สวัสดีครับเพื่อนๆชาวบลู ทุกท่าน

Merry Christmas & Happy New Year ครับ

วันนี้วันหยุดไม่ได้ออกไปไหน เลยขออนุญาตรีวิวทริปเยอรมันต่อน่ะครับ

วันนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศ แนะนำหมู่บ้านเล็กๆ น่ารัก เป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่ามีภาพเพ้นท์กำแพงสวย ชื่อว่าหมู่บ้าน โอบาร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau) หลังจากนั้นช่วงบ่ายขอพาไปเที่ยว ปราสาทลินเดอร์โฮฟ ครับ

ภาพเปิดกระทู้ ภาพยอดหอคอยหัวหอมสีเขียวของโบสถ์คาทอลิชเช่อะเคี้ยเช่อะ (Katholische Kirche) โบสถ์ประจำหมู่บ้านกำแพงสวย โอบาร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau)

รวมลิ้งค์รีวีวิวทริป GERMAN AUTUMN LEAVES

R I Q U E W I H R : หมู่บ้านมรดกโลก เมืองแห่งไร่องุ่น เมืองริค-เวีย
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11455252/E11455252.html

C O L M A R : ลิตเติ้ลเวนิซ เมืองน่ารัก เมืองโกลม่าร์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11460817/E11460817.html

N E U S C H W A N S T E I N : ปราสาทเทพนิยายนอยชวานสไตน์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11470665/E11470665.html

F R A N K F U R T : เมืองหลวงทางการค้าของเยอรมัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11475687/E11475687.html

H E I D E L B E R G : เสน่ห์เมืองโรแมนติค เสน่ห์เมืองไฮเดลแบร์ก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11479143/E11479143.html

F R E I B U R G : เดินละเลียดชมเมืองน่ารัก เมืองไฟรบวร์ก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11486344/E11486344.html

BLACK FOREST : ล่องเรือในทะเลสาบ Titisee, แวะชมทุ่งดอกเรปส์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11490877/E11490877.html

ETTAL ABBEY : เยี่ยมสำนักสงฆ์เอ็ททาล, พาชมโบสถ์แสวงบุญมรดกโลก โบสถ์วีส์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11495019/E11495019.html

O B E R A M M E R G A U  : เดินละเลียดชมหมู่บ้านกำแพงสวย, แวะเยี่ยมปราสาทลินเดอร์โฮฟ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11499685/E11499685.html

MUNICH LOVES YOU : เสน่ห์เมืองมิวนิก เมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11501929/E11501929.html

N Y M P H E N B U R G Palace : พระราชวัง นึ้มเฟ่นบวร์ก, เดินเที่ยวชมตลาดฟิคทูอาเลี่ยนมาร์คท
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11504803/E11504803.html

RESIDENZ MUNCHEN : พระราชวังเรซิเด้นซ์มุ้นเช่น ชมขุมทรัพย์อันล้ำค่าแห่งบาเยิร์น
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11508829/E11508829.html


ภาพปราสาทลินเดอร์โฮฟ (Linderhof) ตั้งอยู่ใกล้เมืองโอเบอร์อัมเมอร์เกาทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นบาวาเรีย เป็นปราสาทที่เล็กที่สุดที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงสร้าง

นักท่องเที่ยวที่มาชมปราสาทลินเดอร์โฮฟ (Linderhof) ส่วนใหญ่จะแวะเที่ยวเมือง โอบาร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau) ด้วย เนื่องจากเป็นเมืองทางผ่านและอยู่ไม่ไกลจากปราสาทลินเดอร์โฮฟมากนัก

เมืองโอบาร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการเพ้นท์กำแพงบ้านให้สวยงาม ทำให้บ้านเรือนในเมืองนี้รวมถึงร้านค้าแทบทุกหลังมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมครับ

เป็นธรรมดาที่แต่ละหมู่บ้านจะมีโบสถ์ประจำเมือง ขณะที่เดินชมเมืองจะพบหอคอยของโบสถ์คาทอลิชเช่อะเคี้ยเช่อะ (Katholische Kirche) เป็นหอคอยเดี่ยว ลักษณะคล้ายหัวหอมสีเขียว ไม่ได้เป็นหอคอยคู่แบบหอคอยโบสถ์เฟราเอนเคียเชอะในมิวนิกน่ะครับ

ถึงแม้จะเป็นหอคอยเดี่ยว และขนาดเล็กกว่าหอคอยโบสถ์เฟราเอนเคียเชอะที่มิวนิก แต่ความงามของหอคอยโบสถ์คาทอลิชเช่อะเคี้ยเช่อะ ก็สวยงามแบบลงตัวเข้ากับขนาดของตัวเมืองครับ

ใบไม้เปลี่ยนสี ยอดหอคอยโบสถ์ และท้องฟ้าสีคราม เข้ากันอย่างลงตัว

aa6

aa7

aa8

aa9

bb1

bb2

bb3

เมืองโอบาร์อัมเมอร์เกา ถือเป็นศูนย์กลางการเพ้นท์ที่เรียกว่า ลุฟเทิ้ลมาลเลอไร (Luftlmalerei) ก็ว่าได้ โดยมีการเพ้นท์ผนังบ้านด้วยลวดลายน่ารักๆ คล้ายมีคนยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ไปจนถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับศาสนาที่เข้าใจยาก

ร้านอาหารของโรงแรมชื่อดัง ร้านอัลเท่อะ โพสท์ (Alte Post) ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี คศ 1612 เป็นอีกที่หนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาแวะเยือนอย่างไม่ขาดสาย

เพราะนอกจากเมนูอาหารที่อร่อย ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอกแบบบาเยิร์น เมนูหมูย่างเสริฟพร้อมผักกาดดองในราคาไม่แพงแล้ว ที่ร้านนี้ยังเพ้นท์ลวดลายที่กำแพงร้านไว้อย่างสวยงามอีกด้วย

โรงแรมอัลเท่อะ โพสท์ (Alte Post) เป็นโรงแรมเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมาก ดังจะเห็นรูปที่ปรากฏตามหนังสือท่องเที่ยวอยู่เสมอ

ลวดลายที่เพ้นท์บนผนังตึกด้านหน้าประตูทางเข้าโรงแรมอัลเท่อะ โพสท์ (Alte Post)

รูปนี้เกี่ยวกับศาสนา

ซูมเข้ามาใกล้ๆ

ส่วนรูปนี้เป็นลวดลายเพ้นท์ด้านข้างโรงแรม

ลายเพ้นท์ดูสวยงาม บอกเล่าเรื่องราว

เสียดายที่ไม่มีโอกาสมาพักที่โรงแรมนี้ แต่ว่าดูท่าทางห้องพักน่าจะมีราคาแพงไม่เบาเลยทีเดียว

บนถนนสายที่ชื่อว่า Dorfstrassee จะเป็นย่านร้านค้าและร้านขายของที่ระลึก รวมถึงเป็นถนนคนเดิน ไกด์บอกว่าในฤดูร้อนจะมีพวกแม่ค้าพ่อค้านำของที่ระลึกและงานหัตถกรรมออกมาขายแข่งกันเต็มไปหมด

พวกเราแวะดูของที่ระลึกกันที่ร้าน Ammergauer Krippenstube ซึ่งร้านนี้ส่วนใหญ่ขายงานแกะสลักทั้งบุคคลในประวัติศาสตร์ของศาสนาคริสต์ ตุ๊กตากุ๊กกิ๊กแบบจำลองจิ๋ว รวมถึงนาฬิกานกคุ้กคูที่มีต้นแบบมาจากป่าดำ

แต่ว่าของงานฝีมือพวกนี้ราคาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย ราคาแพงมากๆ เพราะเป็นงานฝีมือจริงๆ

ร้านแดร์ ไอน์เซลเล่อะ กับภาพเพ้นท์กำแพงร้านอันสดุดตา

ซูมเข้ามาให้เห็นลายเพ้นท์ชัดๆ

อาคารหลังนี้ ดูเหมือนจะเป็นโรงแรมที่พัก

โรงแรมเดียวกัน ซูมเข้ามาใกล้ๆครับ

dd5

แต่ละหลังเพ้นท์ลวดลายประชันกัน แบบไม่ยอมแพ้กันเลย

โรงแรมเดียวกันอีกรูปหนึ่งครับ อันนี้น่าจะเป็นน้ำพุประจำเมือง (หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)

dd8

dd9

ee1

ee2

ee3

ee4

ee5

ee6

ee7

ee8

ee9

ee9-1

ช่วงบ่ายพวกเราไปเที่ยว ปราสาทลินเดอร์โฮฟ ครับ

พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงสร้างปราสาทไว้ทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่

1 นอยซวานซไตน์ (Neuschwanstein)
2 ลินเดอร์โฮฟ (Linderhof)
3 แฮร์เรนคีมเซ (Herrenchiemsee)

จริง ๆ พระองค์ตั้งใจสร้างแห่งที่สี่ด้วย แต่ยังไม่ทันสร้างก็สิ้นพระชนม์ซ๊ะก่อน พระองค์โปรดปรานที่จะใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับดนตรีและศิลปะอยู่ในปราสาทเหล่านี้มากกว่าจะไปอยู่ในพระราชวังในเมืองหลวงบริหารรัฐกิจ  ปราสาทแต่ละแห่งอลังการงานสร้างมาก ๆ ใช้เงินมากมายมหาศาล แต่พระองค์ก็ไม่เคยเอาเงินแผ่นดินมาสร้างปราสาท  ทั้งหมดเป็นเงินส่วนพระองค์ ถึงแม้จะต้องกู้หนี้ยืมสินจนเป็นหนี้มหาศาลก็ตาม   พวกขุนนางใช้จุดนี้เป็นข้ออ้างอีกเรื่องในการปลดพระองค์ว่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย

แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อเวลาผ่านไป ปราสาทนอยชวานสไตน์เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญอันดับหนึ่งของเยอรมนี  และทำรายได้ให้ประเทศเป็นเงินมหาศาล

ปราสาทลินเดอร์โฮฟ (Linderhof) ตั้งอยู่ใกล้เมืองโอเบอร์อัมเมอร์เกาทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นบาวาเรีย เป็นปราสาทที่เล็กที่สุดที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงสร้าง

ที่มาของการก่อสร้าง

ปราสาทลินเดอร์โฮฟ ตั้งอยู่ในหุบเขากร๊าซวัง นับเป็นปราสาทหลังที่สองที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงสร้าง หลังเสด็จกลับจากการเยือนฝรั่งเศส ในปี คส 1867 เพราะความประทับใจในพระราชวังแห่งราชสำนักฝรั่งเศสนั่นเอง จุดประสงค์เพื่อใช้พักผ่อนยามออกล่าสัตว์ และปราสาทนี้มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาปราสาททั้ง 3 หลังที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2ทรงสร้าง แต่เป็นปราสาทหลังเดียวที่พระองค์ทรงสร้างเสร็จสมบูรณ์ โดยใช้เวลาสร้างนานถึง 4 ปีเลยทีเดียว

ก่อนที่จะสร้างลินเดอร์ฮอฟพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงรู้จักบริเวณนั้นดีจากการเดินทางไปล่าสัตว์ในบริเวณเทือกเขาบาวาเรียแอลป์กับพระบิดาพระเจ้าแม็กซิมิลเลียนที่ 2 แห่งบาวาเรียเมื่อยังทรงพระเยาว์ เมื่อขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1869 ลุดวิกไดัรับ “ตำหนักเคอนิกเฮาเชน” (Königshäuschen) เมื่อเริ่มแรกก็ทรงขยายตำหนักเดิมแต่ต่อมาก็ทรงสั่งให้ย้ายตำหนักเคอนิกเฮาเชนไปตั้งในบริเวณอื่น และบนสิ่งก่อสร้างรูปตัว “U” ที่ยังเหลืออยู่ทรงเพิ่มห้องสามห้องและบันได ด้านหน้าตกแต่งที่เคยเป็นไม้ก็ทรงสั่งให้หุ้มด้วยหิน ตัวสิ่งก่อสร้างเป็นแบบร็อกโคโค

ตลอดเส้นทางเดินตั้งแต่บริเวณปากทางเข้าเต็มไปด้วยป่าเปลี่ยนสี สวยงามมากครับ

ที่ตั้งของปราสาทอยู่ไม่ไกลจากวัดเอ็ททาล (Ettal Abbey) ซึ่งทำให้เห็นอีกแง่หนึ่ง เพราะทรงเห็นลักษณะสถาปัตยกรรมของวัดว่าควรเป็นที่เก็บรักษาถ้วยศักดิ์สิทธิ์ (Holy grail) ซึ่งเป็นการเชื่อมพระราชวังบาร็อกกับพระราชวัง “ยุคกลาง” เช่น นอยชวานชไตน์เป็นความคิดที่เข้ารูปเข้ารอยกับโอเปร่าของริชาร์ด วากเนอร์ที่ลุดวิกทรงโปรด

ff6

ff7

ff8

ff9

ff9-1

ถึงแม้ว่าวังลินเดอร์ฮอฟจะเป็นวังที่เล็กกว่าพระราชวังแวร์ซายส์ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นวังที่สร้างเลียนแบบพระราชวังของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ผู้เป็นวีระบุรษและแรงบันดาลใจของลุดวิก การก่อสร้างต่างๆ เช่นบันได ก็เป็นการสร้างย่อส่วนของบันไดทูต (Ambassador's staircase) ที่แวร์ซายส์ ซึ่งต่อมาไปสร้างเต็มสัดส่วนที่วังแฮเร็นเคียมเซ ภายในวังจะมีสัญลักษณ์พระอาทิตย์ที่เป็นสัญลักษณ์ของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 อยู่ทั่วไป ซึ่งเหมาะกับความคิดของลุดวิกที่ว่าอำนาจของพระเจ้าแผ่นดินเป็นอำนาจโดยตรงจากพระเจ้า แต่ตามความเป็นจริงแล้วความคิดเช่นนั้นเป็นความคิดที่ล้าสมัยไปแล้วในคริสต์ศตวรรษที่ 19

ศิลปะที่ใช้ของปราสาทลินเดอร์โฮฟจะเป็นร็อกโคโคแบบฝรั่งเศส ซึ่งแสดงให้เห็นเด่นชัดว่าพระองค์แสดงออกถึงความหลงไหลในความเป็นฝรั่งเศส และความเทิดทูนต่อราชวงศ์บูบอง รวมทั้ง พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 มากๆ ทั้งนี้จุดเด่นที่สุดไม่ได้อยู่ที่ตัวปราสาท แต่กลับเป็นถ้ำในสวนที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ตกแต่งไว้เป็นอย่างดีงดงามมากกว่า อีกทั้งทำเลที่ตั้งก็ยังช่วยให้ตัวปราสาทสวยเด่นขึ้นอีกมาก

ห้องบรรทมเป็นห้องที่สำคัญที่สุดในระบอบกษัตริย์แบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงรับการถวายราชการหนแรกและหนสุดท้ายของวันหนึ่งๆ ภายในห้องบรรทม ห้องบรรทมที่ลินเดอร์โฮฟก็เป็นการเลียนแบบห้องบรรทมของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในวัง หันไปทางทิศเหนือซึ่งทรงกลับสัญลักษณ์ของแวร์ซายส์ที่ทรงเห็นพระองค์ว่าเป็น “พระราชาแห่งราตรี” (Night-King) ....... ภายในปราสาทห้ามถ่ายภาพ ภาพจาก Wikipedia

ลานน้ำพุและสระน้ำด้านหน้าปราสาท เสียดายที่เจ้าหน้าที่ไม่เปิดน้ำพุ น้ำในสระก็แห้งสนิท แถมยังนำกล่องไม้มาคลุมหุ่นรูปปั้นที่ตั้งอยู่ในสวนจนหมด ทั้งนี้ก็เพื่อเตรียมตัวสำหรับฤดูหิมะที่กำลังมาถึง

ข้อมูลเกี่ยวกับชีวะประวัติของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ที่น่าสนใจ

พระเจ้าลุดวิกที่ 2 พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งบาวาเรีย ตั้งแต่มีพระชนมพรรษาไม่ถึง 19 ชันษา ด้วยความที่เป็นกษัตริย์หนุ่มและดูดี สูงใหญ่กำยำ เลยทำให้เป็นกษัตริย์ที่ถือว่าป๊อปปูล่าร์มากในแคว้นและต่างแคว้นด้วย

แต่ว่ากันว่าในสมัยทรงพระเยาว์ถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดมาก เพื่อเตรียมตัวขึ้นครองราชย์ อีกทั้งยังมีความใกล้ชิดกับพระราชบิดาพระราชมารดาไม่มากนัก พระองค์จึงกลายเป็นคนช่างฝัน มีจินตนาการเกินจริง มีอารมณ์อ่อนไหว ไม่โปรดการบ้านการเมืองนัก แต่สนพระทัยในวรรณกรรม การละคร น้ำหอม และไวน์

โดยการเมืองในช่วงแรกๆ ที่ขึ้นครองราชย์ไม่สู้ดีนัก แถมยังถูกบีบให้มีรัชทายาท จนต้องหมั้นกับเจ้าหญิงโซฟีแห่งบาเยิร์น น้องสาวของเจ้าหญิงอลิซาเบธแห่งออสเตรีย ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของพระองค์เอง

แต่ทว่าพระองค์กับสนิทสนมกับเจ้าหญิงอลิซาเบธมากกว่าเพราะโปรดการวรรณกรรมเช่นเดียวกัน ความกดดันส่งผลให้พระองค์พยายามหลีกเลี่ยงว่าราชการ และไปประทับในเขตเทือกเขาแอลป์อยู่บ่อยๆ และทรงเลื่อนงานแต่งงานออกไปเรื่อยๆ จนถูกถอนหมั้นภายในปีเดียวกัน

อันที่จริงแล้วตามประวัติศาสตร์พระองค์ทรงสนิทสนม (เกินควร) กับผู้ชายหลายคนมาก แต่คนที่มีบทบาทน่าสนใจก็เห็นจะเป็นคีตกวีเอก ริชาร์ด วากเนอร์ (Richard Wagner) ที่พระองค์ทรงประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ซึ่งริชาร์ด วากเนอร์ เป็นนักประพันธ์เพลงที่ประสบความสำเร็จในการเขียนบทละครโอเปร่าหลายเรื่อง แต่บางเรื่องก็ไม่สำเร็จเอาเสียเลย จนเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวตั้งแต่เริ่มเขียนงาน ทว่าความประทับใจเลยทำให้พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ใช้เงินของราชวาศ์สนับสนุนงานของ วากเนอร์ และเรียกตัว วากเนอร์ มาเป็นคีตกวีประจำพระราชสำนักตั้งแต่ขึ้นครองราชย์เลยทีเดียว

แต่ วากเนอร์ มีความประพฤติเป็นที่ครหา อันได้แก่ เรื่องชู้สาวกับลูกสาวนอกกฏหมายของเพื่อนร่ามงาน และใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อจัดการแสดง (วากเนอร์ไม่ได้มีใจให้กับพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แต่ต้องการเงินเพราะมีหนี้สินล้นพ้นตัวอยู่ทุกคราที่จัดการแสดงละครโอเปร่า) เลยทำให้กลุ่มขุนนางหัวโบราณเคลื่อนไหวบังคับให้พระองค์กำจัดวาร์กเนอร์ออกจากพระราชวัง ซึ่งการจากไปของวาร์กเนอร์ทำให้พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงเปล่าเปลี่ยว มีพฤติกรรมแปลกมากขึ้น ชอบประทับเพียงลำพัง เสวยตามลำพัง จนกล่าวกันว่าพระองค์มักมีพระสหายในจินตนาการมาพูดคุย รวมทั้งร่วมโต๊ะเสวยด้วยอยู่เสมอ

ถึงแม้พระองค์จะรู้สึกปลื้มชายมากกว่าหญิง แต่จากบันทึกประจำวันส่วนพระองค์ ก็แสดงให้เห็นว่าพระองค์ต้องการต่อต้านสิ่งที่เกิดขึ้นในตัวพระองค์เองด้วย และต้องการป็นคาทอลิกที่เคร่งครัด

การถูกปลดออกจากพระราชบัลลังก์

ด้วยพฤติกรรมแปลกๆดังที่กล่าวข้างต้น ทำให้วันหนึ่งรัฐบาลตัดสินใจเข้าจับกุมตัวพระองค์ที่ปราสาทในฝันนอยซวานซไตน์ถึงห้องบรรทม แม้ประชาชนในหมู่บ้านข้างล่างจะมาช่วยกันอารักขา แต่พระองค์ก็ปฏิเสธการให้การอารักขาและยอมให้จับกุมแต่โดยดี ก่อนถูกปลดลงจากราชบัลลังก์ในปี คศ 1886 ด้วยข้อหาสติฟั่นเฟือนจากคำวินิจฉัยของนักจิตวิทยาแบร์นฮาร์ด ฟอน กุดเด้น (Bernhard Von Gudden) ซึ่งรัฐบาลได้ให้พระองค์ไปประทับยังปราสาทแบร์ก (Berg) ณ เมืองแบร์กที่อยู่ห่างจากมิวนิกลงไปทางตอนใต้ประมาณ 30 กิโลเมตรแทน

ทว่าหากย้อนกลับไปดูข้อมูลทางประวัติศาสตร์ระบุว่าแบร์นฮาร์ด ฟอน กุดเด้น ไม่เคยตรวจพระอาการของพระองค์เลย กลับวินิจฉัยจากการสอบถามคนรับใช้และศัตรูทางการเมืองที่เป็นคำพูดปากต่อปากแทน จนทำให้บางแหล่งข้อมูลกล่าวไว้ว่าพระองค์ไม่ได้มีพระสติไม่ดี แต่ตกเป็นเหยื่อทางการเมือง เนื่องจากพระปิตุลาเจ้าชายลุทโพลด์ (Luitpold) ต้องการราชบัลลังก์

สวรรคตอย่างปริศนา

เรื่องที่เหลือเชื่อก็คือพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ได้สิ้นพระชนม์ในวันรุ่งขึ้นที่ทะเลสาบซตาร์นแบร์กใกล้กับปราสาทแบร์ก ด้วยพระชนมายุเพียง 41 พรรษา ซึ่งเรื่องนี้เต็มไปด้วยเงื่อนงำมากมาย เพราะการสวรรคตถูกถูกสรุปว่าเป็นการจมน้ำ แต่น่าสงสัยเหลือเกิน เนื่องจากพระองค์ทรงว่ายน้ำแข็ง แถมการชันสูตรศพก็ไม่พบน้ำในปอด

ทว่าจากหลักฐานบางส่วนในรูปแบบบันทึกของคนสนิทส่วนพระองค์ที่ไปซุ่มรอเพื่อพาหลบหนี กล่าวว่าได้ยินเสียงปืน หลังจากนั้นพระองค์ก็วิ่งเข้ามา ก่อนล้มลงในเรือที่จอดรออยู่และสววรคตทันที อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะทรงสวรรคตด้วยสาเหตุใดก็ตาม ราชวงศ์วิทเทลบาคส์ไม่ต้องการให้มีการรื้อฟื้นคดีอีก

ปัจจุบันพระศพของพระองค์ตั้งอยู่ที่โบสถ์ มิชาเอลส์เคี้ยเช่อะ (Michaelskirche) ในมิวนิก ส่วนพระหทัยถูกเก็บไว้ในโกศเงินที่ กนาเด้นคาเพลเล่อะ (Gnadenkapelle) เมืองอัลโท้ททิ่ง(Altotting) ตามธรรมเนียมของบาเยิร์น ที่เดียวกับพระหทัยของพระราชบิดาและพระราชอัยกา ส่วนจุดที่พบพระศพมีการปักไม้กางเขนกลางน้ำไว้เป็นอนุสรณ์

ความยอดเยี่ยมของพระองค์

พระองค์ถูกเข้าใจผิดเสมอว่าใช้เงินตราในท้องพระคลังสร้างปราสาท 3 แห่ง คือ นอยซวานซไตน์, ลินเดอร์โฮฟ, และแฮร์เรนคีมเซ แต่จริงๆแล้วเป็นเงินของพระราชวงศ์ และแม้ใช้จนเกือบหมด ทว่าเงินในท้องพระคลังก็ไม่เคยถูกนำมาใช้เพื่อสร้างปราสาทเลย ความเข้าใจผิดๆนี้เองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พระองค์กลายเป็นคนผิด ซึ่งไม่ยุติธรรมจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อปัจจุบันปราสาทของพระองค์ (นอยซวานซไตน์, ลินเดอร์โฮฟ, และแฮร์เรนคีมเซ ) สามารถทำเงินตราจากการท่องเที่ยวให้กับรัฐบาเยิร์นได้อย่างมหาศาล

นอกจากนี้พระองค์ยังเป็นที่รักใคร่ของประชาชนอีกด้วย ใครต้อนรับขับสู้พระองค์อย่างดีก็มักจะได้รับของกำนัลตอบแทนเสมอ ยิ่งไปกว่านั้นการก่อสร้างปราสาทก็ทำให้ชาวบ้านมีงานทำและมีเงินหมุนเวียนอยู่ตลอด พระองค์จึงอยู่ในความทรงจำของชาวบาเยิร์นตราบจนทุกวันนี้ แต่ที่น่าทึ่งและสกิดใจที่สุดกลับเป็นประเด็นที่ทรงสนใจเทคโนโลยี่ไม่ว่าจะเป็นการนำไฟฟ้าเข้ามาใช้ในปราสาท ระบบน้ำร้อนน้ำเย็น ลิฟต์ยกโต๊ะเสวยขึ้นลง แสงไฟที่เปลี่ยนสีได้ และระบบการรถไฟที่สนับสนุนให้ขยายเส้นทางรถไฟทั่วรัฐบาเยิร์น จนกระทั่งรถไฟแห่งบาเยิร์นมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป อันเป็นผลให้การเดินทางภายในรัฐสะดวกสบายอย่างมาก ถือเป็นสิ่งมีประโยชน์ที่พระองค์ทิ้งไว้ให้กับประชาชนจริงๆ

เมื่อขึ้นมายืนอยู่บน Terrace gardens แล้วมองลงไปเบื้องล่าง จะเห็นตัวปราสาท Music Pavillion และภูเขาเปลี่ยนสีอยู่เบื้องหน้า

hh8-1

Music Pavillion

hh9-1

จาก Terrace gardens เมื่อเดินขึ้นมาด้านบนที่อยู่สูงขึ้นไปอีก จะพบ Temple of Venus

ii2

ถ้ำเที่ยมวีนัส กรอทโต้ (Venus Grotto) ....... ภาพจาก Wikipedia

สัตว์ที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงโปรดคือหงส์ ฉนั้นเราจะเห็นหงส์อยู่มากมายในสระน้ำของสวนในบริเวณปราสาทของพระเจ้าลุดวิกที่ 2

ปราสาทลินเดอร์โฮฟ (Linderhof) ถือเป็นปราสาทของพระองค์หลังเดียวที่สร้างเสร็จสมบูรณ์

Official Website ของวังลินเดอร์ฮอฟ http://www.linderhof.de/

ii7

ii8

ii9

jj1

ขอปิดท้ายรีวิวด้วยภาพ ปราสาทลินเดอร์โฮฟในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีครับ  

ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาและชมรีวิว และแสดงความคิดเห็นครับ

สวยงามมากๆ น่าเที่ยวมากๆ ไม่มีสายไฟฟ้า ห้อยเลย ครับ
เมืองของบ้านเค้าสวยจริงๆ แต่บ้านเราสวยธรรมชาติ
ถ่ายรูปสวยมาก ครบทุกๆอย่างเลย เรื่องราว ประวัติ บรรยากาศ

ขอบคุณครับนํามาให้ชม

Lindenhof + ใบไม้เปลี่ยนสีงามมากๆครับ

โอเกา ผมแวะเที่ยวหลังออกจากนอยมาแล้ว กะจะแวะ Ettal
แต่ไม่มีเวลาแล้ว เพราะต้องขับรถไปอีก 300 กม. เพื่อไป Berchtesgaden

เมืองเล็กๆที่บาวาเรีย น่าเที่ยวทุกเมือง

ขอบคุณสำหรับรีวิวงามๆครับ

เป็นเมืองที่น่าเดินเล่นมากเลยค่ะ ภาพสวยอีกเช่นเคยนะคะ :)

โอ้วววว...งดงามเกินบรรยายอีกแล้ว...ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ เพราะที่คุณพี่จิโร่ปล่อยมาหลังๆ ตรงกับที่
ผมแพลนจะไปสงกรานต์หน้าทุกที่เลยครับ กำลังสองจิตสองใจว่าจะเปลี่ยนแผนดีไม๊ เพราะตามคุณพี่ไปเที่ยว
ก็ได้ดูอะไรที่สวยกว่าของจริงอยู่แล้ว แถมบรรยายเสียละเอียดละออเลยครับ 555

สวยสดงดงามอีกแล้ว  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

ตามมาเทียวด้วยคนครับ  บรรยากาศสวย ต้นไม้ก็สวย

อยากไปบ้างจัง

สวยมากครับ

ขอบคุณครับ

ตอนแรกคิดว่าจะมีผมอยู่หน้า คอม คนเดียวซ๊ะอีก เพราะคิดว่าเพื่อนๆคงไปฉลองวันคริสต์มาสกัน ขอทักทายเพื่อนๆในวันหยุดน่ะครับ

คุณ dadep ...............สวัสดีวันหยุดครับ อืม ผมก็เพิ่งสักเกตุเหมือนกันครับ จริงอย่างที่บอกว่าบ้านเมืองเขาไม่มีสายไฟให้เห็นเลยครับ หมู่บ้านนี้น่ารักน่าเดินเล่น ชิวๆ ครับ

คุณ ฟองสบู่  ...............ขอบคุณครับที่มาทักทายในวันหยุด อุ๋ยท่าทางคุณฟองจะขับรถระยะทางไกลเหมือนกันน๊ะคับ แต่ผมว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเที่ยวเยอรมันครับ เนื่องจากตามแถบชนบทมีเมืองน่ารักให้เที่ยวเยอะไปหมด

คุณ Blue Whale  ...................ยินดีและขอบคุณครับ ที่มาให้กำลังใจ

คุณ  mordek1 ...................วางแผนจะไปสงกรานต์ใช่ไหมครับ ขอให้โชคดีเจอฟ้าเปิดทุกวันเลยครับ คุณ  mordek1 ขับรถเที่ยวใช่ไหมครับ ขับไปเรื่อยๆไม่เร่งรีบ เที่ยวแบบนี้สนุกดีครับ เพราะได้แวะชมโน่นชมนี่ตามชนบท เบื่อก็แวะเข้าตัวเมืองน่ะครับ รีวิวของผมเหลือเมืองมิวนิกซึ่งเป็นเมืองสุดท้ายครับ คิดว่าคงอยู่ในแผนของคุณ mordek1  น่ะครับ ส่วนสงกรานต์ปีหน้าผมไปเที่ยวฮอลแลนด์ เบลเยี่ยม และเยอรมันตรงส่วนที่ติดกับฮอลแลนด์ครับ

คุณ เล็กทาโร่ ................สวัสดีวันหยุดครับ ยินดีและขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวด้วยกันครับ

คุณชานมชงเอง .................. สวัสดีวันคริสต์มาสครับ ขอบคุณที่มาเที่ยวด้วยกันครับ

คุณ declare01 .................. ยินดีครับ

เรื่องราวของกษัตริย์ลุควิกสนุกจังเลย น่าเอาไปสร้างหนังเนอะ

ภาพสวยมาก ผมติดตามมาตลอดเลยครับ
เดี๋ยวจะตามรอยครับ

สวยเมากๆครับ
Oberammergau ก็ยังมีเสน่ห์ น่าเดินเที่ยวเหมือนเคย

แต่น่าเสียดายนิดหน่อยที่ Schloss Linderhof ไม่ได้เปิดน้ำพุ
และเห็นเอาตู้ไม้มาครอบรูปปั้นและงานที่ทำจากสำริด
คงเพราะเตรียมรับฤดูหนาวและหิมะ

ขอบคุรสำหรับเรื่องราวและภาพสวยๆ ที่นำมาฝากกันครับ

ไม่ผิดหวังซักที่เลยนะคะ

สำหรับรีวิว คุณ Chris Evert  สวยทุกที่เลย ปรับใจมากๆ

สวยมากครับบบ ขอบคุณที่นำภาพสวยๆมาฝากครับบ

ตามมาเที่ยวเยอรมันต่อครับ
ดูกระทู้คุณChris Evert  ทำให้ลุงนึกอยากไปเยอรมันเด๋วนี้เลยครับ

Oberammergauเป็นเมืองที่อยากไป แต่ยังไม่เคยไปสักที

เลยขอตามคุณChris Evert ไปเที่ยวด้วยนะคะ

บรรยากาศรอบๆนี้สวยมากเลยครับ ใบไม้หลากสีสัน

สวยจริงๆครับ แถมตอนนี้อ่านประวัติศาสตร์ของเจ้าชายเพลินดีด้วย ชอบมากๆครับ

คุณSun-Dong .............. คิดเหมือนกันเลยครับ ไม่รู้ว่ามีใครนำไปเขียนนวนิยาย หรือสร้างหนังสร้างละครบ้างหรือเปล่า

ตุณ พญาปลวก................ ขอบคุณครับที่ติดตาม จะดีใจมากเลยถ้าคุณพญาปลวก  ตามรอยไปเที่ยวครับ

คุณ Naddh............. ผมรู้สึกผิดหวังอยู่เหมือนกันครับ ที่เค้าไม่เปิดน้ำพุ น้ำในสระก็แห้ง พวกรูปปั้นต่างๆก็นำเอากล่องไม้มาครอบไว้ ถ่ายรูปออกมาไม่สวยเลย ขอบคุณครับที่เข้ามาแขร์ประสบการณ์

คุณ SuPerHyPerOverUltraGLUE ..............ยินดีเช่นกันครับ ดีใจที่ชอบครับ อยากให้ตามไปเที่ยวทุกที่เลย

คุณสายลมแห่งวิงค์ ....................  ขอบคุณเช่นกันครับที่มาให้กำลังใจ

คุณลุงแบกเป้ ..................ยังเหลือรีวิวทริปเยอรมันอีกสามตอนครับ ตอนต่อไปพาเที่ยวเมืองมิวนิกครับ สวยงามไม่แพ้เมืองอื่นเลยครับ

คุณ owema .................ตามผมเที่ยวด้วยการดูรูปภาพและอ่านรีวิว ยังไม่น่าพอน่ะครับ เพราะสถานที่จริงสวยกว่าที่ผมรีวิวมากๆๆๆๆครับ

คุณ Destiny-Boy .................ใช่ครับ ผมว่าฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเข้ากันกับหมู่บ้านตามชนบทของเยอรมันคับ ผมชอบมากเป็นพิเศษเลย

คุณ Coffee Blended .................ขอบคุณครับที่แวะมาเดินเที่ยวด้วยกัน

สวยเช่นเคยนะคะ ขอบคุณสำหรับรีวิวคร่า^^

ตามดูทุกตอนเลยค่ะ ชื่นชมฝีมือถ่ายภาพมาก แถมไปช่วงกำลังสวยเลย  
กำลังเก็บเงินเพื่อไปเที่ยวบ้าง แต่เป็นคนไม่ชอบเที่ยวกับทัวร์ที่คนเยอะๆ เลยค่ะ    
อยากไปแบบกรุ๊ปเล็กๆ เ้น้นเที่ยวเยอรมันให้เต็มที่

ชอบภาพเพ้นท์บนผนังบ้านที่เมืองโอบาร์อัมเมอร์เกา จังเลยค่ะคุณจิโร่ ^_^

คุณ สามแซ่ ..............ยินดีครับ ขอบคุณมากที่ติดตามชมรีวิวครับ

คุณ fuji_fancy ............ ขอบคุณเช่นกันครับ อารมณ์เดียวกันครับที่ไม่ชอบไปกับทัวร์ พวกเราใช้บริการคนไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ยุโรปขับรถพาเที่ยวครับ เพราะทำให้เที่ยวได้เยอะตามที่ใจเราต้องการครับ

คุณกุ้ง .............. หมู่บ้านนี้เพ้นท์ผนังแข่งกันแบบไม่มีใครยอมใคร คล้ายๆกันกับที่เมือง ซไตน์อัมไรน์ ในสวิสเลยครับ เดินชมไม่มีเบื่อครับ

สวยมากครับ

จับพลัดจับผลู ตามมาชมภาพ พี่จิโร่ค่ะ ( จำนางแบบได้ )

กำลังวางแผนไป เชก ออสเตรีย และอาจแตะๆ ไป นอยชวาน  แต่พอยิ่งมาเห็นภาพ และ ฟังพี่จิโร่เล่า ประวัติ   king lugwid   แล้ว เริ่มอยากไปถึง Oberammergau    เฮ้ออออ กิเลศเลย

คุณ boy next door .................. ยินดีครับ

คุณ วงกลมกะสามเหลี่ยม ............... สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าเข้าไปค้างที่ฟุสเซ่นหรือเปล่าครับ ถ้าค้าง แล้วแวะไปปราสาทนอยซวานสไตน์ ก็น่าไปเที่ยว Oberammergau ด้วยน่ะครับ แล้วยังมีปราสาทลินเดอร์โฮฟ โบสถ์ สำนักสงฆ์สวยๆให้ค้นหาอีก

Oberammergau เล็กนิดเดียวเอง น่าจะใช้เวลาเดินชมหมู่บ้านไม่นานน่ะครับ

ปราสาทเล็กๆ แต่สวยงามลงตัวจริงๆนะคะ ยิ่งแวดล้อมด้วยใบไม้เปลี่ยนสียิ่งงดงาม

ชอบปราสาทก็ตรงที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจนี่แหล่ะครับ

ชอบจริงๆกับสีสันของฤดูนี้

สวัสดีปีใหม่ครับ เพื่อนๆทุกคน

คุณ SOYU_K .............. ผมหวังที่จะได้เก็บภาพสวยๆปราสามทนี้มากๆ แต่เสียดายที่เขาเอาโน้นนี่มาครอบบรรดาหุ่นและพวกสิ่งประดับในสวนก็รื้อออกหมด น้ำพุก็ไม่เปิดอ่ะ สงสัยคงต้องมีรอบสอง

คุณKoon Shy_Tour Dee ............. เป็นปราสาทเดียวที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงสร้างเสร็จ ปราสาทเล็กกระทัดรัดสวยงามมากครับ