อินเดีย รอบ 2 - วันที่ 4 -- โซนะมาร์ก

3 – 12 ธันวาคม 54 ทริปอินเดีย รอบ 2

ความเดิมตอนที่แล้ว พวกเราขี่ม้าขึ้นเขา พาฮัลแกม
ไปถ่ายมิวสิคแขก วิ่งอ้อมเขา หลบหลังต้นไม้กันหนุกหนาน

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:06:07 ]
ความเห็นที่ 1

6 ธันวาคม 54

วันนี้ เราตื่นขึ้นมาที่เรือบ้าน shelter house boat เหมือนเช่นเคย
เมื่อคืนนี้ เป็นคืนที่ 2 ที่นอนกันในเรือบ้าน

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:06:21 ]
ความเห็นที่ 2

อากาศเช้านี้ ก็ยังคงหนาวจับจิตจับใจ อุณหภูมิลดต่ำลงกว่าเมื่อวาน
วันนี้ วัดได้ 0 องศา (เป๊ะเลย) แล้วครับพี่น้อง
ความเย็นแผ่ซ่านไปทั่ว มุมไหน บริเวณใดไม่โดนแสงแดด
ถ้าเราไปยืนในมุมมืด มุมนั้นละก็ เราจะสัมผัสได้โดยทันทีว่า
ความเย็นมันกรีดลึก บาดเข้ากระดูก เย็นสุดขั้วหัวใจ จริง ๆ เลยครับ

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:06:34 ]
ความเห็นที่ 3

แผนการเดินทางของเราวันนี้ ขี่ม้าขึ้นเขาอีกแล้ว
หลังจากเมื่อวาน ตูดระบม เพราะขี่ม้า
แถมหลังของผม ก็บาดเจ็บ เพราะไม่ระวัง เดินชนประตูรถ
ทั้งเจ็บและทั้งปวด กันไป

วันนี้เราจะขึ้นเหนือไป โซนะมาร์ก (sonamarg) กันครับ
โปรแกรมของเราวันนี้ ค่อนข้างสบาย
ระยะทางจากที่พักออกไป โซนะมาร์ก ก็ค่อนข้างไกลอยู่

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:06:49 ]
ความเห็นที่ 4

แต่ก่อนที่จะถึง สิ่งอื่นใด กองทัพ เดินได้ด้วยท้อง

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:07:02 ]
ความเห็นที่ 5

แก้วกาแฟเปล่า ที่กำลังรอชาแขกแคชเมียร์ ที่หอมชื่นใจ
กำลังเดินทางมา

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:07:15 ]
ความเห็นที่ 6

กับโถน้ำตาล ที่เอาไว้เติมลงในชา

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:07:28 ]
ความเห็นที่ 7

อาหารเช้าของเราวันนี้ เป็นขนมปังปิ้งร้อน ๆ ทาเนย
(ซึ่งเนย ก็แข็งตัวเร็วมาก เพราะอากาศเย็นถึง 0 องศา
เหมือนกับปิ้งขนมปัง ทาเนยเสร็จ ก็จับโยนเช้าช่อง freeze ในตู้เย็น)

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:07:42 ]
ความเห็นที่ 8

กินกับไข่เจียว ร้อน ๆ เป็นอาหารเช้า สบาย ๆ

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:07:56 ]
ความเห็นที่ 9

กล้อง 3 ตัดภาพกลับมาอีกที
เราอยู่กันที่ โซนะมาร์ก เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:08:10 ]
ความเห็นที่ 10

พวกเรา จะขี่ม้าขึ้นเขากันครับ

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:08:22 ]
ความเห็นที่ 11

ช่วงต้นเดือนธันวา ภูเขาเกือบจะทั้งลูก ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง
แต่ช่วงปลายธันวา หิมะ คงตกปกคลุมไปทั่วจนหมด
คลุมไปทั่วทุกลูกแล้ว

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:08:35 ]
ความเห็นที่ 12

อย่างที่ได้เล่าไปในตอนที่แล้วครับ
ว่าถ้าจะขี่ม้าขึ้นเขา เราต้องเตรียมตัวมาให้พร้อม
ทั้งเรื่องของคอสตูม เสื้อผ้า อาภรณ์ ไปจนถึง รองเท้า

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:08:49 ]
ความเห็นที่ 13

เสื้อผ้า ควรจะให้หนา และอบอุ่นเพียงพอ
ถ้าเป็นไปได้ ใส่ long john ไว้ด้านใน (ของผม…
นอกจาก long john แล้ว วันนี้ ผมยังใส่เสื้ออีก 3 ชั้น
+ เสื้อหนาว sweater อย่างหนาอีกชั้นด้านนอก)

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:09:05 ]
ความเห็นที่ 14

รองเท้า ก็ควรจะเป็นรองเท้าย่ำหิมะ
ที่มีตัวจิกหิมะที่ส้นรองเท้า (รองเท้าหิมะของผม
เป็นรุ่นที่ไม่ได้บุด้านใน เผื่อเอาไปใช้งานปกติได้ด้วย
แต่ผมใส่ถุงเท้า wool 2 ชั้น ชั้นหนึ่งบาง อีกชั้นหนึ่งหนา
ก็เอาอยู่ แค่นี้ ก็อุ่นสบายมาก ๆ แล้ว

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:09:19 ]
ความเห็นที่ 15

เหตุผลที่เราควรจะเตรียมพร้อมขนาดนี้
ก็เพราะราคา ค่าม้า ที่จะขี่ขึ้นเขา ราคามันขึ้นกับปัจจัยพวกนี้

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:09:34 ]
ความเห็นที่ 16

หะแรก ที่พวกเรามาถึง คนม้า เปิดเกมเสิร์ฟแรง คิดค่าเช่าม้า
ต่อคน 800 รูปี!!! (ของเมื่อวานนี้ 400 รูปีเท่านั้น) ช็อคซีเนม่า สิครับพี่น้อง

800 รูปี นี่ ปล้นกันเลยดีกว่า

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:09:48 ]
ความเห็นที่ 17

พวกเราก็เลยว่า ตัดสินใจจะเดินขึ้นเขากัน ไม่ขี่แล้ว ม้งม้า

คนม้า เห็นท่าไม่ค่อยดี กอร์ปกับช่วงนี้ ไม่ใช่หน้าเทศกาล
ผู้คนที่จะแวะมา ก็ไม่ค่อยมาก ให้ได้มากสุดก็แค่ 600 รูปี
ยอมตัดคอสตูม เสื้อผ้า อาภรณ์ และรองเท้า ย่ำหิมะออกไป

ซึ่งเราก็ว่า เสื้อผ้า + รองเท้า และเครื่องให้ความอบอุ่นทั้งมวลนั้น
เราเตรียมมาพร้อมจากบ้านแล้ว ไม่ต้องมาทำตัดออกก็ได้
แล้วลดเหลือ 600 รูปี

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:10:00 ]
ความเห็นที่ 18

พวกเราให้ได้สุด ๆ แค่ 400 ราคาเท่ากับเมื่อวาน
แล้วถ้าประทับใจจริง เดี๋ยวจะ tip จะอะไรค่อยว่ากันอีกที

400 เอาหรือไม่เอา ถ้าไม่เอา เราจะเดินกันแล้วนะ

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:10:14 ]
ความเห็นที่ 19

คนม้า ก็บอกอีก 400 ได้แค่ phase แรก ไปไม่ถึง ยอดเขา

400 รูปี ไปได้แค่ครึ่งทาง จบกับตรงหน้าประตูที่พัก ที่เป็นลานกางเต้นท์
ได้แค่นั้นจริง ๆ ถ้าอยากขึ้นไปถึงยอดเขา สัมผัสหิมะยอดเขาใกล้ชิด
ต้องเพิ่มอีก 100 รูปี

ต่อรองกันนาน 2 นาน ที่สุด เราก็ตัดใจ บอก ได้แค่ 400 รูปีจริง ๆ
พวกเราให้ได้แค่ 400 อย่างที่ยืนยันกันในหะแรก
ถ้าไม่ได้ เราเดินจริงแล้วด้วย

แล้วพวกเราก็กำลังจะเริ่มออกเดิน

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:10:28 ]
ความเห็นที่ 20

ที่สุด คนม้า เห็นจะกินกลุ่มนี้ลำบาก
ก็ยอมจบเกม ปิดการขายกันด้วยราคา 400 รูปี (ต่อคน)

แต่อย่างที่บอกไปในตอนที่แล้ว ว่าราคาขึ้นอยู่กับช่วงหน้าเทศกาล
และฤดูกาล ว่า ไฮ หรือ โลว์ ซีซั่นด้วย เพราะถ้ามาช่วงที่คนเยอะ ๆ
เค้าไม่ง้อแขก 400 รูปีอาจไม่ได้ เผลอ ๆ 600 รูปีก็ยังลำบาก
ถ้าไม่เอา มีคนอื่นรอขึ้นขี่ม้าเยอะแยะ ถมไป

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:10:43 ]
ความเห็นที่ 21

ที่สุด จบกันที่ 400 เข้าลึกถึงยอดเข้า ไปได้ทั้ง phase 1 และ phase 2

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:10:57 ]
ความเห็นที่ 22

ที่เห็นอยู่นี้ ก็เป็นทาง ระหว่างเดินขึ้นเขา
วันนี้อากาศหนาวเย็นกว่าเมื่อวาน
แถมยังมีน้ำแข็งปกคลุม ไปเกือบจะทั่วบริเวณที่เราผ่าน
แอ่งน้ำตามทาง กลายเป็นน้ำแข็งไปหมดแล้ว

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:11:10 ]
ความเห็นที่ 23

ที่สุดแล้ว เราก็ไปถึงยอดเขา

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:11:24 ]
ความเห็นที่ 24

อ่ะ ตอนนี้ ก็ โพสท่า ถ่ายรูป เป็นนายแบบกันไป

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:11:37 ]
ความเห็นที่ 25

ระยะทางวันนี้ ไม่โหดเท่ากับเมื่อวาน ของเมื่อวานโหดกว่า
และของเมื่อวาน บรรยากาศรอบ ๆ ก็ดูสวยงาม มีน้ำมีนวลกว่า
ของวันนี้ ออกแนวแห้งแล้ง และเต็มไปด้วยน้ำแข็งปกคลุม

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:11:51 ]
ความเห็นที่ 26

ระยะทางพอ ๆ กับเมื่อวาน ขี่ม้าขึ้นเขา ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
(แต่ทางไม่สมบุกสมบันเท่า) จากนั้นก็พักบนยอดเขา ประมาณ ครึ่งชั่วโมง
แล้วก็ขี่ม้า เดินทางกลับลงมาเชิงเขา อีกประมาณ 1 ชั่วโมง

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:12:06 ]
ความเห็นที่ 27

บนยอดเขา มีร้านกาแฟ ด้วย
เราก็สั่ง มาสซาร่าจาย หรือ ชามาสซาร่าแขก มานั่งกินกัน

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:12:18 ]
ความเห็นที่ 28

และด้วยว่าเวลาก็เกือบเที่ยงแล้ว
ก็จัดการอาหารเที่ยงของเรากันบนยอดเขานี่เสียเลย

วันนี้ ลุงจัดแซนวิชใส้มะเขือเทศบด มาให้ ถาดใหญ่

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:12:33 ]
ความเห็นที่ 29

และลุงก็คงจะกลัวว่าเราไม่อิ่มท้องกัน
ก็แถม ไข่ต้ม มาให้อีก 1 ถาด (เหมือนเช่นเคย)

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:12:45 ]
ความเห็นที่ 30

เมื่อจัดการกับอาหารกลางวันกันเรียบร้อยแล้ว ก็พักถ่ายรูปกันอีกพักเล็ก ๆ

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:13:02 ]
ความเห็นที่ 31

จากนั้น ก็เดินลงเขากัน

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:13:15 ]
ความเห็นที่ 32

ต่อไปนี้ ก็เป็นภาพวิวทิวทัศน์ระหว่างทาง

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:13:29 ]
ความเห็นที่ 33

งดงาม

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:13:41 ]
ความเห็นที่ 34

อีกสักภาพ

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:13:54 ]
ความเห็นที่ 35

จบจาก โซนะมาร์ก กันแล้ว ในช่วงบ่ายแก่ (เกือบเย็น) เข้าเมืองมา
เราแวะกันที่ร้านขายของฝาก ในเมือง ของฝากที่ว่านี้
เป็นของขึ้นชื่อของแคชเมียร์

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:14:08 ]
ความเห็นที่ 36

นั่นก็คือ พรมแคชเมียร์ ที่สวยงาม และน่าซื้อหาเป็นอย่างยิ่ง
หะแรก เค้าก็พาเราเดินชมภายในบริเวณโรงงานผลิตพรมกันก่อน

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:14:23 ]
ความเห็นที่ 37

เนื่องจากวันนี้ เป็นวันหยุดทางศาสนา ก็เลยไม่มีคนงานทอพรม
ที่เห็นนั่น ก็คือ พรมทอมือ ต้องนั่งทอกันกว่าจะได้แต่ละผืน
ต้องใช้เวลากันนับแรมเดือน แรมปีกันเลย (ขึ้นกับความยากง่าย
และรายละเอียด ความซับซ้อนของลาย และผืนพรม)

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:14:37 ]
ความเห็นที่ 38

คือที่ร้านนี้ นอกจากจะขายพรมเป็นหลักแล้ว ก็ยังมีสิ่งทอ
ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าผืน ผ้าชิ้น
ไปจนกระทั่ง กล่องกระดาษ เปเปอร์มาเช่ อีกด้วย

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:14:50 ]
ความเห็นที่ 39

ส่วนอันนี้ เป็น ฮีทเตอร์ แบบแก๊ส
ผมว่า ให้ความร้อนได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะเอาแบบร้อนจริง อะไรจริง
แบบถัง ที่โยนฟืนใส่ แบบที่ใช้ในที่พักของเรา ที่ผมแนะนำไปในตอนที่แล้ว
ส่วนตัวผม ผมว่า แบบนั้น มันร้อนเร็ว ถึงใจกว่า เป็นไหน ๆ

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:15:04 ]
ความเห็นที่ 40

ภายในบริเวณแผนกพรม บริเวณนี้ ไม่มีฮีทเตอร์ แล้วก็ไม่โดนแสงแดด
ผมว่า จะเดินเยื้องกรายไปตรงไหน ภายในบริเวณนี้ มันเย็นยะเยือกไปหมดเลย

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:15:20 ]
ความเห็นที่ 41

กล้อง 3 ตัดภาพกลับมาที่พักของเรา
มื้อเย็นของเราวันนี้ ข้าวสวยครับ ลุงคนครัวของเรา
โรยอะไรบางอย่างลงไปในข้าวด้วย
เพิ่มสีสัน ให้น่ากินมากยิ่งขึ้น

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:15:33 ]
ความเห็นที่ 42

วันนี้ ก็ยังคงเป็นแกงไก่ (เป็นแกงอีกแบบ ตามที่เรารีเควสท์ไป
ขอแบบแซ่บ ๆ แต่เป็นเครื่องแกงคนละอย่างกับที่กิน ๆ มาแล้ว
ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา)

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:15:47 ]
ความเห็นที่ 43

กินกับผักแกล้ม ที่สด กรอบ และอร่อย เพราะบรรดาพืชผักผลไม้ที่นี่
เหมือแช่อยู่ในตู้เย็นขนาดใหญ่ตลอดเวลา ก็เลยคงความสด ความกรอบไว้ได้
เพราะอุณหภูมิทั่วไป อยู่แถว ๆ 0 องศา

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:16:03 ]
ความเห็นที่ 44

แน่นอนครับ กินกับ จะปะตี

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:16:15 ]
ความเห็นที่ 45

และปิดท้ายวันนี้ เป็นของหวาน ที่เหมือนกับทำมาจากแอปเปิล
ผลไม้ขึ้นชื่อของทางแคชเมียร์ ซึ่งก็เอาไปบด แล้วก็กวนแบบแห้ง ๆ
ใส่เครื่องเทศแขก และ ขิง ออกรสหวานปะแหล่ม ๆ ไม่หวานมาก
รสสัมผัสออกร่วน ๆ แห้ง ๆ และมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศทั้งหลายทั้งมวล

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:16:29 ]
ความเห็นที่ 46

พรุ่งนี้ เราจะออกไปทางทิศตะวันตก ขึ้นเขา กุลมาร์ก (gulmark) กันแล้ว
พรุ่งนี้ จะได้สัมผัสหิมะ แบบถล่มทะลาย ราวกับเป็น พายุหิมะ ทั้งเมฆหมอก
ราวกับมายากล ที่ปกคลุม เอาภูเขาทั้งลูกหายวับ ไปกับตา
พรุ่งนี้ติดตามกันต่อนะครับ

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 16:16:40 ]
ความเห็นที่ 47

ภูเขาหิมะสวยมากเลยครับบ ตามไปเที่ยวต่อครับบบ.........

จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ [25 ธ.ค. 54 17:12:40 ]
ความเห็นที่ 48

สวยมากครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

จากคุณ : เล็กทาโร่ [25 ธ.ค. 54 17:19:40 ]
ความเห็นที่ 49

เทือกเขาหิมาลายาในอินเดีย วิวเหมือนแชงกรีล่าในจีนมากๆ
ไป ต ค หน้าค่ะ

จากคุณ : ปอน [25 ธ.ค. 54 18:21:06 ]A:101.51.31.163 X: TicketID:312365
ความเห็นที่ 50

ตามมาชมนายแบบสุดเท่ห์ครับ

อยากลองชิมแอปเปิ้ลกวนจัง

ดูวิวภูเขาหิมะแก้คิดถึงแชงกรีล่าครับ

จากคุณ : ลุงแบกเป้ [25 ธ.ค. 54 18:54:24 ]
ความเห็นที่ 51

ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆนะครับ

ภูเขาหิมะ สวยมากๆๆ อาหารน่ากินนะครับ

จากคุณ : paipaiphuart [25 ธ.ค. 54 20:25:50 ]
ความเห็นที่ 52

สงสารม้า 555...พูดผิด ....สงสาร นายแบบ ค่ะ 555

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะค่ะ

สวยงามค่ะ

จากคุณ : กาแฟไม่สด [25 ธ.ค. 54 21:43:56 ]
ความเห็นที่ 53

ตอน 3

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11495462/E11495462.html

ตอน 2

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11483231/E11483231.html

ตอน 1

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11452376/E11452376.html

อ่านย้อนหลังได้ครับผม

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [25 ธ.ค. 54 22:40:25 ]
ความเห็นที่ 54

ดูน่าสนุกมากเลยครับ

จากคุณ : Destiny-Boy [26 ธ.ค. 54 07:47:52 ]
ความเห็นที่ 55

แปลกใจ  ผมก็ไปช่วงเดียวกับ จขกท.เลยนะครับ แต่ทำไม โซนามาร์ก  ดูไม่เหมือนกันเลยล่ะครับ.. เหมือนคนละสถานที่เลย..

จากคุณ : zalazit [27 ธ.ค. 54 01:37:25 ]
ความเห็นที่ 56

คุณ zalazit

อย่างนี้เราคงจะสวนกันแน่เลยครับ ส่งรูปให้ดูหน่อยได้ไหมครับ อยากเห็นแล้วสิครับ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [27 ธ.ค. 54 09:16:15 ]
ความเห็นที่ 57

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ... หนาวจัง...

จากคุณ : ป้าฟู [28 ธ.ค. 54 22:17:37 ]
ความเห็นที่ 58

ครับ คุณเกษม ผมไปวันที่ 9 ธค ที่ผ่านมา
ทางขึ้นเขาที่ขี่ม้าขึ้นไป ข้างบนมีร้านอาหารเล็กๆร้านนึง
บริเวณทางทั้งหมดปกคลุมไปด้วยหิมะ ไม่เห็นพ้นดินเลยครับ..
หิมะใหม่จากคืนก่อนด้วย ขาวมากๆ

จากคุณ : zalazit [29 ธ.ค. 54 15:04:13 ]
ความเห็นที่ 59

อ๋อ ใช่ครับ เช้าวันที่ 7 หิมะตกครับ
ผมบินกลับออกมาเดลี แล้วนั่งรถต่อไป ราชสถาน เช้าวันที่ 8 ครับ

วันนั้น ในเมืองฝนตก (คนที่เรือบอก วันนี้ น่าจะมีหิมะตก)

ผมกลับออกมาแล้ว หนาวมาก เข้าใจว่า คืนนั้น คงหิมะตกแน่ ๆ
เพราะก่อนหิมะตก จะหนาวมาก ๆ แต่พอหิมะตกไปแล้ว ก็ไม่หนาวแล้ว

ก็อย่างที่คุณ zalazit เห็นแหละครับ ว่าหิมะตกทั้งคืน

นี่ครับ เช้าวันที่ 7 ที่ กุลมาร์ก หิมะ เพิ่งตก

จากคุณ : เกษม พุฒเรืองศรี [29 ธ.ค. 54 15:13:56 ]
ความเห็นที่ 60

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ หิ่นหิ่น

จากคุณ : สาวหน้าใส [วันสิ้นปี 54 05:26:19 ]