สวัสดีครับ
วันนี้ขอปล่อยของอีกหนึ่งรีวิวครับ เนื่องจากตั้งใจว่าจะโพสให้จบก่อนไปเที่ยวปีใหม่ครับ หวังว่าเพื่อนๆคงไม่ว่าอะไรน่ะครับ (ตอนนี้เป็นตอนที่สิบ ยังเหลืออีกสองตอนครับ)
ทริป GERMAN AUTUMN LEAVES เดินทางมาถึงเมืองสุดท้ายแล้วครับ หลังจากได้ชื่นชมความงามของเหล่าปราสาท วัด โบสถ์ ในแคว้นบาวาเรียอย่างจุใจ วันนี้พวกเราเดินทางสู่เมืองมิวนิกครับ
ภาพเปิดกระทู้ ภาพโบสถ์ธีอาทิน่าเคี้ยเช่อะ (Theatinerkirche) โบสถ์ที่มีความสำคัญมาก เป็นแลนด์มาร์กทางเหนือของเขตเมืองเก่าในมิวนิก
[25 ธ.ค. 54 21:30:21
]
รวมลิ้งค์รีวีวิวทริป GERMAN AUTUMN LEAVES
R I Q U E W I H R : หมู่บ้านมรดกโลก เมืองแห่งไร่องุ่น เมืองริค-เวีย
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11455252/E11455252.html
C O L M A R : ลิตเติ้ลเวนิซ เมืองน่ารัก เมืองโกลม่าร์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11460817/E11460817.html
N E U S C H W A N S T E I N : ปราสาทเทพนิยายนอยชวานสไตน์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11470665/E11470665.html
F R A N K F U R T : เมืองหลวงทางการค้าของเยอรมัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11475687/E11475687.html
H E I D E L B E R G : เสน่ห์เมืองโรแมนติค เสน่ห์เมืองไฮเดลแบร์ก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11479143/E11479143.html
F R E I B U R G : เดินละเลียดชมเมืองน่ารัก เมืองไฟรบวร์ก
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11486344/E11486344.html
BLACK FOREST : ล่องเรือในทะเลสาบ Titisee, แวะชมทุ่งดอกเรปส์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11490877/E11490877.html
ETTAL ABBEY : เยี่ยมสำนักสงฆ์เอ็ททาล, พาชมโบสถ์แสวงบุญมรดกโลก โบสถ์วีส์
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11495019/E11495019.html
O B E R A M M E R G A U : เดินละเลียดชมหมู่บ้านกำแพงสวย, แวะเยี่ยมปราสาทลินเดอร์โฮฟ
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11499685/E11499685.html
MUNICH LOVES YOU : เสน่ห์เมืองมิวนิก เมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมัน
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11501929/E11501929.html
N Y M P H E N B U R G Palace : พระราชวัง นึ้มเฟ่นบวร์ก, เดินเที่ยวชมตลาดฟิคทูอาเลี่ยนมาร์คท
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11504803/E11504803.html
RESIDENZ MUNCHEN : พระราชวังเรซิเด้นซ์มุ้นเช่น ชมขุมทรัพย์อันล้ำค่าแห่งบาเยิร์น
http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11508829/E11508829.html
ภาพวิวเมืองมิวนิก ถ่ายจากหอคอยของโบสถ์เพเทอร์สเคี้ยเช่อะ (Perterskirche)
[25 ธ.ค. 54 21:31:12
]
" Munich Loves You " เป็นคำขวัญน่ารักๆของเมือง มิวนิก เมืองที่มีเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย เมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมันมาแล้ว แน่นอนวันนี้เรามาทำความรู้จักเมืองนี้กันครับ
มิวนิก (Munich) หรือที่เรียกในภาษาเยอรมันว่ามึนเชน (Munchen) เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของประเทศเยอรมนี เป็นศูนย์กลางธุรกิจและคมนาคมในเยอรมนีตอนใต้ เป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย (Bavaria) หรือ บาเยิร์น (Bayern) ในภาษาเยอรมัน ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์
[25 ธ.ค. 54 21:31:33
]
รัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์
ภาพ Diana Temple ในสวนหย่อมโฮฟการ์เท่น (Hofgarten)
[25 ธ.ค. 54 21:31:53
]
มิวนิก เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 รองจากแบร์ลิน (Berlin) และ ฮัมบูร์ก (Hamburg) เมืองมิวนิกได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ด้วยมีแม่น้ำอิซาร์ (Isar) ไหลผ่าน กับอยู่ทางด้านเหนือของเทือกเขาแอลป์ ซึ่งจากประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า แรกเริ่มเดิมทีมีพระจากสำนักสงฆ์เทแก้ร์นเซ (Kloster Tegernsee) มาตั้งรกรากริมฝั่งแม่น้ำอิซาร์ และได้เรียกชื่อที่นี้ว่า มึนเชน (Munchen) ในภาษาเยอรมันคำว่า Monchen แปลว่า พระ
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:32:14
]
แต่หลังจากดยุกไฮน์ริชใจสิงห์ (Heinrich der Lowe) แห่งแคว้นซักเซ่น ปัจจุบันคือรัฐที่เมืองเดรสเด่น (Dresden) และไลป์ซิก (Leipzig) ตั้งอยู่ ได้รับตำแหน่งขุนนางแห่งแคว้นบาเยิร์นจากฟรีดริชที่ 1 บาบาดรสซา (Friedrich I Barbarossa) ก็ได้ขยายเมืองบนพื้นที่เมิ้นเช่นด้วยการสร้างโรงกระษาปณ์ จัตุรัสเมือง และป้อมปราการ (ปี คศ 1156)
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:32:32
]
ความที่เมืองเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เลยทำให้ชื่อเสียงที่เคยเรียกพื้นที่นี้ว่าเมิ้นเช่นเพี้ยนเป็นมุ้นเช่น (Munchen) หรือมิวนิก กระนั้นเมื่อตระกูลวิทเทลบาคส์ขับไล่พระเจ้าเฮนรีออกไปในปี คศ 1180 ก็ได้เข้าครอบครองพื้นที่มิวนิก ก่อนแต่งตั้งให้นิวนิกเป็นเมืองพระราชฐานแห่งราชวงศ์วิทเทลบาคส์ในเวลาต่อมา
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:32:53
]
ทว่าช่วงศตวรรษที่ 17 การถูกทำลายยับเยินช่วงสงคราม 30 ปี และกาฬโรคที่ระบาดคุกคามประเทศแถบยุโรปนั้น ก็ทำให้เมืองนี้ตกไปอยู่ในมือของกุ๊สต๊าฟที่ 2 อะโดฟ แห่งสวีเดน (Gustav II Adolf of Sweden) ระหว่างปี คศ 1651 - 1679 ในสมัยของเจ้าอีเล็กเตอร์แฟร์ดินานท์ มารีอา (Ferdinand Maria) ก่อนถูกเปลี่ยนมือไปมาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งกว่าเมืองมิวนิกจะมีการพัฒนาอย่างจริงจังก็ต้องรอไปจนถึงปี คศ 1806 โน่น
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:33:59
]
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงเวลาของกษัตริย์มักซ์โยเซฟและพระเจ้าลุดหวิกที่ 2 ที่สร้างเมืองได้อย่างสวยสดงดงาม จนกลายเป็นไอไลท์ของการท่องเที่ยวจนถึงทุกวันนี้ น่าเสียดายที่มิวนิกถูกผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำลายเสียหายไปกว่าครึ่งเมือง ไม่อย่างนั้นนักท่องเที่ยวอย่างพวกเราคงได้ชมความงดงามของมิวนิกกันแบบเต็มๆ
มุมมหาชนที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพกัน เสียดายที่ยอดโดมอันหนึ่งของโบสถ์หัวหอมคู่เฟราเอ้นเคี้ยเช่อะ (Frauenkirche) กำลังถูกซ่อมแซมอยู่
[25 ธ.ค. 54 21:34:20
]
มิวนิก เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมันมาแล้ว และคำขวัญน่ารักๆของเมืองนี้คือ " Munich Loves You "
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:34:46
]
จุดท่องเที่ยวในเมืองมิวนิกส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตเมืองเก่า และศูนย์กลางของเขตเมืองเก่าเรียกว่า จัตุรัสมาเรียนปลัตส์ (Marienplatz) เป็นที่พบปะชุมนุม ติดต่อค้าขาย แลกเปลี่ยนสินค้า มานานหลายศตวรรษ ปัจจุบันเป็นลานกว้างสำหรับคนเดิน ตรงกลางจัตุรัสมีเสาพระแม่มารีทองคำซึ่งเป็นที่มาของชื่อจัตุรัสแห่งนี้
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:35:06
]
อาคารที่เด่นเป็นสง่าตรงหน้าจัตุรัส คือศาลาว่าการเมืองหลังใหม่ เรียกว่า นอยเยอรัทเฮาส์ (Neue Rathaus) สร้างในสไตล์นีโอโกธิกในกลางคริสตศตวรรษที่ 19 มีหอคอยสูงกว่า 80 เมตร
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:35:30
]
ศิลปะการก่อสร้างศาลาว่าการเมืองหลังใหม่ นี้ประกอบไปด้วยหินแกะสลักรูปบุคคลสำคัญของรัฐบาเยิร์น (กษัตริย์ ดยุก และนักบุญ) ทางด้านหน้า ตัวศาลา ถูกออกแบบโดยเกออร์ก ฟอน เฮาบ์แบริสซาร์ (Georg von Hauberrisser) ขณะที่มีอายุเพียง 24 ปี เพื่อทดแทน ศาลาว่าการหลังเก่าอันคับแคบเกินไป ก่อนใช้เวลาสร้างนานถึง 3 ระยะด้วยกันคือ ระยะแรกก่ออิฐทางส่วนตะวันออก ในปี คศ 1867 - 1874 ระยะต่อเติมด้านหลังในปี คศ 1889 - 1892 และระยะที่สร้างส่วนซีกตะวันตก พร้อมหอคอยอันเป็นที่ตั้งของตุ๊กตาเต้นระบำ
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:35:49
]
ซึ่งใครอยากขึ้นไปชมวิวสวยของเมือง ที่หอสูงของศาลาว่าการหลังใหม่นี้ เขามีลิฟท์ให้บริการด้วยครับ แต่ผมว่าสู้ขึ้นไปชมจากหอคอยอัลท่าร์ เพเทอร์ไม่ได้ เพราะหากปีนขึ้นหอคอยของศาลาหลังใหม่ นี้ จะไม่เห็นศาลาหลังใหม่อันงดงามนั่นเอง
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:36:11
]
ที่บริเวณศาลาว่าการหลังใหม่นี้ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ด้วยที่ชั้นล่าง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยว หรือสามารถหาซื้อแผนที่ชมเมืองและหนังสือภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:36:32
]
หน้าศาลาว่าการหลังใหม่ที่เรายืนอยู่นี้ เรียกว่าจัตุรัสมาเรียนปลัตส์ (Marienplatz) จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมืองมิวนิก และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินชมเมืองที่ดีที่สุดในมิวนิก ในยุคกลางแถบนี้เคยเป็นตลาดและใช้เป็นสถานที่จัดงานรื่นเริงต่างๆมาก่อน ต่อมาในปี คศ 1807 ตัวตลาดได้ย้ายไปอยู่ใกล้ๆกับย่านฟิคทูอาเลี่ยนมาร์คท จึงทำให้มาเรียนพลัทซ์ลดบทบาทลง ทว่ามันก็ยังเป็นศูนย์กลางของเมืองอยู่เหมือนเดิม เวลาชาวเมืองมีงานสำคัญๆอะไรก็ยังมาจัดกันที่นี่อยู่เช่นเคย
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:36:51
]
รอบๆมาเรียนพลัทซ์นี้จะเต็มไปด้วยวิวไฮไลต์ของมิวนิกอย่างที่เห็นตามสื่อโฆษณาหรือตามโปสการ์ด ไม่ว่าจะเป็นยอดหัวหอมสีเขียวของโบสถ์เฟราเอ้นเคี้ยเช่อะ ศาลาว่าการหลังเก่าสไตล์โกธิกที่ปัจจุบันใช้เป็นที่ต้อนรับแขกเมือง พิพิธภัณฑ์ของเล่น แต่ที่เด่นที่สุดคงจะเป็นเสาพระแม่มารีสีทอง (Marien's Column) ซึ่งชาวเมืองเขาใช้เสาพระแม่มารีเป็นจุดหลักเริ่มนับระยะทางจากตัวเมืองมิวนิกครับ
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:37:11
]
สำหรับเสาพระแม่มารีสีทองนี้ มีประวัติน่าสนใจทีเดียว เริ่มจากก่อตั้งขึ้นเพราะพระเจ้าอีเล็กเตอร์มักซิมิเลียนที่ 1 ในปี คศ 1632 (ออกแบบโดยแฟร์ดินานท์ มัวมันน์) เพื่อแสดงความขอบคุณต่อพระแม่มารีที่เมืองรอดพ้นจากการถูกโจมตี
ตัวเสาทำด้วยหินอ่อนสีแดง ยอดเป็นที่ประทับของพระแม่มารีสีทองอันสง่างาม (ผลงานของช่างศิลป์ฮุแบร์ทแกร์ฮาร์ท) ซึ่งยืนอยู่บนจันทร์เสี้ยวและอุ้มพระบุตรในอ้อมแขน หากสังเกตุให้ดีจะพบว่าแต่ละด้านของฐานอนุสาวรีย์มีรูปปั้นเด็กผู้ชายยืนถือโล่และดาบตั้งท่าต่อสู้กับสัตว์ร้ายได้แก่ สิงห์ มังกร และงู อันเป็นสัญญาลักษณ์ของการสิ้นสุดสงคราม โรคระบาด ความอดอยาก และพวกนอกรีตนั่นเอง
[25 ธ.ค. 54 21:38:20
]
เสาพระแม่มารี
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:38:39
]
พระแม่มารีสีทองยืนอยู่บนจันทร์เสี้ยวและอุ้มพระบุตรในอ้อมแขน
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:38:58
]
รูปปั้นเด็กผู้ชายยืนถือโล่และดาบตั้งท่าต่อสู้กับสัตว์ร้าย
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:39:17
]
บริเวณจัตุรัสแห่งนี้มักจะมีศิลปินสมัครเล่นมากมายมาเปิดการแสดง ทั้งเล่นดนตรี แต่งตัวแปลกๆ หรือบางคนก็ทำตัวเป็นหุ่นเลียนแบบท่าทางประหลาด สร้างความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาเป็นอย่างมาก วันที่พวกเราเข้าไปเดินพอดีเจอการเดินขบวนประท้วงกันที่หน้าจัตุรัสด้วยครับ
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:39:36
]
จัตุรัสมาเรียนปลัตส์ (Marienplatz) เมื่อก่อนจะรู้จักกันในชื่อชรันเน่น (Schrannen) แต่ตอนหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น Marienplatz เพื่อขอบคุณพระแม่มารีที่ช่วยให้มิวนิกรอดพ้นจากอหิวาตกโรค
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:39:56
]
ด้านหน้ามีหินแกะสลักรูปบุคคลสำคัญอยู่เต็มไปหมด
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:40:15
]
หน้าศาลาว่าการหลังใหม่ หากเป็นช่วงเดือน พย - เมย จะเปิดให้เข้าชมวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 10.00 - 17.00 น. และปิดให้บริการในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ
แต่ถ้าเป็นช่วงเดือน พค - ตค จะเปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 19.00 น. (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงไว้ โปรดตรวจสอบให้ดีอีกครั้ง)
[25 ธ.ค. 54 21:40:33
]
ไฮไลต์อีกอย่างที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชมเมือมายืนที่จัตุรัสมาเรียนปลัตส์ นั่นคือการรอชมตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ
ซึ่งตุ๊กตาเต้นระบำดังกล่าวจะอยู่บนหอคอยระฆังสูง 85 เมตร เป็นส่วนหนึ่งของศาลาว่าการหลังใหม่
[25 ธ.ค. 54 21:41:12
]
ตรงกลางหอคอยมีหอนาฬิกาที่เรียกว่า Glockenspiel ซึ่งจะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำให้ชมกันในเวลา 11 นาฬิกา และเที่ยงตรง ในหน้าร้อนจะเพิ่มรอบ 5 โมงเย็นอีกหนึ่งรอบ
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:41:31
]
ชั้นแรกเป็นพาเหรดของอัศวินเพื่อเฉลิมฉลองพระราชพิธีสมรสของกษัตริย์พระองค์หนึ่งในอดีต มีอัศวินขี่ม้าออกมาดวลกันจนตายไปข้าง ใครไปดูลองดูดี ๆ นะครับว่าอัศวินสีเงินหรืออัศวินสีทองเป็นผู้ชนะ ส่วนอีกสองชั้นเป็นการเต้นรำเพื่อเฉลิมฉลองที่ชาวเมืองมีชีวิตรอดจากโรคระบาดในปี ค.ศ.1517
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:41:53
]
สัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดอีกแห่งของเมือง คือโบสถ์เฟราเอน (Frauenkirche ออกเสียงว่า เฟรา เอน เคีย เชอะ) เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในมิวนิก สร้างตามแบบโกธิกในปี ค.ศ. 1468 ด้วยอิฐสีแดง แทนที่จะสร้างด้วยหินเหมือนโบสถ์โกธิกทั่วไป ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 20 ปี จึงแล้วเสร็จ (เสียดายที่ยอดโดมอันหนึ่งของโบสถ์หัวหอมคู่เฟราเอ้นเคี้ยเช่อะ กำลังถูกซ่อมแซมอยู่)
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:42:12
]
ฟ้าเป็นใจมากๆเลยค่ะ
จากคุณ : เก๊กฮวยเย็น
[25 ธ.ค. 54 21:42:14
]
ด้านหน้ามีหอคอยคู่สูงถึง 99 เมตร จริง ๆ หอคอยทั้งสองควรจะมียอดแหลมตามแบบฉบับของโกธิก แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการก่อสร้าง ต่อมาภายหลังจึงได้ต่อเติมเป็นโดมหัวหอมขึ้นอย่างที่เห็นในปัจจุบันแทน ทำให้โบสถ์นี้มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร และกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของมิวนิค
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:42:31
]
ปีใหม่หนีเที่ยวไหนครับ
จากคุณ : พ่อน้องมินนี่ (minnie_dad)
[25 ธ.ค. 54 21:42:53
]
ตึกพิพิธภัณฑ์ของเล่น (Spielzeugmuseum) ที่บริเวณจัตุรัสมาเรียนปลัตส์
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:42:57
]
เดินทะลุด้านหลังตึกพิพิธภัณฑ์ของเล่น ไปจะพยโบสถ์ไฮลิกไก้สท์เคี้ยเช่อะ (Heiliggeistkirche)
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:43:17
]
โบสถ์นี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็นศิลปะแบบโกธิก ภายในมีภาพวาดปูนเปียกเฟรสโกและปูนปั้นสทัคโค (Stucco) ที่ตกแต่งโดยพี่น้องตระกูลอาซัม (Asam) ผู้บุกเบิกศิลปะสมัยร็อกโคโค คนเดียวกับที่สร้างโบสถ์อาซัมเคี้ยเช่อะ
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:43:35
]
การได้ปีนหอคอยสูงเพื่อขึ้นไปชมวิวเมืองมิวนิกเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
เมื่อยืนอยู่ที่จัตุรัสมาเรียนปลัตส์ มองดูรอบๆจะเห็นหอคอยสูงที่มีนาฬิกาติดโดยรอบถึง 8 เรือนอยู่ลิบๆ เราจะขึ้นไปชมวิวเมืองมิวนิกบนนั้นกันครับ หอคอยนี้เป็นหอคอยของโบสถ์เพเทอร์สเคี้ยเช่อะ (Perterskirche) ซึ่งหอคอยนี้ชาวเมืองเขาเรียกอย่างรกใคร่ว่า อัลท่าร์ เพเทอร์ (Alter Peter) หรือ ปีเตอร์แก่ ครับ เป็นหอคอยสูง 13 ชั้น และมีบันได 303 ขั้น
[25 ธ.ค. 54 21:43:54
]
ค่าขึ้นปีนคอคอย ราคา 1.5 ออยโร ไม่แพงเลย คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปและคุ้มค่าเหนื่อยกับการออกแรงปีนขึ้นไปข้างบน เพราะวิวทิวทัศน์เมื่อมองลงมาจากบนหอคอยสวยงามเกินคำบรรยายครับ
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:44:14
]
หลังจากที่ชำระเงินที่เค้าน์เตอร์บริเวณทางขึ้นแล้ว อาจจะต้องยืนต่อรอคิวปีนขึ้นหอคอยสักพัก ขึ้นอยู่กับว่าช่วงขณะนั้นคนขึ้นลงที่มาใช้บริการมีมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากทางขึ้นลงหอคอยค่อนข้างแคบและชันมาก ทำให้เดิรสวนกันลำบากมากๆ ดังนั้นควรเดินด้วยความระมัดระวังและพยายามใช้ราวจับให้เป็นประโยชน์ บางช่วงอาจต้องหยุดรอให้คนที่เดินลงมาผ่านไปก่อน ที่สำคัญหากมีอาการเหนื่อยหอบ ควรหยุดพักเป็นระยะๆเพราะอาจทำให้หน้ามืดเอาได้ง่ายๆ
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:44:33
]
เมื่อขึ้นมาถึงด้านบน ถ้าเป็นวันที่คนใช้บริการกันมาก จะเต็มไปด้วยผู้คนเดินเบียดกันแน่นแทบขยับตัวไม่ได้ อย่างไรก็ตามวิวทิวทัศน์สวยงามมากครับ ด้านทิศเหนือเราจะเห็นศาลาว่าการหลังใหม่ ยอดเสาพระแม่มารี โบสถ์หัวหอมคู่เฟราเอ้นเคี้ยเช่อะ (Frauenkirche) รวมทั้งเห็นโบสถ์ธีอาทิน่าเคี้ยเช่อะ (Theatinerkirche) สีเหลืองทองอยู่ด้านหลังศาลาว่าการอีกด้วย
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:44:56
]
ส่วนทางด้านทิศตะวันออกสามารถมองเห็นตึกพิพิธภัณฑ์ของเล่น (Spielzeugmuseum) และโบสถ์ไฮลิกไก้สท์เคี้ยเช่อะ (Heiliggeistkirche) ได้อย่างชัดเจน ส่วนทางด้านทิศใต้เป็นวิวตลาดฟิคทูอาเลี่ยนมาร์คท
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:45:15
]
โบสถ์เพเทอร์สเคี้ยเช่อะ (Perterskirche) เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 7.30 -19.00 ยกเว้นวันพุธปิดตั้งแต่เวลา 12.00 น.
ส่วนหอคอยอัลท่าร์ เพเทอร์ หากเป็นฤดูร้อน เปิดให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 - 18.30 น. วันเสาร์ขอาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 10.00 - 18.30 น.
แต่ถ้าเป็นฤดูหนาววันจันทร์-ศุกร์เวลา 9.00 - 17.30 น. วันเสาร์ขอาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 10.00 - 17.30 น.
[25 ธ.ค. 54 21:45:38
]
หอคอยโบสถ์ไฮลิกไก้สท์เคี้ยเช่อะ (Heiliggeistkirche)
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:45:59
]
การเดินทางมาจัตุรัสมาเรียนปรัสต์ สะดวกสบายเพราะมีทั้ง S-Bahn และ U-Bahn วิ่งมาจอดที่จัตุรัสแห่งนี้
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:46:22
]
e3
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:46:37
]
e4
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:46:54
]
e5
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:47:08
]
ประตูเมืองคาร์ลส์ทอร์ (Karlstor) หนึ่งใน 3 ประตูเมืองที่ยังคงเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ (เดิมทีมิวนิก มีประตูเมืองถึง 5 ประตูแต่ผลจากสงครามจึงทำให้ปัจจุบันคงเหลือเพียง 3 ประตูเท่านั้นคือ คาร์ลส์ทอร์ (Karlstor) อิซาร์ทอร์ (Isartor) และเซนดลิงเงอะทอร์ (Sendlinger Tor)
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:47:28
]
สำหรับประตูคาร์ลส์ทอร์ (Karlstor) ถือเป็นประตูที่เปิดเข้าสู่เขตถนนคนเดินเส้นหลักของมิวนิกก็ว่าได้ เชื่อมต่อกับถนน Neuhauser Strasse ถนนซ๊อปปิ้งสายหลักของเมือง ที่มักเนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากมายในวันเสาร์
ภาพประตูคาร์ลส์ทอร์ ยามค่ำคืน พวกเราพักอยู่แถวประตูเมืองคาร์ลส์ทอร์ เลยต้องเดินผ่านทุกวัน
[25 ธ.ค. 54 21:47:47
]
จากจัตุรัสมาเรียนปลัตส์ เมื่อเดินเข้าถนน Wein Strasse เพื่อต่อไปยังถนน Theatinerstrasse ถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมนับไม่ถ้วน และบนถนนเส้นนี้ยังมีซ๊อปปิ้งคอมเพล็กซ์เล็กๆซ่อนตัวอยู่ด้านหลังอีกด้วย
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:48:07
]
ข้างในซ๊อปปิ้งคอมเพล้กซ์แห่งนี้ มีร้านอาหารไทยชื่อว่า ร้านไข่มุกให้บริการอยู่ด้วยครับ
พวกเราฝากท้องมื้อกลางวันไว้ที่ร้านอาหารไทยไข่มุกครับ
[25 ธ.ค. 54 21:48:26
]
ไม่นึกว่าจะมาเจอความแดงที่ใจกลางเมืองมิวนิก ในภาพคือสวนหย่อมเล็กๆในซ๊อปปิ้งคอมเพล็กซ์ครับ ที่นี่ปลูกต้น โมะมิจิ เอาไว้ พวกเราเลยแวะเข้าไปเก็บรุปมาฝากครับ
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:48:48
]
f1-1
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:49:10
]
f2
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:49:27
]
จากจัตุรัสมาเรียนปลัตส์ เมื่อเดินมาจนสุดปลายถนน Theatinerstrasse จะพบ เฟลท์แอร์นฮัลเล่อะ (Feldherrnhalle) และโบสถ์ธีอาทิน่าเคี้ยเช่อะ (Theatinerkirche) เด่นเป็นสง่าต้อนรับพวกเราครับ
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:49:48
]
เฟลท์แอร์นฮัลเล่อะ (Feldherrnhalle) สร้างขึ้นระหว่างปี คศ 1841 - 1844 โดยพระเจ้าลุดหวิกที่ 1 ได้มอบหมายให้สถาปนิกชื่อ ฟรีดริช ฟอนแกร์ทเน่อร์ (Friedrich von gartner) เป็นผู้สร้างเฟลท์แอร์นฮัลเล่อะ (Feldherrnhalle) เพื่อเป็นเกียรติแก่แม่ทัพบาวาเรียในการทำสงความฝรั่งเศส-ปรัสเซีย
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:50:09
]
เฟลท์แอร์นฮัลเล่อะ สังเกตุง่ายๆด้วยรูปปั้นสิงห์โตคู่ด้านหน้าสองฝากฝั่งเป็นรูปปั้นของนักบุญ และมีรูปปั้นแม่ทัพบาวาเรียอยู่ด้านใน ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดงานต่างๆเช่น งานคอนเสิร์ต
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:50:29
]
ทั้งนี้ เฟลท์แอร์นฮัลเล่อะ กลายเป็นที่ที่มีชื่อเสียงหลังจากตำรวจกับพวกนาซีได้ทำการสู้รบขนาดย่อมในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยพวกนาซีได้เดินขบวนจากถนนลุดหวิก ไปยัง เฟลท์แอร์นฮัลเล่อะ แต่ตำรวจได้มาสลายการเดินขบวนในครั้งนั้นพร้อมสังหารผู้คนเดินขบวนไปเป็นจำนวนถึง 16 คน และนี่เองคือที่มาที่ฮิตเล่อะให้ทุกคนที่เดินผ่านต้องทำความเคารพพวกนาซี
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:50:50
]
เยื้องกันกับ เฟลท์แอร์นฮัลเล่อะ จะเห็นโบสถ์สีเหลืองสด ชื่อว่าโบสถ์ธีอาทิน่าเคี้ยเช่อะ (Theatinerkirche) เป็นโบสถ์บาซิลิกา (ในคริสต์ศาสนาหมายถึงโบสถ์ที่มีความสำคัญมาก เป็นที่ประกอบพิธีสำคัญโดยเฉพาะสันตะปาปา) เป็นแลนด์มาร์กสำคัญทางเหนือของเขตเมืองเก่า อยู่หน้าจัตุรัส Odeonsplatz
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:51:09
]
โบสถ์ธีอาทิน่าเคี้ยเช่อะ (Theatinerkirche) เป็นโบสถ์ที่เจ้าอีเล็กเตอร์แฟร์ดินานท์ มารีอา นักปกครองบาเยืร์นผู้รักความสงบและพระชายาสั่งให้สร้างขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของโอรสมักซ์ เอมานูเอล (Max Emanuel) ในปี คศ 1662 ที่ต่อมาขึ้นครองรัฐบาเยิร์นเป็นพระเจ้ามักซิมิเลียนที่ 2 เอมานูเอล (คนละคนกับพระเจ้ามักซิมิเลียนที่ 2 พระบิดาของพระเจ้าลุดหวิกที่ 2)
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:51:31
]
โบสถ์นี้ใช้เวลาสร้างตั้งแต่ปี คศ 1663 - 1690 ในแบบอิตาเลียนบาร็อก ด้วยฝีใอของสถาปนิกชาวอิตาเลียนชื่ออะโก้สติโน่ บาเรลลี่ (Agostino barelli) ซึ่งมีต้นแบบมาจากโบสถ์อังเดรอา เดลล่า วัลเล่อะ (Andrea della valle) แห่งกรุงโรม ส่วนหอคอยสองหอ โดมด้านหลัง และด้านหน้าตึกถูกต่อเติมขึ้นภายหลัง
โบสถ์ธีอาทิน่าเคี้ยเช่อะ (Theatinerkirche) ตัวโบสถ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 7.00 - 19.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด
[25 ธ.ค. 54 21:51:51
]
ด้านตรงกันข้ามกับโบสถ์ธีอาทิน่าเคี้ยเช่อะ จะพบสวนหย่อม ชื่อว่าโฮฟการ์เท่น (Hofgarten)
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:52:14
]
สวนนี้สร้างขึ้นในช่วงปี คศ 1613 - 1617 โดยพระประสงค์ของพระเจ้ามักซีมิเลี่ยนที่ 1 เดิมเป็นศิลปะแบบเรอเนสซองซ์แบบอิตาเลี่ยน หลังถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงถูกสร้างใหม่ให้บางส่วนเป็นแบบสวนอังกฤษ ที่มีดอกไม้นานาพันธ์ให้ได้ชมกัน แต่ในฤดูที่ไม่มีดอกไม้จะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:52:33
]
ที่ใจกลางสวนมีศาลาเป็นศูนย์กลางตั้งอยู่ ชื่อว่า Diana Temple
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:52:52
]
เดือนตุลาคมไม่มีดอกไม้บาน มีแต่ใบไม้เปลี่ยนสี
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:53:13
]
g5
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:53:29
]
g6
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:53:45
]
g7
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:53:59
]
g8
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:54:17
]
g9
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:55:08
]
มาเที่ยวเยอรมันทั้งที ถ้าไม่ได้ทานขาหมูทอดเยอรมัน เดี๋ยวถูกต่อว่าว่ามาไม่ถึงเยอรมัน
พวกเราแวะทานทานขาหมูทอดร้าน Donisl บริเวณจัตุรัสมาเรียนปลัตส์
[25 ธ.ค. 54 21:55:25
]
ส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ชอบขาหมูอยู่แล้ว แต่โฮ้โฮ พอได้ลองชิมของที่เยอรมัน ขอบอกว่าของเค้าอร่อยจริงๆครับ
ลืมภาพขาหมูพะโล้ติดมันเมืองไทยไปเลย
[25 ธ.ค. 54 21:55:48
]
มื้อถัดไปในวันรุ่งขึ้นผมถึงสะกิดเพื่อนว่า ไม่แวะร้าน Donisl อีกสักครั้งหรือ
ปรากฏว่าได้ทานขาหมูทอด 2 วันเลย
[25 ธ.ค. 54 21:56:08
]
h4
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:56:25
]
h5
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:56:39
]
h6
จากคุณ : Chris Evert
[25 ธ.ค. 54 21:57:00
]
ขอปิดท้ายรีวิวด้วยภาพ ศาลาว่าการเมืองหลังใหม่ นอยเยอรัทเฮาส์ (Neue Rathaus) ถ่ายจากหอคอยของโบสถ์เพเทอร์สเคี้ยเช่อะ (Perterskirche) ครับ
ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาและชมรีวิว และแสดงความคิดเห็นครับ
[25 ธ.ค. 54 21:57:28
]
เมืองสวยมากครับบบ ตามไปเที่ยวชมต่อครับบ
จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์สวยงามมากค่ะ
จากคุณ : Bpearl
[25 ธ.ค. 54 21:59:15
]
เข้ามาเก็บข้อมูลเที่ยวมิวนิคด้วยค่ะ ขาหมูน่าทานมากกก ใบโมมิจิในส่วนหย่อมก็สีสันได้ใจเหลือเกิน ^^
จากคุณ : Blue Whale
[25 ธ.ค. 54 22:01:25
]
สวยมากค่ะ
จากคุณ : Moohyper
[25 ธ.ค. 54 22:07:38
]
ชอบภาพมุมสูงมาก งามจริงๆครับ
อยากไปยืนชมวิวและถ่ายภาพบนนั้นด้วย คงมีสักวัน
ขอบคุณครับ
[25 ธ.ค. 54 22:53:58
]
เมืองมิวนิคนี่อยากไปตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ
ขอบคุณที่พาไปชมบรรยากาศเมืองนี้ครับ
[25 ธ.ค. 54 23:04:19
]
คุณเก๊กฮวยเย็น ............ ใช่ครับ ทริปนี้โชคดีมากๆครับ เพราะฤดูใบไม้เปลี่ยนสีส่วนใหญ่จะเจอฝนน่ะครับ แต่พวกเราโชคดีที่ส่วนใหญ่เจอฟ้าเปิด ขอบคุณครับที่มาเที่ยวด้วยกัน
คุณ พ่อน้องมินนี่.............. สวัสดีครับคุณแต้ ปีใหม่ไปอียิปต์รอบสองครับ คราวนี้ขึ้นไปทางเหนือ ตรงส่วนมรดกโลก อะบูซิมเบล อัสวาน ลุกซอร์ครับ
คุณ Bpearl ..............ขอบคุณครับ
คุณBlue Whale .................รู้สึกว่าที่สวนหย่อมเข้าตั้งใจปลูกแต่โมะมิจิน่ะครับ ความแดงไม่แพ้ญี่ปุ่นแถบคันไซเลยครับ
คุณMoohyper ................ขอบคุณครับ
คุณฟองสบู่ ...................คุณฟองไม่ได้ขึ้นไปบนหอคอยของโบสถ๋Perterskirche เหรอครับ เสียดายจัง ข้างบนคนน่นมากๆเลย เขาทำเป็นทางเดินวน แต่บางคนก็เดินสวนน่ะครับ ต้องเอียงข้างเบี่ยงตัวกันอุดตลุดเลยครับ ค่าขึันไม่ถึงสองยูโร คุ้มค่ามาก เพราะจากข้างบนหอคอยมองลงมาสวยงามมากๆครับ
คุณ Destiny-Boy .............ขอบคุณครับที่เข้ามาเที่ยวมิวนิก เมืองนี้มีเสน่ห์มากๆครับ เป็นเมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย บริเวณเมืองเก่าน่าเดินชมพวกสถาปัตยกรรม โบสถ์ สวยงามมากๆ ถ้าเบื่อก็สามารถเดินเข้าห้างซ๊อปปิ้งได้อีกต่างหาก
[25 ธ.ค. 54 23:21:10
]
ตอนที่ไปเมืองมิวนิคได้ไปเที่ยวที่เดียวคือ จตุรัสมาเรียปลาสต์
รูปสวยมากๆ
ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ
[25 ธ.ค. 54 23:24:43
]
เมืองสวยดีครับ วิวบนโบสถ์นี่งามมากๆเลย ชอบสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ดูคลาสสิคดีครับ
จากคุณ : Coffee Blended
[25 ธ.ค. 54 23:41:25
]
กรีดร้องงง เค้าอยากไปเยอรมันนนนนนน ฮ่าๆ
รูปสวยมวากกกก
จขกท.เที่ยวบ่อยจัง >w<
[25 ธ.ค. 54 23:52:26
]
ไปแล้วประทับใจมากๆ
พิพิธภัณฑ์ของเล่นนี่ใช่ศาลาว่าการหลังเก่าหรือเปล่าครับ
[26 ธ.ค. 54 00:32:19
]
เมืองเค้าสวยจิงๆเลยค่ะ
จากคุณ : หมูอ้วนขี้อ้อน
[26 ธ.ค. 54 00:59:49
]
รูปสวยมากค่ะ ชอบๆ
จากคุณ : wasmb
[26 ธ.ค. 54 02:35:18
]
รูปสวยจังค่ะ
จากคุณ : ปูใบไม้
[26 ธ.ค. 54 03:39:15
]
ขอบคุณมากเลยครับสำหรับรีวิว พยายามวิเคราะห์อยู่ว่ารูปของพี่จิโร่ทำไมดูดีลงตัวทุกรูป สุดท้ายสรุปว่าคงอยู่ที่พรสวรรค์หล่ะครับ...55..ตอนแรกกลุ้มใจอยู่ว่าจะไปนอนที่มิวนิคตั้ง 3 คืน จะไม่มีอะไรทำ ดูรีวิวนี้แล้วกลายเป็นว่า 3 คืนจะพอไหมเนี่ย...อีกอย่างรู้แล้วว่าทำไมภาพคมชัดทุกรูป เพราะว่ามีคนแบกขาตั้งกล้องให้นี่เอง
จากคุณ : mordek1
[26 ธ.ค. 54 06:42:57
]
ดิฉันเดินประจำำแถวซิตี้ฮอลล์... จนรู้ว่ามุมไหนเป็นมุมไหน
แหล่งท่องเที่ยวชมเมืองๆหลักๆของนักท่องเที่ยวคือบริเวณนี้ล่ะค่ะ และภายในรัศมีห้ากิโลเมตร
[26 ธ.ค. 54 06:55:40
]
คุณ NinaRita ................สวัสดีครับ จากการที่ได้ไปสัมผัส มิวนิก มา ผมว่าเมืองนี้มีเสน่ห์มากน่ะครับ มีทั้งเมืองเก่า+เมืองใหม่ ผสมผสานกันอยู่ในบริเวณเดียวกันได้อย่างลงตัว นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้อย่างเพลิดเพลินเลยครับ
คุณ Coffee Blended ..................ขอบคุณที่มาเที่ยวครับ ใครได้ไปสัมผัสสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมของยุโรป เป็นต้องหลงไหลทุกคนรวมทั้งผมด้วยครับ
คุณ ตัวตลกสีเทา.............. สวัสดีครับ ผมเที่ยวประมาณปีละสองครั้งครับ ช่วงสงกรานต์กับปีใหม่ หรืออาจมีเพิ่มมากกว่าสองครั้งขึ้นกับว่าลางานได้หรือไม่อ่ะครับ ขอบคุณที่ชอบรูปที่ผมถ่ายครับ
คุณ kimmyCream ...............ใช่ครับ เป็นอาคารศาลาว่าการหลังเก่า ที่ถูกระเบิดตอนสงครามโลกครั้งที่สอง อาคารที่เห็นอยู่ตอนนี้เขาทำขึ้นใหม่น่ะครับ แล้วดัดแปลงเป็ฯพิพิธภัณฑ์ของเล่นครับ เห็นว่าเป็นของเล่นผมเลยไม่ได้เข้าไปดูว่าข้างในมีอะรน่าสนใจบ้าง
คุณหมูอ้วนขี้อ้อน ...............ใช่ครับ เมืองเค้ามีเสน่ห์มากๆครับ เดินเที่ยวไม่เบื่อเลย
คุณ wasmb ...............ยินดีครับ
คุณ ปูใบไม้ .................ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวด้วยกันครับ
คุณ mordek1 ...............ขาตั้งกล้องแบกเองครับ แบกตลอดตั้งแต่เช้ายันเย็น ที่เห็นในรูปที่นางแบบแบกอยู่ พอดีเขาขอยืมไปทำท่าโพสถ่ายรูปน่ะครับ ขาตั้งกล้องเนี่ยเป็นอะไรที่มีทั้งข้อดีและเสีย การนำติดตัวไปตลอดทำให้ทั้งไหล่และหลังเดี้ยงแต่ก็ต้องทนเอา เนื่องจากพอต้องการใช้ก็จะเห็นประโยชน์ของมันขึ้นมาทันทีเลย แต่ผมก็ไม่ได้ใช้ตลอดน่ะครับ จะใช้ก็ตอนถ่ายรูปหมู่ ตอนกลางคืน หรือตอนที่เข้าไปถ่ายรูปในโบสถ์น่ะครับ (ช่วงที่ไม่ได้ใช้ก็ต้องทนครับ).............. ที่มิวนิก 3 คืน น่าจะกำลังดีน่ะครับ ที่เดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรมเยอะมาก และอยู่ในบริเวณเดียวกันไม่ไกลจากกันมากสามารถเดินถึงกันได้ครับ ..... อย่าลืมเข้าไปชมขุมทรัพย์ที่เรซิเด้นซ์มุ้นเช่น และนั่งรถรางไปชมพระราชวังนึ้มเฟ่นบวร์ก ด้วยน่ะครับ ทั้งสองที่ไม่ควรพลาดครับ เดี๋ยวมีรีวิวให้ชมครับ
คุณ JidNince อาศัยอยู่ที่มิวนิกใช่ไหมครับ น่าอิจฉาจัง เมืองนี้มีเสน่ห์น่ารักมากๆไม่แพ้เมืองอื่นๆเลยครับ
[26 ธ.ค. 54 08:15:42
]
ตามมาเที่ยวต่อครับ บ้านเมืองเขาน่าอยู่ชะมัดเลย
ภาพสวยทุกภา ชอบภาพมีคนประกอบ เมหือนภาพจากนิตยสารเลย
กิฟหมดแล้วให้ใจไปก่อนนะครับ สวยมากกกก
[26 ธ.ค. 54 10:47:31
]
สวยมากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^
จากคุณ : สามแซ่
[26 ธ.ค. 54 10:58:50
]
ตามมาเที่ยวมิวนิคด้วยคนครับ ผมชอบเมืองนี้ สถาปัตยกรรมสวยงาม วัฒนธรรมแบบบาวาเรียนโดดเด่นมีเอกลักษณ์
เสียดายที่โดนถล่มไม่น้อยในสงครามโลกครั้งที่ 2 ตึกเก่า ๆ หายไปเยอะ กลายเป็นตึกสร้างใหม่แทน ไม่งั้นคงงามกว่านี้อีกแน่
ตุ๊กตาเต้นระบำที่นี่น่าชมกว่าที่ปรากเยอะเลย อาจจะเป็นเพราะสร้างทีหลังหลายร้อยปี เทคโนโลยีก็สูงขึ้นเยอะ
รอชมพระราชวัง Nymphenburg ต่อด้วยครับ พระราชวังนี้ผมไม่ได้ไป เตรียมตัวเข้ามาเสียดาย
[26 ธ.ค. 54 11:08:08
]
ตามมาชมต่อครับจากที่ไม่เคยคิดไปเยอรมันเลยเพราะคิดทีรัยเห็นแต่หน้าฮิตเลอร์ทุกที
ครานี้เริ่มอยากไปเยอรมันบ้างแล้วเรา
[26 ธ.ค. 54 13:12:31
]
... ให้นางแบบแบกขาตั้งกล้อง ใจร้ายเหมือนกันนะคะคุณจิโร่ ^_^
จากคุณ : kungtalay
[26 ธ.ค. 54 13:25:10
]
สวยมากครับ ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ
จากคุณ : เล็กทาโร่
[26 ธ.ค. 54 14:23:01
]
ตรึงตราสถาปัตยกรรม...
ไปมิวนิกเมื่อไหร่จะปีนหอคอยขึ้นไปชมเมืองจากมุมบนนั้นบ้างค่ะ
ปีนี้จริงๆตั้งใจไปเยอรมัน แต่แพลนเปลี่ยนไปที่อื่นอย่างกะทันหัน
คิดว่าอีกนานกว่าจะหมุนกลับมาที่นี่ แต่รีวิวชุดนี้ทำให้เยอรมันถูกเสนอชื่อเข้าชิงใหม่อีกรอบสำหรับปีหน้า ถ่ายภาพสวยเกินไปแล้วค่ะ^^
[26 ธ.ค. 54 15:16:14
]
คุณ ชานมชงเอง .................... ขอบคุณมากครับสำหรับคำชม กิฟท์หมดไม่เป็นไรครับ (ของผมก็หมดเหมือนกัน อิอิ) แค่คุณชานม คลิ๊กเข้ามาชมก็ได้ใจเหมือนกันครับ
คุณ สามแซ่ ............... ขอบควรที่ติดตามครับ
คุณ Cherokee1 .............. สวัสดีครับ ไปเยอรมันทริปนี้ผมค้างที่มิวนิก 2 คืน ได้เที่ยว 2 วันครึ่งครับ ถ้าก่อนไปผมไม่ได้อ่านรีวิวเที่ยวไปกับโปสการ์ดของคุณ Cherokee1 ผมคงเที่ยวเมืองมิวนิกอย่างฉาบฉวยแน่ๆครับ อาจอยู่เพียง 1 วันเท่านั้น ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับรีวิวที่เป็นประโยชน์น่ะครับ .............. เมืองมิวนิกมีเสน่ห์จริงๆ และเห็นด้วยที่ว่าถ้ามิวนิกไม่โดนระเบิดทำลายตอนสงครามโลก คงมีสถาปัตยกรรมเก่าๆหลงเหลือให้ชมมากกว่านี้น่ะครับ อาจจะสวยกว่าที่กรุง ปราก ด้วยซ้ำ ................ รีวิวพระราชวังนึ้มเฟ่นบวร์ก ตอนต่อไป อาจผิดหวังก็ได้น่ะครับ เพราะผมไม่ได้เข้าไปชมข้างใน(ห้ามถ่ายภาพ) มีแต่วิวตัวพระราชวังกับป่าเปลี่ยนสีอ่ะครับ
คุณ ลุงแบกเป้ ............... สงสัยรีวิวทริปเยอรมันทั้ง 10 ตอน ท่าทางจะยั่วคุณลุงสำเร็จ เดี๋ยวรอชมอีกสองตอน คุณลุงคงตัดสินใจใส่เยอรมันไว้ในแผนแน่เลยครับ
คุณกุ้ง ............ ตายแล้ววววว เสียภาพพจน์หมดเลย ไม่ได้ใจร้ายซักหน่อย คือว่าพอดีนางแบบขอยืมขาตั้งกล้องไปแบกเพื่อโพสท่าถ่ายรูปน่ะครับ ปกติผมแบกเองตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยอ่ะ กลับมาถึงโรงแรมเมื่อย(โครต) บางวันหลับสลบไปเลยครับ
คุณ เล็กทาโร่ ............... ขอบคุณครับ ที่เข้ามาให้กำลังใจ
คุณแม่หญิงพิมาลา ............... สวัสดีครับ ใช่ครับไปมิวนิกเมื่อไหร่ห้ามพลาดปีนหอคอยขึ้นไปชมวิวน่ะครับ เลือกวันที่อากาศดีข้างบนเห็นเมืองมิวนิกเป็นมุมกว้างสวยมากครับ ................. คิดว่าคุณแม่หญิงชมรีวิวเยอรมันทั้ง 10 ตอนก็น่าจะตัดสินใจได้แล้วว่า เยอรมันน่าเที่ยวขนาดไหน หวังว่าจะชนะได้ที่หนึ่งในการตัดสินรอบชิงปีหน้าน่ะครับ .............. ถ่ายภาพพอดูได้ไม่ถึงกับสวยมากครับ แต่ว่าคุณแม่หญิง ปากหวานเหลือเกิน
[26 ธ.ค. 54 15:40:24
]
ขอบคุณรีวิวครับ สวยทุกตอนเลย
จากคุณ : boy next door
[26 ธ.ค. 54 17:23:26
]
5 ครั้งสำหรับการไปมิวนิคของผม..เมื่อได้กลับมาชมภาพของคุณ Chris Evert อีกครั้งทำให้อยากกลับไปมิวนิคอีกครั้งจัง....ยิ่งได้เห็นขาหมูร้าน Donis...ยิ่งอยากกลับไปลิ้มลองอีกครั้ง ลูกๆๆผมชอบมากครับ...ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆๆด้วยครับ
จากคุณ : pharm-go
[26 ธ.ค. 54 17:25:16
]
ตามมาชมรีวิว มิวนิก ต่อค่ะ
คุณ Chris Evert เคยถ่ายรูปไม่สวยบ้างไหมค่ะเนี่ย
น่าไปเที่ยวมากๆๆ
[26 ธ.ค. 54 18:09:04
]
คุณ boy next door ................. ขอบคุณเช่นกันครับ ที่ติดตามชมรีวิว
คุณ pharm-go ................. ทาทางจะชอบ มิวนิก มากๆใช่ไหมครับ ผมเองก็ไม่ชอบขาหมูเลยครับ เพราะมันออกมันรู้สึกเอียนทุกครั้งที่เห็น แต่พอได้ไปลองชิมขาหมูทอดเยอรมัน โอโฮ .. ทีนี้ติดใจเลยครับ อร่อยมากๆ ส่วนร้าน Donis ก็เป็นร้านที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวน่ะครับ เพราะอยู่บริเวณจัตุรัสพอดี
คุณ SuPerHyPerOverUltraGLUE ................. แหม ถ่ายรูปออกมาเน่าบ่อยไปครับ แต่ไม่ต้องกลัวพอลั่นซัตเตอร์เสร็จ ก็รีบตรวจสอบดูภาพที่เราถ่ายน่ะครับ ถ้าถ่ายออกมาเน่าก็ลบทิ้งไปไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด(ไม่ใช่กล้องใช้ฟิล์ม) แล้วก็ถ่ายใหม่ ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ได้ภาพสวยเองน่ะครับ ถ่ายมาเยอะๆก็ได้ครับ แล้วนำกลับมาเลือกรูปที่ดีที่สุด ........... ขอบคุณน่ะครับที่แวะเข้ามาเดินเที่ยวด้วยกัน
[27 ธ.ค. 54 09:05:42
]
มิวนิคผ่านเลนส์ของคุณจิโร่สวยมากๆเลยครับ :)
จากคุณ : I_Jayjay
[27 ธ.ค. 54 09:43:07
]
บรรยากาศน่าเดินมากๆเลยครับ สมกับที่เคยเป็นเมืองน่าอยู่จริงๆ
จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee
[4 ม.ค. 55 12:18:26
]
สวัสดีปีใหม่ครับ เพื่อนๆทุกคน
คุณI_Jayjay .......... ยินดีครับ
คุณ Koon Shy_Tour Dee .............. เมืองมิวนิคมีเสน่ห์มากๆครับ วันเดียวเที่ยวไม่พอจริงๆ
[6 ม.ค. 55 08:56:33
]