3 12 ธันวาคม 54 ทริปอินเดีย รอบ 2
ความเดิมตอนที่แล้ว พวกเรานั่งเครื่องบิน domestic มาถึงเมืองศรีนาคา ในแคชเมียร์ กันแล้วนะครับ
[23 ธ.ค. 54 21:14:01
]
5 ธันวาคม 2554
อุณหภูมิเช้านี้ ประมาณ 1 องศา เกือบ ๆ 2 องศาได้ วัดบนเรือบ้าน shelter house boat
[23 ธ.ค. 54 21:14:21
]
ตื่นขึ้นมา บริเวณรอบ ๆ เรือบ้าน ก็เห็นเป็นสีขาวโพลนไปหมดเลยครับ
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:14:34
]
นั่นก็คือ น้ำค้างแข็งยอดหญ้านั่นเอง ไม่ใช่แค่ยอดหญ้านะครับ
ต้นไม้ใบหญ้าทุกชนิด ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งไปหมดเลยครับ
[23 ธ.ค. 54 21:14:48
]
ตอนนี้ ให้คุณผู้ชม ได้เห็นบริเวณรอบ ๆ เรือบ้านของเรากันก่อนนะครับ
อย่างที่บอก เราพักกันที่ เรือบ้าน ชื่อ shelter house boat ที่ดำเนินธุรกิจนี้มาอย่างต่อเนื่อง
มาตั้งปี 1820 แล้ว ถ้าจะนับกันจริง ๆ ถึงตอนนี้ ก็สิริรวมได้ 191 ปีแล้วนะครับ
[23 ธ.ค. 54 21:15:35
]
นี่คือสภาพของเรือที่เราพักนะครับ อย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟังไปในตอนที่แล้วนะครับ
ว่าที่พักของเรา ไม่ได้อยู่กลางทะเลสาบดาล (dal lake)
แต่ว่า ที่พักของเรา อยู่ริมแม่น้ำ ก็จะทำให้เราได้รับความสะดวกมากกว่า
การที่จะต้องไปอยู่กลางทะเลสาบ เพราะเวลาจะขึ้นลงจากเรือบ้าน ขึ้นฝั่ง
ต้องอาศัยเรือพาย อย่างเดียวเลย การจะขึ้นฝั่งไปเล่น internet ติดต่อยานแม่
หรือเข้าตลาด ไปหาซื้อของกินเล่น ผลไม้ต่าง ๆ ถ้าหากเราพักริมแม่น้ำ
จะได้รับความสะดวกมากกว่า พวกเรา ก็เลยเลือกใช้บริการ shelter house boat
ที่ไม่ได้อยู่กลางทะเลสาบ แต่อยู่ริมแม่น้ำครับ
ส่วนที่เห็นควันปุ๋ย ๆ ตรงบริเวณค่อนมาทางท้ายลำเรือนั่น ห้องพักของเราเองครับ
ต้องมีการจุดฟืน เผาไฟ ให้ความอบอุ่นกันตลอดเว เพราะอากาศตอนนี้
ต้องบอกเลยครับว่าหนาวจับจิตจับใจจริง ๆ เลยครับ
[23 ธ.ค. 54 21:16:00
]
ซึ่งจะว่าไปแล้ว จะพักกลางทะเลสาบ หรือพักบริเวณแม่น้ำ
ผมว่า บรรยากาศ ความเย็น ความสดชื่นอะไรต่าง ๆ
หรือแม้กระทั่งวิวทิวทัศน์อะไร ก็แทบจะไม่แตกต่างเลยครับ
[23 ธ.ค. 54 21:16:14
]
ตอนนี้ พระอาทิตย์ยามเช้า กำลังจะขึ้นทางทิศตะวันออกแล้วครับ
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:16:25
]
ชมบรรยากาศรอบ ๆ ที่พักของเราไปก่อนนะครับ
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:16:36
]
ที่พักของเราจำง่ายครับ เวลาจะเรียกตุ๊ก ๆ กลับมาจากตลาด ให้บอกไปว่า อยู่เชิงสะพาน (foot bridge) ครับ
อย่างที่เห็นนี่ครับ มีสะพาน พาดผ่าน ใกล้กับที่พักของเราครับ ปกติ ตุ๊ก ๆ จากตลาดมาที่พักของเรา
เค้าคิด 20 รูปีครับ แต่จนแล้วจนรอด 5 วัน 4 คืนที่เราพัก เราก็ใช้วิธีเดินเอา ไม่ได้นั่งตุ๊ก ๆ สักทีเลยครับ
[23 ธ.ค. 54 21:16:48
]
นี่ครับ เรือบ้าน อื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เรือบ้านของเรา
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:17:01
]
กล้อง 3 ตัดภาพกลับมาอีกที เช้านี้ ลุงราชิด (rashid) คนครัวของเรา
ปรุงมาม่าแคชเมียร์ให้เรากินเป็นอาหารเช้ากันครับ ต้องขอบอกเลยว่า...
รสชาดอร่อยมาก ๆ และที่สำคัญ ในมาม่าของลุงคนครัวของเรา
แอบเติมแครอทลงไปให้เราด้วย กินแล้วแก้มจะแดง แดงเพราะสีแคเหราะห์...
[23 ธ.ค. 54 21:17:23
]
นอกจากนี้ ลุงแกก็ยังใจดี เตรียมจะปะตี หั่นเป็นชิ้นพอคำให้เราอีกด้วย คงกลัวว่าเราจะไม่อิ่มกัน
เอาจะปะตี จิ้มกินกับมาม่า ก็อร่อยดีไปอีกแบบนึงนะครับ
[23 ธ.ค. 54 21:17:39
]
ปิดท้าย ด้วยมาสซาร่าจาย หรือ ชาเครื่องเทศแขก มาสซาร่า ที่รสชาด หอม อร่อย มาก ๆ เลยครับ
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:17:54
]
เมื่ออิ่มอาหารเช้าแล้ว จุดแรกของเราวันนี้ ซากเทวาลัย เมืองอวันตีปุระ (avantipur)
ทั้ง ๆ ที่มีคน review ไปก่อนหน้านี้แล้วว่า มันไม่คุ้มค่าเข้าชม 100 รูปี
(หรือประมาณ 63 บาทไทยเลย) แต่จนแล้วจนรอด เราก็ลืมจนได้
นึกอีกที เสีย 63 บาทไทย หรือ 100 รูปี เพื่อไปเข้าห้องน้ำสักหน่อยก็คงจะดี
[23 ธ.ค. 54 21:18:24
]
แต่พอเอาเข้าจริง ตอนขากลับออกมา คนในซากเทวลัย ขอค่า tip เข้าชม
ซึ่งพอเราเห็นว่า แหม มันไม่ได้คุ้มค่าชมตั้ง 100 รูปีเลยแม้แต่นิดเดียว
จะไม่ขอ tip ดีกว่า คนในซากเทวาลัย ก็บอกปฏิเสธเรา ห้ามเข้าห้องน้ำขึ้นมาทันที
บอก... เข้าไม่ได้ ตอนนี้ิ น้ำไม่มี ขึ้นมาซ่ะงั้น
[23 ธ.ค. 54 21:18:38
]
สรุปแล้ว เสียไปคนละ 100 รูปีไปแล้ว แถมไม่ได้เข้าห้องน้ำ และ (ส่วนตัวผมเอง)
รู้สึกว่า มันไม่ได้ควรค่าอะไรแก่การเข้าชมเลย แต่ถ้าคุณผู้ชม เป็นผู้หลงใหล
ในเสน่ห์ของซากเทวาลัย จะแวะชม ก็ไม่ว่ากัน เพราะต่อคน มันแค่ 60 กว่าบาทเอง
ขำขำ แต่ถ้าถามผม ผมก็จะว่า ผ่าน ๆ ข้าม ๆ ไป ก็คงไม่เป็นไรครับ ตรงจุดนี้
[23 ธ.ค. 54 21:18:51
]
ชมบรรยากาศรอบ ๆ ซากเทวาลัย ไปก่อนนะครับ
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:19:03
]
ดูไปดูมา ผมว่า มัสยิด ที่อยู่ข้าง ๆ ยังรู้สึก จะน่าเข้าชม มากกว่าเลยนะครับ
แต่โดยลึก ๆ ซากเทวาลัย ก็มีคุณค่า ในแง่ของศิลปะ และการเดินทางข้ามผ่านกาลเวลา
มาเป็นระยะเวลาหลายร้อย หรือหลายพันปี (ผมไม่แน่ใจ เหมือนกันครับ)
[23 ธ.ค. 54 21:19:15
]
อ่ะให้ชมภาพของมัสยิดข้าง ๆ อีกสักรูปครับ
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:19:27
]
จากนั้น เราก็เดินทางกันต่อ จุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่ พาฮัลแกม (pahalgam)
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:19:38
]
จากนั้น ระหว่างทาง เราก็มีแวะพักกันเป็นระยะ ๆ เพื่อถ่ายรูปบรรยากาศธรรมชาติ
ก่อนจะถึง พาฮัลแกม กันครับ
[23 ธ.ค. 54 21:19:50
]
นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่ง
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:20:03
]
และอีกจุดหนึ่ง
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:20:15
]
แล้วก็อีกจุดหนึ่ง
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:20:49
]
หลายจุดอยู่เหมือนกัน
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:21:02
]
ขออีกสักจุดนึง แล้วเราจะรับประทานอาหารกลางวันกันแล้ว
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:21:14
]
อาหารกลางวันของเราวันนี้ คุณลุงคนครัว ห่อข้าว ใส่ปิ่นโตให้เราได้กินกลางทางกันด้วย
มื้อกลางวันเป็น ข้าวผัดเครื่องเทศแขก ออกสีเหลืองน่ากินเชียว ใส่เนื้อไก่ และแครอท
[23 ธ.ค. 54 21:21:27
]
กินกับไข่ไก่ต้ม สังเกตไหมครับว่า เปลือกไข่ของที่นี่ ออกเป็นสีขาวเหมือนไข่เป็ด
แต่ความจริงเป็นไข่ไก่นะครับ สงสัยว่าขนไก่ที่นี่เป็นสีขาวหรือยังไงก็ไมทราบได้นะครับ
ไข่ไก่ ถึงมีเปลือกเป็นสีขาวไป ไม่ได้เป็นสีออกไข่ไก่ สีน้ำตาล ๆ อย่างเปลือกไข่บ้านเราครับ
[23 ธ.ค. 54 21:21:39
]
เมื่อเสร็จจากอาหารกลางวัน เราก็มาถึงจุดพักม้า ตรงจุดนี้มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นครับ
แต่ขออนุญาตไม่เล่า ณ ที่นี้นะครับ เพราะได้สัญญากับเจ้าตัว เผื่อมาอ่านเจอ
หรือแปลเอาจาก google translate แล้ว จะมาโกรธกันในตอนหลัง
[23 ธ.ค. 54 21:21:52
]
เอาเป็นว่า เราเลือกม้าตัวเหมาะ ๆ ได้ ก็เตรียมพร้อมที่จะลุยขึ้นเขากันแล้วครับ
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:22:03
]
ค่าบริการม้า ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา และความหนาแน่นของนักท่องเที่ยว
ถ้าเป็นช่วงที่เรามา ต้นเดือนธันวาคม ผู้คนไม่หนาแน่น แค่คนละ 400 รูปี
(ไม่รวมค่า tip) นี่ คนม้า ก็โอแล้วแหละครับ ถ้าเป็นช่วงอื่น ๆ ของปี
ก็อาจจะเปิดเกมเสิร์ฟแรง มากไปกว่า 500-600 รูปีก็เป็นได้
การแต่งเนื้อแต่งตัว สวมเสื้อผ้าหนาพอ และรองเท้าอะไรต่าง ๆ
ที่ถ้าหากเราเตรียมพร้อมมาจากบ้านเลย (อย่างที่พวกเราทำ)
ก็จะทำให้เรายิ่งประหยัด ไม่ต้องเช่าเสื้อกันหนาวเพิ่ม
หรือไม่ต้องเช่ารองเท้าที่ให้ความอบอุ่น ก็จะทำให้ประหยัดลงไปได้มาก
ต้องอย่าลืมว่า ยิ่งสูง ยิ่งหนาว ครับ
[23 ธ.ค. 54 21:22:20
]
ระยะเวลาการให้บริการ ก็ประมาณ 1 ชั่วโมง ขี่ม้า เดินถึงยอดเขา
พักประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้น ก็ ขี่ม้า เดินลงเขาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงครับ
[23 ธ.ค. 54 21:22:36
]
ตอนนี้ พวกเราพร้อมแล้ว ก็ลุยขึ้นเขากันเลย
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:22:48
]
ในบรรดาม้าทั้ง 3 ตัวนี่ สงสารม้าของผม เป็นที่สุด
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:23:02
]
ภาพต่าง ๆ ที่เห็นจากนี้ ก็ล้วนแล้วแต่ เป็นมุมมอง ที่ถ่ายจากบนหลังมากันครับ
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:23:36
]
ตอนนี้ ก็ชม ภาพวิวทิวทัศน์ ไปพลาง ๆ ก่อน
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:23:49
]
ช่วงที่ชมวิวทิวทัศน์ไป ผมก็จะขอเล่าถึงเรื่อง tip ไปพลาง ๆ ด้วย
ความจริง เรื่องของ tip นี่ เป็นเรื่องของความพอใจ ถ้าเราจะไม่ให้ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่คนที่อินเดีย (ไม่เฉพาะแต่ในแคชเมียร์) โดยมาก มักจะถามเราว่า
are you happy??? เสียงสูง ประมาณ อาร์ ยู แฮปปี๋???
และโดยมาก เราก็จะเหมือนโดนมนต์สะกด ว่า เอิ่ม อัม แฮปปี้
(ummm i'm happy!!!!) ซึ่ง 100 ทั้ง 100 แขกที่นี่ ก็จะบอกว่า
you happy, i happy!!! นั่นแหละ เมื่อเรา happy เราก็ควรจะ tip หนัก ๆ โหน่ย
หลัง ๆ บางครั้ง ผมเองก็งง ๆ เหมือนกันว่า จะ happy หรือ ไม่ happy
แล้วมายุ่งอะไรกะกรูล่ะวะ??? หลัง ๆ ก็ มีไม่ happy บ้างตามประสา
ปนรำคาญเข้าไปด้วย แต่โดยปกติ ก็ tip บ้าง อาจจะมากหรือน้อย ก็ตามมารยาท
[23 ธ.ค. 54 21:24:04
]
ชมภาพกันต่อเลยครับ
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:24:27
]
เรากำลังเดินทางขึ้นไปบนยอดเขา ซึ่งวิวทิวทัศน์ที่นั่นจะดีมาก คือจะมีหนังแขก หลายต่อหลายเรื่อง
เลือก location ที่นี่ในการถ่ายทำ ซึ่งเดี๋ยวพอขึ้นไปถึง คุณผู้ชมก็จะเห็นว่า มีลานโล่ง ๆ ไว้ให้วิ่งไล่จับกัน
ตามประสาหนังแขก แล้วก็ยังอุดมไปด้วย ป่าเขาลำเนาไพร เรียกว่า วิ่งเล่นซ่อนหา แบบที่หนังแขกชอบทำ
ร้องรำทำเพลงไป 8 เพลงแล้ว พระเอก ก็ยังไม่ได้กับนางเอกเสียที วิ่งอ้อมพาฮัลแกม ไปหลบหลังต้นไม้
ไปโผล่ยอดเขาอีกลูกนึง ผ่านไปครึ่งเรื่อง ยังไม่ถึงไหนต่อไหนกันเลย
[23 ธ.ค. 54 21:25:02
]
ขนาดว่า ระหว่างทาง ก็ยังมีแนวสน และต้นไม้ ไว้ให้พระเอกนางเอกหนังแขก ไว้วิ่งอ้อมเล่นกันเลย
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:25:14
]
ขอย้อนกลับมาเรื่องม้าอีกนิดนึง คือ อยากให้คุณผู้ชมก็ดูนะ ม้าก็ตัวออกจะนิดเดียว
แล้วยังต้องทนแบกเอาสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "เกษม" ที่น้ำหนักรวม เกือบ 110 โล ไว้บนหลังมันอีกนะ
[23 ธ.ค. 54 21:25:36
]
สงสารก็สงสาร สงสารมันนะ สงสารมันจับจิตจับใจกันเลย
ใจนึง ก็กลัวมันจะพิการไปเสียก่อน แต่ถามว่า แล้วขี่มันไหม???
คำตอบคือ ขี่!!!
[23 ธ.ค. 54 21:25:50
]
แล้วดูหน้าม้าที่ผมขี่ด้วยนะ ท่าทางมันออกจะเซ็ง ๆ ยังไงชอบกล!!!
แล้วทั้งม้า และทั้งคน ก็ออกเดินทางกันต่อ
[23 ธ.ค. 54 21:26:12
]
มุมเงยบ้าง อะไรบ้าง
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:26:34
]
ลำแสง สาดส่อง ลอดแนวต้นไม้ลงมาเป็นทาง
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:26:48
]
นี่ก็ด้วย ส่วนหนึ่งของความงาม ข้างทาง
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:27:01
]
ก็อยากให้คุณผู้ชม ได้สัมผัส ถึงความงาม ตามธรรมชาติ ของขุนเขา
ป่าไม้ และลำธาร ระหว่างทาง ซึ่งตอนนี้ อากาศหนาวเย็น ลำธาร หรือทางน้ำ
ส่วนใหญ่ จับตัว กลายเป็นน้ำแข็งไปเกือบหมดแล้ว
[23 ธ.ค. 54 21:27:13
]
ก็ชมวิว ทิวทัศน์ ระหว่างทางกันต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:27:26
]
ที่สุดแล้ว เราก็ขึ้นมาถึงบนยอดเขา ที่ยอดเขานี่ ก็จะมีลานโล่ง ๆ อย่างที่บอกไปเมื่อครู่นี้
เราจะพักบนยอดเขาสักครึ่งชั่วโมง บนยอดเขานี่ วิวดีมาก มีหนังแขกมากมายหลายเรื่อง
เคยขึ้นมาถ่ายทำกันบนนี้ ผมก็เลยโพสท่า เป็นนายแบบกับเขาสักหน่อย
[23 ธ.ค. 54 21:27:38
]
อีกสักท่าเป็นไง
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:27:53
]
ถ่ายวิวด้วยอีกสักหน่อย
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:28:18
]
นี่คือคนจูงม้าให้เรา ชื่อ peto เป็นคนที่อัธยาศัยดีมาก ๆ ชวนคุย นู่น นี่ นั่น ตลอดทาง
คุยได้ทุกเรื่องไปจนกระทั่งวิถีชีวิตต่าง ๆ ของคนแคชเมียร์ และที่สำคัญ ถ่ายรูปเก่งมาก
ภาพที่เห็น (ภาพผม ที่ขี่อยู่บนหลังม้า) ทุกรูปนั่นแหละ ฝีมือ peto คนนี้แหละ
จะแนะนำอะไร ก็บอกไม่ต้อง มีการบล๊าฟกลับอีกว่า ผมถ่ายรูปอยู่ทุกวัน กล้องสารพัดแบบ
ผมถ่ายมาหมดแล้ว แถมยังรู้มุมว่า ถึงช่วงไหนของภูเขา ต้องหยุด หันมาถ่ายรูป
จะหันหน้าเข้าแสง ยังไง จัดกระบวนท่าให้กับพวกเราหมดเลย ประทับใจมาก ก็ tip กันไป
you happy, i happy!!!
[23 ธ.ค. 54 21:28:38
]
ถ่ายวิว ทิวทัศน์ กันอีกสักหน่อย
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:28:54
]
ภาพของผมบนหลังม้า ที่ผมเป็นคนถ่ายเอง
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:29:06
]
ในบรรดาภาพต่าง ๆ ระหว่างนี้ บางส่วน ก็เป็นภาพที่ถ่ายช่วงขาลงจากเขาด้วย
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:29:18
]
อากาศในช่วงต้น ๆ เดือนธันวาคม ก็กำลังเย็นสบาย
จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี
[23 ธ.ค. 54 21:29:30
]
แต่ถ้าหลังจากนั้น สักสัปดาห์ - 2 สัปดาห์ ก็คงจะมีหิมะตก
ป่านนี้ หิมะ คงปกคลุมไปทั้งภูเขา ทั่วทั้งลูกแล้วกระมัง
[23 ธ.ค. 54 21:29:41
]
ส่วนอันนี้เป็น เตาผิงไฟ ภูมิปัญญาท้องถิ่นของที่แคชเมียร์ครับ เราจะเห็นเตาผิงไฟให้ความอบอุ่นแบบนี้ได้ทั่วไป
ที่เห็นนั่นคือ เตาผิงไฟ ที่อยู่ในโรงงานผลิตไม้คริกเกต (cricket) ที่คนอินเดียนิยมเล่นกันเป็นอย่างมากเลย
(ที่พักของเรา ก็ใช้เตาผิงไฟ แบบนี้เหมือนกันครับ แล้วบรรดา เศษ ๆ ไม้ที่เหลือจากทำไม้คริกเกตนั่นแหละ
ก็เอามาทำเป็นฟืน เผาให้ความอบอุ่น นั่นแหละ ชงัดนักเชียว)
[23 ธ.ค. 54 21:29:59
]
สำหรับเตาผิงที่ว่านี้ ด้านนึง (ด้านที่มีฝากลม ๆ อันใหญ่ปิดอยู่) จะเป็นด้านที่เปิดขึ้น แล้วโยนฟืนลงไป
แล้วเผาจนเกิดเป็นไฟขึ้นข้างใน และสร้างความอบอุ่นให้แก่บ้านเรือน ส่วนอีกด้าหนึ่ง ที่เป็นรูกลม ๆ เล็ก ๆ
ด้านในจะมีท่อต่อลงไปลึกมาก โดยธรรมชาติ ควันจะไม่ลอยออกมาจากจุดนี้ เพราะควันไฟจะลอยขึ้นสูง
แต่ท่ออันนี้ อยู่ต่ำมาก เกินกว่าที่ควัน จะคล้อยลงมาออกตรงจุดนี้ แต่จุดนี้ จะเป็นจุดที่ก๊าซออกซิเจน เข้าไปเติม
ทำให้เกิดการเผาไหม้ หลังจากนั้น ควัน และบรรดาก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ก็จะลอยออกทางปล่องยาว ๆ นั่นแหละครับ
ดูภาพเตาผิงไฟ อีกอันนึงของที่พักเราครับ เผื่อจะเข้าใจ เห็นภาพได้ชัดเจนมากได้มากขึ้น
[23 ธ.ค. 54 21:30:30
]
แล้วก็มาถึงอาหารค่ำวันนี้ครับ อาหารค่ำวันนี้เป็นปลาทอด ซึ่งที่ทราบมาก็คือ ปลาที่เอามาทอด
ก็คือปลาที่หาได้ชุกชุมภายในบริเวณแม่น้ำที่เราพักอาศัยอยู่กันครับ เป็นปลาพันธุ์เดียวกับปลาเทราท์
ที่เป็นปลาท้องถิ่น และส่งออกทำรายได้ให้แก่ผู้คนที่นี่มากมาย แต่ที่เอามาทำอาหารค่ำวันนี้
เป็นปลาเทราท์ ตัวเล็กกว่า เอามาทอด กินกับข้าวสวย ก็อร่อยดีเหมือนกันครับ
[23 ธ.ค. 54 21:30:44
]
ปิดท้ายอาหารค่ำสุดพิเศษวันนี้ เป็นคัสตาร์ตกล้วย ฝีมือคุณลุงราชิด (rashid) พ่อครัวประจำเรือ
ซึ่งทั้งกล้วย และแอปเปิล ต่างก็เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของทางแคชเมียร์ครับ ผมว่ารสชาดอร่อย
กล้วยแคชเมียร์ กลิ่นจะหอมรุนแรง เอามาทำคัสตาร์ต หรือขนมแบบแคชเมียร์ คล้าย ๆ เยลลี่ ผสมสังขยา
รสชาดอร่อยดีเหมือนกันครับ
[23 ธ.ค. 54 21:31:10
]
ปิดท้ายกันด้วย ภาพเจ้าของเรือ shelter house boat กันครับ คนที่อยู่ทางซ้ายมือครับ ลุงโคราม
(ซึ่งรับช่วงต่อจากคุณปู่ อับดุล การิม เจ้าของกิจการเรือตัวจริง ที่ปัจจุบัน คุณปู่การิม อายุ 80 เข้าไปแล้ว
คุณลุงโคราม กับหลาน ๆ ปู่การิม ตอนนี้ เป็นผู้ดูแลกิจการทั้งหมดเลยครับ เอาไว้จะไล่ family tree ให้ดูอีกที)
สำหรับท่านที่ ติดต่อกับเรือ shelter house boat ทางอีเมล์ จะเป็นเมล์ของคุณปู่การิม
แต่ความจริง คนที่ตอบ เป็นพ่อหนุ่ม อายุยังน้อยอยู่ ซึ่งเป็นบุตรชายของคุณลุงโคราม
เอาไว้จะเอาภาพมาให้ดูกันตอนต่อไป
ส่วนคนที่อยู่ด้านขวามือ ก็คือ พี่วิบูลย์ โต้โผ ของงานนี้ ตัวจริง เสียจริงกันเลยครับ
[23 ธ.ค. 54 21:31:53
]
ในตอนหน้า จะพาคุณผู้ชมไป โซนะมาร์ก (sonamarg) กันแล้วนะครับ
โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
[23 ธ.ค. 54 21:32:16
]
ตอนแรก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11452376/E11452376.html
ตอน 2
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11483231/E11483231.html
[23 ธ.ค. 54 21:41:56
]
ตามมาชมต่อครับบบ..........
จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ขอบคุณสำหรับรีวิว ที่ทำให้ได้เห็นวิถีชวิตที่แตกต่าง..มุมหนึ่งของโลกครับ
จากคุณ : ส่วนหนึ่งของประเทศไทย
[24 ธ.ค. 54 07:45:02
]
ภาพสวยชวนให้อยากตามไปเที่ยวแบบนี้บ้างครับ
ขอบคุณครับ
[24 ธ.ค. 54 09:46:54
]
ตามมาเที่ยวต่อครับ น่าไปจริง ๆ
จากคุณ : tiger's nest
[24 ธ.ค. 54 10:21:02
]
น่าไปเที่ยวจังค่ะ แต่ขอไปฤดูอื่นนะคะ ไม่ชอบความหนาววว.... บรื์อสสสส์....
จากคุณ : ป้าฟู
[24 ธ.ค. 54 11:59:40
]
น่าไปเที่ยวมากเลยครับ
จากคุณ : Destiny-Boy
[24 ธ.ค. 54 12:44:10
]
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวสถานที่สวยๆค่ะ
จากคุณ : บัวดินกับกลิ่นขจร
[24 ธ.ค. 54 15:28:43
]
สวยมากครับ ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่
[24 ธ.ค. 54 16:22:23
]
สวยงามมากๆค่ะทั้งภาพ และคำบรรยาย
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะค่ะ
[24 ธ.ค. 54 18:52:28
]
อากาศหนาวเหมือนกันนะครับมีแม่คะนิ้งด้วย
อาหารอร่อยมั้ยครับ ลุงอยากไปเที่ยวเส้นทางนี้ดูสักครั้ง
[24 ธ.ค. 54 18:56:35
]
เป็นทริปที่น่าสนใจมากๆเลยคับ ^^
จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย
[24 ธ.ค. 54 22:47:02
]
ขอบคุณทุกท่านมากครับ
คุณลุงแบกเป้ครับ อาหารอร่อยมากครับ คุณลุงคนครัวเอาใจใส่เรา
ขนาดอาหารกลางวัน ยังแพคใส่ปิ่นโต ให้เราหิ้วไปกิน
ดูแลเราเหมือนเป็นญาติคนนึงเลย ประทับใจมาก ๆ ผู้คนอัธยาศัย ดีมาก
ประทับใจทุกอย่างเลยครับ
[24 ธ.ค. 54 23:10:46
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^
จากคุณ : สามแซ่
[26 ธ.ค. 54 10:21:19
]
... บรรยากาศดีจริงๆค่ะ ^_^
จากคุณ : kungtalay
[26 ธ.ค. 54 13:52:16
]
ขอแย้งเกี่ยวกับบรรยากาศระหว่างพักในทะเลสาปกับในแม่น้ำ
บรรยากาศแตกต่างกันมากคะ อันนี้หมายถึงบ้านเรือในทะเลสาปไม่ใช่บ้านเรือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามท่าเรือนะคะ
วิวต่างกัน ถ้าเปรียบเทียบก็ประมาณ วิวติดชายหาด กับ วิวพัทยาสายสอง
อย่าว่าแต่คุณเกษมคิดยังงั้นเลยค่ะ ขนาดดิฉันเองตอนแรกก็ยังคิดแล้วเป็นหนักกว่าด้วยเพราะจองเป็นโรงแรมในตัวเมืองศรีนาคาไม่จองบ้านเรือด้วยเพราะคิดถึงความสะดวกในการเดินทาง ในการหาที่กิน แต่โชคชะตาขีดเขี่ยให้มีอันไปพักบ้านเรือ
ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจพักบ้านเรือในทะเลสาปดัล ดิฉันและเพื่อนได้เข้า ๆ ออก ๆ บ้านเรือหลายแห่ง แต่พอได้เห็นวิวบ้านเรือด้านในทะเลสาปดัล เราตัดสินใจเลือกทันที เราบอกตัวเองว่านี่ซิวิวของแคชเมียร์ที่เราอยากเห็น ไม่มีเสียงรถเสียงแตร มีแต่ความสงบ มีเป็ดน้ำแม่ลูกลอยคอไปมา มีบัวอยู่กลางทะเลสาป ต่อให้ต้องนั่งเรือเข้าออกเที่ยวละ 30 นาทีก็คุ้มคะ
แต่มันเป็น 30 นาทีที่บรรยากาศดีมาก ๆ ได้เห็นวิถึชีวิตของคนแคชเมียร์จริง ๆ เห็นพ่อพายเรือไปส่งลูกสาวตัวเล็ก ๆ ไปโรงเรียน เห็นแม่บ้านพายเรือมาซื้อของ เรือพายของชาวบ้านมองและยิ้มให้เราทุกลำ เห็นช่างตัดผมกำลังตัดผมให้ลูกค้า เรียกว่าเข้าถึงชุมชนจริง ๆ อัมพวานี้ชิดซ้ายเลยคะ
[26 ธ.ค. 54 23:50:40
]
ตอนที่ 4 ครับ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11500958/E11500958.html
[29 ธ.ค. 54 21:29:30
]
ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆค่ะ
จากคุณ : สาวหน้าใส
[วันสิ้นปี 54 05:24:04
]
กลับมาเพิ่มเติม
มีอีกเรื่องนึงเกี่ยวกับการเลือกที่พัก เพราะผมเองค่อนข้างจะละเอียดอ่อนกับ
ความเอาใจใส่ของผู้ที่เป็นเจ้าของเรือด้วยครับ เพราะเรือบางลำ มองผู้พัก
เป็นแค่ผู้มาใช้บริการ บางที่ ไม่ง้อแขก พูดง่าย ๆ เพราะถือว่า ยังไง ก็มีคนพัก
แต่ที่ผมไปพัก เค้าส่ง mail หาตลอดเลยครับว่า อากาศตอนนี้หนาวเย็นแล้วนะ
เตรียมเสื้อผ้ามาให้หนาหน่อย หรือปีใหม่ ก็ส่งเมล์มาอวยพร ประทับใจมาก
แล้วยิ่ง เค้าดูแลเรา เหมือนเป็นลูกหลานของท่าน เหมือนเป็นคนในครอบครัว
ตรงจุดนี้ ผมว่า หาไม่ได้ง่าย ๆ ดูจากตอนส่งเมล์ถามราคานี่ เค้าใส่ใจแค่ไหน
ผมดูจากความใส่ใจ เป็นมิตรภาพ เป็นความทรงจำ ระยะยาว มากกว่า
แค่ที่พัก ที่กิน ที่นอน อ่าครับ
[9 ม.ค. 55 07:40:42
]