มาแล้วววววว ใครพลาดสามตอนแรก อยู่ที่นี่นะคะ

ตอนที่หนึ่ง-รักเธอนักมรัคอู
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11463521/E11463521.html#137

ตอนที่สอง-When ruins fall into ruins
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11474902/E11474902.html#104

ตอนที่สาม-วันนี้ไม่ต้องทาแป้ง
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11483379/E11483379.html#90

ใครอ่านกระทู้แล้วชอบ ไม่ต้องถึงกับรักอะนะ กรุณากดจึ๊กเก็บไว้ในคลังกระทู้ด้วยค่ะ เผื่อบรรพชนรุ่นหลังอยากจะไปเที่ยวยะไข่จะได้มีข้อมูลเอาไว้ลอกการบ้าน

ปล หลังจากแปะกระทู้นี้แล้ว เจ้าของกระทู้จะต้องไปเดินสายตามยถากรรมสักสิบวันนะคะ หายไปนี่ไม่ได้ลืมนะ สัญญาว่าหมดกรรมกับเรื่องงาน(เดือนธันวา) แล้วจะมาลงกระทู้อีกค่ะ ยังเหลืออีกหลายตอน

แล้วเราก็ต้องลามรัคอูด้วยความอาลัยรัก งานเลี้ยงไหนๆก็ต้องวันเวลาต้องเลิกลา เราจะต้องนั่งเรือกลับซิตตุ่ยกันเช้านี้ หนุ่มคนเรือสี่คนรอเราอยู่แล้วที่เรือ อ้าว มีเพิ่มมาอีกหนึ่งหนุ่มเป็นห้า ซื้อซาละเปามาฝากสี่หนุ่มแต่ดีนะซื้อมาสิบลูก (ของตัวเองสองลูก) เลยให้หนุ่มๆเอาไปกินหมดเลย

พอเรือออกแดดเริ่มร้อน หนุ่มๆเริ่มเอาม่านมาตอกตะปูโป๊กๆกลัวมหาเทวีทั้งสองจะตัวดำเท่าตัวเองก่อนถึงซิตตุ่ย

เจเจหันมาบอกว่า เราดีกับเขาเขาก็ดีกับเราเนอะพี่ อันนี้เป็นสัจธรรมของวิสัยมนุษย์ จะมียกเว้นก็แต่คนที่มีนิสัยชั่วมาแต่กำเนิดเท่านั้นที่มองไม่เห็นความดีและไม่รู้จักตอบแทนความดีของผู้อื่น

เห็นหน้าดำๆ ตัวดำๆ หน้าตาเหมือนพวกโรฮิงยา แต่นิสัยน่ารักมาก เราจะเอาอะไร (เช่นกระดาษทิชชู่) ก็ไปหามาให้ พอเราให้ซาละเปาเขาไปกิน เขาอุตส่าห์ไปตักข้าวแล้วเอากับข้าวโปะหน้าราดข้าวมาให้เรากิน เราต้องบอกว่า เก็บไว้กินนะ พี่(ที่จริงควรจะเป็นป้า)กินอิ่มมาจากโรงแรมแล้ว

จะเห็นได้ว่าเรือลำเบ้อเริ่มนั่งกันสองคน ที่จริงนั่งสักสิบคนก็คงจะพอไหว ห้องน้ำห้องท่าเขาก็มี ก็ตรงประตูเล็กๆสีฟ้าในรูปน่ะค่ะ

หนุ่มๆยื่นบุหรี่ขี้โยให้เราคนละตัวเพราะคราวที่แล้วเราให้บุหรี่ของเรากับเขาไปลอง เป็นโอกาสดีที่จะได้ลองบุหรี่ขี้โย ปรากฏว่ามันไม่ได้ฉุนหรือแรงเหมือนกับที่เคยคิดไว้

รสชาติไม่ได้เลวร้ายแต่ว่า....สูบเท่าไรไม่หมดมวนเสียที สูบจนเบื่อ ดิฉันเลย...แอบทิ้งค่ะ ไม่อยากให้ห้าหนุ่มเสียน้ำใจ

วิวริมฝั่งแม่น้ำกาลาดาน

**

***

ขากลับมาซิตตุ่ยใช้เวลาแค่ประมาณสี่ชั่วโมงครึ่ง เพราะเป็นการล่องเรือตามน้ำ คืนนี้เราจะนอนซิตตุ่ยหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นเราจะบินจากซิตตุ่ยไปย่างกุ้งเพื่อต่อเครื่องไปพุกาม

นั่งชมวิวกลางแม่น้ำแบบนี้น่าสบายตา สบายใจจริง ๆ เนอะ
ยังคงเป็นเดิม ๆ สุด ๆ กับพม่า ... ช่างเหมือนบ้านนอกของบ้านอิชั้นจริง ๆ
เห็นแล้วอยากย้อนอดีต กลับไปขี่ควาย 555

จากท่าเรือซิตตุ่ย นั่งสามล้อไปหาโรงแรม ค่าสามล้อ 1000 จั๊ด (25 บาท) แต่ไกลจากโรงแรมเหมือนกัน ราคานี้ไม่แพงขอบอกเพราะต้องถีบกันประมาณ 20-25 นาที

อีกรูป

ดิฉันเลือกนอนโรงแรม Shwe Tha Zin hotel ค่ะ ดีที่สุดในซิตตุ่ยแล้ว คืนละ 45 เหรียญซึ่งดิฉันว่ามันแพงไปหน่อย แต่เมืองนี้โรงแรมน้อยมากเพราะว่ามันไม่ค่อยมีอะไร คนมาเที่ยวน้อย ห้องที่นอนอยู่ชั้นสอง มีระเบียงด้วยซึ่งเป็นข้อดีเพราะดิฉันต้องซักผ้า ก๊ากกกก เอาระเบียงไว้ตากผ้าค่ะ

ซักผ้าเสร็จกำลังนอนๆเกือบจะเคลื้มหลับ พอดีตาเหลือบไปเห็นต้นก้ามปูต้นใหญ่สามคนโอบได้ที่อยู่บนถนนฝั่งตรงข้ามห้องพัก

เอ๊ นั่นมันลูกอะไรดำๆอยู่บนต้นก้ามปู ต้นก้ามปูมันไม่มีผลนี่หว่า พอเดินออกไปดูที่ระเบียงถึงเห็นชัดว่า มันคือค้างคาวแม่ไก่จำนวนมหาศาลเกาะต้นก้ามปูและต้นไม้อื่นๆฝั่งตรงข้ามมืดไปหมด เป็นหมื่นๆตัวเลยล่ะค่ะ ถามก็ได้ความว่าฝั่งตรงข้ามคือมหาวิทยาลัยซิตตุ่ย ต้นไม้ใหญ่เยอะจัดมาก

อีกรูป

ยิ่งพอตอนเย็นๆสักห้าโมงหกโมง เรายังได้เห็นอีกานับหมื่นๆตัวบินกลับรัง รังก็ไม่ใช่ที่ไหนหรอกค่ะ เหล่าต้นไม้ที่ค้างคาวแม่ไก่นอนห้อยหัวอยู่นี่เอง

อีกาจะกลับรัง ค้างคาวยังไม่พร้อมออกหากิน สิ่งที่เกิดขึ้นคือเสียงทะเลาะจิกตีกันของทั้งสองฝ่ายดังมากๆ เราสองคนนั่งดูบนดาดฟ้าของโรงแรมเพลินไปเลย จนมืดนั่นแหละกว่ามันจะเลิกทะเลาะกัน

มาตกใจตื่นเพราะเสียงทะเลาะของค้างคาวและอีกาอีกทีตอนตี่สี่ ตอนนี้ค้างคาวจะกลับมานอนแต่อีกาบอกยังเช้าอยู่ว้อย เสียงร้องทั้งสองฝ่ายดังมากดิฉันเป็นผู้รับทุกข์ไปเต็มๆเพราะว่าตาค้างกลับไปนอนไม่ได้แล้ว

**

ไม่เคยเห็นอีกาเป็นหมื่นๆตัวอย่างนี้ที่ไหนในชีวิต

แดดผีตากผ้าอ้อม

**

***

จากนั้นไปเดินเล่นตามถนนหนทาง ขนมที่เห็นในรูปเป็นขนมคล้ายๆถั่วทอดบ้านเรา มีถั่วลิสง งาขาวแล้วชุบแป้งทอดเป็นแพบางๆ แผ่นละสองร้อยจั๊ด อร่อยดีแต่มันย่องกินแล้วปากมันแพล็บ

**

อร่อยดี แต่มันมากกกกก

กินไปกินมาหมดแผ่น เพลินดีเหมือนกัน

ขนมนี่พอเจเจเห็นบอกว่ามันเหมือนขนมไทยเลยพี่ เป็นขนมโบราณคนไทยเรียกขนมเกสรลำเจียก

เป็นแป้งบางๆที่แม่ค้าจี่บนกระทะโดยไม่มีน้ำมัน แล้วโรยน้ำตาล มะพร้าวและงา อันละหนึ่งร้อยจั๊ด ขอคอนเฟิร์มว่า ขนมพม่าไม่หวานเลย สู้ขนมไทยไม่ได้

สำหรับมื้อเย็นที่ซิตตุ่ย เรามุ่งไปที่ River valley restaurant ถ้าเดินจากโรงแรมก็เลี้ยวขวาเดินไปทางท่าเรือประมาณ 15 นาที เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในซิตตุ่ย(มั้ง) ประมาณว่าสวนอาหารบ้านเรา อาหารอร่อยมากถูกปากนางโยเดียทั้งเป็นยิ่งนัก



ปูค่ะปู สดมากๆผัดพริก

มีเรื่องตลกคือตัวดิฉันนั้นสั่งน้ำมะนาว(lime juice) เจเจเหลือบมองเห็นว่าในเมนูมันมี น้ำมะนาวเหลือง (lemon juice) ด้วยเลยสั่งมา พอมันมาถึงเจเจดูดไปอึกนึงแล้วทำหน้าปุเลี่ยนๆ บอกดิฉันว่า พี่ๆ ลองกินน้ำไอ้นี่ดูดิ





จากนนี้เป็นหมูแบบยะไข่ อร่อยมากกกกก กินเนื้อสัตว์ที่นี่นะคะ พอเข้าปากคำแรกจะบอกได้เลยว่า มันเป็นเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงแบบฝรั่งเรียกว่า free-range คือปล่อยให้มันหาอาหารของมันเอง ไม่มีการฉีดสารฮอโมนต์ หรือยาปฏิชีวนะใดๆเลย ออแกนิคจริงๆ เนื้อจะเหนียวไม่หนานุ่มแบบเนื้อสัตว์ที่บ้านเรา มันจะน้อยกว่าด้วย

ดิฉันลองชิมดู ปรากฏว่าไอ้ lemon juice ที่ร้านนี้มันก็คือ ....น้ำส้มเช้งค่ะพ่อแม่พี่น้อง เราสองคนถึงกับหัวเราะตกเก้าอี้เลย แล้วไอ้สองแก้วที่สั่งมานั้นมันหวานมากกกกจนกินไม่ลง เลยสั่งเบียร์มากินเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น

ค่าอาหารมื้อนี้ 17000 จั๊ด ประมาณเกือบๆ 500 บาท มีอาหารสามจาน น้ำส้มเช้งน้ำมะนาวอย่างละแก้ว เบียร์หนึ่งหรือสองขวดไม่รู้ ถือว่าถูกเลยล่ะค่ะ อร่อยมากด้วยร้านนี้

รุ่งเช้าสองนางโยเดียตื่นแต่ตีสี่ตีห้าเพราะเสียงกึกก้องกัมปนาทของอีกาและค้างคาวตีกัน ตื่นแล้วอย่าให้เสียเวลา ไปเที่ยวตลาดกันเหอะเจเจ

ซิตตุ่ยอยู่ติดกับอ่าวเบงกอลเลยนะพี่น้อง

เดินไปเจอโรงงานนรก (พูดไปยังงั้นเอง) สาวๆหน้าเนียนสวยกำลังฝัดข้าวเลือกปลายข้าวหักๆออก ทุกอย่างทำด้วยมือค่ะท่านผู้ชม

อีกรูปนะ

สาวยะไข่นี่หาขี้เหร่ยากมากค่ะ

เดินไปยังไม่ถึงตลาดเลย เจออีหนูคนนี้เข้า

ทำหน้าบึ้งเชียว ยังไม่ชิน ป้าโยเดียคนนี้เลยบอกว่า ยิ้มหน่อยค่ะ ยิ้มแล้วหนูจะสวยขึ้นมาอีกสิบเท่า

ไอ้หนูคนนี้เลยไม่ยอมแพ้

โรงหนังแบบคลาสิกที่สุดในโลก เมื่อก่อนยังจำได้ว่าโรงหนังต่างจังหวัดในเมืองไทยก็เป็นอย่างนี้ ไม่มีแอร์ เก้าอี้เป็นเก้าอี้ไม้ เท่โคตรๆๆๆ

สองสาวสวยจากโยเดียต้องกินมุนดิสั่งลายะไข่กันเป็นครั้งสุดท้าย ร้านนี้คนขายเป็นทอมนะคะพี่น้อง แบบว่าใส่เสื้อขาวแบบผู้ชายพม่า แถมยังนุ่งลองยีแบบผู้ชายพม่าด้วยค่ะ ไม่ได้นุ่งซิ่น อยากถ่ายรูปเหมือนกัน แต่กลัวโดนทอมพม่ากระทืบ

คุณพี่คนนี้ขายอะไรหว่า

**

มะขามป้อม คนโบราณเวลาเขาต้องเดินเท้านานๆ จะต้องมีมะขามป้อมติดตัว เพราะว่ากัดไปคำแรกจะฝาด แต่ต่อมาจะให้ความชุ่มคอ แก้กระหายน้ำได้

มะกอก

**

***

****

ยอดฟักแม้วงามมากๆ

พี่น้องทราบไหมคะไอ้นี้มันลูกอะไร ดิฉันจำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่าคนไทยก็กิน

ใกล้ๆ

บวบค่ะบวบ แต่บวบพม่านี่ลูกมันเล็กติ๊ดเดียวยาวแค่คืบเดียว บ้านเรายาวเป็นฟุต แต่โปรดสังเกตว่าเหลี่ยมมันห่างกันมากแปลว่ามันแก่ได้ที่แล้ว ไม่ใช่ว่าลูกมันยังเล็กแล้วเขาเอามาขาย

**

****

ชอบตลาดสดค่ะ รูปเยอะมาก

**

*

แม่ค้าขายกุนเชียง กุนเชียงพม่านี่มันเยอะมาก และอันนิดเดียวเท่านิ้วกลาง ไม่ใหญ่แบบบ้านเรา

**

ดูตลาดสดแล้วเดินไปดูตลาดปลาที่อยู่ติดกันเลย

ปลาเค็มตัวใหญ่มว๊ากกก เจเจบอกว่าเป็นปลาโอ

**

***

ตอกบัตรเข้าชมอย่างใจจดใจจ่อ  เพิ่งกลับจากพม่าค่ะ  อยากไปมรัคอูจัง
แต่จะหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะที่จะไปด้วยกันยากเต็มที  มีแต่คนที่อยากไป
ที่ ๆ สะอาด ๆ และสะดวกสบาย  หาคนชอบอะไรบ้าน ๆ ซื่อ ๆ พร้อมจะสมบุกสมบัน แบบเรายากจังเลย

ร้านขายกุ้งแห้งในตลาดสดซิตตุ่ย ถ่ายรูปมาเป็นหลักฐานว่ากุ้งแห้งเมืองพม่าตัวใหญ่มาก ไซส์ใหญ่ที่สุดตัวเท่านิ้วนาง ที่แรกจะซื้อมาฝากแม่ให้แม่ตกใจเล่น แต่คิดแล้วมันต้องเดินทางอีกหลายวัน เกรงว่ากว่าจะถึงบางกอกมันจะเน่าคากระเป๋าเสียก่อน

**

***

ทำไรกันสองสาว

เอิ่ม....

เธอกำลังเด็ดหัวเขียดย่าง

อันนี้เราอยากลอง ชอบกินปลาไหลค่ะ

ขายอะไร

เห็นหอยนี่แล้วน้ำลายสอกับเจเจสองคน ถ้าเอามาทอดกระเทียมพริกไทย หรือผัดฉ่า คงจะอร่อยมาก เนื้อหนาๆสดๆยังงี้

*

**

***

****

ปลาอะไรไม่รู้ตัวใหญ่มากๆ

และแล้วดิฉันก็ค้นพบสมบัติพระศุลีที่ร้านโชว์ห่วยในตลาดสดซิตตุ่ย มันคือ....(รัวกลอง)...เตารีดถ่าน

ถ้าเป็นกรุงเทพจะสามารถหาได้ในร้านขายของเก่าเท่านั้น แต่สำหรับพม่านั้นหาซื้อได้ตามร้านขายของกินของใช้ทั่วไป อยากได้มานานมากแล้วเดินเข้าไปตะครุบในทันใด

ราคาก็ถูกมาก 5000จั๊ดเท่านั้นค่ะ ประมาณ 125 บาท

ทำด้วยทองเหลืองนะพ่อแม่พี่น้องกริ๊ดดดดดดด ไม่ต่อด้วยนะเพราะว่ามันสมราคา เดินตระกองกอดลูกรักไปตลอดทางจนถึงโรงแรม เจเจบอกว่าหนูรู้แล้วพี่ชอบของประเภทไหน ถ้าเป็นตะกร้ากระบุงสานแบบแปลกๆ หม้อชามรามไหของใช้ในบ้านที่บางกอกไม่มี ผ้าทอลายแปลกๆ หีบบ้าหีบบอ พี่อยากได้หมด

แถมยังบอกว่า เดี๋ยวถ่ายรูปให้ พี่นั่งพับเพียบบนเตียงนะแล้วทำท่ารีดผ้า หล่อนอยากถ่ายชั้นก็กล้าตั้งท่า ถ่ายไปหัวเราะกันไปสนุกมาก

ตอนขึ้นเครื่องจากซิตตุ่ยไปย่างกุ้ง อุตส่าห์ถือขึ้นเครื่องกลัวมันแตกหัก เพื่อที่จะให้พนักงานรักษาความปลอดภัยบอกว่ายูถือขึ้นเครื่องไม่ได้ ต้องเดินกลับไปโหลดใต้ท้องเครื่อง นังบ้า กลัวชั้นจะเอาเตารีดไปตบใครบนเครื่องหรือไงยะ

นี่แค่คิดเท่านั้น สถานการณ์จริงคือเดินต้อยๆเอาไปให้พนักงานโหลดลงเครื่อง พอพนักงานรู้ว่าอะไรหัวเราะกันเฮฮา หารู้ไม่ว่ามันคือของหายากในสยามประเทศ

สนุกจังเลย มาตามเที่ยวต่อดีกว่า

จบตอนที่สี่ค่ะท่านผู้อ่าน อดใจรอตอนที่ห้านะคะ สองนางโยเดียจะขอนำเสนอพุกามค่ะ

ระหว่างนี้ก็ต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวานนะพวกเธอ ดูกระทู้คนอื่นเป็นกระสายรอกระทู้ดิฉันไปก่อนนะคะ ดิฉันเดินสายติดกันเก้าวัน...โน่น จะไปว่างอีกทีก็วันที่สองเดือนหน้าค่ะ

เจอกันที่พุกามค่ะ สวัสดี

คุณแม่ติดเน็ต**ทีแรกนึกว่านั่งเรือไปมรัคอูหกชั่วโมง ขากลับอีกสี่ชั่วโมงจะน่าเบื่อ แต่ตรงกันข้ามค่ะ รู้สึกสุขใจเป็นที่สุด อากาศแสนจะบริสุทธิ ทุ่งข้าวกำลังเหลืองอร่ามรอเก็บเกี่ยว ไม่มีสายไฟฟ้า ไม่มีรถบรรทุกไม่มีคอนกรีต ไม่มีจานดาวเทียมมาปะปนในภาพที่เห็นเลย แค่นี้ก็สุขได้อะค่ะ

menina**คนประเภทเราหาค่อนข้างยากค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าหาไม่ได้เอาเสียเลย สงสัยเราต้องจัดทัวร์ไปกินมุนดิซะมั้งคะ

preecha127**ขอบคุณค่ะ ชอบเที่ยวตลาดสดอะเปล่าคะ

ตามชมครับ เพิ่งย้อนกับไปดู  3 ตอนก่อนหน้านี้ ยาวมากๆๆ

เข้ามาชมการล่องเรือแบบไฮโซ  ทั้งลำมีผู้โดยสารแค่ 2 คน  หรูซะ
เห็นกุ้งแห้งตัวโตโตแล้วอยากกิน เคยซื้อแถวแม่สอด ไม่ไหว มีแต่รา
รอชม พุกาม ต่อนะครับ

เคยล่องเรือแม่น้ำโขงในเขตลาวไปหลวงพระบางทั้งวัน แปลกตาเหมือนกันครับ ชนบทบ้านเค้ายังชนบทมาก ๆ
ชอบค้างคาวกับอีกาแย่งที่นอนกัน ถือเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าจริง ๆ
ชอบเตารีดถ่านครับ สมัยก่อนที่บ้านตาก็ยังใช้เตารีดแบบนี้รีดพวกผ้าไหม แต่มันเก่ามาก ไม่ใหม่ใสกิ๊งแบบในกระทู้นี้
เดินทางและเที่ยวให้สนุกนะครับพี่แอน สวัสดีปีใหม่ครับ

ชอบหลายภาพเลย ทั้งมุมกล้องและบรรยากาศ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ

หนูกรี๊ดเตารีดด้วยคน  อยากได้ม๊ากกก  แต่ไม่สามารถเดินทางไปไหนได้.....
(ห่วงอิดาวเหนือ  ไปบ้านแม่ที่สิงห์บุรียังขอไปเช้า เย็นกลับ)

บุหรี่ขี้โย  กลัวมันดับง่ายยังไงก็ไม่รู้นิ

รูปตลาด คห.61-62  ถูกใจม๊ากกก แสงสีกะลังสวยเลยค่ะ
ตื่นเช้าได้เปรียบงี้แหล่ะ มีเวลาไปเดินเล่นหาอะไรบันเทิงใจใส่ประสบการณ์นิ

ลืม....

คห. 55-56 ฟักข้าวป่ะคะ
แถวจังหวัดนนท์ฯ เค้าก็มีมาขายบ้าง แต่หนูยังไม่เคยลอง ไม่รู้รสชาติเป็นไง

เค้าว่าไลโคปินมากกว่ามะเขือเทศ 12 เท่า

(เคยคิดเล่นๆ ว่าจะคั้นน้ำมากวนสบู่...แต่โซดาไฟคงกัดหมด)

เตารีดถ่านต้องหาใบตองไว้ใช้คู่กันด้วย
ใช้ในการปรับอุณหภูมิถ้าเตาร้อนเกินไปและช่วยให้รีดได้ลื่นไหลด้วย
หน้าร้อนกว่าจะรีดเสร็จเหงื่องี้ท่วมตัวเลยครับ

กระทู้คุณแอนนี่ช่วยให้ผมระลึกชาติได้เรื่อยเลย
ปฏิบัติหน้าที่ด้วยการกดเก็บเข้าคลังกระทู้แล้วครับ

บรรยายสนุกน่ารักครบ



แต่อยากจะบอกว่า
เตารีดใช้ถ่านทำจากทองเหลือง
ที่สยามประเทศ มีมากมาย
แถมที่ล๊อกเปิดปิดสำหรับใส่ถ่านเป็นไก่โต้ง

ชอบอ่านทู้พี่แอนมาก สนุกเหมือนไปเที่ยวเอง

รายงานตัวค่า

วันนี้หนูพลาด โดยการอ่านกระทู้ก่อนมื้อกลางวัน ปูผัดพริกน่ากินมากค่ะ

สนุกจังพี่..เที่ยวแบบลุยๆดี บรรยายรีวีวซะเห็นภาพเลย

อยากได้เตารีดถ่านมากกกกกก อิอิ พูดจริงนะนี่

แวะมาชม ตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

น่าอิจฉาสุดๆเลย..  ^^

สวยมากๆครับบ ตามไปเที่ยวต่อครับบบ

เตารีดสวยจริง ๆ เลยค่ะคุณแอน  เห็นแล้วคิดถึงปิ่นโตที่ซื้อมาจากเนปาล
ไปเนปาลชาวบ้านเค้าซื้อผ้า ซื้ออะไรกันสวยๆ งามๆ  ยัยคนนี้ดันไปเห็นปิ่นโต
เชย ๆ บ้าน ๆ  ในตลาดแล้วเกิดอยากได้มาก อุตส่าห์หิ้วมันข้ามน้ำข้ามทะเล
กลับบ้านมาด้วย อิิอิ
ชอบเดินตลาดแบบบ้าน ๆ เหมือนกันเลยค่ะ  แต่คนไปด้วยนี่ซิคะ พอถึงโปรแกรม
เดินตลาดเช้าทีไร จ้ำอ้าวทุ๊กทีซิน่า  เฮ้อ  เลยอดทำตัวเป็นแม่เม้ยชมตลาดเลย
โอ๊ย อยากทานมนดิจังเลย  ยังไม่เคยลองเลยค่ะ ได้ชิมแต่โมฮิงก่า ข้าวซอย
พม่า กับ ฉานนู้ดเดิ้ลอ่ะค่ะ  อร่อยค่ะ

เข้ามาลงชื่อไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวจะตามเก็บทุกตอนเลยค่ะ ช่วงนี้งานเข้าไม่มีเวลานั่งอ่านอะไรจริงๆจังๆเลย

พม่าจะเป็นอีกประเทศหนึ่งที่คงจะได้มีโอกาสลอกโปรแกรมพี่แอนค่ะ ยิ่งแอร์เอเชียมีโปรบ่อยๆ รับรองไม่พลาด

เมื่อสองปีก่อนเคยไปพม่า แต่เวลาไม่พอเที่ยวแถบนี้ อยากไปแถบนี้อยู่เหมือนกัน คิดว่าปีหน้าคงได้ไป เห็นรูปแล้วกระตุ้นต่อมอยากไปอย่างรุนแรง

ดูกี่ตอน ก็ชอบทุกตอนค่ะ

กดโหวตเข้าคลังกระทู้ให้แล้วนะคะ

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ

ไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่า มะอึก หรือป่าว

ดูลุยสนุกมากเลยครับ

ออกตจว.มา เกือบตกทัวร์พี่แอน อ่านสองกระทู้ควบเลยค่ะ

กระทู้ที่แล้วองค์พระงามมาก น่าทึ่งชาวพม่าที่เก็บรักษาของเหล่านี้เอาไว้ได้เป็นอย่างดี
ตอนไปพม่านี่รู้สึกว่า คนพม่าเข้าวัดกันได้เป็นธรรมชาติมากๆ ค่ะ ชอบสาวๆ พม่านุ่งซิ่นด้วย ^^

มาต่อกระทู้นี้ ชอบรูปบนเรือจัง แลดูเทวีมากค่ะ 55555

เห็นอาหารแล้วน้ำลายไหล 555 ตอนไปพม่าไอซ์ก็ enjoy eating มากๆ อ่า >_<

อ่านกระทู้พี่แอนทีไร อยากมีเวลาเที่ยวช้าๆ บ้าง แต่พอไปเที่ยวก็อดไม่ได้ที่จะงกดูโน่นดูนี่ทุกที แหะๆ ^^"

รอตามไปเที่ยวต่อนะคะ ^^

ชอบมากๆ ขอแชร์ใน FB
นี่คือความฝันที่อยากไปของเราเลย
กลับไปอะไรที่เดิมๆ

ขอตอบรวมๆกันนะคะ เพราะดิฉันต้องไปเดินสายแล้วค่ะ ขอบคุณมากสำหรับคอมเม้นต์ของทุกคน อ่านแล้วจขกท ก็ชื่นใจนะคะ รอหน่อยนะตัวเอง พ้นปีใหม่เป็นไทแก่ตัวเองแล้วจะมารีวิวต่อค่ะ

หนีไปบินที่ไหนครับพี่งวดนี้ หายหน้าไปหลายวันเลย อิอิ


ปล เตารีดเก๋มาก น่าซื้อมาใช้ที่บ้านดูบ้างครับ ให้แม่หุงข้าวด้วยเตาถ่าน แล้วเอาถ่านมารีดผ้าต่อเลย back to basic อิอิ

ตามสองมหาเทวีมาเที่ยวต่อค่ะ....  น่าฉงฉานที่ข้าราชบริพาร (ค้างคาวกะอีกา) มาทะเลาะกันต่อหน้าพระที่นั่ง (ระเบียง) ...... อิอิ


อ่านรีวิวแล้วก็อยากจะไปพม่าใจจะขาดดด.... นับวันรอเลยค่าาา....  น่าไปเหมาเตารีดมาสักโหล....

ตามมาเปิดหูเปิดตาด้วยคนครับ
ปลาไหลหรือนั่นลุงคิดว่าไส้อั่ว อิอิ

ถ้านู๋ไปจะนั่งสามล้อได้มั๊ยนะ 555 ถูกใจเตารีดมากๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

ค้างคาวที่นี่ใจสู้นะคะ ตัวนิดเดียว แต่ไม่ยอมแพ้อีกา ^_^

ตามมาสามตอนแล้วครับ  ขอบคุณมากที่พาชม

รูปปลาที่ว่าเป็นปลาโอผมว่าไม่น่าจะใช่เพราะขนาดมันยาวเกินครับ

ปลาโอในบ้านเราเขาเอาไว้เรียกปลาทูน่าครับ

ผิดถูกขออภัยครับ   อย่าตัดออกจากผู้ติดตามน่ะครับ

เตารีดคลาสสิคมาก ช่วยเก็บเข้าคลังกระทู้ไว้ให้ค่ะ  ^_^