จากกระทู้เดิมที่แกงค์เราไปเที่ยวเชียงคาน

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11478615/E11478615.html

พอมาวันที่สอง ..... เรามีโปรแกรมไปเที่ยววัดผาซ่อนแก้วและภูทับเบิกกันค่ะ

เช้าวันอาทิตย์ที่เขาค้อ ......

แกงค์เราตื่นกันแต่เช้า  ในขณะที่เราหลับ - -"

เหตุเพราะว่าตอนนั่งรถตู้ไปเชียงคาน เราไม่ได้หลับทั้งคืน

พอได้นอนพักจริงๆ จังๆ หลับยาวเลย ^^

ตื่นมาอีกทีตอนสายๆ เกือบแปดโมงเช้า

อากาศที่เขาค้อยังคงเย็นๆ  แต่ไม่ถึงกับหนาว

เต้นท์นอนของเราค่ะ

สภาพภายในเต้นท์  ทางรีสอร์ทกางเต้นท์ให้พร้อมชุดเครื่องนอนคนละชุด

ราคาคนละ 250 บาท รวมอาหารเช้าเรียบร้อย ^^

อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  เก็บของแล้วไปกินข้าวมื้อเช้ากันค่ะ

ข้าวต้มหมู  ปาท่องโก๋  กาแฟ

ขนของไปที่รถ  เตรียมตัวไปเที่ยวกันต่อ

เดินไปตามสมาชิกในแกงค์ ที่เที่ยวถ่ายรูปกระจายอยู่ทั่วรีสอร์ทให้มาขึ้นรถได้แว้ววว

เดินไป เดินมา เจออะไรเป็นก้อนกลมๆ

เจ้ย ..... นี่มันน้องหมาชัดๆ  หมาภูเขาด้วย  

เป็นน้องหมาของรีสอร์ทค่ะ  ชื่อ เขาค้อ

เจอหมาภูเขาอีกตัวเหมือนกัน ^^

รวมพลได้ครบตามกำหนดการเวลาพอดี  เก้าโมงเช้าล้อหมุนอีกครั้งค่ะ

เราจะไปไหว้พระที่วัดผาซ่อนแก้ว

นั่งรถไปได้ไม่นานก็ถึงวัดผาซ่อนแก้วค่ะ

ด้านหน้าวัดเป็นร้านขายของ  ไว้เดี๋ยวค่อยออกมาซื้อของกันค่ะ

ตอนนี้ขอเข้าไปในวัดก่อน

ที่นี่ ..... ห้ามเสียงดังค่ะ ^^

ป้ายบอกอย่างชัดเจนเป็นระยะๆ

ด้านหน้ามีสระบัว

และหงษ์  ตอนแรกคิดว่าตุ๊กตาซะอีก  ทำไมมันดุ๊กดิ๊กได้

เห็นบันไดทางขึ้นแล้วมีอึ้ง ..... แต่เราก็สู้ตาย !!

เดินไปเรื่อยๆ และในที่สุดเราก็มาถึงจนได้  มาย้อนกลับลงไปสูงใช่เล่นนะนี่

มองจากด้านบนลงมาค่ะ

วิวสวยๆ

ภายในวัดด้านบนค่ะ

วัดสวยแปลกตาดีค่ะ

ในมุมที่แตกต่าง

ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ

ชื่อวัดผาซ่อนแก้ว  ยังไงก็ต้องมีแก้วเนาะ

วางเรียงรายอยู่ทั่วไปเลยค่ะ

ตามมาเที่ยวด้วยนะค่ะ

ขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ  แล้วดึกๆ จะกลับมาเล่าต่อค่ะ ^^

รอชมต่อนะครับบบ...........

รอเหมือนกันนะค้า

สวยจังน่ะครับขอบคุณที่พาไปเที่ยวน่ะครับ

กลับมาแล้วค่ะ   ขอเล่าต่อเลยนะคะ ^^

.........................................................

พอลงจากพระธาตุแล้ว  ก็กะเดินช้อปปิ้งที่ร้านค้าหน้าวัดกันเลยค่ะ

ของฝากก็มีค่ะ  แต่ไม่เยอะเท่าไร

ฟักทองญี่ปุ่นยังมีขายเลย

แม้กระทั่งข้าวสารยังมีขาย  เห็นอยู่ถังนึง .....ข้าวลืมผัว  

อย่างฮาเลย คุยกับเพื่อนที่ไปด้วยกัน  มันอร่อยขนาดนั้นเชียวรึ 555

เจอฟักทองญี่ปุ่นแล้ว  ยังเจอฟักทองของไทยด้วยค่ะ  ลูกเบ้อเริ่มเลย

ผักพื้นบ้าน  เช่น เห็ด  มีให้เห็นขายอยู่เยอะเลยค่ะ

ผักสลัดกับอะโวคาโด

และต้นหอมญี่ปุ่น  ต้นใหญ่มากๆๆ

อันนี้เรียกว่าอะไรไม่รู้ค่ะ  เห็นรูปร่างน่ารักดี

เดินไป เดินมาชักหิว  หมดแรงข้าวต้มมื้อเช้าแล้วค่ะ  หาขนมกินก่อนดีกว่า

เครปญี่ปุ่นโดยฝีมือชาวเขา  (รู้ว่าแม่ค้าเป็นชาวเขาเพราะได้ยินเค้าคุยกันน่ะค่ะ)

รสชาติไม่ต่างจากเครปเมืองกรุงเลย ^^

เดินไปจะขึ้นรถตู้เพราะใกล้เวลานัดแล้ว  เจอกับร้านนี้

น่าสนใจอีก  อิอิ  ใส่ท้อปปิ้งได้ 3 อย่างค่ะ  ถ้วยละ 25 บาท

ว้าวววว  อร่อย  สดชื่นจริงๆๆ

เวลาประมาณเกือบเที่ยง  พวกเราก็ออกเดินทางกันต่อ

Next station ....... ภูทับเบิก ค่ะ

นั่งรถมาเรื่อยๆ ทางโค้งมีเป็นระยะๆ แต่ไม่ถึงกับน่ากลัว

คงเพราะเราเคยไปแม่ฮ่องสอน  ไปปายมาแล้วมั้งคะ  เลยโอเค

แกงค์เราบุกบั่นกันมาที่นี่  เพื่อตามล่าดอกพญาเสือโคร่ง

ที่มีให้เห็นประปรายแบบระยะไกล - -"

ดอกพญาเสือโคร่งแทบจะไม่มีให้เห็น

เจอไร่กะหล่ำปลีแทน

แต่กะหล่ำปลีก็โดนตัดไปขายเยอะแล้วค่ะ

ระหว่างที่นั่งรถขึ้นเขามา  สวนกับรถกระบะขนกะหล่ำปลีไปขายเพียบเลย

เวลาประมาณเที่ยง  แต่อุณหภูมิที่นี่ยังหนาวอยู่เลย  15 องศาค่ะ

เที่ยงแล้ว  หาข้าวกินกันก่อน  คุณเพื่อนหนึ่งในสมาชิกของแกงค์พาไปกินที่นี่

บรรยากาศในร้านใช้ได้เลย

โต๊ะนั่งด้านนอก  วิวสวยมากแต่ที่นั่งไม่พอสำหรับพวกเรา 20 คนค่ะ

เลยต้องเข้ามานั่งที่ในร้านแทน

เดินเข้ามาในร้านเลยค่ะ

ที่ประตูเห็นรูปแปะอยู่  อ่ะๆ  มีทั้งณเดชน์และญาญ่าเลย

รู้สึกว่าจะมาถ่ายละครเรื่องธรณีนี้ใครครองที่ภูทับเบิกนะคะ  ถ้าจำไม่ผิด

ถึงเวลาสั่งอาหารแล้วค่ะ

เมนูแนะนำของร้าน  ไก่ย่างหนังกรอบ

แต่ด้วยความที่อากาศเย็นจัด  ไก่ย่างร้อนๆ เลยเย็นลงไปในพริบตา ^^

มีไก่ย่างก็ต้องมีส้มตำไทย  อร่อยอ่ะ  แต่เผ็ดไปนิ้ดนึง

ตามมาด้วยยำคนซื่อ  ออกแนวหวานน้ำพริกเผาค่ะ  เลยไม่โดนสำหรับเรา

และเห็ดหอมผัดน้ำมันหอย

มาแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศทั้งที

ก็ต้องมากินกะหล่ำปลีที่นี่สิเนาะ  กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาค่ะ  อร่อยมากกกกกก

รอชมต่อครับ

และทอดมันปลากราย เนื้อเหนียวหนึบๆ ดีค่ะ

เมนูสุดท้าย  ขอแนะนำจากใจ  ต้มยำปลาคัง

อากาศหนาวๆ แบบนี้  ซดน้ำต้มยำแซ่บๆ รสชาติกลมกล่อม ชนะเลิศมากกกก

กินข้าวไปด้วย  จิบชาอู่หลงไปด้วย  วีดวิ้วววว

เมนูอาหารที่สั่ง  นั่งแยกโต๊ะกัน 5 ชุด  ค่าเสียหายประมาณ 4,600 บาทค่ะ

(จำตัวเลขแน่นอนไม่ได้  แต่ประมาณนี้แหล่ะ)

ตามมาเที่ยวด้วยครับ อยากไปวัดผาซ่อนแก้วจัง

อิ่มท้องดีแล้ว  ถ่ายรูปชิล ชิลกับไร่กะหล่ำปลีแล้ว

แกงค์เราก็ออกเดินทางกันต่อไปร้านกาแฟสุดฮิตที่มาใหม่บนภูทับเบิกค่ะ

สั่งกาแฟกันก่อนเลย  ระหว่างรอกาแฟก็หามุมถ่ายรูปไปเรื่อย

โชคดีค่ะ  ที่ร้านกาแฟไม่มีแขก  มีแต่พวกเรา 20 คน  เต็มร้านเลย ^^

ภายในร้านกาแฟเล็กๆ ที่ตกแต่งน่ารักๆ

ของตกแต่งร้านแบบย้อนยุค

กรอบรูปธรรมดาที่ดูไม่ธรรมดา

พวงกุญแจ  ของที่ระลึกค่ะ

และที่เสียบนามบัตรน่ารักๆ

โปสการ์ดสวยๆ

เขียนโปสการ์ดส่งถึงตัวเอง ^^

เดินมานอกร้านกันบ้างค่ะ  มุมน่ารักๆ ที่ร้านกาแฟ

สัญลักษณ์ร้านกาแฟ ...... ถ้วยกาแฟ ที่วางริมระเบียง

อยู่ตรงมุมนี้  ถ่ายรูปมุมนี้กันซะเมื่อยเลยค่ะ

มุมสวยๆ กับหนุ่มๆ .... สมาชิกแกงค์ค่ะ

นั่งเม้าท์อะไรกันเพลินเชียว  หนุ่มๆ

คาดว่าจะเม้าท์เรื่องสาวๆ

แต่ดูไปดูมา ...... เฮ้ยย  มะช่ายแระ  มังจาทำอะไรกั๊นนน

ปล.ที่เห็นในภาพ  สมาชิกชาวแกงค์เพื่อนกันทั้งนั้นนะคะ  

มีคู่รักหวานแหววเพียงคู่เดียว คือ เจ้าจองกระทู้และคนใกล้ตัวของเรานั่นเอง ^^

นอกนั้นเพื่อนกันค่ะ  ..... ที่เห็นในภาพ  มันคือมุข  อิอิ

จุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมสูงสุดของร้านนี้  อยู่ตรงนี้

..... น้องเล็ก  สมาชิกชาวแกงค์ถ่ายรูปกับคุณพี่ในแกงค์

ตั้งใจจะให้ภาพออกมาดูหวานแหววนิดนึง  ประหนึ่งว่าเป็นแฟนกัน (ทั้งที่ความจริงไม่ใช่)

น้องนางคงรู้สึก  ...... ถ่ายระยะไกลดีกว่า  เอิ๊กกก

เอาเข้าจริง  เอาอ้ายคุณพี่คนนี้ออกไป  แล้วถ่ายรวมกับเพื่อนสาวจะเวิร์คกว่า  อิอิ

ยังไม่จบใช่มั้ยครับ งั้นขอปาดก่อนแล้วกัน ขอพ่วงท้ายไปกินข้าวเที่ยงด้วยคน

อยู่ที่ร้านนี้อยู่พักใหญ่ๆ จนลูกค้าเริ่มเข้ามาที่ร้าน  กลุ่มเราเลยถอยทัพดีกว่าค่ะ

ให้คนอื่นเค้าได้เข้ามาถ่ายรูป  ชมวิวที่นี่บ้าง

ก่อนไป  ขอรวมพลที่ร้านนี้กันซักหน่อย

1...2...3... แชะ

ทิ้งท้ายที่ร้านนี้ด้วยภาพนี้ค่ะ

จากนั้นพวกเราก็เตรียมตัวกลับกรุงเทพกันค่ะ

เดี๋ยวจะถึงกรุงเทพดึกเกินไป  ตัดสินใจที่จะกลับกรุงเทพทางพิษณุโลก

เนื่องจากว่าทางลงเขาด้านนี้มีน้อยกว่าทางขามาด้านเพชรบูรณ์

เป็นห่วงรถตู้อีกคันที่เสียตั้งแต่เมื่อวานค่ะ  เป็นห่วงความปลอดภัยของเพื่อนๆ

แวะพักรถและเข้าห้องน้ำกันที่นี่ค่ะ

แล้วก็ออกเดินทางกันต่อ  ระหว่างทางพิษณุโลกมานครสวรรค์ ถนนหนทางไม่ดีเลย

แวะกินข้าวมื้อเย็นเป็นร้านข้าวต้มที่นครสวรรค์ค่ะ

จากนั้นก็ตรงดิ่งกลับถึงกรุงเทพประมาณห้าทุ่มค่ะ

จบทริปนี้ด้วยความสนุกสนานร่าเริงบันเทิงใจที่มาเที่ยวกับเพื่อนๆ

อาจจะมีติดขัดเรื่องรถเสียอยู่บ้าง  แต่ไม่ได้เอามาเป็นอารมณ์ให้เสียบรรยากาศ

ทั้งทริปนี้แกงค์เราใช้จ่ายโดยเฉลี่ยแล้วคนละ 2,300 บาทค่ะ ^^

ถ้าไปเที่ยวไหนอีก ..... แล้วจะกลับมาเล่าสู่กันฟังใหม่นะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาทักทายกันค่ะ

ขอบคุณรีวิวมากๆนะครับ

ตอนนี้ภูทับเบิกคงหนาวมากๆๆ

คิดถึงทับเบิกจังครับตอนลุงไปร้านกาแฟยังทำไม่เสร็จเลย

ขอบคุณบรรยากาศสวยครับ ว่าแต่ที่โรงเตี๊ยมภูทับเบิกมีขาหมูหมั่นโถวมั้ยครับ...

เขาค้อ กับ ภูทับเบิก พักที่ไหนคะ สิ้นปีว่าจะไปบ้าง รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

เต้นท์น่านอนจังเลยค่ะ เกิดมาไม่เคยนอนเต้นท์เลย
เดี๋ยวปีใหม่จะลองกางนอนที่บ้านดูบ้าง

อยากร่วมแก๊งค์ไปด้วยบ้างจัง ยังรับสมาชิกเพิ่มมั้ยค่ะ อิอิ

น่าสนุกมากๆเลยไปรวมกลุ่มกันแบบนี้

รถตู้ที่เช่าไปดีมากๆเลยอะ ยอมขึ้นภูทับเบิก บางเจ้าไม่ยอมอะค่ะ

ไปไหนอีกอย่าลืมมารีวิวนะคะ

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ รีวิวน่ารักมาก  

เห็นรูปฟ้าใสๆ แล้ว อยากไปเก็บกะหล่ำปลีบ้าง ไรบ้าง