หลังจากนอนพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มที่เมืองไฮเดลแบร์ก เช้านี้พวกเราออกเดินทางมุ่งสู่ป่าดำ (Black Forest) เพื่อไปยังเมือง ไฟรบวร์ก (Freiburg) ครับ  

รวมลิ้งค์รีวีวิวทริป GERMAN AUTUMN LEAVES

R I Q U E W I H R : หมู่บ้านมรดกโลก เมืองแห่งไร่องุ่น เมืองริค-เวีย
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11455252/E11455252.html

C O L M A R : ลิตเติ้ลเวนิซ เมืองน่ารัก เมืองโกลม่าร์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11460817/E11460817.html

N E U S C H W A N S T E I N : ปราสาทเทพนิยายนอยชวานสไตน์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11470665/E11470665.html

F R A N K F U R T : เมืองหลวงทางการค้าของเยอรมัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11475687/E11475687.html

H E I D E L B E R G : เสน่ห์เมืองโรแมนติค เสน่ห์เมืองไฮเดลแบร์ก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11479143/E11479143.html

F R E I B U R G : เดินละเลียดชมเมืองน่ารัก เมืองไฟรบวร์ก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11486344/E11486344.html

BLACK FOREST : ล่องเรือในทะเลสาบ Titisee, แวะชมทุ่งดอกเรปส์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11490877/E11490877.html

ETTAL ABBEY : เยี่ยมสำนักสงฆ์เอ็ททาล, พาชมโบสถ์แสวงบุญมรดกโลก โบสถ์วีส์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11495019/E11495019.html

O B E R A M M E R G A U  : เดินละเลียดชมหมู่บ้านกำแพงสวย, แวะเยี่ยมปราสาทลินเดอร์โฮฟ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11499685/E11499685.html

MUNICH LOVES YOU : เสน่ห์เมืองมิวนิก เมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11501929/E11501929.html

N Y M P H E N B U R G Palace : พระราชวัง นึ้มเฟ่นบวร์ก, เดินเที่ยวชมตลาดฟิคทูอาเลี่ยนมาร์คท
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11504803/E11504803.html

RESIDENZ MUNCHEN : พระราชวังเรซิเด้นซ์มุ้นเช่น ชมขุมทรัพย์อันล้ำค่าแห่งบาเยิร์น
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11508829/E11508829.html


ภาพเปิดกระทู้ ภาพวิวเมืองไฟรบวร์ก ถ่ายจากภัตราคารบนจุดชมวิว

เมือง Freiburg im Breisgau  (ไฟรบวร์ก อิมไบรส์ ) ต่อจากนี้ขอเรียกสั้นๆว่า ไฟรบวร์ก น่ะครับ เป็นเมืองขนาดกลาง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นบาเด็น-เวือร์ทเท็มแบร์ก (Baden-Wurttemberg) ใกล้ชายแดนประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์

ไฟรบวร์กตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำไรน์ ในเขตป่าดำใต้ (Sudschwarzwald) และมีแม่น้ำ Dreisam ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเล็กๆ ไหลผ่านในเมือง เมืองนี้จัดได้ว่าเป็นเมืองสวยงามเมืองหนึ่งในประเทศเยอรมัน เนื่องจากทิวทัศน์ความงามของป่าดำอันลือชื่อ และยังเป็นเมืองที่มีแสงแดดสาดส่องตลอดทั้งปี หากผู้ใดรักธรรมชาติ ชอบท่องป่าเขาลำเนาไพร มาเที่ยวเมืองนี้คงไม่ผิดหวังแน่นอน

ภาพโบสถ์ Herz-Jesu Kirche ยามหลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า

นอกจากนี้ยังสามารถกล่าวได้ว่าไฟร์บวร์กเป็นเมืองมหาวิทยาลัย (Universitatsstadt) ที่สำคัญ แห่งหนึ่งในเยอรมัน จากจำนวนประชากรประมาณ 200,000 คน มีจำนวนนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 5 แห่งอยู่ถึง 30,000

ภาพถนน Konviktstrasse ถนนที่ได้รับการกล่าวขานกันว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในไฟรบวร์ก (มีให้ชมภาพอย่างละเอียดช่วงท้ายรีวิวครับ)

ไฟรบวร์กเป็นเมืองเก่าแก่ มีประวัติความเป็นมายาวนาน ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1120 โดยผู้ปกครองนครตระกูล Zahringer (เซห์ริงเง่อ) เนื่องจากกฎหมายการค้าที่เอื้ออำนวย ทำเลที่ตั้งของเมือง และแร่เงิน ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของป่าดำในสมัยนั้น ไฟรบวร์กจึงเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในปี 1200 Herzog Bertold V (แฮร์โซก แบร์โทลด์ที่ห้า) ซึ่งเป็นผู้ปกครองนครไฟรบวร์กคนสุดท้ายของเซห์ริงเง่อ ได้มีบัญชาให้สร้างมึนสเตอร์ (Muenster) หรือโบสถ์ขึ้นในศูนย์กลางเมือง การสร้างโบสถ์นี้กินเวลานานถึง 313 ปี ตัวโบสถ์มีความสูงทั้งสิ้น 116 เมตร เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่า โบสถ์นี้ได้รอดพ้นจากการทิ้งระเบิด ของฝ่ายสัมพันธมิตร ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ในขณะที่ตัวเมืองถูกทำลายลงถึง 90%

ภาพ โบสถ์ประจำเมือง Freiburg Munster

หลังจากที่ Herzog Bertold V ได้สิ้นชีวิตลงในปี 1218 Egino ผู้เป็นหลานจากตระกูล Graf von Urach (กราฟแห่งอูรัค) ได้ปกครองเมืองต่อ และได้ขนานนามตัวเองตั้งแต่บัดนั้นว่า Graf von Freiburg (กราฟแห่งไฟรบวร์ก)

ในปี 1368 ประชาชนผู้มั่งคั่งได้ซื้ออิสรภาพของเมืองคืนจากผู้ปกครองนคร ด้วยเงิน 15,000 Silbermark (ซิลเบอร์มาร์ค) และได้เข้ารวมเป็นเมืองในปกครอง ของราชวงศ์ฮับสบวร์ก (Habsburg) แห่งออสเตรีย ในปี1457

Erzherzog Albrecht (แอร์ซแฮร์โซก อัลเบร็ชท์) มีดำริให้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นในเมือง ตั้งแต่ปี 1677 ได้เกิดสงครามแย่งชิงไฟรบวร์ก ระหว่างฝรั่งเศสและออสเตรียขึ้นหลายครั้งหลายครา จนในที่สุดในปี 1805 นโปเลียนได้จัดให้ไฟรบวร์กอยู่ในอาณาจักรบาเด็น (Baden) ซึ่งเป็นอาณาจักรใหม่ที่นโปเลียนสร้างขึ้น

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงในปี 1945 ฝรั่งเศสได้เข้าปกครองไฟรบวร์ก และตั้งให้ไฟร์บวร์กเป็นเมืองหลวงของแคว้นบาเด็น หลังการรวมแคว้นบาเด็นกับเวือร์ทเท็มแบร์ก เข้าด้วยกันในปี 1952 ไฟรบวร์กก็ได้เป็นที่ตั้งของ Regierungsprasidium (สภาการปกครองส่วนภูมิภาค)

การเดินทางมายังเมืองไฟร์บวร์กจากสนามบินแฟรงก์เฟิร์ตใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงโดยรถไฟเร็ว ICE แต่อาจต้องมาต่อรถที่ Mannheim, Karlsruhe หรือ Offenburg การเดินทางโดยเครื่องบิน จากประเทศไทยสามารถบินตรงมายังสนามบินมิวนิคได้เช่นกัน แต่จากมิวนิคมายังไฟรบวร์กโดยรถไฟใช้เวลานานกว่าจากแฟรงก์เฟิร์ต

ระบบการคมนาคมในเมืองค่อนข้างสะดวก มีรถรางและรถเมล์ทั่วถึง มีรถไฟ S-Bahn และรถบัส เชื่อมกับชานเมืองและเมืองเล็กๆ โดยรอบ รถรางทุกสายจะวิ่งผ่านในตัวเมือง

รายละเอียดเพิ่มเติมและตารางเวลารถสามารถดูได้ที่ครับ

http://www.vag-freiburg.de (รถรางและรถเมล์)
http://www.rvf.de (รถไฟและรถบัสออกนอกเมือง)
http://www.breisgau-s-bahn.de (S-Bahn สาย Freiburg-Breisach และ Freiburg-Elzach)

ภาพเนินไร่องุ่นกับตัวเมืองเบื้องล่าง ถ่ายจากภัตราคารบนจุดชมวิว

เมืองไฟรบวร์ก ยังเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมและได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฤดูหนาวที่สวยที่สุดในเยอรมันอีกด้วย โดยในฤดูหนาวจะพบนักท่องเที่ยวมุ่งหน้ามาเพื่อนเล่นสกีที่นี่

วิธีการที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองไฟร์บวร์ก คือการเดินสำรวจเมืองเก่า เนื่องจากสถานที่ที่น่าสนใจรวมตัวกันกระจุกอยู่ในเมืองเก่า เช่น

1. โบสถ์ Herz-Jesu Kirche อยู่ติดสถานีรถไฟ Freiburg
2. ประตูเมือง Martinstor ทางทิศเหนือ และ Schwabentor ทางทิศใต้
3. โบสถ์ประจำเมือง Freiburg Munster
4. โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน Hotel Baren
5. ถนนสายที่สวยที่สุดของเมือง ถนน Konviktstrasse และ
6. ที่พลาดไม่ได้คือการได้ปีนเนินขึ้นไปชมวิวเมืองเก่าจากจุดชมวิวบนเนินที่ภัตราคาร Greiffenegg Schlossle

ได้เวลาเดินสำรวจเมืองกันแล้วครับ เนื่องจากพวกเราพักที่โรงแรม Intercity Hotel ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟหลัก Freiburg HBF

เส้นทางเดินเที่ยวชมเมืองจึงขอเริ่มจากสถานีรถไฟตามลำดับ(ก่อน-หลัง) โดยแสดงตำแหน่งไว้ในแผนที่ด้วยเครื่องหมายในวงกลมตัวเลขสีแดง ดังนี้ครับ

1. โบสถ์ Herz-Jesu Kirche อยู่ติดสถานีรถไฟ
2. ประตูเมือง Martinstor ทางทิศเหนือ  
3. โบสถ์ประจำเมือง Freiburg Munster
4. จัตุรัส Augustiner Plazt
5. ชมคลองที่ถนน Gerberau มีจระเข้อยู่ในคลอง
6. ประตูเมือง Schwabentor ทางทิศใต้
7. ที่พลาดไม่ได้คือการได้ปีนเนินขึ้นไปชมวิวเมืองเก่าจากจุดชมวิวบนเนินที่ภัตราคาร Greiffenegg Schlossle
8. ถนนสายที่สวยที่สุดในเมือง Konviktstrasse และโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน Hotel Baren

โบสถ์ Herz-Jesu Kirche ( ตำแหน่งเลข 1 ในแผนที่ ) โบสถ์นี้เป็นโบสถ์ที่สวยงามมากๆครับ อยู่ติดโรงแรมที่พักเลย ตื่นเช้ามาเปิดม่านก็เห็นโบสถ์นี้ครับ

ดูจากชื่อแล้ว ท่าทางจะเป็นโบสถ์ยิว มั้งครับ

วิวตอนเช้า ท้องฟ้ามีแต่หมอก

ภาพนี้ตอนหลังพระอาทิตย์ตกครับ

ถ้าจะไปโบสถ์ Herz-Jesu Kirche ต้องเดินข้ามสะพาน Stuhlinger Brucke ในรูปครับ สะพานนี้เป็นสะพานสำหรับจักรยานเท่านั้น ส่วนด้านซ้ายและขวาเป็นช่องทางสำหรับคนเดินครับ

b7

b8

เราเริ่มต้นเดินจากสะพาน  Stuhlinger Brucke มุ่งสู่ถนน Bertoldstrasse เลี้ยวขวาแยกขวามือเข้าสู่ถนน Niemenstrasse เดินตรงไปจนถึงทางออกถนนใหญ่ที่ชื่อว่า Kaiser Josephstrasse ผ่าใจกลางเมือง ซึ่งเป็นถนนหลักสายซ๊อปปิ้งของเมือง

Kaiser Josephstrasse เป็นถนนคนเดินครับ แต่มีรถรางวิ่งบริการด้วย ทางด้านขวามือจะพบประตูเมือง Martinstor เป็นจุดเบอร์ 2 ในแผนที่

ประตูเมือง Martinstor เป็นประตูเมืองทางด้านทิศเหนือ ติดกันกับ Martinstor มีร้าน Mc Donald ด้วยครับ ใครหิวก็แวะเข้าไปฝากท้องที่นี่ได้

สิ่งที่ต้องมาดูให้เห็นกับตาเมื่อมาชมเมืองไฟรบวร์กก็คือ Bachle (เบ้ชเล่อ = รางน้ำเล็กๆ) ซึ่งเป็นทางระบายน้ำเล็กๆ ในตัวเมือง สร้างขึ้นในยุคกลาง (Mittelalter) เพื่อให้เป็นที่ระบายของเสีย ดับไฟ และให้สัตว์ดื่มกิน

ปัจจุบันเบ้ชเล่อได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไฟรบวร์ก และเป็นที่นั่งเล่นของเด็กๆ ในฤดูร้อน มีเรื่องเล่ากันว่า หากคนต่างเมืองมาเยือนไฟรบวร์ก แล้วบังเอิญตกลงไปในรางน้ำนี้ จะได้แต่งงานกับคนไฟรบวร์ก และได้อยู่ที่เมืองนี้อย่างถาวร จริงเท็จประการใดคงต้องมาพิสูจน์กันด้วยตัวเอง

โชคไม่ดีที่พวกเรามาเที่ยวช่วงปลายเดือน ตุลาคม ทำให้น้ำที่ไหลตามทางระบายน้ำแห้งเกือบหมด แต่มีให้เห็นเป็นเพียงบางที่เท่านั้น

ฝาครอบท่อประจำเมืองครับ ถนนทุกสายที่เมืองนี้จะปูพื้นถนนด้วยหินเป็นก้อนๆ ฉนั้นพื้นจะไม่เรียบ เวลาเดินจะรู้สึกได้ว่าเหมือนเรามาเดินอยู่ในเมืองเก่า

จากประตูเมือง Martinstor ให้เดินมุ่งหน้าไปตามถนน Kaiser Josephstrasse ทิศทางตามยอดแหลมของโบสถ์ Freiburg Munster เดินไปประมาณ 2 บล๊อค ให้เลี้ยวขวาเข้าถนน Munstaerstrasse เพื่อเข้าไปชมโบสถ์ประจำเมือง Freiburg Munster ตามแผนที่หมายเลข 3

Freiburg Munsters ยิ่งใหญ่สวยงามเชียวครับ ยอดแหลมของโดมสูงมากๆ ซึ่งช่วงที่พวกเราไป เขากำลังบูรณะซ่อมแซมอยู่ครับ

Freiburg Munsters ถือว่าเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง บริเวณ Freiburg's Cathedral Square หรือ Muensterplatz  จะเป็นลานกว้าง ช่วงกลางวันจะมีพ่อค้า แม่ค้าเอาผัก-ผลไม้ ดอกไม้ และสินค้าอื่นๆมาขายเยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งตลาดนัดแห่งนี้มีทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ครับ

Freiburg Munsters สร้างขึ้นโดย Herzog Bertold V (แฮร์โซก แบร์โทลด์ที่ห้า)  ในปี 1200  ซึ่งเป็นผู้ปกครองนครไฟรบวร์กคนสุดท้ายของเซห์ริงเง่อ การสร้างโบสถ์นี้กินเวลานานถึง 313 ปี

ตัวโบสถ์มีความสูงทั้งสิ้น 116 เมตร (สูงมากๆ แหงนหน้ามองจนเมื่อยคอ)

เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าโบสถ์นี้ได้รอดพ้นจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ในขณะที่ตัวเมืองถูกทำลายลงถึง 90%

รูปปั้นหน้าประตูทางเข้า

d2-1

ใบไม้เปลี่ยนสี กับท้องฟ้างาม

ลวดลายอันวิจิตรบรรจง สมกับที่ต้องใช้เวลาสร้างมากกว่า 300 ปี

d4-1

Post เร็วมากเลยค่ะ คุณจิโร่ ^_^

ชอบถนนที่ไฟรบวร์กค่ะ ดูน่ารักดี โดยเฉพาะต้นไม้ที่เลื้อยไปเลื้อยมา ^_^

4-2

นาฬากาบนยอดโดม

ลานน้ำพุหน้าโบสถ์

d7

d8

d8-1

รูปปั้นที่เสาน้ำพุ

e1

e2

e3

นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวตัวเมืองบนยอดโดมแหลมได้ด้วยครับ แต่ผมไม่ได้ขึ้นไปครับ

e4

นอกจากนี้ภาพในตัวโบสถ์ยังมี Stained Glass ที่สวยงามอีกด้วย

e6

ที่บริเวณลานกว้างรอบโบสถ์ Freiburg Munsters จะพบอาคารสีแดงเด่นสดุดตา อาคารนี้คือ Historisches kaufhaus หรือ Merchant Hall ครับ

e8

e9

f1

f1-1

จาก Freiburg Munsters ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนน Schusterstrasse แล้วเดินตรงไปประมาณ 1 บล๊อค เสร็จแล้วให้เลี้ยวขวาเข้าถนน Augustinerstrasse ก็จะพบ Ausgtiner plazt ตามแผนที่หมายเลข 4 ในแผนที่ครับ

จัตุรัส Ausgtiner plazt เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดของเมือง พื้นทางเดินปูด้วยหินกรวด สวยงามเชียวครับ

f3-1

ที่บริเวณนี้มีร้านกาแฟชื่อดัง Aran Coffee เพื่อนๆสนใจลองแวะเข้าไปชิมดูน๊ะครับ

f5

f6

จากจัตุรัส Ausgtiner plazt ให้เลี้ยวขวาเข้าถนน Gerberau ที่นี่จะมีซอยชื่อว่า Fischerau เป็นถนนที่ขนาบไปด้วยคลอง ในคลองจะมีจระเข้โผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ เป็นจุดขายให้นักท่องเที่ยวชม ตามแผนที่หมายเลข 5 ครับ

ถนนสายนี้ ร่มรื่นเชียวครับ

f9

g1

g2

g3

g4

เมื่อเดินทะลุซอย Fischerau ออกมาทางถนนใหญ่ จะพบประตูเมืองทางด้านทิศใต้ ชื่อว่าประตู Schwabentor  ตามแผนที่หมายเลข 6 ครับ

เพื่อนๆที่จะไปยืนโพสท่ากับประตูเมือง ต้องคอยระวังรถรางที่วิ่งลอดประตูผ่านไปมาด้วยน่ะครับ

ที่ประตู Schwabentor เป็นจุดที่เชื่อมต่อไปยังภัตราคาร Greiffenegg Schlossle ที่อยู่บนเนินที่พวกเราจะขึ้นไปชมวิวมุมสูงกัน ตามแผนที่หมายเลข 7 ครับ

ที่ Schwabentor ให้มองหาสะพานไม้ทอดยาว ให้เดินข้ามสะพานนี้ไปเพื่อขึ้นไปชมวิวตัวเมือง เมื่อเดินข้ามสะพานมาแล้วให้มองหาลิฟท์ที่จะพาเราขึ้นไปยังภัตราคารที่บนเนิน ลิฟท์จะพาเราขึ้นไปเพียงที่ระยะทาง 1 ใน 3 ที่เหลือเราต้องเดินขึ้นเนินเองครับ

ลิฟท์นี้เป็นลิฟท์ของภัตราคาร Greiffenegg Schlossle ที่ให้บริการฟรีแก่ลูกค้าของร้านครับ ขึ้นลิฟท์ไปเลยครับไม่เสียค่าบริการ

ทางเดินไปภัตราคาร เมื่อออกมาจากลิฟท์

h1-1

มีป่ากำลังเปลี่ยนสีให้ชม

เมืองก็สวย ฝีมือถ่ายรูปก็ยอดเยี่ยม เห็นแล้วอยากไปเที่ยวจังเลยครับ

เมื่อขึ้นมาข้างบนภัตราคาร ก็จะเห็นวิวแบบนี้ครับ Schwabentor อยู่ทางซ้ายมือ และ Freiburg Munsters อยู่ทางขวา

พนักงานบริการก็ใจดีเชียวครับ แม้ว่าเราขึ้นมาถ่ายภาพอย่างเดียวก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร แต่ในที่สุดเพื่อนๆหลายคนก็สั่งชา กาแฟ และขนมเค็ก มานั่งทานกันครับ

ความจริงแล้วจากภัตราคาร Greiffenegg Schlossle สามารถเดินขึ้นเนินขึ้นได้สูงขึ้นไปอีก ไปจนถึงจุดชมวิวที่สูงที่สุด ที่ชื่อว่า Kanonen Plazt  ครับ

เขาบอกว่าถ้ามองวิวเมืองจาก Kanonen Plazt จะได้บรรยากาศที่สวยงามมากๆครับ

การขึ้นไปชมวิวที่ Kanonen Plazt ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุด ทำได้อีกวิธีหนึ่งคือนั่งรถรางไต่เขาขึ้นไปครับ

แต่ว่าพวกเราขาเดี้ยงเมื่อยล้าจากการเดินกันแล้ว เลยขอชมวิวกันที่ภัตราคาร Greiffenegg Schlossle ไม่ได้เดินต่อขึ้นไปจนถึง Kanonen Plazt ครับ

เพื่อนๆที่ไปเที่ยวไฟรบวร์ก และมีโอกาสขึ้นไปถึง Kanonen Plazt อย่าลืมถ่ายภาพจากมุมสูงมาแบ่งกันชมด้วยครับ

โคมไฟชื่อร้านครับ

ด้านหลังของภัตราคาร Greiffenegg Schlossle เป็นทุ่งองุ่นครับ

สามารถมองเห็นวิวมุมกว้างอีกด้านหนึ่งของตัวเมือง

ลงมาจากภัตราคาร Greiffenegg Schlossle มาสู่จุดเดิมที่ Schwabentor จะพบโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมันครับ โรงแรมนี้ชื่อว่า Hotel Baren, Germany’s oldest inn

โรงแรมนี้มีอายุหลายร้อยปีเชียวครับ

โลโก้ ของโรงแรมคือ สัญญาลักษณ์รูปหมีสีทองครับ

จากโรงแรมสามารถมองเห็นยอดแหลมของ Freiburg Munsters ด้วยครับ

จุดสุดท้ายตามแผนที่ คือหมายเลข 8 ซึ่งถือว่าเป็น THE MUST ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ การได้มาเดินบนถนนที่สวยที่สุดของเมือง Freiburg ครับ

ถนนเส้นสั้นๆนี้มีชื่อว่า ถนน Konviktstrasse ครับ

ความพิเศษของตรอกเล็กๆแห่งนี้ น่ารักมากๆ เพราะตลอดสองฟากถนน ที่ตามตึกรามบ้านและร้านค้าจะมีต้นไม้เลื้อยขึ้นปลกคลุมเต็มไปหมดครับ

ไม้เลื้อยมีอายุเป็นร้อยปีเหล่านี้นอกจากจะปลูกไว้ที่หน้าร้านตัวเองแล้ว เถาไม้ยังเลื้อยไปร้านอื่นๆที่ฝั่งตรงกันข้ามด้วยครับ

พยายามเข้าไปถามคนท้องถิ่นที่นั่นว่า เถาไม้เลื้อยนี้เรียกว่าอะไร แต่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง

Konviktstrasse นอกจากจะขึ้นชื่อว่า เป็นถนนที่สวยที่สุดแล้ว ร้านค้าบนถนนเส้นนี้ก็มีแต่ร้านแบรนด์เนมทั้งนั้นครับ

แต่ละร้านของสวยๆทั้งนั้น แต่ราคาแพงชะมัด

โลโก้โรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนเส้นนี้

ร้านนี้ตกแต่งแบบโมเดิร์น สวยงามเข้ากันกับเถาไม้เลื้อยอย่างลงตัว

สวย

j1

j2

j3

j4

ทางเดินบนถนนเส้นนี้ยังปูพื้นด้วยหินก้อนเล็กๆด้วยลวดลายสวยงามแปลกตา

หน้าร้านที่เป็นร้านนั่งดื่ม ก็จะปูพื้นที่หน้าร้านเป็นลวดลายรูปถ้วยกาแฟ  

ร้านเสริมสวย จะปูพื้นเป็นรูปกรรไกร

ป้ายแขวนหน้าร้าน

j5-4

เมื่อเดินมาจนสุดถนน Konviktstrasse ด้านขวามือจะพบย่านที่พักอาศัยหรูเชียวครับ ลองเดินขึ้นไปสำรวจดู

ท่าทางจะเป็นย่านที่พักคนรวย

เพราะแต่ละบ้านมีป้ายมาติดไว้ว่า Private เกือบทุกที่

บริเวณข้างบนสามารถถ่ายภาพมองเห็น Freiburg Munsters เป็นฉากหลังด้วยครับ

k1

k2

k3

k4

k5

k6

ขอปิดท้ายกระทู้ด้วยภาพถนน Konviktstrasse ถนนที่สวยที่สุดของเมือง Freiburg ครับ

ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาให้คอมเม้นต์ และเข้ามาชม + อ่านกระทู้ครับ

ขอปาดมาชมเชย จขกท.ก่อนดูรูป
ภาพงามมากค่ะ รีวิวขึ้นไวสุดๆ ติดตามได้อรรถรสดีค่ะ

ปล.ขออนุญาตเก็บเป็นข้อมูล วาดฝันท่องยุโรปค่ะ

คุณกุ้ง ...............สวัสดีครับ ถนนเส้นนี้เรียกว่า ถนน Konviktstrasse ครับ เป็นถนนที่โรแมนติคและสวยที่สุดในไฟรบวร์ก ครับ รีบโพสให้คุณกุ้งชมเพราะถนนเส้นนี้อยู่ตอนท้ายๆรีวิวน่ะครับ

คุณ mordek1 ................ ยืนยันว่าเมืองนี้สวยมีเสน่ห์มากครับ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดในเขตป่าดำครับ

เหมือนได้ไปเดินเล่นอยู่ด้วยเลยค่ะ

คุณ Moo@Thonburi ..................... ยินดีครับ โพสให้จบทีเดียว ผู้ชมจะได้ชมรวดเดียวน่าจะสนุกกว่าแบบที่คุณ Moo@Thonburi บอกครับ อีกอย่างบอร์ดบีพี ก็โพสได้ไวด้วยครับ ลื่นปรื๊ดๆ

ถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะเมืองนี้น่ะครับ โรแมนติคสุดๆเหมาะกับสุภาพสตรีมากๆครับ

ดูภาพถ่ายจากคุณจิโร่ ไม่มีเบื่อเลยครับ สวยจริงๆ
เต็มอิ่มกับภาพเมืองนี้เลยครับ

ขอบคุณครับ

คุณ Bpearl ............... สวัสดีและขอบคุณครับที่แวะเข้มาเดินเล่นเป็นเพื่อนกัน

คุณ ฟองสบู่ ................. ขอบคุณเช่นกันครับ ที่เข้ามาเที่ยวด้วยกัน

เห็นภาพแล้ว คิดถึงตอนเดินเที่ยวถนน Konviktstrasse
คราวที่ผมไปประมาณเดือน พ.ค. 2010 ดอกวิสทีเรียออกดอกสีม่วงอ่อนสวยมาก
แต่ช่วงที่ไม่ออกอกแต่ใบเขียวชอุ่ม ก็สวยได้อีกอารมณ์ อย่างที่เห็นในภาพ
(เคยไปช่วงเมษา วิสทีเรียยังไม่ผลิใบ มีแต่กิ่งแห้งๆ)

ขอบคุณมากครับสำหรับภาพสวยๆ

เมืองน่ารักและน่าเดินจริงๆครับ ชมเพลินเลย

ใบไม้ร่วงดูมีสีสันไปหมดเลยครับ

ตามมาเที่ยวเมืองน่ารักในเยอรมันต่อค่ะ

ขอเก็บข้อมูลเผื่อได้จัดทริปไปเยอรมันแบบเต็มๆ บ้าง

ถนน Konviktstrasse สวยเก๋ดีจังค่ะ ^^

ตึกเก่าในยุโรป ดูยังไงก็มีเสน่ห์ครับ ภาพสวยจริงๆ อยากไปบ้างงง

แวะมาชมและมาตามเที่ยวต่อครับ

ชอบบ้านเมืองเขาจัง

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

สวยครับ เป็นเมืองที่ดูสงบ และสวยมากครับ

คุณ Naddh ............... สวัสดีครับ คุณ Naddh หมายถึงต้นไม้เลื้อยสีเขียวในภาพเรียกว่าต้น วิสทีเรีย ใช่ไหมครับ คือผมพยายามถามคนท้องถิ่นที่นั่นว่าต้นอะไร แต่สื่อสานกันไม่รู้เรื่องน่ะครับ โอยแล้วเขาออกดอกด้วยเหรอครับ สีม่วงท่าทางตอนออกดอกคงสวยงามมากใช่ไหมครับ อยากเห็นจังครับ

ถนน Konviktstrasse เป็นถนนที่น่ารักมากๆเลย ชอบกันทุกคน แต่ว่าถนนเส้นนี้มีแต่ร้านแบร์นเนมทั้งนั้น ของแพงมากๆเลย

คุณ Koon Shy_Tour Dee ...............ขอบคุณครับที่เข้ามาเดินเที่ยวด้วยกัน

คุณ กาแฟขม ............... ผมเคยอ่านรีวิว+นำข้อมูลที่คุณ กาแฟขม เคยรีวิวขับรถเที่ยวยุโรปไปใช้น่ะครับ เป็นประโยชน์มากๆเลย ขอบคุณมากน่ะครับ ใช่ครับถนนKonviktstrasse ใครได้ไปเดินก็หลงไหลกันทุกคน โดยเฉพาะสาวๆ

คุณ Coffee Blended ............. ยินดีครับ

คุณ กัปตันลูกชุบ ................... บ้านเมืองออกมาตามชนบทของเยอรมันน่ารักน่าเที่ยวมากๆครับ ผู้คนก็ใจดีอีกต่างหาก

คุณ ม่วงมหากาฬ  .................. ขอบคุณมากครับที่แวะมาเที่ยวด้วยกัน

ตามมาชมรีวิวสวยๆอีกค่ะ  ได้ความรู้เพิ่มเติมในชื่อของต้นไม้เลื้อยสีเขียว วิสทีเรีย  ขอบคุณมากๆนะคะ ^_^

้สวยมากเลยครับเมืองนี้

สวยงามอีกแล้ว  ขอบคุณกับรีวิวสวยๆครับ

Chris Evert ครับ ขออนุญาตเอาภาพ Konviktstrasse
ในช่วงต้น พ.ค. 2010  ที่วิสทีเรีย กำลังออกดอก มาแบ่งปันนะครับ

Konviktstrasse

คุณ สาวหน้าใส .............. ต้องขอขอบคุณ คุณ Naddh ครับที่กรุณาบอกชื่อต้นไม้เลื้อยนี้ให้ แถมโพสรูปดอกไม้สวยๆให้ชมอีกต่างหาก

คุณ Destiny-Boy ............ ยินดีครับที่แวะเข้ามาเที่ยว

คุณ เล็กทาโร่ ....................ขอบคุณเช่นกันครับ

คุณ Naddh ขอบคุณมากๆน่ะครับ สำหรับภาพดอกวิสทีเรีย สวยๆ เพิ่งเคยเห็นดอกไม้เลื้อยสีม่วงนี้เป็นครั้งแรกครับ งามมากๆ ขออนุญาต เซฟรูปเก็บไว้น่ะครับ

ดูเหมือนว่า วิสทีเรีย เมื่อมีดอกเค้าจะสลัดใบทิ้งน๊ะครับ เห็นแต่ดอกสีม่วงสวยงาม ไม่มีใบสีเขียวเลย บรรยากาศต่างกันกับตอนไม่มีดอกอย่างสิ้นเชิง

นึกแล้วยังขำตัวเอง ที่พยายามถามคนที่รดน้ำต้นไม้ที่หน้าโรงแรมว่า ต้นไม้เลื้อยนี้เรียกว่าต้นอะไร คุยกันจนเมื่อยมือก็ยังไม่รู้เรื่อง

Bachle น่ารักจังค่ะ
ใครน้อช่างคิดเอาเป็นน้อยมาลอยคอ
ชมเพลินเชียวค่ะ ถนน บ้านเมือง ล้วนแล้วแต่สวยงาม
ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีด้วย ชมเพลินไปเลย :)
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ

เมืองน่ารักอีกแล้ววววววว


โอ้ยยย ไม่ไหวกับกระทู้คุณ Chris Evert แล้วค่ะ

สวยเกินจะรับไหว อิอิ

คุณ ลุงหนวด & ต้นอ้อ ..................... ขอบคุณครับ ช่วงปลายเดือน ตค ที่พวกเราไป น้ำในค่อนข้างน้อยอ่ะครับ แต่ก็ยังมีให้เห็น ถือว่าเป็นจุดขายของไฟรบวร์กด้วยครับ เมืองเก่าเค้าอนุรักษ์ไว้อย่างดีน่าเดินเที่ยวมากๆครับ

คุณ SuPerHyPerOverUltraGLUE.................. เรียกว่าความงามเป็นเหตุใช่ไหมครับ อิอิ ยังเหลืออีก 3 - 4 รีวิวน่ะครับ กะว่าจะรีบโพสให้จบก่อนไปที่ยวปีใหม่ ทนความสวยหน่อยแล้วกันน่ะครับ แต่ว่าผมขอบคุณมากครับที่ติดตามชม

ตามเข้ามาชมต่อครับบบบ

ต้องตามไปสัมผัสเมืองนี้ให้ได้ครับ

บ้านเมืองสวยงามน่ารักมากเลยครับ
อยากมีวาสนาได้ไปที่สวยๆแบบนี้บ้าง
ภาพสวยมากๆครับ

คุณ สายลมแห่งวิงค์ ................. ยินดีครับ ตามมาเลยครับ

คุณ pharm-go .................เมืองนี้น่าเดินเที่ยวมากครับ ไปแล้วกลับมาเมื่อไหร่ อย่าลืมเก็บภาพสวยๆมาให้เพื่อนๆชมด้วยน่ะครับ

คุณ  ลุงแบกเป้  ................สวัสดีครับ ขอบคุณครับที่ข้ามาเดินเล่น (เด็กน้อยน่ารักจังครับ)

สวยมากกกค่ะ ชอบๆ เก็บเข้าลิสท์อีกเมืองๆ^^

สวัสดีปีใหม่ครับ เพื่อนๆทุกคน

คุณ Lala_................ ยินดีครับ