ต่อจากระทู้ที่แล้วเรื่องสุขและเรื่องเศร้าในเบอลิน จากนี้เรามาว่ากันต่อยังโปแลนด์

.....................................................

สำหรับผู้ร่วมเดินทางใหม่ ที่หลงเข้ามา ก็ย้อนไปดู จากที่ได้พรีวิวหลักในกระทู้ E11457136 นะครับ

หรือสามารถติดตามเพิ่มเติมได้จาก เฟสบุค facebook.com/lonelysurvey สำหรับบางรูปและบางเรื่องซึ่งไม่เหมาะสำหรับกระทู้สาธารณะครับ

....................................................

ผมเดินทางจากเบอลินมาโปแลนด์ ด้วยเป้าหมายหลักคือ การไปดูค่ายกักกันที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป Ashwich โดยง่ายสุดคือ พักที่ krakow

แต่ระหว่างการอยุ่ที่ Krakow ซึ่งเมืองหลวงเก่าของโปแลนด์ ก็ได้ชมบรรยากาศยามคริสตมาส น่ารักใช้ได้ครับ คนโปแลนใจดีกว่าที่เคยเจอ

ที่สำคัญได้พบมิตรภาพดีๆ จากเพื่อนบ้านสิงคโปร คุยกันถูกคอ เจ๊แกเลี้ยงเบียร์เฉยเลย

นอกจากนี้ยังฟลุคเจอคู่รักชาวไทยไปเที่ยวด้วยกัน เป็นที่น่าอิจฉา (แต่ผมว่าพี่ผู้ชายก็คงคิดอิจฉาผมเหมือนกัน ๕๕) 

.....................................................

เรามาเริ่มด้วยเรื่องเบาๆกันก่อนนะครับ เอาบรรยากาศคริสตมาสไปชมกันก่อน จากนั้นค่อยไปชมค่ายกักกันกันต่อ

....................................................

พี่เป้ซึ่งเดินทางกับผม ตอนนี้ก็นั่งอยู่ข้างๆระหว่างอัพฯ

เดินทางจากเบอลินโดยโปแลนด์บัสไลน์อะไรซักอย่าง
ขอบอกว่าอย่าได้มาซ้ำทางกัน ตั๋วแพงพอๆกับบัสสายอื่น แต่คุณภาพห่วยมาก

สำหรับนักเดินทางราคาประหยัด การเลือกบัสเดินทางในยุโรป เป็นทางเลือกที่ดีนะครับ ประหยัดค่าโรงแรมได้ แต่ถ้าได้บัสห่วยก็หมดแรงเที่ยว

ปกติผมใช่สูตรนอนในรถ เช้าเที่ยว สำหรับเมืองที่คิดว่าไม่น่ามีอะไรมาก
ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตประสบปัญหาอะไร

มาบ่นต่อ จากเบอลินมาคราวนี้ เกือบไม่ถึง หรืออาจเลยคราเครา เพราะเขาไม่บอกอะไรเลยว่าต้องเปลี่ยนรถ พอถึงที่ในรูป เกิดเอะใจ เดินไปถาม ปรากฏว่าใช่เลย มีคนมาประกาศ แต่เป็นภาษาโปลิช ๕๕๕ ไทยงงสิครับ

แต่สุดท้ายก็ถึงคราเคราอยู่ดี

เมื่อมาถึง เชคอินเข้าที่พัก ก็ต้องตะลึง เมื่อจองห้องรวมสี่เตียงเอาไว้
แต่ผมครองห้องคนเดียว เจ๋งไปเลย พนักงานยังถาม ทำไมเธอเที่ยวช่วงนี้...

หลังจากทำให้ห้องสี่คนกลายเป็นห้องเดี่ยวแล้ว ก็ออกไปประเดิมจตุรัสกลางเมือง มีตลาดคริตสมาสเช่นกัน

บรรยากาศกลางแจ้งที่จตุรัสกลางเมือง

เด็กน้อยเล่นกับนก ไม่รู้เด็กยุโรปเป็นอะไร ชอบวิ่งไล่นกกันจัง

ก็ไปชิมขาหมูโปแลนกันซะหน่อย ราคาไม่โหดเกินไปครับ กินแล้วห่อเก็บไว้กินต่อได้มื้อเย็น ผมจ่ายไปราวๆสองร้อยห้าสิบบาท

ยืดอกพกถุงครับ ผมเป็นคนแบบนี้เวลาเที่ยว อาหารเหลือ เก็บไว้กินต่อ อุ่นได้ โฮสเทลส่วนใหญ่มีที่อุ่นให้

ไซส์นี้ครับ อิ่มชัวร์ มีขนมปัง หรือจะเอามันต้มก็ไม่เลว
เหลือบไปข้างก็มีซุ้มไวน์อุ่น เอามากินแกล้ม รสจัดตัดกันพอดี นึกแล้ว...

กินเสร็จต้องเดินครับ จะนิ่งไม่ได้ เดินชมรอบๆต่อ

ไปพิจารณากันเองว่านางชูนิ้วอะไรกันแน่ ชูขึ้นฟ้า ไม่แน่ใจว่าชูให้เครื่องบินรบที่เคยมาทิ้งระเบิดใส่คราเครารึปล่าว

อันนี้เกี่ยวกับคริตสมาสแน่นอน
แต่เคยมีพี่ที่รู้จัก ไปซื้อดอกไม้ที่ทำเป็นวงๆแยยนี้มา แกเอาไปประดับบ้าน

กลายเป็นว่าจริงๆแล้วเขาเอาไว้วางบนหลุมศพ เพื่อนฝรั่งมาเห็น ก็เป็นงง คงนึกว่ายุงที่บ้านตาย

ออกจากจตุรัสไปชมอย่างอื่นกันบ้าง
จะเห็นว่ามีเส้นทางแนะนำสองแบบ คือ แบบพระเจ้าอะไรซักอย่าง กับแบบอะคาเดมิค

อย่างแรกก็เน้นอะไรเกี่ยวกับท่านพระเจ้านั่นแหละครับ
ไอ้อย่างหลังนี่ เอาไว้ให้พวกชอบดูวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยได้ชมกัน เพราะคราเครา เขาภูมิใจในความเป็นเมืองการศึกษาสำหรับโปแลนด์ด้วย

สำหรับผมเลือกเส้นทางของตัวเอง คือ หลงไปเรื่อย

ปราสาทมารเวล ออกเสียงไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่นะครับ สูงเด่นอยู่บนเนิน ไม่รู้ว่ารอดสงครามมาได้ไง

เดินเล่นรอบฐานล่าง เจอมังกรตัวนี้ มันไม่ได้พ่นไฟตลอดนะครับ ต้องยืนรอจังหวะดีๆ เหมือนจะห้านาทีครั้ง

แต่มีคนบอกว่าตะก่อน หากใครจะให้มันพ่นไฟ ต้องส่งเอสเอมเอสเข้าระบบแกสของมังกร  มังกรก็จะพ่นไฟในทันที อยากให้แฟนๆเอสเอมเอสเมืองไทยมาเจอจัง ผมว่าแกสคงหมดคราเคราแน่ๆ

เจอจักรยานสีส้มที่ฐานกำแพงปราสาท ใกล้มังกร แต่ไม่มีหลักฐานปรากฏว่าเป็นของพระเจ้าท่านไหน

ได้เวลาเดินขึ้นกันซะที ลีลามานานแล้ว...จริงๆ หาทางขึ้นไม่เจอ เผลอคิดไปว่า แล้วงี้ถ้าประชาชนในอดีตที่มึนๆแบบนี้ จะมาขอความเป็นธรรม เขาจะทำยังไง

เจอแล้วท่านพระเจ้าอะไรซักอย่างเจ้าของปราสาท

แต่ยังไม่ทันทำอะไร มืดซะแล้ว

เลยชมกันอย่างมืดๆไปละกันนะครับ

อีกด้านของหอคอยบน

จากปราสาทมองข้ามแม่น้ำวิสลา ซึ่งหล่อเลี้ยงทั้งโปแลนด์ ทอดยาวไปถึงทะเลบอลติก

อีกมุมหนึ่ง อันนี้มองเข้าไปทางเมืองเก่า

ตัวปราสาทเองก็งามไม่น้อย มีทั้งปราสาทและโบส รวมทั้งคนโฉดที่เจือกมาผ่านกล้อง

ปราสาทอีกมุมหนึ่ง

แวะไปคาราวะที่เจ้าของซะหน่อย จริงๆเขาจะปิดแล้ว แต่บาทหลวงผู้ดูแลบอกว่าเขามาเหอะ

ชีวิตคนเรามักต้องเลือกเสมอ เราไม่รู้ว่ามันจะดีหรือไม่ เราแค่เพียงคะเนเอาว่าอันไหนมันจะดี...ฉะนั้นเลือกๆไปเหอะ

เหมือนทางทีเห็น ก็เลือกๆไป สรุป ก็หลงครับ

กลับมาหาแม่นางและผองเพื่อนอีกรอบ ท่ามกลางหิมะโปรย

ภาพเดิมๆแต่ถ่ายกลางคืน ก็สวยไปอีกแบบ

โบสถ์คู่นี้ เขามีป้ายติดว่าสำหรับ prayer เท่านั้น

คริตสมาสมาเกต ณ จตุรัสคราเครายามค่ำคืน

ถึงตรงนี้ก็ง่วงพอดี รอเชคอินกระเป๋า ไปรัสเซียครับ
ไว้จะมาต่อเรื่องค่ายกักกัน และเรื่องอื่นๆในโปแลนนะครับ

ติดตามตอนต่อไป

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ

เป้ใบใหญ่มากๆ

ตามมาดูต่อครับ

ตามมาทานขาหมูครับ

ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ

บรรยากาศสวยจริงครับ

รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ

ตามไปเที่ยวต่อครับบบ.......