัวใจหล่นหาย

จากคุณ : Chris Evert [22 ธ.ค. 54 07:55:02 ]