กราบสวัสดี พ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อนๆห้องบลูนะคะ มาครั้งนี้ หมีหมูต่ายก็ได้มาวิวเป็นครั้งที่สองแล้ว

ยังคง...ไร้ซึ่งสาระ และรูป..อาจจะไม่สวยเท่าไหร่ แต่ถ่ายมาให้ชมด้วยใจนะจ๊ะ

สำหรับทริปนี้เป็นการท่องเที่ยวเกาะสมุยครั้งแรกค่ะ ซื้อวอยเชอร์ของคอรัลโคฟในงานเที่ยวไทย (ครั้งไหนจำไม่ได้)

สรุปคือมัดจำ 1,000 บาทค่ะ ห้องที่จองเป็นห้องวิลล่า 3 วัน 2 คืนไปมาเมื่อ วัน22-25 ธันวาคมที่ผ่านมาค่ะ

ปล. วิวครั้งนี้เราไม่ได้ต้องการกิ๊ฟหรืออะไรนะคะ เราก็แค่อยากจะแบ่งปันสิ่งที่เราได้ไปพบไปเจอ

สถานที่ดีๆ หรือร้านอาหาร และผู้คนก็เท่านั้น เราแค่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพื่อนๆในการตัดสินใจ

แค่เพียงแวะเข้ามาชมเราก็ดีใจแล้ว เพราะเราเองก็ได้ข้อมูลเวลาจะไปเที่ยวจากในห้องบลูเยอะแยะมากมายเช่นกันค่ะ

ไม่ต้องกดกิ๊ฟไม่ต้องเม้นท์ก็ได้แค่แวะมาก็ดีใจละค่ะ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ

ปาดๆๆๆๆๆรอ มายังเอ่ย

ขอบอกนิดนึงว่า การรีวิวครั้งนี้จะเป็นไปอย่างเอื่อยเฉื่อย เนื่องจากเน็ตที่ทำงานยังไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ ต้องขออภัยจริงๆค่ะ

งั้นเรามาชมกันเลยดีกว่าค่ะจะได้ไม่เสียเวลา ทริปสมุยในครั้งนี้ เราได้ทำการจองตั๋วรถของสมบัติทัวร์ไว้ค่ะ ค่าตั๋วรถ+เรือ ประมาณเกือบๆ 1,600 ค่ะ จำได้แค่คร่าวๆ หลังจากสืบค้นดูหลายๆคนที่เคยไปมาเราก็ได้รู้ว่าสมบัตินี่แหละดีสุด(แม้จะไม่เคยนั่ง ฮ่าๆ)

รถที่จองไป เป็นรถ วีไอพี 32 ที่นั่งค่ะ(ดีสุดมีแค่นั้นที่ไปสมุย) รอบ 20.00 ของวันที่ 22 ธันวา เพราะกว่าจะเลิกงานกว่าจะกลับไปเอากระเป๋าและนั่งรถไปสายใต้คงใช้เวลาเยอะเลย  ขอรอบดึกไว้ก่อน

สรุป บ่ายของวันที่22 สมบัติโทรมาค่ะ   "เอ่อขอโทษนะคะคุณ...พอดีว่าเราทำรถไม่เสร็จอยากจะขอเลื่อนให้ไปรถ ป.1 รอบสองทุ่ม หรือจะไป วีไอพี 32 เหมือนเดิมแต่รอบ 19.00 ดีคะ" เอาล่ะสิ งานเข้าละ ต้องขอลากลับก่อนซะแล้วเพราะเราเลือกเป็นรอบทุ่มค่ะ ถ้านั่งป.1 มีหวังเมื่อยก้นแน่ๆ

สี่โมงเย็นรีบลากลับก่อน  กลับห้องวิ่งผ่านน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะไปขึ้นรถตู้ไปสายใต้ นั่งรถสบายๆ 30 นาทีก็ถึงสายใต้แล้วค่ะ ลากกระเป๋าไปที่ช่องขายตั๋ว เพื่อทำการเปลี่ยนตั๋วใบใหม่ ไปหาอะไรกินรองท้องก่อนขึ้นรถ และเราก็ถึงรถแล้ว (เวิ่นเว้อมานาน 55)

ไปด้วย   ^^

ขอไปด้วยคน...............ขอบคุณครับ

ไปด้วยคนค่ะ

เกาะรถไปสมุยด้วยคน

ไปด้วยค่า อยากไปสมุยนานแล้ว

ขออภัยที่ช้า เพิ่งเห็นว่าเที่ยงเลยไปหม่ำข้าวมาค่ะ มาต่อๆๆ

รอบที่เราขึ้นนี้ มีพนักงานต้อนรับเป็นผู้ชาย  น้ำเสียงไพเราะเพราะพริ้ง พร้อมเอ่ยแนะนำการเดินทาง และนำของมาแจก เราและเด็กน้อยก็จัดการเก็บ!! ของแจกไว้เพราะยังอิ่มอยู่ หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างอยู่กับหน้าจอของใครของมัน ทั้งดูหนังฟังเพลงเล่นเกมส์ จนเกือบๆจะเที่ยงคืนรถก็จอดพักให้หม่ำข้าวค่ะ ร้านครัวคุณต้น ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นที่ ทับสะแก จ.ประจวบฯ

ตามมาเที่ยวด้วยค่า

นั่งหลับๆตื่นๆด้วยความเมื่อยก้นมากกก เมื่อยขาด้วย บิดซ้ายบิดขวาอย่างกะเต้นแอโรบิกไปตลอดคืน เบาะที่เอนได้ 135องศา(มั้ง) ไม่ได้ช่วยอะไรเลย สุดท้ายเริ่มไม่ไหวหลับ ไม่ถึงชั่วโมงรถเปิดไฟ "ท่านผู้โดยสารทุกท่าน ขณะนี้รถได้มาถึง ดอนสักแล้ว..." เอิ่ม  เพิ่งจะได้หลับเมื่อกี้เอง ต้องตื่นเก็บของส่วนตัวแล้วลงรถเดินไปทางขึ้นเรือ เจอะน้องเต่ายืนต้อนรับหน้าตายิ้มแย้ม แต่..ช่างดูน่ากลัวนักในตอนนั้น ฮ่าๆๆ

ยินดีต้อนรับทุกๆคนมาร่วมชมนะคะ อาจจะไม่ดีมากนักแต่จะพยายามค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาชมกัน

ด้วยการที่ไปถึงท่าเรือซีทรานประมาณตีห้ากว่าๆ เลยต้องขึ้นเรือไปนั่งรอออกตอน 06.00 น. มืดมากเลยทีเดียว นั่งๆนอนๆ เบื่อๆ เลยเดินออกมาถ่ายรูปฟ้าที่เริ่มสาง แม้จะมีเมฆมากแต่ก็ยังพอมีแดดส่องให้เห็น

ธรรมชาติช่างงดงามจริงๆเลยค่ะ เรือประมงออกหาปลาอย่างขะมักเขม่น

ฝากเว็บไซต์ www.lovesurat.com เป็นสังคมวาไรตี้ของคนสุราษครับ

ชอบภาพบรรยากาศแบบนี้จริงๆค่ะ แม้เมฆจะเยอะ แต่แดดที่ส่องลอดออกมาช่างดูงดงามจริงๆเลย จากในรูปก็คือจะถึงเกาะแล้ว เมฆงี้ครึ้มเชียว

นั่งเรือมา 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้วค่ะเกาะสมุย เก็บของและเดินลงจากเรือมองไปข้างๆ อุ๊ย อินเทรนด์อ่ะ มีวาฬด้วย ถ่ายเรือที่พาเรามาส่งถึงที่ซะหน่อย เดินลงจากเรือปุ๊บ เจอพี่คนขับรถจากทางรีสอร์ทยืนหาวโดยเอาป้ายที่มีชื่อเราปิดปาก ฮ่าๆๆ พี่แกน่ารักมากค่ะพูดเพราะ เรามายืนรอให้รถทัวร์ออกมาเพื่อจะเอากระเป๋าเดินทาง พี่แกบอกว่าให้ไปนั่งรอในรถก็ได้เดี๋ยวแกรอเอากระเป๋าให้ (น่ารักสุดๆ)

ตามชมครับ ปีหน้าจะพาลูกชายไปเที่ยวเช่นกัน แหะ แหะ

พาหนะที่พี่แกขับมารับค่ะ สะดวกสบาย ทีแรกก็คิด เอ๊ออ คงมีแขกมาเยอะ สรุป เปล่าค่ะ พี่แกมารับเรากับเด็กน้อยแค่สองคน

ดูวีไอพีสุดๆฮ่าๆ ตลอดการเดินทางพี่แกก็แนะนำที่เที่ยวนู่นนี่นั่น นี่ทางเข้าท่าเรืออีกที่ครับ นี่โรงพยาบาลครับ นี่น้ำตก นี่วัด ฯลฯ

เสียดายค่ะมัวแต่เม้าท์เลยไม่ได้ถามว่าพี่แกชื่ออะไร

คุณ Jack Rider เชิญค่ะ ยินดีอย่างยิ่งทีรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์บ้างค่ะ ^^

พี่แกบอกว่ากว่าจะถึงรีสอร์ทก็ประมาณ 20-30 นาทีนะครับ เราก็เอ่อ.. คิดในใจมันไกลขนาดนั้นเลยเรอะ ก็ไม่เป็นไรค่ะดูทัศนียภาพ คุยกับพี่คนขับก็สนุกดีค่ะ สรุปคือรีสอร์ทจะอยู่ระหว่างหาดละไมกับหาดเฉวงนะคะ(ไม่แน่ใจ) แต่จำได้ว่าอยู่ใกล้ๆกับ บิ๊กร็อค พอมาถึงนั่งลงปุ๊บก็นี่เลยค่ะ เวลคัมดริ๊งค์ ไม่รู้ว่าน้ำอะไร เปรี้ยวๆ แต่ก็อร่อยดีค่ะ ชื่นใจ

รีสอร์ทค่อนข้างร่มรื่นค่ะ เต็มไปด้วยแมกไม้ที่ปลูกสลับกันน้อยใหญ่ ที่นี่ดีนะคะ เราไปถึงรีสอร์ทประมาณ แปดโมงกว่าๆก็สามารถเช็คอินได้เลยค่ะ

หลังจากเช็คอินเสร็จ ก็มีคุณพี่อีกคนมาช่วยถือกระเป๋าและเดินนำไปห้องพักค่ะ อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าที่เราจองไว้เป็นวิลล่า แต่ที่นี่ก็มีเป็นตัวตึกด้วยนะคะ ถึงแล้วค่ะห้องพัก 205

เปิดประตูผัวะเข้าไป โอ้ ห้องสีชมพู ชอบจังเลยยย เรารีบวิ่งเข้าห้องอย่างร่าเริงปล่อยให้เด็กน้อยเดินถือกระเป๋าตามเข้ามา ที่นี่ถ้าเป็นวิลล่าจะมี 2 เตียงค่ะ เป็นเตียงใหญ่ 1 และเล็กอีก 1 ค่ะ

นี่จะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้ง

เดินออกมาตรงระเบียงและถ่ายกลับเข้าไปในห้องค่ะ

เก้าอี้นั่งบริเวณระเบียงห้อง

เก้าอี้นั่งภายในห้อง (แต่ใช้วางของไปแล้ว)

ส่วนสำคัญที่ต้องไปสำรวจก็คือ "ห้องน้ำ" ค่ะ

ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และโถสุขภัณฑ์ที่ดูดี จนเกือบจะให้เด็กน้อยลงไปเกลือกกลิ้ง

เพิ่งจะเห็นไดร์เป่าผมแบบนี้ค่ะ ก็เก๋ไปอีกแบบนะคะ

ของใช้ต่างๆมีให้ครบครันค่ะ เอ๊ะ!! ไม่ครบสิ ไม่มียาสีฟัน ฮ่าๆๆ

ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้เพื่อต้อนรับเรา ให้ได้รับความประทับใจ แม้กระทั่งกระดาษทิชชู่ พับซะ.. ไม่กล้าดึงออกมาใช้เลย

เดินกลับมาในห้องมีตู้เซฟอยู่ข้างๆถังขยะ และตู้เย็นที่มีของอยู่เต็มไปหมด

ถ่ายรูปไปเรื่อย ชื่นชมห้องและบรรยากาศอย่างสนุกสนาน แต่เด็กน้อยที่เริ่มเปื่อยตั้งแต่ก่อนออกเดินทางร่ำร้อง บอกว่าหิวข้าวแล้วเราเลยดูนาฬิกา

อืมเก้าโมงแล้วนี่นา เอาไงดีสั่งมากินที่ห้องดีไหม รึยังไง เราเลยโทรไปถามทางห้องอาหารว่าถ้าจะทานอาหารเช้า มีอะไรบ้าง และต้องจ่ายยังไงคะ

จนท. บอกคนนอก 350 ค่ะ เราก็ว่าคือเราเพิ่งเช็คอินเมื่อกี้ค่ะ เค้าเลยบอกให้เราลองโทรถามรีเซฟชั่น เค้าโทรกันงุ้งงิ้งแล้วก็วางสายเรากึ๊ก...

เรากับเด็กน้อยมองหน้ากัน เอ่อ..สรุปยังไงคะ จะให้เราจ่ายรึอะไรยังไงทำไมไม่บอกก่อนรีบวางไปทำม้ายยยย

เรากับเด็กน้อยเลยว่า เอ้อ ไม่เป็นไร ไปหาอะไรกินข้างนอกก็ได้ สักพักก็มีสายโทรกลับเข้ามา

ห้อง 205 ที่เพิ่งเช็คอินใช่มั้ยคะ ทานข้าวมารึยังคะ (คิดในใจทานแล้วจะโทรไปถามมั้ยคะ แหม่ๆ)

เราเลยว่ายังคะ เค้าบอกงั้นไปทานได้เลยนะคะ ไม่คิดเงินค่ะ (แอร๊ยยยดีใจสุดๆค่ะ รีสอร์ทน่ารักจริงๆ)

เราเลยไปจัดมาค่ะ อาหารมื้อเช้าวันแรกของการมาถึงรีสอร์ท

รอชมต่อครับ...

หลังจากกินกันจนอิ่มหนำสำราญ สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ  นอนค่ะ!! เมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอน

ง่วงกันมากๆ ขอหลับสักพักแล้วค่อยไปเดินเที่ยวเล่นกัน สุดท้ายโดดขึ้นเตียงค่ะ เตียงใครเตียงมัน

หลังจากนอนกันจนเป็นที่พอใจ และกลิ้งเกลือกกันอีกสักพักก็เริ่มหิว(อีกแล้ว) เอาไงดี เช่ารถออกไปหาอะไรกินข้างนอกกันดีกว่า เราให้เด็กน้อยโทรไปรีเซฟชั่นเพื่อถามว่ามีรถมั้ย

เด็กน้อย  "มีรถมอเตอร์ไซค์ให้เช่ามั้ยคะ"

รีเซฟ "มีค่ะติดต่อหน้าเค้าเตอร์ได้เลย"

เด็กน้อย "แล้วราคา..."

กึ่ก.... แม่รีเซฟชั่นวางไปเรียบร้อยแล้ว คือ พูดยังไม่ทันจะจบเลยอ่ะ

เราหลังจากล้างหน้าทาแป้งอะไรเสร็จเรียบร้อยบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวเดินไปถามเองเลยละกัน

สรุปให้เช่าวันละ 250 บาทค่ะ เราก็อืม..โอเคพอรับได้ ขับบึ่งออกไปเลยค่ะ เพราะรามีเป้าหมาย

นี่เลยค่ะ "ร้านเสบียงเล" หลังจากที่ดูเพื่อนๆคนอื่นวิวมา เราก็ได้มาลองทานบ้าง

อาหารที่สั่งมามื้อนี้ จานแรก "ยำเสบียงเล" อร่อยใช้ได้เลยค่ะ ชอบๆ

ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อนน้ำใส อร่อยเช่นกันค่ะ

สุดท้าย ปลากระพงทอดน้ำปลาค่ะ ขอบอกว่าอร่อยม๊ากกกก คือปกติเราเป็นคนไม่ทานปลาค่ะ

พอได้ทานแล้วรู้สึกว่าเอ๊อ ก็อร่อยดีเนอะ ไม่คาวด้วยอ่ะ เยี่ยมไปเลย

ยังคิดถึงอยู่เลยค่ะ ตอนนี้งั้นภาพรวมอีกซักภาพละกัน ง่ำๆ

อิ่มแล้วไปไหนต่อกันดี เห็นว่าเย็นแล้วค่ะเกือบๆหกโมงแล้วเราเลยกลับไปที่รีสอร์ทดีกว่า

ผ่านหน้ารีสอร์ทข้างๆ อ๊ะ สวยดีขอถ่ายรูปหน่อยนะค๊า

หลังจากนี้เราก็ถ่ายรูป และเดินชมรีสอร์ทกับบรรยากาศค่ะ แม้ฟ้าจะมีเมฆและลมค่อนข้างแรง

แต่บรรยากาศก็ยังดีอยู่ค่ะ ชมรูปกันไปเรื่อยๆละกันนะคะ

เด็กน้อยของเราช่างเริงร่า ปีนขึ้นไปบนโขดหินอย่างมุ่งมัน แล้วยืนถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน

ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ไม่ได้มาคนเดียว (ฮือ ลืมกันไปเลย) เลยหันหลังมาส่งยิ้มให้

บริเวณโขดหิน มีปูเต็มไปหมดเลยย

หลังจากถ่ายรูปเล่นกันจนหนำใจ เราก็เดินกลับห้อง จ๊ะกับเจ้าบ้านนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ เลยทักทายไปซะหน่อย

กลับถึงห้องก็ขอแชะวิวจากระเบียงห้องมาอีกสักรูป จบวันแบบ...ไม่มีกิจกรรมอะไร

สักพักโทรศัพท์ดัง จากรีเซฟชั่นโทรมาบอกเรื่องที่เราจองทัวร์เกาะไว้ ขอยกเลิกค่ะ

พายุเข้าอากาศไม่ดี จะทำให้เกิดอันตราย เราก็อืม..โปรแกรมที่วางไว้ของชั้นนน โอเคไม่เป็นไร

งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปทัวร์วัดรอบๆเกาะก็ได้ น้ำตกก็มี อควาเรียมด้วย

เห็นกับข้าวแล้ว ท้องร้องเลยยยยครับบบบ

ตื่นเช้าวันต่อมา แต่เช้า รีบลุกออกไปถ่ายภาพอากาศยามเช้า ได้มาแบบนี้

ตามไปสมุยด้วยคนครับ

คุณ Jack Rider  เห็นแล้วเรายังอยากไปกินอีกเหมือนกันค่ะ อร่อยจริงๆ

คุณ ลุงแบกเป้ เชิญเลยค่า

เดินกลับเข้าห้องเตรียมอาบน้ำแล้วไปเที่ยวเกาะวันนี้ ก็ดันไปสังเกตเห็น สิ่งที่เมื่อวานมองข้ามไป

กรอบรูปที่อยู่ฝาผนังค่ะ มองเผินๆเหมือนไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้วข้างในทำมาจากกระดาษและเป็น 3 มิติ

โหยยย สุดยอดไปเลยค่ะ เจ๋งดีจริงๆ เป็นไอเดียที่ดีมากๆเลยค่ะ ชอบๆ

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเราก็ไปหม่ำอาหารเช้ากันค่ะ วันนี้มีข้าวต้มกุ้งด้วย ปอเปี๊ยะอร่อยมากกกค่ะ

แถมหนังสือที่เอามาอ่านก็นะ เข้ากั๊นนเข้ากัน

อิ่มแล้วก็ถ่ายรูปบรรยากาศซะหน่อย

จากห้องอาหารมองลงไปจะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ

อิ่มแล้วก็ลุยค่ะ ขับมอเตอร์ไซค์ออกมาเช่นเคย ฟ้าครึ้มๆกว่าเมื่อวาน เราก็ขับเรื่อยๆ ถ่ายวิวสวยๆค่ะ

หันกล้องมาทางขวา ก็จะได้อีกบรรยากาศนึง

ตอนนี้ฝนเริ่มลงเม็ดปรอยๆค่ะ แต่เราก็ยังปักหลักถ่ายรูปต่อไป (ก็มันสวยจริงๆนี่นา)

จากนั้นก็ขับมอไซค์ต่อค่ะ ขับไปเรื่อยๆ จุดหมายของเราอยู่ที่หินตาหินยาย ใกล้ๆกับร้านอาหารสเบียงเล

มาถึงก็ต้องหาที่จอดรถก่อนค่ะ เราก็ขับแว้บมาจอดเลย 10 บาท

เด็กน้อยของเรามุ่งหน้าไปยัง หินตาหินยาย ทันที

เราไม่ได้เดินไปทางบริเวณหินตา แต่ถ่ายจากไกลๆเอาค่ะ ส่วนตรงบริเวณหินยายมีป้ายบอกว่าระวังลื่น

ตอนที่มาถึงคลื่นค่อนข้างแรงน้ำสาดกระเซ็นเรียกได้ว่าไม่สามารถเข้าใกล้คุณยายได้

ภาพที่ออกมาเลยเป็นซะแบบนี้

หลังคาร้านอาหารอะไรสักร้านแถวนั้นค่ะ สวยดีๆ

ส่วนรูปหินตาขอเก็บไว้ไม่ลงค่ะ ฮ่าๆพอดีไม่ได้เซ็นเซอร์ ถ่ายรูปแค่แป๊บเดียวเราก็ขับรถออกมาค่ะ

ฝนเริ่มลงเม็ดและตกหนัก...ถึงหนักมาก ขับกันแบบเอ๊ยยจะไปทางไหนดีเนี่ย ขับไปผิดเส้นค่ะ

สรุปเหมือนไปอ้อมอะไรซักอย่าง ทางขึ้นลงเขาและเปลี่ยว ผ่านหน้าเซ็นทารา แอบดีใจ

เดี๋ยวคงเจอเส้นหลักสรุป ไกลมากกก ขับกันแบบเหมือนเล่นสงกรานต์ค่ะ เปียกและหนาวสุดๆ

ยิ่งกว่าลูกหมาตกน้ำ หางลู่หูตูบไปหมด เอาไงดีอ่ะ ไม่ไหวละนะ ตากฝนมาจะ2ชั่วโมงแล้ว

สรุปได้คือ เราต้องถอดเสื้อคลุมค่ะ แล้วเอามาบัง ทำอย่างกะเล่นมิวสิควีดีโอ เสื้องี้ปลิวไปตามลม

แต่ในความเป็นจริง เอามาบังฝนไม่ให้ตกใส่เพราะเม็ดมันใหญ่และเจ็บมากก สุดท้ายไม่ไหวค่ะ

ต้องขอขับเข้าไปหลบในวันสักนิด ไหว้พระให้ฝนตกเบาๆกว่านี้ก็ยังดี

กราบพระให้สบายใจ วัดคุณาราม มั้งคะ พอดีจำไม่ได้ต้องขออภัยด้วยค่ะ

หลังจากไหว้พระเสร็จฝนเริ่มซาค่ะ ดีใจสุดๆรีบขับออกจากวัดมุ่งหน้ากลับรีสอร์ททันที

แต่ออกจากวัดมาแค่ 5 นาที ฝนเริ่มกลับมาตกหนักอีกแล้ววว ทำใจค่ะต้องรีบบึ่งกลับ

กัดฟันอดทดฝ่าฝนกันสุดๆ พอมาถึงรีสอร์ทพนักงานเค้ารีบเข้ามาถามเลย "เอาร่มมั้ยครับ"

"ไม่เป็นไรค่ะ" แล้วรีบวิ่งกลับห้องทันที ก็แหม่ เปียกขนาดนี้แล้ว ร่มคงไม่ต้องแล้วล่ะ 555

อาบน้ำอาบท่าแช่น้ำอุ่นจนอาการดีขึ้นก็เริ่มหิวกันขึ้นมา จะบ่ายแล้วด้วยไปหาอะไรกิน

ในรีสอร์ทนี่แหละ คงออกไปข้างนอกไม่ได้แล้ว ก็จัดไปค่ะ เดินไปห้องอาหารกัน

เราสั่งผัดไทกุ้งสด น่าตาน่าทานรสชาติอร่อยใช้ได้ค่ะ

ของเด็กน้อยสั่ง "สปาเก็ตตี้ทะเล" น่าทานเช่นกัน

เราสั่งน้ำ แคนตาลูปมาค่ะ ส่วนรสชาตินั้น... ยังไม่ผ่าน เหมือนปั่นมาแต่แคนตาลูป ลืมน้ำแข็งรึเปล่าคะ 555

ของเด็กน้อย เป็นน้ำมะพร้าวปั่น ขอบอกว่าอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก

หลังจากกินเสร็จ เราก็เดินถ่ายรูปบริเวณรีสอร์ทอีกสักหน่อย ดอกไม้ใบหญ้าได้รับน้ำกันอย่างชุ่มช่ำ (ตอนอยู่รีสอร์ทฝนหยุดตกซะอย่างงั้น)

เดินลงไปใกล้ๆกับบริเวณสระน้ำ ก็จะเห็นศาลานวดค่ะ แหม่ถ้าได้ไปนอนนวดคงจะดีไม่น้อย

เค้าว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ

มารอดูอย่างใกล้ชิด อิอิ

ตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ

คุณ sumontha เชิญเลยค่ะ

คุณ tonhok ตามมาค่ะ

ช่างเป็นรีวิวที่ยาวนานมาก ต้องขออภัยที่ล่าช้านะคะ แต่อย่าใจร้อนกันไป ฮ่าๆ

กลับถึงห้อง เด็กน้อยก็กินยาแล้วหลับไป เราก็นั่งเล่นเน็ตกินลมชมพายุฝนไป

ตกเย็นพอเด็กตื่นก็จะไปหาอะไรกินกันค่ะ (รู้สึกกินตลอดจนเหมือนก้นครัว) 55

จริงๆคืนนี้ทางรีสอร์ทมีจัดงานคริสมาสต์ค่ะ มีการแสดงและอาหารให้ 1,600 บาทต่อคน

สำหรับคนไทยคิด 1,000 บาทต่อคนเราก็ยังว่าแพงอยู่ดีเลยออกไปหาอะไรทานใกล้ๆค่ะ

ร้านอาหารนี้ทางรีสอร์ทให้บัตรลดราคามา เลยว่าจะลองไปทานดู

"ร้านท่าเรือ"

บรรยากาศร้าน ดูสบายๆ

เข้ามาคิดถึงสมุยด้วยคนค่ะ  เป็นทะเลที่เคยไปแล้วรู้สึกประทับใจมาก อยากกลับไปเที่ยวอีกสักครั้ง
อาหารที่ร้านเสบียงเล น่าทานทั้งนั้นเลยนะคะเนี่ย

เรากับเด็กน้อยเป็นคนไทยเพียง 2 คนในร้านอาหารนั้น(หมายถึงลูกค้านะคะ)

สั่งอาหารมา 2 อย่าง อย่างแรกเลย ต้มยำกุ้งค่ะ

คุณ Angletaire  เสบียงเลเราว่าอาหารอร่อยดีค่ะ ลองไปทานดูนะคะ

อีกอย่างเป็นอาหารแนะนำของร้าน คือ ปูเนื้อผัดผงกะหรี่ค่ะ จัดมาเลยจานนึง

อิ่มมากค่ะงานนี้ แต่พอเห็นราคาปูแล้วแทบสะอึก จานละ 960 บาท อื้มมม ใช้ได้เลยทีเดียว

นี่ขนาดมีบัตรลด 10% รวมแล้วก็เกือบ 1,000 อยู่ดี แต่นะคิดซะว่ามาเที่ยวค่ะอย่าคิดมาก ฮ่าๆ

กลับมาห้องสิ่งแรกที่ทำคือกดเบอร์ไปห้องอาหารค่ะ สั่งน้ำมะพร้าวปั่นมากินอีกชอบมากก

แต่ที่ได้มาทำไม ถึงกลายเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ รสชาติไม่เหมือนกลางวันด้วยอ่ะ มีรสเปรี้ยวๆผสม

เหมือนกับไม่ได้ล้างเครื่องปั่น งานนี้ขอตัดคะแนนความนิยมค่ะ

เช้าวันถัดมาเราตื่นกันแต่เช้าค่ะ เพราะต้องไปขึ้นเรือเร็วของลมพระยา รอบ 08.00 เช้า

เพื่อไปสนามบินสุราษฎร์ บอกให้รถไปส่งตอน 07.00 โมง ตรงเวลาเป๊ะเลยค่ะ

เพิ่งจะกินข้าวไปได้แค่ 5 นาทีเอง (ครัวเปิด 06.30น. แต่เราออกมาก็จะเจ็ดโมงละค่ะ)

ก็ต้องรีบออกไป เจอพี่คนเดิมที่เป็นคนมารับขับไปส่งค่ะ พี่เค้ายังน่ารักเหมือนเดิม

ถึงแม้ว่าทริปนี้จะเรียกได้ว่า เหมือนไม่ได้มาสมุยเลยค่ะ เพราะเราไม่ได้ไปไหนเลย

คิดว่ายังไงก็ต้องกลับมาแก้ตัวที่สมุยอีกแน่นอน "I'll be back" 55555

เรือของลมพระยาค่ะ + ค่ารถไปสนามบิน แล้ว 500 บาทต่อคนค่ะ

ลาก่อนสมุย แล้วเราจะกลับมาแก้ตัวอีกครั้งแน่นอน

ระหว่างนั่งเรือเราก็เจอกับนี่เลยค่ะ

ลงจากเรือเราก็มาขึ้นรถนี่เลยค่ะ airport big bus เจ้าหน้าที่ตะโกนบอก แหม่ไม่คิดเหรอคะว่าจะมีคนไทยด้วยอ่ะ

ขึ้นรถปุ๊บแอร์เย็นเชียบ เบาะกว้างขวางสบายๆ  แต่อากาศเย็นมากกกกกกกจริงๆ

หลังจากขึ้นรถประมาณชั่วโมงกว่าๆก็ถึงสนาบบินแล้วค่ะ ไม่ใหญ่มากและคนไม่พลุกพล่านค่ะ

หลังจากเช็คอินเสร็จเราก็ซื้อของฝากที่สนามบินซะเลย เพราะว่าไม่ได้ไปแวะไหนเลยค่ะ

หลังจากเหมา เอ๊ย ซื้อของฝากเป็นที่เรียบร้อย ก็เลยไปหาอะไรกินก่อนค่ะ บ่ายแล้วหิวๆ

กินกันตลอดการเดินทางจนอิ่มหนำสำราญแล้วก็มานั่งรอน้องนกค่ะ ไฟล์ทดีเลย์เล็กน้อย

วันนี้เมฆเยอะเหมือนเคยค่ะ มองไม่เห็นด้านล่างเลย เครื่องลงที่สุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพค่ะ

เป็นการเดินทางที่เหนื่อยจริงๆเลย แต่ก็สนุกดีค่ะ ประสบการณ์ท่องเที่ยวท่ามกลางมรสุม

หวังว่ารีวิว เล็กๆ(มั้ง) อันนี้จะมีส่วนช่วยเพื่อนๆที่ต้องการจะไปเที่ยวบ้างนะคะ

สุดท้ายนี้ ใครอยากได้ของฝากชิ้นไหนก็หยิบไปเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับการรับชม

ถ้าอ่านไม่ผิด พักคืนเดียว ได้หม่ำอาหารเช้า 2 หน ใช่หรือเปล่าครับ

ขอบคุณค่ะ ..รีวิวได้ละเอียด และสนุกดีนะคะ ^^

ตอนนี้อากาศกำลังหนาวถ้าได้ไปทะเลคงได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ิึิคิดถึงเกาะสมุยจริงเชียวครับ

คุณองค์ประกอบศิลป์ พักสองคืนค่ะ คือวันแรกที่ไปนี่เช็คอินเช้าแล้วเค้าให้ทานฟรีไปเลยค่ะ

ส่วนวันที่สองก็ทานปกติ วันที่สามนี่คือได้ทานแค่ข้าวต้มกุ้งเพราะโทรสั่งไว้ตั้งแต่หกโมงเช้า

แต่ต้องรีบออกเพราะรถมารับไปส่งที่ท่าเรือตอน 07.00 โมงน่ะค่ะ ที่นี่ค่อนข้างตรงต่อเวลาทีเดียว

หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมวิวนี้ค่ะ

มีประโยชน์แน่นอนครับ ขอบคุณมากครับ...

ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะครับบบ

รีวิวสนุกมากๆค่ะ ชอบๆๆ

Happy  New  Year  2012  

ขอบคุณมากนะคะ รีวิวละเอียดดีจังเลยค่ะ สนุกตามไปด้วยเลย

สุดยอดดดด ชอบมากครับ